คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 02 :: คำเตือนจากเจ้าแห่งทราย
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ลูฟี่เดินทางออกจากบ้านของตนตั้งแต่เช้าตรู่
เขามั่นใจว่าเวลาแบบนี้ปู่ของเขาที่เป็นถึงพลตำรวจโทจะต้องยังไม่ตื่นแน่ๆ
และพี่ชายร่วมสาบานทั้งสองก็เช่นกัน และสาเหตุที่ตื่นเช้าก็ไม่พ้นการไปพบปะพูดคุยกับเพื่อนร่วมกลุ่มที่ฐานลับบนภูเขา
ลูฟี่หัวเราะเสียงใส..วันนี้ซันจิจะทำอะไรมาให้กินน๊า
เขาเดินลัดเลาะตามตรอกซอยต่างๆซึ่งเป็นทางลัดที่จะถึงที่หมายได้เร็วที่สุด
และด้วยความช่วยเหลือของโรบินที่มารอรับระหว่างทาง
ไม่นานนักเขาก็เดินทางถึงที่หมาย
ในคฤหาสน์หลังเดิมยังคงเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่
ทั้งเสนาธิการทั้ง 8 คนและหัวหน้าหน่วยทั้ง 7 อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันในห้องประชุม
ลูฟี่เดินเข้ามาพร้อมกับโรบิน..ถือว่าตอนนี้ทุกคนมากันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว
และใกล้จะเริ่มประชุมเต็มที
“ซันจิ
หิวข้าวแล้ววว” เด็กหนุ่มพุ่งตัวไปกอดเพื่อนสนิทควบตำแหน่งกุ๊กหนุ่มฝีมือดีของกลุ่มแน่น
เจ้าตัวพยายามดึงตัวเขาออก..แต่ใบหน้าคมนั้นกลับแดงแจ๋ราวกับมะเขือเทศสุก
“เข้าใจแล้วๆ
เพราะงั้นปล่อยฉันซักทีเถอะเจ้าบ้า”
“ชิชิชิ
ก็ได้” ยอมปล่อยตัวตามที่ขอพร้อมยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดีเมื่ออีกฝ่ายยื่นข้าวกล่องที่ทำเองมาให้
ยังไงซะซันจิก็เป็นกุ๊กฝีมือดีที่สุดสำหรับเขาเลย!
“ลูฟี่
มานั่งที่ได้แล้ว”
เป็นโซโลที่เป็นคนลากลูฟี่มานั่งที่เดิมโดยไม่วายหันไปตีหน้ายักษ์ใส่ซันจิที่ลอบทำหน้าเคลิ้มโดยที่ลูฟี่ไม่เห็น
ฝ่ายหนุ่มคิ้วม้วนที่สัมผัสได้ถึงรังสีความไม่พอใจก็ยิ้มเยาะ
“อิจฉาล่ะซี่เจ้าหัวสาหร่าย”
“ใครอิจฉาแกกันฟะ!!”
ทุกคนมีสีหน้าเหนื่อยใจพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
ก็มีเพียงต้นเหตุของเรื่องเท่านั้นที่เอาแต่ทำหน้าซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้วกินข้าวกล่องของตนไปเงียบๆ
จนสุดท้ายแล้วนามิก็เป็นคนห้ามทัพและลากทุกคนให้กลับมาเข้าเรื่องที่จะประชุมเสียที
บรรยากาศจริงจังก่อตัวขึ้นเมื่อทุกคนกลับมานั่งที่เดิม
อาจจะมีเพียงท่านผู้นำตัวน้อยที่มัวเอาแต่กินไม่หยุด
แต่ทุกคนก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก..เพราะรู้ว่าแม้ลูฟี่จะกินอยู่แต่ก็ได้ยินที่พวกเขาพูดทุกคำนั่นล่ะ
“สายของเราส่งข่าวมาบอกว่าพวกตำรวจจะส่ง
‘นักล่าสีขาว’ มาที่นี่” เลโอ
ชายหนุ่มตัวเล็กผู้เป็นหัวหน้าหน่วยที่ 5 เป็นคนเริ่มบทสนทนาขึ้น
ทุกคนเริ่มขมวดคิ้วเป็นปม
นักล่าสีขาวเป็นฉายาของนายตำรวจคนหนึ่งที่ว่ากันว่าหากได้เล็งเป้าหมายไปที่ใครแล้วก็จะกัดไม่ปล่อย
บางครั้งก็ถูกเรียกว่าสุนัขล่าเนื้อหรืออะไรเทือกๆนั้น
ซึ่งพวกเขาล้วนได้ยินฉายานี้จากหนังสือพิมพ์ตอนเช้าอยู่บ่อยครั้ง..โดยเฉพาะเมื่อไม่กี่วันมานี้
“พวกกรมตำรวจคิดอะไรที่ส่งเจ้าคนอันตรายนั่นมาที่นี่..”
