ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (one piece) straw hat gangster|อันธพาลหมวกฟาง (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 05 :: ความวุ่นวายในแผ่นดินใหญ่

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 61



     


     

     

     

              สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวันก็คือการทะเลาะวิวาท

     

              แต่ดูเหมือนช่วงนี้มันจะมีเหตุการณ์แบบนี้มากกว่าปกติ? ร่างเล็กมองกลุ่มคนที่กำลังตีกันอยู่ในลานกว้างด้วยสายตาเรียบเฉย ช่วงนี้พวกลูกน้องระดับล่างจะก่อปัญหามากขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย ดูเหมือนว่าจะมีบางคนที่เสนอหน้าไปเข้าร่วมกับกลุ่มบลูแจมเพื่อทำร้ายเอสและซาโบเมื่อวันก่อนด้วย

     

              “ให้ห้ามมั้ยเจ้าหมวกฟาง” คาเวนดิชถามเสียงเฉื่อย นัยน์ตาคู่สวยมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความเบื่อหน่าย เพราะช่วงนี้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยจนลูกน้องระดับสูงกับพวกหัวหน้าหน่วยต้องตามเก็บกวาดปัญหาที่เกิดขึ้นจนวุ่นวายไปหมด

     

              อย่างเขานี่ก็ไม่ได้พักมาแล้ว 3 วันเห็นจะได้

     

              “พวกนั้นตีอยู่กับใครน่ะ” บาโธโลมีโอถาม หนึ่งในนั้นคือลูกน้องของพวกเขา..แต่อีกกลุ่มนี่สิ ไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลย

     

              “แค่พวกกุ๊ยในเมืองน่ะ” ชายผู้ได้รับฉายาว่าหนุ่มรูปงามแห่งอีสท์ทาวน์ตอบ มือเรียวแกว่งขวดน้ำอัดลมในมือไปมา วันนี้เขากับลูฟี่ตัดสินใจเดินดูรอบเมืองกันสองคน..แต่เจ้าหน้าโหดนี่ดันเข้ามาแส่ซะได้ ชายผมทองทำปากอุบอิบด่าเจ้าหัวหงอนไก่แบบไร้เสียง

     

              “จะใช่จริงๆน่ะเหรอ” ลูฟี่มองไปยังต้นเหตุของความวุ่นวายนิ่ง..เขาไม่คิดว่าแค่พวกกุ๊ยในเมืองจะยอมสักลายเหมือนกันทั้งกลุ่มแบบนั้น

     

              ลอยสักรูปหัวใจบริเวณฝ่ามือนั่น..

     

              “นายว่าไงนะ?

     

              “อ้อ— ไม่มีอะไรหรอก” ร่างเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ตอนนี้ก็ 5 โมงเย็นแล้ว..เวลา 2 ทุ่มคือเวลาที่พวกกลุ่มมิงค์นัดมาเจอเขา เด็กหนุ่มเก็บเครื่องมือสื่อสารเข้ากระเป๋ากางเกงพลางหันหลังกลับ แต่ก่อนที่จะได้เดินไปที่รถก็หันมาพูดกับทั้งคู่เสียก่อน

     

              “พวกนายจะจัดการก็ได้นะ อย่าให้ถึงตายล่ะ ชิชิชิ”

     

              “รับทราบ~

     

              ร่างเล็กเดินขึ้นรถสีดำคันหรู..ผู้ที่นั่งตรงที่นั่งคนขับก็ไม่ใช่ใครนอกจาก จีท อดีตอาชญากรที่ปัจจุบันเป็นลูกน้องในหน่วยของอิเดโอ เป็นเพียงไม่กี่คนที่รู้จักตัวตนของเขาทั้งที่ไม่ใช่หัวหน้าหน่วย เด็กหนุ่มนั่งหลับอยู่ที่เบาะหลังตลอดทางเพราะเหนื่อยอ่อนจากการที่ช่วงนี้เขาไม่ค่อยได้พักผ่อนนัก ตอนกลางคืนก็อยู่ที่ฐานทั้งวันโดยที่ไม่ได้กลับบ้านเลย กลางวันก็ยังต้องไปเรียนตามปกติ มันทำให้ร่างกายของเขาอ่อนล้าและต้องการการพักผ่อน

