คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 06 :: ของแปลกกับพวกประหลาด
Chapter
06 :: ของแปลกกับพวกประหลาด
ร่างเล็กซึ่งนั่งอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่เอนหลังพิงลำต้นพลางเหลือบมองไปยังทางเข้าศูนย์บัญชาการใหญ่กองทัพเรือซึ่งบัดนี้กำลังวุ่นวายเพราะต้องเตรียมตัวต้อนรับ
7 เทพโจรสลัด เนื่องจากวันนี้เป็นวันประชุมใหญ่ของกองทัพเรือที่จะจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี
มันจึงเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเจ็ดเทพโจรสลัดจะต้องเดินทางมาที่นี่อย่างพร้อมเพรียงโดยไม่มีข้อแม้
มองจากที่ไกลๆก็เหมือนจะเห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตา
โอ้—
นั่นเจ้านกโรคจิตนี่
“พึ่งจะเคยเห็นเจ็ดเทพโจรสลัดตัวเป็นๆก็ครั้งแรก”
โซโลที่ยืนพิงต้นไม้ต้นเดียวกันพูดขึ้นโดยที่สายตายังไม่ละไปจากพวกเจ็ดเทพโจรสลัดที่เริ่มทยอยกันเดินเข้าไปในฐานทัพเรืออย่างไม่เร่งรีบ
และไม่ห่างจากต้นไม้ที่เขาพักพิงอยู่นัก..ก็มีซันจิ
นามิ และอุซปยืนอยู่ตรงนั้นด้วย
“ฉันเคยเห็นโดฟลามิงโก้
พูดตรงๆนะ มันก็แค่ไอนกแก่ตัณหากลับ”
“พูดได้ดีมากเลยซันจิคุง
ตอนฉันเห็นเจ้านั่นฉันก็คิดเหมือนนายเปรี๊ยบเลย”
นามิเสริมพลางหัวเราะคิกคักเมื่อย้อนนึกไปถึงตอนที่เจ้าโดฟลามิงโก้พาลูฟี่ไปที่ภัตตาคารลอยทะเล
และนั่นคือครั้งแรกที่เธอได้พบกับลูฟี่และเจ้านกนั่น
“จะว่าไปนะโซโล
นายเคยพูดว่าจะเป็นนักดาบอันดับ 1 ของโลกนี่ ก่อนอื่นก็ต้องเอาชนะเจ้ามิฮอว์คนั่นก่อนละนะ”
อุซปชี้ไปทางชายร่างสูงไว้หนวดเคราผู้ซึ่งแบกดาบขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายไม้กางเขนไว้บนแผ่นหลัง
โซโลกระตุกยิ้มมุมปากและแค่นหัวเราะ เขารู้หรอกน่า..
“ไว้รอให้ฉันฝึกฝนให้เก่งกว่านี้ก่อนเถอะ
ฉันจะไปท้าสู้กับหมอนั่น!”
