ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic.[Jelsa] melt your heart ปลดล๊อคหัวใจ ยัยราชินีหิมะ

    ลำดับตอนที่ #25 : chapter 20 Papa Mama (สมบูรณ์)

    • อัปเดตล่าสุด 5 มิ.ย. 57


    ? Chapter 20 : Papa Mama ?
    ? Presented by Papermail. ? 



    ระวังหัวใจที่แข็งกระด้างจนไร้ความรู้สึกให้ดี
    เพราะมันกำลังจะถูก 
    " ละลาย "

     

    อื่อ.....ทำไมมันรู้สึกเวียนหัวไปหมดเลยละ แถมตรงท้องก็ยังหนักๆยังไงก็ไม่รู้

    ฝันอยู่รึไง..ลืมตาไม่ขึ้นเลย

    ก็จำได้ว่าเรากำลังเดินมาพักที่ห้องทำงาน แล้วก็เห็นว่าห้องเปิดอยู่จากนั้นก็....

    โอ๊ย...ทำไมข้าถึงจำเรื่องที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นไม่ได้เลยล่ะ..

     

    เอลซ่าค่อยๆพลิกตัวมาอีกด้านอย่างงัวเงี้ย ใบหน้าของเธอซบเข้ากับแผงอกกว้างของใครบางคน มือเรียวบางเอื้อมไปพาดร่างตรงหน้าเอาไว้อย่างเผลอตัว

     

    อุ่น..

    ทำไมกันนะ..ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าอยากจะอยู่อย่างนี้ตลอดไป ไม่รู้สึกอยากจะลืมตาตื่นขึ้นมาเลย

    อยากจะอยู่อย่างนี้ต่อไป...ตลอดไป

     

     

    Jack Frost..

    ดวงตาสีฟ้าสดที่ตอนนี้กลับคล้ำราวกับหมีแพนด้าทอดมองร่างบางที่หลับพริ้มอยู่ข้างตนอย่างมีความสุขอยู่ข้างกายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด(?)

     

    แน่นอนผู้ชายที่ดีควรมีความสุขที่เห็นหญิงที่ตนรักกำลังนอนหลับพริ้มด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่ดูเหมือนทฤษฏีนี้จะใช่ไม่ได้กับ..

     

    แจ็ค ฟรอสต์

     

    นอนหลับสบายเชียวนะ..ลืมไปแล้วละสิว่าเมื่อคืนทำอะไรไว้กับข้าบ้าง รู้เปล่าว่ากว่าข้าจะข่มตาหลับได้ ข้าต้องนอนนับแกะไปกี่ตัว เห็นเจ้านอนหลับอย่างสบายใจแล้วมันรู้สึกขัดหูขัดตายังไงก็ไม่รู้

     

    “นอนน้ำลายยืดเปรอะคนอื่นหมดเข้าแล้ว ใจคอไม่คิดจะตื่นเลยใช่ไหม” แจ็คก้มลงกระซิบปลุกร่างบาง เสียงทุ้มต่ำของเข้าตัวปลุกหญิงสาวที่นอนอยู่ข้างกายให้ตื่นขึ้นมาจากนินทราที่แสนหวาน

     

    เอลซ่ารีบลุกขึ้นนั่งราวกับเพิ่งตื่นจากฝันร้าย ดวงตาสีฟ้าสดพยายามปรับให้เข้ากับบรรยาการอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆมองไปรอบๆ

     

    ห้องรับรอง..?? แล้วนี้เรามาอยู่ที่นี้ได้ยังไง...

     

    เท้าเปือยเปล่าค่อยๆก้าวลงจากเตียง แต่ทว่ายังไม่ทันที่จะได้ก้าวเดินเท้าของตนก็ไปสะดุดเข้ากับเดรสสีฟ้าตัวโปรดที่ตอนนี้กลายสภาพเป็นเศษผ้าไปเรียบร้อยแล้ว

     

    อย่าคิดว่าแค่ตื่นขึ้นมาแล้วความผิดที่เจ้าก่อไว้เมื่อวานมันจะหายไปง่ายๆนะ คนอย่างแจ็ค ฟรอสต์ แค้นนี้ต้องชำระ ข้าจะต้องแก้ข่าวว่าข้าไม่ใช่พวก ก.ม.100%...

