ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (one piece) straw hat mariner | ทหารเรือเดอะซีรีย์ (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 04 :: ความวุ่นวายในภัตตาคารลอยทะเล

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 61



     


     

     

     

              ลูฟี่มองร่างของลุงนกชมพูที่กำลังหยัดตัวขึ้นมาจากการเตะจนหลังกระแทกกับผนังร้าน เด็กหนุ่มหัวเราะพลางเท้าคางมองเหตุการณ์ตรงหน้าราวกับได้เห็นอะไรที่น่าสนุก ในขณะที่ลูกค้าคนอื่นๆในร้านต่างพากันทยอยวิ่งออกจากร้านไปขึ้นเรือของตัวเองเพื่อหลบหนีเรียบร้อยแล้ว

     

              บรรยากาศที่เหมือนจะมีการต่อสู้นี่มันน่าสนุกชะมัด

     

              มองชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของกลุ่มผมสีทองและคิ้วม้วนๆด้วยความสนใจ ถ้าจำไม่ผิด..หมอนี่น่าจะเป็นคนเดียวกับที่คอยเสิร์ฟอาหาร(และม่อสาว)ในร้านนี้ ได้ยินแว่วๆว่าอาหารบางเมนูก็มีชายคนนี้เป็นผู้คิดค้น

     

             อย่าพึ่งคิดว่าเขาเห็นแก่กินอย่างเดียวสิ! เขาก็ฟังที่โต๊ะข้างๆพูดบ้างเหมือนกันล่ะน่า!

     

              “ไม่นะ! นั่นโดฟลามิงโก้!” สาวผมส้มคนหนึ่งที่ยังอยู่ในร้านกรีดร้องขึ้นมาเมื่อจ้องใบหน้าที่ประดับไปด้วยแว่นกันแดดทรงประหลาดนั่น ก่อนหน้านี้เธอเพียงแค่มองผ่านๆ แถมอีกฝ่ายก็ไม่ได้ใส่เฟอร์สีชมพูเหมือนทุกที..มันทำให้เธอไม่ได้เอะใจอะไรนัก จนกระทั่งเมื่อรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมนั่นปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าราวกับรูปปั้นสลักนั่น

     

              รังสีอำมหิตที่ปล่อยออกมามันเป็นของจริง

     

              “โดฟลามิงโก้? จริงเหรอครับคุณนามิ? ไอลุงหื่นเนี่ยอ่ะนะ?” ชายผมทองในชุดสูทเลิกคิ้วสูงพลางหันกลับไปจ้องมองเจ้าคนที่ตัวสูงเหมือนเปรตนั่นดีๆ

     

             จะว่าไปก็..คล้ายอยู่ไม่ใช่เล่น

     

              “แกว่าใครเป็นลุงหื่นฮะไอเด็กเวร” หนุ่มใหญ่ขบกรามด้วยความไม่สบอารมณ์ รู้สึกหงุดหงิดเสียจนอยากจะระบายกับอะไรซักอย่าง น่าเสียดายที่ตำแหน่งเจ็ดเทพโจรสลัดซึ่งค้ำคออยู่ทำให้เขาอาละวาดไม่ได้ตามที่ใจอยาก

     

              พวกเชฟที่ควรจะอยู่ในครัววิ่งมามุงหน้าร้านพร้อมกับอาวุธเต็มมือ อย่างที่คิดเลย..ที่นี่ไม่ใช่แค่ภัตตาคารธรรมดาๆจริงๆด้วย

     

              ถึงเขาจะมั่นใจว่ายังไงพวกมันก็สู้เขาไม่ได้ก็เถอะ

     

              ชายร่างใหญ่หัวเราะหึในลำคอ หากเขาสั่งสอนเจ้าพวกนี้ซักหน่อยก็คงจะไม่เป็นไร..มือกร้านยกขึ้นพร้อมกับขยับไปมา ความวุ่นวายในร้านบังเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเหล่าเชฟทั้งหลายพากันโวยวายเนื่องจากร่างกายขยับไปเองโดยที่สมองไม่ได้สั่ง ชายหนุ่มคิ้วม้วนขบกรามแน่น..มองไปที่มือของผู้ครองตำแหน่ง 1 ในเจ็ดเทพโจรสลัดซึ่งกำลังขยับไปมาราวกับบังคับหุ่นเชิด

     

             ไอเวรนี่มันกล้าดียังไงมายุ่งกับตาแก่ผู้มีพระคุณของเขา!

