ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Turbulent Company ปฏิบัติการ(ฆ่า)เพื่อมหาชน

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่4 : ทดสอบ

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ค. 53


    อ้วกกกกก!!!

     

    มะ...ไม่ไหวแล้ว สภาพแบบนี้ เชื่อเขาเลยว่าตอนนี้ฉัน มาถึงฐานที่มั่นของ เทอร์บูเลนซ์ คอมเพชั่น เป็นที่เรียบร้อย โดยสายการบินมรณภาพของเพาว์ลี่ พี่มารีอา นะ พี่มารีอา ทำไมต้องมาติดงานอะไรเอาตอนนี้ ถ้าฉันเมามังกรตายจะว่าไง

     

    ว่าแต่นี้มันถึงแล้วเหรอ ฉันมองไปรอบๆทิศทาง ไม่เห็นมันจะมีอะไรเลย ก็แค่หุบเขาธรรมดาเองนี่นา!

     

    ก็มันเป็นบริษัทนักฆ่าจะให้ไปเปิดบริษัท อลังการงานสร้างกลางเมืองหรือไง!’  

     

    เสียงด่าของเพาว์ลี่ทำให้ฉันได้แต่ถอนหายใจ ไม่เข้าใจจริงๆ ก็หลังจากที่ได้รับจดหมายจากพี่มารีอาก็หงุดหงิดอารมณ์เสียเป็นมังกรไม่เต็มเต็งไปได้ =,.=

     

    กรรรรรร!!!”

     

    เจ้าว่าใครไม่เต็มเต็ง ห๊า!!!’

     

    เสียงคำรามดังลั่น พร้อมกับเสียงด่า รอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของเพาว์ลี่ทำเอาคนที่เมามังกรอยู่แล้ว แทบจะอาเจียนอีกรอบ นี้กะให้กับข้าวของเมื่อเช้าออกมาหมดเลยหรือไง!!!

     

    เข้าไปได้แล้ว!!!’

     

    รู้แล้วคร้าบบบฉันลากเสียงยาวประชด ว่าแต่จะให้เข้าไปไหนอะ

     

    ก็ในหุบเขานั้นแหละ เจ้าคิดว่าจะต้องไปเข้าที่ไหนล่ะ ซื่อบื้อจริงๆเสียงด่าชัดถ้อยชัดคำจากเพาว์ลี่ทำให้ฉันหันกลับไปมองทันที เปลี่ยนกลับมาเป็นคนตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!!!

     

    ก็ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เจ้าซื้อบื้อ

     

    คำก็บื้อ สองคำก็บื้อ เออ! สงสัยฉันจะบื้อจริงๆแฮะ

     

    รู้ตัวก็ดีแล้ว เอาแขนมานี่

     

    แป๊บหนึ่งเดียวฉันถอดแขนให้ อุ้ย!!!”

     

    ใช่เวลามาเล่นมุกไหม!!!”เพาว์ลี่เค้นเสียง ง่า! ก็แค่ล้อเล่นเอง โมโหไปได้

     

                    ถึงจะแค่ล้อเล่นก็เถอะแต่ดูแล้ว เพาว์ลี่จะไม่สนุกด้วย ก็ดูดิทำหน้าบึ้งเป็นมังกรอดข้าวไปแล้ว =,.= และพอเห็นฉันคงยังแซวเล่นอยู่ก็หันมาขู่ฟ่อๆ ฉันยืนมือข้างขวาไปข้างหน้าอย่างที่เพาว์ลี่ทำลูกไฟสีส้มปรากฎขึ้นที่มือฉัน เช่นเดียวกับ เพาว์ลี่ที่มีลูกไฟสีฟ้าปรากฏขึ้นเช่นกัน ลูกไฟทั้งสองสีขยายตัวกระจายไปรอบๆ ทิศทาง จนทั่วทั้งพื้นที่ด้านหน้าหุบเขา ฉันมองสัญญาลักษณ์ที่แขนขวาเรื่องแสงขึ้นแขนกับพระอาทิตย์ (ซึ่งฉันได้เห็นเป็นครั้งแรกในรอบสองสัปดาห์ =,.=) แสงทั้งจากลูกไฟทั้งสองและที่ข้อมือของฉันตอนนี้เริ่มรี่แสงลงเรื่อยๆก่อนจะดับลงอย่างช้าๆ ฉันจับข้อมือตัวเองพลิกไปพลิกมา รู้สึกแปลกๆแฮะ

