ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (one piece) straw hat mariner | ทหารเรือเดอะซีรีย์ (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 03 :: หนึ่งวันกับปีศาจสวรรค์สีชมพู

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 61



     


     

     

     

             นี่เขามาถูกห้องใช่มั้ย..?

     

              ร่างบางคิดในใจพลันเหลือบตาไปมองห้องพักสำหรับแขกขนาดใหญ่ที่ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใดๆในนี้ ไม่มีแม้แต่เจ้าตัวการที่ทำให้เขาต้องมาอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ ลูฟี่เดินเตาะแตะไปนั่งลงบนโซฟา คิดเพียงว่าอีกไม่นานเดี๋ยวอีกฝ่ายก็คงมานั่นล่ะ..แต่ถ้านัดเขาไว้แล้วไม่มาล่ะก็น่าดู! เขาไม่อยากรออยู่ที่นี่ทั้งวันหรอกนะ!

     

              “โอ๊ะ! มีลูกอมด้วย!” เจ้าตัวเล็กตาวาวเมื่อเห็นโหลใส่ลูกอมบนโต๊ะรับแขก

     

              แต่เดี๋ยวก่อนนะ..เจ้าควันบอกห้ามรับลูกอมจากโดฟลา— เอ ชื่อไรนะ? ช่างเถอะ

     

              มือที่กำลังเอื้อมไปหยิบโหลนั่นขึ้นมาชะงักไปในทันที ลูฟี่ถอนหายใจ พยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้หันไปมองมันสุดชีวิต สุดท้ายแล้วก็จบลงด้วยการเผลอหลับบนโซฟาระหว่างรอปีศาจสวรรค์ที่ว่านั่น

     

              ท่ามกลางความเงียบสงัดเพราะแขกตัวเล็กได้ตกลงไปในห้วงนิทราเรียบร้อยแล้ว ประตูห้องรับรองถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงใหญ่เหนือมนุษย์ของชายคนหนึ่ง ทั้งการแต่งตัวที่มีเอกลักษณ์และใบหน้าคมคายซึ่งประดับไปด้วยแว่นกันแดดรูปทรงแปลกๆ ไม่ว่าใครที่มาเห็นชายคนนี้ก็ต้องหลบตาแทบไม่ทัน..

     

              เขาขึ้นชื่อในในเรื่องความเจ้าเล่ห์และความอันตรายที่ยากจะหยั่งถึง

     

             ปีศาจสวรรค์ โดฟลามิงโก้

     

              ชายวัยสามสิบตอนปลายเดินไปหยุดอยู่ที่โซฟา มองเด็กหนุ่มซึ่งกำลังนอนหลับฝันดี..สังเกตได้จากใบหน้าที่เปื้อนยิ้มตลอดเวลานั่น

     

             ดูบริสุทธิ์ซะจน..อยากทำลายทิ้งซะเดี๋ยวนั้น

     

              “นี่น่ะเหรอน้องชายของไอพวกเด็กเปรตนั่น ฟุฟุฟุ” ไล่สายตามองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ร่างเล็กๆของเด็กหนุ่มในชุดลำลองที่ไม่มีเสื้อโค้ทสีขาวของทหารเรือคลุมไหล่เหมือนทุกที ไม่รู้ทำไม..แต่เขารู้สึกว่าเด็กนี่เหมาะกับการแต่งตัวสบายๆอย่างนี้มากกว่าตอนที่คลุมด้วยโค้ทนั่น

     

              เคยได้ยินว่าเจ้าหมวกฟางเป็นตัวปัญหาสุดๆ ในบางครั้ง..แม้แต่กองทัพเรือก็ไม่สามารถควบคุมเจ้านี่ได้ ชอบทำอะไรตามใจตัวเองโดยไม่สนกฎเกณฑ์อะไรทั้งสิ้น ไม่ชอบทำตามคำสั่งใครหรือเป็นลูกน้องใคร แค่ทุกวันนี้ยอมเชื่อฟังจอมพลเซ็นโงคุกับพลโทการ์ปบ้างก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์มากแล้ว

     

    นิสัยแบบนี้..เจ้านี่ควรจะเป็นโจรสลัดมากกว่าทหารเรือด้วยซ้ำ

     

