คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : คนโรคจิต
.......หนุ่มตัวสูงโปร่งในชุดเสื้อช้อปสีกรมท่าเดินเสยผมเรื่อย ๆเข้ามายังลานม้าหินบริเวณหน้าคณะศิลปศาสตร์ที่เต็มไปด้วยสาว ๆ ที่ตอนนี้หลายคนกำลังจ้องมองหนุ่มหน้าใสที่หล่อได้ใจเอามาก ๆผู้กำลังเดินเรื่อย ๆโดยไม่คิดจะสนใจว่ามีใครมองเขาบ้าง อรามเป็นอย่างนี้เสมอ อะไรที่อยู่นอกเหนือความสนใจของเค้า สิ่งนั้นก็จะถูกลบออกไปจากความสนใจจริง ๆ หนุ่มผมยู่งรูปหล่อเดินก้าวยาว ๆเข้าไปในตัวอาคาร
พอถึงบริเวณตัวบันได อรามก็หยุด ยืนพิงผนังรอใครบางคนอยู่..
สักพักใหญ่..ไม่นานเกินไปจนทำให้คนที่รออยู่หงุดหงิดมากมาย..เมื่อคนตัวสูงมองโน่นมองนี่ก็แล้ว พยายามร้องเพลงในใจก็แล้ว หยิบโทรศัพท์ที่แบตหมดมาดูอย่างไร้จุดหมายก็แล้ว..ให้ตายเถอะ..ยายนั่นยังไม่โผล่หัวมาสักที
ก็พอดีมีเสียงเจี้ยวจ๊าวของผู้หญิงกลุ่มใหญ่ดังลงมาจากชั้นบน คนที่เดินยิ้มคุยฟุ้งลงมาถึงกับหยุดนิ่งเมื่อเห้นว่าใครยืนอยู่ข้างล่าง
" เฮ้ย..! บอกเซอร์ " เสียงอุทานของหล่อนทำให้เพื่อน ๆหลายคนหันไปมองกันเป็นตาเดียว
......ผู้ชายหน้าใสจมูกโด่งปากแดงที่ยืนทำหน้ายุ่งอยู่ข้างล่างเพราะได้ยินที่หล่อนพูดขึ้นมาถึงแม้จะไม่ดังนักก็ตาม..แล้วก็เกิดเสียงวี๊ดว้ายตามมา ก่อนที่หน้าตาหล่อเหลาจะหงิกขึ้นมามากกว่าเดิม จึงทำให้สาว ๆหน้าจ๋อยกันไปนิดหนึ่ง
" พี่มาทำไม " คนที่ลงมาถึงถามอย่างแปลกใจ ที่เห็นเพื่อนพี่ชายเข้ามาถึงในตึกของคณะหล่อน
ซึ่งคำถามนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่าคิ้วเข้มของเขาขมวดยุ่งขึ้นมาทันที อรามถึงกับสัญญากับตัวเองว่าจะไปเตะไอ้เพื่อนกวนบาทาสักที ..เพราะที่ไอ้เพื่อนตัวดีมันบอกเขาว่าโทรบอกน้องสาวสุดที่รักของมันแล้วว่าให้เขามารับไปกินข้าววันนี้ เห็นกันชัด ๆว่าแม่น้องสาวตัวดีของมันทำสีหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยเลยสักนิด งานนี้ไม่มีการยอมกันแน่ ๆถึงแม้ว่าเค้าจะมีโทษเรื่องสวาปามข้าวมันไก่ของมันไปกล่องนึงก็เถอะ ..
