ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (one piece) straw hat mariner | ทหารเรือเดอะซีรีย์ (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 06 :: ของแปลกกับพวกประหลาด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.51K
      358
      2 ธ.ค. 61

    Chapter 06 :: ของแปลกกับพวกประหลาด

     


     

     

     

             ร่างเล็กซึ่งนั่งอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่เอนหลังพิงลำต้นพลางเหลือบมองไปยังทางเข้าศูนย์บัญชาการใหญ่กองทัพเรือซึ่งบัดนี้กำลังวุ่นวายเพราะต้องเตรียมตัวต้อนรับ 7 เทพโจรสลัด เนื่องจากวันนี้เป็นวันประชุมใหญ่ของกองทัพเรือที่จะจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี มันจึงเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเจ็ดเทพโจรสลัดจะต้องเดินทางมาที่นี่อย่างพร้อมเพรียงโดยไม่มีข้อแม้

     

              มองจากที่ไกลๆก็เหมือนจะเห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตา

     

             โอ้— นั่นเจ้านกโรคจิตนี่

     

              “พึ่งจะเคยเห็นเจ็ดเทพโจรสลัดตัวเป็นๆก็ครั้งแรก” โซโลที่ยืนพิงต้นไม้ต้นเดียวกันพูดขึ้นโดยที่สายตายังไม่ละไปจากพวกเจ็ดเทพโจรสลัดที่เริ่มทยอยกันเดินเข้าไปในฐานทัพเรืออย่างไม่เร่งรีบ

     

              และไม่ห่างจากต้นไม้ที่เขาพักพิงอยู่นัก..ก็มีซันจิ นามิ และอุซปยืนอยู่ตรงนั้นด้วย

     

              “ฉันเคยเห็นโดฟลามิงโก้ พูดตรงๆนะ มันก็แค่ไอนกแก่ตัณหากลับ”

     

              “พูดได้ดีมากเลยซันจิคุง ตอนฉันเห็นเจ้านั่นฉันก็คิดเหมือนนายเปรี๊ยบเลย” นามิเสริมพลางหัวเราะคิกคักเมื่อย้อนนึกไปถึงตอนที่เจ้าโดฟลามิงโก้พาลูฟี่ไปที่ภัตตาคารลอยทะเล และนั่นคือครั้งแรกที่เธอได้พบกับลูฟี่และเจ้านกนั่น

     

              “จะว่าไปนะโซโล นายเคยพูดว่าจะเป็นนักดาบอันดับ 1 ของโลกนี่ ก่อนอื่นก็ต้องเอาชนะเจ้ามิฮอว์คนั่นก่อนละนะ” อุซปชี้ไปทางชายร่างสูงไว้หนวดเคราผู้ซึ่งแบกดาบขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายไม้กางเขนไว้บนแผ่นหลัง โซโลกระตุกยิ้มมุมปากและแค่นหัวเราะ เขารู้หรอกน่า..

     

              “ไว้รอให้ฉันฝึกฝนให้เก่งกว่านี้ก่อนเถอะ ฉันจะไปท้าสู้กับหมอนั่น!

     

              “ใจกล้าดีนี่นา ชิชิชิ”  

     

              “ว่าแต่..ลูฟี่ นายไม่ต้องไปต้อนรับพวกนั้นเหรอ? เป็นนาวาเอกไม่ใช่รึไง?” ลูฟี่ส่ายหน้าพรืดแทบจะในทันทีกับคำถามของเพื่อนชายคิ้วม้วน พลางทำสีหน้าเหยเกเหมือนเด็กที่โดนบังคับให้กินยารสขม อุซปหัวเราะก๊ากก่อนอธิบายด้วยน้ำเสียงสั่นๆเพราะกำลังพยายามกลั้นขำสุดชีวิต

     

              “ฮ่าๆๆๆ ข ขอโทษนะลูฟี่ แต่มัน..ฮ่าๆๆ คืองี้ ลูฟี่น่ะไม่ถูกพวก 1 ในพวกนั้นน่ะสิ” พวกโซโลทำหน้าเหวอโดยพร้อมเพรียง