     

              “ถึงแล้วนะพ่อใหญ่” ชายในชุดอาบัง(?)ปลุกเขาให้ลงจากรถ เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างง่วงงุน แต่เพราะสติยังไม่กลับมาเต็มร้อยนัก..สุดท้ายแล้วซันจิซึ่งเดินออกมารับก็ต้องเป็นคนแบกเขาขึ้นหลังไป

     

              “ขอบใจนะซันจิ ชิชิชิ”

     

              “มีเรื่องให้นายต้องขอบใจฉันอีกเยอะเลย เจ้าบ้า”

     

              “ซันจิหูแดงล่ะ” ร่างเล็กล้อเสียงเนือยพลางซุกหน้ากับแผ่นหลังกว้าง กุ๊กหนุ่มประจำกลุ่มหน้าขึ้นสี..เหลือบมองร่างนิ่มๆบนแผ่นหลังกว้างของตัวเองด้วยหัวใจที่เต้นโครมคราม บ้าจริง..เขาสบถในใจพลางก้าวขาฉับๆรีบพาเจ้าตัวเล็กนี่ไปวางไว้บนโซฟาอย่างนิ่มนวล

     

              “ลูฟี่หลับเหรอ? คงเหนื่อยมากสินะเนี่ย”

     

              “นั่นสินะ ตอนกลางวันก็เรียน ตอนกลางคืนก็ไม่ค่อยจะได้นอนอีก”

     

              “คืนนี้คงต้องบังคับให้กลับไปนอนที่บ้านแล้วล่ะมั้ง” อุซป นามิ และช็อปเปอร์พูดคุยกันด้วยความเป็นห่วงเจ้าหัวหน้ากลุ่มตัวดีที่ดูเหมือนจะหลับลึกไปตั้งแต่นอนอยู่บนหลังซันจิแล้ว โซโลซึ่งพึ่งมาถึงเพราะเสียเวลาไปกับการหลงทางเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง

     

              “ไว้ใกล้ถึงเวลานัดค่อยปลุกเจ้าบ้านี่ก็ได้ ปล่อยให้มันนอนไปเถอะ”

     

              “ก็คงต้องตามนั้นล่ะนะ” ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยก่อนแยกย้ายกันไปทำธุระของตนโดยปล่อยให้โซโลเป็นคนแบกลูฟี่ขึ้นไปนอนบนห้องพักที่ชั้น 3 ของคฤหาสน์

     

              บรู๊คซึ่งยังคงนั่งอยู่ในห้องรับแขกเช่นเดียวกับแฟรงกี้ โรบิน และจินเบเริ่มสนทนากันอีกครั้ง

     

              “ลูฟี่ทำงานหนักซูเปอร์!!

     

              “เรื่องของกลุ่มมิงค์เนี่ย..รู้สึกถึงลางไม่ค่อยดีเลยแฮะ”

     

              “นั่นสินะครับคุณจินเบ ผมก็รู้สึกไม่ค่อยดีเหมือนกัน โยโฮ่โฮ่โฮ่”

     

              “เหมือนจะเกิดปัญหาขึ้นยังไงก็ไม่รู้ คงจะ..เกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวของพวก 4 จักรพรรดิในแผ่นดินใหญ่นั่นล่ะนะ” โรบินแสดงความคิดเห็น พวกเขาได้รับรายงานจากสายข่าวเมื่อหลายวันก่อนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เขตต่างๆ

     

              นามิซึ่งพึ่งเดินเข้ามาในห้องรับแขกถอนหายใจพลางพูดด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก

     

              “ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็คงจะดีอยู่หรอก”

     

              เวลาผ่านไปจนกระทั่งใกล้ถึงเวลานัดของทั้งสองกลุ่ม ซันจิอาสาเป็นคนขึ้นไปปลุกลูฟี่ให้มาอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย เสื้อเชิ้ตสีแดงกับกางเกงขายาวสีดำสนิทถูกสวมบนเรือนร่างเล็ก ถึงปกติพวกเขาจะชอบการทำตัวสบายๆไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมาก แต่กับกลุ่มที่ไม่ได้สนิทสนมหรือไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว..การวางตัวที่ดีก็ถือเป็นการให้เกียรติอีกฝ่ายและทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มไม่ย่ำแย่จนเกิดปัญหา

