คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : (sf) The Devil's Trap [intro] – Law x Luffy
title :: The Devil's Trap
pairing :: Law x Luffy
author :: daydreamツ
request by :: -
notes :: ตอนแรกตั้งใจว่าจะลงเรื่องนี้ปีหน้า
แล้วทยอยแต่งฟิคที่รีดเดอร์รีเควสก่อน แต่ไม่ไหวจริงๆค่ะ ;-; สมองตันมากๆ เคลียร์รีเควสที่ดองๆไว้ไม่จบซักที
(หรือบางเรื่องแต่งได้นิดหน่อยก็ตันซะงั้น..) เอาเป็นว่าอ่านเรื่องนี้ไปก่อนนะคะ T^T
----|----|----|----|----
ในปี
N.E.
2020 (New World Era 2020) ทั่วทั้งโลกได้ตกอยู่ในสภาวะสงครามของสองมหาอำนาจในโลก
จักรวรรดิแกรนด์ไลน์ [Grandline Empire] และสหพันธรัฐออลบลู [The
Allblue Federation] ผู้คนมากมายบาดเจ็บล้มตายจากสงคราม
ไร้ซึ่งที่อยู่อาศัย อาหารและน้ำขาดแคลน โรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า และก่อให้เกิดการจลาจล
สาเหตุของสงครามคือการตายของ โบอา แฮนค็อก พระชายาในองค์ชายรัชทายาทของจักรวรรดิแกรนด์ไลน์ซึ่งเป็นฝีมือของบุคคลจากสหพันธรัฐผู้ลอบปลงพระชนม์พระชายาและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
เหล่าประชาชนโกรธแค้น..องค์จักรพรรดิและองค์ชายรัชทายาทจึงจับดาบขึ้นสู่ ก่อเกิดสงครามที่ยิ่งใหญ่จนทั่วโลกต้องสั่นสะเทือน
ไม่มีใครรู้ว่าสงครามจะจบลงเมื่อใด
อาจจะจนกว่าความโกรธแค้นของจักรวรรดิแกรนด์ไลน์จะทุเลาลง
หรืออาจจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแพ้พ่ายไป
แต่นั่น..คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวบทหนึ่งในชีวิตของชายผู้ตกอยู่ในความมืดมนมานานกว่าหลายสิบปี
ชายหนุ่มผู้เติบโตมาในฐานะบุตรชายของนายทหารผู้ยิ่งใหญ่ ชายหนุ่มผู้ได้รับขนานนามว่า
‘ศัลยแพทย์แห่งความตาย’
ชายหนุ่มเดินขึ้นบันไดด้วยการก้าวเท้าที่สม่ำเสมอ
เขาสวมชุดเครื่องแบบทหารของสหพันธรัฐออลบลูซึ่งเป็นเครื่องแบบสีดำสนิท
บนบ่าประดับด้วยอินทรธนูบอกยศและพู่ประดับมากมาย ผมสีดำสนิทถูกปกคลุมด้วยหมวกขนสัตว์ลายจุดดูโดดเด่น
แม้มันจะไม่เข้ากับเครื่องแต่งกาย..แต่ก็ไม่มีใครกล้าวิจารณ์หรือติฉินนินทาชายหนุ่มผู้มียศศักดิ์เป็นถึงพลโทแห่งกองทัพสหพันธรัฐออลบลู
ทราฟาการ์
ดี วอเตอร์ ลอว์ คือชายหนุ่มรูปร่างสูงผู้มีใบหน้าหล่อคมคายราวกับนายแบบในนิตยสาร
นัยน์ตาสีดำคมกริบราวกับสัตว์ป่าดูเข้ากับโครงหน้าเรียวซึ่งประกอบด้วยสันกรามโดนเด่น
จมูกโด่งเป็นสัน กับริมฝีปากหนาที่ไม่ได้ดำคล้ำเนื่องจากไม่คิดสูบบุหรี่
ไม่ว่าใครที่เห็นเขาต่างก็พากันหลบสายตาด้วยความกลัวทั้งนั้น
เขาจ้องมองแผงควบคุมขนาดเล็กซึ่งประดับอยู่ตรงทางเข้าศูนย์บัญชาการใหญ่
ไม่รอช้าก็ใส่รหัสระบุตัวตนลงไป..ไม่นานประตูเหล็กก็เปิดออก เขาเดินเข้าไปอย่างสง่าผ่าเผย
ภายในนั้นมีคนใหญ่คนโตของกองทัพนั่งอยู่บนเก้าอี้นวมสีแดงสด สายตาของพวกเขาจับจ้องมายังคนมาใหม่
ลอว์โค้งตัวทำความเคารพตามมารยาทที่พึงมีเล็กน้อย
สายตาจับจ้องไปยังเด็กชายแปลกหน้าซึ่งยืนอยู่ข้างๆชายร่างสูงผู้กำลังสูบซิการ์โดยที่ไม่ได้สนใจเขามากนัก