     

                    เข้าไปได้แล้ว

     

                    ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปทางหุบเขา และสิ่งที่เห็นก็ทำให้ฉันตกใจแบบสุดๆ เมื่อกี้มันยังเป็นหุบเขาธรรมดาอยู่เลยนี่นา แล้วทำไมตอนนี้มีประตูบานใหญ่สไตล์ยุโรปบุกำมหยี่ ตั้งอยู่กลางหุบเขาแบบนี้ละ ฉันยืนมองเพาว์ลี่ที่เดินตรงเข้าไปเปิดประตูเรียบร้อย ก่อนที่ฉันจะเดินตามเข้าไป โดยที่ประค่อยๆปิดตามหลังมา

     

                    ทำไมมันมืดอย่างนี้ฟะฉันพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะใช่สายตากวาดมองไปทั่วบริเวณ รอบตัวฉันตอนนี้มีแต่ความมืด กับ แสงไฟที่ส่องมายังตำแหน่งที่ฉันและเพาว์ลี่เดิน

     

                    ฟุ่บ!!!

     

    ฉันหันไปมองด้านหลังอย่างระวัง เมื่อกี้เหมือนมีอะไรเครื่อนไหวอยู่ข้างหลังเลยแฮะ หวังว่า...จะไม่ใช่ผีนะ บรือ!!!!

     

    ฉึก!!!

     

    ฉันและเพาว์ลี่หันไปทางต้นเสียงอีกครั้ง มีดสั้นขนาดเหมาะมือปักอยู่บนพื้น โดยที่ไม่รู้ว่าถูกปามาจากทิศใด แล้วอยู่ไฟที่ส่องทางก็ดับลง เชื่อเขาเลย!!!

     

    ฉันกวาดสายตาไปในความมืด ก่อนที่ความรู้สึกแปลกๆบางอย่าง จะเข้าคุกคาม ความเย็นยะเยือกแปลกที่แฝงไปด้วยความรู้สึกหดหู่...ฉันกระตุกมีดสั้นที่ทำจากเหล็กทั้งอัน ออกมาจากซอง ก่อนจะปามันไปยังต้นเหตุของความรู้สึกทันที

     

    ฉึก!!!

     

    พรึบ!!!

     

    แสงไฟที่ดับลงบัดนี้สว่างขึ้นอีกครั้ง เผยให้เห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตอนนี้ คือตัวฉัน หากแต่อีกคนกลับไม่ใช่เพาว์ลี่!!!

     

    ชายหนุ่มอายุไล่เลี่ยกับฉันยืนอยู่ในตำแหน่งของเพาว์ลี่ บนผมยุ่งสีทองที่ลงมาปิดตามีมงกุฎ ทองคำขาวอยู่ แถมที่แขนซ้ายมีมีดสั้นของฉันปักอยู่อีก เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าตัวเองก็ปาแม่นเหมือนกัน เอ๊ะ! หรือว่าผมของหมอนี่มันลงมาปิดตาจนมองไม่เห็นมีดของฉันหว่า! ..เฮ้ย! .แต่นี่ไม่ใช่เวลาคิดเรื่องนั้นนะเฟ้ย!!!

     

    เฮ้ย!!! เพาว์ลี่นายอยู่ไหน!!!”ฉันตะโกนลั่น แล้วอยู่ๆ

     

    ฟุ่บ!!!

