ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Azur Lane] Gundam Azur Lane

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5 กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกาย VS ซุยคาคุ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.43K
      120
      25 ก.ย. 63

    ในขณะที่การต่อสู้ของกันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายกับซุยคาคุกำลังดำเนินอยู่นั้น ฮอร์เน็ตซึ่งถอนตัวออกจากสนามรบและได้รับความช่วยเหลือจากเอ็นเทอร์ไฟรซ์

    เมื่อเธอหันไปมองก็เห็นคลีฟแลนด์กำลังโบกมือเรียกเธอ จาเวลิน ลาฟฟี กำลังช่วยเหลือสมาชิกในกองเรือของเธอ

    “ฮอร์เน็ต มาช่วยแล้วนะ!”

    “มาทันเวลาพอดี เกือบแย่ไปแล้วแน่ะ”

    ฮอร์เน็ตพูดพลางยิ้มแห้งๆ ก่อนที่เธอจะเข้ามาประคองร่างของฮอร์เน็ตต่อจากเอ็นเทอร์ไฟรซ์

    “โอ๊ะ... ตอนนี้พวกเราถอยกันก่อนเถอะ รอก่อนนะเดี๋ยวจะเอาเรือออกมาช่วย”

    แต่ตอนนั้นเอง...

    “ฟอยเออร์(ยิง!)”

    ปรินซ์ออยเกนระดมยิงกระสุนปืนใหญ่เข้าใส่พวกเธอ

    แต่พวกเธอไหวตัวทันจึงหลบการโจมตีได้อย่างหวุดหวิด

    “หึหึหึ”

    ปรินซ์ออยเกน หัวเราะคิกคักออกมาและเอามือเท้าสะเอว

    “คราวนี้อะไรอีกล่ะ!?”

    คลีฟแลนด์โวยขึ้นมาขณะแหงนหน้าขึ้นไปมองและเอาแขนฮอร์เน็ตพาดไหล่

    “กูเทิน ทาค(สวัสดีจ๊ะ) ขอพวกเราเล่นด้วยสิ อซูร์เลน แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จักนะ เรือรบที่แข็งแกร่งที่สุดของยูเนี่ยน เอ็นเทอร์ไฟรซ์”

    จากนั้นเธอก็หันไปมองการต่อสู้ของซุยคาคุกับกันดั้มดับเบิ้ลโอ สกาย

    “นั่นน่ะเหรอ กันดั้ม แข็งแกร่งสมคำร่ำลือจริงๆ”

    ที่ด้านหลังของปรินซ์ออยเกนมีเรือไซเรนหลายลำแล่นเข้ามา บนเรือลำหนึ่งมีโมบิลสูทหลายสิบเครื่องรอฟังคำสั่งของเธออยู่ ด้านล่างนิมิเดินออกมาข้างหน้า

    “พวกแก เลือดเหล็กงั้นเรอะ... แถมยังมีพวกโมบิลสูทอีกหลายเครื่องอีก...”

    “ฝากจัดการหน่อยได้ไหม นิมิ? ส่วนพวกคุณให้รอคำสั่งจากฉันก่อนนะคะ”

    “รับทราบ”

    เหล่าแซกวอริเออร์รับทราบคำสั่งของปรินซ์ออยเกนและยังคงอยู่ในสภาพสแตนบายด์รอคำสั่ง

    “อืม”

    นิมิพนักหน้ารับทราบคำสั่ง ก่อนจะเดินออกไปข้างหน้า เธอเดินมาได้ระยะหนึ่งก็หยุดเดินและยกปืนใหญ่ขึ้นมาเล็งใส่พวกคลีฟแลนด์

    “เรือพิฆาตแห่งเลือดเหล็ก Z23 ค่ะ จะโค่นพวกคุณลงที่นี่ค่ะ”

    จากนั้นก็คันเซย์เดินออกมาอยู่ทางด้านข้างของเธอ เธอคนนั้นก็คืออายานามินั่นเอง

    “ฮ๊ะ อายานามิจัง...”

    จาเวลินขานชื่อของเธอ

    “อา”

    อายานามิหันหน้าหลบและก้มหน้าลงเล็กน้อย ลาฟฟีลุกขึ้นยืนและหันไปบอกกับทุกคน

    “พาทุกคนถอยไปซะ”

    “เอ๊ะ ลาฟฟีจัง!?”

