คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 05 :: ความวุ่นวายในแผ่นดินใหญ่
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวันก็คือการทะเลาะวิวาท
แต่ดูเหมือนช่วงนี้มันจะมีเหตุการณ์แบบนี้มากกว่าปกติ? ร่างเล็กมองกลุ่มคนที่กำลังตีกันอยู่ในลานกว้างด้วยสายตาเรียบเฉย ช่วงนี้พวกลูกน้องระดับล่างจะก่อปัญหามากขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย
ดูเหมือนว่าจะมีบางคนที่เสนอหน้าไปเข้าร่วมกับกลุ่มบลูแจมเพื่อทำร้ายเอสและซาโบเมื่อวันก่อนด้วย
“ให้ห้ามมั้ยเจ้าหมวกฟาง”
คาเวนดิชถามเสียงเฉื่อย นัยน์ตาคู่สวยมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความเบื่อหน่าย
เพราะช่วงนี้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยจนลูกน้องระดับสูงกับพวกหัวหน้าหน่วยต้องตามเก็บกวาดปัญหาที่เกิดขึ้นจนวุ่นวายไปหมด
อย่างเขานี่ก็ไม่ได้พักมาแล้ว
3 วันเห็นจะได้
“พวกนั้นตีอยู่กับใครน่ะ”
บาโธโลมีโอถาม หนึ่งในนั้นคือลูกน้องของพวกเขา..แต่อีกกลุ่มนี่สิ
ไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลย
“แค่พวกกุ๊ยในเมืองน่ะ”
ชายผู้ได้รับฉายาว่าหนุ่มรูปงามแห่งอีสท์ทาวน์ตอบ
มือเรียวแกว่งขวดน้ำอัดลมในมือไปมา วันนี้เขากับลูฟี่ตัดสินใจเดินดูรอบเมืองกันสองคน..แต่เจ้าหน้าโหดนี่ดันเข้ามาแส่ซะได้
ชายผมทองทำปากอุบอิบด่าเจ้าหัวหงอนไก่แบบไร้เสียง
“จะใช่จริงๆน่ะเหรอ”
ลูฟี่มองไปยังต้นเหตุของความวุ่นวายนิ่ง..เขาไม่คิดว่าแค่พวกกุ๊ยในเมืองจะยอมสักลายเหมือนกันทั้งกลุ่มแบบนั้น
ลอยสักรูปหัวใจบริเวณฝ่ามือนั่น..
“นายว่าไงนะ?”
“อ้อ—
ไม่มีอะไรหรอก” ร่างเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ตอนนี้ก็ 5 โมงเย็นแล้ว..เวลา 2
ทุ่มคือเวลาที่พวกกลุ่มมิงค์นัดมาเจอเขา เด็กหนุ่มเก็บเครื่องมือสื่อสารเข้ากระเป๋ากางเกงพลางหันหลังกลับ
แต่ก่อนที่จะได้เดินไปที่รถก็หันมาพูดกับทั้งคู่เสียก่อน
“พวกนายจะจัดการก็ได้นะ
อย่าให้ถึงตายล่ะ ชิชิชิ”
“รับทราบ~”
ร่างเล็กเดินขึ้นรถสีดำคันหรู..ผู้ที่นั่งตรงที่นั่งคนขับก็ไม่ใช่ใครนอกจาก
จีท อดีตอาชญากรที่ปัจจุบันเป็นลูกน้องในหน่วยของอิเดโอ เป็นเพียงไม่กี่คนที่รู้จักตัวตนของเขาทั้งที่ไม่ใช่หัวหน้าหน่วย
เด็กหนุ่มนั่งหลับอยู่ที่เบาะหลังตลอดทางเพราะเหนื่อยอ่อนจากการที่ช่วงนี้เขาไม่ค่อยได้พักผ่อนนัก
ตอนกลางคืนก็อยู่ที่ฐานทั้งวันโดยที่ไม่ได้กลับบ้านเลย
กลางวันก็ยังต้องไปเรียนตามปกติ มันทำให้ร่างกายของเขาอ่อนล้าและต้องการการพักผ่อน
“ถึงแล้วนะพ่อใหญ่”
ชายในชุดอาบัง(?)ปลุกเขาให้ลงจากรถ
เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างง่วงงุน แต่เพราะสติยังไม่กลับมาเต็มร้อยนัก..สุดท้ายแล้วซันจิซึ่งเดินออกมารับก็ต้องเป็นคนแบกเขาขึ้นหลังไป
“ขอบใจนะซันจิ
ชิชิชิ”
“มีเรื่องให้นายต้องขอบใจฉันอีกเยอะเลย
เจ้าบ้า”
“ซันจิหูแดงล่ะ”
ร่างเล็กล้อเสียงเนือยพลางซุกหน้ากับแผ่นหลังกว้าง กุ๊กหนุ่มประจำกลุ่มหน้าขึ้นสี..เหลือบมองร่างนิ่มๆบนแผ่นหลังกว้างของตัวเองด้วยหัวใจที่เต้นโครมคราม
บ้าจริง..เขาสบถในใจพลางก้าวขาฉับๆรีบพาเจ้าตัวเล็กนี่ไปวางไว้บนโซฟาอย่างนิ่มนวล
“ลูฟี่หลับเหรอ? คงเหนื่อยมากสินะเนี่ย”
“นั่นสินะ
ตอนกลางวันก็เรียน ตอนกลางคืนก็ไม่ค่อยจะได้นอนอีก”
“คืนนี้คงต้องบังคับให้กลับไปนอนที่บ้านแล้วล่ะมั้ง”
อุซป นามิ และช็อปเปอร์พูดคุยกันด้วยความเป็นห่วงเจ้าหัวหน้ากลุ่มตัวดีที่ดูเหมือนจะหลับลึกไปตั้งแต่นอนอยู่บนหลังซันจิแล้ว
โซโลซึ่งพึ่งมาถึงเพราะเสียเวลาไปกับการหลงทางเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง
“ไว้ใกล้ถึงเวลานัดค่อยปลุกเจ้าบ้านี่ก็ได้
ปล่อยให้มันนอนไปเถอะ”
“ก็คงต้องตามนั้นล่ะนะ”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยก่อนแยกย้ายกันไปทำธุระของตนโดยปล่อยให้โซโลเป็นคนแบกลูฟี่ขึ้นไปนอนบนห้องพักที่ชั้น
3 ของคฤหาสน์
บรู๊คซึ่งยังคงนั่งอยู่ในห้องรับแขกเช่นเดียวกับแฟรงกี้
โรบิน และจินเบเริ่มสนทนากันอีกครั้ง
“ลูฟี่ทำงานหนักซูเปอร์!!”
“เรื่องของกลุ่มมิงค์เนี่ย..รู้สึกถึงลางไม่ค่อยดีเลยแฮะ”
“นั่นสินะครับคุณจินเบ
ผมก็รู้สึกไม่ค่อยดีเหมือนกัน โยโฮ่โฮ่โฮ่”
“เหมือนจะเกิดปัญหาขึ้นยังไงก็ไม่รู้
คงจะ..เกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวของพวก 4 จักรพรรดิในแผ่นดินใหญ่นั่นล่ะนะ”
โรบินแสดงความคิดเห็น พวกเขาได้รับรายงานจากสายข่าวเมื่อหลายวันก่อนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เขตต่างๆ
นามิซึ่งพึ่งเดินเข้ามาในห้องรับแขกถอนหายใจพลางพูดด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
“ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็คงจะดีอยู่หรอก”
เวลาผ่านไปจนกระทั่งใกล้ถึงเวลานัดของทั้งสองกลุ่ม
ซันจิอาสาเป็นคนขึ้นไปปลุกลูฟี่ให้มาอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย เสื้อเชิ้ตสีแดงกับกางเกงขายาวสีดำสนิทถูกสวมบนเรือนร่างเล็ก
ถึงปกติพวกเขาจะชอบการทำตัวสบายๆไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมาก
แต่กับกลุ่มที่ไม่ได้สนิทสนมหรือไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว..การวางตัวที่ดีก็ถือเป็นการให้เกียรติอีกฝ่ายและทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มไม่ย่ำแย่จนเกิดปัญหา