“มาแล้วหรือพลโททราฟาการ์” ชายชราคนหนึ่งทักเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขาขานรับในลำคอเบาๆก่อนไปยืนประจำที่เพื่อรายงานการทำงานของคนในกองทัพ
สังเกตได้ว่าเด็กหนุ่มตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ ครอคโคไดล์
เหลือบมองมาที่เขาหลายรอบจนเขาชักจะเริ่มหงุดหงิด
ระหว่างการรายงานจึงตวัดสายตามองเด็กคนนั้นราวกับกำลังว่ากล่าวตัดเตือนทางสายตาเป็นระยะ
“นอกจากทัพที่บุกมาทางใต้เมื่อวันก่อน..ศัตรูยังไม่มีการบุกโจมตีเพิ่มเติมครับ
ดูเหมือนว่าพวกมันจะมีแผนการบางอย่าง สังเกตได้จากที่เงียบเกินไปจนน่าสงสัย”
“งั้นหรือ—
พวกมันคงวางแผนไว้ดีทีเดียว”
“รวมถึงการเคลื่อนไหวของหมัดอัคคีก็ดูจะแปลกๆไปเล็กน้อย
เมื่อ 3 วันก่อนมันบุกมาที่นี่แต่ไม่ได้ฆ่าหรือก่อความเสียหาย และไม่นานมันก็จากไป”
ทุกคนในห้องประชุมพยักหน้ารับเงียบๆ
มันแปลกจริงๆที่หนึ่งในผู้นำทัพผู้ยิ่งใหญ่ของฝ่ายศัตรูบุกมาแต่พวกเขากลับไม่รู้ตัว
แม้มันจะไม่ได้ฆ่าหรือก่อความวุ่นวายใดๆ แต่นั่นก็ถือเป็นจุดที่น่าสงสัยอย่างหนึ่ง
“แกยังทำให้ได้ดีเหมือนเดิมเลยนะพลโท”
เขายักไหล่ ไม่ได้สนใจคำพูดของพ่อเลี้ยงของตัวเองอย่างโดฟลามิงโก้มากนัก
ก่อนหน้านี้เขาพึ่งได้รับคำสั่งให้ไปกำจัดศัตรูที่บุกมาจากทางทิศใต้
โชคดีที่มันไม่ได้เป็นทัพหลัก..ดังนั้นเขาจึงสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดายด้วยทัพเล็กๆของเขาที่มีคนเพียงไม่กี่คน
“โอ้
จริงสิ เซอร์ครอคโคไดล์..คุณมีเรื่องจะพูดกับเขานี่” หญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้น
และมันทำให้เขาหันไปมองชายร่างสูงที่มักแต่งตัวแบบพวกมาเฟียโดยอัตโนมัติ
ชายวัยใกล้เลข
4 กระแอมเล็กน้อย มองหน้าเขาด้วยสีหน้านิ่งสนิท
“จริงๆแล้วฉันไม่ได้อยากพูดแบบนี้เลย
แต่..เอาเถอะ” ครอคโคไดล์ยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาไขว่ห้าง
พลางดึงมือเด็กหนุ่มข้างกายออกมายืนข้างๆเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ เมื่อลองพินิจดูก็พบว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กผู้ชายที่น่าหวานอยู่พอสมควร
ดูจากหน้าตาแล้วลองกะอายุคร่าวๆ ก็คิดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 17-20 ปี ร่างกายผอมแห้งเหมือนขาดสารอาหาร
ใต้ตาข้างหนึ่งมีรอยแผลเป็น..และบนศีรษะของอีกฝ่ายก็สวมหมวกฟางที่ช่างคุ้นตา
แต่เขากลับจำไม่ได้เลยว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
“เขาชื่อลูฟี่..”
เด็กหนุ่มคนนั้นมองเขาด้วยสายตาอ่านยาก
“เป็นลูกบุญธรรมของฉัน
ฉันเจอเขาเมื่อปีที่แล้วที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ปีนี้ก็อายุ 20 ปีพอดี..” อายุห่างกับเขาตั้ง
10 ปีเชียวหรือ..?
“แล้วคุณต้องการอะไร”
ลอว์เลิกคิ้วมองหน้าครอคโคไดล์ราวกับกำลังกดดันให้รีบพูดเร็วๆ
ทุกคนในห้องประชุมมองหน้ากัน
ก่อนที่โดฟลามิงโก้จะเป็นคนตอบแทนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มดูน่าขนลุก
“พวกเราเห็นฝีมือของเขาและคิดว่ามันน่าสนใจ
คงดีถ้าแกยอมดูแลเขา..และสอนเขาให้เป็นทหารที่ดี”
ขอทีเถอะพระเจ้า
บอกทีว่านี่มันเรื่องล้อเล่น..
