ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Turbulent Company ปฏิบัติการ(ฆ่า)เพื่อมหาชน

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 ผู้มาเยือน!!!(แก้จ้า)

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 54


     

    ฉันขอโทษษษษษษษ!!!!” ภาพของเด็กสาวผู้น่ารักอย่างฉัน =,.= กำลังวิ่งหนีไอ้เจ้ามังกรขี้โมโหอย่างเพาว์ลี่ กลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่(จำ)ต้องทำทุกวันตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่ฉันตกลงว่าจะมาอยู่กับเพาว์ลี่ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพจมานยังไงอย่างงั้นเลยแฮะ...

     

    วิวาโต้!!!!!!”

     

     ตูม!!!

     

     เสียงร่ายเวทย์นั้นทำให้ฉันชะงัก จะไม่ชะงักได้ไงละ ก็หมอนั้นดันเล็งตำแหน่งมาที่ด้านหน้าฉันพอดีเลยนะสิ นี้ถ้าเบรกไม่ทันมีหวังถูกย่างสดแต่เช้าแน่เลย อึย!

     

     “ไม่ต้องมาอึย! เลย รู้ไม่ว่านี้มันใบที่เท่าไรแล้ว

     

     “สอง...ฉันตอบเสียงอ่อย แต่กลับถูกเพาว์ลี่ตะโกนเสียงดังใส่หน้า แง...ใจร้ายที่สุด

     

     “สองใบ บ้านเจ้าสิ นี่มันใบที่ห้าสิบแล้วโว้ย!!!”

     

     “งะ...ก็ใครจะไปรู้เล่าว่าจานมันจะร่วงลงมา

     

     “ไม่ต้องมาแก้ตัว วันนี้ถ้าข้าไม่ได้ฆ่าเจ้า อย่ามาเรียกข้าว่าเพาว์โรอาเรซิน

     

     ตูม!!!

     

     “อ๊ากกกกกกกกกกกก!!! ช้านนนนผิดไปแล้วยกโทษให้ฉันด้วยยยยยย!!!”

     

     เอาละทุกคนคงสงสัยว่า ทำไม่สาวน้อยน่าลัก(ไปฆ่า)อย่างฉันถึงได้โดนไอ้เพาว์ลี่ (เปลี่ยนคำนำหน้าใหม่เรียบร้อย) ฆ่าแบบนี้ แต่ก่อนที่เราจะย้อนไปดู ขอให้ทุกท่านโปรดไว้อาลัยต่อหน้าเด็กสาวที่ตอนนี้กลายสภาพไปศพไปแล้วเรียบร้อยเป็นเวลา 3 นาที อาเมน!

     

     

    เมื่อ 10 นาทีก่อน

     

     

    มีอะไรให้ฉันช่วยไหมฉันตะโกนถามเพาว์ลี่ ที่ตอนนี้กำลังก้มๆเงยๆทำอะไรสักอย่างอยู่หน้าบ้าน แต่ที่นี่ก็แปลกดีแฮะ! พระจันทร์ของที่นี่มันเล่นขึ้นทั้งวันทั้งคืน นี่ถ้าไม่มีนาฬิกาฉันคงจะนอนหลับมันทั้งวันแน่ๆ

     

     “ไม่มี เจ้าไปนั่งเล่นเถอะ!”

     

     “อืม!”

     

     ฉันตอบก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟากลางบ้าน ก่อนจะนั่งคิดอะไรเพลินๆ ฉันมองไปรอบๆบ้าน บ้างที่ถ้าที่นี่ไม่มีเพาว์ลี่ ฉันคิดว่ามันแทบจะไม่มีอะไรแตกต่างไปจากที่บ้านฉันเลยสักนิด ทั้งโซฟา ที่นอน ห้องครัว หรืออะไรต่างๆ ฉันคงคิดว่าที่นี้เป็นที่ไหนสักทีหนึ่งในประเทศไทยแน่ๆ

     

     

    จริงซิ! พอคิดถึงครัว ลองเข้าไปดูดีกว่าว่ามีอะไรให้กินบ้าง เหอะๆ แม่จะกินให้หมดเลย ฉันค่อยๆเดินไปยังห้องครัวแต่สภาพที่ฉันเห็นทำให้ฉันแทบช็อค!

     

     เนี่ยนะ! ที่บอกว่าไม่มีงาน จานกองพะเนินเทินทึก ชนิดที่สูงกว่าหัว กองรวมกันอยู่ในอ่างล้างจาน เอาว่ะ! อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ล้างจงล้างจานให้มังกรใช้ (สุภาษิตบ้านให้เนี่ย! )หลังจากนั้นการลงมือล้างจานก็เริ่มต้นขึ้นจนถึงไปสุดท้าย...

     

     “แค่นี้ก็เรียบร้อย อ้าว! อะเฮ้ย!!!”

     

     ฉันร้องเสียงหลง เมื่อจานที่ถูกจัดเก็บบนชั้นจู่ๆก็ร่วงกราวลงมาแบบไม่ได้ทันตั้งตัว เสียงของจานที่กระทบกับพื้นดังสนั่นไปทั่วบ้านและ...