จินเบทำหน้าฉงนไม่เข้าใจในความคิดของกรมตำรวจที่แผ่นดินใหญ่
“นั่นสินะ
ถ้าเทียบกับเขตอื่นแล้ว..ที่นี่สงบกว่ามาก
ความวุ่นวายหรือการก่อวิวาทก็ทุเลาลงกว่าเมื่อหลายปีก่อนมากแล้ว
หรือว่าส่งมาเพื่อกำจัดพวกเรา?”
ช็อปเปอร์เสนอความคิดเห็น
หากแต่โรบินก็ส่ายหน้าไม่เห็นด้วย
“เป็นไปไม่ได้หรอก
พวกตำรวจรู้ดีว่าเขตอีสท์ทาวน์พวกเราคุม..และเพราะพวกเราที่นี่ถึงยังสงบสุขอยู่ได้
ฉันไม่คิดว่าพวกนั้นจะอยากเป็นศัตรูกับเรานัก”
“แต่ก็ไม่ได้อยากเป็นมิตรสินะครับ
โยโฮ่โฮ่โฮ่”
ทุกคนเริ่มคิดตาม..มันเป็นจริงอย่างที่โรบินพูด
ถ้าเป็นไปได้พวกนั้นก็คงไม่อยากมีปัญหากับพวกเขาซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะเมื่อเขตที่เคยมีแต่เรื่องวุ่นวายกลับมาสงบสุขได้เพราะพวกเขาคอยดูแล
พวกนั้นควรขอบคุณกลุ่มหมวกฟางด้วยซ้ำที่ทำให้ตำรวจไม่ต้องเหนื่อย
แต่ก็นั่นล่ะนะ..ศักดิ์ศรีของตำรวจ
ถึงไม่อยากเป็นศัตรูแต่ก็ไม่คิดว่าพวกนั้นจะอยากเป็นมิตรด้วยซักเท่าไหร่
โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเคยไปก่อวีรกรรมกับพวกนั้นเอาไว้เหมือนกัน
“จริงๆแล้ว..”
บาโธโลมีโอยกมือขึ้นเพื่อขอพูดอะไรซักอย่าง
และนั่นทำให้สายตาทุกคู่หันมามองเขาแม้แต่ลูฟี่ที่กำลังกินอยู่ก็เช่นกัน โอ้—
รุ่นพี่ลูฟี่ แม้แต่ตอนกินก็ยังน่ารัก!
คาเวนดิชทำหน้าหงิก..อะไรฟะไอเจ้านี่
อย่ามามองเจ้าหมวกฟางแบบนี้นะเฟ้ย
“จะพูดอะไรก็พูดสิฟะไอหัวหงอนไก่”
โซโลชักสีหน้า
บาโธโลมีโอที่รู้ตัวว่าตัวเองชักจะเคลิ้มกับใบหน้าน่ารักของหัวหน้าของตัวเองมากเกินไปแล้วรีบดึงสติกลับ
เจ้าตัวกระแอมเล็กน้อย
“คือ
คือว่า..ช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้มีสายรายงานมาว่าทั้งทางฝั่งนอร์ธทาวน์ เวสท์ทาวน์
และเซาท์ทาวน์มีการเคลื่อนไหวผิดปกติอยู่บ่อยครั้งครับ
บางทีอาจเป็นความไม่ลงรอยกันของพวกกลุ่มเจ้าถิ่น..”
