คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : chapter 02 โจรใจกล้า กับ ยัยจอมแย่งซีน
2
❄ โจรใจกล้า กับ ยัยจอมแย่งชีน ❄
เสียงฝีเท้าของเจ้าหญิงอันนาดังไปทั่ววัง เธอรีบวิ่งเพื่อหาเอลซ่าพี่สาวคนเดียวที่สุดเฮี้ยบ ฟอร์มจัด แต่แอบดื้อเงียบ นี่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอทำตามใจตนโดยไม่ฟังใคร แพทย์หลวงสั่งให้เธอนอนพักแท้ๆแต่กลับแอบหนีออกมา แถมตอนนี้เธอไปไหนแล้วก็ไม่รู้
“เจอแล้ว พี่เอลซ่า!!” เมื่อเจอเป้าหมายอันนาก็รีบวิ่งไปอย่างสุดชีวิต ชนิดที่ใครเห็นก็คงไม่เชื่อว่านี้คือเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรเอเรนเดลล์
“พี่ลุกขึ้นมาทำไหม แพทย์หลวงบอกให้พี่นอนอยู่เฉยๆไม่ใช่หรอ แล้วแบบนี้เมื่อไรแผลบนหัวพี่จะหายสักทีละ เร็วๆรีบไปนอนพักเลย” อันนาวิ่งไปดักหน้าเอลซ่าก่อนจะดันเธอไปอีกด้านหนึ่ง
“พี่ไม่เป็นไรหรอกอันนา อีกอย่างมันฝีมือใครกันล่ะ” เอลซ่ายิ้มมุมปากก่อนจะหรี่ตามองมาที่น้องสาวตัวแสบ
“จะลงโทษยังไงดีน่---า หรือว่า..จะให้มาชแมลโล่อยู่เล่นเป็นเพื่อนดี” เอลซ่าแกล้งพูดหยอกน้องสาวเพราะรู้ดีว่าอันนายังกลัวเจ้าตัวโตนี้อยู่ ทำให้เธอต้องรีบถอยไปตั้งหลักจนหลังชนผนังห้อง
“ไม่เอานะพี่เอลซ่า” อันนาว่าพลางยกมือขึ้นตั้งการ์ด
“พี่ล่อเล่นนะ” เอลซ่าหัวเราะมองน้องสาวสุดที่รักอย่างเอ็นดู ก่อนจะหันหลังเดินไปต่อ
“พี่ไม่ได้ทำอะไรหรอก พี่ก็จะแค่ไปดูห้องนอนเก่าที่ตอนนี้พี่ให้ช่างเปลี่ยนมันเป็นห้องทำงาน ว่าจะไปดูรายละเอียดหน่อย พรุ่งนี้พี่จะเริ่มทำงานที่ห้องนั้นเลย”
อันนาที่เดินตามหลังรีบวิ่งมาดักหน้าพี่สาว “โห่.. แล้วพี่จะไม่นั่งอยู่ในนั้นทั้งวันเหมือนเมื่อก่อนอีกหรอ”
“ไม่หรอก ทั้งหมดนี้คือความพยายามของพี่ เพื่อน้องและเพื่อทุกคนในอาณาจักรนี้”
และเพื่อชดใช้ความผิดในครั้งนั้น....
ทันทีที่ทั้งสองเดินมาถึงห้องนอนเก่าของเอลซ่า ห้องที่เธอเคยเก็บตัวอยู่หลายปีเพื่อปิดบังเรื่องที่เธอมีพลังควบคุมน้ำแข็ง ป้องกันไม่ให้ใครเห็นว่าเธอคือแม่มดหรือปีศาจร้าย แต่ตอนนี้มันไม่เป็นเหมือนอย่างที่เคย บรรยากาศภายในห้องมันทั้งอบอุ่นและอ่อนโยน..
