ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (one piece) straw hat mariner | ทหารเรือเดอะซีรีย์ (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 07 :: คนบ้ามักชอบส่งโครงกระดูกเป็นของขวัญ

    • อัปเดตล่าสุด 8 ธ.ค. 61



     


     

     

     

             “แล้วนั่นมันอะไรกันน่ะ”

     

              คำถามของเซ็นโงคุทำให้สามพลเรือเอกแห่งกองทัพเรือจำต้องหันไปมองยังต้นเหตุของคำถามนั้นอย่างช่วยไม่ได้ ภาพของนกชมพูที่นั่งคุกเข่ายกแขนสองข้างขึ้นเหนือหัวนั้นช่างน่าเวทนานัก ดูราวกับเป็นคนละคนกับเจ้าผู้ชายแต่งตัวประหลาดที่ชอบหัวเราะเสียงน่าขนลุกคนนั้นจนน่าประหลาดใจ

     

              ภาพของโดฟลามิงโก้ตอนนี้เหมือนเด็ก 7 ขวบที่ถูกทำโทษให้ยกแขนขึ้นจนกว่าจะสารภาพบาปไม่มีผิด

     

              โดยข้างกันนั้นคือคุมะที่ข้างหนึ่งหิ้วเด็กหนุ่มสวมหมวกฟางเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ถือคัมภีร์ไบเบิ้ล..นัยน์ตาจับจ้องไปยังร่างของชายที่บังอาจคิดล่วงเกินลูกชายสุดรักสุดหวงของเพื่อนสนิทตน ราวกับกำลังสื่อความนัยว่าหากคิดทำอะไรตุกติกหนังสือเล่มนี้จะลอยไปปักหัวแน่

     

              กลัวจังเลย~

     

              เสี่ยนกผู้ยังไร้ซึ่งความรู้สึกผิดยิ้มกระหยิ่ม หากกระนั้นก็ยังคงนั่งคุกเข่าและไม่เอามือลง..สรุปว่ากลัวหรือไม่กลัวคุมะกันแน่อันนี้แม้แต่เซ็นโงคุเองก็ไม่เข้าใจ

     

              นอกจากสามพลเรือเอก จอมพลเซ็นโงคุ ลูฟี่ที่ถูกคุมะหิ้วอยู่ และโดฟลามิงโก้แล้ว..ภายในห้องรับรองทรงญี่ปุ่นก็ยังมีร่างของเจ็ดเทพโจรสลัดทั้ง 4 คนอยู่ด้วย คนหนึ่งกำลังนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาอย่างเกียจคร้านพลางหัวเราะเคี๊ยกๆๆไม่หยุด คนหนึ่งกำลังมองลูฟี่ด้วยตาที่เป็นรูปหัวใจพร้อมเอาแต่พึมพำว่าน่ารักๆๆ คนหนึ่งเอาแต่ฝึกคาราเต้เงือก  ส่วนคนสุดท้ายก็เอาแต่ใช้ตาที่คมเหมือนเหยี่ยวนั่นจับจ้องไปที่โดฟลามิงโก้

     

              เอ๋..ทำไมมีแค่ 4 คนน่ะเหรอ?

     

              โดฟลามิงโก้ก็นั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้นไง คุมะก็ยืนอยู่ตรงนั้นไง ส่วนครอคโคไดล์..

     

              ครอคโคไดล์..

     

              ครอคโคไดล์คือใครวะ!?

     

              =[]=

     

             อนิจจา..พึ่งเจอกันเมื่อวานแต่เจ้าลูฟี่หมวกฟางช่างความจำสั้นเหลือเกิน

     

              “มีอะไรจะสารภาพมั้ย โดฟลามิงโก้” มิฮอว์คซึ่งนั่งมองเหตุการณ์ด้วยความสงบมานานนับชั่วโมงถามขึ้นพลางจ้องหน้าราชาแห่งเดรสโรซ่าด้วยสายตาอ่านยาก

     

             จริงๆแล้วแกกำลังสะใจใช่มั้ยมิฮอว์ค ฉันรู้นะ อย่ามาเก๊กหน้านิ่งซะให้ยาก คุฟุฟุฟุ

     

              นกตัวหนึ่ง(?)คิดในใจ

     