“ใจกล้าดีนี่นา
ชิชิชิ”
“ว่าแต่..ลูฟี่
นายไม่ต้องไปต้อนรับพวกนั้นเหรอ? เป็นนาวาเอกไม่ใช่รึไง?” ลูฟี่ส่ายหน้าพรืดแทบจะในทันทีกับคำถามของเพื่อนชายคิ้วม้วน พลางทำสีหน้าเหยเกเหมือนเด็กที่โดนบังคับให้กินยารสขม
อุซปหัวเราะก๊ากก่อนอธิบายด้วยน้ำเสียงสั่นๆเพราะกำลังพยายามกลั้นขำสุดชีวิต
“ฮ่าๆๆๆ
ข ขอโทษนะลูฟี่ แต่มัน..ฮ่าๆๆ คืองี้ ลูฟี่น่ะไม่ถูกพวก 1 ในพวกนั้นน่ะสิ”
พวกโซโลทำหน้าเหวอโดยพร้อมเพรียง
ลูฟี่ชักสีหน้า
“โมเรีย
ฉันไม่ชอบเจ้านั่น อืม..ฉันหมายถึง— เจ้านั่นมันน่ารำคาญ เจอกันทีโคตรปวดประสาท” ลูฟี่อธิบายพลางพยายามทำไม้ทำมือเพื่อสื่อว่าเจ้าคนในบทสนทนานั้นน่ารำคาญมากขนาดไหน
ยิ่งอธิบายไปสีหน้าเจ้าตัวก็ยิ่งหงิกขึ้นเรื่อยๆ
หายากนะที่คนนิสัยแบบเจ้านี่จะไม่ชอบใครซักคนเนี่ย
นามิคิด
“หมอนั่นชอบหัวเราะเสียงแบบ..หัวเราะให้ดูยังไงดีอ่ะ? เคี๊ยกๆๆ ประมาณนี้อ่ะ เหมือนลิงเลยเนอะ แถมยังหนวกหูมากๆ”
พูดไปก็ส่ายหัวไปก่อนทอดสายตามองไปยังเรือนร่างสะโอดสะองของหญิงสาวแห่งเผ่าคุจาซึ่งเป็น
7 เทพโจรสลัดคนสุดท้ายที่เดินลงมาจากเรือ
“ว้าว~ นั่นก็เป็นเจ็ดเทพโจรสลัดเหรอลูฟี่ สวยชะมัดเลย~
คุณผู้หญิงคร้าบบ”
ร่างที่กำลังจะพุ่งไปทางที่สาวสวยอยู่ถูกหยุดไว้ด้วยการรั้งคอเสื้อ
ซึ่งเป็นฝีมือของนามิและอุซปที่พยายามเค้นแรงกายอันน้อยนิดมาลากเพื่อนผมทองไม่ให้เข้าไปทำให้เรื่องมันวุ่นวาย
นั่นน่ะ
โบอา แฮนค็อก เชียวนะ กิตติศัพท์ของเธอมันไม่ใช่เล่นๆเลย
“ถ้านายพุ่งเข้าไปหาเธอแบบนั้นเดี๋ยวได้ถูกสาปเป็นหินหรอก!”
“พูดอะไรน่ะอุซป
ผู้ชาย..ถ้าจะต้องกลายเป็นหินด้วยฝีมือของคนสวยแบบนั้นก็ต้องเป็นด้วยความเต็มใจซี่”
ตาเป็นรูปหัวใจ
ซ้ำร้ายหน้าตาของเพื่อนคิ้วม้วนในตอนนี้กลับดู..หื่นแบบสุดๆ
“ฉันคนนึงล่ะที่จะไม่ยอม ชิชิชิ”
อย่างซันจินี่มีน่าไปว่าเจ้านกชมพูนั่นว่าตัณหากลับด้วยอย่างนั้นหรือ?
ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย.. อุซปหัวเราะร่า “เสียใจด้วยนะซันจิ
แต่ผู้หญิงน่ากลัวคนนั้นเค้าชอบลูฟี่น่ะ ฮ่าๆๆๆ”
“ฮะ!?” ไม่ใช่แค่ซันจิ นามิ แม้แต่โซโลก็ถึงกับทำหน้าเหวอเหมือนไม่อยากจะเชื่อ สองหนุ่มที่มักกัดกันประจำทำหน้าหงิกก่อนจะปีนขึ้นไปบนต้นไม้ที่ลูฟี่นอนอยู่
เคาะหัวเจ้าซื่อบื้อที่ทำหน้าเหรอหราไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยความหมั่นไส้
“เจ้านี่อ่ะนะ!?”