" ไปกินข้าว.." เสียงห้วน ๆพูดเหมือนสั่งเมื่อคนตัวสูงไม่พูดพล่ามทำเพลงอะไรอีก ..หันหน้าออกเดินไปเฉย จนคนที่ยืนงงอยู่ต้องบอกลาเพื่อนก่อนจะรีบวิ่งตามมา
" เดี๋ยวสิ..นี่เค้าไม่เห็นจะเข้าใจเลย พี่มาทำไมแล้วจะไปไหนเนี่ย " คนตัวเล็กวิ่งตามทั้งกระโปรงแคบ ๆอ้อมหน้าบ้างหลังบ้างถามคนตัวสูงที่เดินเรื่อยไม่ยอมหยุด
" พี่บอยฝากอะไรมาให้เค้ารึเปล่าอ่ะ " คนตาโตหวังว่าจะได้ขนมหรืออะไรสักอย่างจากพี่ชายที่มักส่งมาให้น้องสาวคนดี เพราะหนุ่มบอยนั้นได้รับบรรณาการจากบันดารุ่นน้องอยู่เสมอ
" เออ..แล้วนี่ตัวเองไม่เรียนเหรอ.." คนตัวเล็กยังเอียงหน้ามองคนที่เดินเรื่อย ๆไม่ยอมพูดยอมจา
ที่บางครั้งหล่อนก็ชอบที่ได้ตามแหย่เพื่อนของพี่ชายคนนี้เพราะคนที่นอกจากหน้าตาดีแล้วก็ไม่ค่อยได้เรื่อง ค่อนข้างซื่อบื้อเรื่องผู้หญิงอย่างร้ายกาจ หล่อนเคยเอาเรื่องคนโน้นคนนี้ที่แอบชอบเขาอยู่มาแซว คนรูปหล่อไม่ยักกะสนใจแถมยังว่าหล่อนเพ้อเจ้อซะอีก แต่หล่อนนั้นเห็นเป็นเรื่องสนุกที่ได้ล้อ..เลยชอบที่จะแหย่คนซื่อบื้อเข้าประจำ ถ้าไม่นับรวมโดนเขาสวนกลับล่ะก็นะ
เมื่อเห็นว่าไอ้ตัวเล็กข้าง ๆเขาชักจะถามมากไปแล้ว อรามก็หยุดเดินหันมาพูดนิ่ง ๆ
" นี่ถ้าเงียบซะบ้างนี่กลัวคนจะหาว่าเป็นใบ้รึไง " อรามหันมองหล่อนก่อนจะสั่นหน้าก่อนเดินต่อไป โดยมีคนตัวเล็กแบะปากแล้ววิ่งตามมา กระโปรงแคบ ๆตามแฟชั่นเด็กมหาลัยทำให้ทุลักทุเลใช่ย่อยเมื่อต้องตามคนก้าวยาวให้ทัน
คนข้างตัวสูงที่เห็นกระโปรงสั้น ๆแคบ ๆนั่นแล้วชัดหงุดหงิดขึ้นมาหน่อย ๆ
" เป็นยังไงนะถึงชอบกันจริง ไอ้กระโปรงตัวจิ๋วอย่างนั้น สะดุดหกล้มไปล่ะจะหัวเราะให้ฟันหลุดเลยเชียว " เขาพูดไปเรื่อยจนคนตัวเล็กที่ตามหลังแบะปาก
" ไอ้โน้นก็ไม่ดีไอ้นี่ก็ไม่ดี โธ่เอ้ย ตาลุงขี้บ่น " คนตัวเล็กบ่นพึมพัมกับตัวเอง แต่เขาได้ยินชัด เมื่อหันมาขึงตาใส่จนคนตัวเล็กค้อนให้เสียหลายวง
จนเขาคิดในใจว่า 'น้องไอ้บอยนี่น่าจับฟาดด้วยหวายชะมัด ให้ตายเถอะ'
เมื่อมาถึงร้านอาหารหน้ามหาลัย หนุ่มสาวที่นั่งกินกันสองคนนั้นถูกสายตาหลายคู่จ้องมอง และแน่นอน คงไม่พ้นสาว ๆหน้าใสที่แอบมองหนุ่มหล่อข้างหน้าหล่อนนี่เอง คีตภัทรย่นจมูกอย่างนึกหมั่นไส้..