เจ้าของผมทรงหงอนไก่สีเขียวพักหายใจเล็กน้อย
สายตาคมกริบราวกับสัตว์ป่าไล่สายตามองตั้งแต่คนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะจนกระทั่งท้ายโต๊ะ
แฟรงกี้ที่เห็นท่าทางแบบนั้นจึงพูดสิ่งที่คิดออกมา
“หรือไม่ก็มีใครบางคนกำลังแทรกแซงอาณาเขตของพวกนั้น”
ทุกคนในห้องชะงัก..ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่แค่ปัญหาเล็กๆเสียแล้ว
“แม้แต่พวก
4 จักรพรรดิก็เริ่มส่งสายข่าวออกเดินทางไปยังทุกเขตแล้ว
ไม่เว้นแม้กระทั่งอีสท์ทาวน์เอง..บางทีอาจจะมีเรื่องอะไรจริงๆ” ออลัมบัสอธิบายเพิ่มเติม
ในหมู่หัวหน้าทั้ง 7 หน่วย เขาซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 7
นั้นมีขุมกำลังพลมากที่สุดทำให้ได้รับข่าวคราวอย่างหลากหลาย อิเดโอกับฮัจรูดินพยักหน้าเป็นการบอกว่าพวกเขาก็ได้รับข่าวเช่นเดียวกัน
“คงมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นจริงๆสินะ”
อุซปพึมพำกับตัวเอง
เขามองไปที่ทุกคนซึ่งมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกไม่ต่างกันมากนัก
อ้อ..ยกเว้นไว้คนนึง
ง่ำๆๆ
ลูฟี่ที่ยังกินไม่หยุดดูไม่สะทกสะท้านกับข่าวที่ได้รับ
(หรืออาจจะไม่ได้ฟัง? เขาไม่อาจทราบได้)
เจ้าตัวดูจะสนใจอาหารตรงหน้ามากกว่าการมาคิดอะไรให้ปวดหัวโดยเสียเวลาเปล่า
ใบหน้าน่ารักเงยหน้าขึ้นมา “เอาเป็นว่าถ้าเจอเจ้านักล่าสีขาวนั่นก็ถามเอาก็ได้นี่”
โป๊ก!!
“ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ยนามิ!!” ลูฟี่แหวลั่นพลางลูบหัวที่โดนเขกอย่างแรง มือยัยนั่นหนักเป็นบ้า..ซักวันเขาต้องเอาคืนให้ได้!
“พูดอะไรไม่รู้จักคิดเลยนะนายเนี่ย
ถ้าเดินไปถามโต้งๆได้แบบนั้นพวกเราจะมานั่งเครียดกันแบบนี้มั้ยฮะ!?” ลูฟี่เบ้หน้าเมื่อโดนเพื่อนสาวหัวส้มสั่งสอน โถ่—
ก็เขาไม่อยากคิดอะไรให้ปวดหัวนี่นา
“ก็ปกติฉันทำแบบนั้นนี่นา
ไม่เข้าใจอะไรก็ถามไปตรงๆเลย! ถ้าถามเจ้าควันไม่ได้ก็ถามเจ้าจระเข้
เดี๋ยวพวกนั้นก็บอกเองแหละ!”
ทุกคนมีสีหน้าฉงน
โซโลมองลูฟี่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วคำถาม “ใครคือเจ้าควันกับเจ้าจระเข้ ลูฟี่?”
“โอ๊ะ..”
เด็กหนุ่มยกมือขึ้นปิดปากเหมือนพึ่งรู้ตัวว่าตัวเองหลุดพูดอะไรไม่เข้าท่าออกไปเสียแล้ว
“ไม่มีอะไรน่า เอาเป็นว่าไปหาข้อมูลกันต่อนะ ฉันมีธุระอ่ะ! ไว้เจอกัน~”
ร่างเล็กโบกมือหยอยๆก่อนวิ่งออกจากห้องประชุมไป
ทุกคนหันมามองหน้ากันแบบงงๆ
จนกระทั่งซันจิเป็นคนเอ่ยปากถามขึ้นมาท่ามกลางความค้างคาใจของคนอื่นๆ
“แล้วนี่ลูฟี่จะไปธุระยังไงล่ะ..อย่าบอกนะว่าเดินลงเขา?”
----|----|----|----|----
มันเป็นแบบที่ซันจิสงสัยนั่นล่ะ..
ลูฟี่เดินลงเขาจริงๆ
“เมื่อยขาเป็นบ้า!” เด็กหนุ่มบ่นกระปอดกระแปดหลังจากที่เดินลงจากเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มองรถที่ขับสวนทางกันไปมา..แล้วเขาจะไปที่หมายยังไงดีล่ะ?
