คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 04 :: ความวุ่นวายในภัตตาคารลอยทะเล
ลูฟี่มองร่างของลุงนกชมพูที่กำลังหยัดตัวขึ้นมาจากการเตะจนหลังกระแทกกับผนังร้าน
เด็กหนุ่มหัวเราะพลางเท้าคางมองเหตุการณ์ตรงหน้าราวกับได้เห็นอะไรที่น่าสนุก
ในขณะที่ลูกค้าคนอื่นๆในร้านต่างพากันทยอยวิ่งออกจากร้านไปขึ้นเรือของตัวเองเพื่อหลบหนีเรียบร้อยแล้ว
บรรยากาศที่เหมือนจะมีการต่อสู้นี่มันน่าสนุกชะมัด
มองชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของกลุ่มผมสีทองและคิ้วม้วนๆด้วยความสนใจ
ถ้าจำไม่ผิด..หมอนี่น่าจะเป็นคนเดียวกับที่คอยเสิร์ฟอาหาร(และม่อสาว)ในร้านนี้
ได้ยินแว่วๆว่าอาหารบางเมนูก็มีชายคนนี้เป็นผู้คิดค้น
อย่าพึ่งคิดว่าเขาเห็นแก่กินอย่างเดียวสิ! เขาก็ฟังที่โต๊ะข้างๆพูดบ้างเหมือนกันล่ะน่า!
“ไม่นะ! นั่นโดฟลามิงโก้!” สาวผมส้มคนหนึ่งที่ยังอยู่ในร้านกรีดร้องขึ้นมาเมื่อจ้องใบหน้าที่ประดับไปด้วยแว่นกันแดดทรงประหลาดนั่น
ก่อนหน้านี้เธอเพียงแค่มองผ่านๆ
แถมอีกฝ่ายก็ไม่ได้ใส่เฟอร์สีชมพูเหมือนทุกที..มันทำให้เธอไม่ได้เอะใจอะไรนัก
จนกระทั่งเมื่อรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมนั่นปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าราวกับรูปปั้นสลักนั่น
รังสีอำมหิตที่ปล่อยออกมามันเป็นของจริง
“โดฟลามิงโก้? จริงเหรอครับคุณนามิ? ไอลุงหื่นเนี่ยอ่ะนะ?”
ชายผมทองในชุดสูทเลิกคิ้วสูงพลางหันกลับไปจ้องมองเจ้าคนที่ตัวสูงเหมือนเปรตนั่นดีๆ
จะว่าไปก็..คล้ายอยู่ไม่ใช่เล่น
“แกว่าใครเป็นลุงหื่นฮะไอเด็กเวร”
หนุ่มใหญ่ขบกรามด้วยความไม่สบอารมณ์
รู้สึกหงุดหงิดเสียจนอยากจะระบายกับอะไรซักอย่าง
น่าเสียดายที่ตำแหน่งเจ็ดเทพโจรสลัดซึ่งค้ำคออยู่ทำให้เขาอาละวาดไม่ได้ตามที่ใจอยาก
พวกเชฟที่ควรจะอยู่ในครัววิ่งมามุงหน้าร้านพร้อมกับอาวุธเต็มมือ
อย่างที่คิดเลย..ที่นี่ไม่ใช่แค่ภัตตาคารธรรมดาๆจริงๆด้วย
ถึงเขาจะมั่นใจว่ายังไงพวกมันก็สู้เขาไม่ได้ก็เถอะ
ชายร่างใหญ่หัวเราะหึในลำคอ
หากเขาสั่งสอนเจ้าพวกนี้ซักหน่อยก็คงจะไม่เป็นไร..มือกร้านยกขึ้นพร้อมกับขยับไปมา ความวุ่นวายในร้านบังเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเหล่าเชฟทั้งหลายพากันโวยวายเนื่องจากร่างกายขยับไปเองโดยที่สมองไม่ได้สั่ง
ชายหนุ่มคิ้วม้วนขบกรามแน่น..มองไปที่มือของผู้ครองตำแหน่ง 1
ในเจ็ดเทพโจรสลัดซึ่งกำลังขยับไปมาราวกับบังคับหุ่นเชิด
ไอเวรนี่มันกล้าดียังไงมายุ่งกับตาแก่ผู้มีพระคุณของเขา!
