คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : รักแรกพบ
เสียงกรีดร้องที่ดังจนน่าหนวกหูในห้างสรรพสินค้าย่านใจกลางเมืองแห่งหนึ่งทำให้ หญิงสาวหุ่นเพรียวสูงอย่างนางแบบที่พกพาความอวบอิ่มมาด้วยเต็มพิกัด หันกลับไปมองด้วยความสนใจ ดวงตากลมโตที่มีแผงขนตางอนยาวล้อมรอบเพ่งมองไปบนเวทีว่างเปล่าที่มีแต่เพียงตัวหนังสือหลากหลายขนาดติดอยู่
คิ้วโก่ง เรียวสวยของเธอถูกเลิกขึ้นเล็กน้อยคล้ายกับเด็กที่กำลังนึกสงสัยในอะไรบางอย่าง กรี๊ดอะไรกันไม่เห็นมีใครซักคน...
คำถามหนึ่งผุดขึ้นมาในใจขณะเดียวกันกับที่คิ้วเรียวสวยเริ่มขมวดเข้าหากันอย่างช้าๆ เพราะไม่ทราบว่า คนกลุ่มนั้นจะส่งเสียงดังกันทำไมทั้งๆที่ไม่มีใครยืนอยู่บนเวทีเลยแม้แต่คนเดียว แต่ในขณะที่เธอกำลังจะหันหลังกลับเพราะหมดความสนใจ เสียงของพิธีกรที่ยืนอยู่ทางด้านหลังของเวทีขนาดใหญ่ก็ประกาศออกมาเสียก่อน
“ขอเชิญทุกท่านพบกับนักร้องรับเชิญของเราในวันนี้ได้แล้วครับ เชิญครับคุณหมูยอ”
สิ้นเสียง เหล่าแฟนคลับที่ติดตามมาคอยให้กำลังใจนักร้องหนุ่มรูปหล่อขวัญใจของตนเองก็พร้อมใจกันส่งเสียงกรีดร้องออกมาอีกครั้ง จนญาดานิลต้องแอบขำออกมา เพราะตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยรู้สึกชื่นชอบหรือปลาบปลื้มกับเหล่าดารานักร้องคนไหนมาก่อนเลยแม้แต่คนเดียว
ไม่ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะมีหน้าตาหล่อเหล่าปานเทพบุตรมาเกิดขนาดไหนก็ตาม จึงทำให้เธอไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใดเหล่าบรรดาแฟนคลับถึงจะต้องคอยติดตามไปให้กำลังใจนักร้องหรือดาราคนโปรดของตนเองทุกงาน ทั้งๆที่พวกเขาเหล่านั้นต่างก็ร้องแต่เพลงเดิมๆ ที่เคยฟังจนชินหู
ขาเรียวสวยภายใต้กระโปรงสีแดงสดทำท่าจะก้าวออกไปจากบริเวณนั้นเมื่อผู้คนที่อยู่รอบๆเริ่มทยอยเดินเข้ามาบริเวณหน้าเวที แต่ก็ต้องหยุดชะงักอยู่กับที่เมื่อเหลือบตาไปเห็นนักร้องหนุ่มเจ้าของเสียงกรี๊ดดังสนั่นที่กำลังเดินออกมาจากทางด้านหลังของเวที
ดวงตาของทั้งคู่ประสานกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่ฝ่ายชายจะส่งยิ้มให้เธอตามมารยาทที่ดีแล้วหันกลับไปส่งยิ้มให้คนอื่นๆต่ออย่างไม่มีนัยสำคัญ แต่สำหรับญาดานิลแล้วรอยยิ้มของเขากลับตอกตรึงเธอเอาไว้กับที่เหมือนกับตะปูตัวใหญ่ที่ตอกยึดไม้แผ่นบางเอาไว้บนข้างฝา
หญิงสาวยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นราวกับคนที่ต้องมนต์สะกด จนกระทั่งเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามาในโสตประสาท
“ขอทางหน่อยได้มั้ยคะ”
สิ้นเสียงญาดานิลก็ค่อยๆขยับกายออกห่างจากเส้นทางโคจรของเหล่าบรรดาแฟนคลับ ก่อนที่จะเดินไปตั้งหลักยังร้านขายขนมปังที่ตั้งอยู่ไม่ห่างออกไปเท่าไหร่นัก
“หมอกจางๆและควัน คล้ายกันจนบางทีไม่อาจรู้ อยากจะถามดู ว่าเธอเป็นอย่างหมอกหรือควัน หมอกจะงดงามและทำให้เยือกเย็น แสนจะเย็นสบายในยามเช้า ถ้าเป็นควันไฟ ถึงจะบางเบา ฟากเข้านัยน์ตาเรา ก็คงจะทำให้เสียน้ำตา...”
