ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Magi ' n Tale

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1:เด็กทุน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 23
      0
      16 พ.ย. 56

    ฉับ! เสียงตัดไม้ดังขึ้นในเช้าวันแรกของอาทิตย์ในหมู่บ้านชายแดนของเมืองเขตเหนือที่ห่างไกล ฉับ! เสียงตัดไม้ยังคงดังเป็นระยะตามความขยันของ คนตัดที่กำลังพยายามเงื้อขวานอันใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง เด็กสาวร่างเล็ก ผมสีน้ำตาลยาวประบ่า ท่าทางมอมแมมน่าดูกำลังตัดไม้ชิ้นโต พร้อมด้วยขวานโลหะอันใหญ่ที่ดูไม่สมกับตัวเธอเท่าไหร่นัก

               เสื้อและกางเกงที่มีรอยขาดแสดงถึงความสมบุกสมบันของเจ้าของได้เป็นอย่างดี ฉับ! ขวานอันใหญ่เฉาะลงกลางท่อนไม้อีกครั้ง พร้อมกันกับร่างบางที่ล้มลงด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงานมาถึงสามวันสามคืนเต็มๆ ใช่เธอกำลังทำงานเกินตัวแต่ถ้าเธอไม่ทำอย่างนี้เธอก็จะไม่มีเงินพอที่จะประทังชีวิตไปวันๆได้ และเธอก็ยังมีคนที่ต้องเลี้ยงดูอีกเพียบ  

    ไงจ้ะแม่หนูเซนยุ ขยันแต่เช้าเลยนะ โฮ่ โฮ่ โฮ่ ชายแก่หนวดเฟิ้มลูบเคราของตัวเองไปมา แล้วยิ้มมาทางเซนยุ

    แหมๆออกกำลังกายแต่เช้ามันดีนะลุง เดี๋ยวฉันไม่สบายเพราะออกแรงน้อยไปจะเป็นเรื่อง

    เซนยุตอบกลับอย่างอารมณ์ดีแล้วหันไปโยนท่อนไม้เข้ากอง

    ขยันอย่างนี้ซักวันท่านเทพีแห่งความขยันต้องให้รางวัลแน่ๆ" ชายแก่ลูบเคราของตนอีกแล้วเดินจากไปพร้อมกับกล่าวทิ้งท้าย เสร็จงานแล้วก็แวะมาที่โบสถ์สักหน่อย ฉันมีเรื่องจะบอกหนูล่ะนะ ข่าวดีๆ โฮ่ๆ เค้าหัวเราะและเดินหายไปอย่างรวดเร็ว  ทิ้งไว้ให้เซนยุทำหน้างง

          ดวงอาทิตย์ยามเที่ยงขึ้นสูงจนอยู่ตรงกลางหัวพอดีเป๊ะ  แดดร้อนๆทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของหมู่บ้านหลังเขาดูวุ่นวายขึ้นมาถนัดตา  ขอบคุณที่ใช้บริการค่าเซนยุโค้งคำนับให้เจ้าของโรงไม้พร้อมรับเงินเหรียญจำนวนหนึ่งมาที่ดูจะน้อยเหลือเกิน

     ถ้าไม่ได้หนูช่วยพวกฉันก็แย่เหมือนกันล่ะสินะ  ฉันให้ติปเธอไปนิดหน่อยๆ ถือว่าเป็นสินน้ำใจก็แล้วกันนะเอ่อออ  เค้าพูดสำเนียงแปลกๆ แต่พอฟังได้

