คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : prologue
PROLOGUE
‘
ฉันขอสาปแช่งพวกแก! ’
‘ ฉันขอสาปแช่งพวกแกทุกคน! ’
‘ ขอให้พวกแกทั้งหมดตกนรกหมกไหม้!!!
’
เสียงกรีดร้องปะปนไปกับเสียงตะโกนสาปแช่งดังกัมปนาทราวกับฟ้าผ่า
วนเวียนซ้ำไปซ้ำมาราวกับเสียงเทปตะกุกตะกักจะพังแหล่มิพังแหล่ เขาจ้องมองแสงสว่างที่เล็ดลอดมาจากช่องใต้ประตู
ฝ่ามือแนบค้างไว้บนพื้นผิวเย็นเยียบของประตูบานใหญ่ ปลายนิ้วลูบไล้เนื้อไม้ที่ถูกสลักเป็นลวดลายงดงามและน่าเกรงขามด้วยจิตใจที่เลื่อนลอย
เด็กหนุ่มอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลากับคุณแม่
คุณน้า และเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านคนเก่าคนแก่อีกไม่กี่คน พายุบ้าคลั่งที่เกิดขึ้นหลังบานประตูกลายเป็นเรื่องชินชาของทุกคนภายใต้ชายคาคฤหาสน์หลังนี้
แต่เมื่อรุ่งเช้ามาถึงทุกอย่างก็กลับกลายเป็นปกติอีกครั้งโดยไม่มีใครปริปากถึงมัน
ใบหน้าราบเรียบไร้อารมณ์ของคุณแม่ยังคงเชิดขึ้นน้อย
ๆ ราวกับไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้นหลังบานประตูนั้น
ราวกับหล่อนเป็นรูปปั้นที่ไม่สะท้านสะเทือนต่อแสงแดด พายุ หรือหิมะ
ครอบครัวของเด็กหนุ่มไม่ได้สุงสิงกับใครมากนักในช่วงหลายปีให้หลัง
แต่นาน ๆ ครั้งอาจจะมีบ้าง เพราะความเก็บตัวเงียบเชียบนี่เองที่ทำให้ผู้คนในละแวกใกล้เคียงเริ่มร่ำลือกันไปต่าง
ๆ นานาว่าคุณผู้หญิงของคฤหาสน์ ‘ชิโนซากะ’ ที่เคยโอ่อ่าเมื่อครั้งอดีตนั้นวิปลาสไปเสียแล้ว บ้างก็เชื่อว่าตระกูลของพวกเขาต้องคำสาปถึงได้ทยอยมีคนล้มหายตายจากติดต่อกันจนกระทั่งเหลือคนเพียงหยิบมือ
คำพูดปากต่อปากเป็นเหมือนไฟลามทุ่ง ยากจะควบคุม พวกเขาจึงทำได้แค่ปล่อยมันไปราวกับสายลมที่พัดผ่าน
คำครหาเป็นจริงหรือไม่ไม่มีใครรู้ .. แต่ทว่าเหตุใดตัวเขาที่ฟังเสียงกรีดร้องด่าทอซ้ำแล้วซ้ำเล่ากลับรู้สึกถึงเพียงความเจ็บปวดรวดร้าวเพียงเท่านั้น?
ท้ายที่สุดแล้วเสียงกรีดร้องอย่างคับแค้นใจก็ค่อย
ๆ แผ่วลงจนเหลือเพียงเสียงสะอึกสะอื้น บทเพลงเดิม ๆ เริ่มขับขานอีกครั้ง
หลายปีมานี้เด็กหนุ่มยืนฟังมันจนกระทั่งสามารถจดจำเนื้อร้องได้ทุกคำไม่มีตกหล่น บทเพลงแสนเศร้าตราตรึงใจ
— ทว่าน้ำเสียงที่ถูกเปล่งออกมานั้นเย็นชืดราวกับรูปปั้นหินแกรนิตที่ตั้งอยู่ในสวน
ค่ำคืนมาเยือน
หยาดน้ำตาเปื้อนสองแก้ม
จิตวิญญาณข้ามอดไหม้
ปล่อยไฟรักให้สุมทรวง
เหตุใดรักจึงทำให้ชอกช้ำ
คืนวันขมขื่นกล้ำกลืนฝืนใจ
นี่หรือสิ่งที่เขามอบให้
ไยความหวานชื่นจึงหลงเหลือเพียงรสจืดจาง
‘ เคยได้ยินเรื่องคำสาปของพวกตระกูลชิโนซากะหรือเปล่า?
