คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Friends
หันซ้าย....หันขวา
หน้าตาดี ไม่มีสิว ตาไม่บวมแต่มีรอยช้ำบนใบหน้าเล็กน้อย
ทรงผม...ไม่รู้ว่าเป็นทรงอะไรกันแน่ เปลี่ยนแปลงเองทุกวัน วันนี้ออกแนวยุ่งไปนิด หวีซัก2-3ทีคงพอดี
ชุดนิสิตไม่หมองมาก มีคราบกาแฟประดับตรงมุมพอเป็นพิธี
แหม หล่อสุดจะบรรยาย เซอร์ได้อีกกู
“โอเค ผ่าน”ง่วนอยู่กับการสำรวจตัวเองหน้ากระจกอยู่นานสองนานก็ได้เวลาออกไปข้างนอกซักที หยิบกระเป๋าที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาสะพาย หันไปมองหน้าคนที่นอนหลับเป็นตายอยู่บนเตียงเล็กน้อยแล้วก็ก้าวขาจะเยื้องกายออกจากห้อง
“จะไปไหนแต่เช้าอ่ะ”คนที่นอนหลับอยู่บนเตียงเด้งตัวขึ้นมาขยี้ตาถาม
“มหาลัย มึงนอนไปเหอะทราย วันนี้มีเรียนบ่าย”ตอบและบอกเล่าเสร็จสรรพเรียบร้อย
“- - แล้วคุณมึงจะไปตั้งแต่ 9 โมงทำเชี่ยไรว่ะ”เสียงก็งัวเงีย ตาก็ปรือ จะหลับแหล่มิหลับแหล่ก็ยังจะอยากรู้อีกเนอะ
“ไปหาเจ้าหนี้ที่กูเล่าให้มึงฟังเมื่อวานไง จะไปคืนเงิน”พอมันได้ยินคำตอบมันก็ล้มตัวลงนอนต่อ ชูสัญลักษณ์ ‘Ok’แล้วโบกมือไล่ประมาณว่า ‘อย่ามากวนกู’ ก็ปิดประตูเสียงเบาที่สุด เกรงใจเพื่อนนิดนึงครับ เวลามันง่วงถ้าทำเสียงดังหรือมีใครมากวนมัน มันจะอาละวาด แล้วผมก็เดินออกมาจากหอพัก
คนเมื่อกี้เป็นเป็นทั้งเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมคณะและเมทของผมเองครับ ชื่อทราย ถือว่าเป็นหนึ่งในชายงามที่อยู่รอบตัวผมอีกคน รู้จักกันตั้งแต่ปีหนึ่ง ตอนนั้นรู้สึกจะเป็นเพื่อนกันได้แค่สองวันมั้ง มันก็ชวนผมให้หอบผ้าหอบผ่อนหนีตามมันมาอยู่หอพักด้วยกันแต่บางครั้งผมก็ไปนอนบ้านมัน มันก็ไปนอนบ้านผมบ้าง ผมค่อนข้างสนิทกับคุณแม่มัน
เมื่อวาน หลังจากที่ได้ผู้ช่วยชีวิตที่ร้านกาแฟผมก็นั่งแท็กซี่กลับไปบ้าน กลับไปถึงก็ไปอ้อนขอเงินแม่จ่ายค่าแท็กซี่แล้วเดินขึ้นข้างบนไปทวงเงินพี่เอิร์ทค่าเค้ก แต่บันไดลื่น เดินขึ้น 3 ครั้งก็ตก 3 รอบ แม่ก็บ่นว่าซุ่มซ่ามแต่ก็ไม่คิดจะยื่นมือมาช่วยลูกชาย ผมเลยต้องช่วยเหลือตัวเอง กว่าจะถึงหน้าห้องพี่ได้ก็อาการหนักหนาสาหัสพอสมควร พอถึงหน้าห้องก็ไม่เคาะประตูครับ เปิดเลย เจอช๊อตเด็ด ชายหนุ่มสองคนกำลังนัวเนียกันอยู่ตรงพื้นห้อง เสื้อผ้ากระจัดกระจาย กางเกงในคนหนึ่งอยู่ตรงหมอน อีกคนหนึ่งอยู่ตรงเท้าผม ไม่รู้จะทำไง เลยปล่อยให้พี่แกสองคนทำธุระให้เสร็จก่อน เรื่องเงินค่อยคุยกัน น้องรอได้
แต่ดูเหมือนจะคิดช้าไปเพราะพี่เอิร์ทแกเล่นโยนกล่องบ้าอะไรซักอย่างมาที่ผม โดนหน้าเต็มๆ สรุป ได้ร่องรอยเขียวช้ำบนใบหน้ามา 1 จุด เวรกรรม -*- บทคนมันจะซวยก็ซวยไม่บันยะบันยังเลยเนอะ ถ้าหมดหล่อจะทำยังไงล่ะคร้าบบบแต่ได้เงินมาก็...เอาวะ
หลังจากที่พล่ามกับตัวเองมานานพอสมควร ตอนนี้ผมก็เดินเข้ามาในมหาลัยแล้ว หอพักผมอยู่ห่างจากมหาลัยไปซอยเดียวเอง