“นานแล้วนะที่ไม่เห็นนายแต่งตัวแบบนี้”
ซันจิมองร่างเล็กไม่วางตา ลูฟี่ดูต่างจากปกตินิดหน่อย
“ครั้งล่าสุดก็ตอนไปเยี่ยมแชงคูสนี่
ชิชิชิ”
ทั้งสองคนเดินลงไปยังห้องโถงด้านล่าง
ได้ความจากเบบี้ไฟว์ว่าตอนนี้กลุ่มมิงค์มาถึงแล้วและกำลังรออยู่ในห้องรับรอง และตอนนี้พวกนามิกับพวกหัวหน้าหน่วยทุกคนก็อยู่ที่นั่นแล้ว
ภายในห้องรับรองซึ่งเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่
ตรงกลางมีโซฟาสีน้ำเงินเข้มตั้งอยู่ล้อมโต๊ะรับแขกทรงสี่เหลี่ยมซึ่งทำจากแก้ว
บรรยากาศกดดันปกคลุมทั่วทั้งห้องเนื่องจากอีกเพียง 3 นาทีก็จะถึงเวลานัดแต่หัวหน้ากลุ่มหมวกฟางกลับยังมาไม่ถึง
ฝ่ายนามิก็ภาวนาในใจว่าขออย่าให้เกิดเรื่องอะไรขึ้น ส่วนพวกโซโลก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน..ดูไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสีหน้านิ่งเฉยจนเกินไปของพวกกลุ่มมิงค์เลยซักนิด
แอ๊ด..
ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของของชายทั้ง
2 คนเดินเข้ามาในห้อง คนแรกคือซันจิในชุดสูทซึ่งเป็นปกติของเจ้าตัว และคนที่ 2
ก็คือเด็กหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีแดงและหมวกฟางที่ถูกดึงมาปิดใบหน้าส่วนบนเอาไว้
ลูฟี่และซันจิเดินเข้ามานั่งที่ของตัวเอง
ริมฝีปากบางคลี่ยิ้ม..หันไปมองกลุ่มมิงค์ซึ่งเริ่มสนใจในตัวเขา มือเล็กๆถอดหมวกฟางมาไว้บนตักมองใบหน้าตื่นตะลึงของพวกนั้นด้วยสายตาที่ฉายแววสนุกสนาน
“ฉันลูฟี่! เป็นหัวหน้ากลุ่มหมวกฟาง ยินดีที่ได้เจออีกครั้งนะ ชิชิชิ”
----|----|----|----|----
ลูฟี่เหม่อมองออกไปนอกรถ
วันนี้เขาบอกกับพวกเอสและซาโบว่าจะไปเที่ยวที่เขตอื่นกับเพื่อนซัก 2 ถึง 3 วัน
แต่จริงๆแล้วเขากำลังเดินทางไปยังแผ่นดินใหญ่พร้อมกับซันจิ นามิ อุซป บรู๊ค และกลุ่มมิงค์เพื่อที่จะไปเจรจากับหัวหน้าของกลุ่มมิงค์ที่อาศัยอยู่ที่นี่
ในวันนั้นทุกอย่างวุ่นวายมาก
พวกกลุ่มมิงค์หัวเสียกันยกใหญ่ที่เขาไม่ยอมบอกว่าตัวเองเป็นหัวหน้ากลุ่มตั้งแต่ตอนเจอกันครั้งแรก
แต่เขาก็ได้อธิบายไปแล้วว่าตอนนั้นยังไม่รู้ว่าพวกนั้นมีเจตนาอะไรจึงเลือกที่จะปิดบัง
โชคยังดีที่พวกนั้นเข้าใจมันจึงไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่
แต่เรื่องที่น่าสนใจคือเรื่องที่พวกนั้นพูด
‘พวกเรามาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ จริงๆแล้ว..เพื่อนของเขาที่ชื่อแวนด้าเคยได้รับการช่วยเหลือจาก
1 ในพวกนาย’ ทุกคนมองหน้ากันอย่างงุนงง
ก่อนที่นามิจทำหน้าอ๋อพร้อมกับชี้ไปที่ซันจิ
‘ผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวเป็นสุนัขคนนั้นไงซันจิคุง!
