ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic exo] KILLING INDEFINITELY {Lumin ft.Chen} end

    ลำดับตอนที่ #6 : KILLING INDEFINITELY : chapter 5 คำใบที่มองไม่เห็น

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 57


    cinna mon





    5
    คำใบ้ที่มองไม่เห็น





     
         MINSEOK PART

         ผมเดินขึ้นมาบนห้องนอนตัวเองด้วยสภาพดูไม่ได้เพราะต้องวิ่งต่างฝนมาหาแท็กซี่นั่งกลับบ้านตัวผมเลยเปียกเป็นลูกหมาแบบนี้ ระหว่างทางผมเอาแต่คิดเรื่องที่ฝันเมื่อเย็น ทำไมผมถึงรู้สึกว่าผีที่อยู่ในความฝันนั้นมันคุ้นๆอย่างบอกไม่ถูกแม้จะเห็นหน้าตาไม่ชัดเพราะสภาพที่เละเกินกว่าจะดูออกแต่พอลองนึกดีๆผีตัวนั่นเหมือนกับศพ...ฮานึล



         หัวสมองที่ยุบลงไปจนเห็นข้างใน ร่างกายที่บิดเบี้ยวเหมือนกับศพฮานึลตอนที่ตกลงมากระแทกพื้นถ้าผมไม่ได้คิดไปเองจะเป็นไปได้ไหมว่าผมกำลังถูกผีฮานึลหลอก... แล้วฮานึลจะมาหลอกผมทำไมกัน?อันที่จริงผมไม่ควรจะเชื่อเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำมันก็เป็นแค่ความฝันถึงแม้จะเหมือนจริงมากก็ตามแต่ถึงอย่างงั้นผมก็ไม่ควรมางมงายเรื่องพวกนี้สินะ



         ผมเดินไปคุ้ยหารายงานที่ทำเพิ่งเสร็จตอนเย็นในกระเป๋านักเรียนเพื่อตรวจทานก่อนเอาไปส่งคุณครูพรุ่งนี้แต่ทว่าสิ่งที่ผมเจอในกระเป๋านักเรียนซึ่งมีของไม่กี่อย่างกลับเป็นกระดาษโน๊ตใบนึงที่บนกระดาษเขียนว่า



         เลขคี่ นามสกุล

         หืม...เลขคี่?นามสกุล?มันคืออะไรอ่ะ แล้วทำไมกระดาษใบนี้มันมาอยู่ในกระเป๋าผมล่ะเนี่ยหรือว่าเพื่อนในห้องแกล้งผมโดยการเอาขยะมาทิ้งในกระเป๋า แต่เอ..โพสต์อิทนี่มันก็ไม่ได้ดูเหมือนขยะนี่ มันเหมือนเพิ่งเขียนใหม่ๆเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว แต่ช่างมันเถอะอาจมีใครใส่มาผิดก็ได้ ว่าแล้วผมก็ทิ้งมันลงใส่ถังขยะเล็กๆในห้องก่อนจะเดินไปอาบน้ำ...



         MINSEOK PART


         ในขณะที่มินซอกเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำมีบางสิ่งบางอย่างยังคงติดตามเขาอยู่แล้วเฝ้ามองเขาตลอดเวลา



         
    โง่กว่าที่คิด...








     
    《 KILLLING INDEFINITELY 》





     

         เช้าวันต่อมามินซอกรีบตื่นกว่าปกติเพราะวันนี้เขาบอกกับตัวเองว่าจะไม่ไปสายอีกแล้ว ร่างเล็กลุกตัวเองขึ้นจากเตียงด้วยความยากลำบากเพราะพักนี้เขาติดนอนตื่นสายและถึงแม้มินซอกจะงัวเงียแค่ไหนแต่สุดท้ายเขาก็พาร่างตัวเองไปอาบน้ำได้ ทว่าในตอนที่กำลังจะลุกเดินไปหยิบผ้าขนหนูเท้าของมินซอกก็เหยียบกับอะไรบางอย่างที่หล่นอยู่ตรงพื้น



         "โพสต์อิทนี่มัน!?..."มินซอกก้มลงเก็บขึ้นมาดู ข้างในกระดาษเขียนข้อความเหมือนเมื่อคืนแสดงให้เห็นว่าเป็นกระดาษใบเดียวกันที่เขาเพิ่งทิ้งไปแต่ทำไมมันมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะในเมื่อหลังจากตอนนั้นเขาก็เอาขยะทั้งหมดในถังไปทิ้งนอกบ้านหมดแล้วแต่ทำไมมันถึงยังอยู่ที่นี่ล่ะ?



         มินซอกว่าเรื่องนี้มันมีอะไรแปลกๆแล้วล่ะแต่ว่าตอนนี้เขาควรที่จะไปอาบน้ำก่อนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปสายซ้ำซากเหมือนทุกวัน เลขคี่นามสกุลงั้นเหรอ มีใครกำลังจะสื่ออะไรฉันหรือเปล่านะ...







