ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic exo] KILLING INDEFINITELY {Lumin ft.Chen} end

    ลำดับตอนที่ #7 : KILLING INDEFINITELY : chapter 6 เหยื่อที่กลายเป็นศพ

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ค. 57


    cinna mon






    6
    เหยื่อที่กลายเป็นศพ






     
         "จงแด"มินซอกเรียกชื่อผู้มาใหม่ด้วยน้ำเสียงแปลกใจ เมื่อกี้จงแดว่าไงนะ ลู่หานกับเซฮุนเคยคบกันมาก่อนงั้นเหรอ ทำไมเขาไม่เคยรู้เลย...



         "นายคงไม่กล้าฆ่าแฟนตัวเองหรอกใช่ไหม?"รอยยิ้มร้ายลึกของจงแดค่อยๆเผยออกมาในเวลานี้เขารู้สึกสะใจจริงๆที่ได้ฉีกหน้าลู่หานเด็กนี่คงไม่อยากให้มินซอกรู้เรื่องตัวเองกับเซฮุนเท่าไหร่เพราะว่ามันค่อนข้างจะเป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนิดนึงล่ะมั้ง  




         "ฉันกับเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว เขาเลิกกับฉันไปตั้งนานแล้วก็มาคบกับอี้ชิงถ้าตอนนี้เขายังอยู่เราก็เป็นแค่เพื่อนกัน"ลู่หานพยายามปรับสีหน้าตัวเองให้ราบเรียบ พูดให้เหมือนกับว่ามันคือเรื่องปกติแม้จะไม่ปกติก็ตาม...



         "ฉันเองก็ยังไม่ได้ว่าอะไร ทำไมต้องอธิบายซะยาวเหยียดเลย"ยิ้มที่ร้ายกาจยังคงแปะอยู่บนหน้าจงแด เขาไม่เคยรู้สึกเหนือกว่าใครขนาดนี้เลยจริงๆ



         "ฉันก็แค่อยากพูด นี่มันเรื่องของฉัน"ลู่หานเผลอขึ้นเสียงนิดหน่อย อี้ชิงที่ยืนมองเหตุการ์ณอยู่ก็เริ่มรู้สึกได้ถึงกลิ่นไอแปลกๆจากตัวจงแด อะไรบางอย่างที่ทำให้อี้ชิงรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้อันตรายกว่าที่คิด



         "งั้นก็พูดให้เต็มที่เพราะแฟนฉันคงจะแปลกใจมากเลยที่นายไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับเขา"มินซอกหลบสายตาลู่หานที่หันมามอง เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลย...อย่าบอกนะว่าเรื่องที่จองอาจะพูดกับเขาวันนั้นคือเรื่องนี้ ให้ตายสิจงแดรู้ จองอารู้แต่เขาไม่รู้



         "ฉันแค่ไม่รู้จะบอกนายไปทำไมน่ะมินซอก"ลู่หานหันมาทำสายตาอ้อนวอนใส่มินซอก



         "คือฉันขอตัวก่อนนะเลยเวลาพักมาแล้ว"มินซอกพูดตัดบทก่อนจะเดินดุ่มๆออกไป



         "เดี๋ยวๆ นี่จงแดคบกับคนประหลาดนั่นน่ะเหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลย เด็กใฝ่เรียนอย่างนายน่ะนะจะสนใจเรื่องนี้ด้วย แถมรสนิยมก็ยัง...แปลกช่ะมัด"อี้ชิงพูดขึ้นมาหลังจากปะติดปะต่อเรื่องได้



         "เรื่องของฉัน"จงแดที่ยืนแสยะยิ้มร้ายอยู่นานพอมินซอกเดินจากไปรอยยิ้มเสแสร้งก็หายไปจากใบหน้าหล่อเหลาทันทีเหลือทิ้งไว้แค่ความเย็นชาว่างเปล่าแบบทุกที



         "ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายคิดจะทำอะไร...แต่อดีตของนายก็ไม่ได้สวยงามเหมือนกัน"ลู่หานพูดขึ้นมาโดยไม่คิดจะหันไปมองจงแดที่กำลังจะเดินออกไป



         "อดีตที่สวยงามมันเรียกว่าความทรงจำแต่อดีตของนายกับเซฮุนคงจะต้องเรียกว่าฝันร้าย..."จงแดที่กำลังจะเดินออกไปก็พูดโดยไม่ได้หันหลังไปมองลู่หานเช่นกัน



         "......"



         "เพราะมันคืออดีตที่จบไม่สวยงามเท่าไหร่..."



         "......"ลู่หานยังคงเงียบต่อไป กำปั้นทั้งสองกำแน่นจนเล็บจิกหนังให้เลือดไหลออกมา ใบหน้าของเขาก้มงุดอยู่กับพื้นราวกับเก็บกดและรอมันประทุออกมา



         "ผู้ชายคนนั้นคงเป็นฝันร้ายสำหรับนายสินะ..."ราวกับมีมีดปักเข้ามากลางใจของลู่หานแล้วราดด้วยน้ำกรดอีกที



         "หยุด...พูด"เสียงของเขาสั่นเครือออกมา ลู่หานพูดเสียงเย็นยะเยียบจนคนฟังรู้สึกผวาแต่ไม่ใช่กับจงแด



         "Have fun with nightmare."ว่าจบจงแดก็เดินออกไป ในตอนนี้มีเพียงแค่อี้ชิงกับลู่หานเท่านั้นที่ยังอยู่หลังเวที ลู่หานไม่ขยับไปไหนร่างกายยังคงนิ่งงันราวกับถูกถอดวิญญาณ



         สนุกกับฝันร้ายงั้นเหรอ...ถ้าทำได้ก็ดีสิ








     
     《 KILLING INDEFINITELY 》







         มินซอกเดินหนีขึ้นมาที่ห้องเรียนด้วยความรู้สึกสับสนบางอย่างเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะแปลกอะไรถ้าลู่หานจะเคยมีแฟนมาก่อนแต่ว่าเซฮุนนี่นะ?พวกเขาไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกันมาก่อนหรอกเหรอ ทำไมทุกคนรู้หมดแต่เขากลับไม่รู้ มินซอกถึงได้สับสนอยู่นี่ไงว่าทำไมตัวเองต้องรู้สึกโกรธแปลกๆก็แค่ใครคนนึงไม่คิดจะบอกอะไรเขาเท่านั้นเอง...



