คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 : Malfoy and Potter?
Fic Harry Potter [DM/HP] What is
it called ?
_________________________________________________________
Chapter 2 : Malfoy and
Potter?
มัลฟอยกับพอตเตอร์งั้นเหรอ?
แฮร์รี่ได้แต่นั่งหน้าตึงอยู่ในร้านไม้กวาดสามอัน นี่มันเลยเวลานัดนานมากแล้วแต่หมอนั่นก็ยังไม่มาสักที ขวดบัตเตอร์เบียร์ว่างเปล่าเป็นขวดที่สี่ในขณะที่เขาเองก็ก้มมองนาฬิกาข้อมือเป็นรอบที่เท่าไรก็ไม่รู้นับตั้งแต่มานั่งรอที่นี่ มาดามโรสเมอร์ทายังคงแวะเวียนมาถามไถ่ถึงการนัดแนะของเขาในครั้งนี้แต่ตัวเขาเองก็ได้แต่ยิ้มน้อยๆ เป็นการบอกปัด
หากเจ้าหมอนั่นมา
มาดามก็จะรู้เองแหละว่าใครนัดเขาไว้
แต่เขาก็สงสัยว่าทำไมสถานที่นัดแนะถึงเป็นหมูบ้านฮอกส์มี้ดแทนที่จะเป็นที่อื่น
ที่นี่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองลอนดอนอันเป็นที่ตั้งของกระทรวงเวทมนต์มาก
หรือว่าหมอนั่นจะไม่อยากให้ใครเห็นว่าไปไหนมาไหนกับเขากัน....
แต่นี่มันร้านไม้กวาดสามอันนะ
ไม่ว่าจะที่ไหนยังไงก็ต้องมีคนรู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง!
จู่ๆ
แฮร์รี่ก็รู้สึกถึงเสียงซุบซิบที่ดังขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ถึงจะจับใจความไม่ออกว่าพูดถึงอะไรก็ตามแต่แฮร์รี่คิดว่าเขาควรทำตัวอยากรู้อยากเห็นสักหน่อย
มันเป็นงานของมือปราบมารนี่นะเพราะมักจะมีข้อมูลแปลกๆ
ในหมู่สมาคมนิยมการซุบซิบอยู่แล้ว
บางทีนี่อาจจะเป็นการพูดถึงผู้เสพความตายที่หลบหนีไปก็ได้
แฮร์รี่ยังจำใบประกาศจับผู้เสพความตายตัวเบ้งหลายรายที่แปะตามผนังหรือกำแพงทั่วทั้งโลกเวทมนต์ได้เป็นอย่างดี
คนที่ออกใบประกาศจับก็ไม่พ้นพวกเขานั่นแหละ และถ้าหากที่คนในร้านพูดถึงผู้เสพความตายจริงๆ
ล่ะก็เขาจะได้รวบรวมข้อมูลไปสอบถามในกระทรวงได้ภายหลัง
“พอตเตอร์”
เสียงเรียกยานคางเป็นเอกลักษณ์ดังขึ้นท่ามกลางเสียงซุบซิบ ในที่สุดพ่อเจ้าพระคุณที่นัดเขาไว้ก็มาสักที
แฮร์รี่หันหลังกลับไปมองคนตัวซีดในชุดเสื้อคลุมพ่อมดสีดำเต็มยศก่อนจะพูด
“มัลฟอย”
“แกมัวนั่งบื้อทำอะไรอยู่
ไปกันได้แล้ว” มัลฟอยว่าก่อนจะเดินสะบัดผ้าคลุมออกจากร้านไม้กวาดสามอันทันที
ในขณะที่แฮร์รี่นั้นฉุนกึ่กจนอยากสาปให้เจ้าหมอนั่นกลายเป็นเฟอร์เร็ตอีกรอบให้รู้แล้วรู้รอด
แล้วที่ให้เขามานั่งรอในร้านตั้งสองชั่วโมงนี่มันหมายความว่าอะไร
แฮร์รี่รู้สึกคันมืออยากสาปมัลฟอยขึ้นมาจริงๆ
เสียแล้ว
“แฮร์รี่ พอตเตอร์คนนั้นกับผู้เสพความตายกลับใจ
พวกเขาเป็นเพื่อนกันเหรอ!?”