จะให้พวกนั้นไปส่งก็คงไม่ทันแล้วแน่ๆ
ฉับพลันที่คิดว่าตนคงต้องเดินกลับบ้าน..รถจากัวร์สีดำสี่ประตูคันงามก็จอดลงตรงหน้าราวกับรู้ความคิด
ลูฟี่ที่ตอนแรกขมวดคิ้วฉีกยิ้มกว้างด้วยความยินดี
และมันเป็นเวลาเดียวกับที่กระจกหลังของรถถูกเลื่อนลง..ที่ปรากฎอยู่ข้างในคือชายหนุ่มผิวสีผึ้งผู้มีรอยแผลเป็นอยู่บนใบหน้า
ผมสีดำถูกเซ็ตให้เรียบไปกับศีรษะ เขาสวมสูทสีเทาและเสื้อคลุมขนสัตว์สีดำสนิท
มวนซิการ์ในปากนั่นเป็นสิ่งที่คนๆนี้มักจะสูบอยู่เสมอ
“โย้ช! ว่าไงเจ้าจระเข้!”
เจ้าตัวเล็กสวมหมวกฟางยิ้มร่าทักทาย ชายผู้นั่งสูบซิการ์อยู่เบาะหลังยิ้มมุมปาก
มองไปยังใบหน้าน่ารักก่อนส่งเสียงเฮอะในลำคอเบาๆ
“เจอกันก็ปากดีเลยนะแก”
สุดท้ายแล้วลูฟี่ก็ขึ้นมานั่งบนรถของครอคโคไดล์โดยนั่งข้างๆกันที่เบาะหลัง
ที่นั่งคนขับมีแดชซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของหนุ่มใหญ่เป็นคนคอยขับรถ
ครอคโคไดล์เป็นบอสใหญ่ของกลุ่มมาเฟียที่ชื่อ
บาร็อกเวิร์คส์ ซึ่งมีฐานอำนาจอยู่ในเวสท์บลูและแผ่นดินใหญ่บางพื้นที่
เป็นกลุ่มมาเฟียชื่อดังที่พวกตำรวจกำลังจับตาดูว่าจะเป็นอันตรายในอนาคตหรือไม่
และลูฟี่ก็รู้จักกับอีกฝ่ายเมื่อ 3 ปีก่อนด้วยความบังเอิญ
ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ใช่มิตร..แต่ก็ไม่ใช่ศัตรู
ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายก็คงเป็นการมีผลประโยชน์ร่วมกันนั่นแหละ
ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีรถสีดำคันงามก็จอดลงที่ลานจอดรถใต้ดินของโรงแรมแห่งหนึ่ง
ครอคโคไดล์ลงมาจากรถพร้อมอุ้มเจ้าเด็กตัวดีลงมาด้วย ลูฟี่ทักท้วงเล็กน้อย..แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าถึงท้วงไปอีกฝ่ายก็คงทำหูทวนลมจึงปล่อยให้โดนอุ้มอยู่แบบนั้นจนกระทั่งเดินขึ้นมาถึงชั้นสูงสุดที่เจ้าตัวจองเอาไว้
“แกนี่รวยจนน่าหมั่นไส้ชะมัด
ชิชิชิ”
คนอุ้มยิ้มบางๆอย่างนึกขัน
“คนที่สนับสนุนแกอยู่ก็รวยน่าดูนี่”
เจ้าหนุ่มหมวกฟางชะงัก..มองคนที่อุ้มตนอยู่ด้วยใบหน้าตื่นๆ
ทางฝั่งครอคโคไดล์เองที่เห็นเจ้าตัวแสบทำหน้าแบบนั้นก็นึกขำในใจ
“แกรู้ได้ไง?”
“หมายถึงเรื่องอะไรล่ะ? เรื่องที่ 1 ใน 4 จักรพรรดิ เจ้าแชงคูสผมแดงนั่นหนุนหลังแกอยู่
หรือเรื่องที่แกติดต่อกับราชานรกเรย์ลี่อยู่?”