                 แล้วก็รีบกลับไปง่วนกับการคิดเงินต่อไป  -เสร็จซักทีนะ งานของอาทิตย์ นี้ –  เซนยุก้มลงมองจำนวนเงินที่มีเหรียญทองอยู่สองสามเหรียญ และเหรียญทองแดงอันเล็กอยู่ราวๆยี่สิบ เธอใช้สายตาคำนวณจำนวนเงินและปริมาณข้าวที่สามารถซื้อได้ ลงความเห็นในใจแล้วเดินไปที่ร้านที่มีรูปถังข้าวสารฝั่งตรงข้ามทันที  เซนยุเลือกข้าวที่ราคาถูกที่สุดในร้านคือข้าวพันธุ์จากเมืองหนาวที่ราคาถูกแสนถูก แต่คุณภาพก็สมกับราคามาสองถัง

    สามเหรียญโกลเด้น”  เถ้าแก่ร้านที่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรเรียกเก็บเงินราคาที่ราวกับขูดเลือดขูดเนื้อของเธอ   
    นี่เถ้าแก่เมื่อวานสองถังยัง สองเหรียญโกลเด้นอยู่เลยนะ คิดมั่วรึเปล่า?”   
    เซนยุจ้องกลับไปที่ตาของเถ้าแก่หน้าเลือด ที่จ้องสวนกลับเช่นกัน 

    ข้าวแพงขึ้น ก็แค่นั้น”    เถ้าแก่ตอบกลับเสียงแข็ง  และถ้าคิดว่าร้านฉันมันขายแพงก็ไปซื้อร้านอื่น การไล่ที่ทำให้ใจเซนยุเจ็บจี๊ดขึ้นมาแก่ไม่มีผลอะไรเลยเพราะร้านที่ขายข้าวสารในหมู่บ้านมีแค่ที่เดียว  เซนยุสบถอยู่ในใจแล้ววางเงิน สามโกลเด้นไว้บนโต๊ะและรีบลากถุงข้าวสารไปจากร้านทันที  

     ถ้าหากฉันมีเงินมากกว่านี้ก็คงดีสินะ เฮ้อ... เธอลากถุงข้าวหนักๆผ่านร้านรวงในหมู่บ้านต่างๆที่ตั้งเป็นแผงลอยและร้านเล็ก  เซนยุลากถุงข้าวสารที่หนักอึ้งผ่านหน้าร้านขนมปังที่มีกลิ่นหอมฉุยโฉยมา ขนมปังอบร้อนๆ กระตุ้นต่อมความยากได้เป็นอย่างดี หรือจะคาเฟ่มิลค์ที่มีนมอุ่นๆไว้บริการตลอด24ชั่วโมง  เธอพยายามกลั้นใจเดินต่อไปอย่างร่าเริงทั้งที่รู้ว่าไม่มีเงินพอที่จะซื้อของพวกนี้ได้

               ระยะทางจากในหมู่บ้านถึง ที่พักของเธออยู่ห่างกันมากจึงต้องใช้เวลาร่วมชั่วโมงกว่าจะมาถึงเธอลากถุงข้าวมาจนถึงบ้านที่ดูจะเหมือนเล้าไก่ซะมากกว่า เพราะมีไก่หลากชนิดรวมกันอยู่แถวนั้นและก็อยู่ร่วมใต้หลังคาเดียวกันมากับเธอตั้งแต่จำความได้    เธอวางถุงข้าวแล้วเอนหลังพิงกับเชิงไม้

       พี่เซนยุกลับมาแล้ว  พี่สาวกลับมาแล้วเสียงของเด็กสาววัยห้าขวบดังเจื้อยแจ้วมาแต่ไกล แล้วเสียงเรียกชื่อ เซนยุ ก็ดังทวีขึ้นพอๆกับจำนวนคน  เด็กๆ อายุตั้งแต่ ห้าขวบถึง แปดขวบกลุ่มหนึ่ง ล้อมเซนยุไว้ด้วยรอยยิ้ม  โธ่ๆ ให้พี่สาวคนนี้พักหน่อยสิเซนยุโบกมืออย่างเหนื่อยอ่อน แล้วค่อยพยุงตัวขึ้นมายืน 

