ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนมหาเวทย์โซเวียร์(Yใสๆ)

    ลำดับตอนที่ #2 : สู้อิสระที่รอคอย(รีไรท์)

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 55


    ภารกิจที่ให้ไปเป็นไงบ้างเสียงพูดเย็นชาจากชายวัยกลางคนผู้มีผมสีทองตาสีน้ำตาลเข้มพูดขึ้น

    สำเร็จครับ เสียงตอบกลับที่เย็นชาไม่แพ้เสียงแรกดังออกมาจากปากของเด็กชายอีกคนหนึ่งที่มีผมสีเงินยาวประบ่าและใช้เชือกรัดผมไว้ทำให้ปอยผมตกมาประดับไว้ด้านข้าง ดวงตาสีแดงดั่งโลหิตที่คงความเย็นชาไว้ตลอดเวลา ใบหน้าเรียวได้รูปปากเล็กน่ารักแถมด้วยผิวขาวอมชมพูที่สาวบางคนเห็นยังอาย แต่ใบหน้าหวานนั่นกลับเย็นชาไม่เข้ากับหน้าเอาซะเลย
    งั้นก็ดี ไปอยู่ในห้องของเจ้าได้แล้ว"
    ครับ

    เมื่อเด็กชายเดินเข้ามาในห้องแล้วก็เดินไปนอนบนเตียงทันที

    เฮ้อออออ เด็กชายถอดหายใจออกมา เขามีชื่อว่า เอดา คลอเรียส เป็นนักฆ่ามือหนึ่งของเมืองนี้หรือก็คือเมืองเคร์ย่า ชีวิตของเขานั่นตั้งแต่จำความได้ไม่เคยได้รู้จักคำว่าความสุขเลย ตั้งแต่ตอนยังเป็นทารกก็ถูกเก็บได้โดย เมอคิวเร คลอเรียส นักฆ่าผู้เก่งกาจที่เป็นผู้บงการเกี่ยวกับการฆ่าผู้คนต่างๆ เมอคิวเรเจอเขาในตรอกแคบๆแห่งหนึ่งในเมือง และเห็นว่าคงเป็นประโยชน์ได้ในภายหลังจึงเก็บเขามาเลี้ยง เลี้ยงเขาเพื่อให้เป็นนักฆ่า เลี้ยงเขาเพื่อประโยชน์เท่านั่น เขา...มีค่าแค่นั่นเอง เมื่อเขาฆ่าหรือฝึกวิชาเสร็จ เขาก็ต้องมาอยู่ในห้องมืดๆที่ไม่มีอะไรเลย นอกจากเตียงนอนเพียงเตียงเดียว เขาไม่เคยไปเที่ยว และเขา...ไม่เคยมีเพื่อน ตลอดเวลาเขาจะถูกส่งไปยังที่ๆทำภารกิจและจะถูกส่งกลับมาเมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น เขาจึงไม่เคยได้รู้จักสถานที่ใดเลยและไม่เคยได้รู้จักเพื่อนเลย เขาได้แต่มอง มองดูเด็กคนอื่นๆเล่นกัน ในขณะที่เขานั่นเอาแต่ฝึกวิชาในสาขาต่างๆเขาไม่เคยยิ้ม เขาไม่เคยร้องไห้และ...เขาไม่เคยมีความรักไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากคนที่รักหรือจากพ่อแม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ และวันนี้ เป็นวันที่เขาถึงขีดสุดแล้ว......เขาจะหนี..หนีไปพร้อมกับเงินที่เขาได้มาจากการฆ่า เงินที่เขาไม่เคยได้ใช้มันเลย(โหหหห..คงมีเยอะจนไม่รู้จะใช้หมดไหม แล้วมั้งเนี่ย)  

                    12.00PM

    แอ็ดดดดด....เสียงเปิดหน้าต่างดังขึ้นในวันที่เป็นคืนเดือนมืดนี้..ท้องฟ้าไร้แสงดาวไร้แสงจันทร์....

    เหมาะแก่การหลบหนียิ่งนัก ในความมืดเด็กชายร่างบางกำลังแอบปีนหน้าต่างออกมาจากห้องเล็กๆที่มืดมิด

                    หึหึ...ถึงขีดสุดแล้ว...ข้าถึงขีดสุดแล้วไอ้โรงนักฆ่าที่แสนน่ารังเกียจและเจ้า...ไอ้คนชั่วเมอคิวเร..หึหึสักวันเราจะได้เห็นดีกัน

    เสียงแสนเย็นชาพูดขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิดยามราตรีเสียงที่ปนไปด้วยความแค้นและความสะใจและเป็นเสียงที่ฟังดูแล้วคล้ายกับคนที่กำลังจะได้รับกับอิสระครั้งแรกในชีวิต

                    ตึกๆๆๆๆๆ....