'หึ..ป๊อบจริงนะ สาวมองจนตาแทบหลุดอยู่แล้ว' แต่คนตรงหน้าไม่มีทีท่าจะรับรู้เมื่อสายตากำลังไล่หาเมนูที่ตนจะสั่งอยู่อย่างตั้งใจเกินเหตุ
" มีคนมองตัวเองด้วยแหละ " คีตภัทรทำเสียงบอก ตากลอกไปมาเหมือนกับว่าตัวเองไม่สน แต่คนที่ไม่สนจริง ๆนั้นเงยเหลือบตามองคนตรงหน้า
" อือ..ว่าแต่จะสั่งอะไรน่ะคิดรึยัง " คนที่ไม่เห็นจะสนใจเรื่องอะไรที่หล่อนบอกกลับห่วงเรื่องกินซะนี่
" รู้แล้วน่า ตัวเองสนใจแต่เรื่องกินนั่นแหละ..ตะกละ " คนตัวเล็กว่าให้ จนอรามเปิดยิ้ม
" ก็ดีกว่าสนใจแต่เรื่องคนอื่นล่ะน่า...ร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่หลายวันน่ะยังไม่เข็ดอีกเหรอ " คำพูดล้อ ๆของเขาทำให้คนตัวเล็กเชิดหน้าคอแข็งขึ้นมาทันที
" ใครร้องไห้ " เสียงแข็ง ๆนั้นโวยขึ้นมาจนอรามหัวเราะ แกล้งจ้องหน้าน้องสาวเพื่อนยิ้ม ๆ
" .. เค้าร้องเมื่อไหร่ " คนตัวเล็กยังเถียง หน้าเริ่มหงิกงอขึ้นเรื่อย ๆจนอรามหันไปสั่งอาหารของตัวเอง ก่อนที่หล่อนจะสั่งตาม
เสร็จแล้วเขาจึงหันมา...
" ไม่รู้เหมือนกันแต่ได้ข่าวว่าแย่งผู้ชายกัน " จบคำพูดของคนตัวสูง คนตาโตก็อึ้งไป
" ไอ้บ้า.! " เสียงดังของคนตรงหน้าก็แหวขึ้นทันทีก่อนที่ปากจะเม้มแน่นอย่างนึกโกรธมาก ๆ
" เฮ้ย..อย่าเสียงดังสิ " อรามเหลือบตามองคนข้างโตีะที่หันมามองกันเป็นตาเดียว
" ก็นายปากเสียนี่..เค้าไม่ได้แย่งผู้ชายนะ " คนที่ชักเริ่มรู้ตัวเริ่มเกรงใจคนรอบข้างเหมือนกัน เมื่อหันมาบอก
" ก็ไม่ได้ว่า แค่ได้ยินมา " หนุ่มรูปหล่อยักไหล่อย่าเห็นขัน ยายนี่..ช่างโวยวายจริง ๆ อรามคิด
" หูช่างสร้างสรรค์ดีจริงนะ ได้ยินแต่ล่ะเรื่องนะ " คนตัวเล็กว่าให้ เมื่อจงใจแดกดันอย่างเคือง ๆจนคนที่นั่งอยู่นึกขำ
" เราน่ะสิสร้างสรรค์กว่า อยากทำเรื่องขึ้นมาทำไมล่ะ "
อรามกอดอกมองเหมือนหล่อนเป็นเด็กกว่าเขาเอามาก ๆจนคนที่เริ่มโกรธขึ้นมาอีกครั้งมองเขาตาเขียวปัด
" อย่ามาว่าคนอื่นเค้านะ นายน่ะสิไอ้บอกเซอร์โรคจิต "
คนที่โกรธจนไม่รู้จะทำไงดีต้องตอบโต้ระบายความโกรธ ซึ่งอรามแบะปาก ไม่รู้จะขำดีหรือจะโกรธดี เพราะตอนนี้เขากลายเป็น 'ไอ้บอกเซอร์โรคจิต' ไปแล้ว อะไรของยายนี่นักหนา
" นี่หน้าบูด.. " เขามองหน้า เมื่อเรียกหล่อนอย่างเคยชิน
"... ติดใจอะไรกับกางเกงนั่นนักหนาหา ถามจริงเหอะ " คนถามชักสงสัยว่าหล่อนติดใจจริงกับไอ้บอกเซอร์ของเขานัก
เมื่อเห็นคนตาโตทำเป็นหลบตาพึมพัมว่าหล่อนไม่ได้หน้าบูดสักหน่อย แต่เรื่องบอกเซอร์ไม่ยอมพูดถึง เขาจึงหรี่ตามองเหมือนจับผิด
" ..อ๊ะ ๆ นี่อย่าบอกนะว่าเธอชอบดูผู้ชายใส่กางเกงในน่ะ ..เจ้าข้าเอ๊ย ที่แท้โรคจิตตัวจริงอยู่นี่ ๆเอง " คนหน้าใสแหย่ จนคีตภัทรหน้าแดง..แต่หล่อนมีรึจะยอมง่าย ๆ เมื่อเชิดใส่พูดหน้าตาเฉย
" ไม่เห็นจะชอบดูเลยผู้ชายใส่กางเกงในน่ะ ไม่ใส่สิน่าดูกว่าอีก "
เล่นเอาอรามแทบสะอึก ..ให้ตายเถอะ เขาไม่อยากจะเชื่อ ยายนี่ก๋กกั่นจริง ๆ
คนรูปหล่อจึงแกล้งยิ้มใส่เมื่อรู้สึกหมั่นไส้คำพูดหล่อนนัก รอยยิ้มของเขาที่ดูดีสุด ๆนั้นเกือบทำให้หล่อนหลงชื่นชมไปแล้ว ก็เพราะหน้าตาหล่อเหลา ยิ้มเท่ห์บาดใจที่สุดนั้น
..ถ้า..
