ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Terger triangle

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ:สามโลกในอดีต

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 55


     แต่กาลก่อน 'โลก'  ทั้ง 3 โลก ได้ถูกเชื่อมไว้ด้วยมิติคู่ขนานที่ไร้ที่ไปที่มา
    อันได้แก่ 'แผ่นดินมนตรา' 'แผ่นดินมายา' และ 'แผ่นดินแห่งกาลสาปสูญ'

    'แผ่นดินมนตรา'
    อำนาจที่เกิดจาก 'ความศรัทธา' ก่อเกิดให้เป็น 'พลัง'
    ผู้คนบนโลกนี้จะมี 'ตราประดับ' ประจำตัวตั้งแต่เกิด
    ตาม 'ลักธิ' ที่ผู้เป็นบิดามารดาเคารพ และเทิดทูนศาสดาว่าเป็นผู้ชี้แจงโลก(ข้ารับใช้พระเจ้า)
    ผู้คนในโลกนี้มีพลังรักษาเป็นพลังหลัก ว่ากันว่าผู้ใดที่สามารถชุปชีวิตคนตายได้ ผู้นั้นจักเป็นผู้ใกล้เคียงพระเจ้าโดยแท้จริง

    'แผ่นดินมายา'
    แผ่นดินที่กันระหว่างโลกทั้งสอง ไม่มีกฎหมายหรือผู้ปกครองที่ัชัดเจน ทำให้แผ่นดินนี้มีหลายเผ่าพันธุ์เคล้ากันไป
    ลักษณะคล้าย hybrid(ลูกครึ่ง) แต่ชนเผ่าดังเดิม คือสิ่งมีชีวิตที่ไร้ 'พลัง' ใดๆ
    จึงได้หยิบยืมพลังแห่งธรรมชาติและธาตุต่างๆมาใช้ เหล่าธรรมชาติที่เป็นพวกสร้างพวกเขา
    ผ่าน 'บทเพลง' ที่สืบต่อกันมาแล้วแต่พื้นที่ ที่คล้ายคำวิงวอนจากผู้ไร้พลัง ที่เรียกกันว่า 'บทเพลงมายา'

    'แผ่นดินแห่งกาลสาปสูญ'
    ชนเผ่าโบราณที่มี 'สายสัก' เป็นเครื่องแสดงตน
    พวกเขาเป็นชนเผ่าเก่าแก่ที่แสนทรนงตน เชื่อว่าตนเองคือผู้สร้างโลก
    สายเลือดของพวกเขารักการทำลายและอำนาจเป็นส่วนใหญ่
    จึงได้รับพลัง ในการ 'ทำลาย' ที่น่าสะพรึงกลัว
    แต่กลับเข่นฆ่ากันเองเพื่อหาผู้อยู่สูงสุดทำให้ถูกเรียกว่า 'แผ่นดินแห่งกาลสาปสูญ'

    แต่กาลก่อนทั้งสามโลกอยู่กันแบบต่างฝ่ายต่างอยู่ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน
    ทว่าต่อมาแต่ละโลกก็เกิดความปรารถนาการ 'เรียนรู้' เพื่อ 'วิวัฒนาการ' 
    ทั้งที่รู้ว่าอาจเป็นดาบสองคม แต่ผู้ ไขว้ขว้า ก็ยินดีกระทำ
    แลกกับการเรียนรู้อันยิ่งใหญ่

    จึงเกิด 'ทูต' ผู้ทำหน้าที่เจรจาและสร้างความสัมพันธ์ของแต่ละโลก
    ศาสดาสูงสุดผู้ทำหน้าที่เป็นทูตแห่งแผ่นดินมนตรานาม 'เซเรีย'
    ราชันย์ผู้อยู่จุดสูงสุดของสายเลือดทูตแห่งแผ่นดินเเห่งการสาปสูญนาม 'ฮิทเทียส'
    เว้นเพียงแผ่นดินมนตราที่มีการปกครองที่อิสระ ไร้ผู้ปกครองและไม่เคร่งครัดกับสายเลือดเท่ากับสองแผ่นดินที่กล่าวไป ซ้ำยังเป็นแผ่นดินที่อยู่สูญกลาง ครองครองพลังที่ไม่น่าสนใจเท่าไร จึงเป็นฝ่ายตั้งรับ(และจำยอม)อย่างช่วยไม่ได้กล่าวคือเป็นได้เพียงสื่อกลางของ 3 โลกเท่านั้น
     