     
     
    《 KILLING INDEFINITELY 》





     


         MINSEOK PART

         ผมเพิ่งรู้ว่าพรุ่งนี้โรงเรียนเรามีงานกิจกรรมวันวิชาการ ดูเหมือนว่าเพื่อนในห้องจะไม่ยอมบอกผมเพราะว่าจะได้ให้ผมลืมเอาของที่มิสมินอาสั่งมาวันนี้



         "มิสหวังว่าวันนี้ทุกคนจะเอาของที่สั่งมานะ"เสียงของมิสมินอาครูประจำชั้นผมตะโกนถามนักเรียนในห้องซึ่งกำลังวุ่นอยู่กับการลอกการบ้านตัวเองบ้างก็มัวแต่หยิบกระถางต้นไม้ขึ้นมาอวดเพื่อนและของที่มิสมินอาสั่งคือกระถางต้นไม้เอาไว้ตกแต่งในบูธของห้องซึ่งจะจัดในงานวันวิชาการพรุ่งนี้ ทุกคนเอามาหมด...ยกเว้นผม



         ผมนั่งจิตใจห่อเหี่ยวคนเดียวเพราะวันนี้จองอาไม่ได้มา ผมเลยไม่รู้จะพึ่งใครดีได้แต่รอให้มิสเรียกชื่อผมแล้วผมก็ขานรับว่าไม่ได้เอามา ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหมดหวังหางตาของผมก็เหลือบไปเห็นลู่หานที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องเรียนเขาเคาะกระจกตรงช่องประตูเบาๆ ทุกคนในห้องต่างก็หันไปให้ความสนใจเขา ผู้หญิงพากันกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่เมื่อเห็นเด็กหนุ่มสุดหล่อมายืนน่าประตู ผู้หญิงพวกนี้คุยกันราวกับว่าไม่เคยเห็นผู้ชาย เหอะๆ แล้วนี้ผมอารมณ์เสียทำไมกัน



         "ว่าไงจ๊ะลู่หาน"มิสมินอาก็เป็นไปกับเค้าด้วย เดินทำตาหวานไปเปิดประตูให้ลู่หานที่ถืออะไรบางอย่าง



         "คือผมเอาของมาให้มินซอกน่ะครับ ผมเห็นเขาลืมไว้อยู่ข้างล่าง"พูดเฉยๆก็ได้ทำไมต้องยิ้มหวานขนาดนั้นด้วย ขอร้องล่ะอย่ามาโปรยเสน่ห์ใส่คนในห้องฉันเลยไอ้เด็กบ้า



         "ของ?แหม หน้าตาดีแล้วยังจิตใจดีอีก เพื่อนลืมไว้ก็มีน้ำใจเอามาให้ นี่!มินซอกมาเอาของคืนไปสิแล้วขอบคุณน้องเขาด้วยนะเป็นรุ่นพี่ที่ใช้ไม่ได้เลยต้องให้เด็กเอาของที่ตัวเองลืมมาให้"ผมที่นั่งกอดอกเบะปากทำเป็นเสมองไปนอกหน้าต่างถึงกับผงะเมื่อมิสมินอาเรียกผม



         "ของอะไรผมยังไม่ได้..."



         "ก็กระถ่างต้นไม้ที่พี่ลืมไว้ไง :)"ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบเด็กนั่นก็ขัดขึ้นมาก่อนผมเลยต้องจำใจลุกขึ้นไปหยิบของที่ลู่หานเพื่อไม่ให่เป็นเป้าสายตาไปมากกว่านี้ก่อนที่จะกลับมานั่งที่ตัวเองเหมือนเดิม



         ผมจำได้นะว่าผมยังไม่ได้เอาไอ้ต้นไม้นี้มาเลยแล้วผมจะลืมได้ยังไง ผมลองหมุนกระถางดูรอบๆก็เจอโพสท์อิทสีชมพูแจ๋นแปะอยู่ข้างกระถางพลาสติกสีดำที่ข้างในเขียนว่า...



         
    ตอนเช้าฉันเจออาริที่ร้านค้าใกล้ๆบ้าน เธอบอกว่าป่วยเลยมาไม่ได้แต่ทีนี้เธอเพิ่งนึกได้ว่าวันนี้มิสมินอาสั่งให้เอาต้นไม้มาด้วยและเธอก็คิดว่าคงไม่มีใครบอกนายแต่เธอทำโทรศัพท์หายเลยไม่รู้เบอร์โทรของนายจะโทรบอกก็ไม่ได้เลยฝากฉันมาบอกแต่ฉันเห็นนายเข้าเรียนแล้วฉันเลยไปซื้อมันมาให้ ไม่ต้องขอบคุณน่ะเพราะตอนพักฉันจะมาทวงคืน ไอ้ต้นไม้นี่แพงชิบ ตั้งแปดพันวอนแน่ะ ตอนพักนายเตรียมตังค์ไว้ได้เลย



