ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Turbulent Company ปฏิบัติการ(ฆ่า)เพื่อมหาชน

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่3 : ฝึก!!!

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ค. 53


     

                    นี่! เจ้าจะมานั่งซึมกะทือให้ได้โล่อะไร ห๊า!!!”

     

                    ...

     

                    นี่เจ้าได้ยินที่ข้าพูดไหม!!!”

     

                    ...

     

                    ถ้าเจ้าไม่ตอบข้าจะยิงเจ้านะ

     

                    ...

     

                    ข้าจะยิงจริงๆนะ

     

                    ไม่สัญญาณตอบกลับจากหมายเลขที่ท่านเรียก...

     

                    โว้ย!!!”

     

                    ปัง!!!

     

                    นี่! นายยิ่งปืนใส่ฉันทำไมฮะ อยากให้ฉันตายเร็วกว่าเดิมหรือไงฉันตอบกลับทันที อะไรของเขาวะ อยู่ๆมายิงปืนใส่ ถ้าหลบไม่ทัน หัวฉันไม่ต้องกลายเป็นรูเหมือนโดนัทหรือไง

     

                    ก็ข้าเรียกเท่าไรเจ้าก็ไม่ตอบ เอาแต่นั่งท่าเดิมอยู่ทั้งวัน นั่งขวางอยู่ได้ เกะกะเพาว์ลี่ตอบอยู่หงุดหงิด

     

                    เหรอ งั้นไปนะ ฉันตอบกลับ เล่นเอาเพาว์ลี่ที่อารมณ์เสียอยู่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ตกใจอะไรของเค้ากัน ตั้งแต่เมื่อวานฉันก็เอาแต่นั่งปรงตกกับชีวิตสุดๆ คนอย่างฉันมันเหมาะจะนั่งรอความตายอยู่เฉยๆจริงเลย

     

                    นี่เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง!!! แค่รู้ว่าตัวเองจะต้องไปทดสอบนักฆ่า เจ้าถึงกับนั่งซึมกะทือ ข้าถามอะไรก็ไม่ตอบเพาว์ลี่ถ้าขณะที่รั้งแขนฉันที่กำลังจะเดินเข้าบ้าน ฉันสะบัดแขนออก ก่อนจะตอบคำถามแบบที่เรียกว่า เตรียมใจจะตายลูกเดียว

     

                    สงสัยฉันจะบ้าจริงๆ ก็ถ้ารู้ว่าตัวเองจะตาย แล้วจะดิ้นรนไปทำไมเล่า ยังไงก็ตายอยู่ดี ฉันหัวเราะเบาๆกับคำตอบของตัวเอง สงสัยฉันจะบ้าไปแล้วจริงๆแฮะ

     

                    เพาว์ลี่ที่ได้ยินคำตอบของฉัน ยืนมองฉันเหมือนใช่ความคิด ทั้งฉันและเพาว์ลี่ยืนเงียบกันอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนที่เพาว์ลี่จะคว้าแขนฉันและออกแรงลากไปทันที

     

                    เฮ้ย! จะพาฉันไปไหน

     

                    ฝึก!!!”

     

                    ห๊า!!! ฝึกอะไร

     

                    เหลือเวลาอีก 3 วัน ถ้าเจ้ายังชักช้าอยู่อย่างนี้ มันจะเหลือเวลาแค่ 2 วัน

     

                    แล้วทำไมฉันต้องฝึกด้วย

     

                    นี่! เจ้าคิดจะนั่งรอความตายอยู่เฉยๆหรือไง!!!”

     

    ก็นายบอกเองนี้ว่ายังไงกีมแต่ตายกับตายฉันตอบเสียงอ่อย ก็หมอนี้เป็นคนบอกเองว่ายังไงก็ตายแล้วฉันจะต้องฝึกไปเพื่ออะไรล่ะ คนห่วยๆอย่างฉันฝึกไปยังไงก็ตายอยู่ดี...

     

    เจ้ากำลังดูถูกข้าทางอ้อมอยู่นะเพาว์ลี่ตอบ ไอ้เรื่องชอบอ่านใจชาวบ้านเนี่ย แก้ไม่หายจริงๆ

     

    ก็จริงไหมละ คนห่วยๆอย่างฉันนะ ฝึกยังไงก็ไม่มีทางเก่งขึ้นภายใน 3 หรอกน่า

     

    งั้นจะลองดูไหมละ ว่าอย่างข้าจะฝึกจอมห่วยอย่างเจ้าได้หรือเปล่าฉันมองหน้าเพาว์ลี่อย่างลังเล จะฝึกฉันให้เป็นนักฆ่าภายในสามวันงั้นเหรอ...

