ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    zodiacปาฏิหารย์รัก12จักรราศี

    ลำดับตอนที่ #7 : คำร่ำลือ

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 50


     

                  ......บรรยากาศที่แสนตึงเครียดในตอนนี้นั้น  คือการที่สองสาวหน้าใสกำลังยืนจ้องกันด้วยสายตาที่ไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นมิตรต่อกันเลยสักนิดเดียว  ทำให้ผู้ที่ส่ออาการอยากรู้อยากเห้นค่อยๆเงี่ยหูฟังกันเป็นการใหญ่  ด้วยว่าเรื่องของชาวบ้านนั้น  เหมือนเป็นขนมหวานที่น่าลิ้มลองอย่างยิ่ง

                   ...จะเว้นก็แต่คนที่เป็นเหตุชนวนสำคัญของเรื่อง  นี่สิ  ..

                 "  เอ่อ..เชอร์รี่  คะ..คือ  ผมว่า  เชอร์รี่กลับไปก่อนดีกว่านะจ๊ะ.."  เสียงหนุ่มตัวผอมสูงผมยาวที่ยืนไกล่เกลี่ยอยู่ไม่ห่างจากสองสาวนั้นดูท่าจะลำบากใจเอามาก ๆ 

                เมื่อหันไปเห็นสายตาของสาวเปรี้ยวจากคณะบัญชีซึ่งกำลังปรายตาคมกริบชนิดว่าถ้าบาดเข้าไปที่ไหนสักแห่งในตัวเขาได้  คงจะเล่นเอาเลือดทะลักไปเลยทีเดียว

                "  ท้อปน่ะเงียบไปเลยนะ  ไม่ต้องพูด..!  "

                คนที่ทำหน้าเหมือนกำลังจะตายซะให้ได้ในตอนนี้  ต้องถอยฉากออกมานิดหนึ่ง  ก่อนจะหันไปหาผู้หญิงตัวเล็กที่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น  หล่อนยังไม่พูดอะไรเลยสักคำเดียว  ตลอดเวลาที่สาวบัญชีคนสวยพูดจาเสียดสีหล่อนต่างๆนาๆ

                  "  บีครับ  ผมต้องขอโทษด้วยนะคือว่าผม.."

                  เขายังไม่ทันพูดจบด้วยซ้ำเมื่อสาวจอมวีนปราดเข้าไปหาแฟนหนุ่มทันที

                  "  พูดกับมันทำไม  หาท้อป..เชอร์รี่ยืนอยู่ตรงนี้  ท้อปยังกล้าเหรอ  "  เจ้าหล่อนเล่นทุบซะไม่เลือกที่  ทำให้หนุ่มท้อปเอามือป้องกันตัวแทบไม่ทัน

                   "  โธ่..เชอร์รี่  ใจเย็นได้มั้ย  "  หนุ่มผมยาวพูดอย่างอ่อนใจ  เขานึกอยากเดินหนีไปให้รู้แล้วรู้รอดด้วยว่าอายคนรอบข้างเต็มที 

                  เมื่อหันไปเห็นสาว ๆหลายคนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆที่ทำเป็นแอบเมียงๆมองๆมาด้วยท่าทางสนอกสนใจ  นี่ถ้าไม่นึกห่วงผู้หญิงตัวเล็กตากลมข้าง ๆที่ยืนนิ่งไม่ตอบโต้อะไรสักคำอยู่ตรงนั้นแล้วล่ะก็  เขาจะไม่สนอีกเลยว่า  ยายสาวบัญชีคนนี้จะทำอะไร  เขาเบื่อผู้หญิงจอมวีนนี่เต็มทีแล้ว

                   ไม่น่าเลยจริง ๆ..ไอ้ท้อปเอ้ย ไม่น่าไปจีบยัยนี่ตั้งแต่ทีแรก  เกาะเขายิ่งกว่าปลิงในปลักโคลนซะอีก  ..หนุ่มผมยาวถอนหายใจอย่างเซ็งเต็มที  เมื่อเห็นเจ้าหล่อนจอมวีนหันไปหาคนตัวเล็กข้างๆอีกครั้ง

                    "  ฉันไม่อยากว่าเธอหรอกนะ  แต่อยากเตือนเอาไว้  ว่าจะยุ่งกับคนของใครน่ะหัดดูตามาตาเรือซะบ้าง  เขาเป็นของฉัน  เตือนไปครั้งนึงแล้วยังไม่จำอีก  "