         ฮ่าๆไอ้เด็กบ้าขี้เหนียวช่ะมัดเงินแค่นี้ยังจะให้ใช้คืนอีก(ได้ข่าวว่าตั้งสองร้อยกว่าบาทนะ)แล้วไอ้ตัวการ์ตูนตลกๆที่แก้มย้วยๆนี่อีก เขาวาดมันมาในกระดาษทำไม ตลกจัง ลู่หานคนบ้าชอบทำตัวเหมือนเด็กไม่ยอมโต



         "คิกคิก"ผมหัวเราะเบาๆคนเดียวกับกระถางต้นไม้โดยไม่ได้หันไปสนใจคนรอบข้าง พอเงยหน้าขึ้นมาทุกสายตาในห้องก็รวมอยู่ที่ผมเป็นจุดเดียวทุกคนทำสายตาราวกับว่าเห็นมนุษย์ต่างดาวอยู่ตรงหน้า



         "เอ่อคือ..."ผมที่พึงนึกได้ว่าตัวเองหัวเราะอยู่คนเดียวก็รีบทำตัวให้ปกติเหมือนเดิมทันที



         "คือมิสก็ไม่รู้หรอกนะว่าไอ้กระถางนั้นมันมีดีอะไรให้เธอยิ้มอยู่คนเดียวแต่มิสว่าการกระทำแบบนี้คนปกติเค้าไม่ทำกันนะจ๊ะ"



         "ขะ ขอโทษครับ"ทุกคนในห้องต่างก็หัวเราะผมราวกับว่าผมเป็นตัวตลก ให้ตายสิ เพราะนายอีกแล้วลู่หานเพราะนายอีกแล้วโว้ยยยย







     
    《 KILLING INDEFINITELY 》




     


         ช่วงพักผมเดินลงมารอลู่หานที่ชั้นล่างเพราะขี้เกียจไปหาเขาที่ห้อง ผู้หญิงในห้องลู่หานน่ากลัวจะตายคนพวกนั้นทำเหมือนกับว่าผมจะไปแย่งลู่หานมาจากพวกหล่อนเพราะงั้นผมมารอตรงนี้แหละดีแล้ว



         ผมไปนั่งรออยู่ตรงข้างๆตึกที่เดิมที่ตอนนั้นผมนั่งก่อนจะเกิดเหตุการตอนฮานึลเสียชีวิต บรรยากาศตอนนี้ค่อนข้างเงียบสงัดอาจเป็นเพราะเวลาพักของวันนี้ เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ต่างก็ไปรวมตัวกันจัดบูธตัวเองที่หอประชุมเพราะงั้นรอบๆนี้ที่ปกติเงียบอยู่แล้วในเวลาแบบนี้จึงไม่มีคน



         ผมหยิบกระดาษโพสต์อิทที่เจอเมื่อตอนเช้ามานั่งไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ผมไม่รู้หรอกระว่าใครเป็นคนทำแต่ผมรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่กำลังพยายามสื่อสารกับผม ผมว่าเรื่องนี้มันไม่ธรรมดาตั้งแต่ตอนที่ฮานึลตายแล้ว



         ยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีคนข้างบนเห็นคุณครูหลายคนก็อยู่บนนั้นแต่กลับไม่ช่วยอะไรเพราะไม่รู้เรื่องว่ามีคนจะฆ่าตัวตาย ไหนจะฝันเมื่อวานตอนเย็นที่ผมคาดว่าน่าจะเป็นฮานึลอีก ทำไมกัน?นี่ผมกำลังเจอกับเรื่องอะไรอยู่ สิ่งที่ผมเผชิญมันคืออะไรกันแน่และอีกคำถามที่ผมไม่อยากจะตั้งมันขึ้นมาเท่าไหร่นั่นก็คือทำไมผีฮานึลต้องมาเข้าในผม ฮ่ะๆผมว่ามันค่อนข้างไร้สาระแต่เอาเข้าจริงผมไม่สามารถหาคำตอบจากทางอื่นได้เลย มันคงไม่ผิดใช่ไหมถ้าผมจะลองไขปมทุกอย่างจากสิ่งที่ผม'มองไม่เห็น'



         "นี่ นี่...นาย!"


     
         "ห๊ะๆๆ"ผมที่เหม่อลอยอยู่สะดุ้งขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงไม่คุ้นเคยของใครบางคนเอ่ยเรียก ผมมองไปรอบๆก่อนจะพบว่าตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามโต๊ะผมมีเด็กผู้ชายตาโตตัวเล็กคนนึงมานั่งอยู่ เอ่อ...มาจากไหนล่ะเนี่ย



         "ผมไม่เคยเห็นใครนั่งเหม่อลอยได้นานเท่านายเลยนะ"ใบหน้าอึนๆที่มีตาโตๆค่อยๆลอบยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มน่ากลัวแม้จะดูเป็นมิตรแต่ก็เหมือนมีอะไรแอบแฝงอยู่



