คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตาลุงปากเสีย
...ใบหน้ายุ่ง ๆที่ไม่เหมาะกับเช้าวันแรกของการเริ่มต้นเข้าเรียนในรั้วมหาลัยเอาเสียเลยนั้น..ดูเหมือนจะมีที่มา..
..ที่มาที่ทำให้คนหน้ายุ่งไม่ค่อยจะสบอารมณ์ตั้งแต่เช้า นั้นก็เพราะ
" ..อีกไกลมั้ย.."
เสียงสูง ๆปนอาการหอบน้อย ๆนั้นส่งไปหาคนที่เดินเรื่อยอยู่ข้างหน้าห่างจากหล่อนประมาณห้าหกเมตรเห็นจะได้
และประมาณ เกือบ ๆจะหนึ่งนาทีเห็นจะได้อีกเช่นกันที่ระยะห่างเริ่มเพิ่มออกไปเรื่อย ๆจากหกเป็นเจ็ด...เป็นแปดโดยที่ไม่มีเสียงตอยรับจากหนุ่มฝีเท้าไวข้างหน้าเลยสักแอะเดียว
จนระยะห่างเริ่มเป็น เก้า..เป็นสิบ จนคนที่หยุดยืนหอบอยู่ข้างหลังต้องตะโกนออกไป
" นี่..! "
เสียงความถี่สูงแว้ดออกไป ทำให้คนที่เดินไปเรื่อย ๆหยุดกึก ก่อนจะค่อย ๆหันหน้ามาช้า ๆ
...ทำราวกับภาพสโลว์โมชั่นของมาเฟียฮ่องกงยังไงยังงั้น ในสายตาของคีตภัทร
" อะไร " เสียงห้วน ๆหันมาถามด้วยสีหน้าเรียบ ๆอย่างน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด
...โธ่.. ช่วยสำนึกหน่อยเถอะ ว่าให้ผู้หญิงถือของหอบนึงเดินตามต้อย ๆอยู่นี่น่ะ อีตาบ้านี่..!
" เดินรอมั่งสิ ควายหายรึไง " หล่อนหน้ายุ่งใส่ จนอรามมองหน้า
" นี่แม่คุณ เดินให้มันดูออกว่าคนเดินหน่อยเถอะ มัวแต่คลานยังกะเต่า .."
อารามเดินช้า ๆ เข้ามาหา ผมยุ่ง ๆถูกลมยามเช้าตีจนปรกหน้าปรกตา ที่ยามปกติเจ้าตัวต้องเสยอย่างเสียอารมณ์อยู่ประจำ แต่เพราะตอนนี้ในมือมีกล่องใบโตที่อุ้มอยู่ จึงทำได้แค่ขยับหัวไปมาอย่างหงุดหงิดเท่านั้น
" เห็นมั้ยล่ะว่ามันหนักแล้วก็เหนื่อยด้วย รถน่ะไม่มีขับรึไงเล่า ถึงต้องเดินเป็นสิบ ๆกิโลน่ะ .."
น้องสาวเพื่อนสนิทยังบ่นไม่เลิก จนเขากรอกตา
ยัยเว่อร์นี่คิดอะไรที่มันธรรมดาเป็นกับคนอื่นเขาบ้างมั้ยเนี่ย พูดมาได้ เดินเป็นสิบ ๆกิโล ..ทั้งที่แม่คุณ เพิ่งย่างออกจาห้องได้ไม่ถึงกิโลด้วยซ้ำ
" รู้งี้ขึ้นรถเมลล์ไปเองก็ดี น่าจะกลับไปนอนหอตั้งแต่แรก ไอ้พี่บ้าก็ไม่ยอมไปส่ง " คนตัวเล็กยังบ่นอุบอิบไม่เลิก เมื่อทำท่าจะวางหอบหนังสือลงบนม้านั่งริมทางเดิน
" อ้าว ๆ นั่นจะทำอะไรน่ะ อย่าวางเชียวนะ " เสียงห้ามทันทีของหนุ่มหน้าใสในชุดนักศึกษา