คนที่นายช่วยเอาไว้น่ะ!’
‘อ่า ผมจำได้แล้วครับคุณนามิ~’
‘ผู้นำของพวกเราท่านอินุอาราชิถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ส่วนท่านเนโกะมามุชิก็กำลังถูกหมายหัวเอาชีวิต
พวกหนวดดำ..พวกนายรู้จักรึเปล่า?’
‘รู้จักสิ’ ลูฟี่ตอบโดยไม่ต้องคิด
เพโดร..ชายผู้ใส่ชุดเหมือนเสือดาว(?)แต่งตัวแบบทหารป่าพยักหน้าก่อนอธิบายต่อ
‘พวกนั้นต้องการอาณาเขตของพวกเรา พวกมันแทรกซึมอยู่ในกลุ่มของพวกเรา
โชคยังดีที่พวกเราจับตัวมันได้เลยไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงอื่นๆเกิดขึ้น
และเราก็รู้มาว่าในตอนนี้..มีเพียงอีสท์ทาวน์ที่พวกมันยังไม่กล้าแตะต้อง’
‘พวกเราต้องการกำลังของพวกนาย
ฉันเชื่อว่าพวกนายต้องมีบางอย่างที่ทำให้เจ้าพวกนั้นลังเลที่จะเข้ามาแทรกแซง
พวกเราต้องการเป็นพันธมิตร’
‘พันธมิตร?’
‘ใช่ ได้โปรดเดินทางไปแผ่นดินใหญ่กับพวกเราในวันพรุ่งนี้
แล้วพวกเราจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง’
ระหว่างที่กำลังเดินทาง..พวกนั้นก็เล่าว่าแต่เดิมแล้วพวกเขาเป็นกลุ่มรักสงบที่ไม่ชอบไปมีเรื่องกับกลุ่มไหน
แต่หลังจากที่หนวดดำเริ่มเข้ามาแทรกแซงและมีอิทธิพลในเขตแผ่นดินใหญ่..ทำให้พวกจักรพรรดิเคลื่อนไหวกันอย่างผิดปกติ
ไคโด..หัวหน้าแห่งกลุ่มร้อยอสูรผู้เป็น 1 ใน 4 จักรพรรดิ ได้มาที่อาณาเขตของพวกเขาเพื่อตามล่าหนวดดำ
และเกิดการต่อสู้ขึ้น..
อินุอาราชิต้องการหยุดจึงไปห้าม
ไคโดยอมหยุดก็จริง..แต่หนวดดำกลับทำร้ายอินุอาราชิจนบาดเจ็บสาหัส
ขาซ้ายถูกตัดออกไป และพวกชาวเมืองบางส่วนก็ถูกทำร้าย..ถึงจะโชคดีที่เนโกะมามุชิมาหยุดทันทำให้ไม่มีใครตาย
แต่กลายเป็นว่าเนโกะมามุชิกลับถูกพวกหนวดดำหมายเอาชีวิต
แวนด้าที่อยู่ในเหตุการณ์จึงเสนอให้มาขอความช่วยเหลือจากพวกเขา
อย่างน้อย..ถ้าไม่ใช่เพื่อล้มล้างหนวดดำ ก็เพื่อร่วมกันปกป้องอาณาเขตของทั้งสองกลุ่มจากหนวดดำก็ยังดี
แน่นอนว่าลูฟี่ยังไม่ได้ตอบตกลงในทันที
เขาบอกเพียงแค่ว่าจะคิดดูอีกทีเมื่อได้เจอกับผู้นำทั้งสองของกลุ่มมิงค์แล้ว
พวกเขามาถึงแผ่นดินใหญ่ในส่วนที่เป็นอาณาเขตของกลุ่มมิงค์ในช่วงค่ำ
ไม่มีใครรู้ถึงสถานะที่แท้จริงของพวกเขา..พวกเขาทำตัวเหมือนนักท่องเที่ยวธรรมดา
เพียงแต่เพราะอิทธิพลของเจ้าถิ่นจึงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เช่น..การได้พักในโรงแรมที่หรูที่สุดในย่านนี้
เป็นต้น
“หืม..จะว่าไปเขตนี้ไม่มีจักรพรรดิคนไหนมายุ่งสินะ?” อุซปซึ่งกำลังนอนเล่นอยู่บนโซฟาพูดขึ้นมาลอยๆ ห้องที่พวกเขาพักเป็นห้องชั้นบนสุดขนาดใหญ่..ดูคล้ายกับคอนโดมากกว่าโรงแรม