“งั้นที่เขาลือกันว่าคนบ้านมัลฟอยเปลี่ยนใจเพราะแฮร์รี่
พอตเตอร์ก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ”
“คนหนึ่งคือวีรบุรุษ
อีกคนคนผู้แปรพักตร์ นี่มันภาพหาดูยากจริงๆ เลยนะเนี่ย!”
แฮร์รี่หันหลังให้กับคำซุบซิบนินทาที่ได้ยินมาเต็มสองรูหูอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะก้าวอาดๆ
ตามมัลฟอยไป ตัวเขาชินเสียแล้วกับการถูกเอ่ยถึงไม่ว่าจะในทางที่ดีหรือทางที่เลวร้าย
เด็กหนุ่มยังจำครั้งล่าสุดที่เขาถูกเรียกว่าคนโกหกได้เป็นอย่างดี
เขาเจ็บใจที่ไม่มีใครเชื่อทั้งๆ ที่เขาพยายามจะบอกทุกคนว่าโวลเดอมอร์กลับมาแล้ว
แต่มันก็ห้าปีมาแล้วล่ะนะที่โวลเดอมอร์หายไปจากโลกนี้และเขาก็ไม่รู้สึกเจ็บแผลบนหน้าผากมานับแต่นั้น แฮร์รี่คิดว่านี่คงเป็นเรื่องดีๆ อีกเรื่องหลังจบสงคราม
สภาพจิตใจเขาดีขึ้นตามลำดับแต่เขาก็ไม่กล้าที่จะไปผูกพันกับใครมากขนาดนั้นอีก
เขากลัว.... เพราะเขาไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีก
แฮร์รี่ไม่อยากสูญเสียใครอีกต่อไปแล้ว
แม้แต่กับพวกรอนเองแฮร์รี่ยังพยายามทิ้งระยะห่าง
เขารู้ว่าทำแบบนี้มันไม่ถูกแต่ก็เป็นตัวเขาเองนั่นแหละที่ไม่พร้อม
รอนเองก็ไม่ทันได้สังเกตแต่เฮอร์ไมโอนี่เป็นคนฉลาด เธอรู้ทันเขา.... รู้ทันเขาหมดนั่นแหละ
เธอปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวสักระยะแล้วค่อยเทียวมาหาทุกๆ วันหยุดสุดสัปดาห์
ตัวเขาที่สภาพจิตใจดีขึ้นสาเหตุหนึ่งก็คงเป็นเพราะเพื่อนสาวคนนี้ด้วย
ต้องขอบคุณเฮอร์ไมโอนี่จริงๆ
“นั่นนายจะเดินไปไหนกันมัลฟอย”
แฮร์รี่หยุดความคิดตัวเองก่อนจะเอ่ยถามคนที่เดินนำอยู่ไม่ไกล เขารู้สึกว่าเส้นทางนี้ไม่มีคนอยู่รอบๆ
เลย
“แกอย่าถามอะไรเยอะแยะนักได้ไหมพอตเตอร์
เดี๋ยวก็รู้เอง” มัลฟอยตอบทั้งๆ ที่ยังเดินนำหน้าเขาอยู่
เขารู้สึกไปเองหรือเปล่าที่เห็นว่าระยะห่างระหว่างเขากับเจ้าหมอนั่นมันลดลง
แฮร์รี่เดินตามแผ่นหลังตั้งตรงนั้นไปจนกระทั่งเขาจำได้ว่าจุดหมายปลายทางที่มัลฟอยหมายตาไว้คืออะไร
“เพิงโหยหวน? นายพาฉันมาที่นี่ทำไม”
“ตามมาพอตเตอร์”
มัลฟอยไม่เพียงแค่เมินเฉยต่อคำถามของเขาเจ้าตัวยังเดินลิ่วๆ
เข้าไปในเพิงโหยหวนทันที
แฮร์รี่กลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเดินตามไป
มัลฟอยลดความยียวนชวนหาเรื่องลงก็จริงแต่ท่าทางที่ไม่แยแสเขาแบบนี้นี่มันน่าโมโหเป็นบ้าเลย
หมอนั่นจะตั้งตัวเป็นศัตรูเขาอีกนานแค่ไหนกัน โอเค
เขาไม่ได้คาดหวังจะเป็นเพื่อนกับหมอนั่น
แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาอยากเป็นคู่แค้นกับหมอนั่นตลอดไปสักหน่อย เป็นคนรู้จักธรรมดาที่เจอหน้ากันแล้วทักทายพอเป็นพิธีแค่นี้มันจะเป็นไปไม่ได้เลยหรือไง