    วันนี้พี่มีข้าวมาแล้วนะทุกคนช่วยกันหุงเถอะเซนยุชี้ไปทางถุงข้าวที่ตนแบกมาแล้วส่งยิ้มให้เด็กๆ    เธอเป็นคนอุปถัมภ์เด็กๆยากไร้พวกนี้เอง ทั้งที่มันน่าจะเป็นหน้าที่ของทางองค์การสงเคราะห์เด็กยากไร้ของหมู่บ้านแต่เด็กๆพวกนี้กลับถูกเมินอย่างโหดร้ายเพียงเพราะพวกเค้าไม่มีพลังเวทย์ แต่ก็อย่างว่าโลกใบนี้มันวัดค่าความเป็นมนุษย์พียงเพราะเรื่องแค่นี้ล่ะนะ  เซนยุสลัดความคิดออกไปจากหัวแล้วเดินไปล้างมือที่มีแต่รอยขีดข่วนเต็มไปหมด ถ้าหากขาดสองมือนี้ไปแล้วเด็กๆที่น่าสงสารพวกนี้จะเป็นยังไงกันนะ "หึ"  สักวันชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเราต้องดีขึ้นกว่านี้ด้วยมือของฉัน  ถึงเซนยุจะพอมีพลังเวทย์บ้างก็ตามเถอะแต่มันก็น้อยจนน่าใจหายเหมือนกัน ช่างเถอะ เธอถอนหายใจแล้วเตรียมตัวไปที่โบสถ์ตามคำขอของนักบวชประจำหมู่บ้าน

     พี่เซนยุค่ะ เด็กที่ดูจะโตที่สุดในบรรดาเด็กทั้งหมดวิ่งตรงมาทางเธอพร้อมกับยื่นบางสิ่งบางอย่างให้   พวกหนูทำให้พี่ค่ะเซนยุยิ้มรับแล้วหยิบไม้สลักรูปหัวใจอันเล็กๆที่ดูประณีตในการทำมากๆมากำในมือไว้หลวมๆก่อนที่จะเอามันไปห้อยไว้กับสร้อยหนังอันที่เธอใส่อยู่

        เซนยุลูบหัวเด็กคนนั้นเบาๆ ขอบใจมากนะชูกะ  เดี๋ยวพี่ต้องออกไปทำธุระข้างนอกฝากดูแลน้องๆด้วยล่ะ  

    พี่สาวไม่ต้องเปนห่วงพวกเราหรอกน้า พวกเราดูแลตัวเองได้”  เด็กสาวผมสีม่วงตอบกลับมาทันควัน 
    ช่าย ช่าย  อวกเอา อูแออัวเองไอ่  เซนยุยิ้มให้กับความน่ารักของพวกเด็กๆแล้ววิ่งออกมาจากบ้านเล้าไก่อย่างรวดเร็ว  ตามแบบฉบับของสาวอึดเกินร้อยแล้วหันหลังกลับมาโบกมือให้เด็กๆ

       ไม่นานนักเธอก็มาหยุดอยู่หน้าของโบสถ์สไตล์โบราณของลัทธิบูชาเทพีแห่ง

    หมู่บ้านลาเวนเดล หมู่บ้านชายแดนริมเขตเมืองเหนือหมายเลข 20451ที่อยู่กลางภูเขาสูงกั้นระหว่างเขตแดนเหนือและใต้  เนื่องจากเป็นหมู่บ้านชายแดนที่อยู่ค่อนข้างไกลจากทางข้ามแดนจึงไม่ค่อยนิยมในหมู่นักเดินทางมากนัก อีกทั้งเครื่องสาธารณูปโภคยังขาดแคลนอย่างน่าใจหาย ทุกอย่างที่อยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้จึงมีราคาแพงอย่างไม่น่าเชื่อตามมาด้วย เป็นสาเหตุที่ทำงานมากเท่าไหร่จึงไม่คุ้มค่าข้าวที่ต้องจ่ายในแต่ละวันของเซนยุ 