    *ก.ม. – กลัวเมีย

     

    “เอลซ่า คนอย่างเจ้านี่มัน...” เสียงทุ้มต่ำที่ดังมากจากทางด้านหลังปลุกเอลซ่าให้ตื่นจากภวังค์ ร่างบางรีบหันไปตามเสียงแต่ทว่าภาพตรงหน้านั้นกลับเป็นภาพที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่เชื่อสายตา

     

    เด็กหนุ่มเจ้าของฉายาเทพผู้พิทักษ์สุดแสบกำลังคว้าผ้าห่มผืนหนามาบังร่างตัวเองเอาไว้ ดวงตาสีฟ้าสดที่เคยฉายแววซุกซนตอนนี้กลับมองมาที่ร่างตรงหน้าด้วยสายตาที่ขุ่นเคือง

     

    “ซะใจ..สาแกใจเจ้าแล้วละสิเอลซ่า”

     

    “ดะ..เดียวก่อนนี้มันอะไร ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี้ได้ แล้วที่เจ้าพูดออกมา...อย่าบอกนะว่าข้า..”

     

    “ใช่ เมื่อคืนเจ้าขืนใจข้าเอลซ่า อย่าบอกนะว่าเจ้าจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้” แจ็คว่าพล่างขยับมาทางเอลซ่าที่กำลังสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น

     

    “ดะ..เดียวก่อนข้าจำไม่ได้” เอลซ่าถอยหนีเด็กหนุ่มที่ขยับเข้ามาเรื่อยๆจนแผ่นหลังชิดกับหัวเตียงอย่างหมดทางหนี้

     

    “จำไม่ได้...? นี้เจ้าจะไม่รับผิดชอบข้าใช่ไหมเอลซ่า ทั้งๆที่เมื่อคืนเรา..” แจ็คว่าพล่างเงยหน้าปาดน้ำตา

     

    “ก็บอกว่าข้าจำไม่ได้ไง.. แล้วเจ้าร้องไห้ทำไมละข้านี้ต้องเป็นฝ่ายร้อง”

     

    “เมื่อคืน เจ้าโยนข้าลงเตียงอย่างรุ่นแรงและโหดร้ายจนข้านั้นบอบช้ำไปทั้งร่างกายและจิตใจ เจ้าห่มเหงข้าอย่างที่ไม่น่าให้อภัย ทั้งโซ่ ทั้งแส้ ทั้งเทียน ทั้งกุญแจมือ เจ้าทำแบบนี้กับข้าได้ยังไงเอลซ่า” แจ็คว่าพล่างเขย่าไหล่เอลซ่าที่กำลังนั่งอึ่งกับเรื่องที่เพิ่งได้ยิน

     

    “ข้าเป็นคนทำงั้นหรอ...” ร่างบางได้แต่นั่งก้มหน้ากับเรื่องที่เกิดขึ้น

     

    นี้ข้าเป็นคนทำงั้นหรอ ข้าทำเรื่องเลวร้ายขนาดนั้นเนี้ยนะ ทั้งกุญแจมือ ทั้งแส้ นี้ข้าเอาของแบบนี้มาทำอะไรกัน

    .

    .

    .

    .

    ดะ..เดียวก่อนสิ ตั้งสติไว้ก่อนเอลซ่า...ทุกอย่างมันต้องมีที่มาที่ไปของมันสิ..

     

    “ข้าขอดูของที่เจ้าว่าหน่อย ข้าขอดูกุญแจมือที่เจ้าว่า..??”

     

    ซะ..ซวยแล้วไง คิดสิๆๆ แจ็คเอายังไงดี.. แจ็คคิดพล่างพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด

     

    “อะ..เอ่อ เจ้าโยนออกนอกหน้าต่างไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”

     

    “แล้วไหนแส้..??”

     

    ซวยกว่า.. คราวนี้จะเอายังไงดีละ..

     

    “อะ..อันนั้นเจ้าโยนทิ้งไปแล้วเหมือนกัน” แจ็คว่าพล่างชี้ไปที่บานหน้าต่างบานเดิม

     

    “งั้นถอด..” เอลซ่าพูดด้วยเสียงเรียบแต่ทว่ากลับดูน่ากลัวอย่างประหลาด ดวงตาสีฟ้าสดจ้องมามาที่เด็กหนุ่มอย่างจับผิด

     

    “ห๊ะ..??”

