คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 03 :: หนึ่งวันกับปีศาจสวรรค์สีชมพู
นี่เขามาถูกห้องใช่มั้ย..?
ร่างบางคิดในใจพลันเหลือบตาไปมองห้องพักสำหรับแขกขนาดใหญ่ที่ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใดๆในนี้
ไม่มีแม้แต่เจ้าตัวการที่ทำให้เขาต้องมาอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ
ลูฟี่เดินเตาะแตะไปนั่งลงบนโซฟา คิดเพียงว่าอีกไม่นานเดี๋ยวอีกฝ่ายก็คงมานั่นล่ะ..แต่ถ้านัดเขาไว้แล้วไม่มาล่ะก็น่าดู! เขาไม่อยากรออยู่ที่นี่ทั้งวันหรอกนะ!
“โอ๊ะ! มีลูกอมด้วย!”
เจ้าตัวเล็กตาวาวเมื่อเห็นโหลใส่ลูกอมบนโต๊ะรับแขก
แต่เดี๋ยวก่อนนะ..เจ้าควันบอกห้ามรับลูกอมจากโดฟลา—
เอ ชื่อไรนะ? ช่างเถอะ
มือที่กำลังเอื้อมไปหยิบโหลนั่นขึ้นมาชะงักไปในทันที
ลูฟี่ถอนหายใจ พยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้หันไปมองมันสุดชีวิต
สุดท้ายแล้วก็จบลงด้วยการเผลอหลับบนโซฟาระหว่างรอปีศาจสวรรค์ที่ว่านั่น
ท่ามกลางความเงียบสงัดเพราะแขกตัวเล็กได้ตกลงไปในห้วงนิทราเรียบร้อยแล้ว
ประตูห้องรับรองถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงใหญ่เหนือมนุษย์ของชายคนหนึ่ง
ทั้งการแต่งตัวที่มีเอกลักษณ์และใบหน้าคมคายซึ่งประดับไปด้วยแว่นกันแดดรูปทรงแปลกๆ
ไม่ว่าใครที่มาเห็นชายคนนี้ก็ต้องหลบตาแทบไม่ทัน..
เขาขึ้นชื่อในในเรื่องความเจ้าเล่ห์และความอันตรายที่ยากจะหยั่งถึง
ปีศาจสวรรค์
โดฟลามิงโก้
ชายวัยสามสิบตอนปลายเดินไปหยุดอยู่ที่โซฟา
มองเด็กหนุ่มซึ่งกำลังนอนหลับฝันดี..สังเกตได้จากใบหน้าที่เปื้อนยิ้มตลอดเวลานั่น
ดูบริสุทธิ์ซะจน..อยากทำลายทิ้งซะเดี๋ยวนั้น
“นี่น่ะเหรอน้องชายของไอพวกเด็กเปรตนั่น
ฟุฟุฟุ” ไล่สายตามองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
ร่างเล็กๆของเด็กหนุ่มในชุดลำลองที่ไม่มีเสื้อโค้ทสีขาวของทหารเรือคลุมไหล่เหมือนทุกที
ไม่รู้ทำไม..แต่เขารู้สึกว่าเด็กนี่เหมาะกับการแต่งตัวสบายๆอย่างนี้มากกว่าตอนที่คลุมด้วยโค้ทนั่น
เคยได้ยินว่าเจ้าหมวกฟางเป็นตัวปัญหาสุดๆ ในบางครั้ง..แม้แต่กองทัพเรือก็ไม่สามารถควบคุมเจ้านี่ได้
ชอบทำอะไรตามใจตัวเองโดยไม่สนกฎเกณฑ์อะไรทั้งสิ้น
ไม่ชอบทำตามคำสั่งใครหรือเป็นลูกน้องใคร แค่ทุกวันนี้ยอมเชื่อฟังจอมพลเซ็นโงคุกับพลโทการ์ปบ้างก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์มากแล้ว