“จะยืนอยู่อย่างนั้นอีกนานไหมพอตเตอร์
โซฟามีให้นั่งทำไมไม่นั่งหรือคนอย่างแกไม่อยากจะนั่งร่วมกับฉันกัน”
มัลฟอยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงยียวน
แฮร์รี่จึงเห็นว่าเจ้าตัวลงไปนั่งกับโซฟาหนังตัวใหญ่ที่ตั้งวางอย่างเป็นระเบียบ
“ช่างฉันเถอะ
เข้าเรื่องมาเลยดีกว่ามัลฟอย อย่าพูดนั่นพูดนี่ให้เสียเวลา
นายทำฉันเสียเวลามามากแล้ว”
เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างไม่พอใจก่อนกระแทกตัวนั่งโซฟาตรงข้ามกับเด็กหนุ่มอีกคน
“ฉันไม่รู้สึกแปลกใจเท่าไรที่แกตอบรับคำขอของแม่ฉัน
ที่ต้องนัดแกมาทั้งๆ
ที่แกตอบรับคำขอไปแล้วล่าช้าถึงหนึ่งอาทิตย์เพราะฉันได้ข้อมูลของผู้เสพความตายคนอื่นจากพ่อเลยเสียเวลาไปล่ามันแทนพ่อฉันที่บาดเจ็บอยู่”
มัลฟอยเอ่ยขึ้นมาเรียบๆ นัยน์ตาสีเทาซีดไหววูบเล็กน้อยยามเอ่ยถึงบิดา
“และวันนี้ที่ฉันมาช้าเพราะได้อุบัติเหตุนิดหน่อย”
มัลฟอยว่าก่อนจะเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง
แฮร์รี่ไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมที่เจ้าหมอนี่ดูสุขุมเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนิดหน่อยแล้วที่แปลกก็คือเขาไม่เห็นรอยยิ้มเย้ยหยันที่เป็นเครื่องประดับหน้าของมัลฟอยมาสักพักแล้วด้วย!
“แล้วยังไง”
เขาถามต่อเมื่อเห็นมัลฟอยเงียบอยู่นาน ใบหน้าซีดนั้นดูซีดเหมือนกระดาษเข้าไปใหญ่
แฮร์รี่อดคิดไม่ได้ว่าคนตรงหน้าไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า
“เรื่องของโรลว์ใช่ไหมที่นายจะมาคุยกับฉัน”
เด็กหนุ่มเอ่ยออกไปในที่สุดเพราะจุดประสงค์ของมัลฟอยคงไม่ใช่อยากจะมากวนเขาเล่นๆ
หรอก มันก็มีอยู่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น
“ใช่
ฉันเจอที่กบดานของมันแล้ว อยู่ไม่ไกลจากกระทรวงเลยด้วยซ้ำ ใครจะคิดว่ามันอยู่ใกล้ขนาดนี้กัน
ดูเหมือนว่าภายในกลุ่มของมันมีเรื่องขัดแย้งกันนิดหน่อย
โรลว์มันเลยฆ่าผู้เสพความตายที่เหลือ
ฉันไปเจอก็แค่ร่างไร้ลมหายใจของพวกมันส่วนโรลว์ไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว” แล้วมัลฟอยก็เข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง
เส้นผมสีบรอนด์เริ่มหลุดลุ่ยไม่เป็นทรงหรือจริงๆ มันไม่เป็นทรงมาแต่แรกแล้วกันนะ
ด้วยระยะที่ไม่ได้ไกลกันมากนักทำให้แฮร์รี่สังเกตความผิดปกติของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน
เขาไม่ได้คิดไปเองแล้วล่ะ ใบหน้าซีดนั้นมีเหงื่อเกาะอยู่ไม่น้อย
คิ้วนั่นก็ขมวดแน่นเสียน่าตกใจ ฝ่ามือสองข้างก็ประสานกันแน่นอย่างอดกลั้นอะไรบางอย่าง
“มัลฟอย
นายเป็นอะไรหรือเปล่า” เขาเอ่ยถามออกไปอย่างใคร่รู้
“ไม่ใช่เรื่องของแก พอตเตอร์ ไสหัวไปได้แล้ว!”