เดินผ่านสนามหญ้าก็เห็นพวกนักฟุตบอลมหาลัยโบกไม้โบกมือให้เลยต้องโบกกลับบ้าง ขยันจังเลยเนอะ ซ้อมกันแต่เช้าทุกวัน
*-* ไม่รู้จะซ้อมอะไรกันหนักหนา ทำอย่างกับจะไปลงแข่งทีมชาติไทย
หลังจากที่เดินลัดเลาะผ่านคณะนั้นคณะนี้ ฉีกยิ้มจนเหงือกแห้งให้คนรู้จักเผื่อแผ่ไปถึงใครก็ไม่รู้ที่ชอบส่งยิ้มมากันจัง ไอ้เราก็เลยต้องมารยาทดี เขายิ้มมาก็ยิ้มตอบแล้วก็งงกับตัวเองว่าไปรู้จักตอนไหน ในที่สุดก็ถึงหน้าคณะบริหารแล้วครับ
ว่าแต่...รู้จักแค่ชื่อเล่น อยู่ปีไหนก็ไม่รู้ เด็กคณะนี้มันก็มีตั้งเท่าไหร่ วันนี้จะหาเจอป่ะเนี่ยกู
“เฮ้ย มาทำไมวะ”หันไปมอง นึกว่าเสียงหาเรื่องที่ไหน ที่แท้ก็เฮียดอล พี่รหัสผมเอง
“มาหาเพื่อน แล้วเฮียมาไมอ่ะ มาเหล่หญิงรึไง เดี๋ยวซันจะฟ้องเจ๊”เจ๊ ก็คือพี่ชมพู เป็น(ว่าที่)แฟนของเฮียดอล
“บ้านเตี่ยมึงดิ มาฟงมาฟ้องอะไร กูมาหาเพื่อน”คนแบบนี้เนี่ยนะยังมีเพื่อนคบอีกเหรอวะ โป้กกก < - - เสียงโดนเขกหัว
“ไม่ต้องมาด่ากูในใจเลย มึงเหอะมาหาเพื่อนหรือมาหากิ๊ก -*- จะให้กูฟ้องคู่เลสเปี้ยนมึงมั้ย?ไอ้ทรายอ่ะ”
“ไม่ต้องเฮีย - - เมียนอนหลับอยู่ในห้อง ปล่อยมัน”เฮียดอลมันล้อของมันมาตั้งแต่ผมอยู่ปีหนึ่งแล้วครับ ล้อทั้งที่ก็รู้ว่า’ไม่ใช่’จนหลายคนเชื่อตามมัน เอาวะ...ก็ปล่อยๆไป ไม่ค่อยสนอยู่แล้ว แต่ขออย่างเดียว...กูขอเป็นฝ่ายรุกนะเชี่ยทราย มึงก็เป็นรับไปล่ะกัน
“เออๆ มาหาคนชื่อฝุ่นน่ะเฮีย รู้จักป่ะ”ชักจะนอกเรื่องเกินเลยต้องรีบกลับเข้าประเด็น
“โหยย รู้จักๆ น้องรหัสเพื่อนกูเอง เฮ้ย นั่นไง มันเดินมาแระ”
มองตามมือไอ้เฮียไปก็เห็นผู้ชายหน้าตาดี 3 คน พวกเดียวกับเมื่อวานที่ช่วยผมที่ร้านกาแฟ ห่า เดินมาอย่างกับนักร้องทรีโอ เปล่งออร่าสีขาวออกมาจนกูขนลุกทั้งตัว เมื่อเจอเป้าหมายผมก็ไม่สนใจไอ้เฮียร่วมสายแล้วครับ ทิ้งไว้เบื้องหลังแล้วเดินไปหากลุ่มนั้น
“อ้าว คนเมื่อวาน”ผู้ชายที่หน้าตาน่ารักชี้หน้าผม รู้สึกว่าน่าจะชื่อวานะ ได้ยินเพื่อนอีกคนเรียกเมื่อวาน
“^___^ หวัดดีครับ ฝุ่น ผมเอาเงินมาคืนแล้วนะ”ผมทักทายวากับเพื่อนอีกคนแล้วหยิบซองเงินออกจากกระเป๋ายื่นให้ฝุ่น เขารับไปแล้วยิ้มนิดๆ
“นับดูก่อนก็ได้นะ เผื่อเกิน”แนะนำหาผลประโยชน์เข้าตัวเองครับ ช่างพูดนะกู เผื่อเกิน...กลัวจะขาดมากกว่า
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไร เราไว้ใจนาย”
“โอเค งั้นผมไปก่อนนะ”เมื่อชำระคดีความเสร็จแล้วผมก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ต่อ ง่วงก็ง่วงแต่ก็ขี้เกียจกลับหอ เดี๋ยวก็เรียนแหละเลยว่าจะไปงีบที่ห้องสมุด แต่จังหวะที่กำลังจะปลีกตัวออกจากพวกนั้นก็โดนมือดีฉุดไว้ครับ มือดีตาใสแป๋วเลย น่ารักเชียว
“นายชื่ออะไรอ่ะ”
“เออ ลืมแนะนำตัวไปเลย ผมชื่อซันครับ”