     

              ลูฟี่ชักสีหน้า

     

              “โมเรีย ฉันไม่ชอบเจ้านั่น อืม..ฉันหมายถึง— เจ้านั่นมันน่ารำคาญ เจอกันทีโคตรปวดประสาท” ลูฟี่อธิบายพลางพยายามทำไม้ทำมือเพื่อสื่อว่าเจ้าคนในบทสนทนานั้นน่ารำคาญมากขนาดไหน ยิ่งอธิบายไปสีหน้าเจ้าตัวก็ยิ่งหงิกขึ้นเรื่อยๆ

     

             หายากนะที่คนนิสัยแบบเจ้านี่จะไม่ชอบใครซักคนเนี่ย

     

              นามิคิด

     

              “หมอนั่นชอบหัวเราะเสียงแบบ..หัวเราะให้ดูยังไงดีอ่ะ? เคี๊ยกๆๆ ประมาณนี้อ่ะ เหมือนลิงเลยเนอะ แถมยังหนวกหูมากๆ” พูดไปก็ส่ายหัวไปก่อนทอดสายตามองไปยังเรือนร่างสะโอดสะองของหญิงสาวแห่งเผ่าคุจาซึ่งเป็น 7 เทพโจรสลัดคนสุดท้ายที่เดินลงมาจากเรือ  

     

              “ว้าว~ นั่นก็เป็นเจ็ดเทพโจรสลัดเหรอลูฟี่ สวยชะมัดเลย~ คุณผู้หญิงคร้าบบ”

     

              ร่างที่กำลังจะพุ่งไปทางที่สาวสวยอยู่ถูกหยุดไว้ด้วยการรั้งคอเสื้อ ซึ่งเป็นฝีมือของนามิและอุซปที่พยายามเค้นแรงกายอันน้อยนิดมาลากเพื่อนผมทองไม่ให้เข้าไปทำให้เรื่องมันวุ่นวาย

     

              นั่นน่ะ โบอา แฮนค็อก เชียวนะ กิตติศัพท์ของเธอมันไม่ใช่เล่นๆเลย

     

              “ถ้านายพุ่งเข้าไปหาเธอแบบนั้นเดี๋ยวได้ถูกสาปเป็นหินหรอก!

     

              “พูดอะไรน่ะอุซป ผู้ชาย..ถ้าจะต้องกลายเป็นหินด้วยฝีมือของคนสวยแบบนั้นก็ต้องเป็นด้วยความเต็มใจซี่”

     

              ตาเป็นรูปหัวใจ ซ้ำร้ายหน้าตาของเพื่อนคิ้วม้วนในตอนนี้กลับดู..หื่นแบบสุดๆ

     

              “ฉันคนนึงล่ะที่จะไม่ยอม ชิชิชิ”

     

              อย่างซันจินี่มีน่าไปว่าเจ้านกชมพูนั่นว่าตัณหากลับด้วยอย่างนั้นหรือ? ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย.. อุซปหัวเราะร่า “เสียใจด้วยนะซันจิ แต่ผู้หญิงน่ากลัวคนนั้นเค้าชอบลูฟี่น่ะ ฮ่าๆๆๆ”

     

              “ฮะ!?” ไม่ใช่แค่ซันจิ นามิ แม้แต่โซโลก็ถึงกับทำหน้าเหวอเหมือนไม่อยากจะเชื่อ สองหนุ่มที่มักกัดกันประจำทำหน้าหงิกก่อนจะปีนขึ้นไปบนต้นไม้ที่ลูฟี่นอนอยู่ เคาะหัวเจ้าซื่อบื้อที่ทำหน้าเหรอหราไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยความหมั่นไส้

     

              “เจ้านี่อ่ะนะ!?