ในขณะที่โดฟลามิงโก้กำลังเพลิดเพลินกับการเชิดให้พวกเชฟในร้านวิ่งไล่กันอยู่นั้นเอง
“เฮ้
พอแค่นั้นแหละเจ้านก”
นัยน์ตาคมกริบภายใต้กรอบแว่นตวัดสายตาไปมองร่างเล็กที่ตนลักพาตัวมา
ลูฟี่ที่ควรจะนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวกลับลุกขึ้นยืนพร้อมเดินมาทางเขา
ชายวัยกลางคนเลิกคิ้ว..เช่นเดียวกับชายในชุดสูทซึ่งมองร่างเล็กด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
“มาห้ามทำไมเจ้าหมวกฟาง”
“ชิชิชิ
แกคงไม่อยากให้ฉันรายงานเรื่องนี้ใช่มั้ย?”
ใบหน้าหวานยังคงประดับไปด้วยรอยยิ้ม..เหตุผลของเด็กนั่นก็คงไม่อยากให้เรื่องทั้งหมดมันวุ่นวายไปมากกว่านี้
แต่ที่น่าสนใจจริงๆคือนัยน์ตากลมโตที่กำลังเปล่งประกายความมุ่งมั่นนั่นต่างหาก
สายตาคู่นั้นที่เหมือนกำลังบอกเขาว่าหากไม่หยุด..มันจะเป็นฝ่ายมาหยุดเขาเอง
สายตาที่ดูไม่เกรงกลัวใครแม้แต่เขาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่อันตรายที่สุด
ความกล้าของลูฟี่ทำเอาทุกคนที่เริ่มหวาดกลัวเพราะพึ่งรู้ตัวตนของชายแปลกหน้าคนนี้ถึงกับต้องแปลกใจ
แม้แต่ซันจิเองก็เช่นกัน..ตอนที่รู้ว่าหมอนี่คือโดฟลามิงโก้
พูดตรงๆว่าเขาเกิดรู้สึกกลัวนิดหน่อย แต่เจ้าเด็กนี่กลับดูเหมือนคนที่พร้อมจะไฝว้กับเจ้านกประหลาดสีชมพูนี่ทุกเมื่อ
โดฟลามิงโก้ยอมรับว่าตนถูกใจเจ้าหนูนี่
แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบให้คนอื่นมาวางท่าเหนือกว่าเสียเมื่อไหร่
“อย่างแกน่ะเหรอ? กลับศูนย์ใหญ่ให้ถูกก่อนเถอะเจ้าหนู”
ลูฟี่คิ้วกระตุก
โดฟลามิงโก้กำลังมองมาที่เขาด้วยสายตาดูแคลน..ถ้าเป็นปกติเขาคงตอบโต้มันด้วยการเตะหรือต่อยสั่งสอนซักที
แต่เพราะที่นี่คือร้านอาหาร และเขาไม่ต้องการให้ร้านที่ทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้ต้องพังยับเพราะการไม่ยั้งคิดของเขา
ศูนย์ใหญ่คงเสียใจแน่ถ้ารู้เข้า
อย่างที่เห็นว่าลูฟี่เป็นตัวป่วน..เจ้าเด็กนี่เคยทำลายศูนย์ใหญ่ไปกว่า 1 ใน 4 เพียงเพราะทะเลาะกับเอสซึ่งเป็นพี่ชาย
แต่ในครั้งนี้กลับไม่อยากให้ร้านอาหารเสียหายทั้งๆที่ฝ่ายตรงข้ามคือโดฟลามิงโก้ผู้เป็น
1 ใน 7 เทพโจรสลัด
ความสองมาตรฐานนี่มันอะไรกัน?