นิสัยแบบนี้..เจ้านี่ควรจะเป็นโจรสลัดมากกว่าทหารเรือด้วยซ้ำ
ตั้งแต่ตอนเจอกันเมื่อวาน..ทันทีที่พบหน้าก็จำได้ทันทีว่าเป็นเด็กหมวกฟางคนเดียวกับที่เจอเมื่อ
3 - 4 ปีก่อนตอนที่เขาไปเยี่ยมตาแก่การ์ปที่ฝึกพวกว่าที่ทหารเรืออยู่
ยอมรับว่าสนใจในตัวเด็กที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหลานของตาแก่สัตว์ประหลาดนั่นอยู่นิดหน่อย
ตั้งใจจะเข้าไปล่อลว— เอ้ย ไปคุยเล่น แต่พอไปถึงก็เจอกับพี่ชาย 2 คนของมันที่เอาแต่กันไม่ให้เขาเข้าไปคุยกับเจ้าตัวเล็กท่าเดียว
และหลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเพราะเขาไม่ได้เดินทางมายังศูนย์บัญชาการนี่อีกพักใหญ่
อีกสาเหตุคือไอเด็กเปรตที่ชื่อเอสกับซาโบนั่น
พวกมันเอาแต่คอยขัดขวางไม่ให้เขาเดินทางมาพบเจ้าลูฟี่ได้โดยการก่อเรื่องวุ่นวายในเดรสโรซ่าไม่หยุดตลอดระยะเวลาที่ว่างเว้นจากภารกิจของกองทัพเรือ
และวันนี้ก็ราวกับฟ้าเป็นใจ..ในที่สุดไอเด็กพวกนั้นก็ไม่อยู่เป็นก้างขวางคอซักที!!
“แก
ไอหมวกฟาง ตื่นได้แล้ว” หิ้วคอเสื้อมันขึ้น มองใบหน้าสะลึมสะลือกึ่งหลับกึ่งของมันก็ถึงกับต้องหัวเราะในลำคอเบาๆ
ลูฟี่ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก
มองร่างของตัวเองที่ถูกยกลอยอยู่เหนือโซฟาด้วยมือเพียงข้างเดียวด้วยตาที่เบิกกว้าง
“เห้ย! ปล่อยนะ!” ใครมันกล้าทำกับเขาแบบนี้..
ว่าแล้วก็พาลนึกย้อนไปถึงภารกิจที่ได้รับมอบหมายมา..มาดูแลเจ้าของห้องนี้
เจ้าของห้อง?
หรือคนที่หิ้วเขาอยู่จะเป็นเจ้ามิงโก้อะไรนั่น?
เงยหน้าขึ้นมองคนที่หิ้วตนอย่างกับลูกแมว
ผมสีทองถูกตัดจนสั้นเกรียน
ผิวคล้ำสีแทนดูมีเสน่ห์..ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนตรงหน้าเขาค่อนข้างดูดีอยู่พอสมควร
เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังคิดอะไรอยู่เนื่องจากแว่นกันแดดรูปทรงประหลาดที่บังนัยน์ตาคู่นั้นเอาไว้
ส่วนสูงที่ชะลูดกว่ามนุษย์มนาปกติทำให้อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขายืนคงต้องเงยหน้าคุยจนเมื่อยคอ
แล้วชุดนั่นมันบ้าอะไร..หน้าตาอย่างเจ้านี่ชอบสีชมพูเรอะ
ตลกดีแฮะ
ชิชิชิ
“ชิชิชิ
แกคือมิงโก้เหรอ?”
ผู้มีศักดิ์เป็นหนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัดเลิกคิ้วขึ้นสูง
“มิงโก้? โดฟลามิงโก้ต่างหาก..เรียกให้ถูกหน่อยเจ้าหมวกฟาง”
ลูฟี่มีสีหน้างงงวยปนสับสน
“โด—
โด— มิงโก้!”