         ขนาดเขายังบอกลู่หานยังบอกเลยว่าตัวเองคบกับจงแดอยู่แต่ทำไมลู่หานถึงไม่เคยคิดจะบอกเขาเลย มันค่อนข้างไร้สาระถ้าเขาจะโกรธแต่ทำไงได้ล่ะเขารู้สึกไปแล้วอันที่จริงแล้วเขายังไม่มั่นใจเลยด่วยซ้ำว่ามันคือความโกรธหรือว่า...ความน้อยใจกันแน่ แล้วนายมีสิทธิ์อะไรไปน้อยใจเขากันนะมินซอก



         มินซอกสะบัดหัวไล่ความคิดออกไปก่อนจะหันไปสนใจสิ่งที่คุณครูสอนบนกระดานเขาเงยหน้าไปมองครูผู้สอนด้วยอารมณ์ที่ไม่มีกะจิตกะใจจะเรียนและในตอนนั้นเองที่สายตาของมินซอกเหลือบไปเห็นเงาดำทะมึนบางอย่างอยู่ข้างหลังคุณครูที่ยืนอยู่หน้าชั้นเรียนเมื่อเขาลองสังเกตดีแล้วๆมันค่อยๆก่อตัวเป็นรูปร่างของใบหน้าคนที่โหยหวนอะไรบางอย่างพอมองตามปากมินซอกก็อ่านได้ว่า...



         
    หยุด...มัน...ที



         "เฮ้ย!"มินซอกเผลอตะโกนออกมาเสียงดังเมื่อใบหน้านั่นเข้ามาใกล้โดยเร็วเขาถึงกับหงายหลังลงไปนั่งกองกับพื้น



         "เป็นอะไรไปน่ะคิมมินซอก"เสียงของคุณครูผู้สอนถามนักเรียนของตัวเองที่จู่ๆก็โวยว่ยแล้วลงไปนั่งกับพื้น



         "เขาก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้วน่ะค่ะครู อย่าไปสนใจเลย"เสียงของนักเรียนคนนึงพูดขึ้นราวกับว่ามินซอกเป็นตัวตลกทุกคนในห้องต่างก็พากันหัวเราะเรื่องของคนอื่น



         "ขอโทษครับ"มินซอกที่ได้สติแล้ว รีบลุกขึ้นมานั่งเหมือนเดินพร้อมกับเอ่ยปากขอโทษเพื่อนในห้องที่ทำให้เสียเวลาเรียน เขาไม่ได้ตาฝาดไปแน่ๆ เงาผีนั่น...มันคือตัวเดียวกับผีผู้หญิงตนนั้นที่มาอยู่ในฝันของเขาเมื่อวันก่อน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน...





     
    《 KILLING INDEFINITELY 》


     




         ลู่หานนั่งหมดเรี่ยวแรงอยู่ใต้ต้นไม้ต้นเดิมที่เขากับเซฮุนเคยมานั่งด้วยกัน ลู่หานโดดเรียนเพราะว่าไม่มีกะจิตกะใจจะไปฟังครูบ่นๆในคาบเขาในตอนนี้เหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไร



         "ผู้ชายคนนั้นคงเป็นฝันร้ายสำหรับนายสินะ..."



         คำพูดของจงแดเมื่อสามชั่วโมงก่อนยังคงเวียนอยู่ในหัวของลู่หาน ประโยคที่ตอกย้ำอดีตที่เลวร้ายของเขาในตอนนั้น ลู่หานพยายามลืมมันแล้วแต่สุดท้ายก็เหมือนเดิมเขาไม่มีทางลืมมันได้เพราะมันคือฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนเขา



         เซฮุนอดีตแฟนเก่าและเพื่อนสนิทของลู่หาน ผู้ชายคนนั้นเป็นคนปลุกเขาจากฝันร้ายและมันก็ไม่แปลกที่เขาจะรักผู้ชายคนนั้นและที่เซฮุนทำดีกับลู่หานอย่างนี้มันก็เป็นเพราะว่าเซฮุนเองก็คิดเกินกว่าเพื่อนกับลู่หาน ทั้งคู่คบกัน...แต่สุดท้ายก็ไม่รอดเพราะลู่หานไม่ได้รักเซฮุนในแบบนั้นแล้วเขากลับมาคิดกับเซฮุนแค่เพื่อนส่วนเซฮุนยังคงรักลู่หานในแบบเดิมไม่เคยเปลี่ยนแต่สุดท้ายก็ต้องยอมเพราะไม่อยากจะฝืนใจเพื่อน



         "เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมแหละดีแล้ว นายคงไม่อยากนั่งเสียใจกับฉันที่หลังหรอก"



         "ทำไมต้องเสียใจด้วยฉันชอบนาย ความรู้สึกมันมากกว่าเพื่อน"



         "ไม่หรอกสักวันนายจะต้องเสียใจ...."



         แต่ทำไมถึงเป็นฉันฝ่ายเดียวที่รู้สึกผิดกับนายนะเซฮุน ทั้งที่คนผิดทุกอย่างมันไม่ใช่ฉันแท้ๆถ้าฉัน....



         ครืด



         ลู่หานที่นั่งเหม่อลอยอยู่สะดุ้งจากภวังค์เมื่อโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่นขึ้นมา พอหยิบออกมาดูก็พบว่ามีข้อความขยะส่งมาเท่านั้นและตอนที่กำลังจะเก็บมันเข้ากระเป๋า ภาพล็อคสกรีนรูปมินซอกที่เขาแอบถ่ายแล้วตั้งค่าไว้ก็ทำให้เขานึกขึ้นมาได้ นั่นสินะ...มัวแต่นึกถึงเรื่องเซฮุน ลืมมินซอกไปเลยป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะไม่รู้ว่าโกรธที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้หรือเปล่า...