ภายในห้องนั้นก็มีห้องนอนอีก 3 ห้องและมีห้องรับแขกอยู่ตรงกลาง เครื่องประดับทุกอย่างดูมีราคาจนแทบไม่กล้าแตะต้อง
เมื่อลองเปิดม่านแล้วมองออกไปเพื่อชมทิวทัศน์ภายนอก..ก็ต้องยอมรับว่าที่นี่นั้นต่างจากอีสท์ทาวน์แบบสุดโต่ง
ทั้งตึกสูงเฉียดฟ้ามากมายและบ้านเรือนหรูหราสไตล์โมเดิร์น
สมกับที่ถูกเรียกว่าเป็นเขตที่ร่ำรวยที่สุด
ลูฟี่หยัดตัวลุกขึ้นพลางบิดขี้เกียจ
“มาที่แบบนี้ทั้งทีก็ต้องไปคาสิโนใช่ม้า?” อุซปเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟาแทบจะในทันที
“เหยๆ
ลูฟี่ มาถิ่นเขาก็อย่าไปสร้างปัญหาจะดีกว่ามั้ย”
“แต่ฉันเห็นด้วยกับลูฟี่นะอุซป
มาที่นี่ก็ต้องคาสิโนสิ!
ช่วงนี้ฉันดวงดี..มั่นใจว่าจะต้องได้เงินเป็นกอบเป็นกำแน่ๆ!”
“เดี๋ยวสินามิ อย่าเป็นไปกับลูฟี่ด้วยเซ่” อุซปหน้าถอดสี สัมผัสได้ว่าจะต้องมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นแน่ๆ
แย่ล่ะสิ..ลางสังหรณ์ของเขามันไม่เคยพลาดเสียด้วย
“ขนาดคุณนามิตอนเห็นแก่เงินก็ยังน่ารักกกกก”
“คุณซันจิ..ไม่คิดว่าประโยคที่พูดมามันแปลกๆไปหน่อยเหรอครับ
โยโฮ่โฮ่โฮ่”
“เอาเป็นว่าพวกนายจะไปกันใช่ปะ
งั้นไปกันเลย!”
อุซปทำสีหน้าเหมือนจะร้องไห้พลางจ้องเจ้าตัวต้นเรื่องที่รีบวิ่งไปเปลี่ยนชุดแล้วตั้งท่าจะออกจากห้อง
โชคยังดีที่ถูกรั้งคอเสื้อไว้โดยซันจิเสียก่อน
ซันจิมัดลูฟี่ไว้กับโซฟาก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปเปลี่ยนชุดให้เหมาะสมกับสถานที่
นามิใส่เดรสรัดรูปสีม่วงเข้มพร้อมกับสร้อยและต่างหูที่เพียงแค่ดูก็รู้แล้วว่ามีราคา
ผมสีส้มถูกปล่อยให้ยาวสยายลงมาถึงกลางหลัง
เช่นเดียวกับคนอื่นๆที่เลือกที่จะใส่ชุดสูทไม่ก็เสื้อเชิ้ตกับกางเกงขายาว
ซันจิเดินมาแก้มัดให้ลูฟี่ที่ทำหน้ามู่ทู่
พอแก้มัดเสร็จเจ้าตัวยุ่งก็ทำท่าจะวิ่งออกไปจากห้องอีกรอบ
โชคยังดีที่ถูกคว้าตัวเอาไว้ได้ทัน
“พอเลยเจ้าตัวแสบ
นายต้องไปกับฉัน..จะได้ไม่ต้องไปก่อเรื่องวุ่น ส่วนคุณนามิ~ ผมจะยกให้อุซปกับบรู๊คไปเป็นเบ๊คอยรับใช้นะครับ~”
หันไปพูดจาเสียงหวานกับหญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มพร้อมจ้องเขม่งไปยังบุคคลทั้งสอง
ความนัยที่สื่อออกมาจากนัยน์ตาคู่นั้นก็แปลความได้ว่า
ถ้าพวกแกทำให้คุณนามิเป็นอันตรายแม้แต่เพียงปลายนิ้วก้อยล่ะก็..พวกแกตายแน่
/ทำท่าปาดคอ
หลังจากที่กล่าวให้พร(?)จบ..ชายคิ้วม้วนผู้ซึ่งถูกเรียกว่าเป็น 1 ใน 3 ปีศาจแห่งกลุ่มหมวกฟางก็ลากหัวหน้าของตนออกจากห้องไปแทบจะในทันที
นามิและอุซปซึ่งทำได้เพียงมองตามหลังหน้าซีด
“จริงๆแล้ว..การที่นายอยู่กับลูฟี่นั่นล่ะสร้างปัญหาที่สุดล่ะ”
ถึงมันจะน้อยกว่าตอนโซโลประกบคู่กับลูฟี่ก็เถอะ..