                    สาวเปรี้ยวมองตาเข้มไปที่คีตภัทรที่ถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกเหนื่อยใจกับเรื่องนี้เต็มที  หล่อนอยากจะไปยุ่งกับคนพวกนี้ซะเมื่อไหร่กันเล่า ..เบื่อเต็มทีแล้ว..เมื่อคนตัวเล็กถอนหายใจยาวก่อนจะหันไปทางสาวเปรี้ยวที่ยืนมองอยู่ไม่ห่าง

                   "  ฉันไม่อยากยุ่งกับพวกเธอหรอก  เอาคนของเธอไปไกล ๆฉันด้วยล่ะ  "  เสียงเย็นๆของคีตภัทรบอก  ก่อนที่สาวเปรี้ยวจะกรีดเสียงแหลมขึ้นทันที

                   "  หล่อนนั่นแหละไปไกลๆท้อป  อย่ามายุ่งกับแฟนคนอื่นเค้าอีก  "  เสียงแหลม ๆทำให้คนตัวเล็กเม้มปากแน่น 

                    หล่อนอายคนอื่น  ที่ยายจอมแหกปากคนนี้มาราวีหล่อนไม่เลิกทั้งๆที่หล่อนไม่คิดจะยุ่งกับผู้ชายคนนี้เลยจริง ๆ  เมื่อหันไปมองหน้าคนรูปหล่อผมยาวที่หล่อนไม่ได้รู้สึกดีกับเขาเหมือนที่เคย  เพราะนิสัยที่เพิ่งปรากฏออกมา

                  ยามที่ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ของความหลงแล้ว  ตาหล่อนมันก็สว่างกระจ่างชัดมากขึ้นเป็นกอง

                    "  บอกแฟนท้อปสิ  ว่าแค่คนรู้จักกันเฉยๆเราไม่เคยยุ่งเกี่ยวอะไรกันสักหน่อย  และไม่คิดจะไปยุ่งเกี่ยวด้วยเลย  "  บอกเสร็จก็สะบัดหน้าฉวยกระเป๋าทำท่าจะออกเดิน  แต่ถูกหนุ่มผมยาวฉวยมือจับเอาไว้ก่อน

                    "  บี..ผม  "  สีหน้าเสียอกเสียใจของหนุ่มผมยาว  พร้อมกับอาการจับมือทำให้สาวบัญชี  แทบกรี๊ดออกมา

                   "  อ๊าย..ท้อป..! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ "  ไม่ต้องรอให้แม่สาวจอมโวยวายร้องออกมา  หล่อนก็สะบัดมือออกทันที  เล่นเอาหนุ่มท้อป มองตาม

                   พอดีกับที่สาวเปรี้ยวแห่งคณะบัญชีจะกราดเข้ามาถึงตัวแฟนหนุ่ม  ก็ได้ยินเสียงทุ้มของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาซะก่อน

                   "  มาอยู่นี่นี่เอง  "  เสียงของคนที่เข้ามาถึงทำให้ทั้งสามหันไปมองพร้อมกัน 

                    ภาพหนุ่มหน้าใส  จมูกโด่ง  ที่ยืนกอดอกอยู่ไม่ไกลนั้นทำให้ต่างคนต่างนิ่งกันไป

                    อราม..รุ่นพี่วิศวะรูปหล่อที่สาว ๆทุกคณะในมหาลัยต่างรู้จักกันดี  ถึงแม้จะไม่ใช่กลุ่มหนุ่มหล่อของมหาลัยเพราะไม่ค่อยปรากฏตัวออกมาให้สาวๆเห็น  แต่ก้หน้าตาดีอย่างที่เขาร่ำลือกันจริงๆ รุ่นพี่คนนี้ทำตัวค่อนข้างลึกลับ  นาน ๆรุ่นน้องถึงจะได้ยลโฉมกันสักที 