              สงครามประสาทระหว่างนกต่างสายพันธุ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อต่างฝ่ายต่างจ้องหน้ากันอย่างเอาเป็นเอาตาย ลูฟี่กระพริบตาปริบๆ..เหมือนจะเห็นกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านเปรี๊ยะๆระหว่างสองคนนั้นเสียด้วย เด็กหนุ่มหัวเราะอย่างชอบใจราวกับได้พบเรื่องสนุก

     

              “แล้วนี่เจ้าจระเข้นั่นไปไหนแล้วล่ะ เคี๊ยกๆๆ”

     

              อาโอคิยิตอบเสียงเฉื่อยพลางไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “เห็นว่ามีธุระในแกรนด์ไลน์เลยรีบกลับ”

     

              “หืม..น่าสงสัย แต่ตราบใดที่ไม่ทำอันตรายลูฟี่ของข้า ข้าจะปล่อยเจ้านั่นไปก่อนก็ได้”

     

              “ขอบใจนะแฮนค็อก ชิชิชิ”

     

              ผู้ได้รับขนานนามว่าเป็นจักรพรรดินีแห่งโจรสลัดทำหน้าเคลิ้ม เธอกอดตัวเองด้วยท่าทีเขินอายราวกับกำลังถูกสารภาพรัก

     

              “เธอนี่สมองเพี้ยนรึเปล่าเนี่ย เจ้าหนูนี่แค่ขอบใจเธอ..ไม่ได้บอกรักเธอซักหน่อย คุฟุฟุ”

     

              ก่อนที่เธอจะฝันสลายด้วยฝีมือของไอนกบ้านั่น!

     

              การทะเลาะกันเหมือนเด็กๆของ 2 ใน 7 เทพโจรสลัดสร้างความวุ่นวายให้กองทัพเรือไม่น้อย โดยเฉพาะค่าเสียหายที่เกิดจากการต่อสู้ขนาดย่อมของทั้งคู่โดยมีตัวต้นเหตุยืนมองสถานการณ์พร้อมปรบมือหัวเราะชอบใจอยู่ไม่ไกลกันนัก นายทหารทุกคนมองหน้ากันและถอนหายใจพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

     

              ดูเหมือนชีวิตการเป็นทหารเรือของพวกเขาจะสั้นลงกว่าที่คิด

     

              อาจจะเป็นไมเกรนไม่ก็เส้นเลือดในสมองแตกก่อนแก่ตายแน่ๆ

     

              “งั้นฉันไปก่อนละน๊า” ต้นเหตุของความวุ่นวายโบกมือลากลุ่มคนที่ยังชุลมุนกันอยู่ในห้องรับรองแบบญี่ปุ่น ร่างเล็กยิ้มร่าพร้อมวิ่งไปหาเพื่อนพ้องซึ่งรออยู่ที่ท่าเรือด้วยความลั้ลลาราวกับปลาได้น้ำ สิ่งหนึ่งที่ลูฟี่ชื่นชอบคือการออกผจญภัย เขาหัวเราะกว้างพร้อมกระโดดขึ้นเรือ ไม่ได้สนใจมาดนาวาเอกหรืออะไรทั้งนั้น

     

              ก็แหม..นี่คือลูฟี่นี่

     

             อีกอย่างปู่ก็ไม่เห็นท่าวิ่งเมื่อกี้ด้วย..

     

              “นาวาเอกที่ไหนเขาทำตัวแบบนั้นกันฮะลูฟี่!!?

     

              ใครเอ่ยตายยาก..

     

     

     

    ----|----|----|----|----

     

     

     

              หลังจากโดนสวดไปนานกว่า 1 ชั่วโมง ในที่สุดลูฟี่ก็ได้ออกเรือซักที จริงๆแล้วมันก็ทำให้เขาอดคิดเกี่ยวกับคำถามของปู่ขึ้นมาไม่ได้ ที่ปู่ถามว่านาวาเอกที่ไหนเขาทำตัวแบบนี้..อยากตอบไปเหมือนกัน

     

             ก็ปู่ไง

     

              อย่านึกว่าเขาไม่รู้นะว่าปู่ตอนเป็นนาวาเอกน่ะจัดจ้านในย่านนี้(?)ขนาดไหน เผลอๆหลุดมาดยิ่งกว่าเขาอีกมั้ง! (ขนาดตอนนี้เป็นพลโทแล้วยังไม่ค่อยรักษามาดเลย!)