     

    ฉันเอี้ยวตัวหลบมีดของตัวเองที่ถูกปามาโดยไอ้หัวยุ่งนั้น ฉันไม่ใช่ตุ๊กตาวูดูนะเว้ย!!! จะได้แค้นใครแล้วก็เอาเข็มปัก (แต่นอกจากจะไม่ใช่เข็มแล้วยังเป็นมีดอีกต่างหาก) เออ! ว่าแต่ดึงมีดออกมาอย่างนั้นไม่เจ็บหรือไงฟะ

     

    ทำบ้าอะไรของแกวะ!!!”

     

    ก็บอสไม่สนใจ ข้าอะ...เจ้าชายไม่ยอมมม!!!”เฮ้ย! ฉันมองไอ้หัวยุ่งที่ตอนนี้ลงไปชักดิ้นชักงออยู่กับพื้น งะ! อะไรของเขาวะ บ๊องเปล่าเนี๊ย!!! ทำไมช่วงนี้ถึงได้มีแต่พวกประหลาดๆเข้ายุ่งกับชีวิตฉันเยอะจังฟะ! คนแรกก็เพาว์ลี่ คนที่สองก็พี่มารีอา แล้วตอนนี้ยังมีไอ้หัวยุ่งที่เรียกตัวเองว่าเจ้าชายเพิ่มขึ้นมาอีก นี่มันเวรกรรมอะไรของฉันฟะ =,.=

     

    หยุด!!!!!!! นายเป็นใครกันแล้วเพาว์ลี่หายไปไหนฉันตะโกนถาม

     

    โอ๊ะ! เมื่อกี้เจ้าชายไม่ได้แนะนำตัวเหรอ ไม่ต้องมาทำหน้าแบ๊วเลย! =,.=

     

    เออ!”

     

    โอ๊ะ! เหรอ งั้นเจ้าชายชื่อ แกลไฟน์ แต่ถ้าเป็นบอสจะเรียก ไฟน์ เฉยก็ได้

     

    แล้วนายเป็นเจ้าชายเหรอ

     

    แน่นอน!!! บอสไม่นาโง่เลยนะเนี่ย

     

    ไอ้งามไส้! =,.= เจอกันครั้งแรกก็หาว่าฉันโง่แล้ว ฉันไม่ได้โง่นะเฟ้ย!!! ว่าแล้วเจ้า บลัดดิช บาสซูน ก็ปรากฏอยู่ในมือฉันทันที แถมยังทำหน้าที่ของมันได้ดีซะด้วย

     

    นี่! ไอ้หัวยุ่ง แกอยากไปเฝ้าพระเจ้าก่อนกำหนดไหม ^^”

     

    อะ...เออ ไม่อะทีตอนด่าฉันละไม่คิด แต่พอจะโดนเป่าหน่อยทำมาเป็นเหงื่อตก มันน่าเป่าให้กระจุยจริงๆ เลย =,.=

     

    เออ! งั้นถ้าไม่อยากตาย ก็บอกมาเพาว์ลี่อยู่ไหน

     

    เจ้าชายไม่รู้...

     

    แน่ใจ...ฉันเค้นเสียงลงต่ำ

     

    อะ...ความจริงแล้วรู้อยู่นิดนึง แหะๆฉันถอยออกมาแกลไฟน์ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะยิ้มแหย่ๆ แล้วตอบคำถามเสียงร่า

     

    ก็ความจริงแล้ว นี้เป็นการทดสอบเล็กๆน้อยอย่างหนึ่ง แล้วเจ้าชายก็ได้รับหน้าที่เป็นคนแรกที่มาต้อนรับบอสอ่านะ

     

    แล้วทำไมต้องแยกเพาว์ลี่ออกไปด้วย...

     

    เจ้าชายจะไปรู้เหรอ...

     

    ตอบดีๆ^^”

     

    ก็มันเป็นข้อตกลงของตาแก่กรรมการบริษัทนี่บอสนี่ เออ! เจ้าชายว่าบอสเข้าไปข้างในดีกว่า ไม่ต้องสนใจไอ้มังกือนั้นเหรอ มันเอาตัวรอดได้แน่นอน!!!”