                    มีคำร่ำลือกันว่ารุ่นพี่รูปหล่อคนนี้ต้องบินไปต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง  เพราะไปช่วยทางบ้านทำธุรกิจ  บางคนก็พูดกันว่าเขาไปทัวร์ตะวันออกกลางอยู่เสมอ  เพราะได้ทุนไปดูงานและติดต่อกับประเทศผู้ผลิตน้ำมัน  บ้างก็ร่ำลือกันว่าแม้ไม่ต้องเข้าเรียนก็สามารถได้คะแนนเต็มทุกวิชา  หรือแม้กระทั่งว่าเขามีกลุ่มผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่  เพราะเป็นลูกชายมาเฟียรูปหล่อ  จึงทำให้ไม่มีใครกล้าแหยมกับรุ่นพี่คนนี้เลย

                   ไม่รู้ว่าคำที่ร่ำลือกันมาจากไหนกันนัก  แต่ก็เป็นที่โจษจันกันมาก  โดยเฉพาะสาว ๆในมหาลัย  ถึงจะไม่ดังเท่ากับหนุ่มหล่อคนอื่นๆเพราะสาว ๆไม่ค่อยได้เห็นหน้า  แต่ก็ถือว่าติดโผหนุ่มหล่อในมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง

                   ซึ่ง..ข่างลือทั้งหลายทั้งแหล่นั้น

                  เอ่อ..ให้พูดตรง ๆก็คือ...

                  หาได้เป็นความจริงสักนิดเดียวไม่  ก็นี่ไม่ใช่ชีวิตหนุ่มหล่อผู้ลึกลับ  หรือชีวประวัติของวีรบุรุษผู้น่าหลงใหลที่ไหนสักหน่อย

                  อะแฮ่ม..คะ..คือ  คือว่า  ที่จริงแล้ว  หนุ่มผมยุ่งคนนี้เขาบังเอิญหน้าตาดี  รูปร่างดูเท่ห์สมาร์ทมาแต่ดังแต่เดิมอยู่แล้ว  ประกอบกับเป็นคนพอหัวดีอยู่หน่อยนึง  ไม่ได้ไปทัวร์ตะวันออกกลางหรือไปประเทศไหนทั้งนั้น 

                   ที่รุ่นน้องไม่ค่อยได้เห็นหน้ากันก็เพราะคนขี้เกียจมัวแต่นอนอุตุอยู่ในห้องจนไม่ค่อยได้ไปเรียนล่ะถึงจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด  เพราะเท่าที่จบแต่ละปีมาได้นี่ก็นับว่ามหัศจรรย์มากแล้ว  เพราะเวลาเรียนของพ่อเจ้าประคุณเฉียดฉิวจะพอแหล่ไม่พอแหล่อยู่ประจำ

                  "  ไหนไอ้บอยบอกว่าจะไปที่หอพัก  "  คนรูปหล่อสูงเด่นที่เข้ามายืนอยู่ตรงหน้าคนตัวเล็ก  ทำให้หนุ่มผมยาวไม่ค่อยสบอารมณ์นัก  เมื่อเห็นได้ชัดๆรุ่นพี่คนนี้นั้นเป็นที่ร่ำลือแค่ไหน..ไม่อยากจะยอมรับหรอกว่าไอ้หน้าหล่อคนนี้มันดูดีน่ะ..เฮ้อ..หมั่นไส้  หนุ่มท้อปทำหน้าหงิกเมื่อมองรุ่นพี่ตรงหน้า

                  แต่กลับตรงกันข้ามกับสาวเปรี้ยวหน้าสวยที่ยืนตาเป็นประกายอยู่ใกล้ๆแฟนหนุ่ม

                  ..ว้าย..ทำไมหล่ออย่างนี้เนี่ย  ..เจ้าหล่อนเลยลืมสนใจแฟนหนุ่มไปเลย

                   เมื่อปรายตายิ้มหวานให้คนที่ยืนจ้องน้องสาวเพื่อนรักนิ่ง

                 "  ว่าแล้วยัยตัวเล็ก  เธอนี่เหลวไหลประจำเลย  มันน่าจริง ๆ  "

                 อรามส่ายหน้า  ก่อนจะดึงมือคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า  จนเซถลาไปตามแรงดึง 

                  "  ไปกินข้าว  หิวจะตายแล้วเนี่ย  "  คนรูปหล่อที่ห่วงเรื่องกินหนักหนาทำเอาคีตภัทรแบะปาก 

                ..ตะกละจริง ๆ  คนอะไร  แต่ก็ดีเหมือนกัน  เพราะขืนอยู่ตรงนี้อีกมีหวังหล่อนคงประสาทรับประทานแน่ ๆ

                  กำลังจะเดินตามเขาไป..

