ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    zodiacปาฏิหารย์รัก12จักรราศี

    ลำดับตอนที่ #5 : แค้นนี้..ต้องชำระ

    • อัปเดตล่าสุด 31 ม.ค. 50



                .....    "  เออ ๆเดี๋ยวไป  รออยู่ตรงนั้นแหละ..น่าไม่นานหรอก  แกใจเย็น ๆนะไอ้บี  "  

                คีตภพที่เพิ่งวางหู  ถอนหายใจยาวซะจนคนที่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ต้องเหลือบขึ้นมามอง 

                  'อะไรของมันวะ'  อรามขมวดคิ้วเข้มมองเพื่อนที่คว้าเสื้อเชิ้ตตัวหนึ่งที่กองสุม ๆเอาไว้ขึ้นมาสวมอย่างเร็ว  ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดปกติมากขึ้น  เพราะปกติไอ้เพื่อนจอมเนี๊ยบของเขาไม่เคยยอมแตะหรอกเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้รีด  แถมยังยับยู่ยี่อย่างนั้น

                  "  ไปไหนวะ  "  ไม่ต้องรอให้ความอยากรู้อยากเห็นรบกวนจิตใจอยู่นานเมื่อ  หนุ่มหน้าใสผมยุ่งถามเพื่อนขณะที่สายตากลับไปอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตัวเดิม

                   ใช้เวลารอแค่หนึ่งนาที  คนที่ไม่เห็นท่าว่าเพื่อนจะตอบก็ชะโงกหน้าออกมาจากเครื่องตรงหน้าแล้วก็ถามขึ้นอีกครั้งก่อนที่เพื่อนจะเปิดประตูออกไป

                   "  นี่ไอ้บอยนั่นมึง.."  พูดไม่ทันจบ

                   "  ไปหาน้องกูหน่อย  เป็นอะไรไม่รู้แม่งร้องห่มร้องไห้ใหญ่  ถามอะไรก็ไม่ตอบ..ไอ้บีเอ้ย..เป็นอะไรก็ไม่รู้  "  ประโยคหลังเหมือนบ่นมากกว่าเมื่อกระชากประตูเปิดออกไปอย่างเร็ว  จนคนที่นั่งฟังอยู่เกาหัวแกรก ๆ

                   'ยัยหน้าบูดร้องไห้เหรอ..?'  อรามนึกถึงคนตาโตที่ชอบบ่นโน่นบ่นนี่ใส่พี่ชายตัวเองทุกทีที่เจอ  แถมชอบทำหน้ามู่ทู่ใส่เขาประจำ  หนุ่มรูปหล่อหัวยุ่งก็ได้แต่ยักไหล่

                   'จะมีอาไร้  สอบไม่ผ่านมีนอีกล่ะม๊าง'  ว่าแล้วหนุ่มผมยุ่งที่สวมแต่กางเกงนอนขายาวตัวเดียว  อวดผิวขาวผ่องจนน่าอิจฉา  รูปร่างค่อนข้างโปร่ง  ช่วงตัวยาวได้สัดส่วนเป็นมัดกล้ามพองาม  สุขภาพดีอย่างนักกีฬา  

                   ...แต่ไอ้ผมยุ่งเหยิงชี้ไม่เป็นทิศเป็นทางของเขานี่สิ  ดูแล้วช่างขัดกับไอ้หน้าตาหล่อเหลาเอาการนั่นอยู่มากทีเดียว

                                             ........

                     คนที่ก้าวยาว ๆเข้ามาภายในลานอเนกประสงค์ของมหาลัย  หันซ้ายเลขวาหาน้องสาว  ก่อนที่สายตาจะไปปะทะเข้ากับผู้หญิงตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าก้มตางุดอยู่ตรงม้าหินใกล้ ๆกับสระบัวกว้าง

                     คีพภพรีบเดินรี่เข้าไปหาน้องสาวด้วยความเป็นห่วง

                      "  บี  "  เสียงเรียกเบา ๆของพี่ชายทำให้คนที่นั่งก้มหน้าเงยขึ้นมา...