ถ้าเกิดวันหนึ่งศูนย์ใหญ่กองทัพเรือกับภัตตาคารแห่งนี้ถูกทำลายพร้อมกัน..ไม่ต้องสงสัยเลยว่าลูฟี่จะเลือกไปช่วยที่ไหน
“ฉันกลับถูกอยู่แล้ว!” เด็กหนุ่มเชิดหน้าขึ้นอย่างอวดดี โดฟลามิงโก้เลิกคิ้ว
“หือ? แกน่ะเหรอกลับถูก? ฝันอยู่รึไง? แกเดินเรือไม่เป็นไม่ใช่รึ”
มันรู้ได้ไงวะ..
เด็กหนุ่มแอบเหงื่อตกไปครู่หนึ่ง แต่ที่เขาบอกว่าเขากลับศูนย์ใหญ่ถูกนั่นไม่ใช่เรื่องโกหกซักหน่อย
ถึงเขาจะเดินเรือไม่เป็น..
ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีใครมารับเขานี่?
“แกคิดว่าฉันมีปู่ไว้ทำไม?”
โครมมมมมม!!!
ประตูร้านถูกพังจนยับเยินพร้อมกับร่างของพลโทสุดแกร่งแห่งกองทัพเรือซึ่งเดินมาพร้อมกับเหล่าทหารเรือมากมาย
และหนึ่งในนั้นก็คืออุซปผู้เป็นเพื่อนของลูฟี่ การ์ปสวมหมวกสุนัขเหมือนทุกที..ชายวัยกลางคนเป่าลมใส่หมัดที่ร้อนระอุเพราะพึ่งต่อยประตูจนพัง
ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกๆคนยกเว้นตัวต้นเหตุที่ทำให้พลเรือโทถึงกับถ่อมาที่นี่
การ์ปเงยหน้าขึ้น..จ้องเขม่งไปที่หนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัดผู้โด่งดังด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว
“แกกล้าดียังไงมาลักพาตัวหลานฉันไอนกชั่ว!!”
“ตาแก่การ์ป..”
ชายผู้มีส่วนสูงผิดมนุษย์มนากัดฟันกรอด
มองร่างของตาแก่ที่เขาเกลียดแสนเกลียดเดินเข้ามาในร้านด้วยสายตาไม่สบอารมณ์
อย่างไรก็ตาม..เขาเลิกขยับมือที่กำลังเชิดพวกเชฟราวกับตุ๊กตาแล้วเดินตรงมาอยู่ข้างหน้าวีรบุรุษแห่งกองทัพเรือผู้ยิ่งใหญ่
“ก็แค่พาเด็กนั่นมาหาไรกิน
อย่ากล่าวหากันสิตาแก่”
แม้จะเกือบได้กินเด็กก็เถอะ..
“ฉันไม่มีทางเชื่อว่าไอนกวิตถารอย่างแกจะคิดแค่พาหลานฉันมากินข้าว!”
“อะไรกัน เชื่อใจกันบ้างสิ”
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องที่แกทำอยู่
โดฟลามิงโก้”
“โอเค๊
ฉันยอมล่ะ เอาเป็นว่าฉันไปก็ได้..แต่ไม่สัญญาว่าจะเลิกยุ่งกับเด็กนั่นหรอกนะ” ชายผู้มีฉายาว่าปีศาจสวรรค์ยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้
มองไปทางร่างบางของเด็กน้อยผู้ถูกกล่าวถึงด้วยสายตาอธิบายยาก ได้ยินตาแก่นั่นตวาดด่าอยู่สองสามประโยค
แต่เขาก็เลิกสนใจพร้อมเดินออกไปจากร้านทางประตูที่ถูกต่อยจนพัง
การ์ปหันมามองเจ้าหลานตัวแสบ
“ส่วนแก..ลูฟี่
นี่แกเห็นปู่ของแกเป็นแค่คนมารับกลับบ้านเรอะ!!!”