                   "  บี  "  เสียงเรียกของหนุ่มผมยาวทำให้หล่อนหันไปมอง  คนที่อยู่ข้างหน้าจึงถอนหายใจออกมาอย่างนึกหงุดหงิด  ก่อนที่เขาจะหันกลับมามองคนเรียกเช่นกัน

                   "  บี  ผมอยากคุยกับคุณนะว่าผม..  " 

                   "  ท้อป..หยุดเลยนะ  "  สาวข้าง ๆดึงยื้อยุดแขนแฟนหนุ่มเอาไว้  จนคนที่ชักจะไม่ไหวต้องสะบัดออกอย่างแรง

                    "  ปล่อยผมได้มั้ยเชอร์รี่  "  หนุ่มผมยาวพูดอย่างสุดกลั้น  จนหล่อนมองอย่างแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง  เมื่อกราดเสียงใส่หน้าแฟนหนุ่มไป

                    "  ทำไมท้อปถึงเป็นอย่างนี้ไปได้  เพราะยัยนี่ใช่มั้ย ..หาตอบมานะ  เพราะนังหน้าด้านนี่ใช่มั้ย  "  น้ำเสียงกราดเกรี้ยวพูดออกมาขณะที่หันมามองหน้าคนที่ยืนฟังนิ่ง

                    "  ท้อปบอกมานะ  ท้อปมีอะไรกับมันแล้วใช่มั้ย  บอกเชอร์รี่มานะ  " 

                   คำพูดรุนแรงที่ออกมาทำให้คนที่ยืนฟังนิ่งเม้มปากแน่นด้วยความรู้สึกอับอายและโกรธเคืองกับคำพูดเพ้อเจ้อของสาวเปรี้ยวตรงหน้าอย่างมาก  คีตภัทรได้แต่นิ่งอย่างพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ 

                   แต่เขาไม่..

                    " นี่  "  คนที่ยืนฟังอยู่ไม่ห่าง ก้าวเข้ามาใกล้ๆสาวปากร้ายที่ยืนเชิดหน้าอยู่ตรงนั้น  เขามองหน้าสาวสวยตรงหน้านิดหนึ่ง  ก่อนจะปรายตาไปที่หนุ่มผมยาวที่ยืนหน้าเครียดอยู่ข้าง ๆ

                  "  นาย  "  คนที่สูงกว่าพูดออกมาเรียบ ๆ  เมื่อจ้องหน้าหนุ่มผมยาวตรงหน้านิ่ง  ก่อนจะกระตุกยิ้มเหี้ยมขึ้นที่มุมปาก

                 "  อย่ามายุ่งกับน้องฉันอีก  ถ้ายังอยากมีชีวิตจนจบมหาลัย " 

                 คำพูดเยียบเย็นกับสายตาคมนิ่งนั้น  ทำให้หนุ่มผมยาวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น  นึกถึงคำร่ำลือต่าง ๆที่เคยได้ยินมา  เขาถึงกับสั่นโดยไม่รู้ตัว

                   "  เธอก็เหมือนกัน  เอาปลอกคอมาใส่แล้วล่ามโซ่มันซะนะ.." อรามปรายตาเรียวไปมองผู้ชายที่ยืนสั่นอยู่ตรงหน้า  เมื่อหันไปบอกสาวสวยที่ยืนหน้าแหยอยู่ตรงนั้น

                    "  ฮึ  หน้าตาอย่างนี้  ยังหวงเข้าไปได้  ไม่มีใครบอกบ้างรึไง  วะ  หน้าตายังกะมนุษย์โคมันยอง  " 

                    ว่าแล้วคนที่ได้ดีหน่อยก็ตรงที่หน้าตาดีกว่าเขาก็ทำเป็นสายหน้า 

                    "  ไปกันเถอะ  "  แล้วดึงแขนคนตัวเล็กให้เดินตามเขามา  คนที่เซตามมาอีกรอบก็บ่นออด

                     "  แล้วดึงทำไมเล่า  พี่นี่ก็..โอ้ย  "  คนที่เกือบสะดุดเพราะก้าวเล็กตามคนขายาวไม่ทันบ่นเป็นการใหญ่  เมื่อในมือมีทั้งกระเป๋าทั้งหอบหนังสือ

