ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Azur Lane] Gundam Azur Lane

    ลำดับตอนที่ #19 : ตอนที่ 19 Battle Of Midway II

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.28K
      48
      11 พ.ค. 64

    ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายยืนเผชิญหน้าพร้อมกับกระชับอาวุธในมือให้มั่น ปรินซ์ออฟเวลส์แห่งอซูร์เลนก็ตะโกนออกคำสั่งเสียงดังก้อง

    “ยิง!!”

    เซาท์ดาโคต้าเปิดฉากยิงเป็นคนแรกตามด้วยคนอื่นๆ และเรือรบของพวกเธอ รวมถึงปโตเลไมออสก็ยิง GN แคนน่อนและ GN มิสไซล์ออกไป เหล่ากันดั้มทั้งห้าเร่งบูสเตอร์พุ่งตัวออกไปตามด้วยคนอื่นๆ

    เหล่าคันเซย์ของฝ่ายอซูร์เลนพุ่งตัวเข้าไปหาฝ่ายจักรวรรดิซากุระ

    ทางฝั่งของจักรวรรดิซากุระ คากะตะโกนออกไป

    “จงไป เหล่านักรบแห่งจูโอ สวรรค์อยู่ข้างเรา”

    ตามด้วยชินนันจู

    “ทหารทุกนาย! ออกศึก!”

    เหล่าคันเซย์แห่งจักรวรรดิซากุระพุ่งตัวออกไปโดยมีทาคาโอะเป็นคนแรกที่บุกออกไปก่อน ตามด้วยอาตาโกะและคนอื่นๆ ตามด้วยกองทัพของชินนันจูที่เริ่มเปิดฉากยิง

    ทาคาโอะกระโดดขึ้นไปกลางอากาศแล้วจัดการฟันกระสุนปืนใหญ่สามนัดที่พุ่งเข้ามาหาเธอในการฟันเพียงครั้งเดียว กระสุนทั้งสามนัดถูกผ่าออกเป็นสองส่วน ก่อนจะเกิดการระเบิดขึ้นที่ด้านหลังของเธอ

    เมื่อเธอลงสู่พื้นน้ำ บาร์บาทอสก็พุ่งเข้ามาเธอพร้อมกับฟาดดาบคาตานะใส่เธอ แต่เธอก็บล็อคเอาไว้ได้ก่อนที่ทั้งสองจะดันดาบต้านกัน

    “ไง ทาคาโอะ”

    “ไม่คิดเลยว่านายจะเลือกมาเจอกับฉัน คาซามิ”

    เธอยิ้มดีใจที่จะได้สู้กับคาซามิ ทางคาซามิเองก็เช่นกัน

    “แหงอยู่แล้วกับผู้หญิงที่ชอบจะไม่ให้มาเจอกันได้ไง”

    “ที่นี่คือสนามรบและนี่ก็ไม่ใช่เวลาจะมาพูดเรื่องแบบนั้น”

    “ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่ แค่นิดๆ หน่อยๆ เอง ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้”

    คาซามิพูดด้วยท่าทีสบายๆ ผิดกับทาคาโอะที่มีสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจังเป็นอย่างมาก

    “ขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ฉันไม่ออมมือให้แน่”

    “ทางนี้ก็ไม่คิดจะออมมือให้เหมือนกัน”

    ทาคาโอะที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมา

    “ใจตรงกันเลยนะ”

    “เหมือนกันเลย”

    ทั้งสองต้านกันอยู่พักหนึ่งก่อนจะผละถอยห่างออกจากกัน ทั้งสองต่างจับจ้องอีกฝ่ายอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนที่จะเข้าไปฟาดฟันใส่กัน

    “เริ่มจนได้”

    โซริวขยับแว่นตาของเธอขณะที่เธอกำลังลอยอยู่กลางอากาศ

    “แต่ว่าพี่โซริวที่ที่เราอยู่นี่คือ....”