     

     “จาน...ฉันจะฆ่าเธอออออออ!!!!”

     

     “เค้าขอโตดดดดดดดด!!!”

     

     

     

    และนั้นก็เป็นต้นเหตุของการวิวาทแบบรุนแรงของวันนี้ แต่ฉันไม่ควรจะคิดเรื่องนั้นใช่ไหม เพราะว่าตอนนี้หลังของฉันชนเข้ากับผนังซะแล้ว แว้กกกกก!!! แล้วจะหนีไปไหนได้ละทีนี้

     

     “เหอะๆๆ ไม่ต้องคิดหนีเลย เพราะยังไงวันนี้เจ้าก็ต้องตายอยู่ดี

     

     ไม่พูดเปล่าเพาว์ลี่เดินเข้ามาพร้อมกับหักนิ้วดังกรอบๆ น่ากลัวเป็นที่สุด...แม่จ้า! ทำบุญอุทิศส่วนกุศลมาให้ลูกสาวคนนี้ด้วยนะจ๊ะ ลูกสาวคนนี้จะไปสวรรค์อีกรอบแล้ว!!!

     

     ขณะที่ฉันกำลังหลับตาปี๋แบบยอมรับชะตากรรม นานหลายนาทีก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากความรู้สึกเจ็บแปลบที่แขนซ้าย ฉันลืมตาขึ้นข้างหนึ่งและสิ่งที่ฉันพบคือ...

     

     เพาว์ลี่ที่ทำท่าจะฆ่าฉันในตอนแรก กำลังจับแขนซ้ายของฉันพลิกไปมาอย่างเบามือ แต่ว่านั้นมันเลือดไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าเพาว์ลี่จะฆ่าฉันจริงๆ

     

     “จะบ้าหรือไง เจ้าทำจานแตกใส่แขนตัวเอง ข้าไปทำอะไรเจ้าตอนไหนเพาว์ลี่โวยวาย แต่ขณะเดียวกันก็รักษาแผลลึกที่แขนซ้ายไปในตัว

     

     “ก็ใครจะไปรู้ ว่าจานมันจะตกลงมาเล่าฉันบ่นเบา แต่เพลาว์ลี่นี่ก็ดันหูดี ได้ยินที่ฉันพูดอีก

     

     “ถ้ามีคราวน่าอีกฆ่าจะข้าเจ้าจริงๆด้วย

     

     ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ดูจากการกระทำของเพาว์ลี่ มันห่างไกลจากคำว่าฆ่าไปมากโขเลยทีเดียว บางทีหมอนี่ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดแฮะ! ถึงจะปากเสีย ใจร้อน หรือขี้โมโหไปหน่อย แต่หมอนี่ก็ยังใส่ใจสิ่งรอบตัวอยู่บ้างละนะ ดูจากที่เพาว์ลี่รักษาแผลที่แขนซ้ายด้วยเวทย์อะไรก็ไม่รู้แล้ว...ถ้าเป็นคนที่คิดจะฆ่ากันจริงๆคงไม่รักษาให้แบบนี้หรอก ดูสิ! ขนซ้ายตอนนี้กลับมาเป็นปกติ ไม่มีริ้วรอยแผลเป็นให้เห็นเลยแม้แต่น้อยราวกับว่า ไม่เคยถูกของมีคมบาดยังไงยังงั้นแหละ!

     

     “อย่าได้ใจไปก็แล้วกัน!”

     

     ง่ะ...โดนดุอีกแล้วอะ ไม่เข้าใจจริงว่าทำไมฉันถึงได้ห่วยแบบนี้นะ เกิดมาทำไมเนี่ยรกโลกชะมัดยาก =,.=

     

     “รู้ตัวด้วยเหรอ! เชื่อเขาเลย มีใครบนโลกนี้ที่ทำจานแตกมาราธอนวันละห้าสิบใบแบบเจ้าได้บ้างเนี่ย เอาๆ ข้าจะออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่ง หวังว่ากลับมาข้าจะไม่เห็นจานแตกอีกรอบนะ

     

     “รู้แล้วละน่า ไปเถอะ

     

    งั้นข้าไปแล้วนะ...เออ! อีกอย่างหนึ่ง ถ้าใครมาถามหาข้า อย่าเปิดประตูให้ละ เพาว์ลี่ที่เดินออกจากบ้านไปแล้ว เหมือนจะนึกอะไรออก ก่อนชะโงกหน้าเข้ามาสั่ง สั่งกันจนนาทีสุดท้ายจริงๆเลย

     

     “รู้แล้วๆ ไปทำธุระของนายให้เสร็จแถอะ

     

     “ข้าไปนะ

     

     “เออ!!!”

     

     

     หลังจากที่เพาว์ลี่ออกจากบ้านไป คนที่ไร้งานทำอย่างฉันก็ได้แต่นั่งๆนอนๆ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี จะทำอะไรดีน้า...หมอนั้นก็ออกไปทำธุระ งั้น!