     

              “นานแล้วนะที่ไม่เห็นนายแต่งตัวแบบนี้” ซันจิมองร่างเล็กไม่วางตา ลูฟี่ดูต่างจากปกตินิดหน่อย

     

              “ครั้งล่าสุดก็ตอนไปเยี่ยมแชงคูสนี่ ชิชิชิ”

     

              ทั้งสองคนเดินลงไปยังห้องโถงด้านล่าง ได้ความจากเบบี้ไฟว์ว่าตอนนี้กลุ่มมิงค์มาถึงแล้วและกำลังรออยู่ในห้องรับรอง และตอนนี้พวกนามิกับพวกหัวหน้าหน่วยทุกคนก็อยู่ที่นั่นแล้ว

     

              ภายในห้องรับรองซึ่งเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ตรงกลางมีโซฟาสีน้ำเงินเข้มตั้งอยู่ล้อมโต๊ะรับแขกทรงสี่เหลี่ยมซึ่งทำจากแก้ว บรรยากาศกดดันปกคลุมทั่วทั้งห้องเนื่องจากอีกเพียง 3 นาทีก็จะถึงเวลานัดแต่หัวหน้ากลุ่มหมวกฟางกลับยังมาไม่ถึง ฝ่ายนามิก็ภาวนาในใจว่าขออย่าให้เกิดเรื่องอะไรขึ้น ส่วนพวกโซโลก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน..ดูไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสีหน้านิ่งเฉยจนเกินไปของพวกกลุ่มมิงค์เลยซักนิด

     

             แอ๊ด..

     

              ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของของชายทั้ง 2 คนเดินเข้ามาในห้อง คนแรกคือซันจิในชุดสูทซึ่งเป็นปกติของเจ้าตัว และคนที่ 2 ก็คือเด็กหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีแดงและหมวกฟางที่ถูกดึงมาปิดใบหน้าส่วนบนเอาไว้

     

              ลูฟี่และซันจิเดินเข้ามานั่งที่ของตัวเอง ริมฝีปากบางคลี่ยิ้ม..หันไปมองกลุ่มมิงค์ซึ่งเริ่มสนใจในตัวเขา มือเล็กๆถอดหมวกฟางมาไว้บนตักมองใบหน้าตื่นตะลึงของพวกนั้นด้วยสายตาที่ฉายแววสนุกสนาน

     

              “ฉันลูฟี่! เป็นหัวหน้ากลุ่มหมวกฟาง ยินดีที่ได้เจออีกครั้งนะ ชิชิชิ”

     

     

     

    ----|----|----|----|----

     

     

     

              ลูฟี่เหม่อมองออกไปนอกรถ วันนี้เขาบอกกับพวกเอสและซาโบว่าจะไปเที่ยวที่เขตอื่นกับเพื่อนซัก 2 ถึง 3 วัน แต่จริงๆแล้วเขากำลังเดินทางไปยังแผ่นดินใหญ่พร้อมกับซันจิ นามิ อุซป บรู๊ค และกลุ่มมิงค์เพื่อที่จะไปเจรจากับหัวหน้าของกลุ่มมิงค์ที่อาศัยอยู่ที่นี่

     

              ในวันนั้นทุกอย่างวุ่นวายมาก พวกกลุ่มมิงค์หัวเสียกันยกใหญ่ที่เขาไม่ยอมบอกว่าตัวเองเป็นหัวหน้ากลุ่มตั้งแต่ตอนเจอกันครั้งแรก แต่เขาก็ได้อธิบายไปแล้วว่าตอนนั้นยังไม่รู้ว่าพวกนั้นมีเจตนาอะไรจึงเลือกที่จะปิดบัง โชคยังดีที่พวกนั้นเข้าใจมันจึงไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่

     

              แต่เรื่องที่น่าสนใจคือเรื่องที่พวกนั้นพูด

     

     

     

             พวกเรามาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ จริงๆแล้ว..เพื่อนของเขาที่ชื่อแวนด้าเคยได้รับการช่วยเหลือจาก 1 ในพวกนายทุกคนมองหน้ากันอย่างงุนงง ก่อนที่นามิจทำหน้าอ๋อพร้อมกับชี้ไปที่ซันจิ

     

             ผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวเป็นสุนัขคนนั้นไงซันจิคุง! คนที่นายช่วยเอาไว้น่ะ!’