“อ้าว
ก็เห็นฉันไปสร้างปัญหาที่ไหนปู่ก็มารับกลับได้ตลอดนี่? ไม่ใช่เหรอ?”
เออ
ก็ยังดีที่มันรู้ว่ามันเอาแต่สร้างปัญหา
“เฮ้ยๆ
ลูฟี่ อย่าทำให้พลโทโกรธสิ!
เดี๋ยวก็โดนหมัดแห่งรักอะไรนั่นอีกหรอก!”
อุซปที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบวิ่งเข้ามาลูบแขนเพื่อนตัวแสบเอาไว้ รู้ดีว่าเจ้าเพื่อนสวมหมวกฟางคนนี้ไม่ได้ตั้งใจกวนประสาทปู่ของมัน..อย่างลูฟี่คงไม่รู้หรอกว่าคำพูดพวกนั้นจุดประกายความโกรธให้คนอื่นได้ดีแค่ไหน
ก็มันซื่อบื้อจะตาย
พวกเขามาที่นี่ทันทีที่อุซปไปแจ้งข่าว
จริงๆแล้วพวกสามพลเรือเอกนั่นจะมาเองซะด้วยซ้ำ แต่ติดที่ว่าจอมพลเซ็นโงคุไม่อยากให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่
ท้ายที่สุดแล้วการ์ปซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่ของลูฟี่(และเป็นคนที่มักมารับตัวลูฟี่กลับเวลาก่อเรื่องแล้วกลับไม่ถูก)ก็ต้องมาทำหน้าที่เดิมของตัวเอง
ลูฟี่นั่งฟังปู่บ่นอยู่พักหนึ่ง
จนกระทั่งพวกเขานึกขึ้นมาได้ว่าที่นี่ไม่ใช่ฐานทัพเรือ..แถมพวกเชฟคนอื่นๆก็ยังอยู่ตรงนี้
แม้แต่หนุ่มคิ้วม้วนในชุดบ๋อยนั่นก็ด้วย
“จะว่าไปก็พังประตูเขามาล่ะนะ
ต้องจ่ายค่าซ่อมด้วยนี่”
“นี่แกพึ่งรู้ตัวเรอะการ์ป”
หัวหน้าเชฟผู้เป็นเจ้าของภัตตาคารลอยทะเลบาราติเอพูดเสียงหน่าย จากการเรียกชื่อห้วนๆแสดงว่าคงรู้จักกันพอสมควร
“ตอนนี้ฉันไม่มีเงินเลย
แต่ฉันมีข้อเสนอดีๆนะขาแดง” สองตาแก่เริ่มออกไปคุยข้างนอกเรื่องค่าซ่อมร้าน ส่วนพวกเชฟคนอื่นๆก็พากันเดินกลับไปทำแผลข้างในครัว
ลูฟี่พูดคุยกับอุซปเล็กน้อย
เหลือบไปเห็นชายในชุดสูทสีดำกำลังสูบบุหรี่และมองเขาอยู่ด้วยสายตาที่ยากจะอธิบายความคิด
เจ้าตัวแสบฉีกยิ้มกว้าง..เขาพอใจกับความกล้าดีเดือดของหมอนี่ที่ไปต่อปากต่อคำกับโดฟลามิงโก้แบบนั้นจริงๆ
ร่างเล็กวิ่งดุ๊กดิ๊กไปหาคนที่อายุมากกว่าตนประมาณปีหรือ 2 ปี
“โฮ้ยยย! นายชื่ออะไรน่ะ” ใบหน้าคมเงยหน้าขึ้นจากพื้น มองเด็กหนุ่มร่างบางซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมรอยยิ้มร่า
“ซันจิ
ทำไม?”
“ฉันชื่อลูฟี่! ยินดีที่ได้รู้จัก ชิชิชิ” หัวเราะแปลกเสียจริง..