’
‘ ไม่คิดว่ามันแปลกหรือไงที่ตระกูลนั้นปลีกวิเวกมาตั้งหลายปี
’
‘ ฉันได้ยินว่าแต่ก่อนชิโนซากะมีทายาทหญิงหลายคน
แต่พวกหล่อนกลับทยอยล้มหายตายจากไปทีละคนจนเหลือทายาทหญิงแค่เพียงคนเดียว ไม่มีใครรู้เลยว่าสาเหตุการตายคืออะไร
ช่วงนั้นมีแต่นักข่าวไปรอสัมภาษณ์แต่พวกเขากลับเก็บตัวเงียบ
ไม่ยอมตอบคำถามเสียอย่างนั้น ’
‘ ตระกูลต้องคำสาปอะไรนั่นเป็นเรื่องจริงหรือนี่?
’
‘
จริงหรือเปล่าที่บรรพบุรุษของพวกเขาขายวิญญาณให้ปีศาจ? ’
‘ ชิโนซากะเสื่อมอำนาจลงจากแต่ก่อนมาก
เหลือทายาทแค่ไม่กี่คนแล้ว แถมทายาทหญิงเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ก็มีข่าวลือว่าวิปลาส
อีกทั้งวันที่ฝังศพของพ่อตัวเอง หล่อนยังพูดออกมาต่อหน้านักข่าวอีกว่าคนอย่างเขาสมควรตาย
’
‘ หล่อนบ้าไปแล้ว! ’
‘ หลายปีแล้วที่หล่อนไม่แม้แต่จะโผล่หน้าออกมาจากรั้วคฤหาสน์
จะว่าไปก็น่าเสียดาย .. หน้าตางดงามแต่ชีวิตอาภัพนัก ดวงจันทร์ยังมีวันอับแสงจริง
ๆ ’
‘ นั่นลูกชายของหล่อนหรือ
.. เขาดูเหมือนหล่อนอย่างกับแกะ! ’
‘ อย่าเข้าไปใกล้เจ้าหมอนั่นเชียวนะถ้ายังไม่อยากเจอเรื่องโชคร้าย
’
‘ ใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกชิโนซากะก็มักจะพบแต่เรื่องไม่ดีทั้งนั้น! ’
เด็กหนุ่มซุกตัวอยู่ในผ้านวมขณะยืนตากกลมตรงระเบียง
กลีบปากแดงฉ่ำจากฤทธิ์สาเกที่แอบขโมยมากระตุกขึ้นเล็กน้อย คล้ายรอยยิ้มแต่ไม่ใช่รอยยิ้ม
เขายกมือขึ้นปาดสาเกที่เลอะบนปากอย่างเงียบงัน บางค่ำคืนก็ยากนักที่จะข่มตาหลับ แต่ความขมขื่นนี้ใครจะมาล่วงรู้
เขาเหม่อมองพุ่มกุหลาบสีโปรดของคุณแม่ในสวนด้านล่าง
ย่างเข้าฤดูใบไม้ร่วงในสวนจึงมีแต่สีแดงบานสะพรั่ง ดวงตากลมโตเหม่อมองกุหลาบเหล่านั้นอย่างไร้จุดหมาย
ความร้อนรุ่มจากลำคอไหลไปถึงช่องท้องทำให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาบ้าง รู้ตัวอีกทีเสียงกรีดร้องก็เงียบหายไปแล้วทว่าเสียงร้องเพลงกระท่อนกระท่อนฟังดูเรี่ยวแรงยังคงดำเนินต่อไปค่อนคืน
ดวงจันทร์งดงาม
เหลืองอร่ามลอยเด่น
ก้มมองเศษหัวใจในกำมือ
ถูกนำหวนคืนสู่เจ้าของ
โอ้ จันทร์เจ้าขา
เหตุใดเขาจึงจากไปไม่ล่ำลา
ทิ้งตัวข้าให้ทุกข์ระทมตรมใจ
‘ ไอ้ตัวโชคร้าย!
’
ไม่ใช่นะ
‘ ไปให้พ้น! ’
ไม่ใช่สักหน่อย
‘ ตาย ๆ ไปซะไอ้ตัวกาลกิณี!!!!
’
‘
talk;
ได้ฤกษ์เปิดเรื่องใหม่อีกแล้ว
เรื่องนี้จะเป็นแนว slow burn กับ slice of life ที่เนิบ ๆ เอื่อย ๆ มีความเซอร์เรียลบ้างเล็กน้อย
ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค้า /ย่อตัว
ความคิดเห็น