อีกฝ่ายนั้นได้ยินก็ดูเหมือนจะโกรธเขามาก มัลฟอยตะคอกเสียงดังก่อนหอบหายใจน้อยๆ
“ตามใจนายแล้วกัน!
ที่นัดมาอยากจะพูดแค่นี้ใช่ไหม ลาก่อน!”
แฮร์รี่เองเมื่อถูกตะคอกใส่อย่างไร้เหตุผลก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที
คนเขาอุตส่าห์ถามไถ่อย่างหวังดี
ในเมื่อเป็นแบบนี้จะเป็นอะไรก็ช่างนายแล้วกันมัลฟอย!
แฮร์รี่ลุกจากโซฟาแล้วหายตัวไปในทันที
ใบหน้ายามก่อนหายตัวไปของเขานั้นดูเหมือนอยากจะชกมัลฟอยสักหมัดสองหมัด
แต่ก็ได้แค่มองตาขวางแล้วหายตัวไปในที่สุด
ในเพิงโหยหวนที่บัดนี้น่าจะเป็นพื้นที่ส่วนตัวของมัลฟอยก็เหลือเพียงแค่เด็กหนุ่มที่นั่งหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
เด็กหนุ่มที่ว่าถอดเสื้อคลุมสีดำสนิทออกจากตัวโยนไปมุมห้องทันที
เขาก้มมองเสื้อคอเต่าสีดำที่สวมอยู่ ปรากฏรอยไหม้เป็นทางที่ทะลุไปถึงตัวเขา เดรโก มัลฟอยมองความเสียหายอยู่สักพักก่อนจะค่อยๆ
เลิกเสื้อขึ้นอย่างระมัดระวัง
“โอย”
เขาครางออกมาอย่างอดไม่ได้ รอยไหม้ลวดลายแปลกๆ
บนหน้าท้องฝั่งขวาเริ่มจะลามไปยังแผ่นหลัง หัวไหล่และหน้าอก เจ็บ...