..ที่ดูเผิน ๆอาจดูไม่ออกว่าเป็นชุดนักศึกษา เพราะเจ้าตัวปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกงยีนส์ที่ดูก็พอจะรู้ว่าปีนึงคงโดนน้ำไม่เกินสองหน แล้วรองเท้านี่ก็ไม่ต้องพูดถึง สีขาวหม่น ๆดูซกมกจนนึกอยากจะโยนลงถังขยะให้รู้แล้วรู้รอด ถ้าไม่ติดว่าเป็นยี่ห้อดังล่ะก็นะ
" ถือเอาไว้ดี ๆเลย " เสียงเข้มดุเอาจนได้
" มันหนักนะเนี่ย " คีตภัทรชะงักมือไว้ทัน ก่อนที่จะได้วางลงบนม้านั่งที่ดูจะไม่ค่อยสะอาดนัก
ในมือเป็นหอบรายงานที่พี่ชายหล่อนเพิ่งจะทำเสร็จอย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อคืน กว่าจะเข้านอนก็เกือบตีห้า คีตภพเลยขอนอนต่อโดยยกหน้าที่ส่งงานและ..ส่งน้องให้กับเพื่อนที่เขาแตะให้ลุกจากที่นอนมาได้อย่างหวุดหวิดตอนเจ็ดโมงสี่สิบห้า
และหล่อนก็ถูกกำชับมาแล้วว่าให้ช่วยอรามเอารายงานไปเก็บที่คณะ และต้องระวังรายงานปึกนี้เป็นที่สุดด้วย เพราะมันเป็นงานสุดท้ายก่อนจบของเขาและกลุ่ม
..อะไรจะหวงเว่อร์ขนาดนั้นก็ไม่รู้ นี่แถมยังไม่ไปส่งเราอีกด้วย ต้องให้เดินมาราธอนมากับตาเพื่อนบ้านี่อีก
" เอามานี่มา.." อรามพูดออกมาเหมือนรำคาญเต็มที
" ..เดี๋ยวถือเอง " เขาบอก เมื่อคนตัวเล็กกว่าเดินทำท่าสำนึกผิดเข้ามาใกล้ เขาก็เตรียมจะเอาทุกอย่างมาหอบไว้เอง
" เราถือได้..ไม่เป็นไร " เสียงอ่อย ๆยิ้มแหย ๆให้เมื่อเห็นว่ากล่องที่คนตัวสูงถืออยู่นั้นคงจะหนักกว่าหล่อนมากอยู่ เพราะเห็นแขนเกร็ง ๆที่เส้นเอ็นปูด ๆออกมาก็พอเดาน้ำหนักออก
รอยแดงบนแขนขาว ๆ ของเขาทำให้คนขี้บ่นเริ่มสำนึกขึ้นมา
" ไปต่อดีกว่า อีกไกลมั้นเนี่ย ..คงจะไม่ไกลแล้วล่ะนะ "
เมื่อถามเองตอบเองเสร็จสรรพ คนตัวเล็กในกระโปรงจีบรอบตัวสั้น ๆก็เดินตัวปริวออกไปเฉย ท่าทางเหนื่อยแบบเอาเป็นเอาตายเมื่อสักครู่หายเป็นปลิดทิ้ง จนอรามออกอาการแปลกใจหน่อย ๆ
อะไรของยายนี่อีกล่ะเนี่ย..เฮ้อ เขาจึงเดินตามไป
" แล้วจ้ำเอา ๆ นั่นน่ะรู้รึไงว่าไปทางไหน " เขาอดไม่ได้ต้องถาม
และทันทีที่คนนำหน้าหันมายิ้มให้
" แฮะ ๆ..ไม่รู้จ๊ะ " คำติดปากเวลาใช้แก้ตัวกับพ่อแม่ หล่อนเผลอตัวใช้กับคู่อริซะแล้ว
คนที่เดินตามเลยก้าวเร็ว ๆจนนำหน้าประมาณสองสามก้าว
" แล้วทำเป็นรู้มาก " เขาพูดเบา ๆขึ้นมา แต่คนรู้มากก็ได้ยินชัด
" ลุงนี่ขี้บ่นจัง " คีตภัทรทำเป็นพูดกับตัวเอง
" นี่..ให้น้อย ๆหน่อยเถอะ " เขาว่าเพราะได้ยินทั้งคำพูดและได้เห็นทั้งสีหน้าที่หล่อนทำเป็นแบะปากล้อเขา
....