         "นายมาได้ยังไง"ผมถามเขาด้วยสีหน้ากล้าๆกล้วๆ อาจจะเป็นเพราะบุคลิคแปลกๆบางอย่างที่แฝงอยู่ในตัวของเขาก็เป็นได้ จะว่ายังไงดีล่ะ เขาเหมือนคนที่มีเมฆดำลอยอยู่ตามตัวตลอดให้อารมณ์แบบไม่น่าเข้าใกล้อ่ะ



         "ผมแค่จะบอกว่าผมเก็บไอ้นี่ได้ผมเห็นมันหลุดมาจากกระเป๋ากางเกงนาย"ผู้ชายคนนี้ยื่นปากกาลูกลื่นมาให้ผมซึ่งผมก็รีบยื่นมือไปรับโดยไงเมื่อเห็นว่ามันคือปากกาที่จองอาเคยซื้อมาฝากตอนเธอไปฝรั่งเศษ



         "ขอบใจ"ผมพูดสั้นๆพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่นเพราะทนมองรอยยิ้มแปลกๆนั่นไม่ได้ ผมควรจะทำไงดีเนี่ย จะไล่เขาไปก็ไม่ได้ที่นี่ไม่ใช่ที่ของผมซะด้วยถึงจะมาก่อนก็เถอะหรือว่าผมควรออกไปเอง



         "นายไม่รู้เลยเหรอว่าผมตามนายมาตั่งแต่อยู่ชั้นสอง"



         "เห๊"ผมทำหน้าเหลือเชื่อ ถ้าจำไม่ผิดตลอดทางที่เดินมาผมไม่ยักกะรู้ว่าใครอยู่ข้างหลัง ผมรู้สึกเหมือนผมเดินมาคนเดียวจริงๆนะ



         "ฮ่าๆ หน้าตานายตลกช่ะมัด"ใครสอนให้เขาพูดแบบนี้กับคนที่เพิ่งเจอครั้งแรกกัน



         "นี่...รู้จักฉันหรือไง"ผมเริ่มพูดออกไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด หมอนี่ต้องการอะไรจากผมกันแน่



         "รู้จักสิ แฟนของจงแดไง"



         "นายรู้จักเขาด้วยเหรอ"พอผู้ชายตรงหน้าพูดถึงจงแดผมก็เริ่มสนใจทันที



         "ไม่รู้จักได้ไง ใครๆก็รู้จักเขาทั้งนั้นแหละ แต่คงจะไม่รู้ว่าเขามีแฟน นั่นสินะ...เขาไม่เคยบอกใครนี่นาว่าคบกับนาย"เขาพูดออกมาราวกับรู้อะไรบางอย่างใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลาเหมือนมีอะไรซ่อนอยู่ข่างใน จะว่าไปมันก็จริงอย่างที่หมอนี่บอก ผมยังไม่เคยบอกใครเลยนอกจากลู่หานว่าผมคบกับจงแดแม้กระทั่งจองอาก็ยังไม่รู้และจงแดก็คงจะยังไม่บอกใครเหมือนกัน



         "แล้วนายรู้มาจากไหนเรื่องของฉันกับเขา"



         "สามพันวอน"



         "อะไร"ผมถามเสียงแข็ง



         "ค่าบอกไงว่าผมรู้มาจากไหน"ไม่เข้าใจทำไมต้องใช้สรรพนามแปลกๆด้วย...



         "เหอะ งั้นฉันไม่รู้หรอก"ให้ตายสิ ผมเสียเวลาคุยกับหมอนี่ทำไมกันนะ ผมเบ้ปากพร้อมกับหมุนตัวหันไปทางอื่นเพื่อที่จะได้ไม่เห็นหน้าเขา ทว่าจู่ๆหมอนี่ก็พูดขึ้นมาอีก



         "ผมชื่อคยองซู นายชื่ออะไร"คยองซู?ไม่คุ้นเลยแฮะหรือว่าจะอยู่คนละชั้นกับผม



         "มินซอก"แล้วก็ดันบ้าจี้ตอบอีกนะ...



         "ตอบง่ายจัง คิกคิก ผมถามคนอื่นกว่าจะตอบได้ก็อีกนานเลย"คยองซูหัวเราะคิกคักในเรื่องที่เขาเข้าใจคนเดียว ว่าแต่รู้ว่าผมคบกับจงแดแต่ทำไมไม่รู้ชื่อผมอ่ะ



         "นายอยู่ชั้นอะไร"ผมหันไปถามเขาบ้างเนื่องจากคิดได้ว่าลู่หานคงไม่มาเร็วๆนี้เลยหาเพื่อนคุยฆ่าเวลาก็คงดี



         "ก็เกรดสิบสองเหมือนนายแหละ"



         "ทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้านายเลยล่ะอยู่ห้องไหนเหรอ"



         "ห้องD"



         "เหรอ ถึงว่าฉัน.."