เดรโกคิดแต่ไม่ได้พูดออกไป
การร้องลั่นแสดงออกถึงความเจ็บปวดมันเป็นสิ่งที่ไม่น่าดู ถึงตัวเขาในสมัยก่อนทำสิ่งไม่น่าดูอย่างนั้นมาแล้วหลายต่อหลายครั้งก็ตาม เขาอดตำหนิตัวเองไม่ได้ อ่อนแอ น่าสมเพชและพึ่งพาไม่ได้เลยจริงๆ
แต่ตัวเขาในตอนนี้ไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว อย่างน้อยก็ไม่ได้อ่อนแอ หลงทางอยู่ภายใต้เงาบิดาอีกแล้ว เขาเปลี่ยนไปทีละนิด อย่างน้อยเขาคิดอย่างนั้น
“ชิ”
เดรโกสบถอย่างหัวเสียเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เขามาตามนัดพอตเตอร์ล่าช้า
เขาไม่น่าพลาดเลยจริงๆ ยิ่งนึกถึงเด็กหนุ่มก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้น
ถ้าเขาไม่บังเอิญไปพบกับโรลว์ขณะตามรอยมันต่อหน้าพวกมักเกิ้ล
ป่านนี้เขาคงสำเร็จโทษมันด้วยตัวเองไปแล้ว
ในใจเดรโกอยากจะร่ายคำสาปใส่โรลว์ใจจะขาดแต่มันติดที่มีเด็กหญิงมักเกิ้ลอยู่ในเหตุการณ์ด้วย
เด็กคนนั้นเกะกะเขาจริงๆ
ในระหว่างที่เขามองเด็กคนนั้นว่าจะจัดการยังไงดีโรลว์ก็ร่ายคาถาอะไรก็ไม่รู้ใส่ตัวเขาแล้วหายวับไป
ต่อหน้าต่อตาเขาเลย!
เดรโกคิดจะหายตัวตามไปแต่ติดตรงเด็กมักเกิ้ลคนนั้น
เธอเดินกล้าๆ กลัวๆ เข้ามาหาเขาก่อนจะบอกว่า “พี่ชายเลือดไหลแน่ะค่ะ” เขาถึงได้สังเกตว่าบนพื้นมีของเหลวสีคล้ำเปื้อนอยู่
เห็นดังนั้นจึงก้มไปมองบนร่างกายตัวเองถึงได้พบว่าไอ้ของเหลวที่ว่าต้นเหตุมาจากตัวเขานี่เอง
ยัยเด็กผมทองนี่ก็ตื้อไม่เลิก
เดินจูงมือเขาไปบ้านมักเกิ้ลของตัวเองหน้าตาเฉย! นั่นทำให้เขาเสียเวลามากกว่าการปะทะกับโรลว์เสียด้วยซ้ำ! เพราะยัยเด็กคนนี้พยายามขอร้องให้เขาทำแผลแต่เขาปฏิเสธหนักแน่นแถมยังมาชวนเขาคุยนั่นคุยนี่พลางจิบน้ำชากับเลม่อนเค้กยามบ่ายจนเขาลืมเวลาไปเลย
นี่มันแย่ชะมัด
เขาเองก็ได้แต่ใช้สายตาแสดงความรำคาญแต่ยัยเด็กนี่กลับทำเป็นมองไม่เห็น
มันน่าสาปนัก!
สุดท้ายเขาก็ทนฟังยัยเด็กที่ชื่อมาการ์เร็ตได้ไม่นาน(อันที่จริงก็นาน)
เขาจึงเดินออกจากบ้านมักเกิ้ลหลังเล็กและหายตัวไปยังฮอกส์มี้ดทันที แล้วผลของไอ้คาถาที่โรลว์ร่ายใส่ก็เพิ่งจะมีผลตอนที่เขาหายตัวนี่แหละ
ความแสบร้อนที่แผดเผาช่วงท้องแล้วลามไปเรื่อยๆ เจ็บจี๊ดไปถึงสมอง
เดรโกที่กำลังหายตัวทำได้แค่กัดฟันแน่นเท่านั้น
ความเจ็บปวดที่ไม่แน่ว่าอาจรุนแรงกว่าคำสาปกรีดแทงนั้นทำให้เขาแทบจะเดินเป็นเส้นตรงไม่ไหวแต่จะแสดงท่าทางอ่อนแอให้พอตเตอร์เห็นไม่ได้เด็ดขาด! เขาจึงฝืนทนไปพบพอตเตอร์ทั้งๆ ที่ตัวเขาก็ยังเจ็บปวดอยู่ แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องทนเห็นพอตเตอร์แสดงความสมเพชเขาต่อหน้า
“ความปรารถนาดีของแก
ฉันไม่ต้องการพอตเตอร์” เดรโกพึมพำกับตัวเองก่อนจะกัดฟันกลั้นความเจ็บปวดอีกครั้งเมื่อไอ้รอยไหม้ประหลาดขยายวงกว้างและลากยาวไปเรื่อยๆ
ตอนนี้เขาโยนเสื้อคอเต่าทิ้งไปมุมห้องอีกตัวแล้ว ทั่วทั้งร่างซีดเผือกอย่างผิดปกติ
เหงื่อไหลซึมกายมากขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกเหมือนใกล้จะหมดสติยังไงก็ไม่รู้แฮะ
แล้วทุกอย่างที่ดับมืดไปพร้อมกับร่างสูงที่ล้มลงนอนนิ่งบนโซฟาตัวใหญ่
มืด....