      เซนยุค่อยๆผลักบานประตูหินแกะรูปเทพี อิลเลียส ผู้รักษาป่าไม้และพืชพรรณ ขนาบคู่กับเทพี เฟเลียส ผู้ปกป้องความงามของดอกไม้  โลกยุคของเธอนั้นเป็นยุคที่เทพีมีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือหมู่บ้านเธอที่ดำเนินวิถีชีวิตโดยนับถือเทพีเป็นหลักโดยเฉพาะเทพีที่เกี่ยวกับจำพวกป่าไม้อย่าง อิลเลียส และ เฟเลียส ตามที่เห็น  เซนยุเข้ามาในโบสถ์ที่มีแต่รูปป่าไม้ ที่เธอคุ้นเคยและเหล่าภูติสีเขียวที่กำลังร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนาน เธอเพลิดเพลินกับความงดงามของโบสถ์ที่ไม่ค่อยได้เข้ามาอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งชายชราเมื่อตอนเช้าที่ตอนนี้สวมชุดคลุมผ้าสักหลาดสีเขียว เดินออกมาจากทางหลังรูปปั้น 

    มาช้าไปนิดนะแม่หนูเซนยุ โฮ่ๆชายชราลูบเครายาวๆของตนไปมาอย่างอารมณ์ดี

    ขออภัยเจ้าค่ะท่านนักบวชเกรนเซนยุก้มลงขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่

    ไม่เป็นไร ลูกเชิญนั่งก่อนสิชายชราสะบัดมือนิดนึงแล้วเก้าอี้ไม้ขนาดพอดีตัวก็โผล่ออกมา ตรงข้างหลังเซนยุพอดี

    เอาล่ะมาเริ่มต้นเรื่องของเรากันดีกว่า ที่ฉันจะมาพูดในวันนี้เกี่ยวกับเรื่องของเธอและเด็กๆในความดูแลชายชราเว้นระยะการพูดแล้วลูบเคราของเค้าสองสามที

    มีผู้ไม่ประสงค์ออกนามจำนวนแปดคนตามจำนวนเด็กขอรับอุปถัมภ์เด็กๆพวกนั้นเธอจะว่ายังไงชายชราถามเซนยุด้วยสีหน้าอารมณ์ดี ซึ่งต่างจากเซนยุตอนนี้มีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด เธอนึกภาพผู้ที่จะมาอุปถัมภ์เด็กไร้เวทย์มนต์พวกนั้นไม่ออกเลยแม้แต่แวบเดียว ชายชราก็เหมือนรู้ใจเธอจึงกลับมาพูดต่อจากเมื่อกี้

    เธอวางใจได้เลยนะผู้อุปถัมภ์คราวนี้ไม่เหมือนรายอื่นๆเมื่อคราวก่อนหรอกนะ

     เซนยุคิดถึงผู้อุปถัมภ์คราวก่อนที่มารับเด็กในความดูแลของเธอไปเป็นครอบครัวที่นับถือลัทธิกินมนุษย์ของเกาะทางใต้ และคนพวกนั้นก็เกือบจะกินพวกเด็กๆเป็นอาหารมื้อค่ำไปเรียบร้อย ถ้าหากเธอไม่ไปช่วยไว้

    วางใจไม่ได้เลยนะท่านนักบวช ฉันไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่

    คราวนี้ต่างกับคราวก่อน ฉันมั่นใจนะแม่หนูชายชราตอบกลับมาด้วยเสียงหนักแน่นพอที่จะทำให้เธอใจอ่อนได้

    -ถ้าหากว่าท่านนักบวชมั่นใจออกหน้าเองซะขนาดนี้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะคัดค้านถ้าคนที่มารับพวกเด็กๆสามารถทำให้พวกเค้ามีชีวิตที่ดีขึ้นได้โดยไม่ต้องอดมื้อกินมื้อ-

    งั้น........ก็ตกลงค่ะ แต่ว่าวันไหนที่ครอบครัวอุปถัมภ์จะมารับพวกเด็กๆค่ะ

    โฮ่ๆ คราวนี้ค่อนข้างใจร้อนหน่อยนะแม่หนู ฉันตอบได้คำเดียวว่าวันนี้จ้ะ

    เซนยุเบิกตากว้างด้วยความตกใจทันที

    วันนี้เชียวเหรอท่าน อย่าบอกนะว่า.......