เสียงนุ่มทุ้มหูที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวไม่อาจละสายตาไปจากนักร้องหนุ่มหล่อคนนั้นได้อีกเป็นครั้งที่สอง ในสมองของเธอกำลังประมวลผลอย่างหนักพอๆกับเสียงหัวใจที่เต้นถี่รัว ว่าเธอเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามอันแสนแปลกประหลาดของเขามาก่อนหรือไม่
“หมูยอ...หมูยอไหน ทำไมฉันไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน”
ญาดานิลพึมพัมออกมาเบาๆ ขณะยกน้ำผลไม้ปั่นขึ้นมาจิบ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่บริกรหญิงยกขนมปังอบเนยกลิ่นหอมกรุ่นเข้ามาให้เธอพอดี
“หล่อดีนะคะ” หญิงสาวที่อยู่ในชุดฟอร์มของทางร้านเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม
“นี่ถ้าหนูไม่ติดงานอยู่หนูจะเดินเข้าไปดูพี่เขาใกล้ๆ คนอะไรรูปก็หล่อ เสียงก็เพราะยิ้มก็หวาน นี่ถ้าได้เป็นแฟนหนูรักตายเลย” เด็กสาวช่างพูดยังสาธยายสรรพคุณของชายหนุ่มต่อไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่ตนเองบอกว่ากำลังมีงานค้างอยู่
“รู้จักเขาด้วยเหรอ”
ญาดานิลเอ่ยถามออกมาด้วยความสนใจ หลังจากฟังบริกรสาวบรรยายสรรพคุณของนักร้องหนุ่มหล่อที่เธอเพิ่งจะรู้จักมาเป็นเวลาเกือบสองนาที
“รู้จักสิคะ พี่เขาชื่อหมูยอ นักร้องค่าย...”
ในขณะที่เด็กสาวกำลังจะเอ่ยชื่อของค่ายเพลงชื่อดังแห่งหนึ่งออกมา เสียงของผู้จัดการร้านจอมเฮี้ยบก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ทำให้เธอต้องเงียบเสียงลงแล้วรีบเดินกลับไปยังหน้าเคาเตอร์ตัวเดิมที่เธอเคยยืนประจำการอยู่ด้วยท่าทางจ๋อยๆเพราะกลัวจะถูกดุ
เมื่อบริกรสาวเดินจากไปญาดานิลจึงหยิบโทรศัพท์เครื่องบางของตนเองขึ้นมาจากในกระเป๋าแล้วซูมภาพของคนที่อยู่บนเวทีให้เข้ามาใกล้ให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะกดบันทึกภาพของเขาเอาไว้
แม้ว่าเธอจะสามารถโหลดภาพของเขาจากอินเตอร์เน็ตได้ แต่หญิงสาวก็อยากที่จะเก็บภาพความทรงจำครั้งแรกที่เจอเขาเอาไว้ด้วยตัวเองมากกว่าการไปหยิบยืมรูปถ่ายของเขามาจากคนอื่น
ญาดานิลจ้องมองผลงานการถ่ายภาพของตนเองที่ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอสี่เหลี่ยมขนาดเล็กด้วยสายตาพึงพอใจ หลังจากนั้นเธอจึงเก็บมันลงไปในกระเป๋าสะพายอย่างเดิมแล้วใช้ตาเปล่าของตนเองจ้องมองไปบนเวทีแทน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ญาดานิลก็รีบเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์เครื่องบางที่ตั้งอยู่บนโต๊ะแล้วเรียกหาโปรแกรม ค้นหาหรือที่ใครๆเรียกว่า อากู๋ขึ้นมาทันที เธอจัดการพิมพ์ชื่อเล่นของเขาลงไปในนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะหลุดขำออกมาเมื่อรูปที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอล้วนมีแต่ภาพของหมูยอที่เป็นแท่ง จากสารพัดแหล่งที่บรรยายถึงความอร่อยของตนเอง แทนที่จะเป็นรูปของชายหนุ่มรูปหล่อนัยน์ตาชวนฝันคู่นั้น
คนบ้าอะไรชื่อหมูยอ...
