คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : แค้นนี้..ต้องชำระ
..... " เออ ๆเดี๋ยวไป รออยู่ตรงนั้นแหละ..น่าไม่นานหรอก แกใจเย็น ๆนะไอ้บี "
คีตภพที่เพิ่งวางหู ถอนหายใจยาวซะจนคนที่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ต้องเหลือบขึ้นมามอง
'อะไรของมันวะ' อรามขมวดคิ้วเข้มมองเพื่อนที่คว้าเสื้อเชิ้ตตัวหนึ่งที่กองสุม ๆเอาไว้ขึ้นมาสวมอย่างเร็ว ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดปกติมากขึ้น เพราะปกติไอ้เพื่อนจอมเนี๊ยบของเขาไม่เคยยอมแตะหรอกเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้รีด แถมยังยับยู่ยี่อย่างนั้น
" ไปไหนวะ " ไม่ต้องรอให้ความอยากรู้อยากเห็นรบกวนจิตใจอยู่นานเมื่อ หนุ่มหน้าใสผมยุ่งถามเพื่อนขณะที่สายตากลับไปอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตัวเดิม
ใช้เวลารอแค่หนึ่งนาที คนที่ไม่เห็นท่าว่าเพื่อนจะตอบก็ชะโงกหน้าออกมาจากเครื่องตรงหน้าแล้วก็ถามขึ้นอีกครั้งก่อนที่เพื่อนจะเปิดประตูออกไป
" นี่ไอ้บอยนั่นมึง.." พูดไม่ทันจบ
" ไปหาน้องกูหน่อย เป็นอะไรไม่รู้แม่งร้องห่มร้องไห้ใหญ่ ถามอะไรก็ไม่ตอบ..ไอ้บีเอ้ย..เป็นอะไรก็ไม่รู้ " ประโยคหลังเหมือนบ่นมากกว่าเมื่อกระชากประตูเปิดออกไปอย่างเร็ว จนคนที่นั่งฟังอยู่เกาหัวแกรก ๆ
'ยัยหน้าบูดร้องไห้เหรอ..?' อรามนึกถึงคนตาโตที่ชอบบ่นโน่นบ่นนี่ใส่พี่ชายตัวเองทุกทีที่เจอ แถมชอบทำหน้ามู่ทู่ใส่เขาประจำ หนุ่มรูปหล่อหัวยุ่งก็ได้แต่ยักไหล่
'จะมีอาไร้ สอบไม่ผ่านมีนอีกล่ะม๊าง' ว่าแล้วหนุ่มผมยุ่งที่สวมแต่กางเกงนอนขายาวตัวเดียว อวดผิวขาวผ่องจนน่าอิจฉา รูปร่างค่อนข้างโปร่ง ช่วงตัวยาวได้สัดส่วนเป็นมัดกล้ามพองาม สุขภาพดีอย่างนักกีฬา
...แต่ไอ้ผมยุ่งเหยิงชี้ไม่เป็นทิศเป็นทางของเขานี่สิ ดูแล้วช่างขัดกับไอ้หน้าตาหล่อเหลาเอาการนั่นอยู่มากทีเดียว
........
คนที่ก้าวยาว ๆเข้ามาภายในลานอเนกประสงค์ของมหาลัย หันซ้ายเลขวาหาน้องสาว ก่อนที่สายตาจะไปปะทะเข้ากับผู้หญิงตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าก้มตางุดอยู่ตรงม้าหินใกล้ ๆกับสระบัวกว้าง
คีพภพรีบเดินรี่เข้าไปหาน้องสาวด้วยความเป็นห่วง
" บี " เสียงเรียกเบา ๆของพี่ชายทำให้คนที่นั่งก้มหน้าเงยขึ้นมา...