              ตั้งแต่ตอนเจอกันเมื่อวาน..ทันทีที่พบหน้าก็จำได้ทันทีว่าเป็นเด็กหมวกฟางคนเดียวกับที่เจอเมื่อ 3 - 4 ปีก่อนตอนที่เขาไปเยี่ยมตาแก่การ์ปที่ฝึกพวกว่าที่ทหารเรืออยู่ ยอมรับว่าสนใจในตัวเด็กที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหลานของตาแก่สัตว์ประหลาดนั่นอยู่นิดหน่อย ตั้งใจจะเข้าไปล่อลว— เอ้ย ไปคุยเล่น แต่พอไปถึงก็เจอกับพี่ชาย 2 คนของมันที่เอาแต่กันไม่ให้เขาเข้าไปคุยกับเจ้าตัวเล็กท่าเดียว และหลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเพราะเขาไม่ได้เดินทางมายังศูนย์บัญชาการนี่อีกพักใหญ่

     

              อีกสาเหตุคือไอเด็กเปรตที่ชื่อเอสกับซาโบนั่น

     

              พวกมันเอาแต่คอยขัดขวางไม่ให้เขาเดินทางมาพบเจ้าลูฟี่ได้โดยการก่อเรื่องวุ่นวายในเดรสโรซ่าไม่หยุดตลอดระยะเวลาที่ว่างเว้นจากภารกิจของกองทัพเรือ

     

              และวันนี้ก็ราวกับฟ้าเป็นใจ..ในที่สุดไอเด็กพวกนั้นก็ไม่อยู่เป็นก้างขวางคอซักที!!

     

              “แก ไอหมวกฟาง ตื่นได้แล้ว” หิ้วคอเสื้อมันขึ้น มองใบหน้าสะลึมสะลือกึ่งหลับกึ่งของมันก็ถึงกับต้องหัวเราะในลำคอเบาๆ ลูฟี่ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก มองร่างของตัวเองที่ถูกยกลอยอยู่เหนือโซฟาด้วยมือเพียงข้างเดียวด้วยตาที่เบิกกว้าง

     

              “เห้ย! ปล่อยนะ!ใครมันกล้าทำกับเขาแบบนี้..

     

              ว่าแล้วก็พาลนึกย้อนไปถึงภารกิจที่ได้รับมอบหมายมา..มาดูแลเจ้าของห้องนี้ เจ้าของห้อง? หรือคนที่หิ้วเขาอยู่จะเป็นเจ้ามิงโก้อะไรนั่น?

     

              เงยหน้าขึ้นมองคนที่หิ้วตนอย่างกับลูกแมว ผมสีทองถูกตัดจนสั้นเกรียน ผิวคล้ำสีแทนดูมีเสน่ห์..ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนตรงหน้าเขาค่อนข้างดูดีอยู่พอสมควร เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังคิดอะไรอยู่เนื่องจากแว่นกันแดดรูปทรงประหลาดที่บังนัยน์ตาคู่นั้นเอาไว้ ส่วนสูงที่ชะลูดกว่ามนุษย์มนาปกติทำให้อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขายืนคงต้องเงยหน้าคุยจนเมื่อยคอ

     

              แล้วชุดนั่นมันบ้าอะไร..หน้าตาอย่างเจ้านี่ชอบสีชมพูเรอะ

     

             ตลกดีแฮะ ชิชิชิ

     

              “ชิชิชิ แกคือมิงโก้เหรอ?

     

              ผู้มีศักดิ์เป็นหนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัดเลิกคิ้วขึ้นสูง “มิงโก้? โดฟลามิงโก้ต่างหาก..เรียกให้ถูกหน่อยเจ้าหมวกฟาง” ลูฟี่มีสีหน้างงงวยปนสับสน

     

              “โด— โด— มิงโก้!