     

     ฉันบอกไปหรือยังว่าถึงฉันจะห่วยแบบสุดๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องทำอาหารหรือชงชาละก็ ฉันก็ไม่แพ้ใครนะ เพราะว่าฉันนะ เคยเป็นมาสเตอร์ของร้านขนมชื่อดังในกรุงเทพฯเชียวนะ(แต่ก็โดนไล่ออกเพราะทำจานแตกเนี่ยแหละ =,.= ) ถ้าไม่อร่อยก็ให้มันรู้ไป

     

     หลังจากคิดได้ดังนั้น ภารกิจทำๆขนมจึงเริ่มขึ้นทันที ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงขนมหน้าตาสวยพร้อมกับชานมรสเข้มข้นก็ถูกนำมาว่าบนโต๊ะรับแขกที่ตั้งอยู่กลางบ้าน...ไม่ได้ทำขนมมาซะนานยังอร่อยเหมือนเดิมหรือเปล่าเนี่ย ต้องอร่อยอยู่แล้วละ อ้ำ...

     

                    กริ๊งๆๆ

     

                    ใครมากดกริ่งหน้าบ้านเนี่ย!!! คนกำลังจะกินขนมอยู่เลยเชียว ถ้าเป็นเพาว์ลี่นะ แม่แตะยอดหน้าให้หนีออกจากบ้านไม่ทันเลย(พูดไปงั้นแหละ ความจริงแตะไม่ถึงหรอก ก็ฉันสูงแค่ไหล่เพาว์ลี่เองนี้นา)ฉันเดินไปเปิดประตูบ้านด้วยอารมณ์หงุดหงิดสุดๆ บังอาจมาขัดขวางเวลากินของฉัน

     

                    มาเรียกอะไร ตอนคนจะกินขนม ทีหลังก็เดินเข้ามาเอง...

     

                    ฉันหยุดไปด้วยอาการอึ้งกิ้มกี่ มะ...ไม่ใช่เพาว์ลี่หรอกเหรอ คนตรงหน้าฉันตอนนี้ไม่ใช่เพาว์ลี่ แต่เป็นหญิงสาวผมทอง หุ่นเซ็กซี่ ตาคมสีฟ้าทอประกายหวานล้ำ เฮ้ย! อย่ามามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นนะเฟ้ย!!!

     

                    บอส...

     

                    และก่อนที่ฉันจะทันได้ตั้งตัว อาเจ๊ผมทองก็ตรงเข้ามากอดฉันไว้แน่น แถมยังเรียกฉันไม่ขาดปากว่าบอสอีก นี่มันอะไรกันเนี่ย!

     

                    ในที่สุดก็ได้พบกันซะที

     

                    พี่เป็นใคร แล้วมากอดหนูทำไมเนี่ย!”

     

                    ทำไมบอสแทนตัวเองว่าหนูละคะ บอสเป็นผู้ชายนะคะ

     

                    ห๊า!!!!”เอาอีกแล้ว...ฉันเหมือนผู้ชายนักหรือไงฮะเนี่ย หน้าตาก็ออกจะน่ารัก แถมขาวยังกับหิมะ อย่างฉันเนี่ยเหมือนผู้ชายตรงไหนวะ(ตรงนี้แหละ)

     

                    พี่สาวคงเข้าใจผิด หนูเป็นผู้หญิง!!! ผู้หญิง 100% ค่ะ

     

                    หญิงสาวก้มลงมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะยิ้มหวานหยาดเยิ้ม พร้อมกับหัวเราะเบาๆ

     

                    ขอโทษด้วยค่ะบอส ข้าลืมมองไป

     

                    ไม่เป็นไรค่ะ แหะๆฉันตอบก่อนจะหัวเราะแห้งๆ

     

                    ไปกับเถอะค่ะหญิงสาวพูดขึ้น ก่อนจะออกแรงลากฉันออกไปนอกบ้าน เฮ้ย! จะพาฉันไปไหนเนี่ย

     

                    พี่จะพาหนูไปไหนเนี่ย!”

     

                    ไปที่ เทอร์บูเลนซ์ คอมพานี ไงละค่ะหญิงสาวตอบก่อนจะออกแรงลากฉันอีกรอบ ทำไงดีล่ะ เกิดพี่สาวคนนี้เป็นปีศาจลากฉันไปกินตับก่อนที่เพาว์ลี่กลับมาจะทำยังไงล่ะ ฉันไม่ต้องกลายเป็นผีเฝ้าป่าต้องสาปนี้ไปอีกคนหรือไง ไม่เอาน้า!!!

