ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (one piece) straw hat gangster|อันธพาลหมวกฟาง (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 04 :: ตระกูลสุดแกร่งไร้เทียมทาน

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 61



     


     

     

     

              “โอ้ๆ งี้เองเหรอ ฉันเข้าใจแล้วล่ะ”

     

              เอสยิ้มหน้าชื่นบานหลังจากที่ลูฟี่เสียเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงอธิบายให้เขาฟังว่าทำไมสโมกเกอร์ถึงได้มาอยู่กับตนที่หน้าบ้านได้ แน่นอนว่าไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องกลุ่มมิงค์..แค่บอกว่าบังเอิญเจอกันและเจ้าควันตัดสินใจมาส่งก็เท่านั้น แต่บังเอิญว่าเอสเป็นคนเข้าใจอะไรยาก การอธิบายที่ควรจะจบลงภายใน 5 นาทีจึงยืดยาวกว่าที่ควร

     

              “แต่ฉันไม่มีวันให้แกไปรับไปส่งน้องชายฉันเป็นครั้งที่ 2 หรอกนะสโมกเกอร์! น้องชายคนเดียวฉันไปรับไปส่งได้เฟ้ย!!” ถึงจะบอกว่าเข้าใจแล้ว..แต่ก็ไม่วายหันมาแยกเขี้ยวใส่หนุ่มใหญ่ที่บังอาจมายุ่งกับน้องชาย(?)ของตน

     

              “แกควรจะเป็นพี่ชายที่แสนดีนี่เอส? ไม่คิดว่าแกหวงน้องเกินหน้าที่ไปหน่อยเหรอ” พลตำรวจโทหนุ่มทำสีหน้าเหม็นเบื่อพลางมองเจ้าพี่ชายบราค่อนที่เอาแต่กอดเอวน้องชายตัวเองไม่ห่าง เห็นละมันหงุดหงิด..ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีวุฒิภาวะมากพอคงต่อยมันไปแล้ว

     

              “นี่ลูฟี่ พี่หวงนายมากไปเหรอ? ไม่ใช่มั้ย? พี่ชายหวงน้องชายมันเรื่องปกติอยู่แล้วนี่!” ว่าแล้วเจ้าคนหวงน้องก็กอดน้องตัวเองแน่นขึ้นไปอีก

     

              แถมหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่สโมกเกอร์อีกต่างหาก

     

             ไอเด็กเวร..

     

              “เจ้าควัน แกกลับไปเลยก็ได้นะ” ลูฟี่ที่เริ่มเห็นท่าไม่ดีโบกมือไล่ สโมกเกอร์พยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจนักก่อนจะเดินกลับไปทางเดิม

     

              ฝั่งลูฟี่ที่สังเกตเห็นว่าเอสเริ่มคลายวงแขนที่กอดเอวเขาเอาไว้แล้วก็หันหลังไปเผชิญหน้ากับพี่ชาย เอสยังคงมีสีหน้าหงิกเหมือนหงุดหงิดอะไรซักอย่าง ก็พอจะเดาได้ล่ะนะว่าเจ้าตัวอารมณ์เสียเรื่องอะไร..เรื่องที่จะทำให้เอสหงุดหงิดได้ก็มีไม่กี่เรื่องเท่านั้นล่ะ

     

              “เอสสสส ฉันขอโทษนะ เอสโกรธฉันเหรอ?” เดินตามพี่ชายเข้าบ้านต้อยๆเหมือนลูกเป็ดเดินตามแม่เป็ด เอสเหลือบตามองเขาเพียงครู่เดียวแล้วก็หันไปทำงานของตัวเองต่อ

     

              “เปล่านี่”

     

             เปล่านี่บ้าอะไร!? เห็นชัดๆว่าโกรธอยู่น่ะ!!

     

              “โธ่เอส— ฉันขอโทษ”

     

              ร่างสูงหันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับเขา ใบหน้าคมคายนั่นไร้ซึ่งแววตาร่าเริงต่างจากทุกที

     

              “พี่บอกนายแล้วใช่มั้ยว่าห้ามอยู่กับพวกตาเฒ่าหัวงูสองต่อสอง!!