         "เปาซึ~"ผมกำลังจะชวนคุยต่อแต่ว่าลู่หานมายืนโบกมือเรียกผมอยู่ตรงนู้นเสียก่อนผมเลยขอตัวมา



         "มาช้าจัง เอ้า นี่ตังค์ของนาย"ผมยื่นเงินคืนให้เขาแต่ว่าลู่หานกลับยัดมันใส่มือผมเหมือนเดิม



         "ฉันไม่เอาเงินเป็นค่าตอบแทนแล้ว"



         "อ่าว ทำไมอ่ะ นายออกตังค์ให้ฉันไม่ให้ฉันจ่ายตังค์ให้นายจะให้ฉันทำอะไร"



         "เลี้ยงน้ำแก้วนึงดิ ฉันอยากกินน้ำปั่นอ่าา น้าๆๆ"เป็นบ้าอะไรเนี่ย อยู่ๆก็มาอ้อนผม



         "เออๆก็ได้ๆ"แต่ว่ามันก็ดีแล้วที่ให้ผมเลี้ยงน้ำแทนเพราะราคามันไม่กี่บาทเอง



         "นั่งอยู่คนเดียวเหงาไหม"ลู่หานถามผมที่กำลังเก็บเงินใส่กระเป๋าอยู่



         "ไม่อ่ะ พอดีว่ามีผู้ชายคนนั้นเค้า...เฮ้ย หายไปไหนแล้วอ่ะ"ผมกำลังจะชี้ให้ลู่หานดูคยองซูที่จำได้ว่าเมื่อกี้ยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหนแต่ในตอนนี้กลับหายไปแล้ว



         "อะไรเหรอ"ลู่หานถามผมที่ยืนงงเป็นไก่ตาแตก หมอนั่นเท้าไวขนาดไหนกัน หายไปเร็วชิบถ้าจะเดินออกไปจริงๆผมก็น่าจะเห็นเขาในที่ไกลๆแต่ทว่าตอนนี้กลับไม่เห็นเขาเลย



         "เปล่าหรอก ฉันว่าไปโรงอาหารดีกว่า คนเยอะขี้เกียจต่อคิว"ผมจูงลู่หานออกไป โดยเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าห้องDคือห้องเดียวกับห้องที่เมื่อวานผมเจอในความฝันห้องที่ประตูอ้าไว้อยู่ ห้องที่ผอ.เพิ่งจะปิดไปเมื่อสามปีที่แล้วเหลือเพียงแค่สามห้องเท่านั้นคือABC ไม่มี...โรงเรียนนี้ไม่มีห้องDอยู่ในชั้นเกรดสิบสองมาสามปีแล้ว...






     
     
    《 KILLING INDEFINITELY 》



     


         หลังจากที่ผมกับลู่หานไปซื้อน้ำกิน ผมก็ขอตัวแยกมาช่วยเพื่อนในห้องเตรียมงานที่หอประชุมส่วนเขาก็ไปอยู่ตรงเวทีเพราะว่าวิชาการปีนี้ห้องของลู่หานมีการแสดงละครด้วย



         ตอนเดินมาถึงลู่หานพยายามที่จะตื๊อมาส่งผมเพราะกลัวว่าจะโดนใครแกล้งอีกแต่ผมก็ปฎิเสธไปแล้วบอกว่าคงไม่มีใครกล้ามายุ่งกับผมแล้วเด็กนั่นถึงจะปล่อยให้ผมเดินมาคนเดียวผมไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดีจะไปคุยกับใครก็ไม่กล้า เกิดไปกระตุกอารมณ์อันอ่อนไหวของคนในห้องขึ้นมาผมคงจะโดนรังแกอีกแหงๆ จะให้ไม่ช่วยก็ไม่ได้ด้วยสิอย่างนั้นยิ่งอาจจะโดนเกลียดเข้าไปใหญ่ จองอาก็ไม่อยู่ด้วยสิ เอาไงดีหว่า...



         "นี่นาย พอจะมีอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่า"ผมเดินเข้าไปถามผู้ชายท่าทางเนิร์ดดูปลอดภัยที่สุดที่กำลังวาดอะไรบางอย่างลงบนแผ่นไม้ขนาดใหญ่เพื่อตกแต่งบูธ


         "เอ่อ คือ นายไม่ต้องทำอะไรหรอก"หมอนั่นมองผมด้วยความกล้าๆกลัวๆเขาหลบหน้าผมเหมือนกับไม่กล้ามอง



         "ทำไมล่ะ?"นี่ผมโดนทุกคนในห้องแบนแล้วจริงๆใช่ไหมเนี่ย



         "คือ...ถ้า ลู่หานรู้ว่าเราให้นายทำงานหนัก เขาอาจจะเล่นงานได้"



         "ห๊า o_O"เดี๋ยวนะ...คนพวกนี้กลัวลู่หานจริงๆเดะ



         "อย่าทำให้พวกเราลำบากเลยนะ"เขาทำหน้าตาโคตรน่าสงสาร ความรู้สึกผิดกดทับลงมาบนบ่าผมทันที



         "เอ่อ...ก็ได้ๆ"ว่าจบผมก็เดินออกไปเพราะไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อนเพราะผม ให้ตายสิ เป็นแบบนี้รู้สึกไม่ชินเลย ผมควรไปอยู่ตรงไหนดีหรือจะไปหาลู่หานดีนะ... 