หนาว... หนาวจังเลย
แม่ครับ
แม่ครับ... แม่อยู่ไหน
พ่อ....
พ่อช่วยผมด้วย
อะวาดรา
เคดราฟร- -
เฮือก!
เด็กหนุ่มหอบหายใจอย่างหนักหน่วง
จมูกสูดอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุดอย่างกระหาย เหงื่อผุดเต็มใบหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
เส้นผมสีบรอนด์ปรกลงมาที่หน้าผากเพราะหยาดเหงื่อ
นัยน์ตาซีสีดแสดงอาการหวาดกลัวอย่างปิดไม่มิด
เดรโกสูดหายใจเข้าช้าๆ
พยายามรวบรวมสติ ในที่สุดเข้าก็รู้ว่าที่แท้เขาก็แค่ฝันร้าย ฝันร้ายที่จบไปแล้ว
ฝันร้ายที่ไม่มีอีกแล้ว เขาเพิ่งจะรู้ตัว... จริงๆ
เขาเพิ่งจะรู้ตัวว่าแท้จริงแล้วจิตใต้สำนึกเขาหวาดหวั่นต่อจอมมารแค่ไหน
เขากลัวที่จะตายมากขนาดไหน
เดรโก
มัลฟอยก็ยังเป็นเด็กหนุ่มน่าสมเพชไม่เปลี่ยนแปลง แต่มันแปลกตรงไหนหรือที่จะหวาดกลัวต่อความตาย...
“หึ”
เด็กหนุ่มแค่นหัวเราะอย่างขมขื่น สองมือยกขึ้นปิดตาอย่างเหนื่อยล้า สำหรับเด็กที่โตมากับการถูกตามใจแบบเขา
การทำอะไรเองจริงๆ จังๆ มันออกจะเกินตัวไปหน่อยจริงๆ
สินะถึงได้ฝันอะไรเป็นตุเป็นตะขนาดนี้
“ตื่นแล้วเหรอมัลฟอย
นายนี่แทบจะสลบข้ามวันไปแล้วนะ” เสียงปริศนาดังขึ้นมาจากด้านหลัง เดรโกสะดุ้งสุดตัว
เขาเพิ่งรู้... ว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ใคร...
ใครมันกล้าเข้ามาในเพิงโหยหวนแบบนี้
เด็กหนุ่มขมวดคิ้วก่อนจะกำไม้กายสิทธิ์ที่เขาไม่รู้ว่าเผลอคว้าออกมาจากเสื้อคลุมตั้งแต่เมื่อไร
“ถ้าไม่ใช่ว่าฉันลืมสมุดจดบันทึกงานของฉัน
ฉันคงไม่ย้อนกลับมาแล้วเห็นนายนอนตัวซีดเหมือนคนตายหรอกมัลฟอย!”
เสียงที่ว่ากระแทกกระทั้นใส่เขาอย่างใส่อารมณ์ ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าคนที่บุกรุกมายังเพิงโหยหวนคือใคร....