     

              ตาเฒ่าหัวงูคืออะไรวะ.. เด็กหนุ่มเก็บความสงสัยไว้ในใจเมื่อเห็นว่าถามไปตอนนี้เอสก็คงนึกว่าเขากำลังกวนโมโห

     

              “พวกมันหวังกินเด็กอย่างนายลูฟี่! พี่เข้าใจนะว่าไอ้คุณสโมกเกอร์เวรนั่นมันมาส่งนายด้วยความหวังดี! แต่นายก็อยู่กับมันสองต่อสอง! ซึ่งเรื่องนี้พี่ยอมรับไม่ได้ ถ้าครั้งหน้ามันทำอะไรนายล่ะ? พี่ต้องบุกไปฆ่ามันถึงสถานีตำรวจแน่ๆถ้ามันทำแบบนั้น!!

     

              ลูฟี่หัวเราะแห้งๆ..เรื่องที่ทำให้เอสที่มักจะอารมณ์ดีเสมอเกิดโมโหร้ายขึ้นมาได้มีอยู่ไม่กี่เรื่อง

     

              และหนึ่งในนั้นคือเรื่องของเขา

     

              นี่ถ้าเขาบอกเอสว่าวันก่อนก็อยู่กับครอคโคไดล์มันจะเป็นยังไงนะ? เจ้าเข้นั่นคงโดนเอสบุกไปกระทืบถึงถิ่นแน่ๆ

     

              พี่ชายของเขายิ่งเป็นพวกถ้าโมโหขึ้นมาไม่ว่าใครก็หยุดไม่อยู่เสียด้วย

     

              “ฉันขอโทษจริงๆ รับรองว่าครั้งหน้าจะไม่มีอีกแล้ว” หมายถึงไม่ให้นายจับได้อีกแล้ว..

     

              ผู้เป็นพี่ชายหรี่ตามองเขาเหมือนกำลังประเมินว่าคำพูดของเขามันเชื่อได้หรือไม่ ลูฟี่แสร้งยิ้มหน้าซื่อ..ภาวนาในใจขอให้เอสเชื่อมัน และคำภาวนาของเขาก็เป็นผลเมื่อในที่สุดเอสก็ยิ้มกว้างและหันหลังมากอดเขาแน่นอีกครั้ง

     

              “พี่ยกโทษให้นายก็ได้นะลูฟี่ แต่วันนี้นายต้องไปนอนห้องพี่!

     

              “หา!? ไหงงั้นล่ะ?

     

              “หรือนายจะไม่นอน? ก็ได้นะ งั้นไม่ต้องมาคุยกับพี่อีก”

     

              “เฮ้ยๆ เอส ไม่เอาน่า ฉันนอนกับนายก็ได้” ลูฟี่พองแก้มพลางกอดแขนพี่ชายแน่น เอสเวลาโกรธหรือน้อยใจเป็นอะไรที่แย่มาก (ประเมินโดยลูฟี่ผู้โดนโกรธอยู่บ่อยครั้ง) ร่างเล็กเม้มริมฝีปาก..ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะไปที่ฐานไม่ได้เสียแล้ว

     

              หลังจากนั้นเอสก็ไล่เขาให้ไปเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อย ทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใส่น้ำร้อนให้กินตามประสาคนที่ทำอาหารไม่เป็น หลังจากนั้นก็พามานั่งขลุกกันอยู่บนโซฟาตัวใหญ่เพื่อดูหนังเรื่องโปรด มันเป็นเรื่องของโจรสลัดที่ตามหาสมบัติที่เรียกว่าวันพีช ไม่อยากบอกว่าตอนที่พี่ชายของตัวเอกตายเอสร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังแถมยังเอาแต่พร่ำเพ้อถามเขาว่าถ้าตัวเองตายลูฟี่จะเสียใจเหมือนตัวเอกในเรื่องมั้ย

     

              แถมยังบ้าจี้สัญญากับเขาว่าตัวเองจะไม่ตายเหมือนที่พี่ชายตัวเอกเคยสัญญาตอนเด็กอีก (แต่ก็อย่างที่เห็น..สุดชายพี่ของตัวเอกก็ตายอยู่ดี)

     