ดูเหมือนมันจะเรียกยากไปสำหรับเจ้าหนูนี่
ตั้งแต่เกิดมาจนนี่ก็
39 ปีไปแล้ว
หนุ่มใหญ่พึ่งจะมารู้สึกเสียใจที่พ่อตั้งชื่อเขาให้ยาวกว่าชาวบ้านก็ครานี้
แต่ชื่อโดฟลามิงโก้นี่เรียกยากตรงไหน? ที่ผิดปกติคงไม่ใช่ชื่อเขา..แต่เป็นสมองเจ้าเด็กนี่มากกว่า
“กินลูกอมซะสิ
ฉันเตรียมมาเพื่อแกโดยเฉพาะ” ยื่นโหลลูกอมบนโต๊ะให้เจ้าตัวเล็กซึ่งกำลังทำหน้าเหมือนฝืนอะไรอยู่
มือเล็กๆคู่นั้นทำท่าจะยื่นมารับหลายรอบแต่สุดท้ายก็ชักมือกลับอย่างน่าสงสัย
“เป็นอะไรไป
ไม่กินรึไง?”
“เจ้าควันบอกห้ามรับลูกอมจากแก”
“หา? เจ้าควัน!?” ใครวะ
มั่นใจว่านั่นคงเป็นชื่อที่เจ้านี่ตั้งให้ทหารเรือซักคนแน่ๆ
คงไม่มีใครมันบ้าตั้งชื่อลูกว่าควันหรอก
ลูฟี่มีสีหน้าครุ่นคิดเหมือนกำลังนึกว่าชื่อจริงของเจ้าควันที่เขาเรียกมาตลอดนั้นชื่อว่าอะไรกันแน่
“สโมก— สโมกเกอร์” ปากบางเป็นกระจับพึมพำชื่อนั้นด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ
โดฟลามิงโก้คิ้วกระตุก..ไอเจ้าสโมกเกอร์นี่ บังอาจมากันท่ากันรึ!?
“ฉันรับลูกอมจากแกไม่ได้”
“อย่าไปฟังมันให้มากนัก”
“เอ๋? ทำไมอ่ะ”
คนอายุมากกว่าไม่ตอบแต่กลับแบกเจ้าตัวเล็กขึ้นนั่งบนไหล่
ความคิดและแผนการมากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัว..จับตัวไปเรียกค่าไถ่จากตาแก่เฮงซวยนั่นดีมั้ยนะ? หรือเขาควรลักพาตัวมันไปขังไว้ที่เดรสโรซ่าดี?
โครก..
ไม่ใช่เสียงท้องเขาร้อง..นัยน์ตาคมกริบภายใต้แว่นกันแดดทรงประหลาดมองไปยังคนตัวเล็กซึ่งนั่งอยู่บนบ่าแทบจะในทันที
เจ้าตัวยิ้มเก้อ
“ฉันหิวอ่ะ
อยากกินเนื้อ”
ความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในหัว
“โอเค
งั้นฉันจะพาแกไปกิน”
เชื่อเลยว่าถ้าพวกลูกน้องที่เดรสโรซ่ามาเห็นเขาเลี้ยงข้าวเด็กแบบนี้ได้ตกใจจนหัวใจวายตายแน่ๆ
อีกฟากหนึ่งของศูนย์บัญชาการใหญ่กองทัพเรือ..
“พลโทการ์ป! พลโทการ์ป! แย่แล้วครับ!”
นายทหารเรือยศพันจ่าโทคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องรับรองหน้าตาตื่น การ์ปจำได้ลางๆว่าอีกฝ่ายเป็นคนคอยตามดูแลและเช็ดล้างปัญหาที่ลูฟี่สร้างเวลาออกเรือ
สีหน้าร้อนรนนั่นชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าในห้องรับรองไม่ได้มีเพียงพลโทการ์ป
แต่มีจอมพลเซ็นโงคุ และพลเรือเอกทั้งสามนั่งอยู่ด้วย
“อ้าว—พันจ่าโท..ชื่ออะไรแล้วนะ?”
“อุซปครับ! พันจ่าโทอุซปครับ!”
“อ้อ—
เธอคือคนที่เจ้าหนูนั่นไปช่วยไว้ที่หมู่บ้านไซรัปในเกาะเกคโคสินะ? คุณหนูคายะสบายดีมั้ย?”