" ชอบเหรอ..ให้ดูเอามั้ยล่ะ " เสียงเหมือนจริงจังนั้นทำเอาคีตภัทรแทบกรี๊ด..
" อ๊าย..!ไอ้โรคจิต..เค้าจะบอกพี่บอยคอยดูนะ "
คนตัวเล็กนึกแขยงเต็มที่ แต่คนพูดกลับยักไหล่หน้าตาเฉย
" ไม่ต้องบอกหรอก ไอ้บอยก็เคยดู "
คราวนี้คนตัวเล็กที่สีหน้าไม่ดีแต่แรกยิ่งทำหน้าสยองเข้าไปใหญ่..งานนี้จะกินข้าวลงรึเปล่านี่สิ
เมื่อหล่อนเห็นคนตรงหน้าได้แต่หัวเราะขันเต็มที่ หล่อนก็ฟาดหนังสือเล่มหนาลงบนมือเขา
" โอ้ย..! " เขาสะบัดมือเร่า หยุดหัวเราะทันที เมื่อหันมาขึงตาใส่
" เจ็บนะ ยายบูดนี่ ฟาดลงมาได้ "
" ก็ตั้งใจทำให้เจ็บน่ะสิ..สมน้ำหน้า .." คนตัวเล็กลอยหน้าลอยตาพูดเฉย จนคนเจ็บทำเสียงฮึมฮัมในคอ..
" เดี๋ยวเหอะ " เขาขู่ แต่หล่อนไม่กลัวสักนิด
"..แล้วเลิกเรียกเค้าว่าบูดเลยนะ " หล่อนยังหันมาสั่งเฉย จนคนที่โดนประทุษร้ายไปครั้งหนึ่งมองหน้านิ่ง
" ก็เธอหน้าบูดจริง ๆนี่ ดูดิ บูดเหมือนแกงค้างคืนไม่มีผิด ไม่ส่องกระจกดูเหรอ " พูดเสร็จเขาก็หัวเราะ ..นั่นทำให้หนังสือเล่มใหญ่เล่มเดิม ฟาดปังลงบนมือของคนที่ไม่ระวังอีกครั้ง..
" โอ้ย..เจ็บนะยัย.." เขาลูบมือของตัวเองที่บัดนี้เริ่มแดงเป็นปื้นตัดกับผิวขาว ๆอย่างนึกอยากจะบีบคอยายตัวร้ายตรงหน้านัก
" ไม่เรียกก็ได้..เฮอะ นิยมความรุนแรงรึไงยัยหน้าบูด " เมื่อ 'ยัยหน้าบูด' หลุดมาอีกครั้งก็มีเสียงเหวดังขึ้นอีก ตามด้วยเสียงโวยวายอีกหลายชุด ก่อนที่อาหารกลิ่นหอม ๆจะเข้ามาเสิร์ฟโดยพนักงานสาวที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับคนทั้งสอง
' คู่นี้น่ารักจัง..ผู้หญิงก็ร้ายดี แต่ผู้ชายนี่สิ หล่อเป็นบ้าเลย '
หล่อนคิดในใจอย่านึกอิจฉาหน่อย ๆก่อนจะเดินออกมา
......ปล่อยให้ทั้งคู่กินไปกัดกันไปอย่างไม่ลดละ
(สองคนนี่เป็นความแตกต่างที่ดูเหมือนไม่น่าจะลงเอยกันได้เลย..จริงไหมเอ่ย)
...............................
ความคิดเห็น