“เราชื่อวานะ ไอ้คนที่เก็กๆหน้าดุๆชื่อ เชี่ยพรีมแล้วก็ไอ้ฝุ่น คงรู้จักแระนะ”คนตัวเล็กที่จับมือผมนี่มันน่ารักจริงๆ ปากงี้แดง แก้มก็แดง ขาวก็ขาว มือนุ่มนิ่ม ตาแป๋วๆที่จ้องมาเกือบทำให้ผมละลาย ลืมบอกไปว่าผมเป็นพวกแพ้คนน่ารักน่ะ -//////- ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลิน เพ้อ หวั่นไหวและกำลังจะล่องลอย(อีนี่ก็เว่อร์_Lunnie) อยู่ดีๆก็มีมืออีกมือหนึ่งมาแย่งมือวาไป
ใครวะ คนกำลังเคลิ้มได้ที่ เตรียมส่งสายตาอาฆาตใส่ไอ้คนที่มาแย่งชิงมือวาไป แต่ก็ต้องหลบตาโดยอัตโนมัติเพราะฝ่ายนั้นมันจ้องอยู่ก่อนแล้ว ตานี่อย่างกับจะแดกกูลงไป โคตรน่ากลัวเลย ไอ้คนชื่อพรีมเนี่ย
“มือสกปรกยังจะไปจับมือคนอื่นเขาอีก”มันว่าเพื่อนมันแต่ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนมันว่าผมนะ
“เชี่ย สกปรกอะไร เช้านี้กูยังไม่ได้จับอะไรเลย แล้วซันก็เป็น’เพื่อน’กู คนอื่นที่ไหนๆ”วาเถียงกลับ จากนั้นมันสองคนก็เถียงกันไปเถียงกันมาเหมือนเมื่อวาน ผมเลยละสายตาจากพวกนั้น หันมาก็เจอสิ่งมีชีวิตหน้าตาดียืนจ้องอยู่
มองอะไร ไม่เคยเห็นนายแบบมายืนอยู่ตรงหน้ารึไง ก็คิดไปนั่น ไม่กล้าพูดหรอก อายปากตัวเอง
ยืนคุยกันได้สักพักก็ได้รู้ว่า ทั้งสามคนนี่อยู่ปี 3 คณะบริหารเหมือนกันหมด ฝุ่นกับวาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ม.ต้น บ้านอยู่ติดกัน รร.เดียวกัน ครอบครัวก็สนิทกันมากเรียกว่าเข้านอกออกในบ้านได้ตามสบายเลย ส่วนพรีมเพิ่งมารู้จักกับสองคนนี้ตอนอยู่ปีหนึ่ง
เห็นวาบอกว่า ตอนแรกไม่ค่อยมีใครกล้ายุ่งกับพรีมเพราะมันชอบทำหน้าเฉยๆแล้วก็นิ่งๆอย่างกับโดนสตัฟฟ์ แต่มีแค่วาเท่านั้นแหละที่ไปวุ่นวายด้วย แรกๆก็โดนนิ่งใส่ วาก็ไม่สนยังยุ่งต่อ(ผมถามว่าฝุ่นล่ะ วามันก็ส่งสายตาจิกฝุ่นแล้วพูดว่า “มันก็ไม่ทำไร แค่เดินตามกูอย่างเดียว ไม่ช่วยเชี่ยไรเลย”)
ต่อมาพรีมมันเริ่มด่า วาก็ด่ากลับ จนสุดท้ายมันก็กลายเป็นสามเกลออย่างที่เห็นทุกวันนี้ครับ ทั้งสาวแท้ สาวเทียม ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชายยังชอบพวกมันเลยครับ โดยเฉพาะ ฝุ่น รายนี้เห็นว่าเคยเป็นเดือนคณะด้วยนะ ผมฟังผมก็ยังคิดว่า กูไปมุดอยู่ส่วนไหนของโลกมาวะ ทำไมถึงไม่เคยเห็นหน้ามันมาก่อน
สงสัยช่วงก่อนหน้านี้ความหล่อของตัวเองบดบังรัศมีคนอื่นเลยทำให้ไม่เห็นใคร ฮ่าๆ
“เฮ้ย ไปก่อนนะ เรียน”
“เออๆไปเหอะมึง ของกูก็ใกล้แระ”สนิทกันเร็วตามประสาผู้ชายครับ คุยกันไม่ถึงชั่วโมงก็ใช้ภาษาพ่อขุนรามกันแล้ว
จากนั้นก็แยกย้ายทางใครทางมัน ผมก็ไปห้องสมุด มันสามคนก็ไปเข้าเรียนเพราะมีเรียนเช้า
วันนี้
ผมได้ ‘เพื่อนหน้าตาดี’ เพิ่มมา 3 คนครับ
-____________-“
ไม่ดีเลย เดี๋ยวโดนแย่งซีน
ไม่เป็นไร เรายัง(ด้านหน้า)ลงต่อค่ะ
ขอบพระคุณอย่างสูงที่อ่าน+เม้นให้นะค่ะ
ความคิดเห็น