จอมพลเซ็นโงคุเป็นคนกล่าวทักทายด้วยสีหน้าเป็นมิตร สาเหตุที่เขาจำหน้าพันจ่าโทคนนี้ได้ก็คงจะเป็นเพราะจมูกยาวๆที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์นั่น
ไหนจะประวัติที่ไม่ธรรมดาอย่างการเป็นลูกชายของยาซป..ลูกเรือของผมแดงแชงคูสนั่นก็อีก
“เธอสบายดีครับ ส่งจดหมายมาเล่าเรื่องที่นั่นทุกวันเลย”
อุซปถูกลูฟี่ช่วยเหลือจากกลุ่มโจรสลัดคุโระเมื่อประมาณปีก่อน
จนกระทั่งเจ้าตัวตัดสินใจตามลูฟี่มาที่ศูนย์บัญชาการใหญ่และสมัครเป็นทหารเรือ หลังจากนั้นไม่นานก็จบออกมาเป็นพันจ่าโท และเป็นช่วงเดียวกับที่ลูฟี่ได้เลื่อนขั้นเป็นนาวาเอก
ดูเหมือนเจ้าตัวจะพยายามตามตื๊อลูฟี่ให้รับตัวเองเป็นลูกเรือให้ได้
แต่ไม่รู้ทำไมลูฟี่ถึงเอาแต่ปฏิเสธอยู่ร่ำไป
แม้สุดท้ายแล้วการ์ปจะใจดีย้ายลูฟี่ให้ไปประจำเป็นผู้บัญชาการหน่วยที่เขาสังกัดอยู่ก็เถอะ
“มีอะไรล่ะ
เจ้าลูฟี่กินเสบียงของ 1 ปีหมดหรือว่าเผลอซัดนักโทษปลิวล่ะ?”
การ์ปถามติดตลก
“เสบียงของ
1 ปีพึ่งหมดเพราะนาวา— ไม่ใช่สิครับ!!”
“แล้วอะไร?”
“ลูฟี่..เอ้ย! นาวาเอกลูฟี่ครับ!”
ทุกคนในห้องหันไปมองชายหนุ่มผู้พูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
พันจ่าโทผู้มาแจ้งข่าวร้ายกลืนน้ำลายลงคอก่อนรีบพูดสาเหตุที่ทำให้ตนต้องวิ่งขาลากมาที่นี่อย่างรวดเร็ว
“นาวาเอกลูฟี่ถูก
7 เทพโจรสลัดโดฟลามิงโก้ลักพาตัวไปแล้วครับ!!!”
“หา!!??”
----|----|----|----|----
ลูฟี่เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่ไม่น่าไว้ใจนั่นสลับกับอาหารมากมายที่ถูกจัดเรียงไว้บนโต๊ะอย่างสวยงาม
เขามีสีหน้าลังเล..เมื่อไม่กี่นาทีก่อนจู่ๆเขาก็โดนเจ้านกบ้านี่จับอุ้มพาดบ่าแล้วพามายังภัตตาคารลอยทะเลสุดหรูในทะเลอีสท์บลูซึ่งอยู่ห่างไกลจากศูนย์บัญชาการอยู่พอสมควร
แถมยังสั่งอาหารมาให้ซะมากมายจนน่าสงสัย
มันวางยาพิษเขาปะเนี่ย
แต่ก็..ช่างเถอะ
ลงมือสวาปามอาหารพวกนั้นเข้าปากอย่างรวดเร็ว
ดูก็รู้ว่าคงแพงไม่ใช่เล่น แต่ใครสนกัน?
เจ้านั่นเป็นคนสั่งก็ต้องเป็นคนจ่ายสิ! เขาแค่กินไปก็พอ!
