คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : aquarius vs cancer
บทบันทึกบทแรกจากดวงชะตานับล้าน เจ้าได้เปิดเข้ามาสู่บทบันทึกแห่งดวงชะตาของพวกเขา
....... หนุ่มกรกฏ ผู้ยากจะเดาความคิดได้ มีความลึกลับในตัวเอง ลักษณะภายนอกไม่ใส่ใจสิ่งรอบข้าง แต่ส่วนลึกของจิตใจ คือความมั่นคงในความรัก และการมองว่าชีวิต ก็คือชีวิต มันย่อมไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ที่ตายตัว
........ เธอสาวราศีกุมภ์ ผู้สดใส มีชีวิตชีวา บางครั้งดูเหมือนหญิงสาวผู้ใสซื่อ แต่ลึกลงไปภายในตัวเธอแล้ว แอบซ่อนด้วยความคิดอันลึกซึ้งเอาไว้ ความรัก คือสิ่งที่ยั่งยืนสำหรับเธอ
ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาดูเรียบร้อย เขากำลังมองตรงไปยังนาฬิกาปลุกสีเขียวเข้มบนหัวเตียง ขณะนี้ที่เข็มนาฬิกาชี้บอกเวลา 8 นาฬิกาตรงไม่ขาดไม่เกิน เพราะเข็มสั้นชี้ตรงเลข 8 ส่วนเข็มยาวนั้น ชี้ตรงแหน่วอยู่ตรงเลข12
' ให้เวลามันอีก5นาที ' ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาผู้มีนามอันดูดีออกจะมีศิลปะว่า ' คีตภพ ' ซึ่งขณะนี้เขาเรียนวิศวฯ ปี4 บอกกับตัวเอง แล้วจัดการรื้อเอกสาร2-3ชุดจากกองหนังสือขึ้นมา แล้วเสียบไว้กับสมุดปกดำสนิทเล่มหนึ่ง เขาวางมันเอาไว้บนกองหนังสือที่วางกองสุมกันไว้บนโต๊ะญี่ปุ่นข้างเตียง ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงข้างๆโต๊ะที่เพิ่งวางสมุดไว้เมื่อสักครู่
คีตภพใช้นิ้วชี้เคาะโต๊ะเหมือนพยายามจะฆ่าเวลา ก่อนจะมองสำรวจไปยังอีกมุมห้อง ที่ตอนนี้ชักไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าตรงนั้นคือห้องที่คนอาศัยอยู่หรือว่ากองขยะกันแน่
คีตภพหันไปมองนาฬิกาสีเขียวเข้มของตัวเองอีกครั้ง ตอนนี้มันบอกเขาว่าเป็นเวลา 8 นาฬิกา 5 นาที ไม่ขาดไม่เกิน เพราะเข็มยาวไปชี้ตรงแหน่ว(เช่นเคย)อยู่ที่เลข1
เขาลุกขึ้น แล้วเดินตรงไปยังกองปฏิกูลอีกมุมหนึ่ง
หือ...มันแรงไปเหรอ งั้นเอาเป็นว่า กองขยะเหมือนเดิมก็ได้
เขาลุกขึ้น แล้วเดินไปยังกองขยะอีกมุมหนึ่ง
เข้าไปใกล้สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ที่บัดนี้ยังไม่ปรากฎรูปร่างสัญฐานให้เห็น เพราะมีกองผ้าห่มคลุมปกปิดเอาไว้อย่างมิดชิด
" ไอ้ราม..ตื่นได้แล้ว "
" ............... " เงียบ
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากบุคคลที่ท่านเรียก
