คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ผู้ช่วยส่วนตัว???
ตอนที่ 3
ก็อกๆ
“ทำอะไรน่ะยูมิ”
“นายน้อย กลับมาแล้วหรือค่ะ คือดิฉันจะมาตามคุณไอโกะ ไปทานข้าวน่ะค่ะ”
ยูมิพูดกับคุณชายแห่งตระกูลคานาตะ ที่เปิดประตูออกจากห้องมาพอดี
“อืม เธอไปเตรียมอาหารเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“เอ๊ะ แต่...”
“เถอะน่า ฉันบอกให้ไปก็ไปซิ”
“ค่ะ”
ยูมิไม่กล้าขัดนายน้อยคนนี้อีก ได้แต่นึกแปลกใจ ว่านายน้อยกับคุณไอโกะไปรู้จักกันตอนไหน นายน้อยถึงอาสาจะตามคุณไอโกะให้
ก๊อกๆ ก็อกๆๆๆๆๆ ก๊อกๆๆๆ
“ค่ะๆ จาตื่นแล้วค่ะแม่ ขอเวลาอีก 5 นาทีนะค่ะ” ฉันงึมงำ ตะโกนออกไป
กริ๊ก
“นี่เธอ ตื่นได้แล้ว เป็นผู้หญิงแท้ๆ นอนกินบ้านกินเมืองไปได้”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด นี่นายอีตาบ้า มีสิทธิอะไรเข้ามาในห้องฉัน ออกไปเลยนะ ออกไป ผู้ชายอะไรไร้มารยาทที่สุด”
“ โอ๊ยๆ พอๆ แกวหูฉันจะแตกตะโกนอยู่ได้ แล้วทำไมฉันจะไม่มีสิทธิฮะ ก็ที่นี่มันเป็นบ้านของฉัน ฉันมีสิทธิที่จะเข้าออกห้องไหนก็ได้ตามใจชอบ และก็ทุกเวลารู้ไว้ซะด้วย” ริวเฮยิ้ม อย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า
“นี่นาย ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะก่อนที่ฉันจะข้านายออกไปเลย ออกไป”
“ไม่ต้องมาไล่ฉันหรอก นึกว่าฉันอยากอยู่นักรึไง แค่จะมาตามให้ไปกินข้าวเท่านั้นแหละ เห็นไม่ลงมาซะที นึกว่าตายไปแล้วซะอีก ที่ไหนได้ นอนเป็นหมูขึ้นอืด ฮ่าๆๆ” พูดจบก็สะบัดหน้าเดินออกจากห้องไปทันที
“เฮอะ ไม่ได้ตื่นสายซะหน่อย ฉันตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอน 7โมงครึ่งแล้วนะ นี่ยังไม่เห็นจะปลุกเลย”
ฉันบ่นแล้วก็เอื้อมมือไปหยิบนาฬิกาปลุกกุ๊กไก่ของฉันออกดูว่ากี่โมงแล้ว
“หา ?? ตายแล้ว นี่มัน 10โมงครึ่งแล้วนี่ เป็นไปได้ไงอ่ะก็ฉันตั้งปลุกไว้แล้วนี่”
ฉันพยายามทบทวนความจำ แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อคืน นาฬิกาปลุกฉันมันร้องแล้วฉันก็เลยกดปิดมัน และก็ลืมตั้งเวลาปลุกใหม่
“โอ๊ย!! ตายแล้ว ฉัน!!!!”
ฉันรีบคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วตรงดิ่งเข้าห้องอาบน้ำทันที ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ฉันก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย
ฉันรีบวิ่งมาที่โต๊ะอาหาร แล้วก็เห็นอีตาริวเฮนั่นนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ พอได้ยินเสียงฉันเดินเข้าไปห็เหลือบตามมองเธอนิดนึง ก่อนจะปิดหนังสือพิมพ์แล้วเตรียมตัวทานอาหาร
“เหอะ ไม่เห็นต้องทำเก๊กมาดคุณชายเล้ย ฉันรู้ธาตุแท้ของนายลึกซึ้งดีแล้วล่ะย่ะ” (แหะๆ นี่น่ะคำพูดในใจ แต่เสียงที่พูดออกไปก็คือ)
“เอ่อ ขอโทษนะ ที่ฉันตื่นสาย”
จะไม่ให้พูดงี้ได้ไงล่ะ ก็พอหมอนั่นทำมาดนิ่งๆ แล้วใช้แต่สายตามองมาอย่างนี้มันน่ากลัวนี่ ดูคาดเดาอารมณ์ไม่ค่อยจะถูกเลย
ตลอดเวลาทานอาหารเราสองคนแทบจะไม่พูดจาอะไรกันซักคำ
จนกระทั่งทานเสร็จนั่นแหละ พี่ยูมิก็เข้ามาเก็บจาน แล้วก็เอ่ยทักทายฉัน
“สวัสดีค่ะ คุณไอโกะ เมื่อคืนหลับสบายมั้ยค่ะ”
“อ๋อค่ะ สบายค่ะ” ฉันพูดแล้วเหลือบมองริวเฮแว่บนึง
“มาค่ะ พี่ยูมิเดี๋ยวฉันช่วยเก็บค่ะ”
“ตายแล้วไม่ต้องหรอกค่ะ คูณไอโกะเป็นแขกนะค่ะ”
“แหม ให้ไอโกะช่วยเถอะค่ะ อยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ เบื่อแย่เลย”
“ไม่ต้อง ไม่ใช่หน้าที่ของเธออย่ายุ่ง” น้ำเสียงทรงอำนาจ แบบคนชอบสั่งดั่งขึ้น จะใครซะอีกถ้าไม่ใช่นายริวเฮ
พี่ยูมิเลยรีบออกเก็บจานออกไปทันที ปล่อยให้ฉันต้องเผชิญหน้ากับริวเฮตามลำพัง
“ฉันก็แค่อยากทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้างนะ” ฉันเป็นฝ่ายเริ่มกก่อน
“อยากจะช่วยนักเหรอ ? อย่างเธอจะไปทำอะไรได้” นายริวเฮไม่วายแขวะฉันจนได้ ท่าทางเขาดูหงุดหงิดชอบกล นี่ฉันคงไม่ได้ไปกระตุ้นต่อมโกรธเขาหรอกใช่มั้ยเนี่ย
“ได้ซิ อะไรฉันก็ทำได้ทั้งนั้นน่ะแหละ”
“งานอะไรก็ได้งั้นเหรอ ?”
“ใช่” ฉันยืนยัน แต่ก็อดหวั่นใจลึกๆเมื่อเห็นรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาจากใบหน้านั้น มันเป็นรอยยิ้มของเด็กที่กำลังจะได้ของเล่นชิ้นใหม่ยังไงยังงั้น
“ได้ในเมื่อเธออยากทำนักฉันก็จะให้เธอทำ”
“อืม งั้นฉันไปช่วยพี่ยูมิเข้าล้างจานเลยนะ”
“ไม่ต้อง ยูมิเขามีหน้าที่ของเขาอยู่แล้วเธอไม่ต้องไปก้าวก่ายหน้าที่ของคนอื่นหรอก”
“อ้าวแล้วจะให้ฉันทำอะไรล่ะ”
“เป็นผู้ช่วยส่วนตัวฉัน”
“ฮะ ว่าไงนะ ฉันไม่เอาด้วยหรอกผู้ช่งผู้ช่วยอะไร”
“แต่เธอเป็นคนเสนอเองนี่ว่าจะช่วย หรือว่าเธอคิดจะกลับคำ ไหนบอกจะให้ทำอะไรก็ได้ไง ไม่รักษาคำพูดเลยนี่?”
หนอยเอาคำพูดฉันมาย้อนเหรอ ฮึ่มๆ แต่ฉันพูดอะไรรักษาคำพูดอยู่แล้วไม่ยอมให้เสียชื่อหรอก เชอะๆ
“กล้าอยู่แล้ว ตกลงฉันจะเป็นผู้ช่วยส่วนตัวให้นายก็ได้ ว่าแต่ว่าจะให้ฉันทำอะไรล่ะ”
“เดี๋ยวก็รู้”
ริวเฮ ยิ้มอย่ามาดมั่น และนั่นก็ยิ่งทำให้ฉันด่าตัวเองไป สิบแปดล้านรอบ ว่าไม่น่าไปตบปากรับคำอะไรง่ายๆเล้ย ซวยจริงๆ
ความคิดเห็น