    นิมิขมวดคิ้วสงสัยต่อการกระทำของลาฟฟี

    “อาสาตีฝ่าไปเองเลยเหรอคะ? แม้จะเป็นศัตรูก็ถือว่าเป็นเกียรติมากค่ะ”

     

    ณ ห้องผู้บัญชาการในระหว่างที่ม้ายูนิคอร์นผสมม้าเปกาซัสของยินคอร์นกำลังทานอาหารอยู่นั้น

    อิลลัสเทรียสกำลังคุยปรึกษาหารือกับเวลส์อยู่นั้น

    “ยูจัง?”

    ยูจัง สัตว์เลี้ยงของยูนิคอร์นก็เงยหน้ามองขึ้นไปทางหน้าต่าง

    ตอนนั้นเอง...

    กริ๊งๆๆ!!

    ก็มีเสียงโทรศัพท์โบราณแบบหมุนดังขึ้น เวลส์หยิบหูโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย

    “กองบัญชาการฐานทัพอซูร์เลน”

    ‘ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เวลส์’

    เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเวลส์ก็แสดงน้ำเสียงประหลาดใจออกมา

    “ฝ่าบาท!”

    ‘ขอโทษที่ให้คอยนะ’

     

    “ควีนอลิซาเบธผู้นี้ และกองเรือรอยัลเดินทางมาถึงแล้ว”

    ควีนอลิซาเบธ เธอคือเด็กสาวผู้มีผมสีบลอนด์ยาว สวมชุดกระโปรงสีดำปลายกระโปรงมีสีขาว และสวมมงกุฎเอาไว้ที่ศีรษะ เธอคือเรือประจัญบาน

    และตอนนี้เธอกำลังถือถ้วยชาด้วยสองมือขณะให้เมดคอยยกหูโทรศัพท์โบราณให้ นอกจากเธอยังมีอีกสองคนซึ่งกำลังนั่งทานน้ำชาอยู่

    ตอนนี้กองเรือรอยัลได้เดินทางมาถึงแล้ว

    ‘ช่วยได้มากเลยค่ะ ฝ่าบาท ที่จริงตอนนี้ พันธมิตรของเราถูกโจมตีอยู่’

    “แน่นอน ฉันรู้เรื่องนั้นดี”

    เธอพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน ขณะที่เมดคนหนึ่งคอยยกหูโทรศัพท์ให้และยกคนก็เข้าประคองคทาเอาไว้

    “ทางนี้พร้อมยิงได้ทุกเมื่อแล้วล่ะ”

    ในระหว่างนั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังมุ่งหน้าไปให้ความช่วยเหลือพวกเอ็นเทอร์ไฟรซ์

     

    เคร้ง!! เปรี้ยง!! ตูมม!!

    การต่อสู้ระหว่างกันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายกับซุยคาคุเป็นไปอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ไม่มีใครยอมใคร ทั้งสองกวัดดาบได้อย่างเฉียบคม แม่นยำ ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวที่สูญเปล่า

    “สุดยอดไปเลย! ไม่คิดเลยว่านายจะแข็งแกร่งขนาดนี้!”

    “ทางนี้ก็เช่นกัน เธอเนี่ยสุดยอดจริงๆ”

    ทั้งสองกำลังยิ้มให้กันอยู่ แม้ว่าซุยคาคุจะไม่สามารถเห็นใบหน้าภายใต้หน้ากากได้ แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าเขากำลังยิ้มอยู่ เธอไม่เคยเจอการต่อสู้ที่สุดยอดขนาดนี้มาก่อน

    ทั้งสองเหวี่ยงดาบใส่กันไปหลายกระบวนท่าแล้ว แต่ก็ยังกินกันไม่ลง

    กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายเหวี่ยงดาบเป็นแนวนอน ซุยคาคุกระโดดหลบถอยออกมา ก่อนจะพุ่งเข้าแล้วเหวี่ยงดาบเป็นแนวทแยง แต่กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายก็เอาบัสเตอร์มาป้องกันเอาไว้ได้แล้วกระโดดถอยหลังขึ้นไปบนอากาศแล้วเร่งบูสเตอร์ที่หลังพุ่งเข้าใส่ซุยคาคุพร้อมกับเงื้อดาบฟันใส่

    เกิดประกายสายฟ้าและคลื่นทะเลหลายระลอก

    ทั้งสองเหวี่ยงดาบแลกใส่กันและออกแรงดันใส่กัน พวกเขาเร่งเครื่องและบูสเตอร์ให้แรงขึ้นจนเกิดคลื่นและแรงลมจากทางด้านหลังของทั้งสอง

    “สุดยอด ไม่เคยเห็นซุยคาคุมีความสุขขนาดนี้มาก่อนเลย กันดั้ม นายเป็นใครกันแน่?”