              ซาโบกลับมาถึงบ้านหลังจากหนังจบไปพักใหญ่ น่าแปลกใจที่ปู่ไม่ได้กลับมาด้วย..แต่พอถามก็ได้ความว่าพลตำรวจโทการ์ปคนนั้นถูกเรียกไปศูนย์บัญชาการกรมตำรวจในเขตแผ่นดินใหญ่เพราะเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นในโลกมืด

     

              “ว่าแต่พวกนายดูวันพีชกันอีกแล้วหรือ? ไม่เบื่อบ้างรึไง” ซาโบถามพลางกลั้วหัวเราะ

     

              “ก็มันสนุกนี่”

     

              “ดูเอสสิซาโบ ดูกี่รอบก็ร้องตอนพี่ชายตัวเอกตายทุกรอบ อินเกินเบอร์มากอ่ะ ชิชิชิ”

     

              “นายร้องไห้อีกแล้วเหรอเอส อายลูฟี่บ้างเถอะ”

     

              “นายก็ร้องนะลูฟี่!!

     

              “โอ๊ะ— งั้นเหรอ? ไม่รู้ตัวเลยแฮะ“

     

              ลูฟี่ยิ้มแห้ง เมื่อลองไปส่องกระจกก็เห็นขอบตาที่บวมเป่ง..นี่เขาร้องไห้ตอนไหนหว่า? หรือเผลอหลับไปร้องไห้ไป? ขมวดคิ้วมุ่นกับความคิดไร้สาระก่อนยักไหล่ เลิกสนใจคงจะดีกว่า

     

              “แล้วงานเป็นไงบ้างซาโบ คงเหนื่อยน่าดูเลยสิ ชิชิชิ”

     

              พี่ชายคนรองถอนหายใจกับคำถามนั้น ดูเหมือนว่าสิ่งที่ลูฟี่พูดจะไม่ต่างจากความเป็นจริงมากนัก “อือ เหนื่อยมาก”

     

              “หา? เหนื่อยขนาดนั้นเลยเหรอ” เอสชะโงกหน้ามาถามจากโซฟา ซาโบซึ่งยืนชงกาแฟอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์พยักหน้ารับ เอสเคยทำงานกับองค์กรเอกชนที่มีอิทธิพลในเขตแผ่นดินใหญ่มาก่อน (ซึ่งหลังจากอุบัติเหตุเมื่อ 3 ปีก่อน..ตอนนี้ก็กลายเป็นคนว่างงานที่รับงานฟรีแลนซ์ทำประทังชีวิตไปวันๆ) ทำให้ไม่เข้าใจเรื่องหน้าที่การงานของตำรวจมากนัก

     

    จะว่าไปทำไมตอนนั้นเขาถึงไม่ไปสอบโรงเรียนนายร้อยกับซาโบนะ? เคยนึกสงสัยอยู่เหมือนกัน..แต่ก็จำไม่ได้ว่าเหตุผลในตอนนั้นคืออะไร

     

              “ก็พวกหนวดดำดันไปแทรกแซงอำนาจกับอิทธิพลของกลุ่มอื่นน่ะสิ กลายเป็นว่าพวกกลุ่มใหญ่ๆเลยเริ่มเคลื่อนไหวกัน พวกบาร็อกเวิร์คส์บางส่วนหรือแม้แต่กลุ่มมิงค์ก็มาที่เขตนี้แล้ว..ไม่รู้ว่าพวกมันต้องการอะไร”

     

             เรื่องของกลุ่มมิงค์ไปถึงหูพวกตำรวจเร็วจังแฮะ?

     

             แต่ก็แน่ละ..หูผีซะขนาดนั้น

     

              “บางทีอาจจะอยากไปรวมกลุ่มพันธมิตรกับพวกหมวกฟางก็ได้นี่ แบบ— รวมกลุ่มใหญ่ๆไว้ก่อนปลอดภัยกว่า” เอสว่าพลางแหงนหน้าเหม่อมองเพดาน ลูฟี่ชะงัก..จะว่าไปกลุ่มมิงค์ก็บอกว่ามีธุระกับพวกเขานี่นะ?

     

              “ถ้าเป็นแบบนั้นก็เรื่องใหญ่น่ะสิ นายต้องระวังตัวไว้นะลูฟี่ ห้ามมีเรื่องพวกบ้านั่นเด็ดขาด เข้าใจ๊?