     

    “ถอดเสื้อออกเดียวนี้แจ็ค” เอลซ่าว่าพล่างขยับมาทางเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่อีกฟากก่อนจะพยายาถอดเสื้อกันหนาวตัวหนาออก แต่ทว่ามือหนาของอีกฝ่ายก็รีบขวางเอาไว้ตามสัญชาติญาณ

     

    “จะทำอะไรนะเอลซ่า” แจ็คว่าจบก็พยายามเบียงหลบไปอีกทางแต่ดูเหมือนว่าจะเอียวตัวผิดจังหวะทำให้เด็กหนุ่มล้มนอนลงไปกับเตียง

     

    “ก็จะดูหลักฐานบนตัวเจ้านะสิว่ามีรอยเหลือทิ้งไว้รึเปล่า เลิกดิ้นแล้วถอดออกมาเดียวนี้นะแจ็ค” มือเรียงบางยื้อเสื้อกันหนาวตัวหนาจนเสื้อนั้นยืดแทบจะไม่เป็นทรง แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไรก็เลิกขึ้นสูงได้แค่ท้องของเด็กหนุ่มเท่านั้น

     

    ข้าจะไม่ยอมปล่อยมือเด็ดขาด ให้ตายยังไงก็ไม่ยอม

    ถ้าถอดออกก็รู้นะสิว่าข้าแค่โกหก..

     

    “ไม่..อย่าดึงสิเอลซ่า ข้าไม่ถอด” แจ็คว่าพล่างกระชากเสื้อกลับมาอย่างแรงจนทำให้ร่างบางเซล้มลงมาทับร่างหนาของเด็กหนุ่ม

     

    แอ็ด...

    บานประตูหนาถูกเปิดออกโดยที่ไม่มีแม้การเคาะเรียก เด็กหญิงเจ้าของเรือนผมยาวสลวยสีบลอนซ์แซมเงินวิ่งเข้ามาทางด้านในด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม

     

    “ท่านพ่อ ท่านแม่ ลงมาทานข้าวกันเถอะอลิซรอจนแสบท้องไปหมดแล้วนะ” เด็กน้อยที่วิ่งเข้ามาหยุดยืนอยู่ที่บริเวณปากประตูพร้อมกับเอียงคอมองทั้งคู่อย่างไร้เดียงสา

     

    “อะ..อลิซเจ้ามาที่นี้ได้ไง” เอลซ่าว่าพล่างยิ้มอย่างดีใจก่อนจะรีบลุกไปหาร่างเล็กที่ยื่นอยู่อีกทางแต่ทว่ามือหนาของใครบางคนกลับตรึงร่างของเธอเอาไว้กับแผงอกกว้างของตน

     

    “แจ็คปล่อยนะ..อลิซมองอยู่” เอลซ่าว่าพล่างส่งสายตาดุไปที่ร่างตรงหน้าเป็นเชิงห้าม แต่ทว่าเด็กหนุ่มกลับไม่สนใจสายตาดุที่ส่งมาเลยสักนิด แจ็คเบนหน้าไปทางอลิซก่อนจะพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าให้ออกไปก่อน

     

    “ท่านพ่อก็รีบๆตามลงมาด้วยละ อลิซหิวแล้วนะ ท่านแม่ก็ด้วย” เด็กน้อยว่าจบก็รีบวิ่งออกจากห้องไปก่อนจะรีบปิดบานประตูลงเหมือนเดิม

     

    ทิ้งให้เอลซ่านั่งตาค้างกับสรรพนามใหม่ของเธอกับแจ็ค ท่านพ่อ ท่านแม่

     

    “แจ็คเจ้าใช่ไหมที่สอนให้อลิซเรียกข้าอย่างนั้น..” เอลซ่ากดเสียงต่ำ มือเรียวพยายามออกแรงสะบัดเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการของเด็กหนุ่ม “ปล่อยข้านะแจ็ค”

     

    “ไม่..” แจ็คว่าพล่างรวบมือของเอลซ่าเข้าด้วยกันก่อนจะสวมกอดร่างบางจากทางด้านหลัง “ข้าไม่ปล่อยเจ้าเด็ดขาดแล้วอีกอย่าง...” เด็กหนุ่มค่อยๆโน้มใบหน้าลงแนบชิดกับต้นคอขาวนวล เสียงทุ้มต่ำที่ถูกเอ่ยออกมา แม้จะเบาจนแทบจะไม่มีเสียงแต่ทว่ามันกลับชัดเจนจนยากที่จะลืมเลือน

     

    “...”