    โชวคาคุมองการต่อสู้ของทั้งสองอย่างตกตะลึง เธอไม่เคยเห็นซุยคาคุยิ้มในระหว่างการต่อสู้มาก่อนเลย

    กัมดั้มดับเบิ้ลโอ สกายกับซุยคาคุดันดาบกันอยู่สักพักหนึ่งจะถอยหลังแยกออกจากกันแล้วพุ่งเข้ามาแล้วใช้ดาบฟาดฟันใส่กัน

    อีกด้านหนึ่งบนท้องฟ้าเหนือน้ำทะเล ปริ๊นซ์ออยเกนกำลังก้มลงมามองการต่อสู้ที่กำลังจะเริ่มขึ้น

    นิมิกับอายานามิ และลาฟีกำลังจับจ้องอีกฝ่ายเพื่อดูท่าทีของกันและกันว่าทางไหนจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน จาเวลินมองดูอยู่ทางด้านหลังและมีสีหน้าเจ็บปวด

    “จะต้องสู้กันจริงๆ งั้นเหรอ...”

    “แหมๆ สับสนแบบนี้ น่ารักจริงๆ เอาล่ะ จะทำยังไงต่อนะ...”

    ปรินซ์ออยเกนจ้องมองการต่อสู้อย่างใจจดใจ่อ

    แต่ว่า....

    “เอ๊ะ... อะระ?”

    แต่กลายเป็นว่าลาฟฟีเก็บอาวุธของเธอ สร้างความประหลาดใจให้กับเธอและนิมิ รวมถึงคนอื่นๆ

    “คะ... คิดจะทำอะไรกันคะ?”

    ลาฟฟีขยับไปด้านข้างแล้วพูดออกมาด้วยท่าทีขี้เกียจ

    “ว่าแล้ว ง่วงจริงๆ เลิกดีกว่า”

    “นะ... นี่คุณ คิดจะล้อกันเล่นเหรอคะ ช่วยเอาจริงเดี๋ยวนี้เลยนะคะ”

    นิมิแสดงท่าทีลนลานออกมาและทำอะไรไม่ถูกเมื่อเจอเรื่องที่ไม่คาดคิดจากการกระทำของลาฟฟี

    ทำให้จาเวลิน แอริโซน่า เฮเลน่า และทุกคนทำหน้าประหลาดใจ

    “เอ๊ะ? เอ๊ะ?”

    “อะ เอ่อ”

    ตูมมม!!

    ทุกคนรีบหันไปมองทิศที่มาของเสียงระเบิด

    โชวคาคุที่เห็นว่าซุยคาคุเริ่มอ่อนแรงและถูกกันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายเหวี่ยงดาบใส่เธอแบบเต็มแรง ทำให้เธอกระเด็นไปหลายเมตร

    “ซุยคาคุ!”

    “อากิระ”

    เอ็นเทอร์ไฟรซ์มองการต่อสู้อยู่ตลอด เธอไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะสามารถต่อกรกับซุยคาคุได้ถึงขนาดนี้

    “แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก...”

    ซุยคาคุหอบหายใจอย่างหนัก กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายเองก็เริ่มหอบหายใจออกมาบ้างแล้วเหมือนกัน

    “นายเนี่ย แข็งแกร่งจริงๆ แฮ่ก...”

    “เธอเองก็เหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ แฮ่กๆ...”

    ทั้งสองพูดชมกันและกัน พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งแบบนี้

    “มาปิดฉากด้วยโจมตีครั้งเดียวกันดีกว่า”

    “เห็นด้วย ตอนนี้เรี่ยวแรงฉันแทบจะไม่เหลือแล้ว ขอตัดสินด้วยการโจมตีนี้”

    ซุยคาคุลุกขึ้นแล้วเอาคาชิระไปกระแทกกับหัวเรือ เครื่องบินบนลานบินเริ่มหมุนใบพัดและเริ่มเคลื่อนที่ เครื่องบินเหล่านั้นแปรสภาพเป็นเปลวไฟแล้วพุ่งเข้าไปใบดาบ ทำให้ดาบของเธอกลายเป็นดาบเพลิง

    “นั่นคือท่าไม้ตายของเธอสินะ”

    “ใช่แล้วล่ะ”

    เธอยิ้มออกมาแล้วตั้งท่าดาบเตรียมที่จะพุ่งเข้าโจมตีตัดสิน

    “ถ้างั้นทางนี้ก็เอาด้วยเหมือนกัน!”