    กาลเวลาผ่านพ้นไป 'ทูต' ได้ส่งมอบหน้าที่ของ 'ทูต' จากรุ่นสู่รุ่น อย่างไม่ขาดตกบกพร่องทว่าต่อให้เกิดความปรองดองสักเพียงใดแต่นั่นก็เป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น
    ความสัมพันธ์ก็ยังคงอยู่แต่ไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้นแต่ก็ไม่ได้แย่ลง...
    มันเป็นเพียงความสัมพันธ์ที่มีขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดสงครามเท่านั้นเอง....
    แต่แล้วก็เกิดสงคราม

    ไม่สามารถรับรู้ไม่มีใครคาดคิด ว่าผู้ใดเป็นผู้เริ่ม หรือผู้ก่อให้เกิด ตัวจุดชนวนสงครามเป็นใครก็ไม่แน่ชัด
    แผ่นดินมนตรา อ้างว่า แผ่นดินแห่งกาลสาปสูญต้องการปกครองเป็นใหญ่
    แผ่นดินแห่งกาลสาปสูญ อ้างว่าแผ่นดินมนตราช่วงชิงบุคคลสำคัญของตนไป
    แม้ไม่มีหลักฐานชี้ชัดแต่สงครามก็เริ่มต้น
    สายสัมพันธ์ทูตขาดสะับัน ผู้นำของแต่ละฝ่ายห้ำหันกัน
    และแผ่นดินที่ถูกเลือกให้กลายเป็นสนามรบคือ...แผ่นดินมายา
    ผู้คนล้มตาย ที่เหลือรอดก็ถูกจับเป็นเชลย ไม่ว่าจะเป็นสายเลือดผสมหรือสายเลือดแท้
    สงครามดำเนินไปไม่มีที่สิ้นสุด ผู้คนล้มตายมากมาย
    และที่ใกล้ดับสูญคือแ่ผ่นดินมายา
    ณ เวลานั้นโลกของแผ่นดินมายาได้ถูกแบ่งเป็นสองฝ่าย
    คือฝ่ายที่ขึนตรงกับมิติคู่ขนาน
    กับฝั่งที่ยึดมั่นในแผ่นดินของตน
    จนกระทั่งมีผู้วิงวอน
    วินวอนต่อต้นไม้แห่งชีวิต ผู้ก่อกำเนิดธรรมชาติ ทุกสรรพสิ่ง
    "ลำพังเพียงพวกเราก็มิอาจหยุดยั้งสงคราม พวกเขาก็ไม่หยุด ทุกสิ่งจะสาปสูญไม่มีหนทางใดเลยหรือ"
    ราวกับว่า 'จิต' นั้นได้รับรู้ และก่อกำเนิดวิญญาณที่เกิดจากคำวิงวอน
    นามว่า 'รินเลอุส' และ 'รินโลเรส' ผู้เป็นทูต แห่งแผ่นดินมนตรา
    สงครามถูกหยุดยั้งชั่วคราว นำมาสู่การเจรจา
    จุดเริ่มต้นของสงครามได้ถูกนำมาถกเถียง ทูต ได้กลับมาประชุมอีกครั้ง
    บทสรุปของการเจรจาที่เป็นเอกฉันท์ คือการตัดห้วงมิติระหว่างสามโลกเสีย
    และอีกสองแผ่นดินต้อง'ชดใข้'สิ่งที่ทำ แก่เเผ่นดินตรงกลาง
    สงครามได้จบลงพร้อมกับการจากลาระหว่างสามแผ่นดิน
    และโลกทั้งสามโลก ก็ไม่มีทางได้พานพบกันอีกเลย

    เหลือไว้เพียงเศษเสี้ยวของปริศนาที่ซุกซ่อนตามที่ต่างๆในแต่ละโลก รอให้ใครสักคนมาค้นพบ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×