     
    《 KILLING INDEFINITELY 》





         อี้ชิงยืนแอบอยู่ตรงหลังเวทีที่จะใช้จัดแสดงในงานกิจกรรมวิชาการพรุ่งนี้ ช่วงนี้เขาตามคริสมาได้สักพักแล้วเหตุผลที่เขาต้องทพตัวลับๆล่อๆแบบนี้นั้นเป็นเพราะเขารู้สึกว่าคริสกำลังนอกใจเขา



         มีเพื่อนบางคนในห้องบอกว่าพักนี้คริสกับยูซองเด็กเกรดสิบเอ็ดชอบไปไหนมาไหนมาในด้วยกันบ่อยๆ อี้ชิงรู้ว่ามันเป็นการกระทำที่ไม่ดีถ้าคริสรู้ว่าเขาไม่ไว้ใจถึงขนาดสะกดรอยตามคริสคงโกรธแต่ทำไงได้ล่ะ เขารักคริสนี่นาและเพราะคริสนี่แหละที่ทำให้เขาต้องเลิกกับเซฮุน เด็กนั่นรู้ว่าเขามีคนอื่นเลยขอเลิกแต่คิดว่าเขาจะสนเหรอถึงคริสจะรวยไม่เท่าเซฮุนแต่มันก็ไม่เป็นอะไรอยู่แล้วเพราะเขารักคริสจริงๆโดยไม่ได้หวังอะไร อีกอย่างอี้ชิงเองก็รู้ว่าตัวเองเป็นแค่ตัวแทนของใครบางคน เซฮุนก็ไม่คิดจะจริงจังกับเขาเหมือนกัน



         พูดถึงเซฮุนอี้ชิงก็นึกถึงเหตุการ์ณในห้องน้ำเมื่อวันก่อน ทำไมเด็กนั่นต้องมาหลอกเขาด้วยถ้าไม่นับเรื่องคริสตลอดที่ผ่านมาอี้ชิงก็เป็นแฟนที่ดีมาตลอด



         "ไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันพูดเหรอ"อี้ชิงนึกถึงคำพูดของเซฮุนตอนนั้น เขาไม่เข้าใจว่าเซฮุนต้องการสื่อถึงอะไรแล้วทำไมเซฮุนถึงยังต้องตาราวีเขาด้วย ให้ตายสิ ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว



         อี้ชิงสะบัดหัวไล่ความคิดตัวเองก่อนจะย่องเข้าไปทางด้านหลังเวทีที่มีไว้ให้นักเรียนที่จะมาแสดงพรุ่งนี้แต่งตัว ข้างในอุปกรณ์ตกแต่งฉากมากมายของเด็กเกรดสิบเอ็ดและตอนนั้นเองที่สายตาอี้ชิงเหลือบไปเห็นลู่หาน



         นี่เขาลืมไปได้ยังไงว่ามันก็อยู่เกรดสิบเอ็ด... หึ ต้องอยู่เดียวกับยูซองแหงๆเพราะยัยนั่นก็ต้องเล่นละครในวันพรุ่งนี้ด้วย อี้ชิงเห็นอย่างนั้นเลยคิดจะกลับไปก่อนเพราะไม่อยากเจอลู่หานแล้วโดนซักไซร้ถามนู่นถามนั่นถามนี่ ยิ่งตอนนี้เขาตกเป็นผู้สงสัยของลู่หานอยู่ด้วยเพราะงั้นทางที่ดีอย่าไปเข้าใกล้เลยดีกว่า



         อี้ชิงกำลังจะเดินกลับทว่าในตอนนั้นเองที่เขาเห็นคริสกับยูซองยืนอยู่ในมุมอับหลังเวที เขาเลยเปลี่ยนใจเดินตามไปดูแทนและนั่นเป็นจังหวะที่ลู่หานบังเอิญหันมาเห็นอี้ชิงและด้วยสัญชาตญาณของนักสืบเขาจึงตามอี้ชิงไป



         อี้ชิงแอบซุ่มดูอยู่หลังม่านเขาเห็นคริสคุยอะไรกับยูซองไม่รู้ คริสยืนหันหลังให้เขาส่วนยูซองหันหน้ามาทางด้านที่เขากำลังแอบมองอยู่แต่เป็นเพราะคริสสูงกว่ายูซองมากทำให้ตัวคริสบังเด็กผู้หญิงคนนั้นไปและไม่กี่นาทีต่อมาคริสก็ค่อยๆโน้มหน้าลงไปหายูซองแม้จะเห็นไม่ชัดแต่จากมุมทางนี้อี้ชิงพอจะเดาออกได้ว่าคริสกำลังจูบกับยูซอง