ผู้หญิงคนนั้นช่างมีรสนิยมที่..ประหลาดเป็นบ้า
“ใช่แล้ว! ถึงขั้นเคยลักพาตัวลูฟี่ไปเกาะอเมซอนลิลลี่ตั้งเดือนนึงเชียวนะ”
เพื่อนผมเขียวกับผมเหลืองทำสีหน้าเหมือนรับไม่ได้
แต่ในใจของทั้งคู่กลับมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน..คือความรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆที่ไม่ทราบที่มา
ลักพาตัวไปเกาะ? อยู่ด้วยกันสองต่อสอง? แล้วก็ต้องทำแบบนั้น แบบนี้
แบบนู้น..
“รับไม่ได้เฟ้ยยยยย!”
“ชิชิชิ”
เจ้าตัวต้นเรื่องหัวเราะอย่างไม่รู้สึกรู้สาก่อนกระโดดลงจากต้นไม้อย่างชำนาญ
ไม่รู้ว่ามันเป็นคนหรือเป็นลิงที่ปลอมตัวเป็นคนกันแน่
แต่ทั้งพวกโซโลก็ยอมรับว่าถึงจะน่าปวดหัวไปบ้าง
แต่ลูฟี่ที่ซุกซนและร่าเริงแบบนี้ก็ดีสำหรับพวกเขาที่สุด
เสียงฝีเท้าหนักๆของใครบางคนวิ่งมาทางนี้พร้อมกับเสียงโหวกเหวกโวยวายที่ชวนให้พวกเขาต้องปิดหู
หัวขาวๆของตาแก่ผู้มีศักดิ์เป็นปู่ของลูฟี่วิ่งมาแต่ไกลทั้งยังส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้านชาวช่องเขาไม่หยุด
ลูฟี่ปิดปากหาว..มองปู่วิ่งมาหาเขาด้วยสายตามึนงง
“ทำไมแกมาอยู่ที่นี่ลูฟี่!! แกต้องเข้าประชุมด้วยรู้มั้ย!!!??”
“หา!? ปู่ก็รู้นี่ว่าฉันไม่อยากเจอเจ้าบ้าโมเรียนั่น!
ปู่ยังจะให้ฉันไปอีกเรอะ! แถมยังไอนกบ้านั่นอีก”
“คิดว่าฉันอยากส่งแกไปเป็นอาหารนกเรอะ!? แต่ยัยราชินีเผ่าคุจานั่นน่ะอยากเจอแกจนถึงขั้นยื่นคำขาดว่าถ้าแกไม่เข้าประชุมด้วยเธอก็จะไม่เข้า”
“...”
“เพราะงั้นลูฟี่..แกต้องเข้าประชุม!”
----|----|----|----|----
ในห้องประชุมขนาดใหญ่สไตล์ญี่ปุ่นโบราณ..มีร่างของเหล่าทหารเรือยศนาวาเอกขึ้นไปและเจ็ดเทพโจรสลัดนั่งหันหน้าเข้าหากันโดยเว้นตรงกลางเอาไว้ราวกับเป็นเส้นคู่ขนาน
ผู้ที่นั่งอยู่ตรงกลางริมสุดเพียงคนเดียวก็คือจอมพลแห่งกองทัพเรือ..เซ็นโงคุ
ลูฟี่ปิดเปลือกตาลง..พยายามอดกลั้นที่จะไม่เผลอกลอกตามองบนด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย
เขานั่งตรงข้ามกับชายตาเหยี่ยวที่มักพกดาบที่มีลักษณะคล้ายไม้กางเขนเดินทางไปไหนมาไหนเสมอ
ส่วนข้างชายคนนั้นก็มีคู่อริทั้งสองของเขานั่งขนาบ
คนหนึ่งคือโมเรีย..เจ้าบ้าตัวโตรูปร่างคล้ายตุ๊กแกที่เอาแต่มองเขาแล้วหัวเราะเคี๊ยกๆอย่างกับคนบ้า
ส่วนคนที่สองก็คือเจ้านกชมพูนั่น..นัยน์ตาคมที่อยู่เบื้องหลังแว่นกันแดดรูปทรงประหลาดเอาแต่จ้องเขาด้วยความเงียบงันมาตั้งแต่เมื่อครู่
นี่มันได้ฟังที่เขาประชุมกันบ้างมั้ยฟะ?