     
    《 KILLING INDEFINITELY 》




         มินซอกเดินคอตกไปตามทางข้างถนน ตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงเย็นกว่าแต่ท้องฟ้าครึ้มเหมือนหกโมง ดูเหมือนฝนใกล้จะตกแต่ว่าที่มินซอกยังคงเดินอยู่แถวหน้าโรงเรียนมันเป็นเพราะว่าตัวเองทำเงินที่เอาไว้นั่งรถประจำทางกลับบ้านหายเลยต้องเดินกลับบ้านเองแต่มินซอกเห็นเมฆฝนลอยมาแต่ไกลอย่างงี้ก็กลัวว่าระหว่างทางที่เดินกลับไปแล้วฝนจะตกถ้าจะให้รอตรงนี้กว่าจะได้กลับก็คงทุ่มนึง




         สุดท้ายหลังจากที่ลังเลอยู่นานมินซอกก็ตัดสินใจเดินกลับเองในเวลานี้ถึงแม้จะยังไม่ดึกแต่ก็ไม่ค่อยเห็นผู้คน อาจจะเป็นเพราะเมฆดำทะมึนแบบนี้เลยไม่มีใครกล้าออกจากบ้านไม่ก็รีบกลับบ้าน



         ใบหน้ากลมๆสีขาวใสเดินก้มมองพื้นตลอดทางไม่คิดจะเงยหย้าขึ้นมา มินซอกรู้สึกว่าตั้งแต่เจอลู่หานอะไรๆก็ดูแย่ไปซะหมด เขาอยากรู้ว่าไอ้เด็กนั่นเป็นตัวซวยหรือไงถึงได้นำพาความโชคร้ายมาให้เขาอย่างนี้ นึกแล้วก็เจ็บใจตั้งแต่พักกลางวันก็ไม่เห็นลู่หานอีกเลย ถ้าให้มินซอกเดาเด็กคนนั้นคงไม่คิดจะง้อเขาเลยสินะ...ว่าแต่ทำไมต้องง้อด้วยล่ะเขาไม่ได้เป็นอะไรกับเราซักหน่อยนะมินซอก



         "บรือๆๆ"มินซอกทำเสียงแปลกๆพร้อมกับสะบัดหัวตัวเองแรงๆไล่ความคิดไร้สาระออกไป เขาเดินไปเรื่อยๆและในไม่กี่นาทีต่อมามินซอกก็รู้สึกได้ว่ามีน้ำอะไรบางอย่างหยดใส่หัวพอเงยหน้าขึ้นไปมองฟ้าก็พบว่าฝนค่อยๆตกเปาะแปะ มินซอกมองไปรอบๆก็ไม่พบตรงไหนที่จะหลบฝนได้นอกจากตรงตู้โทรศัพท์สาธารณะนั่น



         ขาเล็กๆกำลังวิ่งเข้าไปหลบฝนและในตอนนั้นเองที่มินซอกรู้สึกว่ามีอะไรมาบังฝนบนหัวเขาพอเงยหน้าขึ้นไปก็เจอลู่หานยิ้มบางๆให้พร้อมกับเอาเสื้อนักเรียนตัวนอกขึ้นมาคุมหัวเขากับตัวเอง มินซอกไม่พูดอะไรเพราะไม่ใช่เวลาทั้งคู่รีบวิ่งไปหลบในตู้โทรศัพท์ก่อนที่ตัวจะเปียกไปมากกว่านี้ พอเข้ามาถึงลู่หานก็เอาเสื้อออกจากหัวของเขาและมินซอก



         "เอ่อ..."มินซอกไม่พูดอะไร นอกจากยืนเฉยๆทำเหมือนกับว่ามองไม่เห็นลู่หานข้างในตู้เล็กนี้มีกลิ่นอับหน่อยๆแต่ว่ากินแป้งเด็กของมินซอกก็ช่วยกลบมันไปได้และเพราะความใกล้มากๆจนได้กลิ่นอีกคนทำให้ลู่หานเริ่มรู้สึกแปลกๆ



         มินซอกมองออกข้างนอกตู้กระจกใสด้วยสีหน้าเรียบเฉย ส่วนลู่หานที่ต้องหันตัวและหน้าไปทางมินซอกเพราะว่าตู้แคบเกินไปนั้นมองเห็นใบหน้าของมินซอกเต็มๆ



         ผิวสีขาวตามแบบฉบับคนเอเชียตะวันออกกับผมสีน้ำตาลอ่อนที่รับเข้ากับใบหน้ารูปไข่ตากลมโตสีดำสนิทดูน่าหลงใหลแม้จะเป็นคนที่มีตาชั้นเดียวแต่ก็ยังดูน่ารักอยู่ดี ลู่หานไม่เคยเห็นเด็กผู้ชายคนไหนเหมือนตุ๊กตาขนาดนี้มาก่อนเลย...



         "การแอบมองคนอื่นมันเสียมารยาท ไม่รู้หรือไง"ระหว่างที่ลู่หานกำลังมองไปยังใบหน้ามินซอกอย่างเพลินๆเจ้าตัวก็ปรายตามามองลู่หานพร้อมกับหลอกด่าเขา



         "ฉันไม่ได้แอบมองแค่ต้องหันหน้าไปทางนี้เท่านั้นเอง"ลมหายใจอุ่นๆรินรดอยู่ตรงใบหูเล็กน่าขบของมินซอก ตู้นี่มันแคบจริงๆนะแถมตัวลู่หานกับมินซอกก็ใกล้กันมากถ้ามินซอกหันมาจมูกของลู่หานก็คงจะแตะเข้ากับจมูกรั้นๆของมินซอกทันที แต่ตอนนี้มินซอกหันข้างให้เขาอยู่ด้วยส่วนสูงที่ตางกันนิดหน่อย ปากของลู่หานเลยอยู่ข้างๆหูของมินซอก



         "ตามฉันมาทำไม"มินซอกเปิดประเด็นถามออกไปเสียงห้วน ตอนนี้มินซอกเย็นชากับลู่หานมากเลย



         "ฉันเห็นนายไม่ได้นั่งรถประจำทางกลับบ้านเหมือนทุกวัน กลัวว่าฝนจะตกกลางทางก็เลยตามมา"มินซอกรู้สึกแปลกๆทุกครั้งที่ลู่หานพูดอยู่ข้างหูเขา