     

              “หา!? เอ้อ..” ร่างบางเออออไปกับคำเตือนของพี่ชายคนรอง “เข้าใจสิเข้าใจ ฉันไม่หาเรื่องใส่ตัวหรอก ชิชิชิ”

     

             แต่เรื่องมันชอบพุ่งมาหาเองมากกว่านะ..

     

              “ดีแล้วๆ”

     

              เอสลุกพรวดขึ้นมาจากโซฟา เจ้าตัวยังคงเดินเปลือยท่อนบนไปทั่วบ้าน โชคยังดีที่ทั้งลูฟี่และซาโบเองต่างกับเคยชินกับพฤติกรรมนั้นไปแล้วเนื่องจากเห็นมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าคนอื่นมาเห็นจะเป็นยังไง?

     

              อืม..เอสก็ไม่ได้หน้าตาแย่ ออกจะดูดีมากด้วยซ้ำ ไหนจะรูปร่างที่ดูดีแบบนั้นอีก

     

              ไม่แปลกใจเลยที่ตอนเรียนอยู่มหาลัยจะมีคนตามจีบเยอะเป็นขบวนแบบนั้น

     

              “ว่าแต่ลูฟี่ พี่ยังไม่ได้กอดนายเลยนะ” ซาโบวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะก่อนอ้อมมายืนอยู่ด้านหลัง เจ้าตัวเล็กหัวเราะเสียงใสแล้วกระโดดกอดพี่ชายอย่างแสนรัก ทางฝั่งพี่ชายตัวดีก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนพร้อมลูบหัวน้องชายตัวเองไปมา ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีกี่ปีลูฟี่ก็ยังเป็นเพียงเด็กน้อยสำหรับเขา

     

              เด็กน้อยที่ต้องการการปกป้องจากทั้งเขาและเอส

     

              “แล้วงานเป็นไงบ้างเอส? ได้ข่าวว่ามีลูกค้าใหม่แล้วนี่” ซาโบถามขึ้นบ้างพลางทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาพร้อมกับอุ้มลูฟี่มานั่งข้างๆกัน เอสทำหน้าเหมือนคนที่ถูกบังคับให้กินอะไรขมๆ

     

              “ไอลูกค้าคนล่าสุดนี่ละเรื่องมากสุดๆ ผมทรงสับปะรดนั่นก็เห่ยเป็นบ้า สาบานได้ว่าต่อให้ตายยังไงฉันก็จะไม่ทำผมทรงนั้นเด็ดขาด!

     

              “เกรี้ยวกราดสุด ชิชิชิ”

     

              “แต่ถ้านายเรื่องมากพี่ยอมนะลูฟี่ อยากได้อะไรบอกพี่มาได้เลย พี่จะไปหามาให้นายเอง!” พุ่งตัวหวังจะไปกอดน้องชายให้จมอกอีกครั้ง โชคร้ายนักที่ซาโบรู้ทันจึงดึงลูฟี่หลบเอสได้อย่างฉิวเฉียด

     

              “ทำบ้าอะไรของนาย ซาโบ!

     

              “นายลวนลามน้อง!

     

              “ที่นายกอดลูฟี่อยู่นั่นก็ลวนลามหมอนั่นเหมือนกัน! ฉันว่านายปล่อยหมอนั่นได้แล้วมั้ง..เป็นพี่ชายที่แสนดีไม่ใช่รึไง?” เอสเริ่มคิ้วกระตุก

     

              “โฮ่— นายก็เป็นพี่ชายที่แสนดีไม่ใช่เหรอเอส ที่บอกให้ลูฟี่ไปนอนด้วยคืนนี้อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะ นายมันก็แค่ไอพี่ชายจอมหื่นเท่านั้นล่ะ!” ซาโบถลกแขนเสื้อขึ้นบ้าง จ้องตากับเจ้าของผมสีดำหยักศกอย่างไม่ยอมแพ้ สุดท้ายทั้งคู่ก็เอาแต่ยืนจ้องตากันนิ่งแบบนั้นเหมือนพร้อมจะตะลุมบอนได้ทุกเมื่อหากมีใครคนหนึ่งเริ่มขยับตัว