“เคี๊ยกๆๆๆ”
แต่ที่แน่ๆ..ไอตุ๊กแกนี่ไม่ได้ฟัง
“นั่นคือครอคโคไดล์..ดูเหมือนเขาจะได้รับการนับถือมากที่อลาบาสต้า”
สาวสวยผมชมพูยศเดียวกับเขากระซิบบอกที่ข้างหู คงเข้าใจว่าเขามองผู้ชายวัย 40 ตอนต้นที่เอาแต่สูบซีการ์เก๊กท่าทำตัวเป็นเจ้าพ่อคนนั้น
ทั้งรอยแผลบากบนใบหน้า..ลูฟี่คิดว่าผู้ชายท่าทางน่ากลัวแบบนี้ไม่น่าจะเป็นที่นับน่าถือตาได้เลย
โอ๊ะ—
แต่ปู่เขาก็หน้าตาน่ากลัวนี่นะ
“แกกำลังนินทาฉันอยู่ในใจใช่มั้ยลูฟี่”
ตาแก่ที่นั่งอยู่ไม่ไกลนักพูดลอดไรฟัน ลูฟี่ส่ายหน้าพรืดแทบจะในทันที
รู้ได้ไงวะ
มีพลังจิตเรอะ
“นายกับปู่ดูรักกันดีนะ
สโมกเกอร์ชอบพูดเรื่องนายให้ฮินะฟังบ่อยๆ” สาวร่างโปร่งที่ชอบพูดแทนตัวเองด้วยชื่อกระซิบเสียงเบา
หารู้ไม่ว่าเด็กหนุ่มตัวเล็กข้างๆรู้สึกสยดสยองแค่ไหนกับประโยคที่ว่าเขากับปู่ดูรักกันดี
รักกันปานจะฆ่าให้ตายน่ะสิไม่ว่า
“งั้นเจ้าควันคงไม่ได้พูดสินะว่าตั้งแต่เกิดมาปู่ทำฉันเกือบตายไปล้านรอบได้”
“แต่ก็ยังไม่ตายนี่
ฮินะรู้นะว่าจริงๆแล้วเธอกับปู่ของเธอรักกันจะตาย”
ขออ้วกได้มั้ย..
“ตรงนั่นคุยอะไรกันน่ะ”
เสียงของเซ็นโงคุทำให้การสนทนาที่ไร้แก่นสารของทั้งคู่ต้องจบลงเพียงเท่านั้น
การประชุมดำเนินต่อไปโดยที่ไม่มีใครคิดจะพูดแทรกอะไรขึ้นมาอีก จริงๆแล้วดูเหมือนว่าผู้ที่จะเข้าร่วมประชุมนั้นมีมากกว่านี้..แต่เพราะบางคนติดภารกิจยุ่งยากทำให้ไม่สามารถเดินทางมาได้
หนึ่งในนั้นคือสโมกเกอร์ เอส ซาโบ และ..
“แล้วเจ้าหนูนั่นล่ะ
ชื่ออะไรนะ? อ้อ--ลอว์ยังไม่มาเหรอ”
อาโอคิยิถามเสียงยานคางพลางเท้าคางมองสถานการณ์ตรงหน้าอย่างเบื่อหน่าย
แอบไม่สบอารมณ์เล็กน้อยเมื่อเห็นว่าพวกตาแก่ในกลุ่ม 7 เทพโจรสลัดมองลูฟี่อย่างกับจะจับกินทั้งตัว
ทำตัวเป็นตาเฒ่าหัวงูไปได้
แหม..ตัวเองแก่กว่าพวกนั้นอีก
ยังมีหน้ามาพูด..