     

              “ปู่มีหน้ามาว่าฉันได้ยังไง!” บ่นกระปอดกระแปดพร้อมกับหัวที่ปูดโนซึ่งเป็นผลจากพลังของหมัดแห่งรักที่ปู่ได้มอบให้ก่อนออกเรือ ท่ามกลางเสียงหัวเราะก๊ากของพวกโซโลและท่าทางกลั้นขำของพลทหารเรือคนอื่นๆ ลูฟี่นั่งเบะปากอยู่บนกาบเรือทั้งยังเชิดหน้าขึ้น

     

              เรือรบลำใหญ่แล่นออกจากศูนย์บัญชาการใหญ่กองทัพเรืออย่างไม่เร่งรีบ ลูฟี่เหม่อมองท้องฟ้าสีครามที่ประดับด้วยแสงตะวันและเมฆสีขาวราวกับปุยนุ่น ก่อนที่จะหลุดออกจากภวังค์เมื่อพวกโซโลเดินตรงมาที่ๆเขานั่งอยู่

     

              “จะว่าไปแล้วนะลูฟี่— มีกล่องประหลาดๆอยู่ในเรือเราด้วยล่ะ”

     

              เด็กหนุ่มผู้เป็นกัปตันเรือเลิกคิ้วขึ้นก่อนตาลุกวาวด้วยความสนใจ

     

              “เห! ไหนเหรอ!? ไหนๆๆๆ” โซโลกับซันจิแบ่งกันจับแขนคนละข้างของผู้เป็นกัปตันด้วยความสามัคคี(?)พลางลากเจ้าตัวเล็กไปยังเป้าหมายซึ่งอยู่ภายห้องใต้ท้องเรือ

     

              มันคือกล่องไม้ที่มีส่วนสูงชะลูดจนไม่อาจเดาได้ว่าข้างในคืออะไร ทุกคนขมวดคิ้วมุ่น..ไออยากเปิดมันก็อยากเปิด แต่ถ้ามันเป็นกับดักของพวกโจรสลัดจะทำยังไงล่ะ?

     

              “ข้างกล่องมีอะไรติดอยู่ด้วย” ซันจิลูบคางตัวเองเมื่อเหลือบไปเห็นกระดาษสีขาวแปะอยู่ข้างกล่อง ด้วยความอยากรู้นักดาบผมสาหร่ายจึงเป็นคนดึงมันออกมาอ่าน มันเป็นกระดาษสีขาวขนาด A4 ที่ถูกเขียนด้วยลายมือชุ่ยๆอย่างกับไก่เขี่ย ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังแกะลายแทงเข้าไปทุกที

     

              นามิดึงมันออกมาจากมือของโซโลอย่างรวดเร็ว นัยน์ตากลมโตกวาดตามองข้อความที่ถูกเขียนเอาไว้อย่างคร่าวๆ

     

              นี่เป็นของขวัญจากฉัน หวังว่าแกจะชอบนะเจ้าเตี้ยหมวกฟาง เอ่อ..เคี๊ยกๆๆ จาก 7 เทพโจรสลัดโมเรีย” นามิอ่านเสียงดังให้ได้ยินกันถ้วนหน้า เหมือนเจ้าตัวจะแอบอ้ำๆอึ้งๆไปเล็กน้อยเมื่อต้องอ่านเสียงหัวเราะประหลาดนั่น ลูฟี่เบ้หน้าแทบจะในทันที

     

              “ของขวัญจากไอตุ๊กแกนั่น? งั้นอย่าเปิดเหอะ อันตรายๆ”

     

              “หายากนะที่นายพูดว่าอันตรายน่ะ ฮ่าๆๆๆ”

     

              “ไม่ต้องพูดเลยโซโล! ของอะไรที่ได้จากไอตุ๊กแกบ้านั่นฉันก็ไม่สนทั้งนั้นแหละ!

     

              “แล้วจากเจ้านกชมพูล่ะ” ซันจิลองถามหยั่งเชิง

     

              “ไม่สนเหมือนกัน! ทำไม 7 เทพโจรสลัดมีแต่พวกบ้าๆนะ!