    วิ้งง!!

    ดวงตาของกันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายส่องแสงวาบ จากนั้นร่างของเขาก็เรืองแสงสีฟ้า เบรเซอร์ก็เลื่อนมาด้านหน้าแล้วกางออกเป็นกรงเล็บ สกายไดรฟ์ก็กางปีกแห่งแสง แล้วเข้าสู่สภาพของ ไฮเออร์แธนสกายเฟส แล้วใช้ปีกแห่งแสงแปลงสภาพบัสเตอร์ซอร์ดเป็นดาบพลังงานขนาดใหญ่ ไฮเปอร์สกายแซมเบอร์

    “สุดยอด...”

    ซุยคาคุมองกันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายที่ได้แสดงท่าไม้ตายของเขาออกมาด้วยความตกตะลึงและชื่นชม โชวคาคุและเอ็นเทอร์ไฟรซ์เอง รวมถึงคนอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน

    “เอาล่ะนะ ซุยคาคุ”

    “เข้ามาเลย กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกาย”

    ทั้งสองขานชื่อของกันและกันแล้วพุ่งเข้าใส่กัน

    “ย้ากก!!!”

    “ย้ากก!!!”

    เมื่อได้ระยะ ทั้งสองก็เหวี่ยงดาบเข้าใส่กันอย่างพร้อมเพรียง และเมื่อดาบของทั้งสองเข้าปะทะกัน

    ตูมมมมมม!!!!!!

    ก็เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงโดยมีทั้งสองคนเป็นศูนย์กลาง

    “ซุยคาคุ!!!”

    “อากิระ!!!”

    โชวคาคุกับเอ็นเทอร์ไฟรซ์ ตะโกนเรียกทั้งสองที่ถูกกลืนเข้าไปในแสงของระเบิดที่ขยายวงกว้างขึ้นจนมีรัศมีถึง 200 เมตร ทำให้ทุกคนต้องเอามือขึ้นมาบังแสงที่เจิดจ้า และเมื่อแสงจากการระเบิดจางหายไปก็ปรากฏร่างของทั้งสอง

    เมื่อเห็นว่าทั้งสองปลอดภัย ทำให้พวกเธอรู้สึกโล่งอกและรอดูผลการต่อสู้

    เปร๊ยะ! เปรี๊ยะ!

    ทันใดนั้นเอง ดาบของซุยคาคุก็เริ่มแตกร้าวและแหลกเป็นเสี่ยงๆ จนเหลือเพียงด้ามจับดาบ

    “นี่ฉันแพ้งั้นเหรอ แต่ว่าก็ไม่ได้เสียใจเลยแม้แต่น้อย”

    จากนั้นเธอก็หลับตาและเริ่มล้มลง แต่ว่ากันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายก็เอาแขนมาประคองร่างของเธอ

    “เอ๋?”

    เธอลืมตาขึ้นมาและส่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมอง เธอก็เห็นว่าเขาก็ก้มหน้าลงมามองเธอด้วยเหมือนกัน

    “เป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมมาก ไนซ์ ไฟท์”

    เขาพูดชมเธอ ทำให้เธออายหน้าแดงขึ้นมา

    “อะไรกัน ความรู้สึกนี้”

    เธอรู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูกที่มีคนมาชมเธอ

    “การโจมตีสุดท้ายของเธอ สุดยอดจริงๆ นี่ถ้าไม่ใช่ฉันหรือพวกที่มีคำว่าแข็งแกร่งอยู่ในชื่อล่ะก็คงเสร็จไปแล้ว”

    “ขะ ขอบใจนะ”

    ซุยคาคุเขินอายจนพูดตะกุกตะกัก

    “ยืนไหวมั้ย?”