“อือ..แล้ว?”
“สนใจมาเป็นทหารเรือมั้ย? ฉันว่านายมีแววนะ!”
----|----|----|----|----
อา
ใช่..ตอนแรกลูฟี่โดนหมอนั่นปฏิเสธ
แม้แต่อุซปเองก็ถึงกับโวยวายว่าทำไมถึงไปชวนหมอนั่น
ลูฟี่ก็ไม่มั่นใจในเหตุผลนัก..เพราะเขาถูกชะตากับหมอนั่นหรือ? หรือเป็นเพราะเขาประทับใจที่หมอนั่นกล้าด่ามิงโก้แบบนั้นกัน?
สุดท้ายพวกเขาก็ต้องมาอยู่ทำงานชดใช้หนี้
หรือก็คือค่าเสียหายที่ปู่ของเขาทำประตูร้านพัง..แถมเรื่องบ้าๆนั่นยังทำให้ทางร้านเสียลูกค้าไปส่วนหนึ่ง
(ไม่เข้าใจว่าทำไมเขากับอุซปต้องมาทำ?
ในเมื่อเรื่องนี้เป็นความผิดของปู่) และหลังจากเหตุการณ์วันนั้นเขาก็ได้รู้จักกับหญิงสาวผมส้มที่ชื่อว่า
‘นามิ’ เธอก็เป็นคนที่กำลังใช้หนี้ให้ทางร้านเพราะดันไปขโมยเงินแล้วถูกจับได้ขึ้นมา
เธอบอกว่าทำงานที่นี่มาก่อนเขาประมาณ
1 สัปดาห์เห็นจะได้ เลยพลอยสนิทกับซันจิไปด้วย
“เธอสนใจมาเป็นทหารเรือมั้ย!?”
แน่นอนว่าลูฟี่ชวนเธอ
“ไม่ย่ะ! ฉันยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ”
และเธอก็ปฏิเสธ..
แต่นั่นก็เป็นเรื่องก่อนที่เหตุการณ์หนึ่งจะเกิดขึ้น
“นี่ๆ
คุณบ๋อย..มีแมลงอยู่ในซุปล่ะ” ฟลูบอดี้คือทหารเรือยศเรือเอกคนหนึ่งซึ่งมาภัตตาคารลอยทะเลแห่งนี้พร้อมสาวสวยผมทองที่น่าจะเป็นคนรัก
อีกฝ่ายดูเหมือนจะมีปัญหากับซันจิ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ลูฟี่สนใจ..เขาจำได้ว่ามีช่วงหนึ่งที่อุซปบ่นๆกับเขาว่าตัวเองเกลียดขี้หน้าเรือเอกคนนี้มากแค่ไหน
ทั้งขี้เก๊กแถมยังพูดมาก..ชอบอวดนั่นอวดนี่ไม่หยุด ขี้โม้ ทั้งที่จริงๆแล้วก็ยศสูงกว่าอุซปแค่นิดหน่อยเท่านั้น
ลูฟี่มองเหตุการณ์ทุกอย่างจากชั้นสองของร้าน
เท้าคางกับบันได..สายตาก็มองซันจิที่ดูเหมือนจะไม่พอใจฟลูบอดี้เป็นอย่างมากที่เอาแมลงใส่ลงไปในซุปที่ทุกคนอุตส่าห์ตั้งใจทำ
เขาถูกชะตากับเจ้าคิ้วม้วนนั่นจริงๆนะ
จะว่าไปก็อยากเดินไปตบหัวเจ้าฟลูบอดี้ที่บังอาจทำให้ซุปที่แสนอร่อยต้องมีมลทิน(?) แต่เพราะอุซปห้ามไว้..แถมปู่ก็กำชับมาเสียหนักแน่นว่าอย่าให้ใครรู้ว่าเขาเป็นนาวาเอกเด็ดขาด
เห็นว่าการที่นาวาเอกต้องมาทำงานเป็นบ๋อยใช้หนี้มันดูน่าอดสู
ถ้ามีใครรู้ว่าหลานวีรบุรุษแห่งกองทัพเรือมาทำแบบนี้ปู่ของเขาคงได้มุดดินหนีแน่ๆ
และหลังจากเรื่องของเรือเอกฟลูบอดี้ที่แสนขี้โม้คนนั้นแล้วก็เป็นเรื่องของกลุ่มโจรสลัดครีกที่บุกมาที่ภัตตาคารบาราติเอ
แต่ก็ถูกเขากับซันจิจัดการไปอย่างง่ายดาย
เขามองร่างของครีกที่ถูกกิงซึ่งเป็นมือขวาพาตัวขึ้นเรือเล็กไปพร้อมกับลูกเรือคนอื่นๆ
หลังจากสู้กันแล้วผลคือฝ่ายนั้นพ่ายแพ้ เขากับอุซปไม่ต้องทำงานที่นี่แล้ว..นามิหายตัวไปหลังจากที่การต่อสู้จบลงพร้อมเรือเล็กลำหนึ่ง
ส่วนเรื่องของซันจิน่ะหรือ?