    ฮีริวลอยเข้ามาใกล้ๆ โซริวจากทางด้านข้างแล้วเอ่ยถามเธอ

    “รุ่นพี่อาคากิ ทำอะไรกันแน่”

    เธอพูดพลางมองไปรอบสถานที่ที่พวกเธอกำลังสู้รบอยู่ โซริวก็ตอบกลับไป

    “พี่เองก็ไม่รู้”

     

    ในเวลาไล่เลี่ยกันกันดั้ม ซาบาเนีย(Zabanya) ก็บินขึ้นสูง

    “จะยิงให้พรุนเลย!!”

    เขาพูดพร้อมกับปล่อยชิลด์บิทและ GN ไรเฟิลบิททูว์ออกมาทั้งหมด

    “จะส่องล่ะนะ!!”

    จากนั้นเขาก็กระหน่ำยิงอาวุธทั้งหมดเข้าใส่จักรวรรดิซากุระและกองทัพของชินนันจู

    ทำให้มีเรือรบหลายลำได้รับความเสียหายอย่างหนัก และโมบิลสูทจำนวนมากถูกทำลาย

    ยูกิคาเซะ ชิงุเระและคนอื่นๆ ที่อยู่กับพวกเธอ ต่างพารีบหลบบีมที่กระหน่ำยิงใส่พวกเธอกันจ้าละหวั่น

    “กรี๊ด!! แบบนี้มันไม่โหดเกินไปหน่อยเหรอ!?”

    “มะ ...ไม่คิดเลยว่ากันดั้มจะน่ากลัวขนาดนี้!!”

    “ยังไงก็รีบหาที่หลบกันก่อนที่จะโดยสอยร่วงเถอะ!!?”

    พวกเธอจึงรีบหาที่หลบภัยทันที

     

    ด้านสุซาโนโอะกับฟอน ฟาร์เซียก็เข้าปะทะกับอัลทรอน กันดั้มและราฟาเอล กันดั้ม อัลทรอนเหวี่ยงหอกสามง่ามสองปลายเข้าใส่สุซาโนโอะ แต่เขาก็หลบได้จากนั้นก็ฟันสวนกลับไป อัลทรอนยกหอกขึ้นมาบล็อคเอาไว้ ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะเปิดฉากโจมตีใส่กันอย่างดุเดือด

    ทางด้านฟอน ฟาร์เซียที่ปะทะกับราฟาเอล กันดั้ม เธอปล่อยบิทรูปดอกไม้ทั้งห้าอันของเธอออกมาแล้วกระหน่ำยิงจากทุกทิศทาง ทางราฟาเอล กันดั้มเองก็ไม่ยอมน้อยน่า เขาปล่อยบิ๊กแคนน่อนออกไปโจมตี ลำแสงขนาดใหญ่พุ่งออกไป ทำให้มีบิทบางอันถูกทำลายไปในลำแสงนั้น

    “ฮึ่ม!...”

    “หึ”

    ฟอน ฟาร์เซียตวัดบีมแส้ของเธอออกไปโจมตีทันที ส่วนราฟาเอล กันดั้มก็หลบแส้บีมนั้นแล้วยิงสวนกลับไป ก่อนที่ราฟาเอลจะพุ่งเข้ามาใกล้พร้อมกับชัก GN บีมเซเบอร์ออกมาฟันใส่ เธอรีบเปลี่ยนบีมแส้มาเป็นบีมเซเบอร์เพื่อรับจากโจมตีจากเขา

    ส่วนกันดั้มดับเบิ้ลโอ สกาย ตอนนี้เขากำลังดวลดาบกับชินนันจูอยู่ ชินนันจูเก็บโล่แล้วชักดับเบิ้ลเซเบอร์ออกมาควงแล้วฟันใส่ดับเบิ้ลโอ สกาย แต่เขาก็ชักบัสเตอร์ ซอร์ดออกมาป้องกันเอาไว้ได้ ก่อนจะฟันสวนกลับไป ชินนันจูเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย วินาทีถัดมาทั้งสองก็แลกดาบใส่กันอย่างดุเดือด

    กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายกับชินนันจูแลกดาบใส่กันอยู่หลายนาที จากนั้นพวกเขาก็ฟาดบีมเซเบอร์แล้วออกแรงดันบีมเซเบอร์ต้านใส่กัน ทั้งสองออกแรงดันบีมเซเบอร์ใส่กันอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะถอยออกมาแล้วเร่งบูสเตอร์บินขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับฟาดฟันบีมเซเบอร์ขณะเคลื่อนที่ไปด้วย

    ทั้งสองต่อสู้ด้วยการเคลื่อนที่ความเร็วสูง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในสนามรบมองเห็นพวกเขาเป็นเส้นแสงที่เข้าปะทะกันไม่ว่าจะเป็นเส้นตรง เส้นซิกแซก เส้นโค้ง หรือแม้แต่หมุนวนเป็นเกลียวเหมือนสว่านก่อนจะแยกออกจากกันแล้วเข้าปะทะกันอีกครั้ง

     

    ทางด้านเอ็นเทอร์ไฟรซ์

    เธอขึ้นขี่เครื่องบินรบของเธอต่อสู้กับคากะอยู่บนท้องฟ้า เอ็นเทอร์ไฟรซ์ง้างสายธนูยิงศรเข้าใส่คากะ ส่วนคากะก็ขว้างยันต์สีฟ้ารูปเครื่องบินสวนกลับไป

    เธอสามารถต่อสู้กับคากะได้อย่างเต็มที่ เพราะอากิระได้ช่วยให้ความกังวลอยู่ในจิตใจของเธอมลายหายไป เธอจึงสามารถต่อสู้กับคู่ต่อสู้ตรงหน้าเธอได้อย่างไร้กังวล

    แต่ทว่าในตอนนั้นเอง...

    เธอก็ต้องมาเห็นสิ่งที่เธอไม่อยากจะเห็นที่สุด นั่นก็คือภาพของอากิระหรือกันดั้ม ดับเบิ้ลโอ สกายที่ถูกบีมยิงทะลุร่าง

    “อากิระ!!!”

     

    ย้อนกลับไปไม่กี่วินาที

    ระหว่างที่กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายกับชินนันจูกำลังดันดาบใส่กันอยู่นั้น ดับเบิ้ลโอ สกายก็ออกแรงดันดาบผลักชินนันจูออกห่าง

    ทันใดนั้นเอง...

    ก็มีบีมปริศนาพุ่งเข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว

    “!?”

    ทำให้เขาหลบไม่ทัน บีมจึงพุ่งเข้าใส่ที่กลางลำตัวทะลุร่างของเขาทันที

    “!?”

    ชินนันจูที่เห็นเหตุการณ์นั้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้ออกคำสั่งแบบนั้นให้ทหารของเขาทำเรื่องแบบนี้

    เหตุการณ์นี้ทุกคนที่อยู่ในสนามรบต่างเห็นเหตุการณ์นี้กันถ้วนหน้าทุกคน

    เอ็นเทอร์ไฟรซ์กับซุยคาคุที่เห็นแบบนี้ก็เบิกตาโตด้วยความตกใจ

     

    กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายที่ถูกยิงและกำลังใกล้จะระเบิด แต่เขาก็ไม่ได้กรีดร้องหรือร้องขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด เขายังคงเลือกที่จะสู้ เขาเรียก GN ทวิน บัสเตอร์ ไรเฟิลออกมาถือที่มือซ้ายพร้อมกับสร้าง GN ชิลด์บาเรียออกมาในรูปแบบเลนน์แล้วจากนั้น...

    “ทรานซั่ม อินฟินิตี้”

    ร่างของเขาก็เปล่งแสงสีแดง เขาเล็งปากกระบอกปืนไปยังทิศที่บีมถูกยิงมา

     

    ณ เกาะที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร ที่ยอดเขาสูงมีจิม สไนเปอร์สีดำซ่อนตัวอยู่

    เขาเล็งจังหวะที่กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายผลักชินนันจูออกห่างแล้วยิงใส่

    “หึหึ เท่านี้ภารกิจก็เสร็จสิ้นแล้วสินะ.... หือ?”