คนที่ถึงจะดุด่าแต่ก็ตามใจลูฟี่ตลอดอย่างนาย..จะทนไม่ก่อเรื่องร่วมกับลูฟี่ได้นานแค่ไหนกัน?
ทางฝั่งลูฟี่กับซันจิซึ่งกำลังเดินรอบๆคาสิโนด้วยความสนใจ สิ่งที่พวกเขาสังเกตได้อย่างชัดเจนคือความละโมบที่ฉายชัดออกมาจากแววตาของพวกโลภมากในที่แห่งนี้
มันเป็นสิ่งที่พวกเขาล้วนชินชา..ด้วยความที่ประกอบธุรกิจมืดอย่างพวกบ่อนหรือคาสิโนไม่ต่างจากที่นี่นัก
จึงเห็นเรื่องพวกนี้เป็นปกติ
ไม่ว่าจะพวกหนุ่มสาวที่หลงใหลในการพนัน
พวกตาแก่โลภมากที่ชื่นชอบในความท้าทาย หรืออะไรก็ตามแต่..
“เห้ยตาแก่! แกโกงนี่!”
“เปล่าซักหน่อย
นี่แกเห็นฉันเป็นคนยังไง”
แม้แต่การทะเลาะวิวาทก็เป็นเรื่องปกติของสถานที่อโคจรเช่นนี้
นัยน์ตาสีดำขลับมองร่างของชายผมแดงซึ่งกำลังต่อล้อต่อเถียงกับชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนพุงพุ้ยอยู่ในมุมหนึ่งของคาสิโน
เขาเบ้ปาก..เดาได้ไม่ยากเลยว่าหลังจากนี้จะต้องเกิดเรื่องวุ่นวายตามมาแน่ๆ
และก็เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์เอาไว้..
นามิจะมาบ่นเขาไม่ได้นะ
เพราะเรื่องวุ่นวายครั้งนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเขา
ผู้คนมากมายดูไม่ได้ตื่นตระหนกอะไรนัก
คงเป็นเพราะเห็นเรื่องพวกนี้บ่อยจนชินชาไปแล้วก็ได้ ลูฟี่มองตามชายผมแดงคนนั้นทุกฝีก้าว
ชายผมแดงวิ่งหนีออกจากคาสิโนอย่างรวดเร็ว
ส่วนตาแก่ที่เป็นคู่กรณีก็ส่งคนออกไล่ตามอย่างไม่ลดละ โชคยังดีที่ไม่ได้เกิดการปะทะขึ้น..เป็นเพียงแค่การไล่ล่ากันเท่านั้น
และดูเหมือนเป้าหมายของชายผมแดงจะเป็นการล่อคนพวกนี้ออกไปข้างนอก
ลูฟี่ยักไหล่อย่างไม่คิดจะใส่ใจ
น่าเสียดายที่ต่อให้เขาไม่วิ่งวุ่นเข้าไปหาเรื่อง..ความวุ่นวายก็มักจะวิ่งเข้ามาหาเขาเอง
เหมือนอย่างเช่นครั้งนี้
หมับ!