     

             ดูเหมือนมันจะเรียกยากไปสำหรับเจ้าหนูนี่

     

              ตั้งแต่เกิดมาจนนี่ก็ 39 ปีไปแล้ว หนุ่มใหญ่พึ่งจะมารู้สึกเสียใจที่พ่อตั้งชื่อเขาให้ยาวกว่าชาวบ้านก็ครานี้

     

              แต่ชื่อโดฟลามิงโก้นี่เรียกยากตรงไหน? ที่ผิดปกติคงไม่ใช่ชื่อเขา..แต่เป็นสมองเจ้าเด็กนี่มากกว่า

     

              “กินลูกอมซะสิ ฉันเตรียมมาเพื่อแกโดยเฉพาะ” ยื่นโหลลูกอมบนโต๊ะให้เจ้าตัวเล็กซึ่งกำลังทำหน้าเหมือนฝืนอะไรอยู่ มือเล็กๆคู่นั้นทำท่าจะยื่นมารับหลายรอบแต่สุดท้ายก็ชักมือกลับอย่างน่าสงสัย

     

              “เป็นอะไรไป ไม่กินรึไง?

     

              “เจ้าควันบอกห้ามรับลูกอมจากแก”

     

              “หา? เจ้าควัน!?” ใครวะ มั่นใจว่านั่นคงเป็นชื่อที่เจ้านี่ตั้งให้ทหารเรือซักคนแน่ๆ คงไม่มีใครมันบ้าตั้งชื่อลูกว่าควันหรอก

     

              ลูฟี่มีสีหน้าครุ่นคิดเหมือนกำลังนึกว่าชื่อจริงของเจ้าควันที่เขาเรียกมาตลอดนั้นชื่อว่าอะไรกันแน่ “สโมก— สโมกเกอร์” ปากบางเป็นกระจับพึมพำชื่อนั้นด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ โดฟลามิงโก้คิ้วกระตุก..ไอเจ้าสโมกเกอร์นี่ บังอาจมากันท่ากันรึ!?

     

              “ฉันรับลูกอมจากแกไม่ได้”

     

              “อย่าไปฟังมันให้มากนัก”

     

              “เอ๋? ทำไมอ่ะ”

     

              คนอายุมากกว่าไม่ตอบแต่กลับแบกเจ้าตัวเล็กขึ้นนั่งบนไหล่ ความคิดและแผนการมากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัว..จับตัวไปเรียกค่าไถ่จากตาแก่เฮงซวยนั่นดีมั้ยนะ? หรือเขาควรลักพาตัวมันไปขังไว้ที่เดรสโรซ่าดี?

     

              โครก..

     

              ไม่ใช่เสียงท้องเขาร้อง..นัยน์ตาคมกริบภายใต้แว่นกันแดดทรงประหลาดมองไปยังคนตัวเล็กซึ่งนั่งอยู่บนบ่าแทบจะในทันที เจ้าตัวยิ้มเก้อ

     

              “ฉันหิวอ่ะ อยากกินเนื้อ”

     

              ความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในหัว

     

              “โอเค งั้นฉันจะพาแกไปกิน”

     

              เชื่อเลยว่าถ้าพวกลูกน้องที่เดรสโรซ่ามาเห็นเขาเลี้ยงข้าวเด็กแบบนี้ได้ตกใจจนหัวใจวายตายแน่ๆ

     

     

     

     

     

              อีกฟากหนึ่งของศูนย์บัญชาการใหญ่กองทัพเรือ..

     

              “พลโทการ์ป! พลโทการ์ป! แย่แล้วครับ!” นายทหารเรือยศพันจ่าโทคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องรับรองหน้าตาตื่น การ์ปจำได้ลางๆว่าอีกฝ่ายเป็นคนคอยตามดูแลและเช็ดล้างปัญหาที่ลูฟี่สร้างเวลาออกเรือ

     

              สีหน้าร้อนรนนั่นชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าในห้องรับรองไม่ได้มีเพียงพลโทการ์ป แต่มีจอมพลเซ็นโงคุ และพลเรือเอกทั้งสามนั่งอยู่ด้วย

     

              “อ้าว—พันจ่าโท..ชื่ออะไรแล้วนะ?

     

              อุซปครับ! พันจ่าโทอุซปครับ!