    ระหว่างที่เขากำลังคิดแบบนั้นอยู่เอง เขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติจึงส่องกล้องมองดู ตอนนั้นเองเขาก็เห็นกันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายกำลังเล็ง GN ทวินบัสเตอร์ ไรเฟิลมาทางเขา

    “!?”

    ทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมากที่ดับเบิ้ลโอ สกายรู้ตำแหน่งของเขาได้ยังไง

    “บ้าน่า! มันรู้ตำแหน่งของเขาได้ยังไงกัน!!”

    เขาพูดออกมาด้วยความตื่นตระหนก แต่มันก็สายไปแล้ว

    ดับเบิ้ลโอ สกายยิงเหนี่ยวไกปืน GN ทวิน บัสเตอร์ ไรเฟิลยิงบีมทรงพลังผ่าน GN ชิลด์บาเรียที่ทำหน้าที่เป็นเลนน์ ทำให้บีมทรงพลังยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่า บวกกับที่ดับเบิ้ลโอ สกายใช้ระบบทรานซั่มซิสเต็มซึ่งเพิ่มพลังให้ถึง 3 เท่ายิ่งทรงพลังขึ้นไปอีก

    ลำแสงทรงพลังพุ่งเข้าไปหาเขาอย่างรวดเร็ว

    เขาพยายามที่จะเร่งบูสเตอร์หนี แต่ก็ช้าเกินไป ทำให้เขาถูกกลืนเข้าไปในลำแสงนั้นหมดทั้งตัว

    “บ้าที่สุด!!”

    จากนั้นทั้งเกาะก็เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงจนทำให้เกาะหายไปจนหมดสิ้นไม่มีเหลือ

     

    “หึ...”

    กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายหัวเราะออกมา ก่อนที่ร่างของเขาจะเกิดการระเบิดขึ้นพร้อมกับอนุภาค GN ที่กระจายไปทั่ว

    ตูมมมม!!!

    “อากิระ!!”

    “อากิระ!!”

    เอ็นเทอร์ไฟรซ์กับซุยคาคุตะโกนออกมาเสียงดังเมื่อเห็นร่างของเขาระเบิด

    ทั่วทั้งสนามรบหยุดการสู้รบกัน ราฟาเอลทำการแยกแบ็คแพ็คออกมาแล้วแปลงสภาพเป็น โมบิลสูทแบบไร้คนขับ เซราวีกันดั้มทูว์ บินไปรับร่างของกันดั้มดับเบิ้ลโอ สกาย ขณะที่เขากำลังร่วงลงมาได้อย่างทันท่วงที

     

    ร่างของดับเบิ้ลโอ สกายได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการระเบิด และมีรูโหว่ที่ท้องซึ่งเกิดจากการถูกยิง ดวงตาที่เคยส่องแสงสีเขียว ตอนนี้ได้ดับลงแล้ว

    วินาที่ต่อมาปโตเลมีก็รีบติดต่อมาหาเขาทันที

    [รีบพาอากิระกลับมาที่ปโตเลไมออสโดยด่วน ในตัวของกันดั้มมีระบบช่วยชีวิตอยู่ ยังพอมีทางช่วยอยู่]

    “เข้าใจแล้ว”

    คันดะรีบสั่งการให้เซราวีทูว์พาร่างของดับเบิ้ลโอ สกายกลับไปที่ยานปโตเลไมออสทันที

    เซราวีทูว์ตอบรับคำสั่งแล้วรีบพาดับเบิ้ลโอ สกายกลับไปที่ยานทันที

    ซุยคาคุมองดูเซราวีทูว์พาร่างของอากิระบินจากไป

    “ไม่จริงใช่มั้ย...?”

    เธอทรุดลงไปนั่งกับผิวน้ำทะเลแล้วร้องไห้ออกมา

    “....ซุยคาคุ”

    โชวคาคุมองดูซุยคาคุร้องไห้ด้วยสีหน้าเศร้าใจพลางเข้ามาปลอบใจเธอ

    “ไม่คิดเลยว่าจะมีมือที่สามเข้ามาแทรกแซงแบบนี้...”

    สุซาโนโอะไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะมีมือที่สามเข้ามาแทรกแซงการต่อสู้แบบนี้

     

    ภายในยานปโตเลไมออส ที่โรงเก็บหุ่นแฮมมานน์ เวสทัล และอาคาชิเข็นเปลผู้ป่วยออกมาด้วย ก่อนที่เซราวีทูว์จะวางร่างของอากิระลงบนเปล

    “เลวร้ายสุดๆ”

    “ที่ท้องมีรูเบ้อเร่อด้วย”

    “ยังไงก็รีบพาไปรักษาก่อน”

    ในขณะที่แฮมมานน์กับอาคาชิลนลาน เวสทัลยังคงมีสีหน้าสงบ ก่อนที่เธอจะขอคำแนะนำจากปโตเลมีเพื่อคลายร่างกลับ เมื่ออากิระกลับคืนร่างเดิมแล้ว

    “แฮมมาน์ ช่วยเอาไปซ่อมที”

    “เข้าใจแล้ว”

    เธอรับสกายไดรเวอร์จากเวสทัลแล้วตรงไปที่จุดซ่อมแซมทันที

    เวสทัลกับอาคาชิก็รีบเข็นเปลพาอากิระไปที่ห้องพยาบาลทันที

    ในระหว่างนั้นเองที่สนามรบก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น

     

    ในเวลาไล่เลี่ยกันนั้น

    เอ็นเทอร์ไฟรซ์ที่มองดูเซราวีทูว์พาร่างของอากิระกลับไปที่ยานปโตเลไมออส ตอนนั้นเองภาพของอากิระก็ผุดขึ้นในสมองของเธอ ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

    “ไม่จริงใช่มั้ย? ...อากิระ...”

    คากะที่ลอยอยู่ทางด้านหลังของเธอก็มองดูเธอที่กำลังเศร้าเสียใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะโจมตีใส่เธอ

    “ถึงจะรู้สึกเห็นใจเธอที่สูญเสียคนสำคัญไป... แต่ว่าที่นี่คือสนามรบไม่มีเวลาให้มาร้องไห้คร่ำครวญหรอกนะ”

    คากะขว้างยันต์สีน้ำเงินกลายเป็นหอกเพลิงสีน้ำเงินพุ่งเข้าใส่เอ็นเทอร์ไฟรซ์ ในจังหวะที่เธอหันมาพอดี

    “อ๊ะ!?”

    ตูมม!!!

    การโจมตีนั้นทำให้เธอร่วงลงไปในทะเล และการโจมตีนั้นก็กลายเป็นสัญญาณเริ่มการต่อสู้อีกครั้งหนึ่ง

    “ท่านเอ็นเทอร์ไฟรซ์!”

    เบลฟาสต์ซึ่งต่อสู้อยู่กับอาคากิก็ยิงปืนใหญ่ลงน้ำทะเล ทำให้เกิดระเบิดขึ้นทำให้น้ำทะเลพุ่งขึ้นมาเป็นกำพงน้ำขนาดใหญ่ เมื่อกำแพงน้ำหายไป อาคากิก็ไม่เห็นร่างของเบลฟาสต์ เธออาศัยจังหวะนั้นหลบหนีไป

    “ชิ...”

    อาคากิเดาะลิ้นอย่างไม่สบอารมณ์

     

    ด้านเอ็นเทอร์ไฟรซ์ที่จมลงไปในทะเล เธอหวนนึกถึงพี่สาวของเธอ ยอร์กทาวน์

    (ดูสิ วันนี้ทะเลสวยมาก)

    (ตั้งแต่ที่พวกเราเกิดมา ทะเลก็คือสนามรบ)

    เอ็นเทอร์ไฟรซ์จมลงไปเรื่อยๆ เธอก็พูดถึงเรื่องที่ทะเลคือสนามรบเหมือนที่ผ่านๆ มา

    (มีแต่เสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องและกลิ่นดินปืนเท่านั้น ความร้อนของไฟที่อยู่ใกล้ๆ ความเยือกเย็นของน้ำทะเล)

    จากนั้นเธอก็ยื่นมือขึ้นด้านบน

    (สำหรับเราแล้ว ทะเลคือ...)