ลูฟี่มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ดูเหมือนเจ้านี่จะรู้มากกว่าที่คิด
ครอคโคไดล์นั่งลงบนโซฟาสีแดงสดภายในห้องนอนของตนก่อนจับเจ้าตัวเล็กมานั่งไว้บนตัก
เพียงไม่นานก็มีคนเอาอาหารมากมายมาเสิร์ฟถึงโต๊ะ
ลูฟี่ตาวาว..ไอ้หมอนี่รู้ใจเขาเสียจริง
ครอคโคไดล์หัวเราะหึเมื่อเห็นว่าลูฟี่เริ่มสนใจอาหารตรงหน้าและลงมือทานในทันทีที่เขาพยักหน้าอนุญาต
รู้สึกผิดเล็กๆ ในเมื่อตอนนี้เขาเองก็ไม่ต่างจากตาแก่ที่พยายามล่อลวงเด็กด้วยลูกอม
รู้สึกเหมือนตัวเองเริ่มเข้าข่ายตาแก่โรคจิตเข้าไปทุกที
อย่าโทษเขาเลย..ให้โทษไอเด็กนี่ที่ทำให้เขารู้สึกสนใจมากขนาดนี้ดีกว่า
“เอ้าๆ
ค่อยๆกินก็ได้ เดี๋ยวได้สำลักตายกันพอดี”
มองเจ้าตัวแสบตรงหน้าที่เอาแต่ตักอาหารเข้าปากอย่างมูมมามก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันตา
ดูเหมือนว่าเจ้านี่จะชอบอาหารที่เขาสั่งมาเพื่อมัน
“ไอ่ไอ้อีบอินอั้กอ่อย(ไม่ได้รีบกินซักหน่อย)”
“กินเสร็จค่อยพูดสิไอหนู”
ลูฟี่พยักหน้าหงึกหงักก่อนรีบกินให้หมดพร้อมซดน้ำเข้าปากจนหมดแก้ว
เขาหันมายิ้มร่าให้ชายวัยกลางคนที่อุตส่าห์เลี้ยง
ลืมไปเสียแล้วว่าก่อนหน้านี้ตนรู้สึกเคลือบแคลงสงสัยในตัวอีกฝ่ายเพียงใด
หลังจากที่ลูฟี่กินเสร็จเขาก็จับเจ้าตัวมานั่งบนตักอีกครั้ง
เจ้าเด็กน้อยตัวแสบในวันวานดูโตขึ้นกว่าเมื่อ 3 ปีก่อนพอสมควร
บางทีอาจจะเพราะเรื่องราวหลายๆอย่างที่เจ้าตัวพบเจอก็เป็นได้
ใบหน้าเรียวเอี้ยวมามองเขาด้วยแววตาซุกซนราวกับเด็กเล็กๆ
ร่างสูงหัวเราะกับพฤติกรรมแบบนั้น..เจ้านี่เหมือนลูกแมวกำลังอ้อนขอของเล่น
“ทำหน้าแบบนี้อยากรู้อะไรล่ะ”
“ฉันแปลกใจตั้งแต่เมื่อวานตอนที่แกโทรบอกว่าจะมาที่นี่ละ..แกมาที่นี่ทำไมอ่ะเจ้าเข้?”
“ช่างสงสัยจริงนะ”
“ก็แกทำตัวน่าสงสัย
บอกไว้ก่อนนะ..ถ้าแกยุ่งกับเมืองนี้ฉันไม่ให้อภัยแน่” เขาหัวเราะกับคำขู่นั้น
มันเหมือนแมวตัวน้อยๆที่กำลังขู่เสืออยู่ โอ้ไม่สิ— แมวที่กำลังขู่จระเข้
“ฉันไม่ยุ่งกับเมืองที่แกรักนักรักหนาหรอก
แค่มาหลบความวุ่นวาย”
“หา!? อย่างแกเนี่ยอ่ะนะหลบความวุ่นวาย?
ไม่ใช่เป็นต้นตอความวุ่นวายหรอกเรอะ?”