    ไม่ใช่ก็ต้องใช่ตอนที่หนูออกมาพวกเด็กๆก็ถูกพาตัวไปแล้วจ้ะ โฮ่ๆชายชรายังลูบเคราต่อไปโดยไม่สนใจใบหน้าของเซนยุที่กำลังร้อนวูบวาบด้วยความโกรธ

    ทำไมท่านถึงไม่บอกข้าล่ะ ทำไมหยาดน้ำใสๆไหลออกมาจากตาของเธอเมื่อรู้ว่าจะไม่ได้เจอหน้าเด็กๆอีกแล้ว แม้แต่โอกาสบอกลายังไม่มีด้วยซ้ำ ในใจของเธอตอนนี้ทั้งร้อนรุ่ม ทั้งเสียใจ แต่ก็ได้แต่กดมันเอาไว้เพื่อให้เกียรติคนตรงหน้า

    เอาล่ะนะเรื่องของเด็กๆก็จบลงแล้ว คราวนี้มาเรื่องของเธอ

    เค้าหยิบจดหมายสีขาวประทับตราด้วยผงสีแดงน้ำเงินและเขียวออกมายื่นให้เซนยุ

    หลายวันมานี้ฉันได้รับหนังสือจากโรงเรียนในเมืองใต้ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งมา เรื่องการให้ทุนกับเด็กที่มีความตั้งใจ ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นในการเรียน ซึ่งฉันก็ได้เสนอให้กับทางสภาหมู่บ้านแล้วและทุกเสียงที่ลงนามเลือกและเฟ้นหาคนตามคุณสมบัติเห็นว่า คนที่สมควรรับทุนมากที่สุดคือเธอนะ โมริกะ เซนยุ คุง โฮ่ๆ
    คำพูดประโยคนั้นของชายชราแทบทำให้เซนยุทรุดความใฝ่ฝันที่เธอมีมาตลอดนั้นมันเริ่มจะเป็นจริงขึ้นมาแล้วความเสียใจเรื่องเด็กๆเมื่อครู่พลันหายไป เธอรีบเปิดอ่านจดหมายฉบับนั้นด้วยความรวดเร็ว และถึงกับอึ้งเมื่อเห็นชื่อโรงเรียน

    มาเทลอองเนส! โรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองฝ่ายใต้ เป็นแหล่งที่ผลิตนักเรียนหญิงที่ฉลาดหลักแหลมและเรียบร้อยระดับแนวหน้าของโลก ว่ากันว่าสมบัติเวทย์มนต์ที่หายากต่างๆก็เก็บรักษาไว้ในโรงเรียนแห่งนี้ด้วย มันเป็นโรงเรียนในฝันของเหล่าเด็กสาวเลยทีเดียว ซึ่งมันก็เป็นความฝันที่สูงที่สุดของเซนยุด้วย

    ท่านนักบวช ทะ ทะ ท่านล้อเล่นรึเปล่าเธอตอบชายชราด้วยน้ำเสียงสั่นๆที่ปนไปด้วยความยินดี

    ข้าไม่ได้ล้อเล่นเลยซักนิด และเจ้าก็ยังอ่านเนื้อความในจดหมายไม่จบเลยนะ

    เซนยุก้มลงอ่านจดหมายแผ่นนั้นต่อแล้วก็ต้องทำสีหน้าประหลาดใจออกมา เพราะเนื้อความในจดหมายนั้นระบุวันเวลาในการแข่งขั้นเพื่อรับทุนของโรงเรียนมาเทลอองเนสโดยทายาทสามตระกูล ในเนื้อความว่า