ลอว์ชักสีหน้า
กวาดตามองทุกคนในห้องประชุมพลางแผ่รังสีกดดันเล็กๆออกมา บรรยากาศกลายเป็นตึงเครียดทันทีที่เขาทำแบบนั้น
ทุกคนมองหน้ากันเหมือนกำลังปรึกษาผ่านทางสายตาว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้ดี
สุดท้ายแล้ว..คนที่สามารถกล่อมลอว์ได้เพียงคนเดียวก็ต้องยอมออกมาพูดแทน
“เขาจะเป็นกำลังรบที่สำคัญได้แน่
และพวกเราไว้ใจให้นายดูแลเขา นายจะไม่ทำจริงๆหรือลอว์?”
“โรซี่..”
เขามองโรซินันเต้ด้วยแววตาอ่อนลง
“ฉันเชื่อว่าแค่ให้ลูฟี่ไปอยู่กับแกแล้วก็คอยตามแกเวลาออกรบ
แค่นั้นเด็กนี่ก็จะเก่งขึ้น”
“มันจะเป็นไปได้ยังไง?” ลอว์ตั้งคำถามหลังจากที่ครอคโคไดล์ว่าดังนั้น
เขาไม่เห็นว่าการลงสนามจริงมันจะทำให้เก่งขึ้น..มีแต่จะทำให้ตายเร็วขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะหากเด็กคนนี้ไม่เคยมีประสบการณ์จริงในการต่อสู้และไม่ได้รับการฝึกฝนที่มากพอ
“ถึงลูฟี่จะอายุยังน้อย
แต่หมอนี่ก็เคลื่อนไหวรวดเร็ว มีความคล่องตัวและมีความยืดหยุ่นของร่างกายสูง
ฉันคิดว่าแค่ฝึกฝนและขัดเกลาความสามารถพวกนั้นอีกนิดหน่อย
เด็กนี่ก็สามารถเก่งทัดเทียมแกได้”
“โฮ่..เก่งทัดเทียมเลยหรือ? พูดเกินจริงไปรึเปล่า?”
“ฟุฟุฟุ
ถ้านายลองอยู่กับหมอนั่นซักสัปดาห์เหมือนฉัน เดี๋ยวนายก็จะรู้เอง ลอว์”
สุดท้ายแล้วเขาก็ทนสายตาของทุกคนในห้องไม่ได้
โดยเฉพาะสายตาของรักแรกของเขาอย่างโรซินันเต้..ชายหนุ่มถอนหายใจ กวักมือเรียกเด็กหนุ่มให้มายืนอยู่ข้างๆตัวเอง
และลูฟี่ก็ทำตามอย่างว่าง่ายโดยไม่มีการอิดออด
นัยน์ตาคมกริบมองร่างของเด็กหนุ่มตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ก็ได้
ฉันจะดูแลเจ้านี่”
“...”
“แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้านี่สร้างปัญหาให้ฉัน
คงรู้ใช่มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ทุกคนในห้องประชุมพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง
โดฟลามิงโก้แค่นหัวเราะในลำคอ “ฟุฟุฟุ ฉันรู้ดีเชียวล่ะ
แต่รับประกันได้..เด็กนั่นไม่มีทางสร้างปัญหาให้แกหรอก”
ครอคโคไดล์มองหน้าเขานิ่ง
น่าสนใจ—
ลอว์แค่นหัวเราะ
“รู้อะไรมั้ยครอคโคไดล์
ยิ่งฉันเห็นแกดูเป็นเดือดเป็นร้อนกับเด็กนี่ ยิ่งทำให้ฉันอยากฆ่าหมอนี่เร็วๆ
มันน่าสนใจนะ..ที่เด็กกะโปโลอย่างหมอนี่ทำให้แกเป็นได้ถึงขนาดนี้น่ะ”
พวกเขาสบตากันราวกับกำลังจะขย้ำกันให้ตาย
รังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากตัวทั้งคู่ไม่หยุด ครอคโคไดล์กระตุกยิ้มมุมปาก
ทิ้งซิการ์ที่ใกล้หมดมวนลงไปที่พื้นก่อนหยัดตัวยืนขึ้น ขยี้มันด้วยปลายเท้าพร้อมมองลอว์ด้วยสายตาที่แม้จะดูเหมือนไม่มีอะไร..แต่มันกลับแผ่รังสีบางอย่างที่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกขนลุก
“แกไม่รู้หรอกว่าเด็กนั่นสำคัญกับฉันแค่ไหน
และแน่นอน..ไม่ใช่แค่ฉัน แต่กับโลกใบนี้
ฉันเชื่อว่าเด็กนั่นคือตัวแปรที่จะทำให้สงครามบ้าๆนี่จบเร็วขึ้น”
“...”
“จำเอาไว้นะทราฟาการ์
ถ้าหากแกฆ่าเด็กนั่นล่ะก็..ฉันนี่ล่ะที่จะตามไปเด็ดหัวแกเอง”
ความคิดเห็น