    แย่แล้วมีคนหนีออกไปจากโรงฝึกแล้ว เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นมาเมื่อเค้าตรวจแล้วมาเจอเอดาขณะกำลงจะหลบหนีพอดี

    โถ่เว้ยยยย...ไม่น่าประมาทเลยเราเสียงเด็กชายพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิด.....ไม่หรอกเค้าไม่ยอมแน่ กว่าที่เค้าจะหาเวลาที่เหมาะจะหนีแบบนี้ได้ก็ต้องรอเวลาถึง12ปี  12ปีที่ครั้งหนึ่งในเมืองนี้จะมีคืนที่มืดที่สุดและผู้คนเมืองและคนในโรงนักฆ่าจะต้องไปประกอบพิธีกันในสถานที่ลับของเมืองนี้แต่วันนี้ที่เค้าไม่ได้ไปก็เพราะเค้าได้อ้างว่าเค้านั่นรู้สึกไม่สบาย  ตอนแรกก็คิดว่าไม่ได้ผลแต่พอเค้าแค่ขอด้วยเสียงแบบที่เคยเห็นเด็กๆเค้าพูดกับพ่อแม่เวลาจะขออะไรและทำตาปิ้งๆเมอคิวเรก็ยอมเชื่อเค้าอย่างง่ายดายและอนุญาตให้เค้าลาได้  ไม่น่าเชื่อนะว่าคนที่รอบคอบอย่างหมอนั่นจะยอมปล่อยเค้าไปง่ายๆ  จ้าดง่าวแต้( ก็ที่แกทำน่ะเค้าเรียกกันว่าอ้อนเว้ยไอ้คนอ่อนต่อโลกเอ้ย:หงส์ดำ)

    แต่เค้าประมาทไปเค้าดันคิดว่าคนในเมืองคงไม่มีใครอยู่แล้วคิดว่าคงไปร่วมพิธีกันหมดไม่คิดว่าจะมีการตั้งเวรยามกันด้วย

                    หึหึ...คิดว่าจะหยุดคนอย่างข้าได้เรอะ....ไม่มีวันหรอกเฟ้ยยยยยยย

    โครม!!ตึง!!พลั้ว!!อ๊ากกกกกกกกกกอ๊ออก

    เกิดเสียงดังออกมาจากความมืด เมื่อมองเข้าไปในที่เกิดเหตุแล้วก็จะได้เห็นภาพเด็กชายร่างเล็กกำลังยืนเหยียบอยู่บนร่างของชายรูปร่างใหญ่กว่าเด็กชายเป็นสิบเท่า สภาพของชายร่างใหญ่นั่นเต็มไปด้วยบาดแผลมากมายทั้งรอยของมีคม และรอยกัด*0*

                    ชิ ไร้ฝีมือกันจริงๆเสียงเล็กพูดออกมาด้วนความดูแคลนยิ่งนัก

                   

    ลาก่อนละ ไอ้หมู่บ้านเฮงซวย
    ................................................................................................................

    รุ่งเช้าในเมืองโซเวีย เมืองศูนย์กลางที่ผู้คนต่างๆจะมาทำการติดต่อแลกซื้อสินค้ากัน ถือว่าเป็นเมืองการค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ ท่ามกลางหมู่คนมากมายได้มีเด็กชายคนหนึ่ง กำลังเดินดูชีวิตของคนในเมืองอย่างสนใจ ดวงตาของเด็กชายในขณะนี้ได้สละความเย็นไปช่วงหนึ่ง ก็เมืองมันน่าสนใจนี้จะไม่ให้สนใจได้ไงสำหรับเด็กน้อยตัวเล็กๆที่ไม่เคยได้ออกมาดูโลกภายนอก แม้เค้าจะมีอายุได้13ปีแล้วแต่การได้ออกมาเช่นนี้ก็เหมือนกับเค้าเป็นเพียงเด็กอายุเพียง7-8 ขวบเท่านั่นละ(กรี๊ดดดดด..เจ้ชอบเด็กใสซื่อ) แต่ตอนนี้เค้าเริ่มจะสงสัยละล่ะ ทำไมวันนี้คนมันเยอะงี้นา แม้เค้าจะไม่เคยมาในที่แบบนี้แต่ก็ดูออกว่าคนนั่นมีมากกว่าปกติแน่นอน ฟันธง!!! (เอดาชอบดูดวงงับป๋ม ^ ^:เอดา) เอาละเค้ามีคติ อยากรู้ก็ต้องถาม...จัดไป!!!