ลูฟี่เลิกคิ้วสูงเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
พูดก็พูดเถอะ..วีรกรรมของเจ้าจระเข้ทะเลทรายนี่น้อยซะที่ไหน ถ้าไม่ใช่เพราะอำนาจเงินกับความยิ่งใหญ่ที่สะสมมาป่านนี้คงโดนพวกพลตำรวจเอกไล่ล่าเป็นว่าเล่นแล้ว
“หลอกด่าได้เจ็บแสบจริงนะเจ้าหนู”
“ความวุ่นวายอะไรที่ถึงกับทำให้แกยอมโผล่หัวมาที่นี่? ได้ข่าวว่าเจ้าควันก็มาที่นี่ด้วยนี่” กายใหญ่ชะงัก..ก่อนลอบยิ้มร้ายกาจ โอ้—
ดูเหมือนโจทก์ของเก่าเขาจะมาหาถึงที่เลยรึ
“แกก็น่าจะรู้นี่ว่าตอนนี้มีบางอย่างไม่ปกติ..พวก
4 จักรพรรดิที่ปกติจะไม่เคลื่อนไหวตามใจชอบกลับส่งสายข่าวออกไปยังทุกเขตพร้อมๆกัน
แกคิดว่าเพราะอะไร?” ลูฟี่ขมวดคิ้ว
ลองคิดตามที่ร่างสูงพูด..ซับซ้อนเป็นบ้าเลยแฮะ
“ไม่รู้สิ..อาจรู้สึกได้ถึงอันตราย”
เด็กหนุ่มตอบไม่เต็มเสียง
“พวกนั้นเคลื่อนไหวเพราะคิดว่าอำนาจของตัวเองกำลังถูกสั่นคลอน..เจ้าหนู”
ผู้เป็นหัวหน้าของกลุ่มหมวกฟางทำหน้าเหวอ อย่าง 4
จักรพรรดินี่ยังมีอะไรมาสั่นคลอนอำนาจได้อีกหรือ?
นั่นเป็นสิ่งที่แม้แต่กรมตำรวจเองยังยากที่จะทำได้เลยด้วยซ้ำ
แล้วใครกันที่สามารถทำให้พวกกลุ่มคนที่แข็งแกร่งแบบนั้นถึงกับต้องเคลื่อนไหวเพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย?
“ตอนนี้ทุกๆเขตแม้แต่แผ่นดินใหญ่ก็กำลังถูกแทรกแซงจากคนกลุ่มหนึ่ง”
ครอคโคไดล์เงียบไปครู่หนึ่ง เห็นเด็กหนุ่มบนตักเงยหน้ามองเขาด้วยความสงสัย..มือใหญ่ลูบหัวเจ้านั่นเบาๆแล้วเริ่มพูดต่อ
“พวกมันแทรกแซงเข้าไปในกลุ่มต่างๆที่มีอิทธิพลในทุกๆเขตแล้วเริ่มขยายฐานอำนาจโดยสร้างความแตกแยกภายในกลุ่ม
และดึงคนที่เก่งๆมาเข้าร่วมกับตัวเอง..ฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจเพราะบาร็อกเวิร์คส์ไม่ได้โดน
แต่ว่า..”
“แต่ว่า..?” ลูฟี่ขมวดคิ้ว ครอคโคไดล์มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก..และลูฟี่เริ่มสัมผัสได้ถึงบางอย่าง
บางอย่างที่เขาคิดว่ามันคงเป็นลางสังหรณ์..
เขาสัมผัสได้ถึงลางร้าย
“ที่เวสท์บลูมีกลุ่มมาเฟียและองค์กรใต้ดินจำนวนมากถูกแทรกแซง
ทำให้เกิดความขัดแย้งภายในและเกิดสงครามระหว่างกลุ่ม แกรู้จักกลุ่มไฟร์แท้งค์มั้ย?” ลูฟี่พยักหน้า
พวกนั้นเป็นกลุ่มมาเฟียมีชื่อในเวสท์ทาวน์
“พวกนั้นโดนบ่อนทำลายจากภายใน
จนตอนนี้กลุ่มสลายไปแล้ว..และหัวหน้าที่ชื่อ คาโปเน่ เบจจ์ ก็หายตัวไป”
เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ
ดูเหมือนว่า..มันจะเป็นปัญหาใหญ่กว่าที่เขาคิดมากเลยทีเดียว
“ฉันมาเพื่อเตือนแกเจ้าหนู”
ลูฟี่ทำหน้าฉงน “หา? เตือนฉัน?”
“แกคิดว่าทำไมกรมตำรวจถึงส่งนักล่าสีขาวมาที่นี่..”
ครอคโคไดล์เงียบไปครู่หนึ่ง
”ถ้าไม่ใช่เพราะพวกมันคิดว่าอีกไม่นานที่นี่จะเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น”
----|----|----|----|----
โป๊ก!!