..เพราะตอนนี้ประตูห้องมันได้ถูกเปิดออกแล้ว
“องค์ราชินีเอลซ่า เจ้าหญิงอันน่า ถวายบังคมพะยะค่ะ” พวกช่างที่ทำงานอยู่หยุดถวายการต้อนรับ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป
“นี่คือรายชื่อสิ่งของและหนังสือที่ทางเราจะรวบรวมมาไว้ในห้องนี้พะยะค่ะ” นายช่างนายหนึ่งถวายกระดาษแผ่นยาวให้องค์ราชินี
เอลซ่ากวาดสายตาอ่านอย่างคราวๆ ก่อนจะหันไปสั่งกับนายช่างคนเดิม “ข้าอยากได้แผนที่อาณาจักรเอเรนเดลล์ทั้งหมด แล้วก็หนังสือกฎหมายของอาณาจักรนี้ อ่อ!! ขอรายชื่อพร้อมประวัติอย่างคราวๆของราชนิกูลอาณาจักรข้างเคียงทุกคนด้วยนะ”
“นี่ท่านพี่จะอ่านทั้งหมดเลยหรอ” อันนาทำหน้าแหยงๆ
“พี่ไม่ได้อ่านมันแต่พี่จะจำมันทั้งหมดต่างหาก แล้วเราก็ต้องช่วยพี่จำด้วย” เอลซ่าตอบน้องสาวด้วยใบหน้าสงบนิ่งราวกับกำลังอ่านราชโองการสำหรับพิธีการสำคัญอยู่ แต่คนฟังนี้สิหน้าถอดสีแล้ว
“แล้วของพวกนี้จะทำอย่างไรดีพะยะค่ะ” นายช่างชี้ไปทางกองหนังสือและกล่องของเล่นเก่าๆ
เอลซ่าเดินไปที่กองของเหล่านั้นพร้อมกับนั่งลงมองพวกมันด้วยสายตาที่อ่อนโยน ในตอนเด็กที่เธอเก็บตัวอยู่ในห้องนั้นก็ได้พวกของเหล่านี้แหละที่คอยเป็นเพื่อนเธอยามเหงา พลันสายตาเธอก็ไปสะดุดกล่องหนังสือเล่มหนึ่งเป็นเล่มที่เธอชอบที่สุดและอ่านบ่อยที่สุด
Rise Of The Guardians
“พี่ชอบอ่านหนังสือแบบนี้ด้วยหรอ” อันนาชโงกหน้าลงมาดู
“อื่ม”
“แล้วพี่เชื่อไหม” อันนาถามต่อด้วยความสงสัยตามประสาเด็ก(ไม่รู้จักโต)อย่างเธอ
เอลซ่าหน้าแดงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหลับตาลงครู่หนึ่งแล้วตอบน้องสาวของเธอด้วยสีหน้าปกติ “พี่ไม่เชื่อหรอกเรื่องแบบนี้ เราเองก็เถอะโตแล้วนะ” ว่าจบเอลซ่าก็ดีดหน้าผากอันนาก่อนจะเดินออกจากห้องไป
เธอจะไปบอกใครได้แหละว่าราชินีแห่งอาณาจักรเอเรนเดลล์เชื่อหนังสือนิทานก่อนนอนปรัมปราอย่างนั้น
ถึงเธอจะหลอกอันนาไปอย่างนั้น แต่ใจจริงของเธอนั้นเชื่อเรื่องพวกนี้อย่างสุดซึ้งเพราะเธอคิดอยู่เสมอว่าถ้าคนธรรมดาอย่างเธอมีพลังวิเศษในการควบคุมหิมะได้ละก็ จะมีเทพผู้พิทักษ์สักห้าคน สิบคน หรือร้อยคนก็ไม่เห็นจะแปลก
“ถ้าอาจารย์ของอันนาเมื่อไร มาเรียกพี่ด้วยนะอันนาพี่จะไปดูเราเรียน เจ้าจะได้โดดเรียนไม่ได้” ว่าจบเอลซ่าก็เดินกลับไปที่ห้องของตน
ทิ้งให้อันนาทำหน้าเซ็งโลกกับการเรียนที่เธอสุดแสนจะขยาด
ห้องนอนเอลซ่า
เอลซ่าเดินเข้ามาในห้องของตนวางหนังสือเล่มโปรดสมัยเด็กลงบนเตียง ก่อนจะทิ้งตัวลงนอน มือเรียวบางเผลอจับแผลที่เพิ่งได้มาตอนออกไปตามหาน้องสาวของตน ก่อนจะค่อยๆผล่อยหลับไป
แอด...
หน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดไว้เป็นทางลมถูกดันออกเล็กน้อย เพื่อที่ผู้มาเยือนจะได้ใช้เป็นประตูทางเข้าในแบบฉบับของตน
เด็กหนุ่มกระโดนลอยข้าม โต๊ะและตู้หนังสือที่ดูทั้งเก่าและหนาไปอย่างไม่ไยดี ก่อนที่จะลงไปนั่งบนเตียงข้างหญิงสาวที่นอนหลับพริมอยู่ แจ็คค่อยๆเอือมมือไปลูบแผลที่เขาเป็นตนเหตุอย่างไม่ตั้งใจ..