     

    ฉันพยักหน้าก่อนจะสะบัดมือเบาๆ บลัดดิช บาสซูน ก็กลายเป็นหมาป่าตัวใหญ่ เดินแยกเขี้ยวใส่แกลไฟน์ ดูท่าว่ามันจะไม่ชอบแกลไฟน์นะ

     

    บลัดดิช...

     

    ฉันเรียกชื่อ เล่นเจ้าบลัดดิชเอาหุบปากแทบไม่ทันเลย หลังจากเมื่อวานที่ฉันถูกมันกัด ฉันก็ไปฟัดกับมันยกใหญ่จนในที่สุดก็ชนะมันจนได้ (แม้จะอยู่ในสภาพปางตายก็เถอะ) หลังจากนั้นมันก็ดูจะเชื่อฟังแล้วก็สงบเสงี่ยม  เจียมตัวขึ้นเยอะ รู้งี้! ฟัดกับมันตั้งนานแล้วไม่ปล่อยให้มันกัดหรอก...

     

    ถึงแล้วละ

     

    ปราสาทผีสิงนั้นแหละสิ่งแรกที่ฉันคิด ปราสาทสีดำทะมึนตั้งตระหง่านอวดโฉมอยู่ท่ามกลางความมืด แสงไฟสลัวลอดออกมาตามม่านสีดำ ตามด้วยอีกาที่ร้องโหวกเหวกโวยวาย สร้างบรรณยากาศน่าขนลุกปนน่ารำคาญ!!!

     

    และทันทีที่เดินเข้ามาด้านใน ทุกสิ่งรอบตัวเรียกว่าแทบจะไม่แตกต่างกับกับข้างนอกเลย จะมีเพียงแต่ประตูรูปร่างแปลกๆที่ลอยอยู่เหนือหัว เต็มไปหมด แล้วอย่างงี้มันจะหล่นลงมาใส่หัวฉันไหมเนี่ย!

     

    เออ! บอสเจ้าชายไปก่อนนะ

     

    เฮ้ย! จะไปไหน เฮ้ย!!!”ฉันมองไปรอบๆทิศทาง เจ้าหัวยุ่งนั้นหายไปจากสายตาอย่างรวดเร็ว อะไรกันเมื่อกี้ยังยืนอยู่หลังฉันอยู่เลยนี่หว่า ทำไมถึงได้หายไปไว้อย่างงี้ฟะ แล้วทีนี้จะให้ฉันไปทางไหนกันละฟะ!!!

     

                    ไม่ต้องสงสัยไปหรอก ท่านผู้นำ

     

                    เสียงปริศนานั้นดังก้องขึ้นทั่วทุกทิศทาง จนฉันบอกไม่ได้ว่าต้นกำเนิดเสียงอยู่ที่ไหน แปลกแฮะ! ความรู้สึกเหมือนตอนคุยอยู่กับพระเจ้าเลย...

     

                    เนื่องด้วยวันนี้ ท่านมาที่นี้ก็เพื่อการทดสอบ พวกข้าจึงเตรียมผู้ที่จะทดสอบท่านไว้แล้ว...

     

                    พรึบ!!!

     

                    ไฟสปอร์ทไลฟ์ส่องไปยังฝั่งตรงข้ามกับฉัน เผยให้เห็นชายหนุ่มที่ยืนสงบเสงี่ยมราวกับนักบวช ผมยาวสีม่วงถูกรวบไว้ด้านหลังอย่างเรียบร้อย เขายิ้มบางๆ ก่อนแนะนำตัวเพียงเบาๆ แต่ก็มากพอจะทำให้คนอย่างฉันถึงกับหน้าร้อนได้เลยทีเดียว

     

                    ข้าดินิวิต้า อาเชดิเนโก้ ยินดีที่ได้รู้จัก ท่านผู้นำ

     