“ติดภารกิจที่ชาบอนดี้
คงมาไม่ได้หรอก” ชายผู้มีฉายาว่าไก่ฟ้าพยักหน้าหงึกหงักรับรู้กับคำบอกเล่าของสาวแก่ยศพลโทซึ่งอาวุโสกว่าหลายปี
“เอาเป็นว่าช่วงนี้ก็จับตาดูผมแดงกับไคโดเอาไว้
ดูเหมือนพวกนั้นจะมีเรื่องไม่ลงรอยกันมาซักพักแล้ว”
จอมพลแห่งกองทัพเรือพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด บรรยากาศในห้องประชุมนั้นช่างน่าอึดอัดซะจนลูฟี่รู้สึกอยากจะเผ่นออกไปจากที่นี่ให้รู้แล้วรู้รอด
เขาไม่ชอบงานน่าเบื่อแบบนี้เลย..และยิ่งไม่ชอบเมื่อพวกนี้กำลังพูดถึงแชงคูส
“ที่ผ่านมาผมแดงก็ไม่เคยสร้างปัญหาให้เรา
ที่ต้องระวังน่าจะเป็นฝั่งไคโด” การ์ปกล่าวด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อน
“ปัญหาเดียวที่เจ้านั่นสร้างคือตอนที่หลอกล่อลูฟี่ให้เป็นโจรสลัด”
ทุกคนดูฮือฮาเมื่อตาแก่วีรบุรุษแห่งกองทัพเรือพูดประโยคนั้นออกมา พวกเขารู้ดีว่าลูฟี่คือหลานรักปานจะฆ่ากันให้ตายของตาแก่การ์ปผู้โด่งดังคนนี้
แต่ไม่ยักจะเคยได้ยินว่าครั้งนึงเจ้าเด็กตัวแสบเคยเป็นที่ถูกใจของ 4 จักรพรรดิจนถึงขั้นถูกชักชวน(หรือหลอกล่อ?)ให้เป็นโจรสลัด
“ก็ว่าทำไมหมวกนั่นถึงดูคุ้นตานัก”
มิฮอว์คซึ่งปกติจะเงียบขรึมกล่าวขึ้นมาท่ามกลางเสียงกระซิบกระซาบของคนอื่นๆ
พลางชี้ไปที่หมวกฟางซึ่งห้อยอยู่ด้านหลังของลูฟี่ด้วยใบหน้านิ่งสนิท
“หมอนั่นเคยดวลดาบกับผมแดงมาแล้ว”
ฮินะกระซิบข้างหูลูฟี่
“แล้วผลเป็นไง?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ
เขาไม่เคยบอก..แต่ฮินะรู้มาว่าเขาเป็นเพื่อนกับผมแดง มันคือข่าวลือ
แต่ก็อาจจะจริงไม่ใช่เหรอ?
ถ้ามีการดวลกันจริงป่านนี้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคงตายไปแล้ว ไม่รอดมาจนถึงทุกวันนี้หรอก”
“ก็จริง ชิชิชิ”
การประชุมจบลงพร้อมกับลูฟี่ที่แทบจะเดินตัวปลิวออกจากตรงนั้น
หากแต่ทว่ากลับถูกจักรพรรดินีสาวแห่งเผ่าคุจาลากไปนั่งเล่นด้วยกันที่ห้องรับรองเสียก่อน
อาหารมากมายถูกยกมาตั้งเอาไว้พร้อมกับอ้อมกอดอ้อมใจที่ทำเอาลูฟี่รู้สึกอึดอัดแปลกๆ
แน่นอนว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันทำให้ลูฟี่หวนนึกถึงตอนที่เจอกับโมเรียครั้งแรก
ไอตุ๊กแกน่ารำคาญนั่น
………………….
…………
……..