     

              ในขณะที่โดฟลามิงโก้กำลังเพลิดเพลินกับการเชิดให้พวกเชฟในร้านวิ่งไล่กันอยู่นั้นเอง

     

    “เฮ้ พอแค่นั้นแหละเจ้านก” นัยน์ตาคมกริบภายใต้กรอบแว่นตวัดสายตาไปมองร่างเล็กที่ตนลักพาตัวมา ลูฟี่ที่ควรจะนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวกลับลุกขึ้นยืนพร้อมเดินมาทางเขา ชายวัยกลางคนเลิกคิ้ว..เช่นเดียวกับชายในชุดสูทซึ่งมองร่างเล็กด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

     

              “มาห้ามทำไมเจ้าหมวกฟาง”

     

              “ชิชิชิ แกคงไม่อยากให้ฉันรายงานเรื่องนี้ใช่มั้ย?” ใบหน้าหวานยังคงประดับไปด้วยรอยยิ้ม..เหตุผลของเด็กนั่นก็คงไม่อยากให้เรื่องทั้งหมดมันวุ่นวายไปมากกว่านี้ แต่ที่น่าสนใจจริงๆคือนัยน์ตากลมโตที่กำลังเปล่งประกายความมุ่งมั่นนั่นต่างหาก

     

              สายตาคู่นั้นที่เหมือนกำลังบอกเขาว่าหากไม่หยุด..มันจะเป็นฝ่ายมาหยุดเขาเอง

     

              สายตาที่ดูไม่เกรงกลัวใครแม้แต่เขาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่อันตรายที่สุด

     

              ความกล้าของลูฟี่ทำเอาทุกคนที่เริ่มหวาดกลัวเพราะพึ่งรู้ตัวตนของชายแปลกหน้าคนนี้ถึงกับต้องแปลกใจ แม้แต่ซันจิเองก็เช่นกัน..ตอนที่รู้ว่าหมอนี่คือโดฟลามิงโก้ พูดตรงๆว่าเขาเกิดรู้สึกกลัวนิดหน่อย แต่เจ้าเด็กนี่กลับดูเหมือนคนที่พร้อมจะไฝว้กับเจ้านกประหลาดสีชมพูนี่ทุกเมื่อ

     

              โดฟลามิงโก้ยอมรับว่าตนถูกใจเจ้าหนูนี่ แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบให้คนอื่นมาวางท่าเหนือกว่าเสียเมื่อไหร่

     

              “อย่างแกน่ะเหรอ? กลับศูนย์ใหญ่ให้ถูกก่อนเถอะเจ้าหนู”

     

              ลูฟี่คิ้วกระตุก โดฟลามิงโก้กำลังมองมาที่เขาด้วยสายตาดูแคลน..ถ้าเป็นปกติเขาคงตอบโต้มันด้วยการเตะหรือต่อยสั่งสอนซักที แต่เพราะที่นี่คือร้านอาหาร และเขาไม่ต้องการให้ร้านที่ทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้ต้องพังยับเพราะการไม่ยั้งคิดของเขา

     

              ศูนย์ใหญ่คงเสียใจแน่ถ้ารู้เข้า อย่างที่เห็นว่าลูฟี่เป็นตัวป่วน..เจ้าเด็กนี่เคยทำลายศูนย์ใหญ่ไปกว่า 1 ใน 4 เพียงเพราะทะเลาะกับเอสซึ่งเป็นพี่ชาย

     

              แต่ในครั้งนี้กลับไม่อยากให้ร้านอาหารเสียหายทั้งๆที่ฝ่ายตรงข้ามคือโดฟลามิงโก้ผู้เป็น 1 ใน 7 เทพโจรสลัด

     

             ความสองมาตรฐานนี่มันอะไรกัน?