     

              “อ้อ— เธอคือคนที่เจ้าหนูนั่นไปช่วยไว้ที่หมู่บ้านไซรัปในเกาะเกคโคสินะ? คุณหนูคายะสบายดีมั้ย?” จอมพลเซ็นโงคุเป็นคนกล่าวทักทายด้วยสีหน้าเป็นมิตร สาเหตุที่เขาจำหน้าพันจ่าโทคนนี้ได้ก็คงจะเป็นเพราะจมูกยาวๆที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์นั่น ไหนจะประวัติที่ไม่ธรรมดาอย่างการเป็นลูกชายของยาซป..ลูกเรือของผมแดงแชงคูสนั่นก็อีก

     

              “เธอสบายดีครับ ส่งจดหมายมาเล่าเรื่องที่นั่นทุกวันเลย”

     

              อุซปถูกลูฟี่ช่วยเหลือจากกลุ่มโจรสลัดคุโระเมื่อประมาณปีก่อน จนกระทั่งเจ้าตัวตัดสินใจตามลูฟี่มาที่ศูนย์บัญชาการใหญ่และสมัครเป็นทหารเรือ หลังจากนั้นไม่นานก็จบออกมาเป็นพันจ่าโท และเป็นช่วงเดียวกับที่ลูฟี่ได้เลื่อนขั้นเป็นนาวาเอก ดูเหมือนเจ้าตัวจะพยายามตามตื๊อลูฟี่ให้รับตัวเองเป็นลูกเรือให้ได้ แต่ไม่รู้ทำไมลูฟี่ถึงเอาแต่ปฏิเสธอยู่ร่ำไป

     

    แม้สุดท้ายแล้วการ์ปจะใจดีย้ายลูฟี่ให้ไปประจำเป็นผู้บัญชาการหน่วยที่เขาสังกัดอยู่ก็เถอะ

     

              “มีอะไรล่ะ เจ้าลูฟี่กินเสบียงของ 1 ปีหมดหรือว่าเผลอซัดนักโทษปลิวล่ะ?

     

              การ์ปถามติดตลก

     

              “เสบียงของ 1 ปีพึ่งหมดเพราะนาวา— ไม่ใช่สิครับ!!

     

              “แล้วอะไร?

     

              “ลูฟี่..เอ้ย! นาวาเอกลูฟี่ครับ!

     

              ทุกคนในห้องหันไปมองชายหนุ่มผู้พูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย พันจ่าโทผู้มาแจ้งข่าวร้ายกลืนน้ำลายลงคอก่อนรีบพูดสาเหตุที่ทำให้ตนต้องวิ่งขาลากมาที่นี่อย่างรวดเร็ว

     

              “นาวาเอกลูฟี่ถูก 7 เทพโจรสลัดโดฟลามิงโก้ลักพาตัวไปแล้วครับ!!!

     

              “หา!!??

     

     

     

    ----|----|----|----|----

     

     

     

              ลูฟี่เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่ไม่น่าไว้ใจนั่นสลับกับอาหารมากมายที่ถูกจัดเรียงไว้บนโต๊ะอย่างสวยงาม เขามีสีหน้าลังเล..เมื่อไม่กี่นาทีก่อนจู่ๆเขาก็โดนเจ้านกบ้านี่จับอุ้มพาดบ่าแล้วพามายังภัตตาคารลอยทะเลสุดหรูในทะเลอีสท์บลูซึ่งอยู่ห่างไกลจากศูนย์บัญชาการอยู่พอสมควร แถมยังสั่งอาหารมาให้ซะมากมายจนน่าสงสัย

     

              มันวางยาพิษเขาปะเนี่ย

     

              แต่ก็..ช่างเถอะ

     

              ลงมือสวาปามอาหารพวกนั้นเข้าปากอย่างรวดเร็ว ดูก็รู้ว่าคงแพงไม่ใช่เล่น แต่ใครสนกัน? เจ้านั่นเป็นคนสั่งก็ต้องเป็นคนจ่ายสิ! เขาแค่กินไปก็พอ!

     

              ฝ่ายโดฟลามิงโก้ก็เริ่มสอดส่องสายตามองไปยังรอบๆภัตตาคารลอยทะเลแห่งนี้ ดูเหมือนคนพวกนี้ทั้งลูกค้าและพนักงานจะยังไม่ทันสังเกตว่าเขาเป็นใคร..คงเพราะเขาถอดชุดคลุมฟูๆสีสันสดใสนั่นไปล่ะมั้ง (คนส่วนใหญ่จำเขาได้เพราะมัน)

     

    ที่นี่เป็นภัตตาคารที่ดังที่สุดในทะเลอีสท์บลู เวอร์โก้..ลูกน้องคนสนิทของเขาเคยมากินที่นี่และแนะนำเขามา พอเจ้าเด็กนั่นบ่นว่าหิวเลยถือโอกาสพามาซะเลย