     

              ทางฝ่ายลูฟี่ที่เริ่มเห็นว่านี่เป็นโอกาสเหมาะที่จะหนีออกจากบ้านก็ค่อยๆเดินย่องขึ้นบันไดไปจัดของ ได้ยินเสียงตะลุมบอนดังขึ้นมาจากด้านล่าง กว่าเอสกับซาโบจะเลิกตีกันก็คงอีกพักใหญ่..ไว้คืนนี้เขาหนีไปนอนที่ฐานแล้วไปเรียนเลยค่อยกลับบ้านตอนเย็น ถึงตอนนั้นแล้วทั้งสองคนก็คงจะเลิกโกรธที่เขาหนีออกจากบ้านไปแล้ว

     

              “ชิชิชิ”

     

              เด็กหนุ่มหัวเราะนึกพอใจในแผนของตัวเองก่อนจะก้าวขาเตรียมเดินออกจากบ้าน น่าเสียดาย..ในจังหวะที่กำลังจะปิดประตูคอเสื้อของเขากลับถูกมือของพี่ชายทั้งสองคนคว้าเอาไว้เสียก่อน

     

              ลูฟี่หน้าซีดฉับพลัน..

     

              เมื่อหันหลังกลับไปก็เห็นทั้งซาโบและเอสที่มองมาด้วยสายตาน่ากลัวและบรรยากาศน่ากดดันจนอยากจะกัดลิ้นตายซะเดี๋ยวนั้น ทั้งสองแสยะยิ้มเหี้ยมพลางพูดเสียงเย็นชวนให้รู้สึกขนลุก

     

              “ดึกป่านนี้แล้วจะหนีไปไหนเหรอ..ลูฟี่”

     

     

     

    ----|----|----|----|----

     

     

     

              ลูฟี่นั่งหน้าหงิกอยู่ในคฤหาสน์หลังโกดังหมายเลข 0 ซึ่งเป็นฐานลับของพวกเขา

     

              หลังจากวันนั้นเขาก็ต้องขาดเรียนไปหนึ่งวันเพราะพี่ชายทั้งสองกักบริเวณไม่ให้ไปไหน เจ้าตัวเล็กที่ถูกทำโทษก็เอาแต่นั่งหน้ามุ่ยอยู่ในบ้าน จะหนีไปไหนก็ไม่ได้เพราะทั้งเอสและซาโบรู้จักนิสัยเขาค่อนข้างดีและสามารถดักความคิดเขาได้ตลอด

     

              โชคยังดีที่วันนี้พี่ชายปล่อยตัวเขาให้ไปเรียนได้ตามปกติ แต่ก็นั่นล่ะนะ..สุดท้ายเขากับเพื่อนก็ตัดสินใจโดดมาอยู่ที่นี่อยู่ดี

     

              ก็วิชาวันนี้มันน่าเบื่อนี่นา..ไม่ได้สำคัญอะไรด้วย

     

              “พ่อใหญ่” ชายร่างสูงเดินเข้ามาในห้องรับแขก ลูฟี่เงยหน้าขึ้นเช่นเดียวพวกเพื่อนๆของเขาซึ่งดำรงตำแหน่งเสนาธิการของกลุ่ม บลู กิลลี่ เป็นสมาชิกกลุ่มหมวกฟางหน่วยที่ 4 ของอิเดโอ เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มไม่กี่คนที่ได้เห็นหน้าของพ่อใหญ่และพวกเสนาธิการทั้งๆที่ตัวเองไม่ใช่หัวหน้าหน่วย คนขายาวยืนอยู่ตรงหน้าพวกลูฟี่..ดูเหมือนเจ้าตัวมีเรื่องจะพูด

     

              “มีอะไร?” โซโลถามเสียงเข้ม

     

              “จำกลุ่มบลูแจมที่เคยอาละวาดที่นี่เมื่อปีก่อนแล้วถูกคุณเอสกับร้อยตรีซาโบจัดการได้มั้ย?” ทุกคนหันมามองหน้ากันก่อนพยักหน้า ซาโบกับเอสเป็นพี่ชายของลูฟี่..เรื่องนี้พวกเขารู้ดีอยู่แล้ว และข่าวดังเมื่อปีก่อนนั่นพวกเขาก็รู้เช่นกัน