ญาดานิลส่ายหัวไปมาขณะพิมพ์คำว่านักร้องเพิ่มลงไป หลังจากนั้นไม่นานภาพถ่ายในอริยาบทต่างๆของชายหนุ่มจึงค่อยๆทยอยโผล่ขึ้นมาที่หน้าจอสี่เหลี่ยนแทนรูปของหมูยอที่เป็นแท่งๆอย่างเมื่อครู่ เธอจ้องมองภาพถ่ายพวกนั้นพร้อมกับรอยยิ้ม แล้วก้มลงไปควานหาโทรศัพท์เครื่องบางที่นอนสงบนิ่งอยู่ที่ก้นกระเป๋าถือของตนเองขึ้นมาเพื่อโทรหาใครบางคน
หญิงสาวรูปร่างแบบบางที่มักจะบ่นว่าตนเองอ้วนอยู่เสมอละมือจากเอกสารการประมูลที่ดินมูลค่านับร้อยล้านบาทเพื่อเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์จากเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของตนเอง
“ว่าไงยัยนิล”
“แกรู้ได้ไงว่าเป็นฉัน”
ญาดานิลนึกแปลกใจอยู่คร้ามครันที่โมธิการู้ว่าเธอเป็นคนโทรมาหาทั้งๆที่เธอยังไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
“ยัยปลาทองแกลืมไปแล้วเหรอยะ ว่าเบอร์นี้มีแกรู้แค่คนเดียวถ้าไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใครไปได้ ว่าแต่มีอะไรให้แจ๋วศรีคนนี้รับใช้เหรอคร้าถึงได้โทรมาป่านนี่น่ะ”
โมธิกานักธุรกิจหญิงไฟแรงเอ่ยแซวเพื่อนสาวก่อนที่จะหันไปหยิบขนมปังกรอบที่วางอยู่บนจากแก้วใบเล็กเข้าปากเป็นชิ้นที่สิบ ทั้งๆที่เธอตั้งใจว่าจะลดน้ำหนักมาเมื่อหลายเดือนก่อน
“ไม่มีอะไรหรอกแค่จะโทรมาถามว่าแกรู้จัก หมูยอมั้ย”
“หมูยอไหนวะ”
สาวผมหยิกตาคมขมวดคิ้วมุ่นเมื่ออยู่ๆเพื่อนสนิทของตนเองเอ่ยถามถึงของกินชนิดหนึ่งขึ้นมา “หมูยอโคราช หมูยอขอนแก่นหรือหมูยอไหน”
“ไม่ใช่ทั้งนั้นแหละ ฉันหมายถึงหมูยอคนที่เป็นนักร้องค่ายสานฝันน่ะ แกรู้จักมั้ย”
ญาดานิลนึกอยากจะกระโดดไปบีบคอเพื่อนรัก ที่เธอเอ่ยถึงหมูยอที่เป็นของกินออกมาแทนที่จะเป็นคนที่เธอตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นอย่างเรศวร์นดล
“อ๋อ พี่หมูยอน่ะเหรอ รู้จักสิ ว่าแต่แกถามทำไม”
“ฉันชอบเขา”
“อืม...เฮ้ย!! แกว่าไงนะนิล แกเนี่ยนะชอบนักร้อง เป็นไปได้ไง”
นักธุรกิจสาวตะโกนออกมาเสียงดังลั่น เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาเกือบยี่สิบปี เธอยังไม่เคยเห็นเพื่อนสาวคนสวยของตนเองจะนึกชื่นชอบดารานักร้องคนไหนมาก่อน พลางคิดว่าอย่าว่าแต่นักร้องเลย แค่ผู้ชายธรมดาๆ ญาดานิลยังไม่เคยบอกว่าชอบด้วยซ้ำไป จนเธอเผลอคิดไปแล้วด้วยซ้ำว่าเพื่อนสาวของตนเองเป็นแม่ชีกลับชาติมาเกิดหรือไม่ก็เป็นพวกหญิงรักหญิงด้วยกันเอง
“แกจะตะโกนทำไมล่ะยัยโม ทำไมมันแปลกรึไงที่ฉันจะหันมาชอบนักร้องกับเขาบ้าง”
“แปลกสิ แปลกมากด้วยอะไรเข้าสิงแกวะนิล แกไม่สบายรึเปล่า โดนอะไรตกใส่หัวมา เฮ้ย! นิลแกเป็นอะไรแกบอกฉันได้นะ ฉันเป็นห่วงแกนะเนี่ย” สาวตาคมเอ่ยทีเล่นทีจริง
“แกจะบ้าเหรอ ไม่มีอะไรตกใส่หัวแล้วก็ไม่มีอะไรเข้าสิงฉันทั้งนั้นแหละ ฉันชอบของฉันเอง” ญาดานิลส่ายหน้าพลางตอบปฎิเสธ