และก็ใช้เวลาไม่มากไม่น้อยเกือบ 30 นาทีเต็ม ๆเมื่อหล่อนเข้ามายืนอยู่หน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่เต็มไปด้วยหนุ่ม ๆซึ่งจะมีสาว ๆ บ้างก็ประปราย
พอเดินเข้าไปถึงห้องชั้นในของภาควิชาได้เท่านั้น ก็มีเสียงหนุ่ม ๆหลายคนทักทายอารามเสียงดัง หนึ่งในนั้นเป็นหนุ่มตี๋ใส่แว่นไว้เคราเท่ห์
" อ้าวเฮ้ย..ไอ้ราม กูนึกว่ามึงลาออกไปแล้ว " เสียงทักเพื่อนยิ้ม ๆแบบกวนอวัยวะเบื้องต่ำทำให้อรามวางของลง
" เตี่ยกูได้เตะก้านคอเอาปะไร " เขาตอบไปเมื่อมองหน้าเพื่อน ที่สายตามองไปยังผู้หญิงตัวเล็กที่เดินตามหลังเขามาติด ๆ
" ..แล้วนั่นมึงมองอะไร " ท้ายประโยคหันไปทางน้องสาวคู่หูที่ยืนทำท่าทางเก้ ๆกัง ๆอยู่ ก่อนจะหันกลับมามองหน้าเพื่อนตี๋ตรงหน้า
" เด็กมึงเหรอ " สายตายิ้ม ๆเชิงล้อของหนุ่มตี๋มองเมื่อถามขึ้นเสียงไม่เบานัก
....ทำให้คนที่ยืนเป็นเป้าสายตาอยู่หน้าเรื่อขึ้นมา
อีตาแว่นนี่ไม่มีมารยาทเลย พูดหน้าตาเฉยต่อหน้าเราแท้ ๆ หล่อนแอบตำหนิ
แต่คนตัวสูงข้าง ๆกลับตอบเรียบ ๆ
" น้องไอ้บอยมัน ฝากมาส่ง เพิ่งเข้าปี 1 "
" จริงอ่ะ ไอ้บอยมีน้องสาวด้วยเหรอ ว่าแต่ชื่อไรครับเนี่ย "
แล้วคนขี้หลีก็เริ่มตั้งคำถามชวนคุยเป็นการเปิดบทสนทนา แต่อารามที่ขัดขึ้นมาก่อนก็ทำให้บทบาทหนุ่มขี้หลีหมดลง
" เอาไว้ถามทีหลังเหอะ มานี่เดี๋ยวไปปฐมนิเทศไม่ทัน "
เขาเรียกหล่อนให้ตามไปแล้วปล่อยงานให้เพื่อนขี้หลีจัดการเอาไปส่งให้
...เข้ามาถึงคณะของหล่อน ซึ่งบริเวณนั้นมีแต่เด็กใหม่ปี 1ที่นั่ง ๆยืน ๆอยู่เป็นส่วนมาก ซึ่งแน่นอนว่า หนุ่มหล่อตัวสูงที่เดินเข้ามาย่อมตกเป็นเป้าสายตาของบรรดาสาว ๆในคณะที่มีแต่ผู้หญิงเสียเป็นส่วนใหญ่แน่นอนอยู่แล้ว..
แค่ได้เห็นสายตาที่แอบมองบ้าง มองอย่างไม่คิดจะแอบบ้าง คีตภัทรก็นึกหมั่นไส้นายตัวสูงที่เดินจ้ำเอา ๆนำหน้าหล่อนขึ้นมา
...ไม่เห็นบ้างรึไง มีแต่สาวมองน่ะ ..โธ่เอ้ยมองอะไรกันนักหนา หล่อตายล่ะ แบรตพิตต์ยังหล่อกว่าอีก
คิดเปรียบกับหนุ่มหล่อขวัญใจสาว ๆทั่วโลกเอาในใจคนเดียว เพราะถึงไม่ค่อยอยากจะยอมรับ แต่เพื่อนพี่ชายจอมซกมกของหล่อนคนนี้ หน้าตาหล่อเหลาขนาดหนักทีเดียว
" รอแถวนี้ล่ะ เดี๋ยวสักเก้าโมงเค้าคงเรียกเข้าห้องประชุม " อรามหยุดแถวม้าหินที่มีนักศึกษาใหม่หลายคนนั่งอยู่
คนตัวเล็กพยักหน้าเงียบ ๆ
เมื่อเขาพยักหน้ารับแล้วทำท่าจะเดินออกไป ..คีตภัทรรู้สึกใจหายวูบ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะชอบดุ ชอบว่าหล่อน แต่อย่างน้อยก็เป็นคนรู้จักคนเดียวในตอนนี้ท่ามกลางคนมากมาย ซึ่งหล่อนก็ยังไม่มีเพื่อนสักคน
" ไปแล้วเหรอ " เสียงอ่อย ๆถามคนตัวสูง ที่หันกลับมา
" เดี๋ยวเย็นไอ้บอยมันคงมาหา..ไปล่ะ " พูดจบก็เดินแหวกผู้คนออกไป จนลับหายไปทางอาคารสูงใหญ่..
...สร้างความรู้สึกเหมือนถูกทิ้งเอาไว้ให้คนที่ยืนนิ่ง ๆมองผู้คนรอบ ๆตัวที่ไม่รู้จักอย่างโหวงเหวง
ความรู้สึกคิดถึงบ้าน แว้บเข้ามาอีกแล้ว..เมื่อในใจอยากให้เวลาผ่านไปเร็ว ๆ
อยากให้ถึงตอนเย็นเร็ว ๆ หล่อนจะได้เจอพี่ชาย คนคุ้นเคยคนเดียวที่มีในตอนนี้..
...เอ..รวมทั้งเพื่อนบ๊อง ๆของพี่หล่อนด้วยก็ได้ ..
..ตาลุงปากเสียนั่น..หล่อนนึกถึงคนที่เพิ่งมาส่งหล่อนแล้วยิ้มขันอยู่คนเดียว
...........................
ความคิดเห็น