         อี้ชิงรีบพุ่งตัวออกจากที่ซ่อนเตรียมจะเดินออกไปหาสองคนนั้นแต่ว่ามีมือของใครบางคนคว้าตัวเขาไว้ก่อน ลู่หานที่ตามมาเห็นเหตุการ์ณทั้งหมดรีบห้ามอี้ชิงไว้เพื่อไม่ให้วู่วามทำอะไรบ้าๆ เขาพยายามบอกให้อี้ชิงสงบสติอารมณ์แต่ทว่าอี้ชิงกลับไม่ฟังอะไรข้อมือเล็กๆที่มีแรงเยอะไม่สมกับขนาดตัวสะบัดออกจากการเกาะกุมของลู่หาน



         อี้ชิงเดินตรงดิ่งไปหาคริสที่เขาคิดว่าคงมีความสุขกับการได้จูบเด็กสาว มือของอี้ชิงคว้าไหล่คริสอย่างแรงให้หันมา แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่ใช่อย่างที่ตนคิดไว้ คริสทำเพียงแค่โน้มตัวไปใส่สร้อยให้ยูซองเท่านั้นไม่ได้มีการประทับริมฝีปากกันอย่างใด



         "นี่นาย..."อี้ชิงหน้าเหวอเมื่อเหตุการ์ณมันพลิกผัน ลู่หานที่วิ่งตามมาก็ทำหน้าใส่อี้ชิงประมาณว่าบอกแล้วให้ใจเย็น



         "อะไรกันอี้ชิงไหนวันนี้นายบอกจะไม่มาโรงเรียนแล้วทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี้"คิ้วเข้มขมวดเป็นปมพันกันยุ่งเหยิง คริสรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่จู่อี้ชิงก็โผล่มา



         "คือฉัน..."อี้ชิงไม่รู้จะตอบยังดีเลยได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ



         "อย่าบอกนะว่าที่นายชอบโกหกว่าไม่มาเป็นเพราะจะได้สะกดรอยตามฉันโดยไม่ให้ฉันสงสัย ทำแบบนี้ทำไม?"



         "ก็ถ้าไม่ทำแบบนี้ฉันจะเห็นเหรอว่านายนอกใจฉัน"อี้ชิงทำเป็นว่าตัวเองก็รู้สึกโกรธไม่น้อยเหมือนกัน



         "ไม่ไว้ใจกันเลยหรือไง ฉันกับยูซองเป็นแค่พี่น้องกันนะ เราอยู่บ้านข้างๆกันก็เลยสนิทกันมันก็เท่านั้นเอง"




         "ก็ฉัน..."อี้ชิงกำลังจะเถียงอีกแต่ว่าเห็นยูซองที่ยืนยิ้มหลายอยู่ข้างหลังมันก็ทำให้เขารู้ว่าโดนเด็กนี่ปั่นหัวเต็มๆ ก็ถึงว่าทำไมเขาถึงตามได้สบายๆโดยที่คริสไม่ได้เอะใจอะไรที่แท้ยูซองต้องการจะให้เขาเห็นคริสกับเธออยู่ด้วยกันสินะ จากที่เขาไม่ไว้ใจคริสเขาคงต้องไม่ไว้ใจแทนยูซองแล้วสินะ



         "ฉันผิดหวังกับนายมากจริงๆ"ว่าจบคริสก็เดินออกไปทิ้งให้อี้ชิงยืนเจ็บใจอยู่คนเดียว ยูซองเองก่อนที่จะเดินออกไปก็หันมาเหยียดยิ้มอย่างมีชัยให้กับอี้ชิง



         "หึหึ เพราะเป็นอย่างงี้สินะ ถึงได้โดนไอ้ฮุนทิ้ง"ลู่หานที่ยืนดูเหตุการ์ณเงียบๆหัวเราะออกมาเบาๆอย่างสมเพช



         "นาย!"อี้ชิงหันไปตวาดใส่เด็กที่อายุน้อยกว่าเขาหนึ่งปี ตอนนี้เขารู้สึกหงุดหงิดไปซะทุกอย่าง



         "หรือว่าไม่จริง?"ลู่หานแสยะยิ้มร้าย เขาค่อยๆเดินเข้าไปหาอี้ชิงที่ทำตาขวางใส่เขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ



         "ฉันไม่เคยถูกเขาทิ้ง ฉันเป็นฝ่ายที่เดินออกมาเอง ส่วนเขาก็แค่ปล่อยฉันมา"อี้ชิงกัดฟันพูดพยายามข่มน้ำเสียงและอารมณ์ให้เป็นปกติ



         "เพราะว่านายคงไม่มีค่าพอให้เพื่อนฉันเก็บไว้มากกว่า"ลู่หานยังคงใช้คำพูดร้ายกาจแขวะอี้ชิง



         "เหมือนกับที่เขาจะทำกับนายในตอนนั้นน่ะเหรอ"อี้ชิงพูดอะไรบางอย่างหลังจากที่ตัวเองนึกอะไรสนุกๆขึ้นมาได้