ภาพน้องสาวที่น้ำตานองหน้าตาแดงก่ำ เงยขึ้นมองเขาทำให้หัวใจของพี่ชายอย่างเขาชาวูบ 'น้องสาวเป็นอะไรไป' และทันทีที่เห็นพี่ชาย คนที่น้ำตาเต็มหน้าก็ปล่อยโฮออกมาอีก นั่งสะอึกสะอื้นอยู่ต่อหน้าพี่ชาย จนคนเป็นพี่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น..หัวใจอ่อนยวบ
" โธ่ ..เจ้าบี " คนเป็นพี่นั่งลงข้าง ๆ แล้วทำท่ายื่นมือไปข้างหน้า เป็นท่าที่รู้กันดีสำหรับสองพี่น้อง เมื่อคนตัวเล็ก โผเข้ากอดพี่ชายทันที
คีตภัทรสะอื้นแรง ๆอยู่ตรงอกพี่ชาย ปากก็พร่ำพูด
" พี่บอยจ๋า..ทำไงดี ฮือ ๆ.." คนตัวเล็กสะอึกสะอื้น จนพี่ชายตบหลังเบา ๆเหมือนตอนเด็ก ๆไม่มีผิด
" ไม่ต้องคิดมากหรอกบีเอ้ย..มีอะไรบอกพี่ เผื่อพี่ช่วยเราได้ นะ.." พี่ชายหันมายิ้มให้ คนที่เงยหน้าขึ้นมามองพี่ชายที่ตัวเองกอดเอาไว้แน่น เหมือนน้องสาวขี้แย ก็พยักหน้าหงึก ๆทั้งที่น้ำตาไหลพรากอยู่ พี่ชายเห็นก็ได้แต่ถอนใจ
เอามือเช็ดน้ำตาให้น้องสาวเบา ๆแล้วอดมองไปรอบ ๆไม่ได้ เพราะถึงจะเป็นพี่ชายและห่วงน้องขนาดไหนก็เถอะ ยังไงมันก็ไม่เหมาะอยู่ดีที่จะมานั่งกอดกันตรงนี้
" เดี๋ยวพี่พาไปหาอะไรกิน ค่อย ๆเล่าให้ฟังแล้วกัน " คีตภพตบไหล่น้องสาวเบา ๆ คนตัวเล็กยกมือปาดน้ำตาจนเลอะเทอะ ก่อนจะหันมามองพี่ชาย
" หน้าตาอย่างนี้เขาจะให้ร้านเข้ามั้ยอ่ะ " น้องสาวทำหน้างอ ๆถามพี่ชาย จนหนุ่มวิศวะยิ้ม
" นั่นสิ..ไปล้างหน้าก่อนไป หน้าบูดเหมือนที่ไอ้รามมันบอกเลยเจ้าบีเอ้ย "
คีตภพบอกน้องสาวที่ทำตาโตเม้มปากขึ้นทันที
" ไอ้บอกเซอร์คนนั้น ปากเสียจริง ๆ " พอหยุดร้องไห้ได้ คนปากร้ายเริ่มออกฤทธิ์อีกครั้ง จนพี่ชายนิ่วหน้า 'ปากไวจริงน้องเรา'
" อย่าเรียกไอ้สิ รามมันแก่กว่าเรานะ " คนเป็นพี่ปราม แต่น้องสาวยักไหล่
" เค้าเรียกไอ้บอกเซอร์หรอก ไม่ได้เอ่ยชื่อเพื่อนพี่ซักคำ " แล้วคนตัวเล็กก็เดินลิ่วไปห้องน้ำปล่อยให้พี่ชายนั่งส่ายหน้าอยู่คนเดียว ทำไงได้ล่ะ มีน้องสาวกับเขาอยู่คนเดียว พ่อแม่รึก็แสนรัก สั่งแล้วสั่งอีกให้ดูแลเจ้าตัวเล็กของท่านให้ดี ส่วนเขาเองก็รักน้องสาวนักหนา มีอะไรก็คงต้องดูแลกันเต็มที่ล่ะงานนี้
กว่าจะกลับถึงห้องพักก็ปาเข้าไปเกือบสี่ทุ่มแล้ว หนุ่มบอยเปิดประตูเข้ามา วางกล่องข้าวมันไก่ลงบนโต๊ะญี่ปุ่นของเขา กวาดตามองในห้องเห็นประตูห้องน้ำปิดอยู่ก็เอ่ยขึ้นมา
" มึงไม่ไปติวให้น้องเหรอวะ " ช่วงนี้อรามเพื่อนเขารับติวให้รุ่นน้องในคณะเพราะทางบ้านเริ่มจะค่อย ๆตัดหางปล่อยวัดแล้ว มันคงไม่เลวร้ายขนาดนี้หรอกถ้าอาทิตย์ก่อนที่ผ่านมาไอ้เพื่อนตัวดีของเขาไม่ไปฉะฝีปากกับพ่อสุดที่รักมา แถมยังทำต้นบอนไซสุดที่รักของพ่อตกแตกกระจายไม่มีชิ้นดีอีก
จนคนเป็นพ่อสั่งห้ามไม่ให้ใครในบ้านส่งเงินให้เขาจนกว่าจะสำนึก ซึ่งคนที่ยังไม่คิดจะสำนึกก็ไม่สน พยายามหาตังค์ใช้เองอยู่ในตอนนี้
" เลิกแล้ววะ " อรามออกมาจากห้องน้ำ ผมเปียกชุ่ม ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดลวก ๆ ก่อนจะแกล้งสะบัดผมแรง ๆ จนน้ำกระเด็นไปถูกคนที่เพิ่งนั่งลงบนเตียงเขา
" อ้าวเฮ้ย..ไอ้.."