     

              ผู้หญิงคนนั้นช่างมีรสนิยมที่..ประหลาดเป็นบ้า

     

              “ใช่แล้ว! ถึงขั้นเคยลักพาตัวลูฟี่ไปเกาะอเมซอนลิลลี่ตั้งเดือนนึงเชียวนะ” เพื่อนผมเขียวกับผมเหลืองทำสีหน้าเหมือนรับไม่ได้ แต่ในใจของทั้งคู่กลับมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน..คือความรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆที่ไม่ทราบที่มา

     

             ลักพาตัวไปเกาะ? อยู่ด้วยกันสองต่อสอง? แล้วก็ต้องทำแบบนั้น แบบนี้ แบบนู้น..

     

              “รับไม่ได้เฟ้ยยยยย!

     

              “ชิชิชิ” เจ้าตัวต้นเรื่องหัวเราะอย่างไม่รู้สึกรู้สาก่อนกระโดดลงจากต้นไม้อย่างชำนาญ ไม่รู้ว่ามันเป็นคนหรือเป็นลิงที่ปลอมตัวเป็นคนกันแน่ แต่ทั้งพวกโซโลก็ยอมรับว่าถึงจะน่าปวดหัวไปบ้าง แต่ลูฟี่ที่ซุกซนและร่าเริงแบบนี้ก็ดีสำหรับพวกเขาที่สุด

     

              เสียงฝีเท้าหนักๆของใครบางคนวิ่งมาทางนี้พร้อมกับเสียงโหวกเหวกโวยวายที่ชวนให้พวกเขาต้องปิดหู หัวขาวๆของตาแก่ผู้มีศักดิ์เป็นปู่ของลูฟี่วิ่งมาแต่ไกลทั้งยังส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้านชาวช่องเขาไม่หยุด ลูฟี่ปิดปากหาว..มองปู่วิ่งมาหาเขาด้วยสายตามึนงง

     

              “ทำไมแกมาอยู่ที่นี่ลูฟี่!! แกต้องเข้าประชุมด้วยรู้มั้ย!!!??

     

              “หา!? ปู่ก็รู้นี่ว่าฉันไม่อยากเจอเจ้าบ้าโมเรียนั่น! ปู่ยังจะให้ฉันไปอีกเรอะ! แถมยังไอนกบ้านั่นอีก”

     

              “คิดว่าฉันอยากส่งแกไปเป็นอาหารนกเรอะ!? แต่ยัยราชินีเผ่าคุจานั่นน่ะอยากเจอแกจนถึงขั้นยื่นคำขาดว่าถ้าแกไม่เข้าประชุมด้วยเธอก็จะไม่เข้า”

     

              “...”

     

    “เพราะงั้นลูฟี่..แกต้องเข้าประชุม!

     

     

     

    ----|----|----|----|----

     

     

     

              ในห้องประชุมขนาดใหญ่สไตล์ญี่ปุ่นโบราณ..มีร่างของเหล่าทหารเรือยศนาวาเอกขึ้นไปและเจ็ดเทพโจรสลัดนั่งหันหน้าเข้าหากันโดยเว้นตรงกลางเอาไว้ราวกับเป็นเส้นคู่ขนาน ผู้ที่นั่งอยู่ตรงกลางริมสุดเพียงคนเดียวก็คือจอมพลแห่งกองทัพเรือ..เซ็นโงคุ

     

    ลูฟี่ปิดเปลือกตาลง..พยายามอดกลั้นที่จะไม่เผลอกลอกตามองบนด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย

     

              เขานั่งตรงข้ามกับชายตาเหยี่ยวที่มักพกดาบที่มีลักษณะคล้ายไม้กางเขนเดินทางไปไหนมาไหนเสมอ ส่วนข้างชายคนนั้นก็มีคู่อริทั้งสองของเขานั่งขนาบ

     

              คนหนึ่งคือโมเรีย..เจ้าบ้าตัวโตรูปร่างคล้ายตุ๊กแกที่เอาแต่มองเขาแล้วหัวเราะเคี๊ยกๆอย่างกับคนบ้า ส่วนคนที่สองก็คือเจ้านกชมพูนั่น..นัยน์ตาคมที่อยู่เบื้องหลังแว่นกันแดดรูปทรงประหลาดเอาแต่จ้องเขาด้วยความเงียบงันมาตั้งแต่เมื่อครู่

     

              นี่มันได้ฟังที่เขาประชุมกันบ้างมั้ยฟะ?