     

             อ่า ผมจำได้แล้วครับคุณนามิ~’

     

             ผู้นำของพวกเราท่านอินุอาราชิถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ส่วนท่านเนโกะมามุชิก็กำลังถูกหมายหัวเอาชีวิต พวกหนวดดำ..พวกนายรู้จักรึเปล่า?’

     

             รู้จักสิลูฟี่ตอบโดยไม่ต้องคิด เพโดร..ชายผู้ใส่ชุดเหมือนเสือดาว(?)แต่งตัวแบบทหารป่าพยักหน้าก่อนอธิบายต่อ

     

             พวกนั้นต้องการอาณาเขตของพวกเรา พวกมันแทรกซึมอยู่ในกลุ่มของพวกเรา โชคยังดีที่พวกเราจับตัวมันได้เลยไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงอื่นๆเกิดขึ้น และเราก็รู้มาว่าในตอนนี้..มีเพียงอีสท์ทาวน์ที่พวกมันยังไม่กล้าแตะต้อง

     

             พวกเราต้องการกำลังของพวกนาย ฉันเชื่อว่าพวกนายต้องมีบางอย่างที่ทำให้เจ้าพวกนั้นลังเลที่จะเข้ามาแทรกแซง พวกเราต้องการเป็นพันธมิตร

     

             พันธมิตร?’

     

             ใช่ ได้โปรดเดินทางไปแผ่นดินใหญ่กับพวกเราในวันพรุ่งนี้ แล้วพวกเราจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง

     

     

     

              ระหว่างที่กำลังเดินทาง..พวกนั้นก็เล่าว่าแต่เดิมแล้วพวกเขาเป็นกลุ่มรักสงบที่ไม่ชอบไปมีเรื่องกับกลุ่มไหน แต่หลังจากที่หนวดดำเริ่มเข้ามาแทรกแซงและมีอิทธิพลในเขตแผ่นดินใหญ่..ทำให้พวกจักรพรรดิเคลื่อนไหวกันอย่างผิดปกติ ไคโด..หัวหน้าแห่งกลุ่มร้อยอสูรผู้เป็น 1 ใน 4 จักรพรรดิ ได้มาที่อาณาเขตของพวกเขาเพื่อตามล่าหนวดดำ และเกิดการต่อสู้ขึ้น..

     

              อินุอาราชิต้องการหยุดจึงไปห้าม ไคโดยอมหยุดก็จริง..แต่หนวดดำกลับทำร้ายอินุอาราชิจนบาดเจ็บสาหัส ขาซ้ายถูกตัดออกไป และพวกชาวเมืองบางส่วนก็ถูกทำร้าย..ถึงจะโชคดีที่เนโกะมามุชิมาหยุดทันทำให้ไม่มีใครตาย แต่กลายเป็นว่าเนโกะมามุชิกลับถูกพวกหนวดดำหมายเอาชีวิต

     

              แวนด้าที่อยู่ในเหตุการณ์จึงเสนอให้มาขอความช่วยเหลือจากพวกเขา อย่างน้อย..ถ้าไม่ใช่เพื่อล้มล้างหนวดดำ ก็เพื่อร่วมกันปกป้องอาณาเขตของทั้งสองกลุ่มจากหนวดดำก็ยังดี

     

              แน่นอนว่าลูฟี่ยังไม่ได้ตอบตกลงในทันที เขาบอกเพียงแค่ว่าจะคิดดูอีกทีเมื่อได้เจอกับผู้นำทั้งสองของกลุ่มมิงค์แล้ว

     

              พวกเขามาถึงแผ่นดินใหญ่ในส่วนที่เป็นอาณาเขตของกลุ่มมิงค์ในช่วงค่ำ ไม่มีใครรู้ถึงสถานะที่แท้จริงของพวกเขา..พวกเขาทำตัวเหมือนนักท่องเที่ยวธรรมดา เพียงแต่เพราะอิทธิพลของเจ้าถิ่นจึงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เช่น..การได้พักในโรงแรมที่หรูที่สุดในย่านนี้ เป็นต้น