..ก็ตอนแรกเขาตั้งใจจะปาให้โดนหัว ใครจะไปรู้ว่าเธอจะหันหน้าเอาหน้าผากมารับมันแบบเต็มๆแบบ full version ขนาดนี้
เจ็ค ยกมือที่ลูบแผลของเอลซ่าออก ก่อนจะเหลือบสายตาไปเห็นหนังสือเล่มเก่าที่วางอยู่บนเตียง
Rise Of The Guardians
เด็กหนุ่มเปิดผ่านๆอย่างไม่สนใจเพราะช่วงที่เขาเดินทางไปรอบโลกเขาได้อ่านหนังสือเล่มนี้ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ แต่ทว่าเด็กหนุ่มก็ต้องหยุดชะงักอยู่ที่หน้าที่มีรูปของเขาอยู่ ไม่ใช้เพราะเขาสนใจรูปวาดที่แทบจะไม่มีเค้าหน้าของเขา แต่ที่เขาสนใจคือลายมือที่ใช้สีเทียนเขียนแบบเด็กๆบนรูปของเขาต่างหาก
I love him
jack frost is my frist love and I am gonna be his wife ^_^
แจ็ครีบปิดหนังสือก่อนจะยื่นพิงผนังห้อง ตลอดชีวิตเขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนและแน่นอนหลังจากที่ไม่มีชีวิตแล้วเหมือนกัน ก็แน่หละคนที่มองเห็นเขานับเป็นรายหัวได้เลย
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะปิดหนังสือดังไปหน่อย เอลซ่าที่นอนหลับอยู่ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ทันทีที่สายตาของเธอเห็นผู้บุกรุก พลังของเธอก็ทำงานอย่างรู้หน้าที่หนามน้ำแข็งพุ่งออกมาจากกำแพงที่แจ็คยื่นพิงอยู่
เด็กหนุ่มคว้าไม้เท้าก่อนจะตีลังกาไปยื่นอยู่บนโคมไฟชันนาเรีย
“เจ้าเป็นใคร” เอลซ่าเดินลงจากเตียงก่อนจะที่สายตาจะเหลือบไปเห็นหนังสือเล่มโปรดของเธอตกอยู่ แถมหน้าที่เปิดค้างไว้ดันเป็นหน้าที่เธอเคยเขียนเล่นไว้ตอนเด็กๆซะด้วย
“นายอ่านมันหรอ”
“นี่ๆ เอลซ่าคำถามเก่าข้ายังไม่ทันตอบเลยนะ คำถามใหม่มาอีกแล้วจะให้ข้าตอบตอนไหน” เด็กหนุ่มยักไหล่อย่างไม่สนใจ เขาค่อยๆยื่นบนโคมไฟก่อนจะเอนตัวไปพิงมันโดยไม่มีท่าทีว่าจะกลัวตกลงมาแม้แต่น้อย
“ก็ตอบมันทั้งหมดนี้แหละ แล้วโจรอย่างเจ้ากล้าดียังไงมาเรียกชื่อข้าห้วนๆ”
“ข้าเนี้ยนะโจร นี่ๆแม่คุณข้าเป็นใครเจ้าก็น่าจะรู้ ก็บอกเองนี้ว่าอยากแต่งงานด้วย” เด็กหนุ่มที่ยื่นบนโคมไฟยักคิ้วกวนๆตามแบบฉบับของตน แต่นั้นกลับทำให้คนที่อยู่ด้านล่างฟิวขาดเข้าไปใหญ่
“แต่งงาน?? ดูเหมือนว่าแค่พูดกันมันยังไม่รู้เรื่องสินะ” พายุเริ่มโหมกระหน่ำในห้อง เอลซ่าสร้างบอลหิมะก่อนจะระดมปาไปที่เด็กหนุ่มที่ยื่นเกาะอยู่บนโคมไฟชันนาเรีย
ก็อยากจะเล่นให้หนักกว่านี้อยู่หรอก แต่ทำไงได้เธอไม่มีปีก หรือสายลมที่จะพาเธอขึ้นไปบนโคมไฟชันนาเรียได้นี่น่า หรือจะสร้างหนามน้ำแข็งก็คงไม่เหมาะเพราะถ้าพลาดนิดเดียวนั้นหมายถึงชันนาเรียขนาดยักษ์จะตกลงมาทับเธอแทน ก็มีแต่ต้องปาให้ตกลงมาเท่านั้นแหละ