         "ยุ่ง"มินซอกพูดห้วนๆพร้อมกับหันไปลู่หานอย่างเร็วแต่เพราะระยะทางที่ใกล้จนมดแทบผ่านไม่ได้ทำให้จมูกของพวกเขาแตะกัน



         เหมือนเวลาของทั้งคู่จะหยุดลงมินซอกชะงักไป สายตาของคนตัวเล็กกว่าลู่หานค่อยๆช้อนขึ้นมองนัยน์ตาของเขา ปลายจมูกโด่งรั้นของมินซอกยังคงสัมผัสกับปลายจมกของลู่หาน



         "เปาซึ..."ลู่หานเรียกมินซอกเบาๆจากที่มีแค่จมูกที่โดน ในเวลานี้ริมฝีปากของลู่หานค่อยๆเลื่อนเข้าหาริมฝีปากของมินซอก คนตัวเล็กได้แต่ยืนอึ้งนิ่งงันกับสัมผัสที่ใกล้ชิดนี้ ข้างในร่างกายของมินซอกนั้นรู้สึกร้อนแปลกๆในตอนนั้นเองที่ระยะห่างของปากทั้งคูค่อยๆลดลงจนจะแตะกัน...



         เปรี้ยง!



         "อ๊ะ"มินซอกที่เผลอไผลไปผงะออกมาหลังจากได้ยินเสียงฟ้าผ่า มินซอกมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกเขินอาย ให้ตายสิ...เมื่อกี้เขากับเด็กนั่นจะจูบกันงั้นเหรอ



         "เอ่อ...คือ"ลู่หานเกาท้ายทอยแก้เก้อเขามองไปรอบๆตู้เพราะไม่รู้จะเอาสายตาไปวางไว้ไหนดี



         "ถอยไปห่างๆฉันเลยนะ"มินซอกพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอ ใบหน้าเล็กแดงซ่านไปหมด



         "ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ"ลู่หานก้มหน้าไปพูดใกล้ๆแถวซอกคอของมินซอกเพื่อแกล้งให้คนตัวเล็กเขินเล่นๆ



         "ขอโทษอะไร"มินซอกรู้สึกร้อนจริงๆนะ อากาศหนาวเย็นจากฝนที่ตกอยู่ข้างนอกไม่ได้ช่วยให้เขาหายร้อยขึ้นมาเลย อาจจะเป็นเพราะมันร้อนจากข้างในร่างกายล่ะมั้ง



         "ก็เรื่องที่ฉันไม่ได้บอกนายกับเรื่องที่เมื่อกี้ฉันจะจูบนายไง"ลู่หานยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาเขาจงใจเน้นคำว่าจูบด้วย



         "ไอ้บ้า!พูดออกมาทำไมห๊า"มินซอกหน้าแดงไปหมดแล้ว เขาอุตส่าห์จะไม่พูดถึงแล้วนะเรื่องน่าอายพรรค์นั้นน่ะ



         "ก็มันจริงนี่...เมื่อกี้ฉันจะจูบนาย"ลู่หานเอามือเท้าไปยังผนังตู้ด้านหลังมินซอกพร้อมกับโน้มหน้าไปใกล้หูของคนที่ตัวเล็กกว่าเพราะตู้มันแคบมากตอนนี้มินซอกเลยโดนลู่หานกอดทางอ้อมอยู่



         "ก็บอกว่าอย่าพูดไงเล่า"มินซอกเหมือนแก้มจะแตก เขาไม่เคยรู้สึกอาย ขนาดนี้มาก่อน



         "ไม่พูดแล้ว...แต่บอกมาสิว่าจะหายโกรธ"ลู่หานพูดน้ำเสียงอ่อยอิ่งอยู่ข้างใบหูมินซอก ให้ตายสิ น่าขบเล่นชะมัด แค่หูยังน่ารักเลย



         "ไม่โกรธเรื่องอะไร"มินซอกเบี่ยงหน้าหนีให้ไกลจากลู่หานเพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย



         "เรื่องที่ทำให้นายไม่ยอมคุยกับฉันไง โกรธฉันเรื่องอะไรอยู่ก็หายโกรธซะ"




         "เผด็จการ :("มินซอกอมแก้มป่องๆนั่นอีกแล้ว ให้ตายสิ โคตรน่ารักเลย นี่นายไม่รู้หรือไงว่าความอดทนฉันมีขีดจำกัดน่ะ ถ้าทนไม่ไหวขึ้นมานายเสร็จฉันแน่



         "เพิ่งรู้หรือไง"ลู่หานเอาหน้าออกจากบริเวณซอกคอของมินซอก เพราะกลัวคนตัวเล็กจะเขินตายซะก่อน



         "ฉันไม่ได้โกรธนาย"



         "ไม่เชื่อ"



         "จริงนะ ทำไมฉันต้องโกรธนายด้วยเล่า"นั่นสิทำไม...เขาไม่ได้สำคัญขนาดนั้นนี่นา



         "งั้นก็ดี ฝนหยุดตกแล้ว กลับบ้านกันเถอะ"ลู่หานพูดพร้อมกับเดินออกไปจากตู้ มินซอกเองพอออกมาก็รู้สึกโล่งทันที



         "ให้ฉันไปส่งมั้ย"ลู่หานเอาเสื้อที่เปียกพาดลงบนบ่าพร้อมกับเสยผมที่มีแต่น้ำฝนขึ้น มินซอกที่เห็นอย่างนั้นก็เบ้ปากทันที คิดว่าหล่อมากสินะ เหอะๆ เออ...หล่อก็หล่อ



         "ไม่ต้อง แค่ให้ฉันยืมเงินเป็นค่านั่งแท็กซี่กลับบ้านก็พอ"มินซอกพูดเสียงแข็งพร้อมกับแบมือขอเงินลู่หาน




         "เอ้า!ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในช่วงง้อไม่ให้นะเนี่ย"ลู่หานยื่นเงินให้มินซอกด้วยความไม่เต็มใจก่อนจะหันหลังเดินไปอีกทางเพื่อกลับบ้านของตัวเอง เขาหันไปมองด้านหลังก็เห็นว่ามินซอกขึ้นแท็กซี่ไปแล้วจึงเดินต่อไป แม้จะเสียเงินเปียกฝนก็ไม่เป็นไร ถ้ามันทำให้เขาได้ใกล้ชิดจนเกือบจะจูบมินซอกก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้ม :)