เมื่อคีตภพลุกเร็ว ๆหันไปมองหน้าเพื่อนแล้วเอามือป้ายน้ำออกจากหน้าเขาอย่างแหยง ๆเหมือนมันเป็นรอยเชื้อโรค
" ไอ้นี่..แม่งยังกะหมาสลัดขน " ในใจก็นึกอยากจะเตะมันสักป้าบสองป้าบ หากแต่ตอนนี้เขาเหนื่อยจนไม่มีกะจิตกะใจจะตอบโต้ไอ้เพื่อนกวนประสาทคนนี้แล้ว
หนุ่มบอยของเราจึงเดินเลี่ยงไปนั่งลงบนเตียงของตัวเองข้างหลังแทน จนคนกวนประสาทอมยิ้ม ปากบาง ๆยังมีแก่ใจจะผิวปากอารมณ์ดีซะอีก
" กูเลิกสอนแล้ว แต่ทำเป็นโน้ตย่อให้แทน " อรามบอกเพื่อนที่ล้มตัวลงนอนบนเตียง ท่าทางเหนื่อย ๆและไม่สนใจที่เขาพูด จนอรามแปลกใจ
" ยัยหน้าบูดเป็นอะไรอีกล่ะ " หนุ่มหน้าใสเดินมาถามข้าง ๆ จนคีตภพลุกขึ้นมา
" เรื่องเขม่นกัน ของพวกผู้หญิงนั่นแหละ " คีตภพจึงเล่าให้เพื่อนฟัง
ซึ่งเรื่องทั้งหมดมันมีอยู่ว่าหลังจากเข้ามาอยู่ในรั้วมหาลัยได้เกือบสองเดือน น้องสาวคนดีของคีตภพก็ได้รู้จักกับเพื่อนชายคนหนึ่งที่เพื่อน ๆหล่อนต่างเห็นด้วยว่าหน้าตาและวาจาเข้าที จึงมีเสียงสนับสนุนให้เริ่มสนิทคบหากัน แต่เรื่องเหมือนจะลงเอยไม่ดีอย่างที่คิด เมื่อปรากฏว่าหล่อนถูกสาวเปรี้ยวของคณะบัญชีตามมาด่าถึงหน้าคณะ ทำเอาน้องสาวคนดีของคีตภพเสียใจร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลัง
ไม่ใช่เพราะผู้ชายคนนั้น แต่เสียใจเพราะถูกหลอกและถูกพูดให้อายต่อหน้าคนอื่น ๆล่ะมากกว่า วันนั้นคนตัวเล็กได้แต่อึ้งจึงไม่ได้ตอบโต้อะไรออกไป และมานั่งอัดอั้น เจ็บใจร้องไห้ไม่หยุดจนต้องเรียกตัวพี่ชายไปช่วยอย่างที่เห็น
หนุ่มบอยนั่งเล่าไป เพื่อนรักก็นั่งฟังเรื่อย ๆทำท่าพยักหน้าว่าเข้าใจ แต่แทนที่จะสงสารหรือเดือดร้อนสักนิดไม่มี หรือแค่นั่งเฉย ๆก็ยังดี นี่พ่อคุณยังนั่งหัวเราะร่าเหมือนฟังตลกทอร์คโชว์สะอีก จนคนเล่าชักจะไม่แน่ใจแล้วว่าการเล่าให้ไอ้คนข้าง ๆฟังนี่เขาคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่
" ยัยหน้าบูดนี่ มันยกร่องจริง ๆวะ ร้องไห้เพราะไม่ได้เอาคืนเขา คิดได้ไงวะ น้องมึงนี่สุดยอดจริง ๆ " อรามยังขำไม่เลิกจนคนเล่าส่ายหน้า ตัดสินใจว่าลุกไปอาบน้ำดีกว่า เล่าให้ไอ้เพื่อนคนนี้ฟัง สู้ไปเล่าให้ลิงฟังยังจะเข้าท่ากว่า คีตภพคิด เมื่อสบัดตัวลุกขึ้นจากเตียง คนที่นั่งอยู่มองตาม เมื่อเห็นว่าเพื่อนท่าจะอารมณ์บ่จอยไปแล้ว เขาก็ยักไหล่ แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงเพื่อนแทน ก่อนจะได้ยินเสียงปรามขึ้นมาดัง ๆ