ฝ่ายโดฟลามิงโก้ก็เริ่มสอดส่องสายตามองไปยังรอบๆภัตตาคารลอยทะเลแห่งนี้
ดูเหมือนคนพวกนี้ทั้งลูกค้าและพนักงานจะยังไม่ทันสังเกตว่าเขาเป็นใคร..คงเพราะเขาถอดชุดคลุมฟูๆสีสันสดใสนั่นไปล่ะมั้ง
(คนส่วนใหญ่จำเขาได้เพราะมัน)
ที่นี่เป็นภัตตาคารที่ดังที่สุดในทะเลอีสท์บลู
เวอร์โก้..ลูกน้องคนสนิทของเขาเคยมากินที่นี่และแนะนำเขามา พอเจ้าเด็กนั่นบ่นว่าหิวเลยถือโอกาสพามาซะเลย
บริการจัดอยู่ในระดับที่ดีถึงดีมาก
ประวัติที่นี่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้..อย่างเรื่องที่เชฟใหญ่เคยเป็นโจรสลัดฝีมือดีมาก่อน
หรือเรื่องที่บรรดาพ่อครัวและพนักงานเสิร์ฟที่นี่มีฝีมือการต่อสู้อยู่พอสมควร
“แกนี่กินจุเหมือนที่ข่าวลือบอกเลยนะ”
“อันไอ้ไอ้เอื้องอ่องแอ
(มันไม่ใช่เรื่องของแก)”
“ฉันขอให้แกตายเพราะอาหารติดคอ”
“อ่าแอ้งอี้! (อย่าแช่งซี่)”
“ฟุฟุฟุ”
โดฟลามิงโก้หัวเราะด้วยเสียงน่าขนลุก
มองคนตรงหน้าที่เอาแต่กินไม่หยุด..ไหนก่อนหน้านี่บอกว่าเจ้าสโมกเกอร์นั่นไม่ให้รับลูกอมจากคนแปลกหน้าไง? หรือสิ่งที่มันคิดก็คือเจ้าควันนั่นห้ามไม่ให้รับลูกอม
แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้รับของกินอย่างอื่น?
ช่างเป็นเด็กที่ซื่อ(บื้อ)ซะจนน่าเป็นห่วง
“แล้วแกไม่กินเหรอ
ชิชิชิ”
โดฟลามิงโก้ทำหน้าเอือมระอาอย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน
“พึ่งนึกได้รึไง
แกคิดอะไรถึงชวนตอนที่แกกินหมดเกลี้ยงแล้ว?”
“โอ้
โทษทีนะ ชิชิชิ” อยู่กับเจ้าหนูนี่ไม่กี่ชั่วโมงแต่กลับรู้สึกเหมือนอายุขัยสั้นลงไปหลายสิบปี
มองสีหน้ามีความสุขของเจ้าเด็กบ้าซึ่งกำลังตีพุงป่องๆของตัวเองเล่น
เจ้าหนูนี่มันน่าสนใจตรงไหน? ทำไมก่อนหน้านี้เขาถึงได้สนใจและอยากเจอเจ้าเด็กนี่นักหนา?
เฮอะ
ก็แค่เด็กตะกละ
ก็แค่เด็กซนๆคนนึง
ก็แค่ยิ้มเก่ง
ก็แค่ชอบหัวเราะเสียงประหลาด
ก็แค่น่ารัก..
หนุ่มใหญ่ยกมือขึ้นมาปิดใบหน้าของตัวเอง
อา...ดูเหมือนเขาจะเป็นบ้าไปแล้ว ทำไมความคิดพรรค์นั้นถึงมาอยู่ในหัวของเขาได้นะ? เพราะไอเด็กนี่เหรอ?
จะว่าไปสิ่งที่เขาทำอยู่นี่มันคือการลักพาตัวใช่มั้ย?
ป่านนี้พวกตาแก่นั่นคงกำลังหัวหมุนกันน่าดู
สะใจเป็นบ้า!!
“ฟุฟุฟุ
รู้มั้ยว่าตัวเองกำลังถูกลักพาตัวน่ะเจ้าหมวกฟาง”
หันไปถามเจ้าคนที่มีสีหน้าเคลิ้มกับอาการอิ่มแปล้ด้วยรอยยิ้มน่าขนลุก ใบหน้าน่ารักหันมามองคนที่เลี้ยงอาหารตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนชะงักพร้อมกับค่อยๆเผยสีหน้าเหมือนตัวเองพึ่งทำสิ่งที่พลาดที่สุดในชีวิตลงไป
“เออว่ะ! ฉันโดนแกลักพาตัวไปมานี่!!”
พึ่งรู้ตัวเรอะ!!