     

                    “เข้าไปนั่งในบ้านก่อนไม่ได้เหรอค่ะ คือ...คือ”

     

    “ไม่ต้องหรอกค่ะบอส ไปกันเลยดีกว่า”

     

    ไม่พูดเปล่าพี่สาวผมทองออกแรงดึง( ความจริงต้องเรียกว่ากระชากซะมากกว่า) โดยมีฉันขืนตัวไว้แบบสุดฤทธิ์

     

    “ไม่ปายยยย เค้าไม่ปายยย แว้กกกกก ช่วยด้วย เค้าจะถูกปีศาจกินหัวแล้ว แง”

     

    ได้ผล พี่สาวผมทองหยุดกึกก่อนจะหันมามองหน้าฉันแบบยิ้มหวานชวนใจละลาย แต่ไหงฉันรู้สึกเหมือนกับว่ามันมีเงาทะมึนๆ อึมครึมกระจายทั่วบริเวณ หรือว่าจะคิดไปเองหว่า

     

    “เมื่อกี้บอสเรียกข้าว่าอะไรนะค่ะ”

     

    “อะเออ”

     

    “เรียกว่าอะไรค่ะ”

     

    ง่า ทำไมต้องกดดันเค้าด้วย เค้าทำไรผิด

     

    “ปะ...ปีศาจจ้า แหะๆ”

     

    กรอบ!!!

     

    เสียงอะไรบางอย่างลั่นดังกรอบ เสียงอะไรกัน ฉันก็ไม่ได้เหยียบกิ่งไม้นี่นา แล้วไอ้เสียงอะไรหักนี่มันอะไรกัน พลันอยู่ๆ ความเจ็บปวดก็แล่นเข้ามาแทนที่ อย่าบอกนะว่า

     

    กรอบๆๆ

     

    “อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!!

     

    ฉันร้องเสียงหลง เมื่อพบว่าพี่สาวผมทองกำลังหักข้อมือฉันเหมือนเป็นแค่ของเล่น ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วทั้งแขน เจ็บชนิดเรียกว่าหาคำมาบรรยายไม่ได้ และฉันก็ไม่ใช่พวกที่อดทนสูง ตอนนี้ฉันทำได้แค่ดิ้นเอาตัวรอด แต่ด้วยกำลังของอีกภายที่มากกว่า เลยดูเหมือนการขัดขืนจะไร้ประโยชน์ ทะ...ทำยังไงดีละ จะเอาตัวรอดไปยังไงดี

     

    ใช้ไม้แข็งไม่ได้ก็ใช่ไม้อ่อนแล้วกัน

     

    “พี่สาวคนสวยขา...ปะ ปล่อยมือก่อนได้ไหมค่ะ”

     

    เหมือนจะได้ผล เพราะแรงบีบที่ข้อมือลดลงไปมาก ถึงแม้ว่าจะยังไม่ปล่อยมือแต่ก็ถือว่าได้ผลละวะ และดูเหมือนว่าพี่สาวผมทองจะเพิ่งรู้ตัวว่าจับแขนฉันแน่นไปหน่อย(ความจริงต้องเรียกว่ามากเลยละ)

     

    “ขะ ขอโทษคะ บอส ว้าย มือบอสไปโดนอะไรมาคะ”

     

    พี่สาวผมทองรีบปล่อยมือที่จับแขนฉันลงทันที ผลคือ

     

    “ว้ากกกก เจ็บๆๆๆ แงๆๆ แม่จ้าช่วยด้วย”

     

    ฉันแหกปากร้องเสียงดังลั่น โดยมียัยเจ๊ผมทอง (เปลี่ยนสรรพนามเรียกกะทันหันเลยทีเดียวเชียว) ยืนทำท่าลนลานอย่างไม่รู้จะทำอะไรก่อนอะไรหลังดี

     

    “อะ...เออ”

     

    “เจ็บอะ เจ็บบบบ”

     

    “บะ...บอสค่ะ”

     

    “แงๆ”

     

    “หยุดร้องได้แล้ว”

     

    “อุ๊บส์”

     

    ฉันปิดปากสนิททันที ยัยผมทองดูจะพอใจกับการที่ทำให้ฉันหยุดตะโกนแบบปวดประสาทได้ เพราะแม่คุณยิ้มร่าซะขนาดนั้น

     

    “เงียบสักที ยืนแขนมาซิค่ะบอส เดียวข้าจะทำแผลให้”

     

    ฉันส่ายหัวแรงๆ ทางยัยผมทองก็ไม่ได้มีท่าทียินดียินร้ายอะไรสักเท่าไร แถมยังยิ้มหวาน ก่อนจะพูดซ้ำ

     

    “ยืนแขนมาสิค่ะ บอส...”