                     "  เธอนี่มีแต่เรื่องจริง ๆเลยให้ตายสิ  "  อรามปล่อยมือคนตัวเล็ก  แล้วจ้องหน้า

                    "  ทำตัวเป็นปกติอย่างคนอื่นเค้าบ้างน่ะ  ทำเป็นมั้ย  "  เขาว่า  แล้วหันมาดูหอบหนังสือที่อยู่ในมือคนข้างๆ  ก่อนจะคว้ามาถือไว้เองทั้งหอบ

                     "  ไปหาอะไรกินกันได้แล้ว  เธอเลี้ยงด้วยนะวันนี้  ค่าเสียเวลา  " 

                      ทำให้คีตภัทรต้องหันมองหน้าคนที่รวบรัดตัดความให้ตัวเองได้ประโยชน์หน้าตาเฉย 

                     "  เอ้า..ไปได้แล้ว  ยังมาทำเป็นมองหน้าอีก  "  พูดเสร็จก็ออกเดินไปก่อน  หนำซ้ำยังทำสีหน้าสบายอกสบายใจเดินผิวปากจนน่าหมั่นไส้ซะอีก

                      "  งกที่สุด  "  หล่อนปรายตามองแล้วว่าไป 

                     "  แน่นอน  "  แต่คนที่ถูกว่ากลับยอมรับหน้าตาเฉย  เมื่อหันมายิ้มยั่ว  แล้วเดินแซงหน้าไปพลางผิวปากต่อไป  อย่างอารมณ์ดีพิกล 

                     หล่อนมองตามหลังเขาไป  ก่อนจะถอนใจกับตัวเอง  เพื่อนพี่ชายหล่อนคนนี้  กวนประสาทเป้นที่สุด  และยังหาเรื่องว่าหล่อนได้ทุกที 

                    คีตภัทรมองแผ่นหลังกว้างของคนที่ออกเดินไปข้างหน้าก่อนแล้วอย่างรู้สึกอบอุ่นอยู่ลึกๆในใจ

                   ตั้งแต่เจอกัน  เขาก็ช่วยอะไรหล่อนมาหลายอย่างแล้วเหมือนกัน

                   ทั้งที่หน้าตาท่าทางดูดีขนาดนั้น  แต่ทำไมถึงไม่มีแฟนนะ  หล่อนนึกถึงคำพูดเขา

                   'อย่ามายุ่งกับน้องฉันอีก'  คิดถึงคำพูดนั้น 'น้อง' งั้นเหรอ  เราเป็นได้แค่น้องจริง ๆเหรอเนี่ย  นึก ๆแล้วก็ต้องสลัดความคิดบ้า ๆนั่นออกไปจากหัว

                    "  บ้าจริงเชียวยายบีเอ้ย  คิดอะไรบ้า ๆ  "  หล่อนเม้มปากแล้วส่ายหัวไปมาอยู่คนเดียว  จนเมื่อรู้ตัวอีกทีก็เห็นสายตาของคนตัวสูงตรงหน้าหยุดมองหล่อนอยู่  หน้าหล่อๆนั่นจ้องเขม็ง  ทำเอาหล่อนหน้าแดงไปทีเดียว

                    "  ยัยหน้าบูด  ยืนพูดคนเดียวด้วยหรือเนี่ย  บ้าเต็มขั้นแล้วเธอน่ะ  "  คิ้วเข้มของอรามขมวดพลางส่ายหน้า

                    "  ไปกินข้าวคนเดียวดีกว่าตู  "  พูดเสร็จก็ออกเดินอย่างเร็ว  ทำให้คนตัวเล็กต้องวิ่งตามมา  ปากก็บ่นร่วน

                    "  อ้าว..รอด้วยสิ  นายรามบ้า  ทำไมถึงได้เดินเร็วนักเล่า  ..นี่บอกให้รอเค้าหน่อยไม่ได้รึไง  "  คนตัวเล็กวิ่งตาคนขายาวที่ก้าวเร็วๆแทบไม่ทัน  ปากก็ว่าไปไม่หยุด  จนอรามแอบอมยิ้มกับตัวเอง

                    "  วิ่งไปบ่นไปคงได้เหนื่อยตายล่ะยายหน้าบูดเอ้ย  " 

                    ......................

                       

            

                    

               

                

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×