เขาไม่ได้คิดจะบังคับอีกฝ่ายขนาดนั้นซักหน่อย
“ถ้าหมอนั่นไม่อยากเป็นฉันก็ไม่อยากบังคับหรอก”
ลูฟี่บอกหัวหน้าเชฟไปแบบนั้น
ทางฝ่ายซันจิ..ยอมรับเลยว่าเขาสนใจเจ้าตัวเล็กนั่นอยู่พอสมควร
ลูฟี่เก่งมากตอนที่สู้กับครีกและชนะอย่างง่ายดายนั่นเป็นเรื่องที่เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
แววตาที่ไม่เหมือนกับทหารเรือคนอื่นๆ นิสัยที่ไม่ชอบเชื่อฟังคำสั่งของใคร
พูดตามตรง..ถ้าไม่ใช่เพราะวันก่อนพลโทการ์ปบุกมาไล่โดฟลามิงโก้ไป เขาคงนึกว่าเจ้านี่เป็นโจรสลัด
ตอนที่ไปพูดจาหาเรื่องโดฟลามิงโก้น่ะหรือ? ก็แค่..ไม่คิดว่าคนที่ดูท่าทางเจ้าเล่ห์แบบนั้นจะเหมาะสมกับคนซื่อ(บื้อ)แบบเจ้านี่
แค่รำคาญหากมันถูกหลอกไปกินตับโดยที่เขาไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเลย
ก็แค่..ไม่อยากมารู้สึกผิดทีหลัง
“แกจะไม่ไปกับเจ้านั่นจริงๆรึ”
หัวหน้าเชฟถามเขาแบบนั้น
“ไม่รู้สิ”
“ทหารเรือแบบเจ้าหนูนั่นหายากนะแกรู้มั้ย
จริงๆแล้ว..เป็นทหารเรือมันอาจจะไม่ได้แย่อะไรก็ได้ ฝันแกคงมีโอกาสเป็นจริงมากกว่าการยึดติดอยู่กับที่นี่”
นั่นคือสิ่งที่ตาแก่พูดกับเขา..ก่อนที่เขาจะตัดสินใจตามลูฟี่ไปในวันต่อมา
เรือรบลำใหญ่ของทหารเรือมาจอดอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก
ซันจิคุกเข่ากล่าวร่ำลากับผู้ที่คอยอบรมเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กด้วยความเคารพยิ่ง
ก่อนที่เขาจะเดินตามลูฟี่กับอุซปขึ้นเรือไป พวกทหารเรือคนอื่นมองเขาด้วยสายตาแปลกๆเหมือนเห็นปลาวาฬอยู่บนบก
แน่ล่ะ..ปกติเรือรบของกองทัพเรือไม่ใช่อะไรที่คนนอกจะขึ้นมาได้ซักหน่อย
ซันจิ
ลูฟี่ และอุซปนั่งพูดคุยกันอยู่บนเรือด้วยความสนุกสนาน แลกเปลี่ยนเรื่องราวที่ตนพบเจอมา
หัวข้อสนทนาถูกสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆไม่มีหยุด
“นี่ลูฟี่! ที่นี่ไม่มีทหารเรือสาวๆสวยๆบ้างเลยรึไง~”
ลูฟี่หันมามองด้วยสายตางงงวย
“หา? ทหารเรือสาวๆสวยๆ? ลองไปหาคุณอันริในครัวสิ
ก็สวยน๊า ชิชิชิ” ว่าแล้วชายหนุ่มผู้ชื่นชอบสาวงามก็วิ่งเข้าไปในครัวแทบจะทันที
ก่อนที่จะวิ่งออกมาด้วยความเร็วแสงพร้อมกับสีหน้าหวาดกลัวสุดชีวิต
“สาวงามบ้าอะไร!! มนุษย์ป้าที่น่าหวาดกลัวนั่นมันใครกันฮะลูฟี่!!”