     

              ว่าใครเขาอิเหนาเป็นเอง..ไม่ดูตัวเองบ้างล่ะลูฟี่เอ๊ย

     

              “นั่นสิๆ อย่าเปิดเลยนะโซโล ซันจิ” อุซปผู้รู้สึกขลาดกลัวเนื่องจากเคยเจอนิสัยแปลกๆของ 7 เทพโจรสลัดคนนั้นอยู่พอสมควร รีบเกลี้ยกล่อมสองคู่หูที่นอกจากลูฟี่แล้วก็นับเป็น 2 คนที่แกร่งที่สุดในเรือลำนี้ ทั้งคู่ดูเหมือนจะอยากเปิดกล่องอันนั้นเหลือเกิน

     

              สมแล้วที่เข้ากับลูฟี่ได้..

     

              “อย่าเปิดเลยน่าพวกนาย เจ้าตุ๊กแกนั่นจะส่งอะไรมากันเชียว” เจ้าหมวกฟางกลอกตาไปมา แค่คิดถึงหน้าของไอบ้าที่ชอบหัวเราะกวนประสาทนั่นแล้วก็รู้สึกของขึ้น

     

              “แต่มันน่าสนใจไม่ใช่เหรอ”

     

              “จริงด้วย มันอาจเป็นเหล้าชั้นดีก็ได้นา”

     

              “อย่าเปิดเชียวนะเจ้าบ้า!!

     

              ....

     

              ระหว่างที่การโต้เถียงกันเรื่องของกล่องอันนั้น ทั้งสามคนไม่ทันสังเกตเลยว่ากล่องมันสั่นเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน หากแต่นามิและอุซปซึ่งลอบสังเกตกล่องใบนั้นมาโดยตลอดกลับเริ่มจะรู้สึกตัว ทั้งคู่หน้าซีดปากสั่น..

     

              “ฮ..เฮ้ ไม่รู้ฉันคิดไปเองรึเปล่า แต่กล่องนี่มันขยับนะ” สาวผมส้มว่าด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก หากแต่ทั้งสามคนก็ยังไม่คิดจะหันกลับมาสนใจกล่องใบนี้

     

             กึก..กึก

     

              เพื่อนจมูกยาวเบิกตาโตรีบวิ่งออกห่างจากกล่องใบใหญ่ “เฮ้ยๆ พ พวกนาย ช..ช่วยสนใจกล่องนั่นหน่อยได้มั้ย”

     

              “น..นายก็เห็นเหมือน ฉ ฉันใช่มั้ยอุซป”

     

              “อ อืม”

     

              สองคนกอดคอกันด้วยความหวาดกลัว ถ้ามีตัวอะไรซักอย่างโผล่ออกมาจากข้างในนั้นพวกเขาคงได้ช็อคตายก่อนเข้าแกรนด์ไลน์แน่ๆ ถึงอย่างนั้นทั้งสามคนที่โต้เถียงกันอยู่ก็ยังไม่ได้หันมาสนใจเลยแม้แต่น้อย

     

              จนกระทั่ง..

     

              โย่โฮ่โฮ่โฮ่..

     

              เสียงประหลาดดังออกมาจากกล่อง สองหนุ่มสาวที่ผวาสุดขีดกรีดร้องโวยวายรู้สึกเหมือนเห็นวิญญาณออกจากร่าง ส่วนสามหนุ่มที่ได้ยินเช่นกันก็เลิกต่อล้อต่อเถียงแล้วหันมาสนใจกล่องที่มีเสียงออกมา มันเหมือนกับเสียงหัวเราะ..รึเปล่านะ

     

              “น่าสนุกดีนี่!” จากคนที่ไม่อยากจะเปิดกล่องนั้นอย่างลูฟี่กลับเปลี่ยนใจภายในชั่วครู่เดียวที่พบว่ากล่องใบนั้นดูท่าจะพิเศษ

     

              “อาจจะเป็นเหล้าพูดได้..”

     

              “บ้านแกสิไอหัวมอส!