     

              ถ้าเกิดวันหนึ่งศูนย์ใหญ่กองทัพเรือกับภัตตาคารแห่งนี้ถูกทำลายพร้อมกัน..ไม่ต้องสงสัยเลยว่าลูฟี่จะเลือกไปช่วยที่ไหน

     

              “ฉันกลับถูกอยู่แล้ว!” เด็กหนุ่มเชิดหน้าขึ้นอย่างอวดดี โดฟลามิงโก้เลิกคิ้ว

     

              “หือ? แกน่ะเหรอกลับถูก? ฝันอยู่รึไง? แกเดินเรือไม่เป็นไม่ใช่รึ”

     

              มันรู้ได้ไงวะ.. เด็กหนุ่มแอบเหงื่อตกไปครู่หนึ่ง แต่ที่เขาบอกว่าเขากลับศูนย์ใหญ่ถูกนั่นไม่ใช่เรื่องโกหกซักหน่อย ถึงเขาจะเดินเรือไม่เป็น..

     

              ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีใครมารับเขานี่?

     

              “แกคิดว่าฉันมีปู่ไว้ทำไม?

     

              โครมมมมมม!!!

     

              ประตูร้านถูกพังจนยับเยินพร้อมกับร่างของพลโทสุดแกร่งแห่งกองทัพเรือซึ่งเดินมาพร้อมกับเหล่าทหารเรือมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คืออุซปผู้เป็นเพื่อนของลูฟี่ การ์ปสวมหมวกสุนัขเหมือนทุกที..ชายวัยกลางคนเป่าลมใส่หมัดที่ร้อนระอุเพราะพึ่งต่อยประตูจนพัง

     

              ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกๆคนยกเว้นตัวต้นเหตุที่ทำให้พลเรือโทถึงกับถ่อมาที่นี่ การ์ปเงยหน้าขึ้น..จ้องเขม่งไปที่หนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัดผู้โด่งดังด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว

     

              “แกกล้าดียังไงมาลักพาตัวหลานฉันไอนกชั่ว!!

     

              “ตาแก่การ์ป..” ชายผู้มีส่วนสูงผิดมนุษย์มนากัดฟันกรอด มองร่างของตาแก่ที่เขาเกลียดแสนเกลียดเดินเข้ามาในร้านด้วยสายตาไม่สบอารมณ์ อย่างไรก็ตาม..เขาเลิกขยับมือที่กำลังเชิดพวกเชฟราวกับตุ๊กตาแล้วเดินตรงมาอยู่ข้างหน้าวีรบุรุษแห่งกองทัพเรือผู้ยิ่งใหญ่

     

              “ก็แค่พาเด็กนั่นมาหาไรกิน อย่ากล่าวหากันสิตาแก่”

     

             แม้จะเกือบได้กินเด็กก็เถอะ..

     

              “ฉันไม่มีทางเชื่อว่าไอนกวิตถารอย่างแกจะคิดแค่พาหลานฉันมากินข้าว!

     

              “อะไรกัน เชื่อใจกันบ้างสิ”

     

              “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องที่แกทำอยู่ โดฟลามิงโก้”

     

              “โอเค๊ ฉันยอมล่ะ เอาเป็นว่าฉันไปก็ได้..แต่ไม่สัญญาว่าจะเลิกยุ่งกับเด็กนั่นหรอกนะ” ชายผู้มีฉายาว่าปีศาจสวรรค์ยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้ มองไปทางร่างบางของเด็กน้อยผู้ถูกกล่าวถึงด้วยสายตาอธิบายยาก ได้ยินตาแก่นั่นตวาดด่าอยู่สองสามประโยค แต่เขาก็เลิกสนใจพร้อมเดินออกไปจากร้านทางประตูที่ถูกต่อยจนพัง

     

              การ์ปหันมามองเจ้าหลานตัวแสบ

     

              “ส่วนแก..ลูฟี่ นี่แกเห็นปู่ของแกเป็นแค่คนมารับกลับบ้านเรอะ!!!