     

              “เคี๊ยกๆๆๆ”

     

             แต่ที่แน่ๆ..ไอตุ๊กแกนี่ไม่ได้ฟัง

     

              “นั่นคือครอคโคไดล์..ดูเหมือนเขาจะได้รับการนับถือมากที่อลาบาสต้า” สาวสวยผมชมพูยศเดียวกับเขากระซิบบอกที่ข้างหู คงเข้าใจว่าเขามองผู้ชายวัย 40 ตอนต้นที่เอาแต่สูบซีการ์เก๊กท่าทำตัวเป็นเจ้าพ่อคนนั้น ทั้งรอยแผลบากบนใบหน้า..ลูฟี่คิดว่าผู้ชายท่าทางน่ากลัวแบบนี้ไม่น่าจะเป็นที่นับน่าถือตาได้เลย

     

              โอ๊ะ— แต่ปู่เขาก็หน้าตาน่ากลัวนี่นะ

     

              “แกกำลังนินทาฉันอยู่ในใจใช่มั้ยลูฟี่” ตาแก่ที่นั่งอยู่ไม่ไกลนักพูดลอดไรฟัน ลูฟี่ส่ายหน้าพรืดแทบจะในทันที

     

              รู้ได้ไงวะ มีพลังจิตเรอะ

     

              “นายกับปู่ดูรักกันดีนะ สโมกเกอร์ชอบพูดเรื่องนายให้ฮินะฟังบ่อยๆ” สาวร่างโปร่งที่ชอบพูดแทนตัวเองด้วยชื่อกระซิบเสียงเบา หารู้ไม่ว่าเด็กหนุ่มตัวเล็กข้างๆรู้สึกสยดสยองแค่ไหนกับประโยคที่ว่าเขากับปู่ดูรักกันดี รักกันปานจะฆ่าให้ตายน่ะสิไม่ว่า

     

              “งั้นเจ้าควันคงไม่ได้พูดสินะว่าตั้งแต่เกิดมาปู่ทำฉันเกือบตายไปล้านรอบได้”

     

              “แต่ก็ยังไม่ตายนี่ ฮินะรู้นะว่าจริงๆแล้วเธอกับปู่ของเธอรักกันจะตาย”

     

             ขออ้วกได้มั้ย..

     

              “ตรงนั่นคุยอะไรกันน่ะ” เสียงของเซ็นโงคุทำให้การสนทนาที่ไร้แก่นสารของทั้งคู่ต้องจบลงเพียงเท่านั้น การประชุมดำเนินต่อไปโดยที่ไม่มีใครคิดจะพูดแทรกอะไรขึ้นมาอีก จริงๆแล้วดูเหมือนว่าผู้ที่จะเข้าร่วมประชุมนั้นมีมากกว่านี้..แต่เพราะบางคนติดภารกิจยุ่งยากทำให้ไม่สามารถเดินทางมาได้ หนึ่งในนั้นคือสโมกเกอร์ เอส ซาโบ และ..

     

              “แล้วเจ้าหนูนั่นล่ะ ชื่ออะไรนะ? อ้อ--ลอว์ยังไม่มาเหรอ” อาโอคิยิถามเสียงยานคางพลางเท้าคางมองสถานการณ์ตรงหน้าอย่างเบื่อหน่าย แอบไม่สบอารมณ์เล็กน้อยเมื่อเห็นว่าพวกตาแก่ในกลุ่ม 7 เทพโจรสลัดมองลูฟี่อย่างกับจะจับกินทั้งตัว ทำตัวเป็นตาเฒ่าหัวงูไปได้

     

    แหม..ตัวเองแก่กว่าพวกนั้นอีก ยังมีหน้ามาพูด..