     

              ผู้เป็นกัปตันเดินเข้าไปใกล้กล่องก่อนค่อยๆเปิดมันด้วยความบรรจง อืม..มันก็แค่ช่วงแรกเท่านั้นล่ะ เพราะหลังจากนั้นเจ้าตัวก็กระชากจนฝากล่องหลุดติดมือออกมาด้วย ทุกสายตาจับจ้องไปยังข้างในกล่องปริศนาใบนั้น ฝุ่นที่คละคลุ้งออกมาทำให้พวกเขาต้องปิดตาปิดจมูก

     

              จนกระทั่งเมื่อฝุ่นพวกนั้นเริ่มจางลง..

     

              โครงกระดูกส่วนสูงชะลูดในชุดแบบสุภาพบุรุษเมื่อหลายสิบปีก่อนซึ่งนอนนิ่งอยู่บนฟูกสีขาวเรียกความสนใจจากพวกเขาไปจนหมด ก็แค่โครงกระดูกนี่..พวกเขาคิด

     

              แต่เดี๋ยวก่อนนะ

     

              “น นี่..โครงกระดูกมันจะหัวเราะได้ไงกันล่ะ”

     

              อุซปเริ่มกลับมาเสียงสั่นอีกครั้ง

     

              โครงกระดูกที่ควรจะนอนอยู่บนฟูกหยัดตัวลุกขึ้น ส่วนที่เป็นฟันเริ่มขยับ นัยน์ตาของทุกคนเบิกกว้างมองร่างที่ยืนเหมือนกับมีชีวิตไม่วางตา

     

              “โย่โฮ่โฮ่โฮ่ หัวเราะได้สิครับ”

     

              ...

     

              “ว๊ากกกกกกกกกกกกกกก”

     

     

     

     

     

              “งั้นนายก็คือผู้มีพลังของผลปีศาจ?

     

              นามิเลิกคิ้วพลางชี้ไปที่ลูฟี่ซึ่งกำลังยัดเนื้อเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย “ผู้มีพลังของผลปีศาจ..เหมือนหมอนี่น่ะเหรอ?

     

              “ใช่แล้วครับ โชคร้ายที่ผมกลับเข้าร่างช้าไปหน่อย..ตอนนี้เลยกลายเป็นโครงกระดูก”

     

              “เห..นับเป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกได้มั้ยเนี่ย”

     

              “จะว่าไปแล้วคุณนามิ..”

     

              “หืม?

     

              “ขอผมดูกางเกงในของคุณหน่อยจะได้มั้ยครับ”

     

             โครม!!

     

              ร่างของโครงกระดูกสุดหื่นถูกเตะเต็มแรงไปชนกับกาบเรือจนเกิดรอยร้าว หญิงสาวผู้เป็นคนทำร้ายทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “ฉันไม่ผิดนะที่เตะหมอนี่ ก็ใครใช้ให้มาขอดูกางเกงในคนอื่นกันล่ะ”

     

             แต่เธอก็โต้ตอบหมอนี่แรงไปหน่อยนะ

     

              พวกลูฟี่เหงื่อตก

     

              “สรุปก็คือนายถูกโมเรียชิงเงาไป แต่เมื่อ 2 ปีก่อนก็ถูกคืนเงาให้แถมยังถูกพาตัวไปเรียนโรงเรียนเตรียมทหารเรือ? แล้วตอนนี้ก็เป็นทหารเรือแล้วสิ?” โซโลสรุปเรื่องราวคร่าวๆก่อนถามในสิ่งที่ตนสงสัย

     

              “ใช่ครับ ตอนนี้ผมคือเรือตรีบรู๊คแห่งกองทัพเรือ และจะมาเป็นลูกเรือของหน่วยหมวกฟางตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ โย่โฮ่โฮ่โฮ่”

     

              “ฮะ!?

     

              วันดีคืนดีก็มีโครงกระดูกปริศนามาขอเป็นลูกเรือ!?

     

              ไม่คิดว่าตอนนี้หน่วยหมวกฟางจะมีพวกประหลาดเยอะเกินไปบ้างเหรอ!?

     

     

     

     

    ----|----|----|----|----

     

    ตอนนี้เหมือนจะไม่มีอะไรเลย แค่แนะนำว่าเจอบรู๊คแล้วเฉยๆ (ฮา)

    ตอนหน้าอาจได้เจอกับครอคโคไดล์ค่ะ!

     

     

     

     

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×