     

    เออ...ไม่ได้ยินดียินร้าย แต่ไหงส่งสายตากดดันมาให้ซะขาดนั้น ถ้าไม่ส่งมือให้ชะรอยว่าอาจจะถูกหักคอได้ ฉันก็เลยได้แต่ยืนมือให้อีกภายดู (ในสภาพจำยอมแบบที่สุด)

     

    “แหม...บอสนี่พูดง่าย น่ารักจังเลยนะค่ะ”

     

    ฉันถูกเธอบังคับต่างหากเล่า

     

    และระหว่างที่ฉันกำลังบ่นงึมงำอยู่ในใจ ฉันรู้สึกถึงความเย็นราวกับว่ามีใครเอาน้ำแข็งมาราดลงบนข้อมือตรงที่หัก แสงสีเงินสาดส่องไปทั่วบริเวณข้อมือ ก่อนที่ความเจ็บปวดและรอยเขียวช้ำภายจะหายไป

     

    “อืมเรียบร้อย หายแล้วก็ไปกันเถอะบอส”

     

    ไม่ทันไรยัยผมทองก็หันมายิ้มหวานอีกระลอก (แต่ฉันว่ามันมันคือยิ้มสยองดีๆนี่เอง)

     

                    อะ...เออ พี่สาวอย่าเพิ่งไปได้ไหมค่ะ อยู่กินน้ำชากันก่อน

     

                    ฉันพูดเสียงหวาน ก่อนจะพยามแกะมือที่จับแขนฉันไว้แน่น (เป็นอะไรกับข้อมือฉันหนักหนาฟะ จับจัง) พี่สาวคนนั้นยิ้มหวานก่อนจะตอบตกลง เอาว่ะ! ถ่วงเวลาไว้ก่อน เพาว์ลี่บอกว่าในป่าแห่งนี้ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่ งั้นก็แสดงว่าพี่สาวคนนี้ ต้องเป็นปีศาจชัวร์! เพาว์ลี่นะเพาว์ลี่ ดันไปไหนก็ไม่รู้เวลาแบบนี้ฉันจะเอาตัวรอดได้ยังไงกันละเนี่ย!

     

                    อร่อยไหมคะ

     

                    ฝีมือบอสสุดยอดเลยละค่ะหญิงสาวพูดก่อนจะเคี้ยวขนมจนแก้มตุ่ย ถ้าเป็นคนฉันก็ว่ามันน่ารักอยู่หรอกไอ้ท่าทางแบบนั้นนะ 

     

                    ว่าแต่ ไอ้เทอร์บูเลนซ์ คอมพานี มันคืออะไรเหรอคะฉันเอ่ยปากถาม

     

                    ก็เป็นกิจการของตระกูลบอสไงละค่ะ รู้ไหมคะ ว่าพวกข้าตามหาท่านมากว่าร้อยปีแล้วนะคะ เทอร์บูเลนซ์ของพวกเรา ขาดผู้ดำรงตำแหน่งผู้นำ ตั้งแต่บอสคนเก่าเสียไป...

     

                    นั้นไงบอสคนเก่าเสียไป แสดงว่าผู้โชคร้ายคนก่อนต้องโดนพี่สาวคนนี้ฆ่าแน่เลย! ตายๆๆๆๆ ฉันต้องโดนฆ่าทิ้งเหมือนกันแน่ๆเลย แล้ว...แล้วฉันจะโดนฆ่าแบบไหนละเนี่ย จะโดนจับถ่วงน้ำ จับกินทั้งเป็น ถูกจับเผาไฟถลกหนังอย่างเกลือ หรือตัดหัวเสียบประจานหรือๆๆๆ โอ๊ย! คิดไม่ออกแล้ว ในหัวตอนนี้มีแต่วิธีการฆ่าแบบประหลาด โหดร้าย เต็มไปหมด ฉันไม่อยากตายแบบนี้นะเฟ้ยยยยยยยยยย!!!

     

                    เออ...บอสเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ

     

                    ปะ...เปล่าไม่ได้เป็นอะไรเลย เล่าต่อเถอะ

     

                    คะ บอสนะเป็นรุ่นที่สิบของเทอร์บูเลนซ์ ทุกคนกำลังรอการกลับมาของบอสอยู่นะคะ ตั้งแต่บอสคนก่อนเสียไป พวกเลซินคลอ มันก็ตั้งตัวเป็นใหญ่ แถมยังบุกถล่มสำนักงานใหญ่ของพวกเราจนย่อยยับ จนพวกข้ากับเหล่าลูกน้องเจ็ดพันสามร้อยคนต้องถอยไปตั้งหลักในเขตสปาย ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม พวกข้าต้องเจอกับอุปสรรค์ต่างๆมากมาย แต่พวกข้าก็ยังหวังว่าสักวันจะเจอผู้สืบทอดตำแหน่ง และตอนนี้บอสก็นั่งอยู่ตรงหน้าข้าแล้ว ยังไงข้าก็ต้องพาท่านกลับไปให้...โอ๊ย!!!”

     

                    ฉันมองภาพตรงหน้าอย่างตกใจ เมื่อประตูที่ถูกบุด้วยผ้ากำมหยี่ โผล่ขึ้นมาจากพื้นห้องด้านหลังที่ที่พี่สาวคนนั้นนั่งอยู่ก่อนที่ประตูจะเปิดออก เผยให้เห็นร่างสูงในเสื้อปกตั้งสีดำแถบแดง ดวงตาคมจ้องมาที่ฉันอย่างคาดโทษ มือใหญ่ฉุดข้อมือของหญิงสาวผมทองให้ลุกขึ้น ก่อนจะตะคอกด้วยเสียงอันดัง

     

                    เจ้าเป็นใคร เข้ามาที่นี่ได้อย่างไร!!!”