     

    เอาวะ! ลองซักตั้ง ตายเป็นตาย!!!”

     

    ให้มันได้อย่างงี้สิ!!!”

     

    แล้วจะให้ฝึกอะไรก่อนละฉันถาม เพาว์ลี่คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะส่งกระดาษแผ่นหนึ่งที่มีตารางการฝึก

    ของฉันอย่างละเอียด นี่! แสดงว่าเมื่อคืนหมอนี้เขียนตารางการฝึกแบบรวบรัดสามวันเก่งสำหรับจอมห่วยแบบฉันทั้งคืนเลยเหรอ เออ! ว่าแต่หมอนี่เขียนภาษาไทยได้ด้วยเหรอ ไปเรียนมาจากไหนล่ะเนี่ย

     

    วันแรก วอร์มอัพ 1.วิ่งสบายๆ แบบจอมห่วย: ห้าสิบรอบ 2.แบกน้ำสามสิบถัง ขึ้นลงเขา: เจ็ดรอบ 3.ปีนหน้าผา: สิบรอบ 4.ฝึกการทรงตัวบนยอดไม้: สามชั่วโมง... ฉันเงยหน้าขึ้นจากกระดาษ หลังจากอ่านตารางวันแรก ด้วยอาการเหงื่อตก นี้จะให้ฉันทำทั้งหมดนั้นจริงๆเหรอ ฉันเป็นคนธรรมดานะเว้ย! ไม่ใครผู้วิเศษจากไหน จะได้ทำทุกอย่างที่เขียนมาได้ นี้มันไม่ใช่การฝึกแบบวอร์มอัพ หรือ สไตล์ชิลๆแล้ว นี้มันฝึกแบบมหาโหดชัดๆเลย TT^TT

     

    เอาจริงเหรอ

     

    อาฮะ! “

     

    ตะ...แต่ฉันไม่ได้มีเวทย์มนตร์อะไรอย่างนายนะ

     

    ก็เพราะไม่มีเวทย์มนตร์นะสิถึงต้องฝึกแบบนี้ ไม่ต้องพูดมาก!!!”

     

    แต่...

     

    ไม่มีแต่!!! ไปวิ่งได้แล้ว!!!”

     

    ครับผ๊ม!!! TT^TT”

     

    ถ้าฉันตายจากการฝึกของนายขึ้นมานะ ฉันจะตามมาหลอกหลอน จนกว่าผมชี้ๆของนายจะร่วงหมดหัวเลย คอยดู!!!

     

     

    ครึ่งชั่วโมงผ่านไป

     

     

    ไม่อยากจะบอกเลยว่าตอนนี้ ฉันหลงทาง TT^TT ก็หลังจากที่วิ่งมาตามทางที่เพาว์ลี่ทำไว้ให้ได้สักพักหนึ่ง ฉันก็เจอกับทางแยกสองทาง ฉันก็แค่วิ่งไปตามที่ลูกศรชี้แต่ไหงยิ่งวิ่งยิ่งหลงไปไหนก็ไม่รู้จนตอนนี้ก็ผ่านมาครึ่งชั่วโมงแล้ว ฉันยังหาทางกลับสู่เส้นทางปกติไม่ได้เลย แถมตลอดทางที่ฉันวิ่งผ่านมายังมีเสียงอะไรแปลกๆ ดังโหยหวนมาตลอดทางอีกต่างหาก ฉันยังไม่อยากถูกสัตว์ประหลาดกินน้า ฮือๆๆ

     

    แต่เหมือนสวรรค์จะเล่นตลกอีกรอบ เพราะอยู่ก็มีเสียงคำรามของอะไรบางอย่างดังแว่วๆมา ไม่ใช่แค่นั้นนะ ฉันรู้สึกเหมือนกับมีคนจ้องอยู่ตลอดเวลาอีกต่างหาก

     

    กรร...!