โดฟลามิงโก้มีสีหน้าหนักใจกับความรู้สึกช้าของเจ้าเด็กนี่แทบจะในทันที
นี่มันซื่อบื้อกว่าที่เขาคิดไว้ซะอีก..แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอก
ก็น่ารักไปอีกแบบ
นี่เขาคิดอะไรอีกแล้ว? สงสัยคงเพราะเมื่อคืนนอนไม่พอแน่ๆ
“แต่ช่างมันเถอะ
แกเลี้ยงข้าวฉันแล้ว! ฉันให้อภัย!”
อะไรของเจ้าเด็กนี่..
“แกนี่เป็นคนดีจังเลยนะ
ชิชิชิ”
คิดว่ายิ้มแบบนั้นมันน่ารักมากรึไง
...
เออ! มันน่ารัก! ฟุฟุฟุ
“ทำหน้าแบบนี้อยากให้ฉันจับแกขังไว้ในห้องไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันรึไง”
ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อปากพล่อยๆของตัวเองเผลอพูดสิ่งที่คิดออกมา
บ้าจริง..มันได้มองเขาว่าเป็นตาแก่โรคจิตชอบหลับนอนกับเด็กเป็นชีวิตจิตใจแน่ๆ
(มันไม่จริงเลยซักนิด! เด็กคนเดียวที่เขาอยากนอนกกก็คือเจ้านี่เท่านั้น!
ไม่ใช่ว่าจะชอบเด็กทุกคนซักหน่อย!)
ชักกลัวกับความคิดของตัวเองเข้าไปทุกที..โดฟลามิงโก้ที่แค่กระดิกนิ้วผู้หญิงก็วิ่งแจ้นเข้ามาเอาอกเอาใจอย่างเขากำลังสนใจเจ้าเด็กกะโปโลนี่?
ดูเหมือนหิมะคงใกล้จะตกที่อลาบาสต้าเต็มทีแล้วล่ะ
“หวา! ไม่เอาหรอก! แต่ถ้าแกเลี้ยงข้าวฉันก็โอเคนะ!”
พูดจาแบบนั้นพร้อมรอยยิ้มร่า..นี่มันไม่ต่างกับยื่นปลาทูให้นกเลยไม่ใช่หรือ?
“งั้นฉันจะพาแกไปเดรสโรซ่าดีมั้ย
แล้วพวกเราจะไปมีความสุขกันที่นั่น..”
“เดรสคุณย่า?”
“เดรสโรซ่า! เออ..นั่นล่ะ ฉันสัญญาว่าจะเลี้ยงข้าวแกอย่างดี” นกชมพูพูดจาล่อลวงเด็กน้อยไร้เดียงสาซึ่งกำลังมีสีหน้าสนใจคำชวนนั้น
ใบหน้าคมคายฉีกยิ้มกว้างพอใจกับปฏิกิริยาของอีกฝ่ายและเริ่มพูดจาหลอกล่ออีกครั้ง
“จะไม่ปล่อยให้แกอดอยาก”
“....”
“จะให้อาหารแกครบ 3 มื้อ ไม่สิ.. 5 มื้อก็ได้”
“....”
“พอแกกินอิ่มก็จะจับแกกินทั้งตั—“
ผลั่วะ!! โครม!!!
ร่างสูงใหญ่เหนือมนุษย์ถูกเตะปลิวไปกระแทกกับกำแพงจนเป็นรูโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวทัน
ชายคนหนึ่งในชุดสูทสีดำยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ข้างๆโต๊ะที่ลูฟี่นั่งอยู่
ขาที่ยกขึ้นค้างไว้ข้างหนึ่งของเจ้าคนแปลกหน้านี่เป็นหลักฐานชิ้นดีที่บ่งบอกว่ามันคือคนที่บังอาจเตะเขาจนปลิว
ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วน่าจะอายุซักประมาณ 19 หรือ 20 ปี ผมสีเหลืองกับคิ้วม้วนๆนั่นดูกวนบาทาอย่างน่าประหลาด
โดฟลามิงโก้กัดฟันกรอด
ใบหน้าคมขึ้นสีแดงจัดด้วยความโกรธเกรี้ยวที่ใกล้จะระเบิดออกมาราวกับภูเขาไฟที่รอเวลาปะทุ
เพราะมันเล่นทีเผลอถึงได้กลายเป็นแบบนี้..ไม่งั้นเขาคงไม่พลาดท่าโดนเตะง่ายๆแน่ แต่ประเด็นก็คือ..