                   ภาพน้องสาวที่น้ำตานองหน้าตาแดงก่ำ  เงยขึ้นมองเขาทำให้หัวใจของพี่ชายอย่างเขาชาวูบ  'น้องสาวเป็นอะไรไป'  และทันทีที่เห็นพี่ชาย  คนที่น้ำตาเต็มหน้าก็ปล่อยโฮออกมาอีก  นั่งสะอึกสะอื้นอยู่ต่อหน้าพี่ชาย  จนคนเป็นพี่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น..หัวใจอ่อนยวบ

                     "  โธ่ ..เจ้าบี  "  คนเป็นพี่นั่งลงข้าง ๆ  แล้วทำท่ายื่นมือไปข้างหน้า  เป็นท่าที่รู้กันดีสำหรับสองพี่น้อง  เมื่อคนตัวเล็ก  โผเข้ากอดพี่ชายทันที

                   คีตภัทรสะอื้นแรง ๆอยู่ตรงอกพี่ชาย  ปากก็พร่ำพูด

                   "  พี่บอยจ๋า..ทำไงดี ฮือ ๆ.."  คนตัวเล็กสะอึกสะอื้น  จนพี่ชายตบหลังเบา ๆเหมือนตอนเด็ก ๆไม่มีผิด

                    "   ไม่ต้องคิดมากหรอกบีเอ้ย..มีอะไรบอกพี่  เผื่อพี่ช่วยเราได้  นะ.."  พี่ชายหันมายิ้มให้  คนที่เงยหน้าขึ้นมามองพี่ชายที่ตัวเองกอดเอาไว้แน่น  เหมือนน้องสาวขี้แย  ก็พยักหน้าหงึก ๆทั้งที่น้ำตาไหลพรากอยู่  พี่ชายเห็นก็ได้แต่ถอนใจ

                    เอามือเช็ดน้ำตาให้น้องสาวเบา ๆแล้วอดมองไปรอบ ๆไม่ได้  เพราะถึงจะเป็นพี่ชายและห่วงน้องขนาดไหนก็เถอะ  ยังไงมันก็ไม่เหมาะอยู่ดีที่จะมานั่งกอดกันตรงนี้ 

                   "  เดี๋ยวพี่พาไปหาอะไรกิน  ค่อย ๆเล่าให้ฟังแล้วกัน  "  คีตภพตบไหล่น้องสาวเบา ๆ  คนตัวเล็กยกมือปาดน้ำตาจนเลอะเทอะ  ก่อนจะหันมามองพี่ชาย

                   "  หน้าตาอย่างนี้เขาจะให้ร้านเข้ามั้ยอ่ะ  "  น้องสาวทำหน้างอ ๆถามพี่ชาย  จนหนุ่มวิศวะยิ้ม

                  "  นั่นสิ..ไปล้างหน้าก่อนไป  หน้าบูดเหมือนที่ไอ้รามมันบอกเลยเจ้าบีเอ้ย  " 
                  คีตภพบอกน้องสาวที่ทำตาโตเม้มปากขึ้นทันที

                  "  ไอ้บอกเซอร์คนนั้น  ปากเสียจริง ๆ  "  พอหยุดร้องไห้ได้  คนปากร้ายเริ่มออกฤทธิ์อีกครั้ง  จนพี่ชายนิ่วหน้า  'ปากไวจริงน้องเรา'

                    "  อย่าเรียกไอ้สิ  รามมันแก่กว่าเรานะ  "  คนเป็นพี่ปราม  แต่น้องสาวยักไหล่

                    "  เค้าเรียกไอ้บอกเซอร์หรอก  ไม่ได้เอ่ยชื่อเพื่อนพี่ซักคำ  "  แล้วคนตัวเล็กก็เดินลิ่วไปห้องน้ำปล่อยให้พี่ชายนั่งส่ายหน้าอยู่คนเดียว  ทำไงได้ล่ะ  มีน้องสาวกับเขาอยู่คนเดียว  พ่อแม่รึก็แสนรัก  สั่งแล้วสั่งอีกให้ดูแลเจ้าตัวเล็กของท่านให้ดี  ส่วนเขาเองก็รักน้องสาวนักหนา  มีอะไรก็คงต้องดูแลกันเต็มที่ล่ะงานนี้

                    กว่าจะกลับถึงห้องพักก็ปาเข้าไปเกือบสี่ทุ่มแล้ว  หนุ่มบอยเปิดประตูเข้ามา  วางกล่องข้าวมันไก่ลงบนโต๊ะญี่ปุ่นของเขา  กวาดตามองในห้องเห็นประตูห้องน้ำปิดอยู่ก็เอ่ยขึ้นมา

                    "  มึงไม่ไปติวให้น้องเหรอวะ  "  ช่วงนี้อรามเพื่อนเขารับติวให้รุ่นน้องในคณะเพราะทางบ้านเริ่มจะค่อย ๆตัดหางปล่อยวัดแล้ว  มันคงไม่เลวร้ายขนาดนี้หรอกถ้าอาทิตย์ก่อนที่ผ่านมาไอ้เพื่อนตัวดีของเขาไม่ไปฉะฝีปากกับพ่อสุดที่รักมา  แถมยังทำต้นบอนไซสุดที่รักของพ่อตกแตกกระจายไม่มีชิ้นดีอีก 