" ลุกขึ้นมาเลยไอ้ราม ผมมึงยังเปียก " เพื่อนเจ้าระเบียบส่งเสียงมา แต่คนที่นอนลงไปยังนิ่งเมื่อส่งเสียงกลับหน้าตาเฉย
" เปียกที่ไหน กูใช้ผ้ารองอยู่ " อรามยังนอนสบายใจเฉิบเมื่อถูกเพื่อนรักเขวี่ยงหมอนมาอย่างแม่นยำ
" โอ๊ย..! " หมอนใบเขื่องจากเตียงเขาเสยถูกหน้าเต็ม ๆเมื่อเพื่อนเจ้าระเบียบไม่ฟัง
" ผ้ามึงก็เปียก ไอ้เวร " ก่อนที่หนุ่มบอยจะคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป เสียงคนบนเตียงยังแกล้งพูดดัง ๆ
" เปียกน้ำจากผมกูล่ะทำเป็นบ่น ทีเปียกน้ำอย่างอื่นล่ะไม่เห็นสน " คนคิ้วเข้มเอามือลูบผมตัวเองให้พ้นหน้า ปากก็แซวไป
ทันทีที่พูดเสร็จก็ได้ยินเสียงสบถอะไรสักอย่างออกมาจากในห้องน้ำ แต่เขาก็ยังนอนเฉยไม่สน เพราะในตอนนี้อรามได้เปลี่ยนเป้าหมายเสียแล้ว..สิ่งที่อยู่ในความสนใจของเขาคือไอ้กล่องหอม ๆที่วางอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่นนั่นต่างหาก
..หอมยั่วน้ำย่อยในท้องดีจังว่ะ..อรามคิดขณะลุกขึ้นจากเตียงไปยังเป้าหมายทันที..!
..........................
ยี่สิบนาทีผ่านไปเห็นจะได้ เมื่อหนุ่มคีตภพออกมาจากห้องน้ำ เขารู้สึกโล่งขึ้นมาก ความเหน็ดเหนื่อยหายไปเป็นกอง เมื่อคนที่นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมา ผิวปากอารมณ์ดี ..ก่อนจะเห็นไอ้เพื่อนตัวดีนอนหลับเหมือนตายอยู่บนเตียงของมันเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินไปที่เตียงตัวเองแล้วมองสำรวจเล็กน้อย
ไม่มีร่องรอยน้ำอย่างที่เขาคิด หนุ่มบอยยิ้มพอใจนิดหนึ่งก่อนจะก้มลงไปอีกครั้งเมื่อนึกได้..
'ไม่เห็นมีรอยน้ำอย่างอื่นสักหน่อย' คีตภพคิดไปแล้วก็ต้องสลัดความคิดเรื่องนั้นออกไป อย่าไปบ้าจี้ตามไอ้รามมันดีกว่า เขาคิดก่อนจะเดินไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะหมายมั้นปั้นมือว่าจะกินข้าวมันไก่เป้นอันดับต่อไปเพราะตอนนี้เขารู้สึกหิวเต็มที
พักเดียวเมื่อเขาสวมเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นเสร็จ ก็เดินไปโต๊ะญี่ปุ่นแล้วต้องแปลกใจ..
" เฮ้ย..ข้าวมันไก่ล่ะ.." เขาไม่เห็นกล่องข้าวมันไก่บนโต๊ะแล้ว เมื่อสอดส่ายสายตามองหา
ก็ไปเจอะเข้ากับกล่องอะไรขาว ๆในถังขยะ
...เท่านั้น...