    “ ป้าครับนี้เค้ามีอะไรกันเหรอครับ ทำไมคนดูเยอะจังเลย”
    “ อ่อ วันนี้เป็นการเปิดรับสมัครเด็กนักเรียนที่มีอายุครบ 15 ปีของโรงเรียนมหาเวทย์โซเวียน่ะจ๊ะ”
    “ เอ๋ แล้วคนที่อายุ 13 ปีสมัครเข้าได้มั้ยคัรบ”
    “ อุ้ยต๊ายยยย จะไปได้ยังไงจ๊ะหนูเด็กอายุ13ปีน่ะมันยังเด็กไปนะจ๊ะ”พูดปนขำออกมานิดๆกับความใสซื่อของเด็กหนุ่ม(โง่นี้เอง)
     
     
    “ ครับขอบคุณมากครับป้า”
    เมื่อถามเสร็จเอดาก็เดินออกมาจากป้าคนขายกระหล่ำปลี ด้วยสายตามุ่งมั่น หึ เข้าไม่ได้ก็จะเข้า!!เดินหาไม่นานก็เจอกับโต๊ะสมัครสอบ ไม่รอช้าเขารีบเข้าไปถามหาใบสมัครทันที
    “ พี่ครับนี้เป็นโต๊ะสำหรับรับใบสมัครใช่ไหมครับ”
    “ อืม...แล้วน้องจะมาสมัครรึ เอ..อายุไม่น่าจะถึง15ปีนา น้องอายุเท่าไรแล้วละ”
    “ 13 ปีครับ” ตอบไปอย่างภาคภูมิใจ(ว่ากุเด็กเว้ยยยยยย)
    “ เห้ยน้องอายุไม่ถึง15ลงสมัครไม่ได้นะ” รุ่นพี่คนนั่นโวยวายใหญ่แต่ก็ต้องเงียบลงเมื่อดันไปสบตาสีแดงก่ำแสนเย็นชา
    “ ก็ผมจะสมัครใครจะมาขวางก็ไม่ได้ทั้งนั้น” พูดออกมาอย่างเย็นชา(และเอาแต่ใจนิดๆ)
    “ แต่ว่า...”
    “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเพียส”
    “ทะทะ ท่านอาจารย์ใหญ่ เด็กคนนี้น่ะครับเค้าอายุไม่ถึง 15 ปีแต่กลับพยายามจะลงสมัครเรียนให้ได้น่ะครับ” รุ่นพี่เมื่อพบกับท่านมหาเวทย์ผู้เก่งกาจที่สุดหรืออาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนก็รีบเล่าเหตุการณ์ให้ฟังทันที
    “ หืม..เด็กคนนี้น่ะเหรอ...อืม ถ้าเจ้าคิดว่าจะสามารถสอบเข้ามาภายในโรงเรียนนี้ได้ก็ลองดูซิ ข้าไม่ขัดข้องอยู่แล้ว” “แต่ว่าอาจารย์ครับ...”“เอาน่า..ข้าก็อยากจะลองดูว่าเด็กคนนี้มีความสามารถมากแค่ไหน”เมื่อพูดจบก็ยิ้มอ่อนโยนให้กับเอดาหนึ่งครั้ง
    “ ขอบคุณครับ” เอดากล่าวออกมาหลังจากรอฟังชายหนุ่ม? ทั้งสองพูดคุยกันเสร็จแล้ว
    “ อืม งั้นเจ้าไปรอที่สนามสอบก่อนได้เลย เดี๋ยวอีก2ชั่วโมงจะถึงเวลาสอบแล้ว”
    “ อืม” “เฮ้อออ เด็กสมัยนี้เคยหัดเคารพผู้ใหญ่มั้งมั้ยเนี้ยย”กล่าวออกมาอย่างเจ็บช่ำน้ำใจ
    ...............................................
    ....................................
    ............................
    .....................
    ............
    ......
    เมื่อเดอาเดินมาถึงสนามสอบแล้วก็รีบหาที่สงบๆเพื่อนอนเก็บพลังเอาไว้หลังจากเดินทางมานานเสียหน่อย แต่ก่อนที่จะได้นอนนั่น