    เมทัลคิวบ์สีดำก็มีปิฏิกริยาตอบสนองขึ้นมา

    “อะ...!?”

    ตอนนั้นเองเอ็นเทอร์ไฟรซ์ก็เห็นภาพต่างปรากฏขึ้นมาในสมองของเธอ ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ของเรือรบไปจนถึงวันที่ไซเรนปรากฏตัว วันที่เหล่าโมบิลสูทปรากฏ จนถึงวันที่อซูร์เลนถูกก่อตั้งขึ้น

    ในโลกแห่งจิตใจของเอ็นเทอร์ไฟรซ์

    ตอนนี้เธอกำลังยืนอยูท่ามกลางเศษซากเรือรบที่มีเปลวไฟลุกไหม้อยู่

    เธอหันไปมองรอบๆ สิ่งที่เธอเห้นก็มีเพียงเศษซากของเรือรบและเปลวไฟที่ยังลุกไหม้อยู่

    ตอนนั้นเองเธอก็หันไปมองทางด้านหลัง เธอเห็นหญิงสาวคนหนึ่งวางร่างของไซเรนลงบนผิวน้ำทะเล จากนั้นก็เอามือปิดตาของเธอ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วทำการติ้ดตั้งอาวุธและถือคันธนู เธอหันกลับมามองเอ็นเทอร์ไฟรซ์

    เธอคนนั้นมีใบหน้าเหมือนกับเอ็นเทอร์ไฟรซ์ยกเว้นผมของเธอที่เปลี่ยนไป ใช่แล้ว เธอคนนั้นก็คือ อัลเทอร์เนทีฟ เอ็นเทอร์ไฟรซ์นั่นเอง

    ทั้งสองสบตากัน ตอนนั้นเองดวงตาของเอ็นเทอร์ไฟรซ์ก็ส่งแสงสีทองออกมา

     

    ณ โลกแห่งความจริง

    ดวงตาของเอ็นเทอร์ไฟรซ์กำลังส่องแสงสีทองอย่างแรงกล้า

    อาคากิที่มองดูเธอจมลงไปในทะเลก็พูดออกมา

    “หลับอย่างสงบเถิด ภูตผีสีเงินเอ๋ย เจตจำนงของเจ้าจะสถิตอยู่ในกล่องดำและกลายเป็นส่วนหนึ่งของพลังอันยิ่งใหญ่”

    ในขณะที่เธอมองลงไปทะเล อาคากิรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ตอนนั้นเองก็มีสีทองเปล่งแสงออกมาจากทะเล ก่อนที่แสงนั้นจะพุ่งขึ้นไปบนฟ้ากลายเป็นเสาแสงขนาดใหญ่

    เธอมองไปที่แสงนั้นด้วยความตกตะลึง

    “อะ อา....”

    คากะยกมือซ้ายขึ้นมาบังแสงสีทองนั้น

    “เกิดอะไรขึ้น?”

    ด้านจาเวลินกับลาฟฟีก็มองไปแสงสีทองนั้น รวมถึงคนอื่นๆ ทุกคนต่างๆ หยุดสู้กันแล้วมองไปที่แสงนั้น

    “ท่านเอ็นเทอร์ไฟรซ์...”

    เบลฟาสต์เอ่ยชื่อของเธอขณะมองไปที่แสงนั้น

     

    ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตรจากสนามรบ ออปเซิฟเวอร์นั่งมองดูเสาแสงนั้น พร้อมกับพวกเรดเดอร์ กันดั้ม และกลุ่มของโทรเน่ กันดั้ม

    “ตื่นขึ้นมาจนได้ เป็นเธอจริงๆ ด้วย โลกนี้ก็ด้วย เธอคือกุญแจใช่มั้ย เอ็นเทอร์ไฟรซ์”

    เสาแสงสีทองเกิดรอยแตกขึ้นบนท้องฟ้า และตรงใจกลางของเสาแสงก็มีเอ็นเทอร์ไฟรซ์ลอยอยู่

    ดวงตาที่เปล่งแสงสีทองของเธอจับจ้องไปที่คากะ

    “อ๊ะ!”