         "นาย..."ลู่หานกดเสียงต่ำเมื่อเห็นว่าอี้ชิงกำลังพูดอะไรบ้าๆ



         "กว่าจะมาเป็นลู่หานทุกวันนี้ก่อนหน้านั้นนายทำเขาหมดไปเท่าไหร่ล่ะ"ริมฝีปากสีแดงธรรรมชาติของอี้ชิงยิ้มราวกับว่าตัวเองคือผู้เหนือกว่าในเวลานี้



         "ช่างเป็นคนที่จงรักภัคดีต่อเพื่อนจังเลยน้า~"อี้ชิงฉีกยิ้มเสแสร้งให้ลู่หานพร้อมกับพูดเยาะเย้ยเรื่องบางอย่างของเขา



         "หุบปาก!"ลู่หานตะโกนออกไปด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมองอี้ชิงอย่างไม่สบอารมณ์



         "แหม...แค่นี้ก็โกรธซะแล้ว คนเรานี่มันไม่ชอบความจริงหรือไง ยิ่งความจริงที่เกี่ยวกับเรื่องตัวเองยิ่งรู้สึกสะอิดสะเอียน"มนุษย์ทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ตัวเองกลัวทั้งนั้น ลู่หานเองก็เช่นกัน...เขาเองก็มีความจริงบางอย่างที่หนีมันมาตลอด



         "นายฆ่าเขาใช่ไหม!?"ลู่หานกระชากไหล่อี้ชิงให้หันมามองตัวเอง ตาทั้งสองข้างจ้องอี้ชิงราวกับอยากจะฆ่าให้ตายคามือ



         "อะไรของนาย..."ทว่าอี้ชิงยังคงไม่สะทกสะท้านอะไร ใบหน้าที่ดูมีความสุขกับการได้ปั่นหัวลู่หานเมื่อกี้ในเวลานี้มีแต่ความเรียบเฉย



         "นายฆ่าเซฮุนใช่ไหม ที่เซฮุนไม่คบกับนายต่อแล้ว นายก็เลยฆ่าเขาเพราะเขาไม่มีประโยชน์กับนายอีกแล้ว"



         "เหอะๆ คนที่จะฆ่าเซฮุนได้มันควรจะเป็นนายมากกว่า!!"



         "ลู่หาน..."เสียงของใครบางคนที่คุ้นเคยทำให้อี้ชิงและลู่หานหันไปมอง เมื่อลู่หานเห็นว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร อารมณ์ที่พลุ่งพล่านก็ค่อยๆสงบลง



         "มันไม่ใช่นะมินซอก อี้ชิงใส่ร้ายฉัน"ลู่หานพูดกับมินซอกที่บังเอิญเข้ามาเห็นเหตุการณ์ มินซอกแค่ตั้งใจจะมาหาลู่หานเพราะว่าไม่มีเพื่อนเท่านั้น



         "อ้อใช่สินะ...นอกจากนายจะสงสัยฉันแล้วนายก็ควรจะสงสัยเพื่อนนายด้วยนะ"



         "เลิกทำให้พวกเราไม่ไว้ใจกันซักที!คนที่จะฆ่าเซฮุนมันมีแค่นาย...ได้ยินไหมอี้ชิงว่ามันมีแค่นาย!!"มินซอกอึ้งกับลู่หาน เขาไม่เคยเห็นเด็กคนนี้โมโหขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ ทำไมกัน...



         "แล้วเอาอะไรมามั่นใจว่าเป็นฉัน?"



         "ก็นาย..."



         "สงสัยตัวเองดีกว่านะ ไอ้เด็กเลว!"ยังไม่ทันที่ลู่หานจะพูดอะไรบางอย่างออกมาอี้ชิงก็ขัดขึ้นมาก่อน อี้ชิงตอนนี้เองก็โมโหไม่แพ้กัน ให้ตายนี่มัน เรื่องไร้สาระบ้าบออะไรกัน



         "คนร้ายไม่ใช่ลู่หานหรอก..."ในตอนนั้นเองมีเสียงใครบางคนดังขึ้นมาจากทานด้านหลัง ทั้งสามต่างก็หันไปมองผู้มาใหม่อย่างพร้อมเพรียง



         "เขาจะฆ่าเซฮุนได้ยังไงกันในเมื่อสองคนนี้เคยคบกันมาก่อน" 








     
    โปรดติดตามตอนต่อไป 



     
    140511

    มาช้าเหมือนเดิม...หายไปกี่วันหว่า ทำไมรู้สึกยาวนานจัง ฮ่าๆ ขอบคุณคอมเม้นท์มากนะ มันช่วยทำให้คนที่โคตรขี้เกียจอย่างเราขยันขึ้นมาได้เลย ขอแค่ให้ทุกคนติดตามเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ เม้นท์บ้างให้รู้ว่ายังไม่ทิ้งกันไปไหน เราก็มีกำลังใจแต่งต่อแล้ว



    สกรีมลงทวิตได้ที่เดิมเวลาไหนก็ได้ #ฟิคฆ่า #ฟิคqling 

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×