วาจาร้ายกาจและน้ำเสียงดูถูกกระแทกกระทั้นแบบนี้ มีอยู่คนเดียว ไม่สิ
มีอยู่สองสามคนที่พูดแบบนี้กับเขา
“หุบปากพอตเตอร์”
เดรโกตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหบแห้งก่อนจะพบว่าเขารู้สึกสบายตัวขึ้นมาก
ความเจ็บปวดในร่างกายหายไปแล้ว เขาก้มมองร่างกายตัวเองก็กับพบลวดลายแปลกๆ
บนร่างกาย เขาหันไปมองยังแผ่นหลังตัวเองแล้วพบว่าทั่วทั้งแผ่นหลังของเขาก็เต็มไปด้วยลวดลายประหลาดนี่
“นายรู้ตัวหรือเปล่ามัลฟอยว่าที่นายโดนมันเป็นคาถาศาสตร์มืดขั้นรุนแรงถึงชีวิต
โชคดีแค่ไหนที่ฉันรู้วิธีแก้นายเลยยังไม่ตายนี่ไง มันเลยทิ้งแค่ลวดลายนิดหน่อย”
พอตเตอร์พล่ามไม่หยุดจนเขาเริ่มรำคาญ เจ้าหมอนี่มันพูดมากแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน
ด้วยความไม่ชอบใจส่วนตัวบวกกับอาการเหนื่อยล้าที่สะสมมาสักพัก
เด็กหนุ่มจึงออกปากไล่คนที่อยู่ด้านหลังอีกครั้ง “ใครถามนายพอตเตอร์ กลับไปซะ”
“ทำอย่างกับฉันอยากอยู่กับนายตาย!”
พอตเตอร์เอ่ยกระแทกกระทั้นก่อนจะใช้คาถา วิงการ์เดียม เลวีโอซ่า เอาข้าวโอ๊ตอุ่นๆ มาไว้ตรงหน้าเขา
“กินซะ จะได้ไม่แห้งตายอยู่ที่นี่”
หลังจากเห็นเขานั่งนิ่งไม่แตะอาหารอยู่นาน
พอตเตอร์จึงถอนหายใจก่อนจะพึมพำทำนอง ช่างหัวนายเถอะ มัลฟอย ก่อนจะหายตัวออกจากเพิงโหยหวนไป
ในจังหวะที่พอตเตอร์หายตัวไปชามข้าวโอ๊ตก็ตกลงสู่เบื้องล่างทันที ....ยังดีที่เขารับไว้ทัน
เมื่อได้กลิ่นหอมๆ
ของข้าวโอ๊ตเดรโกก็เพิ่งรู้ตัวว่าเขาหิวเหลือเกิน
เขาจึงตักข้าวโอ๊ตเข้าปากทันทีและเขาก็เพิ่งจะพบว่ารสชาติของข้าวโอ๊ตนี่มันถูกปากเขามากกว่าที่แม่ทำให้กินเสียอีก
“ฉันไม่ขอบคุณแกหรอกนะพอตเตอร์”
เด็กหนุ่มพูดเบาๆ ก่อนจะทานข้าวโอ๊ตจนหมด
เขาลุกขึ้นก่อนจะโบกไม้กายสิทธิ์เรียกเสื้อคลุมสีดำกับเสื้อคอเต่ามาสวมใส่แล้วหายตัวกลับคฤหาสน์พร้อมถ้วยข้าวโอ๊ตในมือที่เขามารู้สึกทีหลังว่ามันยังอยู่ในมือเขาตอนถึงคฤหาสน์แล้ว
เช้าวันถัดมาในขณะที่เดรโกกำลังคิดวิธีบุกจับตัวทอร์ฟินน์
โรลว์ เสียงเรียกของนาร์ซิสซาพร้อมกับเสียงเคาะเบาๆ ก็ดังขึ้นหน้าประตูห้องนอน
เขาเดินไปเปิดประตูให้มารดาก่อนจะเห็นใบหน้าที่ฉายแววประหลาดใจของผู้เป็นแม่ เขาเลิกคิ้วอย่างสงสัยแต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรมารดาก็ชิงพูดเสียก่อน
“เดรโกเมื่อวานลูกไปทำอะไรมา”
“ทำอะไร?