     

    “ติดภารกิจที่ชาบอนดี้ คงมาไม่ได้หรอก” ชายผู้มีฉายาว่าไก่ฟ้าพยักหน้าหงึกหงักรับรู้กับคำบอกเล่าของสาวแก่ยศพลโทซึ่งอาวุโสกว่าหลายปี

     

    “เอาเป็นว่าช่วงนี้ก็จับตาดูผมแดงกับไคโดเอาไว้ ดูเหมือนพวกนั้นจะมีเรื่องไม่ลงรอยกันมาซักพักแล้ว” จอมพลแห่งกองทัพเรือพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด บรรยากาศในห้องประชุมนั้นช่างน่าอึดอัดซะจนลูฟี่รู้สึกอยากจะเผ่นออกไปจากที่นี่ให้รู้แล้วรู้รอด เขาไม่ชอบงานน่าเบื่อแบบนี้เลย..และยิ่งไม่ชอบเมื่อพวกนี้กำลังพูดถึงแชงคูส

     

    “ที่ผ่านมาผมแดงก็ไม่เคยสร้างปัญหาให้เรา ที่ต้องระวังน่าจะเป็นฝั่งไคโด” การ์ปกล่าวด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อน

     

    “ปัญหาเดียวที่เจ้านั่นสร้างคือตอนที่หลอกล่อลูฟี่ให้เป็นโจรสลัด” ทุกคนดูฮือฮาเมื่อตาแก่วีรบุรุษแห่งกองทัพเรือพูดประโยคนั้นออกมา พวกเขารู้ดีว่าลูฟี่คือหลานรักปานจะฆ่ากันให้ตายของตาแก่การ์ปผู้โด่งดังคนนี้ แต่ไม่ยักจะเคยได้ยินว่าครั้งนึงเจ้าเด็กตัวแสบเคยเป็นที่ถูกใจของ 4 จักรพรรดิจนถึงขั้นถูกชักชวน(หรือหลอกล่อ?)ให้เป็นโจรสลัด

     

    “ก็ว่าทำไมหมวกนั่นถึงดูคุ้นตานัก” มิฮอว์คซึ่งปกติจะเงียบขรึมกล่าวขึ้นมาท่ามกลางเสียงกระซิบกระซาบของคนอื่นๆ พลางชี้ไปที่หมวกฟางซึ่งห้อยอยู่ด้านหลังของลูฟี่ด้วยใบหน้านิ่งสนิท

     

    “หมอนั่นเคยดวลดาบกับผมแดงมาแล้ว” ฮินะกระซิบข้างหูลูฟี่

     

    “แล้วผลเป็นไง?

     

    “ใครจะไปรู้ล่ะ เขาไม่เคยบอก..แต่ฮินะรู้มาว่าเขาเป็นเพื่อนกับผมแดง มันคือข่าวลือ แต่ก็อาจจะจริงไม่ใช่เหรอ? ถ้ามีการดวลกันจริงป่านนี้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคงตายไปแล้ว ไม่รอดมาจนถึงทุกวันนี้หรอก”

     

    “ก็จริง ชิชิชิ”

     

    การประชุมจบลงพร้อมกับลูฟี่ที่แทบจะเดินตัวปลิวออกจากตรงนั้น หากแต่ทว่ากลับถูกจักรพรรดินีสาวแห่งเผ่าคุจาลากไปนั่งเล่นด้วยกันที่ห้องรับรองเสียก่อน อาหารมากมายถูกยกมาตั้งเอาไว้พร้อมกับอ้อมกอดอ้อมใจที่ทำเอาลูฟี่รู้สึกอึดอัดแปลกๆ

     

    แน่นอนว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันทำให้ลูฟี่หวนนึกถึงตอนที่เจอกับโมเรียครั้งแรก

     

    ไอตุ๊กแกน่ารำคาญนั่น

     

    ………………….

    …………

    ……..