     
    《 KILLING  INDEFINITELY 》

     




         MINSEOK PART


         บ้า...ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆตั้งแต่มาถึงบ้านหย้าผมยังไม่หยุดร้อนเลยแถมพอส่องกระจกดูมันก็แดงมากเลย ลู่หานตั้งใจจะจูบผมหรือว่าเผลอ?แล้วจูบทำไม ผมไม่เข้าใจจริงๆนะเขาไม่ได้คิดกับผมแค่เพื่อนเหรอ ก็เขาจะจุ๊บผมง่าาาา มันไม่ได้แปลว่าเขาชอบผมเหรอแล้วการที่ผมไม่ได้ปฎิเสธแถมออกแนวเคลิ้มนิดหน่อยนี่มันหมายความว่าผมชอบเขาหรือเปล่า?



         ผมไม่เคยจูบใครมาก่อนเลยนะความรู้สึกเวลาได้สกินชิพใครนี่มันแปลกจริงๆเหมือนมีไอร้อนอยู่ทั่วร่างกาย หัวใจมันเต้นไม่เป็นส่ำเวลาที่ใบหน้าของเขาค่อยๆเลื่อนมาใกล้ ผมอึ้งมากจริงๆตัวแข็งไปหมดทำอะไรไม่ถูกเลย มันคือครั้งแรกของผมที่มีคนทำแบบนี้ มัน แบบ...แบบ เอ่อ...แบบนั้นแหละ



         "อ๊ากกกกก"และเพราะไม่รู้จะระบายยังไงผมเลยตะโกนออกมาเสียงดังลั่นบ้านพร้อมกับเอาหมอนมาฟาดหัวตัวเองแรงๆดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนเตียง



         "มินซอกเป็นอะไรไปน่ะลูก"



         "ผมสบายดีครับแม่"ผมตะโกนบอกแม่ที่มาเคาะประตูถามผมนอกห้อง ดูเหมือนแม่จะเดินออกไปแล้วสินะ ให้ตายสิ...ผมบอกว่าสบายดีแต่จิตใจผมโคตรวุ่นวายเลย ผมแค่อยากหาคำตอบให้ตัวเองว่าผมเป็นอะไรไป ทำไมผมต้องเขินจนตัวแทบแตก ทำไมต้องรู้สึกดีกับสัมผัสแบบนั่นด้วยหรือว่าผมชอบเขา



         บ้าหน่า...โดนจูบก็ต้องเขินสิ ใครโดนแบบนี้ก็ต้องเขินทั้งนั้นแหละแต่ไอ้ความรู้สึกชอบนี่มันคืออะไร ผมรู้สึกดีจริงๆนะผมไม่รังเกียจเขาเลยอ่ะ ผมควรทำไงดีวะเนี่ย!? อาการแบบนี้มันเรียกว่าอะไรนะ...



         "ถ้าฉันโดนจูบแบบที่คิมทันจูบชาอึนซังในซีรี่ย์นะฉันคงฟินตัวแตก ><"



         และคำพูดของจองอาก็ผุดขึ้นมาในสมองผมทันที อย่าบอกนะว่าผมกำลังรู้สึกฟินอะไรแบบนั้น ถ้าใช่...ฆ่าผมเถอะทุกคน อ๊ากกกกก โคตรน่าอายเลยว่ะ!!!





     
    《 KILLING  INDEFINITELY 》






         ผมตื่นมาโรงเรียนด้วยสภาพอิดโรยจากการนอนไม่เต็มอิ่ม เมื่อคืนผมเอาแต่คิดถึงลู่หาน คิดจนหัวจะแตก ผมต้องมองหน้าเข้าไม่ติดแหงๆพอคิดถึงเรื่องจูบหน้ามันก็ร้อนขึ้นมาเฉยๆกับจงแดผมยังไม่เคยรู้สึกอย่างนี้เลยนะเด็กนั่นเป็นใครมาทำให้ผมฟุ้งซ่านขนาดนี้



         "มาเช้าจัง"



         "เฮ้ย!ไอ้..."ผมร้องออกมาด้วยความตกใจก็เดินอยู่ดีๆจู่ผู้ชายที่ชื่อคยองซูเมื่อวานก็โผล่มา เดี๋ยวนะ...คยองซู



         "ตกใจอะไรของนาย ผมเข้ามาทักดีๆนะ"



         "นะ...นายไม่ใช่คนใช่มั้ยo_O"ผมรีบถอยห่างจากเขาเป็นวา 



         "ทำไมผมถึงไม่ใช่คนล่ะ จับดูสิ"คยองซูยื่นมือมาหาผม ตอนแรกผมก็สะดุ้งนิดหน่อยแต่พอยื่นนิ้วไปจิ้มจึกๆตรงแขนเล็กนั่นก็พบว่าชีพจรเข้าปกติดี



         "เป็นคนแล้วทำไมอยู่ห้องDเล่า ห้องนั้นมันถูกปิดไปนานแล้วนะ"



         "ก็ผมอยู่ห้องDจริงๆนี่นา"คยองซูเอียงคอมองผม ตาโตๆที่มีลูกตาขาวเยอะกว่าปกติจนเหมือนเหลือกตาตลอดเวลากระพริบถี่ๆเหมือนกับกำลังยืนยันว่าตนไม่ได้โกหก



         "ไม่เชื่ออ่ะ นายคงเป็นเด็กชั้นอื่นล่ะสิ เกรดสิบสองไม่มีห้องDหรอกนะ"ผมส่ายหน้าเอือมๆบอกให้รู้ว่าผมไม่ทางเชื่อ เขาอาจจะเป็นเด็กนักเรียนที่นี่แต่ไม่ได้อยู่ชั้นเดียวกันกับผมก็ได้



         "เรื่องของนาย"