     

              “อ้าว ก็เห็นฉันไปสร้างปัญหาที่ไหนปู่ก็มารับกลับได้ตลอดนี่? ไม่ใช่เหรอ?

     

             เออ ก็ยังดีที่มันรู้ว่ามันเอาแต่สร้างปัญหา

     

              “เฮ้ยๆ ลูฟี่ อย่าทำให้พลโทโกรธสิ! เดี๋ยวก็โดนหมัดแห่งรักอะไรนั่นอีกหรอก!” อุซปที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบวิ่งเข้ามาลูบแขนเพื่อนตัวแสบเอาไว้ รู้ดีว่าเจ้าเพื่อนสวมหมวกฟางคนนี้ไม่ได้ตั้งใจกวนประสาทปู่ของมัน..อย่างลูฟี่คงไม่รู้หรอกว่าคำพูดพวกนั้นจุดประกายความโกรธให้คนอื่นได้ดีแค่ไหน

     

              ก็มันซื่อบื้อจะตาย

     

              พวกเขามาที่นี่ทันทีที่อุซปไปแจ้งข่าว จริงๆแล้วพวกสามพลเรือเอกนั่นจะมาเองซะด้วยซ้ำ แต่ติดที่ว่าจอมพลเซ็นโงคุไม่อยากให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ ท้ายที่สุดแล้วการ์ปซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่ของลูฟี่(และเป็นคนที่มักมารับตัวลูฟี่กลับเวลาก่อเรื่องแล้วกลับไม่ถูก)ก็ต้องมาทำหน้าที่เดิมของตัวเอง

     

              ลูฟี่นั่งฟังปู่บ่นอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งพวกเขานึกขึ้นมาได้ว่าที่นี่ไม่ใช่ฐานทัพเรือ..แถมพวกเชฟคนอื่นๆก็ยังอยู่ตรงนี้ แม้แต่หนุ่มคิ้วม้วนในชุดบ๋อยนั่นก็ด้วย

     

              “จะว่าไปก็พังประตูเขามาล่ะนะ ต้องจ่ายค่าซ่อมด้วยนี่”

     

              “นี่แกพึ่งรู้ตัวเรอะการ์ป” หัวหน้าเชฟผู้เป็นเจ้าของภัตตาคารลอยทะเลบาราติเอพูดเสียงหน่าย จากการเรียกชื่อห้วนๆแสดงว่าคงรู้จักกันพอสมควร

     

    “ตอนนี้ฉันไม่มีเงินเลย แต่ฉันมีข้อเสนอดีๆนะขาแดง” สองตาแก่เริ่มออกไปคุยข้างนอกเรื่องค่าซ่อมร้าน ส่วนพวกเชฟคนอื่นๆก็พากันเดินกลับไปทำแผลข้างในครัว

     

              ลูฟี่พูดคุยกับอุซปเล็กน้อย เหลือบไปเห็นชายในชุดสูทสีดำกำลังสูบบุหรี่และมองเขาอยู่ด้วยสายตาที่ยากจะอธิบายความคิด เจ้าตัวแสบฉีกยิ้มกว้าง..เขาพอใจกับความกล้าดีเดือดของหมอนี่ที่ไปต่อปากต่อคำกับโดฟลามิงโก้แบบนั้นจริงๆ ร่างเล็กวิ่งดุ๊กดิ๊กไปหาคนที่อายุมากกว่าตนประมาณปีหรือ 2 ปี

     

              “โฮ้ยยย! นายชื่ออะไรน่ะ” ใบหน้าคมเงยหน้าขึ้นจากพื้น มองเด็กหนุ่มร่างบางซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมรอยยิ้มร่า

     

              “ซันจิ ทำไม?

     

              “ฉันชื่อลูฟี่! ยินดีที่ได้รู้จัก ชิชิชิ” หัวเราะแปลกเสียจริง..