    เรียนท่านหัวหน้าหมู่บ้านที่ 20451

       เนื่องด้วยทางโรงเรียนมาเทลอองเนสได้จัดทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความประพฤติดี มีมารยาทเรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้ เอาใจเป็นเลิศสู้งานอึดและอดทน ที่สำคัญตั้งใจเรียน
       ในวันที่ 19 เดือน เอมเบอร์  ปีหลังสงคราบุพผาที่ 1289 ณ คฤหาสน์แห่งผู้สร้าง
     เมืองมาเทล

    -โปรดมาถึงก่อนเวลา 8 นาฬิกาเพื่อคามเรียบร้อยในการขึ้นทะเบียน

    จึงเรียนมาเพื่อทราบ

    ลงชื่อ คากิราวะ  เอลลี่

    หัวหน้าฝ่ายทะเบียนโรงเรียนมาเทลอองเนส

     

    ที่จริงงานนี้ก็เพิ่งจะเคยจัดเป็นปีแรกเห็นว่าทายาทของทั้งสามเป็นคนคิดวางแผนเองเชียวนะ ผู้เข้าแข่งขันรับทุนคราวนี้ก็ราวๆแค่พันห้าร้อยคนเท่านั้นอง โฮ่ๆ

    พันห้าร้อยคน เชียวนะเซนยุบ่นอุบอิบพลางคิดว่านับประสาฝีมืออย่างเธอจะสู้อะไรคนพวกนั้นได้บ้าง แค่คิดหัวก็จะระเบิดอยู่รอมร่อ เวทย์มนต์ก็รู้งูๆปลาๆ ภาษาก็อ่อน ยิ่งวิชาอื่นๆอย่าเพิ่งพูดถึงขี้เลื่อยคงอัดตัวเป็นก้อนๆอยู่ในหัวแทนที่สมองแทนซะมากกว่า ที่พอจะกระเตื้องขึ้นมาหน่อยก็คงเป็นพวกออกแรงอย่างพละ แล้วเป็นแบบนี้เธอจะมีอะไรไปสู้พวกคนอื่นๆกันนะ

    ไม่ต้องกังวลพ่อคิดว่าอย่างหนูต้องทำได้แน่ๆ พ่อค่อนข้างมั่นใจเรื่องนี้อีกเรื่อง
    ชายชราส่งสายตาและคำพูดแสดงความมั่นใจ ที่เซนยุไม่มั่นใจออกมา อย่างน้อยท่านนักบวชก็ยังมั่นใจล่ะนะ    เธอกำหมัดแน่นเพื่อเรียกพลังใจกลับมาแล้วส่งรอยยิ้มไปทางชายชรา

    ถ้าท่านมั่นใจ ฉันก็มั่นใจค่ะเธอยิ้มแบบที่ไม่เคยยิ้มมาก่อนแล้วลุกขึ้นยืนยืดเส้นยืดสาย

    ถ้าหนูมั่นใจฉันคิดว่าตอนนี้คงถึงเวลาที่หนูต้องไปขึ้นรถแล้วล่ะนะ ชายชราวาดมือเป็นวงกลมแล้วก็มีชายฉกรรจ์สองคนกระโดดออกมาที่หน้าอกมีสัญลักษณ์รูปดอกลิลลี่สีขาวอยู่ด้วย

    ท่านอย่าบอกอีกนะว่า....................”  – จะให้เราไปตอนนี้เนี่ยนะ-

    เอาล่ะนะเวลาเหลือไม่มากแล้วอภินันทนาการจากทางโรงเรียน รถด่วนพิเศษแห่งทุ่งลิลลี่ หวังว่าคงจะสนุกกับการเดินทางนะ เซนยุคุง