                    รู้สึกเหมือนออโรร่าเปร่งประกายเลยแฮะ คนอะไรจะหล่อลากดินขนาดนั้น แต่ติดตรงที่ตัวเล็กไปหน่อยนี้แหละ ไม่งั้นคงได้ติดอันดับนักบวชที่หน้าตาดีที่สุดในโลกไปแล้ว (เหรอ!!!) แต่สงสัยว่าว่าฉันจะยืนอึ้งนานไปหน่อย หมอนั้นถึงเดินมาสะกิดซะงั้น

     

                    เออ...ท่านผู้นำ ฟังที่ข้าพูดอยู่หรือเปล่า

     

                    อะ...หา!!! พูดว่าอะไรนะ

     

                    ข้าบอกว่าเรียกข้าว่า ดีโน่ ก็ได้ครับแล้วก็...

     

                    ...

     

                    เอาชนะข้าให้ได้นะครับ เพราะข้าอยากให้ท่านมาเป็นผู้นำของพวกเราเสียงนุ่มๆ กระซิบแบบพอให้ได้ยินกันสองคนดังก้องไปมาในหัวของฉัน พวกเรางั้นเหรอ พวกเราไหนฟะ!!! จำได้ว่านอกจากเพาว์ลี่แล้วฉันไม่ได้รู้จักใครเป็นการพิเศษเลยนี้! แล้วอย่างฉันเนี่ยนะ! จะชนะคนที่อยู่ตรงหน้าได้ ดูก็รู้แล้วว่าแพ้แน่ๆ

     

                    เปรี้ยง!!!!

     

                    เฮ้ย!!!!”

     

                    ฉันร้องออกมาอย่างตกใจ เชื่อเขาเลย เมื่อจู่ๆ ฟ้าก็ผ่าลงมาตรงหน้าฉันอย่างพอดิบพอดี ชนิดที่ว่าถ้าหลบไม่ทันละก็คงได้กลายเป็นไก่ย่างไปแล้ว พ่อนักบวช(ก็ดีโน่นั้นแหละ)ยิ้มเย็นอย่างพอใจ ไหงท่าทางมันต่างจากเมื่อกี้ละ รอยยิ้มแบบเทพบุตรมันหายไปไหนแล้วง่า!!!!!!

     

                    เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!! ตูม!!!

     

                    เสียงของสายฟ้าที่ยังคงกระหน่ำลงมาราวกับว่าตอนนี้ฉันยืนอยู่กลางทุ่งนาในฤดูมรสุมยังไงอย่างงั้นแหละ แถมครั้งล่าสุดยังผ่าลงมาโดนฉันเต็ม บ้าจริง! ถ้ายังเป็นอย่างงี้อยู่ละก็ฉันได้กลายเป็นไก่ย่างจริงๆแน่ เอาว่ะ

     

                    เฮ้ย! เดี๋ยวเด้! เล่นโจมตีไม่ให้สุมให้เสียงแบบนี้ ไม่แมนเลยนี้หว่า แน่จริงก็ท้าให้เป็นพิธีการหน่อยเด้ ฉันตะโกนออกไป ถ่วงเวลาออกไปก่อน อย่างน้อยก็พอให้หายใจหายคอได้สะดวกก็ยังดี

     

                    ดีโน่นิ่งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะ เอ่ยขอโทษ...พร้อมกับท้าดวลอย่างเป็นทางการ หมอนี้มารยาทดีชะมัด =,.=

     

                    ต้องขออภัยอย่างยิ่ง ท่านผู้นำที่เคารพ...ข้าดินิวิต้า อาเชดิเนโก้ ขอท้าดวล! ท่านจะว่าอย่างไร

     

                    ยินดีรับคำท้า!!!”ฉันตอบรับก่อนจะ ก้มศีรษะลงเล็กน้อยเช่นเดียวกับดีโน่...