" เฮ้ย ..ตื่นเว้ย " เริ่มเพิ่มระดับเดซิเบล
" ............ " เงียบ
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากบุคคลที่ท่านเรียก (อีกครั้ง)โปรดฝากข้อความ
" ไอ้เฉี้ย...ตื่นได้แล้ว " คีตภพเรียก พร้อมกับฝากข้อความเป็นบาทา ลงไปบนสิ่งมีชีวิตเบื้องล่าง.... คราวนี้ดูเหมือนว่าสิ่งมีชีวิตนั้นเริ่มมีการตอบสนอง....ด้วยการเคลื่อนไหวอยู่ภายใต้กองผ้าห่ม
แต่พักเดียวก็หยุดไป ทำให้คนที่ยืนอยู่ถอนหายใจอย่างหัวเสียเล็กน้อย ก่อนจะมองไปรอบ ๆ อาณาจักรของสิ่งมีชีวิตบนเตียง แล้วสายตาก็พลันไปเจอเข้ากับกระป๋องคุกกี้ยี่ห้อหนึ่ง เจ้าของสโลแกนว่า ' ที่นี่มีแต่ของอร่อย ' เข้าพอดี กระป๋องคุกกี้ที่บัดนี้ว่างเปล่าอย่างน่าใจหาย นอนแอ้งแม้งอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่นรก ๆ
เขาจำได้ว่าเมื่อวานรุ่นน้องสาวสวยที่คณะเพิ่งยื่นให้มา ในฐานะที่เป็นรุ่นพี่แสนดี สุดหล่อ (อันนี้คิดเอาเอง) ช่วยสอนติวให้รุ่นน้อง แต่ไหงแค่ช่วงข้ามคืน ขนมของเขากลับไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว
คีตภพคว้ากระป๋องพร้อมฝาขึ้นมาอย่างหงุดหงิด แล้วยื่นมันไปข้างหน้าใกล้กับกองผ้าห่ม
" แป๊ง แป๊ง " เขาเคาะมันเข้าด้วยกันแล้วยิ้ม
" ดังดีเหมือนกันแฮะ " คีตภพพยักหน้าหงึก ๆกับตัวเองก่อนจะหันไปยังกองผ้าห่มตรงหน้า
" แม่งเอ้ย ไม่ไปก็ช่างมึง..วันนี้พรีเซนต์โปรเจคต์เสือ..กไม่ตื่น..ไปสาธยายกับ'จารย์เองแล้วกัน "
แล้วคีตภพก็มองกระป๋องคุกกี้ในมืออีกครั้งก่อนชูขึ้นสูง แล้วจัดการพิสูจน์กฏของนิวตัน ...ว่าด้วยการตกอย่างอิสระของวัตถุภายใต้แรงดึงดูดของโลก
" แป๊ง ! " เกิดเสียงดัง จากการกระทบกันของ ๆแข็ง
จนไปรบกวนโสตประสาทของสิ่งมีชีวิตที่นอนนิ่งอยู่ในกองผ้าห่มเข้า
" สัตว์ ! "
เสียงสบถลอดผ่านออกมาจากกองผ้าห่ม เป็นสัญญาณตอบรับเป็นครั้งแรก แต่คีตภพหาได้สนใจไม่ เขาเดินกลับมาที่โต๊ะญี่ปุ่นของตัวเอง
หยิบสมุดที่วางเอาไว้ ก่อนจะนึกขึ้นได้ แล้วเดินกลับไปยังมุมนั้นอีกครั้ง เพื่อมองหาบางอย่าง
แล้วสายตาก็ไปเจอกับโทรศัพท์มือถือสีเทาของตัวเองเข้า " แม่งเห็นมองอยู่ตั้งแต่เมื่อคืน "
มันนอนไร้ชีวิตอยู่ข้าง ๆเศษอะไรสักอย่างหนึ่งสีน้ำเงินหม่นๆ ที่นอนม้วนตัวกลมเหมือนขนมครัวซองอยู่ตรงนั้น
ต่อเมื่อเดินมาดูใกล้ ๆ จึงเห็นป้ายหนังสีน้ำตาลติดเอาไว้ อ่านได้ว่า rosso
คีตภพหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมา โดยพยายามไม่เฉียดเข้าใกล้ไอ้ rosso สีน้ำเงินหม่นที่นอนขดนิ่งทำตัวเกลื่อนกลาดอยู่ตรงนั้น แล้วคิดในใจ ' จะมีตะกร้าไว้ทำห่าอะไรของมัน '
ว่าแล้วก็ใช้บาทาเขี่ยให้พ้นทางอย่างรำคาญจนเจ้า rosso สีหม่นกระเด็นไปกองอยู่ข้าง ๆกระป๋องคุกกี้นั่นเอง
เขาจัดเปิดเครื่องโทรศัพท์ตรงหน้าแล้วก็รำพึงอย่างหงุดหงิด " วะแบตหมดได้ไงเนี่ย เพิ่งชาร์ตนี่หว่า " เมื่อเห็นดังนั้นคนตัวสูงในชุดนักศึกษาก็เอาโทรศัพท์สีเทาของตนไปต่อสัญญาณชีพที่ปลั๊กไฟหัวเตียง
ก่อนจะหยิบสมุดที่วางเอาไว้และดึงเป้คู่ใจสะพายบนหลังแล้วออกจากห้องไป
.........ดูเหมือนเวลาจะล่วงเลยไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตภายใต้โปงผ้าห่มผืนนั้น จนกระทั่ง....มีเสียงหนึ่งทำลายความเงียบของห้วงนิทรายามสายเข้า
สิ่งมีชีวิตที่บัดนี้กำลังขยับเขยื้อนกายอย่างเกียจคร้านในกองผ้าห่ม ตอบสนองต่อเสียงรบกวน
" ก๊อก..ก๊อก " เสียงของแข็งกระทบประตู
" อือออ "
" ก๊อก ก๊อก ก๊อก " เพิ่มความถี่ขึ้น
" คร้าบ .." เสียงงัวเงียขานรับ พร้อมสลัดผ้าห่มที่คลุมโปงออก
เผยให้เห็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างสูงใหญ่ เป็นครั้งแรกของวัน
สิ่งมีชีวิตที่ยืนตระหง่านขึ้นเต็มความสูงเซเล็กน้อยเพราะปรับสภาพ เป็นลักษณะของชายหนุ่มวัยยี่สิบต้น ๆ รูปร่างสูงเพรียว ผมชี้ serround รอบทิศทางลงมาปรกหน้าปรกตา เห็นเพียงจมูกโด่งเป็นสัน กับปากบางสีสดเป็นรูปกระจับ ที่บัดนี้มีคราบน้ำลายติดอยู่พองาม แขนนั้นยกขึ้นแล้วใช้นิ้วยาว ๆเสยผมให้พ้นหน้าตา ก่อนจะกระพริบตาเพื่อปรับแสง แล้วปิดปากหาวอีกครั้ง
" ปัง ปัง ปัง " เสียงเคาะประตูด้วยท่วงทำนองที่รุนแรงขึ้น ทำให้คนที่ปิดปากหาวขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด
" เออ..จะเปิดแล้ว " ' ห่าเอ้ย พ่อแม่ไม่ได้สอนคำว่ารอบ้างเหรอวะ ' เขาคิดในใจ
' เขา ' ผู้มีนามอันคล้ายสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ว่า ' อราม '
มีเพื่อนเคยถาม ' มึงชื่อ อาราม หรือ อร่าม ไม่ฟังเข้าใจง่ายกว่าเหรอว่ะ '
'ไม่รุ พอดีตอนเกิดไม่ได้ตั้งเองว่ะ 'เขาตอบหน้าตาเฉย
แต่นั่นยังไม่ร้ายเท่ากับที่ดันมามีเพื่อนสนิทชื่อเล่นว่า ' บอย ' ก็จะใครซะอีกถ้าไม่ใช้รูมเมทที่ชื่ออย่างมีศิลปะว่า คีตภพ ไอ้เพื่อนแสบมักจะเรียกสองคู่หูร่วมห้องว่า อารามบอย ตกลงเลยกลายเป็นเด็กในความปกครองของหลวงพี่ไปซะงั้น