     

              “ดูเหมือนปอร์เชมี่..ลูกน้องที่เป็นมือขวาของมันจะกลับมาที่นี่เพื่อล้างแค้น แต่เพราะที่นี่เป็นถิ่นของเรามันเลยมาขอคำอนุญาตจากพ่อใหญ่”

     

              สายตาของทุกคนมองไปยังร่างบางซึ่งนั่งอยู่ตรงกลางด้วยสีหน้าที่ไม่อาจคาดเดาความรู้สึกได้

     

             ลูฟี่ต้องปฏิเสธอยู่แล้ว คนที่รักพี่ชายยิ่งกว่าใครอย่างเจ้านี่ไม่มีทางยอมให้—

     

              “เอาสิ”

     

              “เฮะ!?” อดที่จะส่งเสียงร้องออกมาอย่างประหลาดใจไม่ได้เมื่อคำตอบของผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มไม่ใช่อย่างที่คิด ลูฟี่เพียงแค่คลี่รอยยิ้มบางพร้อมยอมรับคำขอนั่นง่ายๆอย่างกับว่าสิ่งที่ปอร์เชมี่ไรนั่นมาขอคือขอกินข้าวไม่ใช่ขอเข้าเมืองมาทำร้ายพี่ชาย

     

              “คิดอะไรของนายเนี่ยลูฟี่ นั่นพี่ชายนายเชียวนา” อุซปถาม จะว่ารับคำขอนั้นง่ายๆเพราะแค้นที่พี่ชายกักบริเวณตัวเองนั่นก็ดูจะไร้สาระเกินไป..

     

             หมอนี่คิดอะไรอยู่กันแน่?

     

              “แล้วพวกนั้นส่งคนมากี่คนล่ะ?

     

              บลู กิลลี่ มองข้อมูลที่ถูกเขียนอยู่บนกระดาษในมือของตนก่อนเงยหน้าขึ้นมาตอบ

     

              “50 คน..”

     

              “50 คนรุมคนแค่ 2 คนเนี่ยนะ? พวกมันบ้าไปแล้วแน่ๆ” นามิหัวเราะเหอะ นึกเวทนาในความหมาหมู่ของพวกขี้แพ้ที่พอพลังของตัวเองเพียงคนเดียวสู้ไม่ได้ก็ใช้ความหมาหมู่เข้าช่วย ราวกับหมาจนตรอก..จะว่าไป 50 คนนั่นก็คงเป็นสมาชิกทั้งหมดของกลุ่มบลูแจมในตอนนี้แล้ว

     

              “หืมม งั้นเหรอ? ชิชิชิ งั้นฝากบอกพวกนั้นว่าจัดการได้เลย ฉันอนุญาตให้เข้ามาก่อความวุ่นวายได้ชั่วคราว แต่ว่า..”

     

              “....”

     

             “บอกมันไปด้วยนะว่าถ้ามันทำให้คนบริสุทธิ์โดนลูกหลงกลุ่มหมวกฟางจะไม่เอามันไว้แน่ อ้อ— และถ้ามันจัดการ 2 คนนั้นได้..พวกเราจะแบ่งอาณาเขตให้”

     

             

     

     

     

              ทางฝั่งเอสและซาโบซึ่งในที่สุดก็ยอมปล่อยลูฟี่ออกจากบ้านหลังจากขลุกอยู่ในบ้านกับลูฟี่ทั้งวันเมื่อวาน พวกเขาเดินผ่านย่านถนนคนเดินเพื่อซื้อของไปง้อน้องชายที่จะกลับจากโรงเรียนในตอนเย็นอย่างอารมณ์ดี เมื่อเช้าลูฟี่ไม่ยอมคุยกับพวกเขาเพราะงอนที่เมื่อวานตัวเองถูกกักบริเวณทั้งวัน

     

              แถมยังถูกกอดแน่นซะจนอึดอัดอีก  

     

             ก็ลูฟี่น่ารักนี่นา..ใครเห็นก็ต้องอยากกอดทั้งนั้นล่ะ

     