     

              บริการจัดอยู่ในระดับที่ดีถึงดีมาก ประวัติที่นี่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้..อย่างเรื่องที่เชฟใหญ่เคยเป็นโจรสลัดฝีมือดีมาก่อน หรือเรื่องที่บรรดาพ่อครัวและพนักงานเสิร์ฟที่นี่มีฝีมือการต่อสู้อยู่พอสมควร

     

              “แกนี่กินจุเหมือนที่ข่าวลือบอกเลยนะ”

     

              “อันไอ้ไอ้เอื้องอ่องแอ (มันไม่ใช่เรื่องของแก)”

     

              “ฉันขอให้แกตายเพราะอาหารติดคอ”

     

              “อ่าแอ้งอี้! (อย่าแช่งซี่)”

     

              “ฟุฟุฟุ” โดฟลามิงโก้หัวเราะด้วยเสียงน่าขนลุก มองคนตรงหน้าที่เอาแต่กินไม่หยุด..ไหนก่อนหน้านี่บอกว่าเจ้าสโมกเกอร์นั่นไม่ให้รับลูกอมจากคนแปลกหน้าไง? หรือสิ่งที่มันคิดก็คือเจ้าควันนั่นห้ามไม่ให้รับลูกอม แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้รับของกินอย่างอื่น?

     

              ช่างเป็นเด็กที่ซื่อ(บื้อ)ซะจนน่าเป็นห่วง

     

              “แล้วแกไม่กินเหรอ ชิชิชิ”

     

              โดฟลามิงโก้ทำหน้าเอือมระอาอย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน

     

              “พึ่งนึกได้รึไง แกคิดอะไรถึงชวนตอนที่แกกินหมดเกลี้ยงแล้ว?

     

              “โอ้ โทษทีนะ ชิชิชิ” อยู่กับเจ้าหนูนี่ไม่กี่ชั่วโมงแต่กลับรู้สึกเหมือนอายุขัยสั้นลงไปหลายสิบปี มองสีหน้ามีความสุขของเจ้าเด็กบ้าซึ่งกำลังตีพุงป่องๆของตัวเองเล่น เจ้าหนูนี่มันน่าสนใจตรงไหน? ทำไมก่อนหน้านี้เขาถึงได้สนใจและอยากเจอเจ้าเด็กนี่นักหนา?

     

             เฮอะ ก็แค่เด็กตะกละ

     

             ก็แค่เด็กซนๆคนนึง

     

             ก็แค่ยิ้มเก่ง

     

             ก็แค่ชอบหัวเราะเสียงประหลาด

     

             ก็แค่น่ารัก..

     

              หนุ่มใหญ่ยกมือขึ้นมาปิดใบหน้าของตัวเอง อา...ดูเหมือนเขาจะเป็นบ้าไปแล้ว ทำไมความคิดพรรค์นั้นถึงมาอยู่ในหัวของเขาได้นะ? เพราะไอเด็กนี่เหรอ?

     

              จะว่าไปสิ่งที่เขาทำอยู่นี่มันคือการลักพาตัวใช่มั้ย?

     

              ป่านนี้พวกตาแก่นั่นคงกำลังหัวหมุนกันน่าดู สะใจเป็นบ้า!!

     

              “ฟุฟุฟุ รู้มั้ยว่าตัวเองกำลังถูกลักพาตัวน่ะเจ้าหมวกฟาง” หันไปถามเจ้าคนที่มีสีหน้าเคลิ้มกับอาการอิ่มแปล้ด้วยรอยยิ้มน่าขนลุก ใบหน้าน่ารักหันมามองคนที่เลี้ยงอาหารตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนชะงักพร้อมกับค่อยๆเผยสีหน้าเหมือนตัวเองพึ่งทำสิ่งที่พลาดที่สุดในชีวิตลงไป

     

              “เออว่ะ! ฉันโดนแกลักพาตัวไปมานี่!!

     

             พึ่งรู้ตัวเรอะ!!