ผู้มีนามว่า อราม เดินไปที่ประตู บิดและกระชากมันเปิด และทันทีที่เปิดออก สายตาอันคมกริบของหนุ่มอารามบอย ก็ปะทะเข้ากับร่างคนที่อยู่ตรงหน้า สมองอันอัฉริยะของเขา(อย่างน้อยก็ฉลาดที่สุดในกลุ่มเพื่อน) ก็ทำงานทันที ร่างตรงหน้าถอยผงะไปครึ่งก้าว แต่เขาก้ประมวลข้อมูลและแปรความหมายอย่างรวดเร็ว
ผู้หญิงแน่ ๆ เตี้ยกว่าเขาราว 20 ซ.ม. หน้าตาบูดเหมือนแกงจืดค้างคืน หาความเซ็กซี่ยังไม่เจอ จากการประเมินด้วยสายตา เบื้องหน้ามีเพียงแค่ที่ราบต่ำ
ดูเหมือนร่างที่ถอยไปครึ่งก้าวนั้นตั้งหลักได้แล้ว หลังจากตะลึงกับภาพตรงหน้าไปหลายวินาที หล่อนคือ ' คีตภัทร ' น้องสาวแท้ๆคลานตามกันมาของผู้ชายที่ชื่อว่าคีตภพ ผู้มีชื่อเล่นว่าบอย คนที่ออกไปเรียนตั้งแต่เช้า
ดวงตากลมโตนั้นมองกลับไปยังผู้ชายตรงหน้าเช่นกัน ไม่ใช่พี่ชายหล่อนแน่ ๆ แต่สูงไล่เลี่ยกัน ผมยุ่ง หน้าตาก็...เอ่อ ....หน้าตาก็จัดว่าดี
....หือ...ไม่สิหล่อใช่ได้...
เอหรือว่าหล่อมาก...
เอาเป็นว่าหล่อกว่าพี่เราก็แล้วกัน ไม่ใส่เสื้อด้วย แล้วที่สำคัญใส่แต่บอกเซอร์ แถมยังหลุดลงมาเกยอยู่กับกระดูกเชิงกราน ที่แทบจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่อยู่ร่อมร่อ...
' ต๊าย..อุ..บาศว์ ' หล่อนคิด แต่หารู้ไม่ว่าความคิดมันไปปรากฏบนใบหน้าอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งแบบไม่ต้องแถลงไข เมื่อหล่อนมองลงไปที่ท่อนล่างของผู้ชายตรงหน้า
คนที่ถูกมองท่อนล่าง มองตามสายตาผู้หญิงตรงหน้าลงมายังกางเกงของตัวเอง แล้วยกมือกอดอกหน้าตาเฉยแบบไม่สนใจ
" มองไร " ถามห้วน ๆ
" เปล่า ไม่ได้มอง " ตอบทั้งที่สายตายังมองอยู่
" มีอะไร " คนตัวสูงถาม
" มีอะไรอ่ะ ไม่รู้สิ เฮ้ย..ไม่มี " ยังคิดถึงเรื่องกางเกงบอกเซอร์อยู่
" แล้วเคาะประตูทำไม "
" นึกว่าห้องพี่บอย " ตอบคนตัวสูงที่ยืนโชว์หุ่นอยู่ตรงหน้า ซึ่งตอนนี้กำลังเอามือเกาพุงอยู่โดยไม่เกรงสายตาหล่อนสักนิด
'ให้ตายเหอะคนหล่อทำตัวทุ..เรศ แล้วมันทุ..เรศขึ้นหลายเท่าจริง ๆด้วย ' หล่อนคิด
" ออ มาหาไอ้บอย...ไม่อยู่หรอกไปเรียน " คนที่ยืนเปลือยอกบอกเรื่อย ๆ
" อ้าว บ้าจริง " หล่อนสบถขึ้นคนเดียว แต่ได้ยินสองคน...ชัดเจน
'อะไรของยายหน้าบูดนี่วะเนี่ย' อรามคิด
นี่เป็นการพบกันครั้งแรกของยายหน้าบูด กับนายบอกเซอร์นั่นเอง
.....................
ความคิดเห็น