    ตอนนั้นเองก็มีศรแสงพุ่งทะลุร่างของเธอ

    “เมื่อกี้มันอะไรกัน...”

    คากะไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น รู้ตัวอีกทีเธอก็ถูกยิงซะแล้ว ก่อนที่เธอจะหมดสติและร่วงลงจากเครื่องบินรบของเธอ

    “คากะ!?”

    อาคากิร้องตะโกนตะโกนออกมา เธอยื่นมือออกไปพร้อมกับบินไปหาเธอ

    เอ็นเทอร์ไฟรซ์อยู่ในท่าถือธนูค้างเอาไว้ ก่อนจะลดคันธนูลง วินาทีถัดมาเสาแสงสีทองก็ขยายวงกว้างขึ้น

    ทำให้คากะที่กำลังร่วงลงไปถูกกลืนเข้าไปในเสาแสงสีทอง

    อาคากิที่ช่วยคากะไม่ทัน เธอจึงรีบหนีออกห่างจากเสาแสงสีทอง

    ซุยคาคุที่เห็นคากะถูกกลืนเข้าไปในเสาแสงและอาคากิที่รีบหนีออกห่างจากเสาแสงก็ร้องตะโกนออกไป แม้ว่าเธอจะยังทำใจเรื่องของอากิระไม่ได้อยู่ก็ตาม

    “รุ่นพี่อาคากิ! รุ่นพี่คากะ!”

    “ซุยคาคุ”

    ตอนนั้นเองโชวคาคุก็เข้ามากอดซุยคาคุเอาไว้ ก่อนที่ทั้งสองจะถูกกลืนเข้าไปในเสาแสงสีทอง

    “นั่นมันอะไรน่ะ”

    ควีนอลิซาเบธกับวอ์สไปร์ทจ้องมองเสาแสงที่ขยายใหญ่ขึ้นจากบนเรือ

    “พี่ ทำอะไรของพี่”

    ฮอร์เน็ตจ้องมองเสาแสงที่เอ็นเทอร์ไฟรซ์เป็นคนสร้างขึ้นด้วยสีหน้ากังวล

    เรือทุกลำไม่ว่าจะเป็นของฝ่ายจักรวรรดิซากุระ กองเรือโมบิลสูทหรือแม้กระทั่งอซูร์เลนก็ถูกกลืนเข้าไปในเสาแสงสีทอง

    “ลาฟฟีจัง!”

    จาเวลินรีบเข้ากอดร่างของลาฟฟีที่ยืนจ้องมองเสาแสงที่เคลื่อนเข้าหาพวกเธอโดยไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว ก่อนที่ทั้งสองจะเข้าไปอยู่ในเสาแสงนั้น

    “ทุกคน”

    อายานามิหันไปมองหาเพื่อนๆ ของเธอ ก่อนที่เธอจะยกแขนขึ้นมาบังแสง จากนั้นตัวเธอก็เข้าไปอยู่ในเสาแสงสีทอง

     

    ณ ทะเลที่มีพายุฝนฟัดโหมกระหน่ำและคลื่นลมแรง

    อาคากิกำลังประจันหน้ากับเอ็นเทอร์ไฟรซ์ที่ลืมตาตื่น

    “เจ้าเป็นใครกันแน่?”