     

              “อือ..แล้ว?

     

              “สนใจมาเป็นทหารเรือมั้ย? ฉันว่านายมีแววนะ!

     

     

     

     

    ----|----|----|----|----

     

     

     

              อา ใช่..ตอนแรกลูฟี่โดนหมอนั่นปฏิเสธ

     

              แม้แต่อุซปเองก็ถึงกับโวยวายว่าทำไมถึงไปชวนหมอนั่น ลูฟี่ก็ไม่มั่นใจในเหตุผลนัก..เพราะเขาถูกชะตากับหมอนั่นหรือ? หรือเป็นเพราะเขาประทับใจที่หมอนั่นกล้าด่ามิงโก้แบบนั้นกัน?

     

              สุดท้ายพวกเขาก็ต้องมาอยู่ทำงานชดใช้หนี้ หรือก็คือค่าเสียหายที่ปู่ของเขาทำประตูร้านพัง..แถมเรื่องบ้าๆนั่นยังทำให้ทางร้านเสียลูกค้าไปส่วนหนึ่ง (ไม่เข้าใจว่าทำไมเขากับอุซปต้องมาทำ? ในเมื่อเรื่องนี้เป็นความผิดของปู่) และหลังจากเหตุการณ์วันนั้นเขาก็ได้รู้จักกับหญิงสาวผมส้มที่ชื่อว่า นามิเธอก็เป็นคนที่กำลังใช้หนี้ให้ทางร้านเพราะดันไปขโมยเงินแล้วถูกจับได้ขึ้นมา

     

              เธอบอกว่าทำงานที่นี่มาก่อนเขาประมาณ 1 สัปดาห์เห็นจะได้ เลยพลอยสนิทกับซันจิไปด้วย

     

              “เธอสนใจมาเป็นทหารเรือมั้ย!?

     

              แน่นอนว่าลูฟี่ชวนเธอ

     

              “ไม่ย่ะ! ฉันยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ”

     

             และเธอก็ปฏิเสธ..

     

              แต่นั่นก็เป็นเรื่องก่อนที่เหตุการณ์หนึ่งจะเกิดขึ้น

     

              “นี่ๆ คุณบ๋อย..มีแมลงอยู่ในซุปล่ะ” ฟลูบอดี้คือทหารเรือยศเรือเอกคนหนึ่งซึ่งมาภัตตาคารลอยทะเลแห่งนี้พร้อมสาวสวยผมทองที่น่าจะเป็นคนรัก อีกฝ่ายดูเหมือนจะมีปัญหากับซันจิ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ลูฟี่สนใจ..เขาจำได้ว่ามีช่วงหนึ่งที่อุซปบ่นๆกับเขาว่าตัวเองเกลียดขี้หน้าเรือเอกคนนี้มากแค่ไหน ทั้งขี้เก๊กแถมยังพูดมาก..ชอบอวดนั่นอวดนี่ไม่หยุด ขี้โม้ ทั้งที่จริงๆแล้วก็ยศสูงกว่าอุซปแค่นิดหน่อยเท่านั้น

     

              ลูฟี่มองเหตุการณ์ทุกอย่างจากชั้นสองของร้าน เท้าคางกับบันได..สายตาก็มองซันจิที่ดูเหมือนจะไม่พอใจฟลูบอดี้เป็นอย่างมากที่เอาแมลงใส่ลงไปในซุปที่ทุกคนอุตส่าห์ตั้งใจทำ

     

              เขาถูกชะตากับเจ้าคิ้วม้วนนั่นจริงๆนะ

     

              จะว่าไปก็อยากเดินไปตบหัวเจ้าฟลูบอดี้ที่บังอาจทำให้ซุปที่แสนอร่อยต้องมีมลทิน(?) แต่เพราะอุซปห้ามไว้..แถมปู่ก็กำชับมาเสียหนักแน่นว่าอย่าให้ใครรู้ว่าเขาเป็นนาวาเอกเด็ดขาด เห็นว่าการที่นาวาเอกต้องมาทำงานเป็นบ๋อยใช้หนี้มันดูน่าอดสู ถ้ามีใครรู้ว่าหลานวีรบุรุษแห่งกองทัพเรือมาทำแบบนี้ปู่ของเขาคงได้มุดดินหนีแน่ๆ