     

    คะ...ใครนะฉันร้องถาม มือของฉันจับอยู่ที่ปืน ที่เพาว์ลี่บอกว่าให้พกไว้ใช้ป้องกันตัว สรุปง่ายๆ คือหมอนี่กะลอยแพฉันนั้นแหละ

     

    กรร...!”

     

    เพาว์ลี่ ยะ...อย่าเล่นอย่างนี้นะเว้ย!!!”

     

    กรร...!

     

    ฉันหันไปมองไปทางต้นเสียงทันที สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ มีหัวเป็นสิงโต ตัวเป็นเพะ หางเป็นงูยืนจังก้าอยู่ด้านหลัง นัยน์ตาสีเลือดของมันมองมาที่ฉันอย่างกระหายเลือด

     

    ตะ...ตัวอะไรกันวะเนี่ย!!!”ฉันร้องออกมา เกิดมาก็พึ่งเคยเห็นเนี้ยแหละ ฉันเขยิบถอยหนี ขณะที่มันเดินเข้าใกล้เรื่อยๆ ฉันหลับตาปี๋ ฉันจะมาตายแบบนี้ไม่ได้นะ!!!

     

    ปัง!!!

     

    เสียงปืนดังก้องกึกไปทั่วทั้งป่า ฉันลืมตามองอย่างระวัง และก็พบว่า เจ้าสัตว์ประหลาดนั้น ลงไปนอนกลิ้งอยู่กับพื้นในสภาพที่มีรูกระสุนอยู่กลางหัว ฉันมองสภาพศพของสัตว์ประหลาดนั้นสลับกับอาวุธในมือของตัวเอง ที่ปากกระบอกปืนมีควันจางๆลอยขึ้นมา แสดงว่าเมื่อกี้เป็นฝีมือฉันงั้นเหรอ!!!

     

    กรร...!” เสียงคำรามอีกระรอกทำให้ฉันได้สติ ก่อนจะรีบวิ่งออกจากที่เกิดเหตุทันที ตอนนี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองวิ่งไปทางไหน รู้แค่ว่าต้องวิ่งอย่างเดียว และขนาดที่กำลังวิ่งอยู่นั้น

     

    อะ..อะไรเนี่ย ฉันเงยหน้าสิ่งที่ฉันวิ่งชน หวังว่าจะไม่ใช่สัตว์ประหลาดแบบนั้นนะ

     

    ไง เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นนักฆ่าขึ้นมาบ้างหรือยัง เพาว์ลี่!!! หมอนี้มาตั้งแต่เมื่อไรกัน แล้วไอ้ประโยคที่ว่ารู้สึกว่าตัวเองเป็นนักฆ่า อย่าบอกนะว่าสัตว์ประหลาดเมื่อกี๊! เป็นฝีมือเพาว์ลี่

     

    คงงั้นมั้งไอ้คำว่าคงงั้นแบบนี้มันจงใจกวนประสาทกันชัดๆเลยนี่น่า หมอนี่เห็นฉันเป็นตัวอะไรกันแน่!!!

     

    เล่นอะไรของนายฮะ!!! ถ้าฉันถูกเจ้านั้นทำร้ายขึ้นมาจะว่าไง!!!”ฉันตะคอกเสียงดังเป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกว่าตัวเองโง่ให้เขาหลอกแบบนี้!!! และขณะที่ฉันกำลังจะอ้าปากด่าเพาว์ลี่อีกรอบ...

     

    ในการทดสอบนักฆ่า ไม่มีคำว่าไว้ชีวิต และก็คงไม่ใช่แค่สัตว์แบบที่เจ้าเจอ เพราะงั้นถ้าแค่สัตว์ประหลาดเจ้ายังจัดการไม่ได้ก็อย่าหวังจะได้รอดชีวิตน้ำเสียงราบเรียบนั่นทำให้ฉันแทบจะหุบปากลงทันที ก็จริงอย่างที่เพาว์ลี่ว่าถ้าเรื่องแค่นี้ฉันยังจัดการไม่ได้ เรื่องการทดสอบนั้นก็เลิกคิดไปได้เลย

     

    ฉันเงยหน้ามองเพาว์ลี่ ก่อนจะขอโทษแบบหงอยๆ รู้สึกว่าตัวเองผิดเต็มประตูเลยแฮะ!!!