              พวกเขายืนปรึกษากันอยู่ครู่หนึ่งว่าจะซื้ออะไรกลับไปกินที่บ้านบ้าง หลังจากที่ตกลงกันได้ก็แยกย้ายกันไปซื้อแล้วมารวมตัวกันที่ทางออก เพราะถนนคนเดินนี่ไม่ได้ไกลจากบ้านมากนักทำให้สามารถเดินทางด้วยเท้าและไม่ต้องใช้รถให้เปลืองน้ำมัน

     

              แต่ก็นั่นล่ะ..การเดินทางด้วยเท้าย่อมมีความเสี่ยง

     

              เพราะกว่าจะถึงบ้านพวกเขาต้องผ่านพวกตรอกซอกซอยมากมาย การที่จะถูกขู่กรรโชกทรัพย์หรือถูกพวกอันธพาลมาหาเรื่องก็เป็นเรื่องที่พบเจอได้ปกติ โดยเฉพาะเมื่อซาโบเป็นตำรวจที่พวกอันธพาลเกลียดขี้หน้านักหนา ถ้าวันไหนดวงซวยก็อาจจะโดนรุมหลายคนหน่อย

     

              เหมือนอย่างเช่นวันนี้

     

              “โอ้นั่น— ร้อยตรีซาโบคนเก่งนี่นา” วัยรุ่นกลุ่มใหญ่เดินมาดักหน้าดักหลังพวกเขาด้วยรอยยิ้มเหยียดหยัน ในมือของพวกมันมีอาวุธครบ..ทั้งไม้เบสบอล มีดพก หรือแม้แต่กระบองเหล็ก ดูก็รู้ว่าคงเล็งหาเรื่องพวกเขามาซักพักแล้วถึงได้มารวมตัวกันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้

     

              “พวกแกเป็นใคร?” เอสเลิกคิ้วมองคนกลุ่มใหญ่ด้วยสายตาที่ไม่สามารถคาดเดาความรู้สึกได้ มุมปากยกขึ้นพลางกอดอกยืนมองพวกมันซึ่งกำลังจะพูดอะไรซักอย่าง..น่าจะแนะนำตัว? พูดจาวางท่าอวดดี? จะอะไรก็ช่างเถอะ แต่กล้ามาขัดขวางตอนที่พวกเขากำลังจะเอาของกินไปส่งให้ลูฟี่ที่บ้านแบบนี้..รับรองว่าคงไม่ตายดีเท่าไหร่

     

              กำลังอารมณ์ดีอยู่แล้วเชียว..ดันมีเรื่องให้อารมณ์เสียซะได้

     

              “ฉันชื่อปอร์เชมี่..เป็นมือขวาของบลูแจมที่แกจัดการไปเมื่อปีที่แล้ว” ชายคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าแนะนำตัวด้วยท่าทียโสโอหัง..ซาโบแค่นหัวเราะในลำคอ

     

              “บลูแจมหรือ? ใครล่ะนั่น..”

     

              “แก!!

     

              ชายตัวใหญ่ที่ชื่อปอร์เชมี่พุ่งเข้าไปหวังจะจัดการกับซาโบซึ่งตอนนี้ไม่ได้พกอาวุธใดๆติดตัวมา การตะลุมบอนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว..เพราะจำนวนที่มากกว่าทำให้เอสกับซาโบแอบหอบเล็กน้อย จากที่ดูคร่าวๆก็น่าจะประมาณ 50 คน?

     

              50 ต่อ 2

     

             ดี! นี่มันโคตรแฟร์เลย! #ประชด

     

              ถึงแม้ว่าตอนแรกการต่อสู้จะเป็นไปอย่างทุลักทุเลเพราะจำนวนคนที่ต่างกันมาก แต่ไม่นานนักมันก็จบลงเมื่อเอสกับซาโบวางถุงอาหารในมือลงแล้วเริ่มเอาจริงกับการต่อสู้นี้ ฝีมือของทั้งคู่เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกคนที่พบเห็น แม้แต่ตัวของกลุ่มปอร์เชมี่เองก็ดูจะเข็ดหลาบไปเสียแล้ว

     

              ทั้งคู่ปัดฝุ่นตามเสื้อและกางเกงของตัวเองพลางมองร่างของผู้ที่มาหาเรื่องพวกเขาด้วยสายตาว่างเปล่า