“โอ๊ย! ขว้างแปรงลบกระดานใส่ผมทำไมเนี่ยอิวานจัง”
ลูฟี่คิดว่าช่วงนี้เขาจะโดนทำร้ายบ่อยเกินไปแล้ว
เด็กหนุ่มลูบหัวตัวเองปอยๆพลางมองอาจารย์สอนวิชาสุขศึกษาที่มองมาจากหน้าห้องด้วยสายตาเชือดเฉือน
“แล้วเธอกล้าหลับในคาบของฉันได้ไงยะหมวกฟางบอย!”
“ก็คุณสอนน่าเบื่อนี่—“
“ฉันได้ยินนะยะ!!” กระเทยร่างใหญ่แหวลั่นก่อนเตรียมขว้างปากกาในมืออีกครั้ง
โชคยังดีที่เสียงออดหมดเวลาเรียนดังขึ้นเสียก่อนทำให้เจ้าตัวจำใจเดินฮึดฮัดออกจากห้องเรียนไป
ลูฟี่หัวเราะด้วยเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ หันไปมองซันจิกับโซโลที่มองเขาด้วยสายตาเอือมละอาก็ยู่หน้า
“อะไรเล่า! ก็ฉันเหนื่อยนี่นา”
“เมื่อวานก็ไม่ได้นัดเจอกันตอนดึก..แล้วทำไมถึงนอนไม่พอได้ฮะลูฟี่?” ซันจิถามพลางเลิกคิ้วม้วนๆนั่นมองอย่างไม่เข้าใจ
“ไปทำอะไรมาถึงนอนดึก”
ตามด้วยโซโลที่ถามเสียงเรียบ มือยังคงยกลูบหัวเจ้าหัวหน้าตัวเล็กของเขาไปมาอย่างเพลิดเพลิน
นามิกับอุซปมองภาพนั้นด้วยสายตาประหลาด..ตลอดเล๊ยไอสองคนนั้น
ไม่กล้าดุลูฟี่แรงๆพอกันทั้งคู่
คนแรกชอบดุชอบเตือนก็จริง..แต่สุดท้ายก็ยอมเจ้าตัวเล็กอยู่ดี
อีกคนนี่ไม่ต้องพูดถึง..ลูฟี่ว่าไงเจ้าตัวว่างั้น ดุเรอะ? ไม่มีทางซะหรอก!
“งืมมม
ฉันไปหาเบลามีมาน่ะ ชิชิชิ” ลูฟี่ว่าพลางยิ้มตาหยี
อุซปที่ได้ยินดังนั้นก็เริ่มหันมาสนใจเช่นเดียวกับนามิ “แล้วนายไปหาเจ้านั่นทำไม?”
“ก็ไม่มีอะไรหรอกน่า
แค่ให้ไปขอให้ช่วยอะไรนิดหน่อยเอง”
“เบลามีเนี่ยอ่ะนะ?” นามิถามเสียงสูง เบลามีเป็นช่างย้อมสีในเขตตัวเมือง
เป็นคนทิฐิสูงมาก..ถึงจะยอมผูกมิตรกับลูฟี่แต่ก็แทบไม่มาหาที่นี่เลยด้วยซ้ำ
แถมยังไม่คิดจะช่วยอะไรลูฟี่ถ้านั่นไม่จำเป็นหรือเดือดร้อนจริงๆ
“อือๆ
ก็แบบว่า..เรื่องด่วนไง งืมมม จะว่าไปก็ง่วงแฮะ”
พวกซันจิมองหน้ากัน
เจ้าตัวยุ่งฟุบหลับไปกับโต๊ะไวเหมือนอดหลับอดนอนมาทั้งคืน สงสัยจะเหนื่อยจริงๆนั่นแหละ
“อุ้มให้ไปนอนที่ห้องพยาบาลแล้วกัน”
ทุกคนทำตามคำแนะนำของนามิ
แม้โซโลกับซันจิจะเกี่ยงกันอยู่นานว่าใครจะได้อุ้มลูฟี่ก็เถอะ
จนสุดท้ายแล้วหน้าที่นั้นก็กลายเป็นของอุซปที่ไม่อยากฟังเสียงทะเลาะกันอันแสนน่ารำคาญของทั้งคู่ไปมากกว่าที่เป็นอยู่
ลูฟี่หลับไปนานกว่า
3 ชั่วโมง..พอเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่านี่ถึงเวลาเรียนคาบบ่ายเสียแล้ว
แต่เขาไม่อยากเรียนซักหน่อย..คนหน้าหวานเบ้ปากเมื่อนึกถึงอาจารย์ที่จะมาสอนวิชานี้
และเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะโดด!