     

                    แหม! เวลาแค่ร้อยกว่าปีทำให้เจ้าลืมเพื่อนเก่าคนนี้ไปแล้วหรือหญิงสาวพูดก่อนจะแกะมือของของเพาว์ลี่ออกอย่างง่ายดาย

     

                    ข้าไม่เคยรู้จักเจ้า!!!”

     

                    ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะลืมข้าหรอกนะ เพาว์โรอาเรซินหญิงสาวพูดพลางเอามือลูบไล้แผงอกกว้างของเพาว์ลี่ สองคนนี้เขารู้จักกันด้วยเหรอ เพาว์ลี่ที่ดูจะหงุดหงิดกับการกระทำของหญิงสาว ปัดมือของเธอออกอย่างไม่ใยดี แต่หญิงสาวกลับฉวยข้อมือของเพาว์ลี่ก่อนจะตะโกนออกมาอย่างตกใจ

     

                    นี่เจ้า! ทำพันธะสัญญาแห่งนายกับบอสงั้นเหรอ!!!”

     

                    ไม่เกี่ยวกับเจ้า!!!”

     

                    มันเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง เจ้าตัดหน้าข้านิ

     

                    นั้นมันก็เรื่องของเจ้า!!!”

     

                    นี้มันอะไรกัน! ฉันนั่งมองคนสองคนที่เถียงกันจะเป็นจะตายอยู่กลางบ้าน เหมือนฉันไม่มีตัวตนอะไรอย่างงั้น แล้วอยู่พี่สาวคนนั้นก็หันมาวีนใส่ฉัน ง่า...เมื่อกี๊ยังเถียงกับเพาว์ลี่อยู่เลย ไหงมาลงที่ฉันซะละ

     

                    ทำไมบอสถึงไปทำพันธะสัญญาแห่งนาย กับไอ้มังกือไม่สมประกอบนั้นละค่ะ ข้านะออกจะสวยเซ็กซี่แต่ทำไมท่านไม่ทำพันธะสัญญากับข้า หรือว่าข้าสวยไม่พอ

     

                    เจ้านะเหรอสวย มีแต่พวกบ้าเท่านั้นแหละที่จะชอบเจ้า ยัยป้ามารีอา!!!”

     

                    กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!”

     

                    พอได้แล้วหยุดทั้งสองคนเลย!!!” ในที่สุดความอดทนของฉันก็หมดลง หลังจากที่พี่สาวคนนั้นกรีดร้องเสียจนแก้วหูแทบจะกระเด็นออกมาเต้นระบำ ขืนยังปล่อยให้เถียงกันมีหวังฉันจะได้หูหนวกก่อนจะได้กลับบ้านนะซิ

     

                    ที่พี่เล่าให้หนูฟังจริงหรือเปล่าฉันถามขณะที่จัดการแยกพี่สาวคนนั้นกับเพาว์ลี่ออกจากกัน เพาว์ลี่ที่ตอนนี้ย้ายก้นมานั่งคุมเชิงอยู่ข้างๆฉัน ได้นั่งหน้าบูดบ่นกระปอดกระแปดอะไรก็ไม่รู้อยู่คนเดียว

     

                    สิ่งที่ข้าพูดเป็นเรื่องจริงค่ะ

     

                    แล้วหนูจะเชื่อได้ยังไงว่าที่พี่พูดเป็นเรื่องจริง

     

                    การที่บอสสามารถใส่แหวนวงนั้นได้ก็แสดงชัดแล้วว่า ท่านคือบอสรุ่นที่สิบแห่งเทอร์บูเลนซ์ คอมพานี

     

                    จะบ้าเหรอแหวนแบบนี้ใครๆก็ใส่ได้ทั้งนั้น ไม่เชื่อหนูจะถอดให้พี่ลองเลย...อะ! ทำไมถอดไม่ได้

     

                    ไม่ต้องพยามหรอกค่ะ ถ้าแหวนนั่นถูกสวมโดยผู้เป็นเจ้าของแล้วมันจะไม่สามารถถอดได้ค่ะ

     

                    ง่า...ไม่จริงงงงงงงงงงงงง!!!

     

                    เรื่องจริง100%เลยละ

     

                    เสียงของคนที่นั่งหน้าบูดมานานตอบ ไม่จริงใช่ไหมเนี่ย อยากตะโกนให้โลกรู้ไปเลยว่าคนอย่างข้าวฟ่าง มันทั้งห่วยทั้งซวย ฮือ...

     

                    อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิค่ะบอสมันไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นไม่ต้องมาพยามปลอบใจกันเลย คนอย่างฉันมันห่วยยยยย! แง...