ร่างของเขาถูกชายคนหนึ่งจับเอาไว้
เด็กหนุ่มดิ้นขลุกขลัก..ได้กลิ่นเหม็นคลุ้งของสุราและกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงติดตามตัวชายร่างใหญ่คนนี้จนน่าอาเจียน
ชายกล้ามใหญ่ราวกับนักเพาะกายรัดคอเขาด้วยแขนเดียวแน่น ซันจิซึ่งพึ่งตั้งสติได้น่าถอดสี..กำลังจะวิ่งมาช่วยแต่ชายร่างโตกลับใช้ระเบิดควันพร้อมพาลูฟี่หายไปต่อหน้าต่อตา
ทางฝั่งลูฟี่ซึ่งกำลังสำลักควันจนน้ำตาเล็ดมองใบหน้าของคนที่ลักพาตัวตนมาด้วยความโกรธเคือง
“ฉันเชื่อว่าเด็กผู้ชายตัวเล็กๆอย่างแกต้องถูกใจบอสแน่ๆ
วี๊ฮ่า!” บอสของมันเป็นพวกโรคจิตชอบกินเด็กผู้ชายร่างบางๆตัวเล็กๆรึไง? ลูฟี่ชักสีหน้าพลางถามเสียงกระด้าง
“แกเป็นใคร”
“จีซัส
เบอร์เจส แห่งกลุ่มหนวดดำ” ร่างเล็กชะงัก แอบรู้สึกหวาดวิตกเล็กน้อย..คิดอยู่เหมือนกันว่าซักวันต้องเผชิญหน้ากันแน่ๆ
แต่ก็ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ มันจะจับเขาไปให้หนวดดำ? จากที่ดู..ดูเหมือนมันจะยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร
แต่แบบนี้ต้องแย่แน่ๆ
เด็กหนุ่มกัดปากจนห้อเลือด
มองชายที่รัดคอตนอยู่ซึ่งยังคงพูดพร่ำเพ้อถึงกิตติศักดิ์และผลงานที่กลุ่มตัวเองได้ทำลงไปอย่างไม่ลดละ
แม้กล้ามแขนโตๆนั่นจะรัดคอเขาอยู่แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่มันไม่ได้ออกแรงจนเขาแทบจะสลบเหมือนตอนแรก
อย่างน้อยก็ยังพอหายใจได้อยู่บ้าง
บางทีเขาก็คิดว่าตัวเองเหมือนแม่เหล็ก..ชอบดึงดูดความวุ่นวายมาหาตัวเองอยู่เรื่อย
ผลั่ก!
ทันใดนั้นเองที่ร่างของเขาลอยหวือ
แรงที่รัดคอเขาหายไปพร้อมกับเบอร์เจสที่ล้มลงไปนอนบนพื้น
มันหยัดตัวลุกขึ้นมามองผู้ที่ต่อยมันจนกระเด็นด้วยสายตาแข็งกร้าว
ลูฟี่เงยหน้าขึ้น..รับรู้ได้ถึงแขนแกร่งที่โอบรอบเอวตนเอาไว้
“แกมัน..”
ผู้ชายผมแดงในตอนนั้น?
“เบอร์เจส..ไม่ยักรู้ว่าเจ้านายแกจะรสนิยมต่ำชอบกินเด็กกะโปโลแบบนี้”
ชายแปลกหน้ากล่าวพร้อมรอยยิ้มเหี้ยม ลูฟี่รู้สึกคิ้วกระตุก..เหมือนมันกำลังพูดเพื่อช่วยไม่ให้เบอร์เจสสนใจเขามากกว่าที่เป็นอยู่
แต่ก็เหมือนจะกำลังแอบด่าเขาทางอ้อมด้วยเหมือนกัน
“แกเป็นใคร?”