…
“เธอกอดฉันแน่นไปแล้วนะ”
เจ้าเด็กหนุ่มตัวเล็กทำสีหน้ายุ่งเหมือนไม่พอใจ
หญิงสาวเจ้าของใบหน้างดงามราวกับเทพธิดาน้ำตาคลอ
“เจ้าไม่ชอบให้เรากอดเหรอลูฟี่”
“ก็มันอึดอัดนี่
ฉันกินไม่ถนัด”
“งั้นเราไม่กอดก็ได้
แต่เจ้าต้องกินให้อร่อยนะ
เรามีความสุขเวลาที่เห็นเจ้ากินอาหารที่เรานำมาให้อย่างเอร็ดอร่อย”
“อาหารของเผ่าคุจานี่อร่อยเสมอแหละ
ชิชิชิ”
หญิงสาวผู้หลงใหลเด็กหนุ่มหน้าแดงแปร๊ด
ทึกทักเอาเองว่าประโยคนั้นต้องเป็นประโยคบอกรักเธอไม่ผิดแน่ แฮนค็อกบิดตัวไปมาด้วยท่าทีเขินอายราวกับสาวน้อยวัยแรกแย้ม
(ทั้งที่อายุจริงๆก็เกือบจะขึ้นเลข 3 แล้วแท้ๆ)
ปัง!!
เสียงประตูที่ถูกเปิดเข้ามาอย่างแรงทำให้ร่างเล็กของเด็กหนุ่มสะดุ้งจนตัวโยน
มองไปยังทิศทางที่เกิดเสียงก็พบกับชายตัวสูงร่างกายเหมือนตุ๊กแก จำได้ลางๆว่าหมอนี่ชื่อโมเรีย
และเป็นคนที่หัวเราะได้แปลกที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอ
แต่ถึงจะเป็นตุ๊กแก..ก็ไม่น่าไร้มารยาทเปิดประตูเข้ามาในห้องคนอื่นโดยไม่ขออนุญาตสิ
แฮนค็อกกัดฟันกรอด
“เจ้าบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวของเรา
รู้บ้างมั้ยโมเรีย?”
เธอเท้าสะเอวมองหน้าชายตัวสูงอย่างเอาเรื่อง โมเรียไหวไหล่
“อะไรกันๆ
ก็แค่เข้ามาเอาของที่สนใจแค่นั้นเอง เคี๊ยกๆๆ”
หญิงสาวชักสีหน้า
เริ่มรู้สึกตะหงิดๆ “ในห้องของเราจะมีสิ่งที่เจ้าสนใจได้ยังไง? สิ่งที่เจ้าทำมันไร้มารยาทสิ้นดี”
“โอ้—
มีสิ” หมับ!
ร่างของลูฟี่ถูกยกขึ้นจนตัวลอยก่อนถูกวางพาดไว้บนบ่าของคนตัวใหญ่ราวกับกระสอบทราย
แม้เด็กหนุ่มจะดิ้นขลุกขลัก..แต่ด้วยความต่างของแรงและพลังทำให้เขาไม่อาจดิ้นหลุดออกจากพันธนาการของตุ๊กแกอ้วนกลมได้
โมเรียแย้มยิ้มร้ายกาจ
“เจ้าเด็กนี่ไง เคี๊ยกๆๆ”
“ไอ้—!” ไม่ทันที่แฮนค็อกจะไหวตัวทัน ร่างของชายผู้เป็นหนึ่งใน
7 เทพโจรสลัดก็กระโดดออกไปนอกหน้าต่าง ทิ้งให้หญิงสาวที่ไม่อาจกระโดดลงไปได้ต้องหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ในห้องเพียงคนเดียว
เธอขบกรามแน่น..ดูเหมือนเจ้าตุ๊กแกนั่นจะอยากมีปัญหากับเธอเหลือเกินนะ!
ทางฝั่งของลูฟี่ที่ถูกลักพาตัวมายังห้องรับรองของตุ๊กแก(?)ซึ่งอยู่คนละอาคารกับแฮนค็อกก็ถูกโยนทิ้งลงบนโซฟา แน่นอนว่าไม่มีความทะนุถนอมใดๆทั้งสิ้น
รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกระสอบทรายยังไงชอบกล..
“ทำไมฉันโดนลักพาตัวบ่อยนักนะ”
เด็กหนุ่มบ่นอุบอิบพลางทำหน้ามุ่ยนั่งกอดเข่าเหมือนเด็กตัวเล็กๆ
โมเรียเลิกคิ้ว “แกนี่..ตัวจริงธรรมดากว่าที่คิดนะ”
“ฉันคิดไปเองรึเปล่า
แต่รู้สึกเหมือนแกกำลังด่าฉันเลยนะ”
คนอายุมากกว่ามองเด็กตรงหน้าด้วยสายตาอ่านยาก
“ดูเหมือนแกจะโง่กว่าที่คิดด้วย”
“โอเค
ฉันไม่ได้คิดไปเอง แกด่าฉันจริงๆ”
ลูฟี่ไม่มั่นใจว่าเจ้านี่มันลักพาตัว(?)เข้ามาทำไม ไม่รู้ว่าไอพวกเจ็ดเทพโจรสลัดพวกนั้นมันจะมีปัญหาอะไรกับเขานักหนา
ตอนไอนกสีชมพูประหลาดๆนั่นก็เหมือนกัน แฮนค็อกก็ด้วย (และแม้จะไม่เคยเล่า..แต่ระหว่างที่พวกโซโลยังอยู่ในโรงเรียนเตรียมทหาร
เขาถูกมิฮอว์คลักพาตัวไปยังเกาะของเจ้าตัว)
เขาไปทำอะไรให้พวกนั้นหว่า?
“ที่พาตัวแกมาก็ไม่ใช่ว่ามีปัญหาหรือเกลียดอะไรหรอกนะ
ก็แค่อยากเห็นหน้าชัดๆว่าไอหลานของตาแก่ตัวแสบนั่นเป็นคนยังไง”
“...”
“แต่..ก็นั่นล่ะ
ก็แค่เด็กซื่อบื้อ เคี๊ยกๆๆ”
ลูฟี่คิ้วกระตุก “แกไม่อยากตายดีสินะไอตุ๊กแก”
พวกเขาจ้องตากันอยู่แบบนั้นนานนับ
10 นาที พวกทหารที่นำอาหารมาให้ผู้เป็นเจ็ดเทพโจรสลัดก็ไม่กล้าที่จะเข้ามาในห้องเพราะคิดว่าอีกไม่นานคงได้เกิดการต่อสู้กันแน่ๆ
จึงพาขาสั้นๆของตัวเองวิ่งไปฟ้องจอมพลผู้ยิ่งใหญ่
ห้องนี้คงจะกลายเป็นที่ตะลุมบอนของคนต่างวัยทั้งสองไปแล้ว
แต่โชคดีที่คุมะบังเอิญ(?)เดินผ่านแล้วจับแยกทั้งคู่ด้วยการโยนลงไปนอกหน้าต่างได้ทันท่วงที
อืม
ก็นะ..ไม่รู้ว่าเจตนาช่วยหรือเจตนาฆ่ากันแน่
แต่ก็เอาเถอะ
“คุมะ
ดูเหมือนแกจะเกลียดฉันนะ” โมเรียยิ้มหน้าเหี้ยมพลางแผ่รังสีอันตรายออกมาจนพวกทหารที่มามุงดูเพราะเสียงโครมครามต่างพากันขนลุกขนพอง
คุมะยังคงมีสีหน้าที่นิ่งราวกับรูปปั้น ในอุ้งมือที่คล้ายหมีนั้นยังคงถือคัมภีร์ไบเบิลเอาไว้แนบอก
จำได้ลางๆว่าหลังจากนั้นโมเรียก็ถูกคุมะเอาสันคัมภีร์ไบเบิลฟาดหัวแล้วจากไป
ส่วนเขาก็ถูกชายตัวใหญ่เหมือนหมีอุ้มไปคืนเอสกับซาโบ
ลูฟี่เดินหาวกลับไปยังห้องพักของตัวเอง
พรุ่งนี้เขาต้องเตรียมตัวออกเดินทางเข้าสู่แกรนด์ไลน์เพราะต้องไปประจำที่นั่น และเพราะเหตุนั้นเขาจึงเลือกที่จะนอนให้เยอะๆ
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะทำแบบนั้นไม่ได้โดยง่าย
“สวัสดีตอนค่ำ
เจ้าหนู” โดฟลามิงโก้โผล่มาจากภายในห้องนอนพร้อมรอยยิ้มน่าขนลุก
เจ้านี่เป็นโรคจิตเรอะ? ทำไมถึงกล้าเข้าห้องคนอื่นโดยไม่ขออนุญาตฟะ!?