“นี่เจ้าคิดว่าเจ้าสร้างหิมะได้คนเดียวงั้นหรอ” แจ็ค ฟรอตส์ฉีกยิ้มอย่างผู้มีชัย เขาค่อยๆลอยลงมาบนพื้นตามสายลม “เจ้าทำแบบนี้ได้หรือเปล่า” แจ็คทาบมือไปบนบานกระจกไม่นานกระจกบานนั้นก็เคลือบไปด้วยน้ำแข็ง เขาค่อยๆวาดนกตัวน้อยก่อนจะทำมือคล้ายกับพยายามดึงมันออกมา และพริบตานกตัวนั้นก็บินไปทั่วห้องก่อนจะมาหยุดเกาะที่นิ้วของเอลซ่า
“แบบนั้นนะสำหรับข้าหายใจยังยากกว่าเลย” เอลซ่าว่าจบก็เชิดหน้าขึ้นก่อนเล็กน้อย เธอสะบัดมือเล็กน้อยนกตัวเดิมก็บินไปเกาะบนไหลของแจ็ค เธอวาดมือวนไปในอากาศเกล็ดหิมะหมุนวนไปดั่งที่ใจเธอนึก ไม่นานก็ปรากฏกวางเรนเดียรขนานย่อมๆที่สวมหมวกมายากลทรงสูงอยู่ตรงหน้าของเธอ
“ก็แค่ปั้นหิมะขึ้นมาแบบนั้นสู้ข้าไม่ได้หรอก” แจ็คแตะไม้เท้าของตนก่อนจะตวัดขึ้นมาพาดบนไหล
“ข้าให้โอกาสเจ้าพูดใหม่อีกที” ทันทีที่เอลซ่าพูดจบกวางปั้นตัวเดิมก็ยื่นด้วยสองขา ก่อนจะเดินไปทางแจ็คที่ยื่นตาค้างกับภาพที่ตนเห็น
“ทักทายนะฮะ” ไม่เดินไปเปล่าเจ้ากวางตัวน้อยพูดทักทายแจ็ค พร้อมกับยกหมวกของตนออกเล็กน้อย
แจ็คใช้ไม้เท้าอันเดิมดันเจ้ากวางตัวนั้นออกห่างตน ก็ได้ตานี่เขาแพ้ แต่มันจะไม่ตลอดไป
“แล้วแบบนี้หล่ะ??” แจ็คกระทุ้งไม้เท้าของตนลงบนพรมแดงใต้เท้าของตนพริบตา พื้นห้องก็กลายเป็นลานน้ำแข็งพร้อมทั้งสไลเดอร์ และตุ๊กตาหิมะครบครันขาดก็แต่เด็กที่จะมาเล่นมัน
“ข้าว่าเจ้าคงต้องเสียใจอีกรอบ” เอลซ่ายกชายกระโปรงของตนด้วยมือทั้ง 2 ข้างก่อนจะกระแทกเท้าของตนลงบนลานน้ำแข็งของ แจ็ค ฟรอสต์อีกที แต่คราวนี้มันไม่ได้เกิดน้ำแข็งรูปเกล็ดหิมะใต้เท้าของเธอ
แต่เป็นเท้าของ แจ็ค ฟรอสต์
เอลซ่าเพลอยิ้มออกมาก่อนจะวาดมือคล้ายกับว่ายกฐานเกล็ดหิมะนั้นออกมา
แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้ตั้งใจเสกปราสาทน้ำแข็ง แต่ที่เธอเสกคือคุกน้ำแข็งที่แข็งแกร่งที่สุดต้อนรับการมากเยื่อนของโจรใจกล้า ที่ห้าวหารถึงขั้นกล้าบุกขึ้นมาขโมยของในห้องนอนของราชินีแห่งอาณาจักรเอเรนเดลล์อย่างเธอ
“ที่นี้ตอบคำถามของข้ามาซะ เจ้าโจรไร้น้ำยา” เอลซ่าสร้างดาบน้ำแข็ง ก่อนจะยื่นไปที่ใบหน้าของแจ็ค แต่เขากลับไม่ได้ทำสีหน้าหวาดกลัวเธอแม้แต่น้อย กลับกันเขายังทำหน้าสนุกสนานดังเช่นเคย มิหนำซ้ำเขายังไม่มีท่าทีจะตอบคำถามของเธออีกด้วย
“แล้วเจ้าจะรู้ว่าเจ้าเล่นกับใครอยู่ ทหาร!! มีใครอยู่บ้าง ปล่อยให้คนแปลกหน้าเขามาในห้องข้าได้อย่างไร” เอลซ่าตะโกนเรียกทหารเวรยามที่อยู่ใกล้ๆ