                  จนคนเป็นพ่อสั่งห้ามไม่ให้ใครในบ้านส่งเงินให้เขาจนกว่าจะสำนึก  ซึ่งคนที่ยังไม่คิดจะสำนึกก็ไม่สน  พยายามหาตังค์ใช้เองอยู่ในตอนนี้

                   "  เลิกแล้ววะ  "  อรามออกมาจากห้องน้ำ  ผมเปียกชุ่ม  ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดลวก ๆ  ก่อนจะแกล้งสะบัดผมแรง ๆ  จนน้ำกระเด็นไปถูกคนที่เพิ่งนั่งลงบนเตียงเขา

                   "  อ้าวเฮ้ย..ไอ้.."
     
                   เมื่อคีตภพลุกเร็ว ๆหันไปมองหน้าเพื่อนแล้วเอามือป้ายน้ำออกจากหน้าเขาอย่างแหยง ๆเหมือนมันเป็นรอยเชื้อโรค

                   "  ไอ้นี่..แม่งยังกะหมาสลัดขน  "  ในใจก็นึกอยากจะเตะมันสักป้าบสองป้าบ  หากแต่ตอนนี้เขาเหนื่อยจนไม่มีกะจิตกะใจจะตอบโต้ไอ้เพื่อนกวนประสาทคนนี้แล้ว

                    หนุ่มบอยของเราจึงเดินเลี่ยงไปนั่งลงบนเตียงของตัวเองข้างหลังแทน  จนคนกวนประสาทอมยิ้ม  ปากบาง ๆยังมีแก่ใจจะผิวปากอารมณ์ดีซะอีก

                     "  กูเลิกสอนแล้ว  แต่ทำเป็นโน้ตย่อให้แทน  "  อรามบอกเพื่อนที่ล้มตัวลงนอนบนเตียง  ท่าทางเหนื่อย ๆและไม่สนใจที่เขาพูด  จนอรามแปลกใจ

                      "  ยัยหน้าบูดเป็นอะไรอีกล่ะ  "  หนุ่มหน้าใสเดินมาถามข้าง ๆ  จนคีตภพลุกขึ้นมา

                     "  เรื่องเขม่นกัน   ของพวกผู้หญิงนั่นแหละ  "  คีตภพจึงเล่าให้เพื่อนฟัง 

                     ซึ่งเรื่องทั้งหมดมันมีอยู่ว่าหลังจากเข้ามาอยู่ในรั้วมหาลัยได้เกือบสองเดือน  น้องสาวคนดีของคีตภพก็ได้รู้จักกับเพื่อนชายคนหนึ่งที่เพื่อน ๆหล่อนต่างเห็นด้วยว่าหน้าตาและวาจาเข้าที  จึงมีเสียงสนับสนุนให้เริ่มสนิทคบหากัน  แต่เรื่องเหมือนจะลงเอยไม่ดีอย่างที่คิด  เมื่อปรากฏว่าหล่อนถูกสาวเปรี้ยวของคณะบัญชีตามมาด่าถึงหน้าคณะ  ทำเอาน้องสาวคนดีของคีตภพเสียใจร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลัง

                    ไม่ใช่เพราะผู้ชายคนนั้น  แต่เสียใจเพราะถูกหลอกและถูกพูดให้อายต่อหน้าคนอื่น ๆล่ะมากกว่า  วันนั้นคนตัวเล็กได้แต่อึ้งจึงไม่ได้ตอบโต้อะไรออกไป  และมานั่งอัดอั้น  เจ็บใจร้องไห้ไม่หยุดจนต้องเรียกตัวพี่ชายไปช่วยอย่างที่เห็น

                    หนุ่มบอยนั่งเล่าไป  เพื่อนรักก็นั่งฟังเรื่อย ๆทำท่าพยักหน้าว่าเข้าใจ  แต่แทนที่จะสงสารหรือเดือดร้อนสักนิดไม่มี  หรือแค่นั่งเฉย ๆก็ยังดี  นี่พ่อคุณยังนั่งหัวเราะร่าเหมือนฟังตลกทอร์คโชว์สะอีก  จนคนเล่าชักจะไม่แน่ใจแล้วว่าการเล่าให้ไอ้คนข้าง ๆฟังนี่เขาคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่