ความโกรธพุ่งทะลุองศาเดือด เมื่อหลังฐานมันเห็นจนตำเข้าไปถึงในตาเขา
" ไอ้ราช ! มึงตื่นเดี๋ยวนี้เลย ไอ้เวร " คีตภพที่โกรธจนเลือดขึ้นหน้าตะโกนลั่น จนคนที่เพิ่งจะหลับไปได้ครู่เดียวลุกขึ้นมาทันที
" เสียงดังน่าไอ้บอย อะไรของมึงอีกล่ะ " หนุ่มผมยุ่งที่เพิ่งตื่นทำเสียงตำหนิเพื่อนโดยไม่ได้สำนึกถึงสิ่งที่ทำเลยแม้แต่น้อย
" เออ..ของกูสิวะไอ้เวร มึงแดกข้าวมันไก่กูหมดเลย " คีตภพยืนกอดอกทำหน้าบูดสุด ๆ จนคนบนเตียงเกาหัว
'เอ' ปากบาง ๆเม้มเข้าด้วยกันเมื่อทำเป็นนึก ทั้ง ๆที่ตัวเองเพิ่งจะกินของชาวบ้านเขาหมดไปสักสิบนาทีที่แล้วเห็นจะได้
" เออเฮ้ย..ขอบใจว่ะ อร่อยดี " คนหน้าใสยังมีหน้ายิ้มให้ซะอีก คราวนี้เจ้าของถึงกับต้องกัดฟันแน่น อยากจะเตะก้านคอไอ้คนหน้าด้านตรงหน้าสักที
" กูไม่ได้ซื้อมาให้มึงแดก เข้าใจมั้ย " หนุ่มบอยเข่นเขี้ยวพูดให้ชัด ๆทีล่ะคำ " กูซื้อมาแดกเองเพราะกูหิวจะตายแล้ว " แล้วก็ต้องถอนหายใจยาวอย่างอ่อนใจเมื่อนึกได้ ว่าถึงจะโกรธยังไง ข้าวมันไก่ของเขาก็ไม่กลับมาอยู่ดี
..โธ่ไอ้นิสัยเสีย ฉกของ ๆกูไปประจำ คอยดูนะมึง
..แค้นนี้ต้องชำระ ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต เขายืมสำนานหนังจีนมาใช้ ..เขานึกอยู่ครู่หนึ่งเมื่อคิดอะไรออก
..กูจะให้มึงชดใช้เร็ว ๆนี้ล่ะ..ไอ้ตัวดี
เมื่อเขาเดินกลับมาถึงเตียงตัวเอง ก็ยังได้ยินเพื่อนพยายามพูดอะไรสักอย่าง
" กินมาม่าก่อนสิ ถ้ามึงหิว " แต่คีตภพทำเป็นไม่ฟังเมื่อนอนลงเฉย
" เออ..มาม่าหมดแล้วนี่หว่า " อรามยังพูดต่อ จนคนที่นอนอยู่หันหลังให้ ไม่อยากฟังไอ้เพื่อนตัวดีมันพล่าม มาม่าของเขาที่ซื้อมาก็หมดไปแล้วงั้นเหรอ..ให้ตายเถอะไอ้จอมฉก..หนุ่มบอยพ่นลมออกมาแรง ๆ เมื่อยังได้ยินเพื่อนพูดไม่เลิก
" กูว่ากูกินไปห่อเดียวนะเมื่อวาน หมดได้ไงวะ " อรามยังพูดอะไรต่ออีก..ทำให้คนอารมณ์ไม่ดีเพราะหิวชักจะรำคาญเต็มที
" มึงเงียบสักทีเถอะ กูจะนอน ปิดไฟด้วย " คนอารมณ์ไม่ดีตะโกนสั่งเสียงดังจนคนที่นั่งอยู่ที่เตียงอีกฝั่งยักไหล่ เดินไปปิดไฟกลางห้องแล้วล้มตัวลงนอนบ้าง
" พี่น้องแม่งเหมือนกันไม่มีผิด " อรามพูดขึ้นมานึกถึงคนตัวเล็กที่เขาเรียกว่า 'ยัยหน้าบูด'
ซึ่งคีตภพได้ยินก็กำลังคิดอยู่ว่า 'แล้วมึงจะเจอวิทยายุทธอันไร้เทียมทานของน้องกู คอยดูไปเถอะไอ้ราม'
................................
ความคิดเห็น