“เอ่อ..คือถ้าข้าเป็นเจ้าข้าจะไม่ทำอะไรอย่างนั้นนะ...ถ้าเจ้ายังไม่อยากให้ใครเห็นว่าเจ้าเพี้ยน” แจ็คนั่งลอยไปลอยมาในกรงน้ำแข็งของเอลซ่าด้วยไม้เท้าของตนอย่างใจสบายใจ
ไม่นานนักทหารเวรยามหลายสิบคนก็พังประตูเข้ามาในห้องของราชินี แต่ภาพที่พวกเขาเห็นตรงหน้ากลับเหมือนห้องที่ผ่านสมรภูมิรบ มีทั้งหนามน้ำแข็ง ลานหิมะ และเอลซ่าที่ยื่นดาบไปทางกรงน้ำแข็งที่ว่างเปล่า
“เอ่อมีอะไรหรอครับองค์ราชินี” ทหารเวรนายหนึ่งตัดสินใจเอ่ยถามเอลซ่าที่กำลังยื่นงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ทำไมพวกเจ้าไม่เข้ามาจับเจ้าโจรนี่หล่ะ”
“ก็เพราะว่าพวกเขาไม่เห็นข้านะสิ ฮ่าๆๆ โอ้ย..” แจ็คลอยไปหัวเราะไปจนหัวโขกเข้ากับกรงน้ำแข็ง ก่อนจะลงไปนั่งขำเสียงดัง แน่นอนไม่มีใครได้ยินเสียง นอกเสียจากเอลซ่าที่ตอนนี้กำลังก้มหน้าพยายามปกปิดใบหน้าของตนที่ร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้ใบหน้าของเธอนั้นแดงขนาดไหน
“จะเอายังไงดีพะยะค่ะ องค์ราชินี” เอลซ่าไม่ได้หันหน้าไปตอบทหารยาม แต่เธอกลับเงยหน้ามาของความช่วยเหลือจากเด็กหนุ่มที่เธอขังเขาไว้ในกรง
แจ็คเกาหัวของตนก่อนจะเสกก้อนน้ำแข็งแล้วปาไปทางบานกระจกที่เขาแอบย่องเข้ามา แต่ดูเหมือนว่าเอลซ่าจะยังไม่เข้าใจความคิดของเขา แจ๊คใช้นิ้วโป้งชี้ไปทางหน้าต่างบานเดิม ก่อนจะพูดอย่างไม่ออกเสียงว่า..
.. “ฉัน-หนี-ไป-แล้ว”
เอลซ่าพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าของตนให้เป็นเหมือนเดิมแล้วหันมาสั่งกับทหารเวรด้วยสีหน้าสงบนิ่งอีกครั้ง “เอ่อ เจ้าโจรนั้นหนีไปทางหน้าต่างบานนั้นแล้ว ช่วยทีนะ”
ไม่นานพวกทหารเฝ้ายามก็รีบวิ่งลงไปตามหาผู้บุกรุกตามคำสั่งขององค์ราชินี ทิ้งให้เอลซ่าอยู่กับแจ็ค ฟรอสต์เพียงสองคนอีกครั้ง
“เจ้าเป็นใครกันแน่” เอลซ่าถามย่ำอีกครั้ง
“แจ็ค ฟรอสต์” เด็กหนุ่มในกรงพูดหน้านิ่ง ตามประสาคนชอบกวนประสาทอย่างเขา
“แจ๊ค ฟรอสต์” เอลซ่าพูดทวนชื่อของเด็กหนุ่มอย่างช้าๆ ชื่อที่เธอไม่เคยคิดว่าจะได้ยินมาก่อน แต่ตอนนี้เขาก็มาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
“ตัวจริง...” ถึงเธอจะพยามทำใจไม่เชื่อ แต่สิ่งที่เธอเห็นก็เป็นสิ่งยื่นยันที่ดีว่าเขาเป็นตัวจริง เอลซ่าค่อยๆโบกมือของเธอลงกลับพื้นไม่นานน้ำแข็งทั้งหลายก็กลายเป็นหิมะสลายไปในอากาศ