     

    “ข้าไม่ได้สอนเจ้าตัวเล็กให้เรียกอย่างนั้นสักหน่อย ลูกเขาเรียกเจ้าเองนะ” ใบหน้าที่เคยขาวนวลแดงก่ำราวกับถูกแต้มสี เอลซ่ารีบลุกขึ้นยื่นก่อนจะรีบสาวเท้าเดินออกไปด้านนอก

     

    “เจ้าจะไปไหนหน่ะเอลซ่า”

     

    “ไปห้องโถงกลางนะสิ” ร่างบางรีบหันกลับมาพร้อมกับพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ

     

    “ห้องโถงกลางมันทางนี้ต่างหาก” แจ็คว่าพล่างชี้ไปอีกทางซึ่งเป็นทิศตรงข้ามกับทางที่เอลซ่าเดินอย่างเห็นได้ชัด

     

    “ขะ..ข้ารู้อยู่แล้วน่า อย่ามาขวางสิ” 



    หายไปนานกลับมาแล้วเย้ๆๆ คิดถึงกันบ้างไหมเนี้ย เมลล์นะคิดถึงรีดเดอร์มากๆเลยนะจุ๊ฟๆสักทีให้หายชื่นใจ มว๊ากกกกกก ♥

    ได้อ่านคอมเม้นต์ของรีดเดอร์หายคนทั้งในนี้ ในไอดีที่เป็นข้อความทักทาย ของขวัญ ข้อความลับ เมลล์อ่านหมดทุกอันเลยนะถ้าถามๆอะไรมาแล้วเมลล์ไม่ได้ตอบแสดงว่าลืมถามใหม่ได้นะ ถามไปเถอะไม่รำคานหรอกแค่บางทีอาจลืมนิดหน่อย

    อันนี้เพลงที่ขอกันมานะ ถามเยอะมากๆๆๆๆๆ อาจจะเยอะกว่าเรื่องฟิคอีกก็เป็นได้ 555+

    >> http://www.youtube.com/watch?v=wNOuK8YcABo << จิ้มไปเลย


     

    เอลซ่าเดินเข้ามาที่ห้องโถงใหญ่ที่ถูกจัดไว้สำหรับทานอาหาร เจ้าตัวสวมชุดกระโปรงยาวสีฟ้าสดถูกประดับตกแต่งด้วยลวดลายของกลีบอดกไม้นานาพันธ์ ผมสีบลอนซ์ถูกปล่อยยาวสลวยละไปกับแผ่นหลัง ร่างบางเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหารพร้อมกับเด็กหนุ่มที่เดินตามมาทีหลังที่เดินมาด้วยสีหน้าอิจโรยจากอาการอดนอน

     

    “ดูหน้าพี่แจ็คสิเหมือนคนไม่ได้นอนทั้งคืนเลย สงสัยเรื่องที่ข้าสงสัยจะเป็นเรื่องจริงนะคริสตอฟฟ์เจ้าว่าไหม??” อันนาที่นั่งอยู่กระซิบกับแฟนหนุ่มแต่เธอ แต่ดูเหมือนว่ามันจะดังพอที่ทุกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารได้ยินเรื่องที่เธอพูดอย่างชัดเจน

     

    ...สายตาของทุกคนบนโต๊ะอาหารจ้องมองมาที่เอลซ่ากับแจ็คเป็นตาเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายตาจากน้องสาวตัวดีที่ดูเหมือนว่าจะจ้องเขม่งมาที่เธอโดยไม่คิดจะปิดบังเลยสักนิดเดียว

     

    เอลซ่าที่เริ่มสังเกตถึงสายตาที่มองมาที่ตน พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนที่จะนั่งลงที่โต๊ะเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    .

    .

    .

    .