         "อือ เรื่องของฉัน บาย"ว่าจบผมก็ชิ่งหนีมาทันทีคนแบบนี้คุยไปก็เสียเวลา ผมเดินเอาของมาเก็บตรงล็อคเกอร์แล้วเจอจงแดที่กำลังเดินอยู่แถวนี้พอดีเลยเข้าไปถามอะไรบางอย่าง



         "จงแด"ผมเรียกให้เขาที่ยืนคุยกับเพื่อนอยู่หันหน้ามา เขาหันมามองผมก่อนจะบอกเพื่อนของเขาว่าให้ไปก่อน



         "มีอะไรเหรอ"พอเพื่อนเขาเดินออกไปหมดแล้วบริเวณนี้มีเพียงผมกับเขา จงแดจึงถามขึ้นมาพร้อมกับยิ้มให้นิดๆตามปกติ



         "นายรู้จักผู้ชายที่ชื่อคยองซูมั้ย"ผมถามเขาพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างๆ ให้ตายสิ อยู่กับเขาแล้วผมรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลย ผมก็แค่กลัวว่าถ้าทำหน้าเฉยๆเขาจะคิดว่าผมไม่มีความสุขน่ะสิ ผมแค่ไม่อยากให้เขารู้สึกไม่ดีดูเหมือนผมจะแคร์เขามากเลยเนอะ



         "อ้อ รู้จักสิ เขาอยู่ห้องเดียวกับฉัน"



         "เอ๋?"หมายความว่าไงกันไม่ได้อยู่คนล่ะชั้นกับผมแต่อยู่ห้องเดียวกับจงแด



         "หึ นายคงโดนเหมือนคนอื่นๆสินะ"



         "โดน?หมายความว่ายังไง"นี่ผมเริ่มขนลุกจริงๆนะเนี่ย



         "เด็กนั่นมีอาการทางจิตน่ะ เมื่อสี่ปีที่แล้วตอนที่ยังมีห้องDอยู่ คยองซูไปทัศนศึกษากับเพื่อนในห้องแต่รถบัสพลิกคว่ำมีเขาคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้ พอขึ้นชั้นเรียนใหม่เขาก็ต้องย้ายมาอยู่ห้องเดียวกับฉันเพราะห้องDมีนักเรียนแค่คนเดียว แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่สะเทือนจิตใจของคยองซูที่เพื่อนตายกันหมดเหลือเพียงเขาคนเดียว ผู้ชายคนนั้นก็เลยยังคงคิดว่าตัวเองอยู่ห้องDและมีเพื่อนๆของเขาที่เรียนห้องเดียวกันอยู่ด้วย"



         "งั้นเหรอ...น่าสงสารชะมัด"



         "ฉันก็คิดว่างั้น การที่คนที่เราผูกพันด้วยอยู่ดีๆก็จากไปมันทรมานมากเลยและมันคงเจ็บปวดไม่น้อยที่เรายังมีชีวิตอยู่ ฉันคิดว่าคยองซูคงรู้สึกแย่ที่เขาเป็นคนเดียวที่รอดมาได้ ถ้าเป็นไปได้ผู้ชายคนนั้นคงอยากตายแทนเพื่อน"ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าแต่รอยยิ้มของจงแดมันดูเศร้าแปลกๆดวงตาของเขาดูเหม่อลอยเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง



         "จงแด"



         "หืม"



         "จูบฉันที"



         "อะไรนะ"จงแดหน้าเหวอไปชั่วขณะก่อนจะทำสีหน้าให้เหมือนเดิม ที่ผมพูดแบบนั้นออกไปมันเป็นเพราะว่าผมแค่อยากรู้ว่าความรู้สึกตอนที่คนอื่นจูบผมกับตอนที่ลู่หานจะจูบผมมันเหมือนกันหรือเปล่า



         "นายเป็นแฟนฉันไม่ใช่เหรอ"ผมประคองใบหน้าของจงแดเข้ามาใกล้ๆ เขาดูตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของผมแต่ผมไม่แคร์หรอกถ้าผมหาคำตอบไม่ได้ผมต้องบ้าตายแน่ๆ



         "นั่นสินะ เป็นแฟนก็ต้องจูบกัน  :)"ว่าจบเขาก็โน้มหน้าเข้ามาหาผมอย่างเร็วแต่ว่าผมเบี่ยงหน้าและเอามือบังไว้ก่อน



         "เอ่อ...คือ"แล้วนี้ผมจะป๊อดทำไมเนี่ย



         "หึหึ นายไม่ได้อยากจูบกับฉันจริงๆหรอก"จงแดยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะหอมแก้มผมฟอดนึงแล้วเดินจากไป เหตุการณ์มันเร็วมากจนผมตั้งตัวไม่ทัน รู้ตัวอีกทีก็โดนขโมยหอมแก้มไปแล้ว หน้าผมร้อนนะ มันต้องแดงมากแน่ๆ แต่ทำไมไม่รู้สึกใจเต้นแรงเหมือนลู่หานนะ......


         END PART MINSEOK







     
     
    《 KILLING INDEDINITELY 》






         ลู่หานที่กำลังเดินมาตามมินซอกให้ไปเดินดูในงานวันวิชาการเป็นเพื่อนต้องชะงักลงอยู่ตรงนั้นภาพที่เขาเห็นคือเปาซึของเขาประคองหน้าไอ้จงแดที่เขาเกลียดมาใกล้ก่อนที่มันจะโน้มหน้าเข้าหามินซอก เหอะ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทำอะไรกัน...