    “อืม”

    เธอยันตัวลุกขึ้นยืน ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังพูดคุยสนทนาหลังจบการต่อสู้ โชวคาคุก็มองดูทั้งสอง

    “เป็นคนที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ ถึงกลับทำให้ซุยคาคุเขินอายได้แบบนี้”

    แต่กับเอ็นเทอร์ไฟรซ์ไม่รู้ทำไมเธอถึงรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างแรง

    “อะไรกันนะ? ไอ้ความรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกนี่น่ะ”

    กลับมาที่กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายกับซุยคาคุซึ่งยังคงพูดคุยกัน

    “ไม่คิดเลยว่า อซูร์เลนจะได้นายมาเป็นพวกด้วยแบบนี้”

    “ทางนี้ก็เหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าจะมีคนเก่งแบบเธออยู่ในจักรวรรดิซากุระ”

    “ครั้งต่อไปที่เจอ ฉันจะเอาชนะนายให้ได้เลยคอยดู”

    “ได้สิ ไม่ว่าเมื่อไหร่ฉันก็พร้อมที่เป็นคู่ต่อสู้ให้เธอเสมอ”

    ซุยคาคุยิ้มออกมา ก่อนจะมองไปที่ดาบของเธอที่เหลือเพียงด้ามจับด้วยสีหน้าเศร้าใจ

    “แต่ว่านะ ดาบฉันมันพังไปแล้วด้วยสิ”

    เธอยกดาบที่เหลือเพียงด้ามจับขึ้นมา แต่กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายก็ได้พูดออกมา

    “งั้น เอาดาบเล่มนี้ไปใช้สิ”

    “เอ๋?”

    ซุยคาคุส่งเสียงงุนงงออกมา แต่กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายก็ไม่ได้สนใจ เขายื่นแขนซ้ายออกไปด้านข้าง จากนั้นก็ก็มีแสงสว่างปรากฏออกมา ก่อนจะรวมตัวกันแล้วกลายสภาพเป็นดาบคาตานะเล่มหนึ่ง

    “เหลือเชื่อ!!”

    ซุยคาคุมองดูด้วยความตกตะลึง

    อากิระได้ตรวจดูในคลังเก็บของของเขาก็พบว่ามันมีอาวุธมากมายที่มาจากโลกของกันดั้มทุกซีรี่ย์ ไม่รู้ว่าเฮสเทียจัดเตรียมอาวุธเหล่านี้ให้เขามากมายถึงขนาดนี้ แต่ก็ต้องขอบคุณเธอ ที่ทำให้เขามีอาวุธเอาไว้ใช้ตามสถานการณ์

    “ดาบเล่มนี้ ฉันมอบให้เธอ”

    เขายื่นดาบคาตานะให้เธอด้วยมีทั้งสองข้าง ฝักดาบมีสีขาว แดง และสีทองที่ส่วนปลายฝักดาบ ด้ามจับมีสีแดง คาชิระมีสีทอง

    “คาตานะเล่มนี้มีชื่อว่า กาเบร่าสเตรท ตัวดาบได้รับการติดตั้งแอนตี้บีมโค้ตติ้งเอาไว้ ทำให้ตัวดาบทนทานต่ออาวุธจำพวกบีม”

    “แต่ว่าจะยกดาบให้ศัตรูอย่างฉันน่ะ มัน...”

    ซุยคาคุปฏิเสธที่จะรับดาบคาตานะ กาเบร่าสเตรทจากกันดั้มดับเบิ้ลโอ สกาย

    “แล้วเรื่องดาบของเธอที่พังไปล่ะจะทำยังไง ถึงจะไปหาดาบเล่มใหม่มา แต่ถ้าต้องมาสู้กับฉันอีก ยังไงมันก็พังอยู่ดี”

    “.......”

    ซุยคาคุพูดอะไรไม่ออกแล้วก้มหน้าลง ถูกอย่างที่เขาบอก ในการต่อสู้ครั้งนี้ ดาบของเธอได้รับความเสียหายจากบัสเตอร์ซอร์ดของเขาและยังถูกทำลายจนแหลกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยท่าไม้ตายของเขาอีก

    “อีกอย่าง ฉันก็ไม่ค่อยถนัดใช้ดาบจำพวกดาบคาตานะสักเท่าไหร่ด้วยสิ มีไว้ก็เสียของเปล่าๆ ให้คนที่สามารถใช้มันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพยังจะดีกว่าเยอะ เพราะงั้นเธอรับมันเอาไว้เถอะ”

    “ขะ เข้าใจแล้ว”

    เธอรับดาบคาตานะกาเบร่าสเตรทมาจากกันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายแล้วชักมันออกมาดู มันเป็นดาบที่สวยงามและยังคมเป็นอย่างมาก