     

              โดฟลามิงโก้มีสีหน้าหนักใจกับความรู้สึกช้าของเจ้าเด็กนี่แทบจะในทันที นี่มันซื่อบื้อกว่าที่เขาคิดไว้ซะอีก..แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอก

     

             ก็น่ารักไปอีกแบบ

     

             นี่เขาคิดอะไรอีกแล้ว? สงสัยคงเพราะเมื่อคืนนอนไม่พอแน่ๆ

     

              “แต่ช่างมันเถอะ แกเลี้ยงข้าวฉันแล้ว! ฉันให้อภัย!

     

             อะไรของเจ้าเด็กนี่..

     

              “แกนี่เป็นคนดีจังเลยนะ ชิชิชิ”

     

             คิดว่ายิ้มแบบนั้นมันน่ารักมากรึไง

     

              ...

     

             เออ! มันน่ารัก! ฟุฟุฟุ

     

              “ทำหน้าแบบนี้อยากให้ฉันจับแกขังไว้ในห้องไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันรึไง” ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อปากพล่อยๆของตัวเองเผลอพูดสิ่งที่คิดออกมา บ้าจริง..มันได้มองเขาว่าเป็นตาแก่โรคจิตชอบหลับนอนกับเด็กเป็นชีวิตจิตใจแน่ๆ

     

    (มันไม่จริงเลยซักนิด! เด็กคนเดียวที่เขาอยากนอนกกก็คือเจ้านี่เท่านั้น! ไม่ใช่ว่าจะชอบเด็กทุกคนซักหน่อย!)

     

              ชักกลัวกับความคิดของตัวเองเข้าไปทุกที..โดฟลามิงโก้ที่แค่กระดิกนิ้วผู้หญิงก็วิ่งแจ้นเข้ามาเอาอกเอาใจอย่างเขากำลังสนใจเจ้าเด็กกะโปโลนี่?

     

             ดูเหมือนหิมะคงใกล้จะตกที่อลาบาสต้าเต็มทีแล้วล่ะ

     

              “หวา! ไม่เอาหรอก! แต่ถ้าแกเลี้ยงข้าวฉันก็โอเคนะ!” พูดจาแบบนั้นพร้อมรอยยิ้มร่า..นี่มันไม่ต่างกับยื่นปลาทูให้นกเลยไม่ใช่หรือ?

     

              “งั้นฉันจะพาแกไปเดรสโรซ่าดีมั้ย แล้วพวกเราจะไปมีความสุขกันที่นั่น..”

     

              “เดรสคุณย่า?

     

              “เดรสโรซ่า! เออ..นั่นล่ะ ฉันสัญญาว่าจะเลี้ยงข้าวแกอย่างดี” นกชมพูพูดจาล่อลวงเด็กน้อยไร้เดียงสาซึ่งกำลังมีสีหน้าสนใจคำชวนนั้น ใบหน้าคมคายฉีกยิ้มกว้างพอใจกับปฏิกิริยาของอีกฝ่ายและเริ่มพูดจาหลอกล่ออีกครั้ง

     

              “จะไม่ปล่อยให้แกอดอยาก”

     

              “....”

     

              “จะให้อาหารแกครบ 3 มื้อ ไม่สิ.. 5 มื้อก็ได้”

     

              “....”

     

              “พอแกกินอิ่มก็จะจับแกกินทั้งตั—“

     

              ผลั่วะ!! โครม!!!

     

              ร่างสูงใหญ่เหนือมนุษย์ถูกเตะปลิวไปกระแทกกับกำแพงจนเป็นรูโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวทัน ชายคนหนึ่งในชุดสูทสีดำยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ข้างๆโต๊ะที่ลูฟี่นั่งอยู่ ขาที่ยกขึ้นค้างไว้ข้างหนึ่งของเจ้าคนแปลกหน้านี่เป็นหลักฐานชิ้นดีที่บ่งบอกว่ามันคือคนที่บังอาจเตะเขาจนปลิว ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วน่าจะอายุซักประมาณ 19 หรือ 20 ปี ผมสีเหลืองกับคิ้วม้วนๆนั่นดูกวนบาทาอย่างน่าประหลาด

     

              โดฟลามิงโก้กัดฟันกรอด ใบหน้าคมขึ้นสีแดงจัดด้วยความโกรธเกรี้ยวที่ใกล้จะระเบิดออกมาราวกับภูเขาไฟที่รอเวลาปะทุ เพราะมันเล่นทีเผลอถึงได้กลายเป็นแบบนี้..ไม่งั้นเขาคงไม่พลาดท่าโดนเตะง่ายๆแน่ แต่ประเด็นก็คือ..