     

              และหลังจากเรื่องของเรือเอกฟลูบอดี้ที่แสนขี้โม้คนนั้นแล้วก็เป็นเรื่องของกลุ่มโจรสลัดครีกที่บุกมาที่ภัตตาคารบาราติเอ แต่ก็ถูกเขากับซันจิจัดการไปอย่างง่ายดาย

     

              เขามองร่างของครีกที่ถูกกิงซึ่งเป็นมือขวาพาตัวขึ้นเรือเล็กไปพร้อมกับลูกเรือคนอื่นๆ หลังจากสู้กันแล้วผลคือฝ่ายนั้นพ่ายแพ้ เขากับอุซปไม่ต้องทำงานที่นี่แล้ว..นามิหายตัวไปหลังจากที่การต่อสู้จบลงพร้อมเรือเล็กลำหนึ่ง ส่วนเรื่องของซันจิน่ะหรือ?

     

              เขาไม่ได้คิดจะบังคับอีกฝ่ายขนาดนั้นซักหน่อย

     

              “ถ้าหมอนั่นไม่อยากเป็นฉันก็ไม่อยากบังคับหรอก” ลูฟี่บอกหัวหน้าเชฟไปแบบนั้น

     

              ทางฝ่ายซันจิ..ยอมรับเลยว่าเขาสนใจเจ้าตัวเล็กนั่นอยู่พอสมควร ลูฟี่เก่งมากตอนที่สู้กับครีกและชนะอย่างง่ายดายนั่นเป็นเรื่องที่เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง แววตาที่ไม่เหมือนกับทหารเรือคนอื่นๆ นิสัยที่ไม่ชอบเชื่อฟังคำสั่งของใคร พูดตามตรง..ถ้าไม่ใช่เพราะวันก่อนพลโทการ์ปบุกมาไล่โดฟลามิงโก้ไป เขาคงนึกว่าเจ้านี่เป็นโจรสลัด

     

              ตอนที่ไปพูดจาหาเรื่องโดฟลามิงโก้น่ะหรือ? ก็แค่..ไม่คิดว่าคนที่ดูท่าทางเจ้าเล่ห์แบบนั้นจะเหมาะสมกับคนซื่อ(บื้อ)แบบเจ้านี่

     

              แค่รำคาญหากมันถูกหลอกไปกินตับโดยที่เขาไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเลย

     

              ก็แค่..ไม่อยากมารู้สึกผิดทีหลัง

     

              “แกจะไม่ไปกับเจ้านั่นจริงๆรึ” หัวหน้าเชฟถามเขาแบบนั้น

     

              “ไม่รู้สิ”

     

              “ทหารเรือแบบเจ้าหนูนั่นหายากนะแกรู้มั้ย จริงๆแล้ว..เป็นทหารเรือมันอาจจะไม่ได้แย่อะไรก็ได้ ฝันแกคงมีโอกาสเป็นจริงมากกว่าการยึดติดอยู่กับที่นี่”

     

              นั่นคือสิ่งที่ตาแก่พูดกับเขา..ก่อนที่เขาจะตัดสินใจตามลูฟี่ไปในวันต่อมา

     

              เรือรบลำใหญ่ของทหารเรือมาจอดอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก ซันจิคุกเข่ากล่าวร่ำลากับผู้ที่คอยอบรมเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กด้วยความเคารพยิ่ง ก่อนที่เขาจะเดินตามลูฟี่กับอุซปขึ้นเรือไป พวกทหารเรือคนอื่นมองเขาด้วยสายตาแปลกๆเหมือนเห็นปลาวาฬอยู่บนบก แน่ล่ะ..ปกติเรือรบของกองทัพเรือไม่ใช่อะไรที่คนนอกจะขึ้นมาได้ซักหน่อย

     