     

                    ถ้าท่านขึ้นรับตำแหน่งเป็นบอส ท่านจะได้กินขนมฟรีตลอดชีวิตนะค่ะทันที่ที่เห็นอีกฝ่ายทำหน้าเบะหญิงสาวก็ยืนข้อเสนอที่ทำให้คนที่ทำหน้าเบะเมื่อครู่ ตาโตขึ้นอย่างตกใจทันที กินขนมฟรีตลอดชีวิตงั้นเหรอ งั้น!

     

                    เจ้าคิดจะทำอะไรนะ!!!’

     

                    ตกลง!!!”

     

                    เฮ้ย!!!”

     

                    จะ...จริงเหรอค่ะ บอส แหม ไม่นึกว่าบอสจะเห็นแก่กินขนาดนี้

     

                    “หา ว่าไงนะ”

     

    “เปล่าค่ะๆ ไม่มีอะไร แหะๆ”

     

    เหรอฟะ แล้วทำไมฉันรู้สึกเหมือนโดนหาว่าเห็นแก่กินเลยแฮะ

     

                    อืม! ว่าแต่การเป็นบอสมันต้องทำอะไรบ้างอะฉันถามขณะที่เพาว์ลี่ทำท่าเหมือนอยากจะฆ่าฉันเต็มแก่ ผิดกับอีกคนที่ยิ้มแป้นอย่างอารมณ์ดี

     

                    ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่อีก 3 วันข้างหน้า ท่านจะต้องเข้ารับการทดสอบเพื่อขึ้นเป็นรุ่นต่อไป

     

                    แล้วไอ้การทดสอบอะไรนั้นมันยากไหมอะคะ

     

                    ก็ไม่อยากหรอกค่ะนิดๆหน่อยๆเอง

     

                    งั้นก็ตกลงเลย อีก 3 วันจะมารับใช่ไหมคะ

     

                    ค่ะ แต่ว่าท่านต้องเซ็นนี่ก่อนนะค่ะ

     

                    ฉันมองกระดาษที่เขียนด้วยตัวอักษรประหลาดๆเต็มไปหมด กลางหน้ากระดาษมีตราประทับแบบเดียวกับที่ข้อมือด้านขวา ด้านล้างมีช่องที่เว้นไว้สำหรับเซ็นชื่อ และขณะที่ฉันกำลังจะเซ็นชื่อนั้น...

     

                    แคว่กกกกกกก!!!

     

                    เสียงกระดาษฉีกขาดออกจากกันเป็นสองซีกตามด้วยชิ้นเล็กชิ้นน้อยอีกมากมาย ฉันมองการกระทำของเพาว์ลี่อย่างอึ้งๆ หมอนี่ทำลายความฝันในการกินขนมฟรีตลอดชีวิตของฉันลงต่อหน้าต่อตา

     

                    ทำอะไรน่ะ

     

                    ฉันไม่อนุญาตให้เธอเซ็นชื่อเด็ดขาด!!!”

     

                    นายมีสิทธิ์อะไรมาขัดขวางการกินขนมฟรีตลอดชาติของฉันฮะ

     

                    นี่! เธอเห็นแก่กินขนาดนี้เลยเหรอ OoO”

     

                    ฉันจะเห็นแก่กินหรือไม่มันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน คุณพี่ค่ะ ไหนกระดาษที่จะให้เซ็นละค่ะ

     

                    นี่ค่ะ!”

     

                    และพอฉันจะเซ็น...

     

                    แคว่กกกกก!

     

                    เอ๊ะ!”

     

                    ไม่เป็นไรค่ะ ข้ามีอีก....หลายปึกเลยฉันมองกระดาษในมืออย่างอึ้งๆ นี้พี่แกเตรียมมาเพื่อการนี้เลยเหรอ สุดยอดดดดด!!!

     

                    ปัง!!!

     

                    ฉันเอามืออุดหูอย่างตกใจ เมื่อเพาว์ลี่เอาปืน(ไม่รู้ไปเอามาตอนไหน)ยิงกระดาษปึกนั้นกระจุย โดยที่พี่สาวคนนั้นไม่มีบาดแผลเลยสักนิด ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนถือกระดาษปึกนั้นไว้

     

                    ทีนี่ก็คงไม่มีการเซ็นอะไรแล้วสินะเพาว์ลี่พูดก่อนจะยิ้มอย่างผู้ชนะ แงๆๆๆๆๆ หมดกัน! ความหวังที่จะได้กินขนมฟรีตลอดชีวิต คอยดูไอ้มังกือเพาว์ลี่ ฉันจะขอสาปแช่งแก! โทษฐานทำให้ฉันอดกินขนม

     

                    จ้างให้ข้าก็ไม่กลัว!’

     

                    ว้ากกกกกกก!!! ฉันอยากตายยยย!