    แต่ดูเหมือนสุดท้ายเธอก็ทนกับบรรยากาศแห่งความอึดอัดที่กำลังมาคุอยู่เต็มห้องไม่ได้จนสุดท้ายก็ต้องเอ่ยถามถึงประเด็นที่เธอกำลังตกเป็นผู้ต้องหาอยู่ในขณะนี้

     

    “จะ..จ้องแบบนี้...มีอะไรรึเปล่า?” เอลซ่าที่ก้มหันเนื้อในจานอาหารเอ่ยถามขึ้น เมื่อสำผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ส่งผ่านมาจากสายตาของน้องสาว

     

    “พี่เอลซ่ากับพี่แจ็คมีsomething อ่อ...มี...มีอะไรกันแล้วใช่ไหม.... ก็เห็นว่า...เมื่อวานพี่เอลซ่าไม่กลับห้อง”

     

    เคร้ง...

    จู่ๆบรรยายกาศรอบๆก็ตกอยู่ท่ามกลางความเงียบ จนเสียงเครื่องเงินกระทบกับจานนั้นดังชัดเจนราวกับระบบเซอร์ราว เพราะจู่ๆเอลซ่าก็เกิดอาการมือไม้อ่อนขึ้นมาหลังจากที่ได้ยินคำถาม

     

    จะบอกว่าไม่เคยก็ไม่ได้ ก็เคยจริงๆนี้น่า(ครั่งเดียวเอง)

    แต่ข้ามั่นใจนะว่าเมื่อวานข้าไม่ได้ทำ...หรือว่าเราจะทำตาเราจำไม่ได้

    ถึงจะจับได้ว่าแจ็คจะโกหกก็เถอะแล้วก่อนหน้านั้นแหละ เกิดอะไรขึ้นบ้างละเนี้ย

     

    เท้าเรียวบางเอื้อมไปสะกิด(แตะ..??) เท้าของเด็กหนุ่มที่กำลังสนใจอยู่แต่อาหารในจาน ก่อนจะหันไปพูดกับเด็กหนุ่มที่เพิ่งเงยหน้าขึ้นมาแบบไม่ออกเสียงว่า พูด-อะ-ไร-สัก-อย่าง-สิ

     

    แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะได้ทำบางสิ่งพลาดไปอย่างไม่มีวันแก้ตัว...

     

    เพราะเด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาพยักหน้าแบบขอไปทีกับอันนาก่อนจะก้มลงไปจัดการการอาหารต่อ

     

    ทิ้งให้หญิงสาวเกิดอาการนิ่งค้างกลางอากาศจนแทบลืมหายใจ และดูเหมือนว่าน้องสาวตัวแสบจะไม่เว้นวรรคให้เธอหายใจหายคอแบบสบายๆเพราะเจ้าตัวตั้งคำถามที่ร้ายกาจขึ้นมาอีกหนึ่งข้อ...

     

    ซึ่งคราวนี้มันกลับทำให้ทุกคนนิ่งประหนึ่งถูกถอดปลั๊ก แน่นอนรวมถึงคริสตอฟฟ์แฟนหนุ่มของเธอด้วย..

     

    “แล้ว...พี่แจ็ค......เอ่อ...” อันนานั่งเอานิ้วจิ้มวนอย่างเขินอาย  “ข้างในหรือว่า...ข้างนอก” เจ้าตัวถามเสร็จก็รีบก้มหน้า ใบหน้าเรียวบางขึ้นสีจนเห็นได้ชัดพร้อมกับรอยยิ้มกว้างแก้มปริกับคำถามของตนถึงมันจะเป็นรอยยิ้มที่สดใสแต่มันก็ไม่ได้ทำให้คนที่โดนถามรู้สึกสบายใจไปด้วยเลย

     

    “ข้างนะ...”

     

    ตึง!!

    มือเรียวบางฟาดโต๊ะอาหารอย่างแรงก่อนจะรีบเอื้อมมืออีกข้างไปปิดปากของเด็กหนุ่มเอาไว้

     

    “มันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละอันนา พี่กับแจ็คเราไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อยไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียว”

     

    “หือ..อะ..อ่า อ่ะ” แจ็คที่โดนปิดปากอยู่พยายามแย้งแต่ก็ไม่สำเร็จ จึงเปลี่ยนเป็นส่งสายตาดุๆไปหาเอลซ่าแทนซึ่งแน่นอนว่า...

