คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ:
ชายวัยกลางคนร่างสูง เดินแปะแผ่นผ้าสีขาวที่มีอักขระแปลกๆหลายตัว
ไปทั่วบ้านไม้โทรมๆกลางป่าแห่งหนึ่ง สีหน้าและแววตาของเค้ามีลิงโลดอย่างเห็นได้ชัด
แสงจากเทียนไขที่ติดไว้ทั่วบ้านหลังนั้นก็เริ่มริบหรี่ตามแรงลมที่เกือบจะเข้าขั้นพายุเค้าปิดจนถึงแผ่นสุดท้ายซึ่งอยู่ตรงประตูไม้บานใหญ่พอดี
“หวี๊ดดดด” เสียงสายลมข้างนอกกรีดเข้ามาตามร่องประตูจนดูน่ากลัว ชายคนนั้นนั่งยองๆกลางพื้นบ้านที่ทำด้วยไม้ ในมือของเค้าถือถ้วยเคลือบสีขาวที่มีของเหลวสีแดงอยู่ภายใน
เค้าเอานิ้วชี้ของเค้าจุ่มลงไปบนของเหลวสีแดงและวาดมันลงบนพื้นไม้ เป็นรูปวงกลมและอักขระต่างๆ นับสิบ เค้าตวัดมือครั้งสุดท้ายอันเป็นการจบการวาดนั้น สายลมภายนอกยังกรรโชกแรง เสียงของกิ่งไม้ที่เสียดสีกันอยู่ภายนอกยังรุนแรงเช่นเดียวกันกับกระแสลม
แต่ยังสู้แรงกดดันในบ้านหลังนี้ไม่ได้เลยแม้แต่เสี้ยวเดียว หนังสือเล่มหนาถูกหยิบจากย่ามสีหม่นๆมากางไว้บนมือเรียวเล็กของเค้า ชายชราค่อยๆเปิดไปจนพบหน้าที่ต้องการและเริ่มพึมพำอะไรบางอย่างออกมา เป็นเสียงเล็กๆที่สามารถกลืนไปกับสายลมที่เกรี้ยวกราด
“โปรดประทานกำลัง โปรดประทานปัญญา และความรู้แก่ข้า โปรดประทานอำนาจที่แสนชั่วร้าย อำนาจที่สามารถทำให้แผ่นดินนี้นองไปด้วยเลือด” เสียงบทมนต์โบราณที่แต่ละคำที่เปล่งออกมานั้นล้วนแฝงไปด้วยอำนาจดังก้องไปทั่วบ้านหลังนั้น แสงจากเทียนไขก็เริ่มติดๆดับๆ ดั่งมีพลังบางอย่างมาทำให้มันเป็นเช่นนั้น
“ข้าแต่ท่านพยามารแห่งประตูนรกที่ลึกที่สุด.......ได้โปรดประทานมันแก่ข้า! “
มนต์บทสุดท้ายที่ทั้งหนักแน่นและรุนแรงดังก้องไปทั่วหุบเขาแห่งนั้นแม้ แต่สัตว์ป่าที่ขึ้นชื่อว่าหลับลึกที่สุดยังต้องสะดุ้ง ของเหลวที่ถูกวาดบนพื้นค่อยๆเปล่งแสงที่ร้อนแรงราวกับจะแผดเผาบ้านทั้งหลังให้มอดไหม้ลงไปในบัดดล
แสงนั้นทวีความรุนแรงขึ้น เรื่อยๆจนมันดูดกลืนร่างของชายคนนั้นไปสิ้น
เสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความชั่วร้ายและเย้ยหยัน ดังออกมาจากแสง และดับวูบไปพร้อมๆกับร่างของชายคนนั้น ทิ้งไว้เพียงถ้วยเคลือบที่ภายในไม่มีอะไรแล้ว และ...............................
รอยยิ้มของคนอีกคนที่แอบซ่อนอยู่หลังประตูบานเล็กๆข้างหลังของชายชราที่เพิ่งหายไป ตลอดมา คนๆนั้นหัวเราะ พร้อมด้วยแววตาที่เย็นชายากเกินจะอธิบาย สายตาของเค้ามองทอดไปยังแสงจันทร์ที่สาดเข้ามา เหมือนกำลังจะบอกว่าเรื่องราวจริงๆนั้นมันเพิ่งจะเริ่มขึ้น ต่อจากนี้ต่างหาก เค้าหยิบขลุ่ยสีทองขึ้นมาและเริ่มบรรเลงบทเพลงโปรดของเค้า
ที่มีชื่อเรียกว่า “วันเหน็บหนาวในคืนจันทรา”
เสียงเพลงที่แสนวิจิตรดังไปทั่วหุบเขา ที่มีแสงสีทองจากพระจันทร์วันเพ็ญฉาบไปทั่วผืนป่า เส้นผมสีเงินยาวสลวยพลิ้วไปตามกระแสลม คลอเคลียไปกับบทเพลงที่สามารถกรีดแทงเข้าไปในจิตใจของใครบางคน.............................................................................................
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะค่ะ
ปล.เดี๋ยวนางเอกก็มาแล้วนะเอ้อ ><
ความคิดเห็น