     

                    ชิ่งลงมือก่อนเป็นดีที่สุด!!! ทันทีที่ฉันเงยหน้าขึ้นสบตากับดีโน่อีกครั้งจึงตัดสินใจกระโจนเข้าใส่ทันที บลัดดิช บาสซูน ถูกเรียกออกมาก่อนจะง้างไปด้านหลังพร้อมกับเร่งไอเวทเสริมจากเดิม เสียงคำรามกึกก้องอย่างเครื่องร้อนจากบลัดดิช บาสซูนพอจะทำให้ใจฉันชื่นได้บ้าง แสงสีส้มทอประกายสว่างจ้าก่อนจะเหวี่ยงลงไปที่ดีโน่ทันที

     

                    เปรี้ยง!!!

     

                    บลัดดิช บาสซูน ปะทะเข้ากับกลีบดอกกุหลาบสีแดงสดจำนวนมากที่กลายสภาพเป็นม่านกำบังของดีโน่ นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย! บลัดดิช บาสซูนเป็นอาวุทปืนระยะไกลนะ ไม่ใช่ดาบจะให้ใช่ฟันใครต่อใครเขาได้ แต่โดยเฉพาะกับคนๆนี้แล้วยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ และเหมือนว่าการใช้อาวุทผิดประเภทของฉัน จะส่งผลร้ายแรงซะด้วย เพราะนอกจากจะฟันไม่เข้าแล้วยังเปิดโอกาสให้หมัดของดีโน่ก็ถูกส่งเข้าที่ใบหน้าของฉันอย่างจัง

     

                    ผัวะ!

     

                    แรงหมัดนั่นส่งให้ฉันกระเด็นไปชนเข้ากับประตูเหล็กบานหนึ่งพร้อมกับของเหลวในปากที่ไหลออกมาแทบจะทันที...ไอ้หมอนี่มันกล้าต่อยผู้หญิง เลือดในปากถูกบ้วนทิ้งไปด้านข้าง แต่เลือดในกายกลับสูบฉีดอย่างรุนแรง มันกล้าต่อยผู้หญิง สงสัยฉันต้องเปลี่ยนสรรพนามของหมอนี่ใหม่ จากนักบวชเป็นปีศาจซะแล้วมั้ง! เหอะ! มีแค่สองเรื่องที่คนห่วยๆอย่างฉันจะรับไม่ได้ คือ การที่ผู้ชายแอบไปมีคนอื่น และ การที่ผู้ชายทำร้ายผู้หญิง เพราะงั้นดีโน่จึงถูกจัดเข้าไปอยู่ในประเภทที่สองทันที!!!

     

                    ไอ้ดีโน่ แกกล้าซัดบอสเหรอ!!!”

     

                    แกลไฟล์เย็นไว้!!!”

     

                    ไม่ เจ้าชายไม่เย็น!!!”

     

                    เสียงของเจ้าชายหัวยุ่งกับเสียงของพี่มารีอาดังมาจากที่ไหนสักที่หนึ่ง ฉันไม่ยอมให้หมอนี้มันซัดฉันฟรีๆหรอกน้า...เอาวะ! ขอซัดกับหมอนี้สักที ตายเป็นตาย บลัดดิช  บาสซูน ที่กระเด็นไปอีกทางถูกเรียกกลับมาอยู่ตรงหน้าทันที ก่อนที่ฉันจะโยนมันขึ้นกลางอากาศอย่างแรง...พร้อมกับจ้องมาดีโน่อย่างไม่คลาดสายตา...ไม่ว่ายังไง หากฉันแพ้ละก็ฉันไม่มีทางได้เดินออกไปจากที่นี้ในสภาพมีชีวิตแน่ๆ แต่ถ้ายังยื้อเวลาต่อไปได้อีกหน่อย โอกาส...อาจจะยังพอมี...

     

                    อย่าใช้เวทย์บทนั้นนะ!!!’

     

                    ...แพ้...ไม่ได้!!!...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×