    เอ็นเทอร์ไฟรซ์ยังคงนิ่งเงียบและมีสีหน้าเงียบเฉยต่อคำถามของอาคากิ ในขณะที่ดวงตาของเธอเปล่งแสงสีทองออกมาอย่างแรงกล้า

    “ไม่ยอมให้มาเกะกะขวางทางแน่”

    อาคากิเสกเปลวไฟออกมา ก่อนที่จะทำให้เปลวไฟเปลี่ยนรูปร่างเป็นมังกรเพลิง

    มังกรเพลิงม้วนตัวล้อมรอบอาคากิ

    “นี่คือวิธีการแสดงความรักของเรา ความรักของเรานั้นเหนือล้ำกว่ากาลเวลาและพระเจ้า”

    อาคากิกำหมัดแน่น

    “เพื่อจูโอ และท่านพี่”

    มังกรเพลิงของอาคากิพุ่งเข้าโจมตีใส่เอ็นเทอร์ไฟรซ์ด้วยเปลวเพลิงที่ร้อนแรง

    เอ็นเทอร์ไฟรซ์ตั้งคันศรจากนั้นก็ง้างสายธนู ลูกศรปรากฏพร้อมกับเปล่งแสงแรงกล้า เอ็นเทอร์ไฟรซ์ง้างสายธนูจนสุด

    อาคากิจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าหวาดกลัว

    เอ็นเทอร์ไฟซ์ปล่อยลูกศรออกไป

     

    ในชั่วพริบตานั้นเองอาคากิก็พบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในทุ่งดอกฮิกัน

    ตอนนั้นเองเธอก็เห็นหญิงสาวถือร่มยืนหันหลังให้กับเธอ เธอมีผมสำน้ำตาลยาวถึงขา สวมชุดคลุมสีแดงขอบดำและกระโปรงสีดำ

    ดูเหมือนเธอจะรู้ว่าหญิงสาวคนนั้นคือใคร เธอยิ้มดีใจออกมา ก่อนที่จะเดินเข้าไปหาเธอคนนั้น

     

    กลับมาที่โลกแห่งความเป็นจริง

    อาคากิถูกลูกศรของเอ็นเทอร์ไฟรซ์ยิงเข้าเต็มๆ มังกรเพลิงของเธอก็ถูกจัดการในครั้งเดียว

    ดวงตาของเธอมืดมนไร้ประกายแห่งชีวิต ในขณะที่เธอกำลังจะร่วงลงไป ลูกศรแสงก็สลายหายไป พร้อมกับเธอที่ยื่นมือออกไปข้างหน้า

    ตอนนั้นเองเอ็นเทอร์ไฟรซ์ก็ได้สติกลับมา เธอพยายามที่จะยื่นมือออกไปคว้ามือของอาคากิ แต่ว่าเธอก็ร่วงลงไปในทะเลแล้ว นั่นทำให้เอ็น​เทอร์ไฟรซ์รู้สึกช็อกเป็นอย่างมาก

    คำพูดของอากิระกับยูนิคอร์นก็ปรากฏขึ้นมาอย่างเด่นชัด

    (เธอเป็นมนุษย์ มีหัวใจ มีความรู้สึก)

    (กลัวทะเลเหรอคะ)

    เอ็นเทอร์ไฟรซ์แหงนหน้าขึ้นมองพร้อมกับพึมพำออกมา

    “อ่า แบบนี้นี่เอง... แบบนี้นี่เอง... นี่คือสิ่งที่นายพยายามบอกฉันมาตลอดเลยสินะ อากิระ... นี่คือสิ่งที่เรียกว่าความรู้สึกสินะ...”

    เอ็นเทอร์ไฟรซ์ร้องไห้ออกมา น้ำตาไหลอาบแก้มของเธอ

    “ฉัน.... กลัว.... ทะเลนี่เอง”

     

    ด้านอาคากิที่ตอนนี้เธอกำลังอยู่ ณ โลกหลังความตายท่ามกลางทุ่งดอกฮิกัน

    เธอเดินเข้าไปหาหญิงสาวพร้อมกับเอามือไปวางไว้ที่ไหล่ของเธอ

    “ในที่สุดเราก็ได้พบกัน ท่านพี่อามากิ”

    แต่เมื่ออามากิหันหน้ามาหาเธอก็ปรากฏใบหน้าที่ไร้ซึ่งสิ่งใดสู่สายตาของเธอ

    “อึก!?”

    อามากิเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ

    “ยังไม่จบหรอก อาคากิ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×