ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (BL) the moon shines at night — the fox smiles at me

    ลำดับตอนที่ #1 : prologue

    • อัปเดตล่าสุด 16 มี.ค. 64


     

     

    PROLOGUE





                 ‘ ฉันขอสาปแช่งพวกแก!



                ‘ ฉันขอสาปแช่งพวกแกทุกคน!



                ‘ ขอให้พวกแกทั้งหมดตกนรกหมกไหม้!!! ’



              เสียงกรีดร้องปะปนไปกับเสียงตะโกนสาปแช่งดังกัมปนาทราวกับฟ้าผ่า วนเวียนซ้ำไปซ้ำมาราวกับเสียงเทปตะกุกตะกักจะพังแหล่มิพังแหล่ เขาจ้องมองแสงสว่างที่เล็ดลอดมาจากช่องใต้ประตู ฝ่ามือแนบค้างไว้บนพื้นผิวเย็นเยียบของประตูบานใหญ่ ปลายนิ้วลูบไล้เนื้อไม้ที่ถูกสลักเป็นลวดลายงดงามและน่าเกรงขามด้วยจิตใจที่เลื่อนลอย



              เด็กหนุ่มอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลากับคุณแม่ คุณน้า และเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านคนเก่าคนแก่อีกไม่กี่คน พายุบ้าคลั่งที่เกิดขึ้นหลังบานประตูกลายเป็นเรื่องชินชาของทุกคนภายใต้ชายคาคฤหาสน์หลังนี้ แต่เมื่อรุ่งเช้ามาถึงทุกอย่างก็กลับกลายเป็นปกติอีกครั้งโดยไม่มีใครปริปากถึงมัน



              ใบหน้าราบเรียบไร้อารมณ์ของคุณแม่ยังคงเชิดขึ้นน้อย ๆ ราวกับไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้นหลังบานประตูนั้น ราวกับหล่อนเป็นรูปปั้นที่ไม่สะท้านสะเทือนต่อแสงแดด พายุ หรือหิมะ



              ครอบครัวของเด็กหนุ่มไม่ได้สุงสิงกับใครมากนักในช่วงหลายปีให้หลัง แต่นาน ๆ ครั้งอาจจะมีบ้าง เพราะความเก็บตัวเงียบเชียบนี่เองที่ทำให้ผู้คนในละแวกใกล้เคียงเริ่มร่ำลือกันไปต่าง ๆ นานาว่าคุณผู้หญิงของคฤหาสน์ ชิโนซากะ ที่เคยโอ่อ่าเมื่อครั้งอดีตนั้นวิปลาสไปเสียแล้ว บ้างก็เชื่อว่าตระกูลของพวกเขาต้องคำสาปถึงได้ทยอยมีคนล้มหายตายจากติดต่อกันจนกระทั่งเหลือคนเพียงหยิบมือ คำพูดปากต่อปากเป็นเหมือนไฟลามทุ่ง ยากจะควบคุม พวกเขาจึงทำได้แค่ปล่อยมันไปราวกับสายลมที่พัดผ่าน



    คำครหาเป็นจริงหรือไม่ไม่มีใครรู้ .. แต่ทว่าเหตุใดตัวเขาที่ฟังเสียงกรีดร้องด่าทอซ้ำแล้วซ้ำเล่ากลับรู้สึกถึงเพียงความเจ็บปวดรวดร้าวเพียงเท่านั้น?



              ท้ายที่สุดแล้วเสียงกรีดร้องอย่างคับแค้นใจก็ค่อย ๆ แผ่วลงจนเหลือเพียงเสียงสะอึกสะอื้น บทเพลงเดิม ๆ เริ่มขับขานอีกครั้ง หลายปีมานี้เด็กหนุ่มยืนฟังมันจนกระทั่งสามารถจดจำเนื้อร้องได้ทุกคำไม่มีตกหล่น บทเพลงแสนเศร้าตราตรึงใจ — ทว่าน้ำเสียงที่ถูกเปล่งออกมานั้นเย็นชืดราวกับรูปปั้นหินแกรนิตที่ตั้งอยู่ในสวน


     


    ค่ำคืนมาเยือน หยาดน้ำตาเปื้อนสองแก้ม

    จิตวิญญาณข้ามอดไหม้ ปล่อยไฟรักให้สุมทรวง

    เหตุใดรักจึงทำให้ชอกช้ำ คืนวันขมขื่นกล้ำกลืนฝืนใจ

    นี่หรือสิ่งที่เขามอบให้ ไยความหวานชื่นจึงหลงเหลือเพียงรสจืดจาง

     



              เคยได้ยินเรื่องคำสาปของพวกตระกูลชิโนซากะหรือเปล่า?