“ฉันจำเป็นต้องบอกแกด้วย?” ชายที่พึ่งมาช่วยเขาเอาไว้หัวเราะก่อนอุ้มเขาจนตัวลอย ใบหน้าคมดูยียวนกวนประสาทจนน่าต่อย..อีกฝ่ายนับหนึ่งถึงสามเบาๆพอให้เขาได้ยินก่อนที่จะวิ่งพร้อมพาเขาหนีไปด้วย
และทันใดนั้นเองห่ากระสุนมากมายก็ถูกยิงมาเพื่อโจมตีพวกเขา
พรรคพวกของตาแก่ที่ไอผมแดงนี่ไปมีเรื่องด้วยพากันไล่กวดพวกเขาราวกับหมาป่าที่กำลังไล่ล่าเหยื่อ
เจ้าคนผมแดงพาเขาวิ่งหนีไปตามซอกหลีบระหว่างตึก
เมื่อวิ่งออกมาไกลเรื่อยๆก็พบว่าเสียงฝีเท้าที่ไล่ตามมานั้นได้หายไปแล้ว
ร่างเล็กถูกวางลงบนพื้น..ดูเหมือนว่าการวิ่งไปด้วยอุ้มเขาไปด้วยจะสร้างภาระให้ร่างกายของหมอนี่อย่างหนักหนาสาหัส
ถึงจะเคืองที่มันแอบหลอกด่าเขาก็เถอะ
แต่ว่า..
“เฮ้
แกเป็นอะไรมั้ย?” ถามด้วยความเป็นห่วงพลางเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังหอบแฮ่กอย่างน่าเวทนา
ชายผมแดงมองเขากลับด้วยสายตาดุดัน
“ทำไมฉันต้องช่วยแกมาด้วยวะเนี่ย!” ลูฟี่ฉุนกึก
“อ้าว! ฉันจะไปรู้เรอะ! เป็นแกเองนี่ที่แส่สอดมือมายุ่งเรื่องของฉันกับเจ้ากล้ามโตนั่น”
“พูดดีๆนะไอเด็กบ้า
ดูยังไงๆฉันก็อายุมากกว่าแกชัดๆ! ฉัน 18 แล้วนะโว้ย
เด็กประถมอย่างแกเงียบไป!”
คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็กประถมกำหมัดแน่น
“ไอบ้านี่ ฉันอายุเท่าแกนั่นแหละ!!”
“ฮะ?” ชายร่างสูงชะงักพลางมองมาที่เขาตาเหลือก นัยน์ตาคมมองเขาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“อย่างแกเนี่ยนะอายุเท่าฉัน? ตอแหลไม่เนียนเลยว่ะ”
“แกนี่วอนตีนจริงๆ!” เด็กหนุ่มชักสีหน้า คิดดูอีกที..เขากับหมอนี่คงญาติดีกันไม่ได้แน่ๆ เสียดายที่อุตส่าห์เป็นห่วงหมอนี่
น่าต่อยให้ตายคามือไปซะ!
“เออ
แต่ไหนๆฉันก็ช่วยแกมาแล้วมันก็ช่วยไม่ได้ แยกกันตรงนี้ละกัน
แล้วก็อย่าโผล่มาให้ฉันเห็นหน้าอีกนะโว้ย!”
คนผมแดงตะโกนลั่นพร้อมกับวิ่งออกไปจากตรอก ลูฟี่กลอกตามองบน..
“ใครจะไปอยากเจอแกอีกวะ
ไอบ้าเอ้ย!!”
----|----|----|----|----
พอจะรู้มั้ยคะว่าไอหนุ่มผมแดงนี่เป็นใคร? น่าจะเดากันไม่ยาก 55555555
ไปช่วยเขาแล้วดันไปตะโกนใส่เขาแบบนั้นได้ไงคะคุณขา
แหม่ แต่ลูฟี่ก็เหมือนเด็กประถมจริงๆ— แอ่ก! /โดนต่อย
ส่วนซันจิ..เอ็นดูลูฟี่แค่ไหนถามใจซันจิดู
จริงๆแล้วที่ตามลูฟี่ไปไม่น่าจะใช่เพราะกันไม่ให้ลูฟี่ก่อเรื่อง
แต่เพราะไม่อยากอยู่ห่างลูฟี่มากกว่ามั้ง—
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นและทุกกำลังใจค่ะ!
><
ความคิดเห็น