     

     

    “เธอกอดฉันแน่นไปแล้วนะ” เจ้าเด็กหนุ่มตัวเล็กทำสีหน้ายุ่งเหมือนไม่พอใจ หญิงสาวเจ้าของใบหน้างดงามราวกับเทพธิดาน้ำตาคลอ

     

    “เจ้าไม่ชอบให้เรากอดเหรอลูฟี่”

     

    “ก็มันอึดอัดนี่ ฉันกินไม่ถนัด”

     

    “งั้นเราไม่กอดก็ได้ แต่เจ้าต้องกินให้อร่อยนะ เรามีความสุขเวลาที่เห็นเจ้ากินอาหารที่เรานำมาให้อย่างเอร็ดอร่อย”

     

    “อาหารของเผ่าคุจานี่อร่อยเสมอแหละ ชิชิชิ”

     

    หญิงสาวผู้หลงใหลเด็กหนุ่มหน้าแดงแปร๊ด ทึกทักเอาเองว่าประโยคนั้นต้องเป็นประโยคบอกรักเธอไม่ผิดแน่ แฮนค็อกบิดตัวไปมาด้วยท่าทีเขินอายราวกับสาวน้อยวัยแรกแย้ม (ทั้งที่อายุจริงๆก็เกือบจะขึ้นเลข 3 แล้วแท้ๆ)

     

    ปัง!!

     

    เสียงประตูที่ถูกเปิดเข้ามาอย่างแรงทำให้ร่างเล็กของเด็กหนุ่มสะดุ้งจนตัวโยน มองไปยังทิศทางที่เกิดเสียงก็พบกับชายตัวสูงร่างกายเหมือนตุ๊กแก จำได้ลางๆว่าหมอนี่ชื่อโมเรีย และเป็นคนที่หัวเราะได้แปลกที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอ

     

    แต่ถึงจะเป็นตุ๊กแก..ก็ไม่น่าไร้มารยาทเปิดประตูเข้ามาในห้องคนอื่นโดยไม่ขออนุญาตสิ

     

    แฮนค็อกกัดฟันกรอด

     

    “เจ้าบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวของเรา รู้บ้างมั้ยโมเรีย? เธอเท้าสะเอวมองหน้าชายตัวสูงอย่างเอาเรื่อง โมเรียไหวไหล่

     

    “อะไรกันๆ ก็แค่เข้ามาเอาของที่สนใจแค่นั้นเอง เคี๊ยกๆๆ”

     

    หญิงสาวชักสีหน้า เริ่มรู้สึกตะหงิดๆ “ในห้องของเราจะมีสิ่งที่เจ้าสนใจได้ยังไง? สิ่งที่เจ้าทำมันไร้มารยาทสิ้นดี”

     

    “โอ้— มีสิ” หมับ! ร่างของลูฟี่ถูกยกขึ้นจนตัวลอยก่อนถูกวางพาดไว้บนบ่าของคนตัวใหญ่ราวกับกระสอบทราย แม้เด็กหนุ่มจะดิ้นขลุกขลัก..แต่ด้วยความต่างของแรงและพลังทำให้เขาไม่อาจดิ้นหลุดออกจากพันธนาการของตุ๊กแกอ้วนกลมได้

     

    โมเรียแย้มยิ้มร้ายกาจ “เจ้าเด็กนี่ไง เคี๊ยกๆๆ”

     

    “ไอ้—! ไม่ทันที่แฮนค็อกจะไหวตัวทัน ร่างของชายผู้เป็นหนึ่งใน 7 เทพโจรสลัดก็กระโดดออกไปนอกหน้าต่าง ทิ้งให้หญิงสาวที่ไม่อาจกระโดดลงไปได้ต้องหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ในห้องเพียงคนเดียว เธอขบกรามแน่น..ดูเหมือนเจ้าตุ๊กแกนั่นจะอยากมีปัญหากับเธอเหลือเกินนะ!

     

    ทางฝั่งของลูฟี่ที่ถูกลักพาตัวมายังห้องรับรองของตุ๊กแก(?)ซึ่งอยู่คนละอาคารกับแฮนค็อกก็ถูกโยนทิ้งลงบนโซฟา แน่นอนว่าไม่มีความทะนุถนอมใดๆทั้งสิ้น รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกระสอบทรายยังไงชอบกล..

     

    “ทำไมฉันโดนลักพาตัวบ่อยนักนะ” เด็กหนุ่มบ่นอุบอิบพลางทำหน้ามุ่ยนั่งกอดเข่าเหมือนเด็กตัวเล็กๆ

     

    โมเรียเลิกคิ้ว “แกนี่..ตัวจริงธรรมดากว่าที่คิดนะ”

     

    “ฉันคิดไปเองรึเปล่า แต่รู้สึกเหมือนแกกำลังด่าฉันเลยนะ”

     

    คนอายุมากกว่ามองเด็กตรงหน้าด้วยสายตาอ่านยาก

     

    “ดูเหมือนแกจะโง่กว่าที่คิดด้วย”

     

    “โอเค ฉันไม่ได้คิดไปเอง แกด่าฉันจริงๆ”

     

    ลูฟี่ไม่มั่นใจว่าเจ้านี่มันลักพาตัว(?)เข้ามาทำไม ไม่รู้ว่าไอพวกเจ็ดเทพโจรสลัดพวกนั้นมันจะมีปัญหาอะไรกับเขานักหนา ตอนไอนกสีชมพูประหลาดๆนั่นก็เหมือนกัน แฮนค็อกก็ด้วย (และแม้จะไม่เคยเล่า..แต่ระหว่างที่พวกโซโลยังอยู่ในโรงเรียนเตรียมทหาร เขาถูกมิฮอว์คลักพาตัวไปยังเกาะของเจ้าตัว)

     

    เขาไปทำอะไรให้พวกนั้นหว่า?

     

    “ที่พาตัวแกมาก็ไม่ใช่ว่ามีปัญหาหรือเกลียดอะไรหรอกนะ ก็แค่อยากเห็นหน้าชัดๆว่าไอหลานของตาแก่ตัวแสบนั่นเป็นคนยังไง”

     

    “...”

     

    “แต่..ก็นั่นล่ะ ก็แค่เด็กซื่อบื้อ เคี๊ยกๆๆ”

     

    ลูฟี่คิ้วกระตุก “แกไม่อยากตายดีสินะไอตุ๊กแก”

     

    พวกเขาจ้องตากันอยู่แบบนั้นนานนับ 10 นาที พวกทหารที่นำอาหารมาให้ผู้เป็นเจ็ดเทพโจรสลัดก็ไม่กล้าที่จะเข้ามาในห้องเพราะคิดว่าอีกไม่นานคงได้เกิดการต่อสู้กันแน่ๆ จึงพาขาสั้นๆของตัวเองวิ่งไปฟ้องจอมพลผู้ยิ่งใหญ่

     

    ห้องนี้คงจะกลายเป็นที่ตะลุมบอนของคนต่างวัยทั้งสองไปแล้ว แต่โชคดีที่คุมะบังเอิญ(?)เดินผ่านแล้วจับแยกทั้งคู่ด้วยการโยนลงไปนอกหน้าต่างได้ทันท่วงที

     

    อืม ก็นะ..ไม่รู้ว่าเจตนาช่วยหรือเจตนาฆ่ากันแน่

     

    แต่ก็เอาเถอะ

     

    “คุมะ ดูเหมือนแกจะเกลียดฉันนะ” โมเรียยิ้มหน้าเหี้ยมพลางแผ่รังสีอันตรายออกมาจนพวกทหารที่มามุงดูเพราะเสียงโครมครามต่างพากันขนลุกขนพอง คุมะยังคงมีสีหน้าที่นิ่งราวกับรูปปั้น ในอุ้งมือที่คล้ายหมีนั้นยังคงถือคัมภีร์ไบเบิลเอาไว้แนบอก

     

    จำได้ลางๆว่าหลังจากนั้นโมเรียก็ถูกคุมะเอาสันคัมภีร์ไบเบิลฟาดหัวแล้วจากไป ส่วนเขาก็ถูกชายตัวใหญ่เหมือนหมีอุ้มไปคืนเอสกับซาโบ

     

     

     

    ลูฟี่เดินหาวกลับไปยังห้องพักของตัวเอง พรุ่งนี้เขาต้องเตรียมตัวออกเดินทางเข้าสู่แกรนด์ไลน์เพราะต้องไปประจำที่นั่น และเพราะเหตุนั้นเขาจึงเลือกที่จะนอนให้เยอะๆ