    “เป็นดาบที่ยอดไปเลย ขอบคุณนะ ฉันจะขอใช้มันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายฉันเลย”

    เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ทำให้เธอดูน่ารักเอามากๆ เลยทีเดียว แม้ใบหน้าจะอยู่ใต้หน้ากาก แต่เขาก็ยิ้มออกมา

    “ว้าวๆ ร้ายเอาเรื่องเหมือนกันนี่นา ซุยคาคุ”

    “พะ พี่”

    โชวคาคุที่โผล่มาอยู่ด้านหลังตอนไหนก็ไม่รู้ พูดแซวซุยคาคุด้วยสีหน้าขี้เล่น ทำให้เธอลนลานจนอายหน้าแดง

    “ไม่นึกเลยว่า นายจะกล้าจีบผู้หญิงที่อยู่ฝั่งศัตรูในสนามรบแบบนี้น่ะ”

    “แว้ก!? อะ เอ็นเทอร์ไฟรซ์ มาตอนไหนเนี่ย!?”

    อากิระสะดุ้งตกใจที่เอ็นเทอร์ไฟรซ์โผล่มาโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง

    “ตั้งแต่ตอนที่นายมอบดาบให้ยัยนั่นแล้วน่ะ”

    เอ็นเทอร์ไฟรซ์ทำหน้าบูดบึ้งอย่างอารมณ์เสีย เธออยากจะดึงหูเขาแรงๆ แต่ว่าด้วยความที่เขาอยู่ในร่างของกันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายเลยทำไม่ได้

    “ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น ฉันแค่มอบดาบให้เธอก็เท่านั้นเอง เพราะเห็นว่าดาบของเธอพัง ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงอะไรทั้งนั้น”

    “งั้นเหรอ”

    อากิระพยายามพูดแก้ตัว แต่เอ็นเทอร์ไฟรซ์ก็หรี่ตาลงราวกับจะจับผิดเขา ทำเอาเขาเหงื่อแตกพลั่ก

    “แหมๆ ไม่นึกเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในสนามรบเลยนะเนี่ย”

    ปรินซ์ออยเกนพูดออกมาด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดใจ

    “ไม่คิดเลยว่าคนๆ นั้นจะทำให้พี่สาวมีท่าทีแบบนั้นออกมาได้น่ะ”

    ฮอร์เน็ตพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจที่เอ็นเทอร์ไฟรซ์แสดงท่าทีแบบนี้กับเขา

    กลับมาที่กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายซึ่งกำลังรวมกลุ่มกับเอ็นเทอร์ไฟรซ์และสองพี่น้องกระเรียนโชวคาคุกับซุยคาคุ จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนท่าทีสบายๆ มาเป็นท่าทีจริงจังขึ้นมา

    “เอาล่ะ ทีนี้จะออกมาได้รึยังล่ะ ชินนันจู”

    เขามองไปยังไซเรนลำหนึ่ง คำพูดนั้นทำให้ทุกคนที่ได้ยินต่างพากันตกตะลึง จากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าของโลหะดังขึ้นมา และปรากฏร่างของโมบิลสูทสีแดงซึ่งมีตาเพียงดวงเดียวออกมายืนที่หัวเรือ

    ใช่แล้ว โมบิลสูทเครื่องนั้นก็คือชินนันจู ดาวหางสีแดงนั่นเอง

    “รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่า ฉันมาอยู่ที่นี่และมองดูการต่อสู้ของพวกเธอ”

    ชินนันจูเอ่ยถามด้วยความรู้สึกแปลกใจที่กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายรู้ถึงการมีอยู่ของเขา

    “ก็ในระหว่างที่ฉันต่อสู้กับซุยคาคุนั่นแหละ เรดาห์ของฉันตรวจพบการมาของนายได้ในตอนนั้นแล้วล่ะ”

    กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายตอบข้อสงสัยของชินนันจูจนกระจ่าง ชินนันจูพูดตอบ

    “เยี่ยมมาก แล้วที่นี้นายจะเอาไงต่อ”

    “นั่นสินะ ถ้านายต้องการจะสู้กับฉัน ฉันก็ไม่เกี่ยงหรอกนะ”

    กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายพูดท้าทายชินนันจู พร้อมกับชักบัสเตอร์ซอร์ดออกมาแล้วชี้ปลายดาบไปที่เขาเป็นการท้าทาย