    ชายทั้งสองจับแขนแต่ละข้างของเธอไว้แล้วโยนเธอขึ้นรถมาอย่างคล่องแคล่วแบบที่ชายแก่วัยใกล้ถึงฝั่งไม่พึงกระทำ

    เฮ้ ท่านนักบวชอย่างงี้มันยังไงกัน ท่านนักบวชชชชชช

    เซนยุส่งเสียงร้องครวญครางที่ดูจะไปไม่ถึงชายชราที่กำลังนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้นวมอย่างสบายใจ      แล้วก็ต้องอุดปากของตัวเองไว้เมื่อคนขับรถม้าทั้งสอง พูดคำพูดแปลกๆออกมา

    บริการรับส่งพัสดุด่วนจี๋แห่งทุ่งลิลลี่ขอบคุณที่ใช้บริการครับ คุณหนู

    พัสดุแถมด่วนจี๋อีก แสดงว่าไม่ได้เอาไว้รับส่งคนสินะเฮ้ออ  แต่ยังไงก็ช่างเหอะปลายทางก็คงเป็นสถานที่แห่งความฝันของเราเหมือนเดิมล่ะ  รถม้าขนส่งพัสดุด่วนจี๋เคลื่อนตัวออกมาจากโบสถ์ซักพักก็ค่อยๆลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ราวกับมีกระแสลมอุ่นๆห่อหุ้มไว้  
    เซนยุนอนแพ่หราอย่างสบายลงบนพื้นไม้ของรถ ดวงตาสีน้ำตาลมองผ่านเพดานที่สามารถมองเห็นภายนอกได้ด้วยเวทย์มนต์     
    "ท้องฟ้าสวยจัง" 
    ท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนือหมู่บ้านที่นานๆทีเซนยุจะได้นอนมองไปตามหมู่ดาวต่างๆที่เรียงรายเป็นหย่อมๆ มอบความสว่างให้กับท้องฟ้าสีดำยามที่พระอาทิตย์ตกดิน

       รถเทียมม้ารูปร่างประหลาดสีขาวที่แน่นอนว่ามีสัญลักษณ์รูปดอกลิลลี่สีขาวอยู่ข้างตัวรถด้วย ยังคงแล่นฝ่าอากาศไปอย่างไม่ลดละ  เหลือก็แต่เจ้าของร่างบางที่ความง่วงกำลังจู่โจมเป็นระยะ เปลือกตาหนาๆของเธอนั้นเริ่มหนักอึ้ง น้ำหนักทั้งหมดถ่วงให้มันค่อยๆปิดกันจนสนิทจากความเหนื่อยล้าของการทำงานมาทั้งวันไม่นานนัก เธอก็เข้าสู่ห้วงนิทราอย่างสมบูรณ์ในราตรีที่แสนยาวนานบนรถขนส่งพัสดุด่วนพิเศษแห่งทุ่งลิลลี่ที่ๆกลายเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตครั้งใหม่

        ทางด้านของชายชรานักบวชแห่งหมู่บ้านลาเวนเดลผู้ซึ่งกำลังนอนอยู่บนโซฟาตัวโปรดนั้นก็กำลังเฝ้ามองหมู่ดาวที่เคลื่อนไหวแปลกๆนับร้อยดวง ไม่ต้องสงสัยให้ยากเลยว่าต้องเป็นรถขนส่งพัสดุด่วนจี๋แห่งทุ่งลิลลี่ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังสถานที่เดียวกันอย่างแน่นอน เค้าถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกับสวดมนต์ภาวนาขอให้ เธอคนนั้นสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ด้วยดีเถอะ
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    o-o นางเอกรันทดคือสไตล์ของไรท์เตอร์ 
    ขอความเห็นกับคำติชมด้วยเน้อทุกท่าน ><

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×