     

    รู้ตัวก็ดีแล้ว เพราะข้าจะลงโทษที่เจ้ามาสายแถมยังวิ่งไม่ครบห้าสิบรอบ!!!”

     

    หา!!! ลงโทษ!!!”

     

    ใช่!!! ไปแบกน้ำขึ้นเขามาห้าสิบถัง ปฏิบัติ!!!!”

     

    คร๊าบบบบบบบ!!!!!!”

     

     

    วันที่สอง

     

    หลังจากฝึกหนักตามตาราง แถมยังโดนเพาว์ลี่ลงโทษอีก เป็นเหตุให้อาการปวดเมื่อยแบบสุดๆมาเยือนแบบไม่ทันตั้งตัว ก็ทั้งวิ่ง(หนีสัตว์ประหลาด) แบกถังน้ำ (แบกไปโดนด่าไป) ปีนหน้าผา (ที่ดันมีแต่ตะไคร่น้ำ) ทรงตัวบนยอดไม้ (ตกยอดไม้เป็นว่าเล่น) อ๊ากกกกกกกกกก!!! ปวดจนลุกไม่ขึ้นเลย

     

    โครม!!!

     

    ประตู! ฉันมองประตูห้องที่ตอนนี้ แทบไม่เหลือเค้าเดิม เนื่องด้วยฝีมือของคนที่เดินลุกล้ำเข้ามาในเขตห้องนอน ว๊ากกกกกกกก!!! ประตูห้องช้าน!!!

     

    นี่กี่โมงแล้ว!!!”

     

    ฉันก้มลงมองนาฬิกา ห๊า!!! เก้าโมงแล้วเหรอ ตอนนี้ฉันพอจะรู้แล้วละว่าทำไมประตูห้องถึงมีสภาพเละแบบนั้น

     

    รู้ก็ดีแล้ว ลุกจากเตียงซะที อย่าให้ข้าต้องลากเจ้าลงจากเตียง

     

    ลุกไม่ขึ้น

     

    ห๊า!!!”

     

    ฉันลุกไม่ขึ้นโว้ย!!! ปวดแขนปวดขาจะตายอยู่แล้ว

     

    จริงๆเล้ย!!!” ถึงจะบ่นก็เถอะ แต่เพาว์ลี่ก็อุตส่าห์เดินมาผลักฉันลงจากเตียง ย้ำ! ผลัก ว้ากกกกกก!!! ก้นกบฉันหักแน่ๆเลยคราวนี้ TT^TT

     

    ทำอะไรของนายว่ะ เจ็บนะเฟ้ย!!!”

     

    ก็ยืนได้แล้วนี่เพาว์ลี่พูดอย่างสบายอารมณ์ ยืนได้งั้นเหรอ! ฉันก้มลงมองตัวเองที่ตอนนี้ลุกขึ้นยืนตอนไหนไม่รู้ แถมอาการปวดเมื่อยต่างๆก็หายเป็นปริทิ้ง เป็นไปได้ยังไงเนี่ย!

     

    เอ้า! ยืนได้แล้วก็รีบไปอาบน้ำซะ ข้าให้เวลาห้านาที เสร็จแล้วรีบไปพบข้าที่สนามหน้าบ้าน

     

    คร๊าบบบบ!!! =,.=”

     

    และหลังจากที่ฉันจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อย (อาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว ภายในห้านาที =,.=) ใบสั่ง(ตารางการฝึก) ก็ถูกยื่นมาให้ฉัน หวังว่าคงไม่ได้มีการฝึกแบบประหลาดๆแบบเมื่อวานอีกนะ

     

    วันที่สอง ฝึกแบบนักฆ่า ^^V 1.ยิงปืนแม่น (พลาดเป้าหนึ่งครั้ง อดข้าวหนึ่งมื้อ) 2.ฟันดาบ (ถ้าดาบของคู่ต่อสู้โดนตัว ต้องวิ่งรอบเขา แล้วตะโกนคำว่า ฉันคือจอมห่วย!) 3.เทคนิคการลอบสังหาร (ถ้าไม่ผ่านต้องอดขนมเป็นเวลาสามอาทิตย์) 4.เอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขัน 5. ฝึกสมาธิ

     

    ไอ้ข้อหนึ่งถึงข้อสี่น่ะ พอเข้าใจ แต่ไอ้ข้อห้าเนี่ยสิ เกี่ยวอะไรด้วย =,.=

     

    ความจริงมันก็ไม่ค่อยจะเกี่ยวหรอก แต่สมาธิเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา เพราะงั้นเจ้าก็เลยควรจะฝึกไว้เพาว์ลี่พูดเสียงเรียบ ก่อนจะผิวปากอย่างสบายอารมณ์ แต่รู้สึกตะหงิดๆแฮะ เป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา เพราะงั้นเจ้าก็เลยควรจะฝึกไว้ เฮ้ย! ไอ้มังกือบ้ามันหลอกด่าเรานี่หว่า!