     

             ไอบ้านี่มันกล้าดียังไงถึงมาเตะเขา?

     

             ..มันไม่รู้เสียแล้วว่าเขาเป็นใคร

     

              และความโกรธของเขามันก็ยิ่งเดือดมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อไอคนแสนอวดดีนั่นเปิดปากพูดออกมา

     

             “ถึงไอหมอนั่นจะไม่ใช่เลดี้ แต่ขอเถอะ ลุง.. อายุก็ปูนนี้แล้วอย่ามาคิดวิปริตล่อลวงเด็กผู้ชายไม่บรรลุนิติภาวะไปกินตับเลย ฉันรับไม่ได้จริงๆว่ะ ถ้าโดนจับเข้าซังเตขึ้นมาร้านฉันไม่มีบริการจัดส่งข้าวแดงนะเฟ้ย”

     

     

     

     

     

    ----|----|----|----|----

     


     

    จะมาขอชี้แจงล่วงหน้าเรื่องยศของทหารเรือในเรื่องค่ะ

    ถ้าเอาตามหลักแล้ว การจะเป็นทหารเรือคือต้องผ่านการเรียนในโรงเรียนเตรียมทหารก่อนแล้วก็มีประสบการณ์การทำงานบลาๆๆๆถึงจะได้เลื่อนยศ ซึ่งในเรื่องนี้ เอส ซาโบ และลูฟี่ผ่านมาแล้ว

    แต่พอดีเราต้องการเร่งรัดเนื้อเรื่องไม่อยากให้มันยืดเยื้อ (ถ้าลูฟี่ได้ลูกเรือปุ๊บ แล้วต้องส่งลูกเรือไปโรงเรียนเตรียมทหารหลายปี คิดว่าอีกนานกว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินไปถึงภาคปัจจุบันของอนิเมะ ไหนจะลูกเรือที่จะเจอในแกรนด์ไลน์อีก 5555555)

    สุดท้ายเราเลยตัดสินใจดัดแปลงอะไรเล็กๆน้อยๆในเรื่องนี้ (หรือก็คือไม่ยึดตามหลังความจริง เอาให้มันสมกับที่เป็นนิยายซักหน่อย) ก็คือ


    ผู้ที่มียศนาวาเอกขึ้นไปจะมีลูกเรืออยู่ 2 ประเภท

    1. ลูกเรือที่กองทัพเรือจัดสรรไว้ให้ ก็คือทหารเรือที่ประจำอยู่ในหน่วยต่างๆซึ่งนาวาเอก(หรือก็คือกัปตัน)จะถูกบรรจุให้ไปประจำหน่วยนั้นๆเพื่อคอยสั่งการ และอาจถูกโยกย้ายไปประจำหน่วยอื่นได้ในภายหลัง

    2. ลูกเรือที่ตนเลือกเอง เป็นลูกเรือที่จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง ไม่ว่ากัปตันจะถูกย้ายไปประจำหน่วยไหนตนก็จะถูกย้ายตามไปประจำหน่วยนั้นด้วย

    (ในประเภทนี้นั้นถ้ากัปตันเลือกจากคนที่เป็นทหารเรืออยู่แล้วก็แล้วไป แต่ถ้าดันไปเลือกคนที่ไม่ได้เป็นหรือเป็นโจรสลัดขึ้นมาจะต้องมีการส่งไปศึกษาระเบียบวินัยของทหาร และผ่านการทดสอบฝีมือเพื่อวัดระดับว่าฝีมือแบบนี้ควรได้ยศอะไร ถึงจะสามารถมาเป็นลูกเรือได้)


    แน่นอนว่าอุซปคือประเภทที่ 1 ค่ะ แต่พวกโซโลที่จะมาหลังจากนี้จะเป็นประเภทที่ 2

    ตอนหน้าเจอกันกับซันจินะคะ (และอาจจะเจอกับโซโลด้วย) ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจค่า~


    ***แก้ยศของอุซปจากเรือตรีเป็นพันจ่าโทค่ะ

     

     

     

     

    S
    N
    A
    P
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×