โป้ก!!!
ร่างของซันจิล้มลงไปพร้อมกับกระทะที่ลอยมาจากในครัว
ชายหนุ่มมองภาพของลูฟี่ที่อยู่ในชุดลำลองธรรมดาๆกำลังยืนดูวิวอยู่ที่ส่วนหัวเรือ
มือหนาหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ เด็กนั่นซนชะมัด..ก็อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นทหารเรือยศอะไร? พันจ่าโทเท่าเจ้าจมูกยาวหรือ? แต่ดูจากฝีมือแล้ว..หรือว่าจะเป็นเรือเอก? หรือนาวาตรี?
“นาวาเอก! อย่าซนสิครับ แล้วก็นี่เสื้อครับ” พลทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาผู้เป็นกัปตันเรือลำนี้พร้อมกับเสื้อโค้ทสีขาวที่ปักตัวโตๆว่าความยุติธรรม
มันคือเสื้อโค้ทที่มีเพียงทหารเรือผู้มียศนาวาเอกขึ้นไปเท่านั้นถึงจะได้สวมใส่ ลูฟี่รับมันมาสวมโดยที่ใบหน้าหวานยังคงมู่ทู่เหมือนกำลังไม่พอใจ
“ฉันไม่ชอบใส่มันเลย!” เจ้าตัวเล็กบ่นพึมพำไม่หยุด
ซันจิเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย
ก่อนหัวเราะอย่างนึกขบขันกับความคิดของตน
เรือเอก? นาวาตรี?
บ้าบออะไรกันล่ะนั่น..อย่างเจ้าเด็กนั่นไม่ชอบเป็นลูกน้องใครหรอก
ยศนาวาเอกนี่แหละเหมาะแล้ว
ชายหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่าสายตาของตนที่มองลูฟี่นั้นมันอ่อนโยนเพียงใด
ไม่นานหลังจากนั้นนักอุซปก็มาตามลูฟี่ให้เข้าไปข้างใน
ได้ยินเสียงโวยวายอะไรซักอย่างหลังจากที่ทั้งคู่เข้าไปได้ซักพัก มันคงเป็นเรื่องภายในของพวกทหารเรือที่เขาซึ่งยังเป็นว่าที่ทหารเรืออยู่ไม่มีสิทธิรู้
ท้องฟ้าวันนี้ดูสดใสและไร้ซึ่งเมฆหมอก แสงอาทิตย์ที่สาดส่องนั่นไม่ได้ร้อนเลยซักนิด
ในทางกลับกัน..มันดูอบอุ่นอย่างน่าประหลาด
“เน่ๆ
ขอโทษน๊าซันจิ ดูเหมือนพวกเราจะไปส่งนายที่ศูนย์ใหญ่ไม่ได้น่ะ” ลูฟี่โผล่พรวดมาจากด้านหลังของเขาพร้อมเนื้อย่างในมือจำนวนหนึ่ง
ซันจิขมวดคิ้ว มองร่างเล็กๆซึ่งยืดตัวเองมายืนอยู่ข้างหน้าเขาอย่างรวดเร็ว
“มีอะไรเกิดขึ้นรึไง?”