     

              “หืม..จะว่าไปเขตนี้ไม่มีจักรพรรดิคนไหนมายุ่งสินะ?” อุซปซึ่งกำลังนอนเล่นอยู่บนโซฟาพูดขึ้นมาลอยๆ ห้องที่พวกเขาพักเป็นห้องชั้นบนสุดขนาดใหญ่..ดูคล้ายกับคอนโดมากกว่าโรงแรม ภายในห้องนั้นก็มีห้องนอนอีก 3 ห้องและมีห้องรับแขกอยู่ตรงกลาง เครื่องประดับทุกอย่างดูมีราคาจนแทบไม่กล้าแตะต้อง

     

              เมื่อลองเปิดม่านแล้วมองออกไปเพื่อชมทิวทัศน์ภายนอก..ก็ต้องยอมรับว่าที่นี่นั้นต่างจากอีสท์ทาวน์แบบสุดโต่ง ทั้งตึกสูงเฉียดฟ้ามากมายและบ้านเรือนหรูหราสไตล์โมเดิร์น

     

              สมกับที่ถูกเรียกว่าเป็นเขตที่ร่ำรวยที่สุด

     

              ลูฟี่หยัดตัวลุกขึ้นพลางบิดขี้เกียจ “มาที่แบบนี้ทั้งทีก็ต้องไปคาสิโนใช่ม้า?” อุซปเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟาแทบจะในทันที

     

              “เหยๆ ลูฟี่ มาถิ่นเขาก็อย่าไปสร้างปัญหาจะดีกว่ามั้ย”

     

              “แต่ฉันเห็นด้วยกับลูฟี่นะอุซป มาที่นี่ก็ต้องคาสิโนสิ! ช่วงนี้ฉันดวงดี..มั่นใจว่าจะต้องได้เงินเป็นกอบเป็นกำแน่ๆ!

     

              “เดี๋ยวสินามิ อย่าเป็นไปกับลูฟี่ด้วยเซ่” อุซปหน้าถอดสี สัมผัสได้ว่าจะต้องมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นแน่ๆ แย่ล่ะสิ..ลางสังหรณ์ของเขามันไม่เคยพลาดเสียด้วย

     

              “ขนาดคุณนามิตอนเห็นแก่เงินก็ยังน่ารักกกกก”

     

              “คุณซันจิ..ไม่คิดว่าประโยคที่พูดมามันแปลกๆไปหน่อยเหรอครับ โยโฮ่โฮ่โฮ่”

     

              “เอาเป็นว่าพวกนายจะไปกันใช่ปะ งั้นไปกันเลย!” อุซปทำสีหน้าเหมือนจะร้องไห้พลางจ้องเจ้าตัวต้นเรื่องที่รีบวิ่งไปเปลี่ยนชุดแล้วตั้งท่าจะออกจากห้อง โชคยังดีที่ถูกรั้งคอเสื้อไว้โดยซันจิเสียก่อน

     

              ซันจิมัดลูฟี่ไว้กับโซฟาก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปเปลี่ยนชุดให้เหมาะสมกับสถานที่ นามิใส่เดรสรัดรูปสีม่วงเข้มพร้อมกับสร้อยและต่างหูที่เพียงแค่ดูก็รู้แล้วว่ามีราคา ผมสีส้มถูกปล่อยให้ยาวสยายลงมาถึงกลางหลัง เช่นเดียวกับคนอื่นๆที่เลือกที่จะใส่ชุดสูทไม่ก็เสื้อเชิ้ตกับกางเกงขายาว

     

              ซันจิเดินมาแก้มัดให้ลูฟี่ที่ทำหน้ามู่ทู่ พอแก้มัดเสร็จเจ้าตัวยุ่งก็ทำท่าจะวิ่งออกไปจากห้องอีกรอบ โชคยังดีที่ถูกคว้าตัวเอาไว้ได้ทัน

     