         ทำไมเจ็บอย่างนี้นะ เมื่อวานผู้ชายคนนั้นกับเขาเกือบจะจูบกันแต่มาวันนี้เขากลับจูบกับผู้ชายคนอื่น ไม่สิ...ไม่ใช่ผู้ชายคนอื่นแต่มันคือแฟนของเขา มินซอกไม่ผิดที่จะจูบกับแฟนตัวเองแต่เขาผิดเองที่เผลอไปโกรธมินซอก ซึ่งเหตุผลที่โกรธนั้นลู่หานก็รู้ดีอยู่เต็มอกตัวเอง



         เขาเดินจากไปจากที่ตรงนี้เงียบๆโดยไม่ได้หันไปมองภาพบาดตานั้นอีก ลู่หานตั้งใจว่าจะไปช่วยเพื่อนที่กำลังวุ่นกับการแต่งตัวให้นักเรียนที่จะมาแสดงละครในส่วนนันทนาการของกิจกรรมวันนี้ เหงาชะมัด...ไม่มีมินซอกเขาก็ไม่รู้จะอยู่กับใครเพราะตอนนี้เพื่อนสนิทที่สุดก็ตายไปแล้ว



         ลู่หานเดินไปเรื่อยๆจนถึงหน้าหอประชุมแต่ก็เปลี่ยนใจไปที่อื่นเพราะขี้เกียจช่วยงานเพื่อนในห้อง เขาไปหาอะไรกินในโรงอาหารแต่สุดท้ายก็ไม่วายนึกถึงมินซอกเพราะเห็นน้ำปั่นที่ผู้ชายคนนั้นเคยเลี้ยง อะไรๆก็ดูเหมือนจะทำให้ฉันคิดถึงนายซะไปหมด



         "อ่าว ลู่หานนายไม่ได้อยู่กับตัวเล็กเหรอ"จองอาริที่มาซื้อน้ำเหมือนกันทักลู่หานที่ยืนเหม่อรอน้ำที่ตัวเองสั่งอยู่



         "ตัวเล็ก?"ลู่หานทำหน้าเอ๋อใส่เพราะไม่เข้าใจว่าจองอาริหมายถึงใคร



         "ก็มินซอกไง ฉันเห็นเขาตามหานายอยู่"จองอาริกระพริมตาปริบๆเธอนึกว่าเพื่อนตัวเล็กของเธอจะอยู่กับลู่หานซะอีก



         "งั้นเหรอ ขอบใจนะ"ลู่หานจ่ายตังค์ก่อนจะรีบวิ่งออกไปจนจองอาริถึงกับงง อะไรของเค้าจะรีบไปไหนตังค์ทอนก็ไม่เอา...





     
    《 KILLING  INDEFINITELY 》





         ลู่หานวิ่งตามหามินซอกทั่วโรงเรียนเขากลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะไม่มีเพื่อนเพราะจองอาริก็ไม่ได้อยู่ด้วยและมันคงไม่ดีแน่ๆถ้าปล่อยมินซอกให้อยู่คนเดียว ถ้าโดนแกล้งขึ้นมาจะทำยังไง



         "ตกลงนายกับเขาเป็นอะไรกันแน่!"และมันก็เป็นอย่างที่ลู่หานคิดมินซอกถูกผลักลงไปกองกับพื้น ผู้หญิงพวกนี้พามินซอกมาตรงที่ลับตาคนก่อนจะข่มขู่เขา



         "จะเป็นอะไรมันก็เรื่องของเขากับฉัน พวกเธอไม่เกี่ยว"ลู่หานเดินเข้าไปในซอกเล็กๆที่มินซอกกับผู้หญิงสามคนนี้ยืนอยู่



         "ล่ะ...ลู่หาน"จากทีทำเป็นเก่งในตอนเมื่อกี้กลับกลายเป็นว่าพอเห็นลู่หานในตอนนี้พวกเธอก็กลัวกันหัวหด



         "ไสหัวออกไปก่อนที่ฉันจะทำให้เธอไม่กล้ายุ่งเรื่องของฉัน"สิ้นเสียงของลู่หานผู้หญิงสามคนนี้ก็วิ่งเผ่นแนบออกไปเพราะไม่อยากจะลองดีกับลู่หาน คนที่ลองส่วนใหญ่มันก็จบไม่ดีทั้งนั้น



         "ทำไมไม่โทรบอกฉัน"ลู่หานเข้าไปพยุงมินซอกที่ล้มอยู่ เขาสังเกตเห็นว่าข้อมือของมินซอกมีแผลเล็กๆซึ่งอาจจะเกิดจากตอนที่ถูกผลักลงไปกับพื้น



         "ก็ผู้หญิงพวกนั้นไม่ยอมให้ฉันโทรนี่นา ฮ่าๆ"มินซอกประคองตัวเองขึ้นพร้อมกับหัวเราะฝืดออกมา ราวกับจะทำให้มันเป็นเรื่องตลกแต่ลู่หานกลับขำไม่ออกเลยซักนิด



         "นายมีแผลนะ ทำไมถึงยังหัวเราะออกมาได้"ลู่หานทำสีหน้าจริงจังใส่มินซอกจนคนตัวเล็กยิ้มไม่ออก อันที่จริงมินซอกก็ไม่ได้มีความสุขหรอกแต่เขาอยากให้ลู่หานรู้ว่าเขาไม่เป็นไร ไม่เป็นไรจริงๆ...



         "คือฉัน..."



         "ฉันขอโทษ ขอโทษจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ทั้งๆที่บอกว่าจะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรนายแต่ฉันก็ยัง..."



         "ช่างมันเถอะ เดี๋ยวก็ชินเอง"มินซอกพูดเสียงสั่นเครือ ใบหน้าเล็กก้มมองพื้นไม่กล้าสบตาลู่หาน



         "แล้วกว่าจะชินมันจะเจ็บอีกเมื่อไหร่กัน"



         "ฉันไม่เป็นไร ฮึก ไม่เป็นไรจริงๆ ฮึก..."ลู่หานที่ได้ยินเสียงสะอื้นของมินซอกก็ยิ่งรู้สึกผิด นี่เขาทำให้ผู้ชายคนนี้ร้องไห้อีกแล้วงั้นเหรอ....