     

              “ไม่รู้ซะแล้วว่าเล่นกับใครอยู่” เอสพึมพำเสียงแผ่ว นัยน์ตาสีดำขลับฉาบแววเย้ยหยันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนตลอด 3 ปี ซาโบแอบเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเล็กน้อย..แต่เพราะไม่นานหลังจากนั้นเอสก็กลับมายิ้มแย้มอย่างปกตินั่นทำให้เขาไม่ได้คิดติดใจอะไร

     

     

     

              ไม่ไกลจากที่นั่นนัก..ลูฟี่ซึ่งมองเหตุการณ์ทุกอย่างผ่านกล้องส่องทางไกลแย้มยิ้มมุมปาก

     

              “ชิชิชิ 50 คนทำอะไร 2 คนนั้นไม่ได้หรอก หรือถึงแกจะพาลูกน้องมาเป็นร้อยคน..ก็ได้แค่แพ้พวกนั้นช้าลงอยู่ดี” เขาหัวเราะเสียงใส

     

              ใครๆก็รู้กันทั้งนั้นว่านอกจากกลุ่มหมวกฟางแล้ว..พวกบ้านมังกี้ก็ไม่ใช่คนที่ควรจะไปยุ่งด้วยเท่าไหร่นัก คนปู่ก็เป็นพลโทฝีมือดี คนพ่อที่แม้จะหายตัวไปแต่เมื่อก่อนก็มีอิทธิพลไม่ใช่เล่น คนลูกหรือ? ไม่ต้องพูดถึง..สืบทอดความสามารถมาทั้งจากปู่และจากพ่อ ส่วนพี่ชายร่วมสาบานทั้ง 2 ก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่ากัน

     

              จะเรียกได้ว่าเป็นตระกูลสุดแกร่งแห่งอีสท์ทาวน์ก็ไม่ใช่อะไรที่เกินจริงนัก

     

    “เอสกับซาโบเก่งกว่าฉันซะอีกนา” ลูฟี่พึมพำอย่างอารมณ์ดี เลื่อนสายตาไปมองเอสเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเพราะอะไร..แต่ชั่วครู่หนึ่งเขากลับคิดว่านั่นไม่ใช่เอสคนเดียวกับที่อยู่กับเขามาตลอด 3 ปี

     

              ในหัวพาลนึกไปถึงคำถามของสโมกเกอร์ตอนที่เจอกันเมื่อวันก่อน

     

             แล้วพี่ชายแกเป็นไงบ้างล่ะ

     

             ซาโบสบายดี! พึ่งเรียนจบโรงเรียนนายร้อยเมื่อปีที่แล้วเอง ตอนนี้เป็นนายร้อยตำรวจตรีซาโบแล้วนะรู้ยังล่ะ!’ 

     

             ไม่..ฉันไม่ได้หมายถึงเจ้านั่น ฉันหมายถึง..พี่ชายอีกคนหนึ่งของแกต่างหาก

     

             เอสสบายดี ก็..เหมือนเดิมนั่นแหละ

     

              ใช่ ยังเหมือนเดิม

     

     

     

     

     

    ----|----|----|----|----

     


     

    รอนานมั้ยคะ T^T

    ไม่เป็นไรนะ เพราะหลังจากนี้ได้รอนานกว่านี้อีก (ฮา)

    คิดว่าอาจจะมาอัพสัปดาห์ละตอนหรือ 2 ตอน? สลับกับเรื่องทหารเรือเดอะซีรีย์ค่ะ

    ที่วางพลอตไว้คร่าวๆเรื่องนี้จะมีทั้งหมดประมาณ 40 ตอน จะพยายามให้เมะทุกตัวโผล่มาจนครบ (คนที่น่าจะไม่ได้โผล่มาในภาคนี้ก็คงเป็นเอเนลกับคาตาคุริ /ถ้าเพิ่มไปอีกมันจะดูเป็นการยัดเยียดบทเกินไป ;-; )

    ถ้าเจอคำผิดก็บอกได้เลยน๊า และถ้าเม้นเป็นกำลังใจให้ด้วยจะขอบคุณมากเลยค่ะ ;-;

     

     

     

     

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×