              “พอเลยเจ้าตัวแสบ นายต้องไปกับฉัน..จะได้ไม่ต้องไปก่อเรื่องวุ่น ส่วนคุณนามิ~ ผมจะยกให้อุซปกับบรู๊คไปเป็นเบ๊คอยรับใช้นะครับ~” หันไปพูดจาเสียงหวานกับหญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มพร้อมจ้องเขม่งไปยังบุคคลทั้งสอง ความนัยที่สื่อออกมาจากนัยน์ตาคู่นั้นก็แปลความได้ว่า

     

             ถ้าพวกแกทำให้คุณนามิเป็นอันตรายแม้แต่เพียงปลายนิ้วก้อยล่ะก็..พวกแกตายแน่ /ทำท่าปาดคอ

     

              หลังจากที่กล่าวให้พร(?)จบ..ชายคิ้วม้วนผู้ซึ่งถูกเรียกว่าเป็น 1 ใน 3 ปีศาจแห่งกลุ่มหมวกฟางก็ลากหัวหน้าของตนออกจากห้องไปแทบจะในทันที นามิและอุซปซึ่งทำได้เพียงมองตามหลังหน้าซีด

     

              “จริงๆแล้ว..การที่นายอยู่กับลูฟี่นั่นล่ะสร้างปัญหาที่สุดล่ะ” ถึงมันจะน้อยกว่าตอนโซโลประกบคู่กับลูฟี่ก็เถอะ..

     

              คนที่ถึงจะดุด่าแต่ก็ตามใจลูฟี่ตลอดอย่างนาย..จะทนไม่ก่อเรื่องร่วมกับลูฟี่ได้นานแค่ไหนกัน?

     

     

     

              ทางฝั่งลูฟี่กับซันจิซึ่งกำลังเดินรอบๆคาสิโนด้วยความสนใจ สิ่งที่พวกเขาสังเกตได้อย่างชัดเจนคือความละโมบที่ฉายชัดออกมาจากแววตาของพวกโลภมากในที่แห่งนี้ มันเป็นสิ่งที่พวกเขาล้วนชินชา..ด้วยความที่ประกอบธุรกิจมืดอย่างพวกบ่อนหรือคาสิโนไม่ต่างจากที่นี่นัก จึงเห็นเรื่องพวกนี้เป็นปกติ

     

              ไม่ว่าจะพวกหนุ่มสาวที่หลงใหลในการพนัน พวกตาแก่โลภมากที่ชื่นชอบในความท้าทาย หรืออะไรก็ตามแต่..

     

              “เห้ยตาแก่! แกโกงนี่!

     

              “เปล่าซักหน่อย นี่แกเห็นฉันเป็นคนยังไง”

     

              แม้แต่การทะเลาะวิวาทก็เป็นเรื่องปกติของสถานที่อโคจรเช่นนี้

     

              นัยน์ตาสีดำขลับมองร่างของชายผมแดงซึ่งกำลังต่อล้อต่อเถียงกับชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนพุงพุ้ยอยู่ในมุมหนึ่งของคาสิโน เขาเบ้ปาก..เดาได้ไม่ยากเลยว่าหลังจากนี้จะต้องเกิดเรื่องวุ่นวายตามมาแน่ๆ และก็เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์เอาไว้..

     

              นามิจะมาบ่นเขาไม่ได้นะ เพราะเรื่องวุ่นวายครั้งนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเขา

     

              ผู้คนมากมายดูไม่ได้ตื่นตระหนกอะไรนัก คงเป็นเพราะเห็นเรื่องพวกนี้บ่อยจนชินชาไปแล้วก็ได้ ลูฟี่มองตามชายผมแดงคนนั้นทุกฝีก้าว

     

              ชายผมแดงวิ่งหนีออกจากคาสิโนอย่างรวดเร็ว ส่วนตาแก่ที่เป็นคู่กรณีก็ส่งคนออกไล่ตามอย่างไม่ลดละ โชคยังดีที่ไม่ได้เกิดการปะทะขึ้น..เป็นเพียงแค่การไล่ล่ากันเท่านั้น และดูเหมือนเป้าหมายของชายผมแดงจะเป็นการล่อคนพวกนี้ออกไปข้างนอก

     

              ลูฟี่ยักไหล่อย่างไม่คิดจะใส่ใจ น่าเสียดายที่ต่อให้เขาไม่วิ่งวุ่นเข้าไปหาเรื่อง..ความวุ่นวายก็มักจะวิ่งเข้ามาหาเขาเอง

     

              เหมือนอย่างเช่นครั้งนี้

     

             หมับ!