    “ เฮ้ นายน่ะนั่นฉันจองแล้วนะเฟ้ย”เสียงดังขึ้นจากข้างหลังของเด็กหนุ่ม และเมื่อหันไปก็พบเด็กหนุ่มสามคนกำลังยืนมองมาทางเค้าอยู่ สองคนแรกหน้าตาเหมือนกันยังกะแกะหน้าตาคมเข้มผมสีน้ำตาลอ่อนและตาสีเดียวกับผม ที่กำลังยิ้มร่าตลอดเวลา ส่วนอีกคนมีไอเย็นอยู่รอบๆตัวผมสีดำสนิทและตาสีเดียวกับผมที่ดำสนิทราวกับราตรีในยามค่ำคืนทั้งสามคนนั่นกำลังเดินมาทางเค้าพอดีเสียด้วยสิ
    “ 555+ นายอย่าไปสนใจไอบ้านี้เลย มันก็หาเรื่องคนไปทั่วแหละ ข้ามีนามว่ามิกซ์ ราคอส ส่วนเจ้าที่ยิ้มร่านั่นชื่อแม็กซ์ ราคอส เป็นแฝดคนน้องของข้าเอง ข้าสองคนเป็นเจ้าชายจากเมืองเวลซ์ เมืองแห่งอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุด” ว่าอย่างภาคภูมิใจเมืองของตนเองและยิ้มอย่างอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้ส่งไปให้เด็กหนุ่มทีหนึ่งก่อนจะแนะนำต่อ
    “ส่วนเจ้าที่ยืนปล่อยไอเย็นอยู่นี้น่ะชื่อว่าเรย์ซอฟ เมอเรย์ เป็นเจ้าชายเมืองไอซ์แลน เมืองที่ขึ้นชื่อว่าหนาวที่สุดในอาณาจักรนี้เลยล่ะ”
    “อืม ยินดีที่ได้รู้จัก ข้ามีนามว่าเอดา คลอเรียสเป็นนักฆ่าจากเคร์ย่า”
    "ห๊ะนักฆ่า นักฆ่าอย่างนายมาทำอะไรที่นี้ละ"แม็กซ์รีบถามทันทีอย่างสงสัย
    ชิ หลุดปากไปซะได้ แต่เอาเหอะอย่าได้แคร์
    "นักฆ่าจะมาเรียนบ้างไม่ได้รึยังไง"เขาตอบออกไปอย่างเย็นชาทันที
    "ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ช่างเหอะ ตราบใดที่เจ้าไม่ได้มาฆ่าพวกเรา เราก็ไม่ซีเรียสอยู่แล้ว เนอะมิกซ์"
    “ช่ายยยยยยย นี้แล้วตอนนี้เราก็เป็นเพื่อนกันแล้วนะ แล้วเราจะเป็นเพื่อนที่รักกันตลอดไปด้วย เพื่อนตายเบิร์นนิ่งงงงงงงง” เม็กซ์กล่าวออกมาดังลั่นจนคนรอบข้างหันมามองกันเต็มไปหมด
    “ไอน้องบ้าเอ้ยยยยย จะตะโกนหาร้องเท้ามาประดับที่หน้ารึไงวะ เบาๆสิเว้ยย”มิกซ์ว่าก่อนจะไล่เตะเม็กซ์ไปรอบสนามสอบ ส่วนคนที่ยืนเงียบมานานแล้วนั่นได้แต่มองสองคนนั่นอย่างอนาจใจ(ว่ากุคิดถูกแล้วเหรอที่มาคบพวกมันเป็นเพื่อนเนี้ย) และหันมามองเด็กชายที่เพิ่งจะได้มาเป็นเพื่อนใหม่ ของตนอย่างพิจารณาและพูดออกมาว่า
    “นายน่ะเป็น...ผู้ชายจิงๆเหรอ”พูดจบก็เดินไปจัดการเพื่อนทั้งสองให้แยกออกจากกันโดยทิ้งให้เอดายืนงงอยู่ที่เดิม
    “เอ? ถามอย่างนั่นหมายความว่ายังไงนะ เด็กงงเลย”เอดาพูดกับตัวเองอย่างสับสนแล้วเดินไปช่วยเรย์ซอฟแยกคู่พี่น้องออกจากกัน
    .......................................................................................
    เฮ้อออออ...จะทำยังไงดีกับเจ้านักฆ่าแสนซื่อ(บื้อ)คนนี้ดีนะ คนแต่งเซ็ง- -

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×