              ซันจิ ลูฟี่ และอุซปนั่งพูดคุยกันอยู่บนเรือด้วยความสนุกสนาน แลกเปลี่ยนเรื่องราวที่ตนพบเจอมา หัวข้อสนทนาถูกสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆไม่มีหยุด

     

              “นี่ลูฟี่! ที่นี่ไม่มีทหารเรือสาวๆสวยๆบ้างเลยรึไง~

     

              ลูฟี่หันมามองด้วยสายตางงงวย “หา? ทหารเรือสาวๆสวยๆ? ลองไปหาคุณอันริในครัวสิ ก็สวยน๊า ชิชิชิ” ว่าแล้วชายหนุ่มผู้ชื่นชอบสาวงามก็วิ่งเข้าไปในครัวแทบจะทันที

     

              ก่อนที่จะวิ่งออกมาด้วยความเร็วแสงพร้อมกับสีหน้าหวาดกลัวสุดชีวิต

     

              “สาวงามบ้าอะไร!! มนุษย์ป้าที่น่าหวาดกลัวนั่นมันใครกันฮะลูฟี่!!

     

              โป้ก!!!

     

              ร่างของซันจิล้มลงไปพร้อมกับกระทะที่ลอยมาจากในครัว

     

     

     

     

              ชายหนุ่มมองภาพของลูฟี่ที่อยู่ในชุดลำลองธรรมดาๆกำลังยืนดูวิวอยู่ที่ส่วนหัวเรือ มือหนาหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ เด็กนั่นซนชะมัด..ก็อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นทหารเรือยศอะไร? พันจ่าโทเท่าเจ้าจมูกยาวหรือ? แต่ดูจากฝีมือแล้ว..หรือว่าจะเป็นเรือเอก? หรือนาวาตรี?

     

              “นาวาเอก! อย่าซนสิครับ แล้วก็นี่เสื้อครับ” พลทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาผู้เป็นกัปตันเรือลำนี้พร้อมกับเสื้อโค้ทสีขาวที่ปักตัวโตๆว่าความยุติธรรม มันคือเสื้อโค้ทที่มีเพียงทหารเรือผู้มียศนาวาเอกขึ้นไปเท่านั้นถึงจะได้สวมใส่ ลูฟี่รับมันมาสวมโดยที่ใบหน้าหวานยังคงมู่ทู่เหมือนกำลังไม่พอใจ

     

              “ฉันไม่ชอบใส่มันเลย!” เจ้าตัวเล็กบ่นพึมพำไม่หยุด

     

              ซันจิเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย ก่อนหัวเราะอย่างนึกขบขันกับความคิดของตน

     

              เรือเอก? นาวาตรี?

     

    บ้าบออะไรกันล่ะนั่น..อย่างเจ้าเด็กนั่นไม่ชอบเป็นลูกน้องใครหรอก ยศนาวาเอกนี่แหละเหมาะแล้ว

     

              ชายหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่าสายตาของตนที่มองลูฟี่นั้นมันอ่อนโยนเพียงใด

     

              ไม่นานหลังจากนั้นนักอุซปก็มาตามลูฟี่ให้เข้าไปข้างใน ได้ยินเสียงโวยวายอะไรซักอย่างหลังจากที่ทั้งคู่เข้าไปได้ซักพัก มันคงเป็นเรื่องภายในของพวกทหารเรือที่เขาซึ่งยังเป็นว่าที่ทหารเรืออยู่ไม่มีสิทธิรู้

     

              ท้องฟ้าวันนี้ดูสดใสและไร้ซึ่งเมฆหมอก แสงอาทิตย์ที่สาดส่องนั่นไม่ได้ร้อนเลยซักนิด ในทางกลับกัน..มันดูอบอุ่นอย่างน่าประหลาด

     

              “เน่ๆ ขอโทษน๊าซันจิ ดูเหมือนพวกเราจะไปส่งนายที่ศูนย์ใหญ่ไม่ได้น่ะ” ลูฟี่โผล่พรวดมาจากด้านหลังของเขาพร้อมเนื้อย่างในมือจำนวนหนึ่ง ซันจิขมวดคิ้ว มองร่างเล็กๆซึ่งยืดตัวเองมายืนอยู่ข้างหน้าเขาอย่างรวดเร็ว

     

              “มีอะไรเกิดขึ้นรึไง?