         "ร้องไห้ง่ายชะมัด..."ลู่หานหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองขึ้นมาซับน้ำตาที่แก้มของมินซอกเบาๆ



         "ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่พอเห็นหน้านายจากที่เคยคิดว่าจะกลั้นมันได้สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ ฮึก แค่เห็นหน้านาย น้ำตามันก็พาลไหลออกมาซะดื้อๆ"มินซอกซุกหน้าอยู่ตรงอกของลู่หานส่วนลู่หานก็ค่อยๆโอบกอดมินซอกไว้เพื่อปลอบโยน



         "ฉันเองก็เหมือนกัน...พอเห็นน้ำตาของนายก็พาลอยากจะกระทืบตัวเองให้ตาย"



         "ทำไมลู่เก้อถึงอยากทำร้ายตัวเองล่ะ"อะไรกัน...อยู่ดีๆก็เรียกเขาแบบนั้นน้ำตานี่ทำให้มินซอกเปลี่ยนไปเหรอ



         "รู้สึกผิดไง....ลู่เก้อรู้สึกผิดจริงๆนะที่ทำให้เปาซึร้องไห้"





     
    《 KIILLING  INDEFINITELY 》




         มินซอกยอมตัวติดกับลู่หานตลอดเวลาตามคำขอของลู่หานเหตุเพราะไม่อยากให้มินซอกอยู่นอกสายตาแล้วจะดูแลไม่ได้ ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองซึ่งถึงคิวที่จะแสดงละครให้ชมและทั้งคู่เองก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่นี่ไหนดีจึงพากันมานั่งที่หอประชุมชั้นบนที่มีเวทีจัดแสดงละครต่างๆที่นักเรียนของแต่ละห้องจะโชว์ในงาน



         เพราะเป็นกิจกรรมใหญ่กิจกรรมนึงของโรงเรียนในหอประชุมแห่งนี้ที่ใหญ่พอๆกับห้องโถงชั้นล่างจึงมีเก้าอี้บุนวมกำมะหยี่สีแดงจัดไว้ราวกับเป็นโรงละครจริงๆ อาจจะเพราะนี่คือไฮไลท์ของงานวันนี้ก็ได้มันมักจะได้รับความสนใจที่สุดและเด็กนักเรียนที่นี่ก็จะอัพภาพลงโซเชี่ยวเน็ตเวิร์คต่างๆอวดเพื่อนต่างโรงเรียนที่ไม่มีโมเม้นท์แบบนี้



         ลู่หานและมินซอกนั่งดูละครไปเรื่อยๆอันไหนที่ออกแนวตลกหน่อยมินซอกก็จะหัวเราะชอบใจเหมือนเด็กๆจนบางครั้งที่ถึงละครที่ออกแนวซึ้งกินใจมินซอกก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลา การได้นั่งข้างกันครั้งนี้มันทำให้เขาได้เห็นมินซอกในมุมต่างๆที่ไม่เคยเห็นมันทำให้ลู่หานรู้ว่าคิมมินซอกคนนี้ก็คือผู้ชายธรรมดาๆคนนึง



         "โอ๊ะ ลู่เก้อ ถึงคิวเพื่อนห้องนายแสดงแล้วใช่ไหม "มินซอกทำหน้าตาตื่นเต้นกับเรื่องๆเล็กๆน้อยและดูเหมือนเปาซึของเขาจะติดเรียกเขาว่าลู่เก้อแล้วล่ะสิ



         "ยูซองน่ะเหรอ..ก็อืม"ลู่หานกระชับฝ่ามือตัวเองกับอุ้งมือเล็กๆของมินซอกให้แน่นขึ้น พวกเขานั่งจับมือกันมาชั่วโมงกว่าๆแล้ว มินซอกไม่ได้ติดใจอะไรเพราะมัวแต่สนใจกับละครที่แสดงบนเวทีส่วนลู่หานก็เนียนฉวยอากาศมินซอกเต็มๆ



         "ดูเหมือนจะเล่นเป็นตัวร้ายสินะ"มินซอกพูดเบาๆกับตัวเองพร้อมทำหน้าใจใจจดใจจ่อกับยูซองที่ออกมาจากหลังเวทีและพูดบทของตัวเองอย่างคล่องแคล่ว



         ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความปกติ การแสดงชุดนี้ดึงความสนใจของผู้ชมได้ดีทุกสายตาจับจ้องไปยังยูซองซึ่งเป็นฉากที่กำลังเดินไปตรงกลางเวทีแล้วนั่งลง ในตอนนั้นเองที่จู่ๆฉากที่ไม้แท่งใหญ่โผล่ออกมานอกโฟมถูกลมพัดลงมาทุกคนบนเวทีกำลังจะบอกให้เธอหลบออกไปแต่ทว่าบทละครที่อินเกินไปจนไม่ได้ฟังคนอื่นเลยทำให้ทุกอย่างมันไม่ทัน...



         
    ฉึก!



         เสียงของไม้ปลายแหลมซึ่งดูจะไม่เป็นไรถ้าเอามาเป็นชิ้นส่วนประกอบฉากเฉยๆทว่าลมจากไหนไม่รู้กลับพัดมันล้มลมมาพร้อมกับฉากไม้แหลกที่ถูกเสียบอยู่ตรงฉากโฟมจึงแทงเข้าที่ด้านหลังของยูซองเต็มๆ



         "กรี๊ดดดดด"เสียงร้องดังลั่นไปทั่วสารทิศ ผู้คนข้างล่างเวทีที่เห็นเหตุการ์ณต่างก็ช็อคกับเหตุการ์ณนี้ ไม่แม้แต่จะหันหลังไปมอง รู้ตัวอีกทีก็ถูกไม้แหลมแท่งนั้นปลิดชีพตัวเองซะแล้ว...



         "....!!"มินซอกกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก เลือดของยูซองสาดกระเซนไปโดนฉากหลังจนน่าสยอง คุณครูที่พอตั่งสติได้ก็รีบเรียยกรถพยาบาลและตำรวจโดยที่ยังไม่ได้เคลื่อนย้ายศพ



         จองชินโจไฮท์สกูล....มีคนตายอีกแล้ว 








     
    โปรดติดตามตอนต่อไป

     
    140515

    หวังว่าทุกคนจะเข้าใจนะคะว่าจองอากับอาริคือคนๆเดียวกันชื่อจริงๆคือจองอาริแต่มินซอกชอบเรียกว่าจองอาเฉยๆค่ะ ไรท์ทำมินจ๊อกของเราร้องไห้อีกแล้ว ฮ่าๆพอดีอยากให้นางดูเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน ส่วนฉากเลิฟซีน...เพิ่งถึงตอนหกก็เกือบจะจูบกันแล้วบ้าจริง ><



    ขอความกรุณา#ฟิคฆ่า นะคะ พลีสสส


     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×