“โอ้ ญาดานิลสาวสวยหลงเสน่ห์ชายหนุ่มรูปหล่อเข้าให้แล้ว” โมธิกาเอ่ยแซวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมา
“ว่าแต่ที่แกโทรมาหาฉันเนี่ย คงไม่ใช่แค่โทรมาบอกว่าชอบพี่เขาอย่างเดียวใช่มั้ย แกต้องมีอะไรให้ฉันช่วยแหงๆเลย”
“รู้ทันตลอดเลยนะ งั้นก็เข้าเรื่องเลยแล้วกัน โม...แกพอรู้มั่งมั้ยว่าฉันจะเข้าถึงตัวเขาได้ยังไง”
สาวสวยที่ไม่เคยนึกชอบผู้ชายคนไหนมาก่อนเอ่ยถามออกมาอย่างคนอับจนหนทาง เพราะเธอไม่เคยเป็นแฟนคลับของดารานักร้องคนไหนมาก่อนจึงทำให้ไม่รู้ว่าตนเองควรจะต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะเข้าถึงเขาให้ได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้
ได้ยินดังนั้นโมธิกาก็หัวเราะคิกออกมาก่อนที่จะเฉลยข้อข้องใจของเพื่อนสาวในที่สุด
“ไม่ยากอันดับแรกแกจะต้องเข้าไปอยู่ในกลุ่มแฟนคลับของเขาให้ได้ แล้วแกก็ตามบรรดาแฟนคลับของเขานั่นแหละไป เพราะพวกแฟนคลับจะรู้ดีว่าวันไหนศิลปินสุดที่รักของพวกเขาจะไปทำอะไรที่ไหนบ้าง บางคนมีตารางเวลาเป็นเล่มๆ เหมือนผู้จัดการส่วนตัวของเขาเลยนะแก บางทีก็รู้ก่อนศิลปินอีก...”
หลังจากนั้นสาวผมหยิกตาคมจึงเล่าขั้นตอนในการเข้าถึงชายหนุ่มอย่างคร่าวๆให้เพื่อนสาวฟัง เพราะเธอเองก็เรียกได้ว่าเป็นแฟนคลับขั้นเทพของนักร้องเกาหลีคนหนึ่งเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงไม่เคยพลาดเรื่องการติดตามข่าวสารของเหล่าบรรดาคนดังทั้งหลาย ทั้งจากนอกและในวงการ
ญาดานิลพยักหน้าหงึกหงักทั้งๆที่ทราบดีว่าปลายสายไม่มีวันจะได้เห็นเพราะพวกเธอไม่ได้คุยกันด้วยโปรแกรม Tangoหรือ Skype ซึ่งเป็นโปรแกรมการสนทนาแบบเห็นหน้าฝ่ายตรงข้ามที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้
หลังจากวางสายจากเพื่อนสนิท ญาดานิลก็หันกลับมาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องบางของตนเองอีกครั้งแล้วเริ่มทำตามที่เพื่อนสาวแนะนำทันที เธอพิมพ์คำว่าแฟนคลับหมูยอแล้วนั่งรออย่างใจจดใจจ่อระหว่างรอโหลดข้อมูล แม้จะเป็นเวลาเพียงเสี้ยวนาทีแต่เธอกลับรู้สึกว่ามันยาวนานชั่วกัปชั่วกัลป์
ไม่นานข้อมูลของกลุ่มแฟนคลับของชายหนุ่มเสียงดีที่มีรอยยิ้มบาดใจสาวก็ปรากฏขึ้นมา พร้อมกับข้อความต้อนรับสมาชิกใหม่อย่างเป็นกันเอง
เห็นดังนั้นคนที่เพิ่งจะรู้สึกบ้านักร้องเป็นครั้งแรกในชีวิตจึงขอเข้าร่วมกลุ่มในทันที เธอรอข้อความตอบรับจากผู้ดูแลระบบอยู่ชั่วอึดใจก่อนที่จะส่งยิ้มออกมาเมื่อข้อความที่เธอร้องขอไปถูกตอบรับกลับมาอย่างรวดเร็วสมกับเป็นยุคสามจี
ญาดานิลหลับตาลงพร้อมกับล้มตัวลงนอนอย่างเป็นสุข เมื่อภารกิจเซฟรูปของเขาจากอินเตอร์เน็ตเสร็จสิ้นลงแม้มันจะกินระยะเวลานานกว่าห้าชั่วโมงก็ตาม
ความคิดเห็น