     

    ไอ้มังกือบ้า กลับมานะเว้ย!”

     

     

                    12:00 น. (คลาส : ยิงปืน)

     

                    นี่ตาเจ้าเขหรือไงฮะ!!!”

     

                    เลิกโวยวายซะทีได้ไหม!!! ฉันปวดหัวจะตายอยู่แล้ว

     

                    ข้าจะทำยังไงกับเจ้าดี!!! คนบ้าอะไรยิงปืนมาร้อยนัด พลาดซะ เก้าสิบเก้านัด ข้าละอยากจะจับเจ้าไปเผาไฟ แล้วถลกหนังให้พวกต้นไม้กินคนมันกินเป็นอาหารไปเลย!!!” ไม่พูดเปล่า เพาว์ลี่โยนกระดาษที่มีรูปวงกลมสีแดงหนึ่งร้อยแผ่นลงมากองตรงหน้าฉัน ฉันหยิบขึ้นมาดู มีแผ่นเดียวที่มีรอยกระสุน นอกจากนั้นพูดได้คำเดียว โล่งโจง ไม่มีแม้แต่รอยกระสุนที่ขอบกระดาษ ฉันนี่มันจอมห่วยจริงๆ =,.=

     

                    ไม่รู้แหละ! วันนี้เจ้าเตรียมตัวอดข้าวได้เลย

     

                    ไม่จริ๊งงงงงงงงงง!!!!”

     

                   

                    15:00 น. (คลาส : ฟันดาบ)

     

                    พะ...พอแล้ว

     

                    เป็นไงฉันฟันดาบได้ดีมากใช่มั๊ย!!!”ฉันถามพร้อมกับยืดออกอย่างภูมิใจ

     

                    ดีกับผีดิ เจ้าฟันบ้าอะไรเนี่ย นอกจากไม่โดนข้าแล้ว ยังเหวี่ยงดาบกลับไปโดนตัวเองอีก!!!”

     

                    บ้าเหรอโดนที่ไหน โอ๊ย!!!”ฉันร้องออกมา อาการมันช่างออกถูกเวลาจริงๆ ฉันก้มลงมองตัวเองที่ ทั้งขาทั้งแขนมีแต่รอยเขียวจากถูกดาบ(ของตัวเอง)ฟาดเต็มไปหมด ดีนะที่เป็นดาบไม้ ถ้าดาบจริงให้จริงละก็ ได้ขาดสองท่อนไปแล้ว...

     

                    อย่าอะไรง่ายๆอย่างงั้นสิฟะ แว้กกกกกกกกกก!!! เตรียมวิ่งรอบเขาได้เลย!!!”

     

                    ม่ายยยยยยยยยย!!!”

     

     

                    18:00 น. (คลาส : เทคนิคการลอบสังหาร)

     

                    เสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากทางทิศเหนือของป่าต้องสาป ตามมาด้วยเสียงระเบิด และ อะไรต่อมิอะไรดังมาอย่างไม่ขาดสาย เล่นเอาป่าต้องสาปที่เคยเงียบเชียบ แทบจะกลายเป็นมินิคอนเสิร์ตกันเลยทีเดียว!

     

                    นี่เจ้าจะประการให้เขารู้ ว่าเจ้าจะมาฆ่าเขาหรือไงฮะ!!!”

     

                    ก็ฉันทำตามที่นายสอนแล้วไง!!!”

     

                    ทำตามที่สอนน่ะจริง แต่เล่นทั้งสะดุด ทั้งเหยียบกิ่งไม้ ทั้ง...โอ๊ย!!! เยอะแยะไปหมด เตรียมตัวอดขนมไปเลย!!!”