ผมทำอะไร? หมายความว่ายังไงครับแม่” เดรโกทวนถามเสียงสูงอย่างไม่เข้าใจ
“ดูในเดลี่
พรอเฟ็ตเอาแล้วกันลูกรัก”
ผู้เป็นแม่บอกเสียงเบาก่อนจะเดินออกไปพร้อมปิดประตูลงอย่างมีมารยาท
ลับหลังนาร์ซิสซาไม่นานเดรโกก็หยิบหยังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันนี้ขึ้นมาดูทันที
แฮร์รี่ พอตเตอร์ ผู้พิชิตจอมมาร นัดพบ เดรโก
มัลฟอย ผู้เสพความตายกลับใจงั้นหรือ?
พวกเขากลายเป็นพันธมิตรต่อกันเพื่อจับกุมผู้เสพความตายดังข่าวลือจริงหรือไม่?
หรือแท้จริงแล้วพวกเขาแค่กำลังเดทกันลับๆ
แต่ไม่อยากให้ใครรู้กันแน่!?
โปรดอ่านต่อในหน้าแปด
เดลี่
พรอเฟ็ตในมือเดรโกมีไฟลุกพรึ่บและเหลือแต่เศษขี้เถ้าทันทีที่เจ้าตัวอ่านข้อความบนหน้าแรกของเดลี่
พรอเฟ็ตจบ ไหนจะมีรูปภาพเคลื่อนไหวที่พอตเตอร์หันมามองเขาอีก
นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย! เดรโกสบถลั่นในใจอย่างหงุดหงิด
ซึ่งก็ไม่ต่างจากบ้านเลขที่สิบสอง
กริมโมลด์เพลซเลยสักนิด แฮร์รี่ พอตเตอร์เองก็โวยวายเสียงดังลั่นก่อนจะโยนหนังสือพิมพ์เช้าวันนี้ใส่เตาผิงอย่างเดือดดาล
ทิ้งให้เอลฟ์ประจำบ้านชรามองเจ้านายด้วยความงุนงง
_________________________________________________________
สวัสดีฮะ~ ตอนที่สองมาแล้ว เย่~
จริงๆ เราเขียนไปเขียนมาก็ชักจะงงๆ ว่าข้อมูลที่เราอิงมาด้วยเนี่ยมันถูกต้องจริงไหมน้อ
แต่ก็เอาเป็นว่าอะไรที่เราผิดพลาดก็ช่วยคอมเม้นท์บอกด้วยแล้วกันเนอะ จะได้แก้ไขให้ดีขึ้น!
ตอนที่สองก็ยังไม่มีอะไรเท่าไร แค่มัลฟอยเขาไม่ได้รังเกียจมักเกิ้ลเท่าเดิม (ดูจากการแอบเอ็นดูยัยหนูมาการ์เร็ต)
(พยายาม)ไม่ดูถูกพ่อมดแม่มดที่เป็นลูกมักเกิ้ลอย่างน่าเกลียดอีกแล้ว (แต่ยังไม่ได้เขียนถึงตรงนี้คนอ่านเลยอาจยังไม่ทราบ)
คือเราพยายามเขียนแบบไม่ให้แฮร์รี่เป็นเคะแบบเคะจ๋าอ่ะนะ
พยายามนึกภาพแฮร์รี่ในหัวตอนพิมพ์แต่เหมือนไม่ช่วยอะไรเท่าไร (ร้องไห้)
ตอนนี้น่าจะจบได้ฮาพอสมควรเนอะ
เราอยากให้คนอ่านอ่านฟิคเราแล้วมีความสุขอ่ะ ไม่รู้จะมีความสุขกันไหม 555555
อย่างไรก็ตามนี่คือแฟนฟิค อะไรบางอย่างก็เขียนเพิ่มเติมไม่มีอยู่จริงตามต้นฉบับหรืออาจมีอยู่แต่ไม่ถูกพูดถึงก็ได้!
ส่วนบทที่สามรอกันไปยาวๆ หน่อยนะฮะ มันยัง in process อยู่เลย (ถ้ามีคนรออ่ะนะ ฮา)
ความคิดเห็น