                    "  ยัยหน้าบูดนี่  มันยกร่องจริง ๆวะ  ร้องไห้เพราะไม่ได้เอาคืนเขา  คิดได้ไงวะ  น้องมึงนี่สุดยอดจริง ๆ  "  อรามยังขำไม่เลิกจนคนเล่าส่ายหน้า  ตัดสินใจว่าลุกไปอาบน้ำดีกว่า  เล่าให้ไอ้เพื่อนคนนี้ฟัง  สู้ไปเล่าให้ลิงฟังยังจะเข้าท่ากว่า  คีตภพคิด  เมื่อสบัดตัวลุกขึ้นจากเตียง  คนที่นั่งอยู่มองตาม  เมื่อเห็นว่าเพื่อนท่าจะอารมณ์บ่จอยไปแล้ว  เขาก็ยักไหล่  แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงเพื่อนแทน  ก่อนจะได้ยินเสียงปรามขึ้นมาดัง ๆ

                    "  ลุกขึ้นมาเลยไอ้ราม  ผมมึงยังเปียก  "  เพื่อนเจ้าระเบียบส่งเสียงมา  แต่คนที่นอนลงไปยังนิ่งเมื่อส่งเสียงกลับหน้าตาเฉย

                   "  เปียกที่ไหน  กูใช้ผ้ารองอยู่  "  อรามยังนอนสบายใจเฉิบเมื่อถูกเพื่อนรักเขวี่ยงหมอนมาอย่างแม่นยำ

                   "  โอ๊ย..!  "  หมอนใบเขื่องจากเตียงเขาเสยถูกหน้าเต็ม ๆเมื่อเพื่อนเจ้าระเบียบไม่ฟัง

                    "  ผ้ามึงก็เปียก  ไอ้เวร  "  ก่อนที่หนุ่มบอยจะคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป  เสียงคนบนเตียงยังแกล้งพูดดัง ๆ

                     "  เปียกน้ำจากผมกูล่ะทำเป็นบ่น  ทีเปียกน้ำอย่างอื่นล่ะไม่เห็นสน  "  คนคิ้วเข้มเอามือลูบผมตัวเองให้พ้นหน้า ปากก็แซวไป 
     
                    ทันทีที่พูดเสร็จก็ได้ยินเสียงสบถอะไรสักอย่างออกมาจากในห้องน้ำ  แต่เขาก็ยังนอนเฉยไม่สน  เพราะในตอนนี้อรามได้เปลี่ยนเป้าหมายเสียแล้ว..สิ่งที่อยู่ในความสนใจของเขาคือไอ้กล่องหอม ๆที่วางอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่นนั่นต่างหาก 

                   ..หอมยั่วน้ำย่อยในท้องดีจังว่ะ..อรามคิดขณะลุกขึ้นจากเตียงไปยังเป้าหมายทันที..!

                         ..........................   

                     ยี่สิบนาทีผ่านไปเห็นจะได้  เมื่อหนุ่มคีตภพออกมาจากห้องน้ำ  เขารู้สึกโล่งขึ้นมาก  ความเหน็ดเหนื่อยหายไปเป็นกอง  เมื่อคนที่นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมา  ผิวปากอารมณ์ดี  ..ก่อนจะเห็นไอ้เพื่อนตัวดีนอนหลับเหมือนตายอยู่บนเตียงของมันเรียบร้อยแล้ว  เขาก็เดินไปที่เตียงตัวเองแล้วมองสำรวจเล็กน้อย

                    ไม่มีร่องรอยน้ำอย่างที่เขาคิด  หนุ่มบอยยิ้มพอใจนิดหนึ่งก่อนจะก้มลงไปอีกครั้งเมื่อนึกได้..

                      'ไม่เห็นมีรอยน้ำอย่างอื่นสักหน่อย'  คีตภพคิดไปแล้วก็ต้องสลัดความคิดเรื่องนั้นออกไป  อย่าไปบ้าจี้ตามไอ้รามมันดีกว่า  เขาคิดก่อนจะเดินไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย  ก่อนจะหมายมั้นปั้นมือว่าจะกินข้าวมันไก่เป้นอันดับต่อไปเพราะตอนนี้เขารู้สึกหิวเต็มที

                     พักเดียวเมื่อเขาสวมเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นเสร็จ  ก็เดินไปโต๊ะญี่ปุ่นแล้วต้องแปลกใจ..

                     "  เฮ้ย..ข้าวมันไก่ล่ะ.."  เขาไม่เห็นกล่องข้าวมันไก่บนโต๊ะแล้ว  เมื่อสอดส่ายสายตามองหา

                     ก็ไปเจอะเข้ากับกล่องอะไรขาว ๆในถังขยะ 

                       ...เท่านั้น...