“ใช่ๆนั้นแหละข้า ตัวจริงเสียงจริงเลย” แจ็คตื่นเต้นทุกทีเวลามีคนเรียกชื่อเขา ยังไงเขาก็ยังไม่ค่อยชินอยู่ดี แจ็คลอยไปลอยมาก่อนจะมาลงจอดบนเตียงของเอลซ่า “เป็นราชินีนี้ดีเนอะมีแต่คนรัก แถมเตียงนอนก็ทั้งนุ่มทั้งกว้าง สั่งอะไรใครก็ทำตามหมดไม่ขัดสักนิด”
“เจ้านี้มะ..” แอลซ่าตั้งท่าจะโวยวายต่อแต่ดูเหมือนว่าสัญญาณสงบศึกชั่วคราวมาถึงแล้ว
“พี่เอลซ่าครูฝึกเต้นรำของอันนามาแล้วนะ จะมาดูไม่ใช้หรอ..รีบๆหน่อยนะพี่” เสียงอันนาตะโกนมาแต่ใกล้แน่นอนว่าเอลซ่าบอกเธอหลายหนแล้วเรื่องมารยาทที่ดีของเจ้าหญิง เธอซักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะเปลี่ยนจากให้อันนาเรียกเต้นรำ ไปเรียนมรรยาทที่ดีของราชนิกูลดีไหม
เอลซ่าเดินออกมาหน้าห้องของตน “เดี่ยวพี่ตามไป อันนาไปก่อนได้เลย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรเอเรนเดลล์ก็ยกชายกระโปรงขึ้นก่อนจะรับวิ่งไปทางห้องโถงใหญ่ ซึ่งเอลซ่าได้เห็นท่าทางของน้องสาวก็อดขำไม่ได้ และอีกอย่างเพราะทางที่อันนาวิ่งไปนั้นมันก็เป็นทางอ้อมที่จะไปห้องเรียนของเธออีกต่างหาก
เอลซ่าเดินกลับเข้ามาในห้องก่อนจะเปิดห้องเสื้อผ้าของเธอ เธอเลือกมันมาชุดหนึ่งก่อนจะยื่นหันหลังให้กระจก เอลซ่าพยามเอื่อมมือไปด้านหลังเพื่อปลดกระดุมเสื้อ
ซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะลืมอะไรบางอย่างไป...
“ท่าทางเจ้าลำบากนะ ให้ข้าช่วยไหม” แจ็คที่ยืนหันหลังให้ประตูห้องเสือผ้าพูดลอยๆขึ้นมา แต่มันก็ไม่พ้นไปเข้าหูใครบางคนที่พยามปลดกระดุมเม็ดสุดท้ายอยู่พอดี
“นายนี้มัน...” เอลซ่ากดเสียงต่ำก่อนจะคว้าผ้าที่แขวนอยู่บนราวไม้ปาไปทางแจ็คที่ยืนอยู่ปากประตูพร้อมกับก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่พุ่งตรงไปที่หัวของเด็กหนุ่มที่โดนผ้าคลุมอยู่โดยที่เจ้าตัวไม่ได้มีโอกาสแก้ตัวเลยสักวินาทีเดียว
เอลซ่าเดินออกมาจากห้องแต่งตัวก่อนจะมองแจ็คที่ใบหน้าของเขามีรอยช้ำอยู่ที่มุมปาก ทันทีที่แจ็คเห็นเอลซ่าเดินออกมาจากห้องแต่งตัว เจ้าตัวก็ลอยมาหยุดอยู่ตรงหน้าพร้อมกับใบหน้ากวนๆที่ไม่ได้รู้สึกผิดกับเหตุหารณ์เมื่อครู่สักนิด“เจ้าจะไปดูน้องเจ้าหรอ ข้าไปด้วยสิ”
เอลซ่าแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นแจ็คก่อนจะเดินหลบไปอีกทาง
“ได้....เล่นแบบนี้ใช่ไหม” เด็กหนุ่มกระตุกยิ้มก่อนที่จะเอื้อมมือไปคว้าผมสีบลอนที่เธอถักไว้อย่างหลวมๆ แน่นอนถูกดึงผมแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้เป็นใครก็ต้องล้ม และสุภาพบุรุษที่ดีก็ควรรับสุภาพสตรีที่ล้มลงด้วยอ้อมแขน
แต่ไม่ใช้กับ แจ็ค ฟรอสต์ ^_^
ความคิดเห็น