ไอบ้านี่มันกล้าดียังไงถึงมาเตะเขา?
..มันไม่รู้เสียแล้วว่าเขาเป็นใคร
และความโกรธของเขามันก็ยิ่งเดือดมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อไอคนแสนอวดดีนั่นเปิดปากพูดออกมา
“ถึงไอหมอนั่นจะไม่ใช่เลดี้
แต่ขอเถอะ ‘ลุง’..
อายุก็ปูนนี้แล้วอย่ามาคิดวิปริตล่อลวงเด็กผู้ชายไม่บรรลุนิติภาวะไปกินตับเลย
ฉันรับไม่ได้จริงๆว่ะ ถ้าโดนจับเข้าซังเตขึ้นมาร้านฉันไม่มีบริการจัดส่งข้าวแดงนะเฟ้ย”
----|----|----|----|----
จะมาขอชี้แจงล่วงหน้าเรื่องยศของทหารเรือในเรื่องค่ะ
ถ้าเอาตามหลักแล้ว การจะเป็นทหารเรือคือต้องผ่านการเรียนในโรงเรียนเตรียมทหารก่อนแล้วก็มีประสบการณ์การทำงานบลาๆๆๆถึงจะได้เลื่อนยศ
ซึ่งในเรื่องนี้ เอส ซาโบ และลูฟี่ผ่านมาแล้ว
แต่พอดีเราต้องการเร่งรัดเนื้อเรื่องไม่อยากให้มันยืดเยื้อ
(ถ้าลูฟี่ได้ลูกเรือปุ๊บ แล้วต้องส่งลูกเรือไปโรงเรียนเตรียมทหารหลายปี คิดว่าอีกนานกว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินไปถึงภาคปัจจุบันของอนิเมะ
ไหนจะลูกเรือที่จะเจอในแกรนด์ไลน์อีก 5555555)
สุดท้ายเราเลยตัดสินใจดัดแปลงอะไรเล็กๆน้อยๆในเรื่องนี้
(หรือก็คือไม่ยึดตามหลังความจริง เอาให้มันสมกับที่เป็นนิยายซักหน่อย) ก็คือ
‘ผู้ที่มียศนาวาเอกขึ้นไปจะมีลูกเรืออยู่ 2 ประเภท
1.
ลูกเรือที่กองทัพเรือจัดสรรไว้ให้ ก็คือทหารเรือที่ประจำอยู่ในหน่วยต่างๆซึ่งนาวาเอก(หรือก็คือกัปตัน)จะถูกบรรจุให้ไปประจำหน่วยนั้นๆเพื่อคอยสั่งการ
และอาจถูกโยกย้ายไปประจำหน่วยอื่นได้ในภายหลัง
2.
ลูกเรือที่ตนเลือกเอง เป็นลูกเรือที่จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง
ไม่ว่ากัปตันจะถูกย้ายไปประจำหน่วยไหนตนก็จะถูกย้ายตามไปประจำหน่วยนั้นด้วย
(ในประเภทนี้นั้นถ้ากัปตันเลือกจากคนที่เป็นทหารเรืออยู่แล้วก็แล้วไป
แต่ถ้าดันไปเลือกคนที่ไม่ได้เป็นหรือเป็นโจรสลัดขึ้นมาจะต้องมีการส่งไปศึกษาระเบียบวินัยของทหาร
และผ่านการทดสอบฝีมือเพื่อวัดระดับว่าฝีมือแบบนี้ควรได้ยศอะไร ถึงจะสามารถมาเป็นลูกเรือได้)’
แน่นอนว่าอุซปคือประเภทที่
1 ค่ะ แต่พวกโซโลที่จะมาหลังจากนี้จะเป็นประเภทที่ 2
ตอนหน้าเจอกันกับซันจินะคะ
(และอาจจะเจอกับโซโลด้วย) ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจค่า~
***แก้ยศของอุซปจากเรือตรีเป็นพันจ่าโทค่ะ
ความคิดเห็น