     

    แต่ดูเหมือนว่าเขาจะทำแบบนั้นไม่ได้โดยง่าย

     

    “สวัสดีตอนค่ำ เจ้าหนู” โดฟลามิงโก้โผล่มาจากภายในห้องนอนพร้อมรอยยิ้มน่าขนลุก เจ้านี่เป็นโรคจิตเรอะ? ทำไมถึงกล้าเข้าห้องคนอื่นโดยไม่ขออนุญาตฟะ!?

     

    “ไง เจ้านก”

     

    “เรียกแบบนี้ใจร้ายจังนะ ฟุฟุฟุ”

     

    ประโยคเหมือนกำลังตัดพ้อ แต่สีหน้าเหมือนกำลังวางแผนพาไปฆ่าหมกป่า

     

    ลูฟี่ปิดประตูอย่างเงียบงันพลางทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ส่วนเจ้านกโรคจิตก็เดินอ้อมมาด้านหลังโซฟาพร้อมกับคล้องคอเขาจากด้านหลังเอาไว้หลวมๆ เด็กหนุ่มผู้ยังไม่ประสาขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนลวนลามยังไงก็ไม่รู้แฮะ

     

    “แกคุยท่าอื่นไม่ได้รึไง” เงยหน้าขึ้นมองนกหัวทองพลางเลิกคิ้วแบบงงๆ โดยไม่ทันคาดคิดว่านั่นจะเป็นการเปิดโอกาสให้คนตัวสูงกว่าโน้มตัวลงมาจนจมูกแทบชนกัน รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายผู้มีอายุใกล้ขึ้นเลขสี่ และมันทำให้ลูฟี่ชะงัก..

     

    “รู้มั้ยเจ้าหมวกฟาง ตอนนี้แกกำลังเชิญชวนฉันนะ”

     

    “ช เชิญชวนไรของแก”

     

    ใบหน้าคมขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ เด็กหนุ่มใต้อาณัติย่นคอลง รู้สึกเหมือนสมองอื้อตันและขาวโพลนอย่างบอกไม่ถูก และในวินาทีนั้นเองที่ริมฝีปากหยักกำลังจะทาบลงมา..

     

    โป้ก!!

     

    สันหนังสือเล่มหนาก็ถูกฟาดลงบนกบาลทองๆของนกหื่นแทบจะในทันที

     

    “แกอยากหุงข้าวแดงกินนักใช่มั้ย โดฟลามิงโก้”

     

    “คุมะ!?

     

     

     

     

     

     

     

     

    ----|----|----|----|----

     

    ดูเหมือนว่าชื่อตอนจะไม่เกี่ยวกับเนื้อหาเลย..

    ความสัมพันธ์ของโมเรียกับลูฟี่ไม่ใช่เชิงชู้สาวนะคะ (ฮา)

    ในสายตาโมเรียลูฟี่คือ ของแปลก ส่วนในสายตาลูฟี่โมเรียคือ พวกประหลาด ค่ะ

     

    เสี่ยนกผู้เกือบจะได้แอ้มเขาอยู่หลายรอบแล้วก็โดนขัดขวางทุกรอบ.. (ฮา)

    รักเสี่ยนกนะคะ รักเสี่ยนกจริงๆ ไม่ได้อยากทำร้ายเสี่ยเลย /ไขว้นิ้ว

     

    เหมือนจะเป็นตอนของป๋าเข้ใช่มั้ยคะ? แต่ไม่ใช่ค่ะ..นี่ไม่ใช่ตอนของใครเลย 555555 แค่เล่าพื้นหลังความเป็นมาตอนที่ลูฟี่เจอโมเรียเฉยๆ แล้วก็แทรกเสี่ยนกไปนิดนึง

    ส่วนคุมะนี่เหมือนจะมาทำหน้าที่พ่อหวงลูกชายแทนดราก้อนนะคะเนี่ย .__.

    ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ!

     

     

     

     

     

     

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×