                     ความโกรธพุ่งทะลุองศาเดือด  เมื่อหลังฐานมันเห็นจนตำเข้าไปถึงในตาเขา

                    "  ไอ้ราช ! มึงตื่นเดี๋ยวนี้เลย ไอ้เวร  "  คีตภพที่โกรธจนเลือดขึ้นหน้าตะโกนลั่น  จนคนที่เพิ่งจะหลับไปได้ครู่เดียวลุกขึ้นมาทันที

                     "  เสียงดังน่าไอ้บอย  อะไรของมึงอีกล่ะ  "  หนุ่มผมยุ่งที่เพิ่งตื่นทำเสียงตำหนิเพื่อนโดยไม่ได้สำนึกถึงสิ่งที่ทำเลยแม้แต่น้อย

                      "  เออ..ของกูสิวะไอ้เวร  มึงแดกข้าวมันไก่กูหมดเลย  "   คีตภพยืนกอดอกทำหน้าบูดสุด ๆ  จนคนบนเตียงเกาหัว

                     'เอ'  ปากบาง ๆเม้มเข้าด้วยกันเมื่อทำเป็นนึก  ทั้ง ๆที่ตัวเองเพิ่งจะกินของชาวบ้านเขาหมดไปสักสิบนาทีที่แล้วเห็นจะได้ 

                   "  เออเฮ้ย..ขอบใจว่ะ  อร่อยดี  "  คนหน้าใสยังมีหน้ายิ้มให้ซะอีก  คราวนี้เจ้าของถึงกับต้องกัดฟันแน่น  อยากจะเตะก้านคอไอ้คนหน้าด้านตรงหน้าสักที

                    "  กูไม่ได้ซื้อมาให้มึงแดก  เข้าใจมั้ย  "  หนุ่มบอยเข่นเขี้ยวพูดให้ชัด ๆทีล่ะคำ  "  กูซื้อมาแดกเองเพราะกูหิวจะตายแล้ว  "  แล้วก็ต้องถอนหายใจยาวอย่างอ่อนใจเมื่อนึกได้  ว่าถึงจะโกรธยังไง  ข้าวมันไก่ของเขาก็ไม่กลับมาอยู่ดี

                      ..โธ่ไอ้นิสัยเสีย  ฉกของ ๆกูไปประจำ  คอยดูนะมึง

                     ..แค้นนี้ต้องชำระ  ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต  เขายืมสำนานหนังจีนมาใช้  ..เขานึกอยู่ครู่หนึ่งเมื่อคิดอะไรออก

                   ..กูจะให้มึงชดใช้เร็ว ๆนี้ล่ะ..ไอ้ตัวดี

                  เมื่อเขาเดินกลับมาถึงเตียงตัวเอง ก็ยังได้ยินเพื่อนพยายามพูดอะไรสักอย่าง

                  "  กินมาม่าก่อนสิ  ถ้ามึงหิว  "  แต่คีตภพทำเป็นไม่ฟังเมื่อนอนลงเฉย

                  "  เออ..มาม่าหมดแล้วนี่หว่า  "  อรามยังพูดต่อ  จนคนที่นอนอยู่หันหลังให้  ไม่อยากฟังไอ้เพื่อนตัวดีมันพล่าม  มาม่าของเขาที่ซื้อมาก็หมดไปแล้วงั้นเหรอ..ให้ตายเถอะไอ้จอมฉก..หนุ่มบอยพ่นลมออกมาแรง ๆ  เมื่อยังได้ยินเพื่อนพูดไม่เลิก

                   "  กูว่ากูกินไปห่อเดียวนะเมื่อวาน  หมดได้ไงวะ  "  อรามยังพูดอะไรต่ออีก..ทำให้คนอารมณ์ไม่ดีเพราะหิวชักจะรำคาญเต็มที

                     "  มึงเงียบสักทีเถอะ  กูจะนอน  ปิดไฟด้วย  "  คนอารมณ์ไม่ดีตะโกนสั่งเสียงดังจนคนที่นั่งอยู่ที่เตียงอีกฝั่งยักไหล่  เดินไปปิดไฟกลางห้องแล้วล้มตัวลงนอนบ้าง

                     "  พี่น้องแม่งเหมือนกันไม่มีผิด  "  อรามพูดขึ้นมานึกถึงคนตัวเล็กที่เขาเรียกว่า 'ยัยหน้าบูด' 

                      ซึ่งคีตภพได้ยินก็กำลังคิดอยู่ว่า  'แล้วมึงจะเจอวิทยายุทธอันไร้เทียมทานของน้องกู  คอยดูไปเถอะไอ้ราม'

                                                ................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×