    “ไม่ล่ะ ตอนแรกฉันก็กะจะสู้กับนายเหมือนกัน แต่พอได้เห็นความมุ่งมั่นของคุณซุยคาคุ ฉันก็เปลี่ยนใจแล้ว เลยเปลี่ยนมาเป็นขอมาดูหน้านายสักหน่อยแล้วก็จะกลับ”

    ชินนันจูพูดพลางทำท่ายักไหล่ ถึงเขาจะตั้งใจมาสู้กับกันดั้มในตอนแรก แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว

    แต่ไม่รู้เพราะอะไรคำพูดนั้นถึงทำให้เอ็นเทอร์ไฟรซ์รู้สึกเหมือนโดนดูถูก เธอกำคันธนูในมือไว้แน่น

    “นี่คิดจะดูถูกกันเหรอ!?”

    เธอตะโกนใส่ชินนันจู แต่เขาก็ถอนหายใจออกมาแทน

    “เฮ้อ ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้เข้าใจผิดรึเปล่า แต่ว่านะ ฉันก็ไม่คิดจะสู้กับคนเจ็บหรอกนะ”

    คำพูดนั่นยิ่งทำให้เธออรู้สึกโกรธมากขึ้น

    “ถ้างั้นฉันก็ทำให้นายสู้เอง!”

    เอ็นเทอร์ไฟรซ์เคลื่อนที่ออกห่างจากกันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายทันทีและง้างสายธนูเล็งไปชินนันจู

    “เอ็นเทอร์ไฟรซ์!! หยุดนะ!! เจ้านั่นไม่เหมือนคู่ต่อสู้ที่ผ่านๆ มา!!”

    เขาพยายามเตือนเธอ แต่ช้าเกินไป ศรแสงถูกยิงออกไป ชินนันจูก็ชักบีมไรเฟิลยิงสวน

    ศรแสงกับบีมพุ่งเข้าปะทะกัน แต่ว่าบีมของชินนันจูนั้นแรงกว่า มันทะลวงทำลายศรแสงของเอ็นเทอร์ไฟรซ์

    “!?”

    มันพุ่งเข้าหาเธอ แต่ว่าสิ่งที่ชินนันจูเล็งไว้ไม่ใช่เธอ แต่เป็นคันธนูของเธอต่างหาก

    บีมลำแสงจากบีมไรเฟิลของชินนันจู ทำลายธนูของเอ็นเทอร์ไฟรซ์ไปครึ่งหนึ่ง

    “หา...”

    เอ็นเทอร์ไฟรซ์เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ในตอนนั้นเองชินนันจูก็เตรียมที่จะยิงกระสุนบาซูก้าใส่เธอ

    “ไปนอนพักรักษาตัวซะ แล้วคราวหน้าฉันจะเป็นคู่ต่อสู้ให้”

    ตูมมม!!!

    กระสุนบาซูก้าถูกยิงออกมาและกำลังจะพุ่งเข้าใส่เธอ

    “เอ็นเทอร์ไฟรซ์!!!?”

    กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายรีบเร่งบูสเตอร์พุ่งเข้าไปช่วยเธอ เขาพุ่งมาอยู่ตรงหน้าเธอเพื่อที่ใช้ตัวเองเป็นโล่เพื่อรับการโจมตีที่กำลังจะมาถึง

    “ขออนุญาตค่ะ”

    แต่ในตอนนั้นเอง ในเสี้ยววินาทีที่กระสุนกำลังจะใกล้เข้ามาถึงตัวเขา ก็ได้มีหญิงสาวที่แต่งตัวในชุดเมดใช้หลังมือเบี่ยงวิถีของกระสุนให้พุ่งไปทางอื่นแล้วเกิดการระเบิดขึ้นที่ด้านหลังของเอ็นเทอร์ไฟรซ์

    “หา!? โกหกน่า ใช้หลังมือเบี่ยงวิถีกระสุนเนี่ยนะ!?”

    กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายพูดออกมาด้วยความตกตะลึง

    “เธอเป็นใคร?”

    ชินนันจูเอ่ยถามหญิงสาวที่เป็นผู้มาใหม่ แต่เธอคนนั้นกลับพูดสวนกลับไปว่า

    “ก็แค่เมดที่ผ่านทางมาเท่านั้นล่ะค่ะ”

    พูดจบเธอก็ยิ้มออกมา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×