                ‘ ไม่คิดว่ามันแปลกหรือไงที่ตระกูลนั้นปลีกวิเวกมาตั้งหลายปี



                ‘ ฉันได้ยินว่าแต่ก่อนชิโนซากะมีทายาทหญิงหลายคน แต่พวกหล่อนกลับทยอยล้มหายตายจากไปทีละคนจนเหลือทายาทหญิงแค่เพียงคนเดียว ไม่มีใครรู้เลยว่าสาเหตุการตายคืออะไร ช่วงนั้นมีแต่นักข่าวไปรอสัมภาษณ์แต่พวกเขากลับเก็บตัวเงียบ ไม่ยอมตอบคำถามเสียอย่างนั้น



                ‘ ตระกูลต้องคำสาปอะไรนั่นเป็นเรื่องจริงหรือนี่? ’



                ‘ จริงหรือเปล่าที่บรรพบุรุษของพวกเขาขายวิญญาณให้ปีศาจ?



                ‘ ชิโนซากะเสื่อมอำนาจลงจากแต่ก่อนมาก เหลือทายาทแค่ไม่กี่คนแล้ว แถมทายาทหญิงเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ก็มีข่าวลือว่าวิปลาส อีกทั้งวันที่ฝังศพของพ่อตัวเอง หล่อนยังพูดออกมาต่อหน้านักข่าวอีกว่าคนอย่างเขาสมควรตาย



                ‘ หล่อนบ้าไปแล้ว!



                ‘ หลายปีแล้วที่หล่อนไม่แม้แต่จะโผล่หน้าออกมาจากรั้วคฤหาสน์ จะว่าไปก็น่าเสียดาย .. หน้าตางดงามแต่ชีวิตอาภัพนัก ดวงจันทร์ยังมีวันอับแสงจริง ๆ  



                ‘ นั่นลูกชายของหล่อนหรือ .. เขาดูเหมือนหล่อนอย่างกับแกะ! ’



                ‘ อย่าเข้าไปใกล้เจ้าหมอนั่นเชียวนะถ้ายังไม่อยากเจอเรื่องโชคร้าย




                ใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกชิโนซากะก็มักจะพบแต่เรื่องไม่ดีทั้งนั้น!

     



    เด็กหนุ่มซุกตัวอยู่ในผ้านวมขณะยืนตากกลมตรงระเบียง กลีบปากแดงฉ่ำจากฤทธิ์สาเกที่แอบขโมยมากระตุกขึ้นเล็กน้อย คล้ายรอยยิ้มแต่ไม่ใช่รอยยิ้ม เขายกมือขึ้นปาดสาเกที่เลอะบนปากอย่างเงียบงัน บางค่ำคืนก็ยากนักที่จะข่มตาหลับ แต่ความขมขื่นนี้ใครจะมาล่วงรู้


    เขาเหม่อมองพุ่มกุหลาบสีโปรดของคุณแม่ในสวนด้านล่าง ย่างเข้าฤดูใบไม้ร่วงในสวนจึงมีแต่สีแดงบานสะพรั่ง ดวงตากลมโตเหม่อมองกุหลาบเหล่านั้นอย่างไร้จุดหมาย ความร้อนรุ่มจากลำคอไหลไปถึงช่องท้องทำให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาบ้าง รู้ตัวอีกทีเสียงกรีดร้องก็เงียบหายไปแล้วทว่าเสียงร้องเพลงกระท่อนกระท่อนฟังดูเรี่ยวแรงยังคงดำเนินต่อไปค่อนคืน

     



    ดวงจันทร์งดงาม เหลืองอร่ามลอยเด่น

    ก้มมองเศษหัวใจในกำมือ ถูกนำหวนคืนสู่เจ้าของ

    โอ้ จันทร์เจ้าขา

    เหตุใดเขาจึงจากไปไม่ล่ำลา ทิ้งตัวข้าให้ทุกข์ระทมตรมใจ

     



              ไอ้ตัวโชคร้าย! ’



              ไม่ใช่นะ



              ไปให้พ้น! ’



              ไม่ใช่สักหน่อย



              ตาย ๆ ไปซะไอ้ตัวกาลกิณี!!!! ’

     

     

     

     

     


    talk;
    ได้ฤกษ์เปิดเรื่องใหม่อีกแล้ว
    เรื่องนี้จะเป็นแนว slow burn กับ slice of life ที่เนิบ ๆ เอื่อย ๆ มีความเซอร์เรียลบ้างเล็กน้อย
    ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค้า /ย่อตัว




     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×