“ก็นะ..คือว่า”
ลูฟี่มีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย เสียงหัวเราะแห้งๆดังขึ้นในเวลาต่อมา
“มีภารกิจด่วนที่เกาะโยสึบะน่ะสิ!~ เหมือนจะมีการจับนักล่าค่าหัวไว้หรือยังไงนี่ล่ะ เลยต้องไปดูซักหน่อย
ชิชิชิ”
ดูเหมือนงานทหารเรือคงหนักไม่ใช่เล่น..อยู่ดีๆก็มีภารกิจด่วนแบบนี้เลยหรือ?
“ก็ได้
เอาเป็นว่าฉันจะไปช่วยงานในครัวแล้วกัน”
“โอ้!”
“ฝากด้วยนะซันจิ!” อุซปป้องปากตะโกนก่อนกระโดดกอดคอลูฟี่เดินไปยังห้องพักส่วนตัวของผู้เป็นกัปตันเรือ
ซึ่งในที่นี้ก็คือลูฟี่นั่นเอง
“สุดท้ายหมอนั่นก็ยอมมากับนายจนได้สิเนี่ย”
เพื่อนจมูกยาวถอนหายใจ
ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่ภัตตาคารลอยทะเลนั่นทำให้เขาได้คุยกับซันจิมากขึ้น จึงเลิกอคติกับอีกฝ่ายได้แล้ว
(ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นพวกอันธพาลเกเรน่ะ)
“ฉันเจ๋งใช่มั้ยล่ะ!”
“ขอทีเถอะเจ้าบ้า
อย่าหาคนประหลาดๆเข้าหน่วยเลยนะ” แค่นายคนเดียวก็ประหลาดเกินพอแล้ว
เรือตรีหนุ่มคิดในใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ประหลาด? เหมือนนายน่ะเหรอ?”
“นายต่างหากที่ประหลาดเฟ้ย!!”
ลูฟี่หัวเราะร่าพลางล้มตัวลงนอนบนที่นอนของตัวเอง
เหม่อมองเพดานพลางหยิบหมวกฟางขึ้นมาตั้งไว้บนอก
นัยน์ตาสีรัตติกาลปิดลงด้วยความเหนื่อยล้า อุซปที่เห็นดังนั้นก็เงียบไปพร้อมกับเดินไปนั่งที่โซฟาซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเตียงมากนัก
ลูฟี่คงต้องการเวลาพักผ่อน..
เด็กหนุ่มบนเตียงยกหมวกฟางที่ตนแสนรักแสนหวงขึ้นมาปิดหน้า
ริมฝีปากเหยียดเป็นเส้นตรง
“ฉันได้เพื่อนเพิ่มอีกแล้วนะ
แชงคูส”
----|----|----|----|----
สรุปโซโลโผล่มาไม่ทันค่ะ
5555555
เอาไว้เจอกับโซโลตอนหน้านะคะ
สปอยไว้ก่อนว่าโซโลคือลูกเรือคนแรกของลูฟี่ทั้งในอนิเมะและในฟิคเรื่องนี้ค่ะ ฮุฮิ
ขอโทษถ้ารวบรัดเรื่องเกินไป TT คือเราอยากให้มันดำเนินเรื่องให้เร็วที่สุด เพราะเนื้อเรื่องในอนิเมะทุกคนคงทราบกันอยู่แล้ว
ส่วนใหญ่ก็ดำเนินไปตามนั้นเลยค่ะ ;-;
ไว้เจอกันวันเสาร์(หรืออาจอาทิตย์?) ถ้าพบเจอคำผิดของบอกได้นะคะ ><
ความคิดเห็น