     

                    ใจร้ายยยยยยยยยยย!!!TTOTT”

     

     

                    21:00 น. (คลาส: เอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขัน)

     

                    ปล่อยฉัน ปล่อย!!!”

     

                    ไม่ ถ้าเจ้าแก้มัดเชือดไม่ได้ก่อนหินนั้นตกลงมาเจ้าก็แบน!!!”

     

                    อ๊ากกกกกกกก!!! อย่าพูดเหมือนเป็นเรื่องง่ายแบบนั้นดิ ปล่อย!!! “ไม่อยากจะบอกเลยว่าสภาพฉันตอนนี้มันทุเรศขนาดไหน แขนสองข้างถูกมัดติดกับก้อนหินขนาดใหญ่ แถมด้านบนยังมีหินก้อนใหญ่ยักษ์ที่วาง

    อยู่บนม่านน้ำตกขนาดยักษ์ อยากตายยยยยยยยย!!!

     

                    ถ้าแก้ไม่ได้ ก็ปล่อยให้โดนหินทับไปเถอะ ข้ากลับบ้านแล้ว!!!”

     

                    เฮ้ย!!!อย่าทิ้งกันแบบนี้เด้! กลับมาก่อนนนนน

     

     

                    24:00 น. (คลาส: สมาธิ)

     

                    หลังจากเอาตัว(เกือบ)ไม่รอดจากการเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขัน ตอนนี้ฉันกำลังนั่งสมาธิอยู่หน้าบ้าน เรียกได้เลยว่าตลอดทั้งวันคลาสสมาธิเนี่ย เป็นอะไรที่สบายที่สุด และตอนนี้ฉันก็นั่งสมาธิมาได้สามชั่วโมงแล้ว...

     

                    เข้าบ้านได้แล้ว!!!”

     

                    ฉันลืมตาก่อนจะลุกเดินไปทางที่เพาว์ลี่ยืนอยู่ ยอมรับเลยว่าวันนี้ เป็นการฝึกที่หนักจริงๆ (ถึงแม้ว่าฉันจะทำได้ไม่ค่อยดีนักก็เถอะ)แต่พรุ่งนี้มันจะต้องดีกว่านี้แน่!!!

     

     

    วันที่สุดท้าย

     

    ฝึกเวทย์!!!”

     

    ฉันเอ่ยถามอย่างตกใจ ฉันนะเป็นมนุษย์ธรรมดาไม่มีไอเวทย์เหมือนคนอื่นเค้า แล้วอย่างฉันเนี่ยนะ! จะไปฝึกเวทย์อะไรกับใครเขาได้

     

    ความจริงเรื่องไอเวทย์นะ มันขึ้นอยู่กับ เผ่าครึ่งหนึ่งและก็ตัวผู้ใครมันครึ่งหนึ่ง เพราะงั้นเจ้าเองก็อาจจะมีไอเวทย์เช่นเดียวกัน เพียงแต่ จะดึงมันใช้ได้หรือเปล่าก็เท่านั้นแหละเพาว์ลี่อธิบาย

     

    แล้วการจะทำให้มีไอเวทย์เนี่ย ต้องทำยังไงอะ

     

    ก็เริ่มจากสมาธินั้นแหละ ข้าจะลองให้เจ้าปลดปล่อยไอเวทย์แบบเพียวๆก่อนแล้วกัน

     

    แล้วจะให้ทำยังไงอะ

     

    ก็ลองนึกถึงอะไรก็ได้ที่เจ้าคิดว่าจะใช้มันเป็นพลังได้ อย่างไฟหรือน้ำ

     

    ฉันหลับตาลง ถ้าให้นึกถึงสิ่งที่จะใช้เป็นพลังงั้นเหรอ อืม! ท้องฟ้าแล้วกัน ฉันเพ่งสมาธิก่อนจะจิตนาการถึงท้องฟ้ากว้างใหญ่ ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส มีปุยเมฆสีขาวล่องลอยไปตามลม อา...รู้สึกดีจังเลย

     

    เจ้าทำได้!!!”เสียงตะโกนดีใจแบบเด็กๆของเพาว์ลี่ทำให้ฉันลืมตาขึ้นมอง ในมือที่ตอนนี้มีเปลวไฟสีส้ม ขนาดเท่าลูกบอลลูกเล็กๆ ลอยอยู่

     

    เจ๋ง!!! ว่าแต่...นายว่าไหมว่ามันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆอ่ะฉันถามขณะที่เพาว์ลี่ก็พยักตอบ ลูกไฟสีส้มขนาดเท่าลูกบอลเมื่อกี้ขยายใหญ่จนตอนนี้ขนาดของมันสูงถึงไหล่ของฉันแล้ว!!!