     

              ร่างของเขาถูกชายคนหนึ่งจับเอาไว้ เด็กหนุ่มดิ้นขลุกขลัก..ได้กลิ่นเหม็นคลุ้งของสุราและกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงติดตามตัวชายร่างใหญ่คนนี้จนน่าอาเจียน ชายกล้ามใหญ่ราวกับนักเพาะกายรัดคอเขาด้วยแขนเดียวแน่น ซันจิซึ่งพึ่งตั้งสติได้น่าถอดสี..กำลังจะวิ่งมาช่วยแต่ชายร่างโตกลับใช้ระเบิดควันพร้อมพาลูฟี่หายไปต่อหน้าต่อตา

     

              ทางฝั่งลูฟี่ซึ่งกำลังสำลักควันจนน้ำตาเล็ดมองใบหน้าของคนที่ลักพาตัวตนมาด้วยความโกรธเคือง

     

              “ฉันเชื่อว่าเด็กผู้ชายตัวเล็กๆอย่างแกต้องถูกใจบอสแน่ๆ วี๊ฮ่า!” บอสของมันเป็นพวกโรคจิตชอบกินเด็กผู้ชายร่างบางๆตัวเล็กๆรึไง? ลูฟี่ชักสีหน้าพลางถามเสียงกระด้าง

     

              “แกเป็นใคร”

     

              จีซัส เบอร์เจส แห่งกลุ่มหนวดดำ” ร่างเล็กชะงัก แอบรู้สึกหวาดวิตกเล็กน้อย..คิดอยู่เหมือนกันว่าซักวันต้องเผชิญหน้ากันแน่ๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ มันจะจับเขาไปให้หนวดดำ? จากที่ดู..ดูเหมือนมันจะยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร

     

              แต่แบบนี้ต้องแย่แน่ๆ

     

              เด็กหนุ่มกัดปากจนห้อเลือด มองชายที่รัดคอตนอยู่ซึ่งยังคงพูดพร่ำเพ้อถึงกิตติศักดิ์และผลงานที่กลุ่มตัวเองได้ทำลงไปอย่างไม่ลดละ แม้กล้ามแขนโตๆนั่นจะรัดคอเขาอยู่แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่มันไม่ได้ออกแรงจนเขาแทบจะสลบเหมือนตอนแรก อย่างน้อยก็ยังพอหายใจได้อยู่บ้าง

     

              บางทีเขาก็คิดว่าตัวเองเหมือนแม่เหล็ก..ชอบดึงดูดความวุ่นวายมาหาตัวเองอยู่เรื่อย

     

             ผลั่ก!

     

              ทันใดนั้นเองที่ร่างของเขาลอยหวือ แรงที่รัดคอเขาหายไปพร้อมกับเบอร์เจสที่ล้มลงไปนอนบนพื้น มันหยัดตัวลุกขึ้นมามองผู้ที่ต่อยมันจนกระเด็นด้วยสายตาแข็งกร้าว ลูฟี่เงยหน้าขึ้น..รับรู้ได้ถึงแขนแกร่งที่โอบรอบเอวตนเอาไว้

     

              “แกมัน..”

     

             ผู้ชายผมแดงในตอนนั้น?

     

              “เบอร์เจส..ไม่ยักรู้ว่าเจ้านายแกจะรสนิยมต่ำชอบกินเด็กกะโปโลแบบนี้” ชายแปลกหน้ากล่าวพร้อมรอยยิ้มเหี้ยม ลูฟี่รู้สึกคิ้วกระตุก..เหมือนมันกำลังพูดเพื่อช่วยไม่ให้เบอร์เจสสนใจเขามากกว่าที่เป็นอยู่ แต่ก็เหมือนจะกำลังแอบด่าเขาทางอ้อมด้วยเหมือนกัน

     

              “แกเป็นใคร?”