     

                    ดูท่าทางว่าเจ้าคงเข้าใจอะไรผิดแล้วละ เพาว์โรอาเรซินหญิงสาวจงใจเน้นชื่อของมังกรหนุ่ม ก่อนจะฉวยมือของเด็กสาวไปประทับตราบนกระดาษทันที แสงสีส้มกระจายไปทั่วแผ่นกระดาษ ตราสัญลักษณ์กลางหน้ากระดาษส่องแสงเรื่องรองราวกับตอบรับเจ้าของฝ่ามือ เพียงชั่วครู่แสงสว่างก็ดับลง ก่อนจะกลับเป็นปกติ เว้นแต่ท้ายกระดาษที่มีลายมือหวัดๆเป็นตัวเขียนอย่างสวยงาม

     

                    เรียบร้อยแล้วค่ะ งั้นข้ากลับก่อนนะค่ะ อ้อ! ขออภัยที่ไม่ได้แนะนำตัว ข้า มารีอา เอลเดส มือขวาของรุ่นก่อนค่ะ

     

                    ค่ะ! กลับบ้านดีๆนะค่ะ บ๊ายบาย

     

                    อะ...O//////O ค่ะ!”แล้วพี่มารีอาก็เดินหายเข้าไปในป่าต้องสาป ทิ้งไว้เพียงเด็กสาวที่ยืนโบกมือลาอย่างสบายอารมณ์กับชายหนุ่มที่ส่งเสียงเอะอะโวยวายไม่ยอมหยุด

     

                    เฮ้ย! เดี๋ยวก่อน ยัยป้า เฮ้ย!”

     

                    เฮ้อออออ...สบายใจจังเลย ทีนี้ก็แค่นับวันรอเวลาที่จะได้กินขนมฟรี แค่คิดก็มีความสุขแล้ว...

     

                    และทันทีที่ฉันกำลังจะเตรียมตัวเข้าบ้าน....

     

                    เจ้ารู้ไหมว่าตัวเองทำอะไรลงไป!!!!”เพาว์ลี่ตะคอกเสียงดัง ก่อนจะเดินเข้ามา จับไหล่ฉันเขย่าจนหัวสั่นหัวคลอน โอ๊ย!!! ฉันจะอ้วกแล้วนะเว้ย และเหมือนเพาว์ลี่จะรู้จึงปล่อยมือที่จับไหล่ออก แต่ก็ยังไม่ได้ลดความขุ่นมัวที่ฉายชัดจากในตาคมเข้มเลยซักนิด

     

                    ก็แค่เซ็นชื่อทำสัญญากินขนมฟรีนี่ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย

     

                    นี้เจ้าโง่หรือแกล้งโง่กันเนี่ย!!!!”เพาว์ลี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆราวกับต้องการระงับอารมณ์ที่เดือดทะลุ 100 องศาเซลเซียสไปเรียบร้อย

     

                    นั้นมันเป็นสัญญาที่ว่าด้วยการเป็นบอส...ของบริษัทนักฆ่า!!!”

     

                    ห๊า!!!”ฉันร้องเสียงหลง บะ...บอสของบริษัทนักฆ่างั้นเหรอ ไม่จริงงงงงงงง!!!

     

                    ข้าขอย้ำว่าจริง...

     

                    เหมือนโลกถล่มลงมาตรงหน้า บ้าเหรอ...จะให้ฉันเป็นนักฆ่าเนี่ยนะ ไม่มีทาง ขนาดมดซักตัวฉันยังไม่เคยฆ่าเลย...(ที่จริงก็เคยคิดจะฆ่านะแต่ถูกมดทั้งรังรุมกัดแทบไม่เหลือชิ้นดี=,.=)

     

                    งั้นก็ยกเลิกสัญญาอะไรนั้นไปสิ

     

                    ไม่มีทางสัญญานั้นจะไม่มีการยกเลิก เว้นแต่...

     

    แต่อะไร

     

                    เว้นแต่เจ้าจะตายไปแล้วนะสิ

     

                    ขอบคุณสวรรค์ คำตอบโดนใจยิ่งนัก =,.=

     

                    ข้าคิดว่าตอนนี้สัญญานั้นคงส่งถึงที่มั่นในเขตสปายเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ก็คงมีคนมาตามล่าเจ้าแบบนับไม่ถ้วน แล้วถ้าเจ้ายกเลิกสัญญาเจ้าก็จะถูกฆ่าหันศพ มีแต่ตายกับตายเท่านั้นแหละ

     

                    อย่าพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนมันเป็นเรื่องง่ายๆสบายๆแบบนั้นได้ไหม ฟังแล้วปวดกระดองใจ TT^TT

     

                    สรุปว่าฉันต้องไปทดสอบอะไรนั้นใช่ไหม

     

                    ใช่!”

     

                    แล้วถ้าแพ้ละ...ฉันทำเสียงอ่อย

     

                    ก็คงกลายเป็นศพไร้ญาติแถบนั้น หรือไม่วิญญาณเจ้าก็คงถูกพวกอสูรกินเป็นอาหารว่าง

     

                    สรุป! ยังไงฉันก็ต้องตายใช่ไหมเนี่ย อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!!! ฉันไม่อยากตายแบบนั้น!!! พ่อแก้วแม่แก้วได้โปรดช่วยลูกช้างด้วย!!!



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×