     

    เพาว์ลี่นี้มันอะไรกันฉันถามอย่างตกใจ

     

    ข้าวฟ่าง!!! ออกจากตรงนั้นเร็ว!!!!”

     

    หา!!!”

     

    เร็วก่อนที่มันจะ...ระเบิด!!!”

     

    ฉันรีบถอยออกมาทันทีที่ได้ยินคำว่าระเบิด และไม่ทันขาดคำ ลูกบอลที่เกิดจากไอเวทย์นั้นระเบิดออก แรงระเบิดของมันทำเอาคนที่ถอยออกมาไม่มากอย่างฉันถึงกับทรุดเลยทีเดียว ความสีส้มๆลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ จนมองไม่เห็นศูนย์กลางของระเบิดนั้น

     

    แค่กๆ จุกชะมัดยาดเลย!!!”

     

    แรงใช่เล่นเลยนะเนี่ย เฮ้! ข้าวฟ่างเป็นไงบ้าง

     

    จุก!”ฉันตอบ ตอนนี้ควันนั้นเริ่มจากหายไปแล้ว เผยให้เห็น อะไรบางอย่างที่มีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้างประมาณ 20 เซนติเมตร ยาว 1.3 เมตร ลอยอยู่กลางอากาศ

     

    บลัดดิช บาสซูน

     

    อะไรคือ บลัดดิช บาสซูนเหรอฉันถาม เพราะดูท่าเพาว์ลี่จะสนใจมันมากเลยทีเดียว

     

    มันเป็นอาวุธในตำนานหายากกว่าคฑาผลึกน้ำแข็งแห่งทรอยด์อีกนะ...ว่ากันว่าในบรรดาของอาวุธปืนด้วยกันแล้วก็ในบรรดาอาวุธในตำนานทั้งหลาย เจ้าเนี่ยเจ๋งที่สุด

     

    ขนาดนั้นเลยเหรอ ไอ้ปืนแปลกๆเนี่ย ฉันมองเจ้า บลัดดิช บาสซูน จะว่าไปฉันว่ามันเหมือนอาวุธปืนระยะไกลแบบในเกมออนไลน์ซะมากกว่า ดูแล้วไม่น่าจะเป็นอาวุธในตำนง ตำนานอะไรนั้นเลย แล้วที่สำคัญมันจะฟลุ๊คเกินไปหรือเปล่าที่จอมห่วยอย่างฉันจะได้เป็นเจ้าของอาวุธในตำนานแบบนี้

     

    อาวุธที่เกิดจากไอเวทย์แบบเนี้ย มันจะเลือกเจ้าของ ของมันเอง มันไม่สนหรอกว่าเจ้าจะเป็นจอมห่วยหรืออะไรก็ตามเพาว์ลี่ตอบข้อสงสัยของฉันจนเกลี้ยง ฉันเดินไปยัง บลัดดิช บาสซูนก่อนจะหยิบมัน และ...

     

    เฮ้ย!!!”ฉันร้องออกมาเมื่อ บลัดดิช บาสซูน กลายร่างเป็นหมาป่า แถมยังกัดเข้าที่มือฉันอีกต่างหาก แว้ก!!! มือช้านนนนนนนนนนนน!!!

     

    ดูท่าเจ้าคงจะพูดอะไรไม่เข้าหูมันนะ เหอะๆๆๆ ไม่ต้องมาหัวเราะเลย แว้ก!!!!

     

    เพาว์ลี่ช่วยกันหน่อยเด้!”

     

    ไม่! “

     

    ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!! คำตอบทำร้ายจิตใจกันเกินไปแล้วนะเฟ้ยยยย!!! ถึงจะดีใจที่ได้อาวุธเจ๋งๆในตำนานมาก็เถอะ แต่...ถ้าต้องโดนเจ้าหมาป่านี่ไล่กัดแบบนี้ ให้ฉันกลับไปเป็นจอมห่วยที่ประเทศไทยเหมือนเดิมจะดีกว่า จ๊ากกกกก!!!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×