     

    โดนแอบหยิกแก้มด้วยความรัก(?)อย่างแรงจนไม่มีแรงที่จะขยับปากพูดไปตามระเบียบ

     

    “อ่ะ!! เอลซ่าเอานิ้วไขว้หลังไว้ทำไมล่ะ อลิซรู้นะ...อย่างนี้เขาเรียกว่าโกหกใช่ไหม..??” อลิซที่เงียบอยู่พูดสวนขึ้นเล่นเอาร่างบางที่กำลังแย้งไปต่อไม่ถูก

     

    “อลิซ!!

     

    “งั้นก็แสดงว่าพี่เอลซ่ากับพี่แจ็คก็....”

     

    “อันนา!!

     

    “พี่สองคน..อาจจะมีเจ้าตัวเล็กก็ได้นี้ เอ้..จะให้ชื่ออะไรดีน๊า...?? อื่ม... ฟลอล่า ไอวี่ หรือถ้าเป็นผู้ชายก็ อัลเวน เป็นไง เอ๊ะ!หรือจะชอบแบบตั้งใหม่ดีล่ะพี่เอลซ่า เอิ่ม...เอ็ดเวิรด์ที่แปลว่า ชนชั้นสูง หรือว่า เจสสิกาที่แปลว่าผู้หยั่งรู้อนาคตดี พี่ชอบแบบไหน..??”

     

    “พี่ไม่ชอบแบบไหนทั้งนั้นแหละ แล้วพี่ก็จะไม่ท้องด้วย อ๊า...พี่ไม่กินแล้ว ไปเดินเล่นข้างนอกดีกว่า” เอลซ่าว่าจบก็รีบเดินก้มหน้าไปอีกทาง แม้ว่าจะพยายามควบคุมอารมณ์สักเท่าไรกลับยิ่งรู้สึกถึงความร้อนที่แล่นอยู่ทั่วใบหน้าชนิทที่ไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ได้ทันทีเลยว่ามันแดงขนาดไหน

     

    มี..เจ้าตัวเล็กงั้นหรอ...

    ไม่มีทาง......









     
    จะบอกว่าอาจจะมีเรื่องต่อไปแต่ไม่ใช่ภาค 2

    เอิ่ม...ตอนแรกคุยกับรีดแบร์ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิก็เอื่อม..ไอเดียตรงกัน คือเมลล์คิดไว้สองแบบคือ 1แบบในโรงเรียน 2 แบบพวกคนที่ทำงานเป็นสายลับ ซึ่งไอ้โรงเรียนเนี้ยมีเยอะแหละ แถมยังมาได้คำยุยงให้แต่งแบบ Mr&Mrs smitt (เขียนงี้ป่ะ) ก็ไม่เคยดูคงต้องลองดู ไอเดีย
    Mr&Mrsนี้ได้จากไรต์แบร์ แต่เมลล์ได้ไอเดียนี้จาก เพลง trouble maker กับเพลง now หวังว่ามันคงได้มีโอกาศโผล่ออกมาให้รีดได้อ่านกันนะ

    อันนี้เรื่องย่อคราวๆ..
    เอลซ่าได้คำสั่งมาให้ฆ่าแจ็คแต่ทำไม่สำเร็จเพราะสับสนเรื่องระดับฝีมือของแจ็คที่ได้มา แถมยังถูกจับไปเป็นตัวประกันอีก องกรณ์ที่เอลซ่าสังกัดอยู่เลยเปลี่ยนคำสั่งให้เอลซ่าหาจุดอ่อนของแจ็คแทน เรื่องก็ประมาณนี้
    ปล. ถ้ามีโอกาศได้แต่งลืมแจ็ค ver. เด็กหนุ่มผู้แสนดีไปได้เลย

    โอเคม่ะ ชอบไม่ชอบบอกก่อนนะ แต่งมาแล้วไม่อ่านงอนด้วย ตอนนี้วางโครงเรื่องได้ 60% แล้ว รับสมัครไรต์ที่มีไอเดียดีๆที่จะนำเสนอเป็นผู้ช่วยด้วยนะค่ะถ้ามี ตอนนี้ได้ไรต์แบร์คนแหละ

    อันนี้ ฟิคไรต์แบร์นะ โปรโมตๆๆ >>clik<< 

     
    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×