     

              “ฉันจำเป็นต้องบอกแกด้วย?” ชายที่พึ่งมาช่วยเขาเอาไว้หัวเราะก่อนอุ้มเขาจนตัวลอย ใบหน้าคมดูยียวนกวนประสาทจนน่าต่อย..อีกฝ่ายนับหนึ่งถึงสามเบาๆพอให้เขาได้ยินก่อนที่จะวิ่งพร้อมพาเขาหนีไปด้วย และทันใดนั้นเองห่ากระสุนมากมายก็ถูกยิงมาเพื่อโจมตีพวกเขา พรรคพวกของตาแก่ที่ไอผมแดงนี่ไปมีเรื่องด้วยพากันไล่กวดพวกเขาราวกับหมาป่าที่กำลังไล่ล่าเหยื่อ

     

              เจ้าคนผมแดงพาเขาวิ่งหนีไปตามซอกหลีบระหว่างตึก เมื่อวิ่งออกมาไกลเรื่อยๆก็พบว่าเสียงฝีเท้าที่ไล่ตามมานั้นได้หายไปแล้ว ร่างเล็กถูกวางลงบนพื้น..ดูเหมือนว่าการวิ่งไปด้วยอุ้มเขาไปด้วยจะสร้างภาระให้ร่างกายของหมอนี่อย่างหนักหนาสาหัส

     

              ถึงจะเคืองที่มันแอบหลอกด่าเขาก็เถอะ

     

              แต่ว่า..

     

              “เฮ้ แกเป็นอะไรมั้ย?” ถามด้วยความเป็นห่วงพลางเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังหอบแฮ่กอย่างน่าเวทนา ชายผมแดงมองเขากลับด้วยสายตาดุดัน

     

              “ทำไมฉันต้องช่วยแกมาด้วยวะเนี่ย!” ลูฟี่ฉุนกึก

     

              “อ้าว! ฉันจะไปรู้เรอะ! เป็นแกเองนี่ที่แส่สอดมือมายุ่งเรื่องของฉันกับเจ้ากล้ามโตนั่น”

     

              “พูดดีๆนะไอเด็กบ้า ดูยังไงๆฉันก็อายุมากกว่าแกชัดๆ! ฉัน 18 แล้วนะโว้ย เด็กประถมอย่างแกเงียบไป!

     

              คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็กประถมกำหมัดแน่น “ไอบ้านี่ ฉันอายุเท่าแกนั่นแหละ!!

     

              “ฮะ?” ชายร่างสูงชะงักพลางมองมาที่เขาตาเหลือก นัยน์ตาคมมองเขาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า “อย่างแกเนี่ยนะอายุเท่าฉัน? ตอแหลไม่เนียนเลยว่ะ”

     

              “แกนี่วอนตีนจริงๆ!” เด็กหนุ่มชักสีหน้า คิดดูอีกที..เขากับหมอนี่คงญาติดีกันไม่ได้แน่ๆ เสียดายที่อุตส่าห์เป็นห่วงหมอนี่ น่าต่อยให้ตายคามือไปซะ!

     

              “เออ แต่ไหนๆฉันก็ช่วยแกมาแล้วมันก็ช่วยไม่ได้ แยกกันตรงนี้ละกัน แล้วก็อย่าโผล่มาให้ฉันเห็นหน้าอีกนะโว้ย!” คนผมแดงตะโกนลั่นพร้อมกับวิ่งออกไปจากตรอก ลูฟี่กลอกตามองบน..

     

             “ใครจะไปอยากเจอแกอีกวะ ไอบ้าเอ้ย!!

     

               

     

     

    ----|----|----|----|----

     



    พอจะรู้มั้ยคะว่าไอหนุ่มผมแดงนี่เป็นใคร? น่าจะเดากันไม่ยาก 55555555

    ไปช่วยเขาแล้วดันไปตะโกนใส่เขาแบบนั้นได้ไงคะคุณขา แหม่ แต่ลูฟี่ก็เหมือนเด็กประถมจริงๆ— แอ่ก! /โดนต่อย

    ส่วนซันจิ..เอ็นดูลูฟี่แค่ไหนถามใจซันจิดู จริงๆแล้วที่ตามลูฟี่ไปไม่น่าจะใช่เพราะกันไม่ให้ลูฟี่ก่อเรื่อง แต่เพราะไม่อยากอยู่ห่างลูฟี่มากกว่ามั้ง—

    ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นและทุกกำลังใจค่ะ! ><

     

     

     

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×