     

              “ก็นะ..คือว่า” ลูฟี่มีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย เสียงหัวเราะแห้งๆดังขึ้นในเวลาต่อมา

     

    “มีภารกิจด่วนที่เกาะโยสึบะน่ะสิ!~ เหมือนจะมีการจับนักล่าค่าหัวไว้หรือยังไงนี่ล่ะ เลยต้องไปดูซักหน่อย ชิชิชิ”

     

    ดูเหมือนงานทหารเรือคงหนักไม่ใช่เล่น..อยู่ดีๆก็มีภารกิจด่วนแบบนี้เลยหรือ?

     

    “ก็ได้ เอาเป็นว่าฉันจะไปช่วยงานในครัวแล้วกัน”

     

    “โอ้!

     

    “ฝากด้วยนะซันจิ!” อุซปป้องปากตะโกนก่อนกระโดดกอดคอลูฟี่เดินไปยังห้องพักส่วนตัวของผู้เป็นกัปตันเรือ ซึ่งในที่นี้ก็คือลูฟี่นั่นเอง

     

    “สุดท้ายหมอนั่นก็ยอมมากับนายจนได้สิเนี่ย” เพื่อนจมูกยาวถอนหายใจ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่ภัตตาคารลอยทะเลนั่นทำให้เขาได้คุยกับซันจิมากขึ้น จึงเลิกอคติกับอีกฝ่ายได้แล้ว (ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นพวกอันธพาลเกเรน่ะ)

     

    “ฉันเจ๋งใช่มั้ยล่ะ!

     

    “ขอทีเถอะเจ้าบ้า อย่าหาคนประหลาดๆเข้าหน่วยเลยนะ” แค่นายคนเดียวก็ประหลาดเกินพอแล้ว เรือตรีหนุ่มคิดในใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

     

    “ประหลาด? เหมือนนายน่ะเหรอ?

     

    “นายต่างหากที่ประหลาดเฟ้ย!!

     

    ลูฟี่หัวเราะร่าพลางล้มตัวลงนอนบนที่นอนของตัวเอง เหม่อมองเพดานพลางหยิบหมวกฟางขึ้นมาตั้งไว้บนอก นัยน์ตาสีรัตติกาลปิดลงด้วยความเหนื่อยล้า อุซปที่เห็นดังนั้นก็เงียบไปพร้อมกับเดินไปนั่งที่โซฟาซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเตียงมากนัก ลูฟี่คงต้องการเวลาพักผ่อน..

     

    เด็กหนุ่มบนเตียงยกหมวกฟางที่ตนแสนรักแสนหวงขึ้นมาปิดหน้า

     

    ริมฝีปากเหยียดเป็นเส้นตรง

     

    “ฉันได้เพื่อนเพิ่มอีกแล้วนะ แชงคูส”

     

     

     

     

    ----|----|----|----|----

     


    สรุปโซโลโผล่มาไม่ทันค่ะ 5555555

    เอาไว้เจอกับโซโลตอนหน้านะคะ สปอยไว้ก่อนว่าโซโลคือลูกเรือคนแรกของลูฟี่ทั้งในอนิเมะและในฟิคเรื่องนี้ค่ะ ฮุฮิ

    ขอโทษถ้ารวบรัดเรื่องเกินไป TT คือเราอยากให้มันดำเนินเรื่องให้เร็วที่สุด เพราะเนื้อเรื่องในอนิเมะทุกคนคงทราบกันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็ดำเนินไปตามนั้นเลยค่ะ ;-;

    ไว้เจอกันวันเสาร์(หรืออาจอาทิตย์?) ถ้าพบเจอคำผิดของบอกได้นะคะ ><

     

     

     

     

     

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×