“ไง เจ้านก”
“เรียกแบบนี้ใจร้ายจังนะ
ฟุฟุฟุ”
ประโยคเหมือนกำลังตัดพ้อ
แต่สีหน้าเหมือนกำลังวางแผนพาไปฆ่าหมกป่า
ลูฟี่ปิดประตูอย่างเงียบงันพลางทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา
ส่วนเจ้านกโรคจิตก็เดินอ้อมมาด้านหลังโซฟาพร้อมกับคล้องคอเขาจากด้านหลังเอาไว้หลวมๆ
เด็กหนุ่มผู้ยังไม่ประสาขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนลวนลามยังไงก็ไม่รู้แฮะ
“แกคุยท่าอื่นไม่ได้รึไง”
เงยหน้าขึ้นมองนกหัวทองพลางเลิกคิ้วแบบงงๆ โดยไม่ทันคาดคิดว่านั่นจะเป็นการเปิดโอกาสให้คนตัวสูงกว่าโน้มตัวลงมาจนจมูกแทบชนกัน
รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายผู้มีอายุใกล้ขึ้นเลขสี่ และมันทำให้ลูฟี่ชะงัก..
“รู้มั้ยเจ้าหมวกฟาง
ตอนนี้แกกำลังเชิญชวนฉันนะ”
“ช เชิญชวนไรของแก”
ใบหน้าคมขยับใบหน้าเข้ามาใกล้
เด็กหนุ่มใต้อาณัติย่นคอลง รู้สึกเหมือนสมองอื้อตันและขาวโพลนอย่างบอกไม่ถูก
และในวินาทีนั้นเองที่ริมฝีปากหยักกำลังจะทาบลงมา..
โป้ก!!
สันหนังสือเล่มหนาก็ถูกฟาดลงบนกบาลทองๆของนกหื่นแทบจะในทันที
“แกอยากหุงข้าวแดงกินนักใช่มั้ย
โดฟลามิงโก้”
“คุมะ!?”
----|----|----|----|----
ดูเหมือนว่าชื่อตอนจะไม่เกี่ยวกับเนื้อหาเลย..
ความสัมพันธ์ของโมเรียกับลูฟี่ไม่ใช่เชิงชู้สาวนะคะ
(ฮา)
ในสายตาโมเรียลูฟี่คือ
ของแปลก ส่วนในสายตาลูฟี่โมเรียคือ พวกประหลาด ค่ะ
เสี่ยนกผู้เกือบจะได้แอ้มเขาอยู่หลายรอบแล้วก็โดนขัดขวางทุกรอบ..
(ฮา)
รักเสี่ยนกนะคะ
รักเสี่ยนกจริงๆ ไม่ได้อยากทำร้ายเสี่ยเลย /ไขว้นิ้ว
เหมือนจะเป็นตอนของป๋าเข้ใช่มั้ยคะ? แต่ไม่ใช่ค่ะ..นี่ไม่ใช่ตอนของใครเลย 555555 แค่เล่าพื้นหลังความเป็นมาตอนที่ลูฟี่เจอโมเรียเฉยๆ
แล้วก็แทรกเสี่ยนกไปนิดนึง
ส่วนคุมะนี่เหมือนจะมาทำหน้าที่พ่อหวงลูกชายแทนดราก้อนนะคะเนี่ย
.__.
ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ!
ความคิดเห็น