และด้วยความที่รู้ทุกซอกทุกมุมของโรงเรียนนี้เป็นอย่างดี
มันจึงไม่ยากนักที่เขาจะหนีออกจากโรงเรียนได้โดยที่ไม่มีใครรู้
แต่..แล้วจะไปไหนดีล่ะ?
กลับบ้านไปตอนนี้ต่อให้พี่ชายทั้ง
2 ไม่ด่า..แต่ปู่ต้องฆ่าเขาแน่ๆ
เด็กหนุ่มเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรงอย่างคิดไม่ตก
เวลานี้เจ้าจระเข้คงไม่ว่างมาคอยเล่นกับเขาซักเท่าไหร่นัก
ส่วนพวกคาเวนดิชก็น่าจะติดเรียนไม่ก็ติดทำงานอยู่เช่นกัน แล้วเขาควรจะไปหาใครดี?
โอ้! ให้ตาย— รู้งี้ไม่น่าโดดมาคนเดียวเลย
ชวนโซโลไม่ก็ซันจิโดดด้วยกันก็ดีอยู่หรอก
ลูฟี่พยายามสงบจิตสงบใจตัวเองก่อนเดินเข้าไปในตัวเมือง
ถนนสายหลักของที่นี่เต็มไปด้วยรถแน่นขนัด..สองข้างทางมีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย
เขามองมันด้วยความสนใจ โอ๊ะ— นั่นร้านของมากิโนะนี่! ดูเหมือนว่าจะมีขนมแบบใหม่ออกมาขายอีกแล้ว
เขาฉีกยิ้มกว้าง..
ครั้งหน้าคงต้องชวนพวกเพื่อนๆมาที่นี่ให้ได้!!
เขาเดินเข้าไปในร้าน
หวังในใจว่าจะเข้าไปทักทายพี่สาวแสนใจดีที่เคยดูแลเขาตั้งแต่ยังเด็กเสียหน่อย
เธอทำงานเสิร์ฟอาหารอยู่หน้าร้าน..และทันทีที่เห็นเขาเธอก็รีบเดินมาหาด้วยความยินดี
เด็กหนุ่มฉีกยิ้มกว้าง
“ไม่เจอกันนานเลยนะลูฟี่”
“ชิชิชิ
วันนี้มาเยี่ยมเฉยๆ เดี๋ยวครั้งหน้าจะพาเพื่อนมาอุดหนุนนะ!”
เธอหัวเราะก่อนระบายรอยยิ้มบนใบหน้าด้วยความเอ็นดู
“จร้าๆ”
ลูฟี่อาสาช่วยงานเธออีกเล็กน้อยนั่นคือคอยเสิร์ฟอาหารและเช็คบิลลูกค้า
เขาคิดว่านี่มันก็ช่วยฆ่าเวลาได้ไม่เลว
หากแต่ความคิดนั้นก็หยุดลงเมื่อมีลูกค้าคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน
ผมสีเทาควันบุหรี่และซิการ์ที่เจ้าตัวชอบสูบเป็นประจำ..เครื่องแบบของตำรวจที่ถูกใส่อย่างไม่เรียบร้อยนัก
และลูฟี่รู้จักคนๆนี้ดี
“โอ๊ะ—
นั่นเจ้าควันนี่นา!”
----|----|----|----|----
ตอนนี้สั้นกว่าตอนที่แล้วค่ะ
แฮะๆ เพราะตันกะทันหันด้วย TT
ครอคโคไดล์บทเยอะเพราะชั้นรักเค้า(?) /โดนรีดตบ เอาเป็นว่าพระเอกคนอื่นๆจะปรากฎตัวออกมาเรื่อยๆนะคะ คนที่น่าจะต้องรอนานหน่อยก็คือแชงคูสกับเสี่ยนก(?)
ส่วนคนที่จะได้เจอเร็วๆนี่ก็
เอส ซาโบ และสโมกเกอร์ค่ะ! (หลังจากเอ่ยถึงทั้งตอนแต่ไม่มีบทซักที)
ส่วนลอว์กับคิดก็อีกไม่นานแล้วค่ะ อดใจรอกันนิดเนอะ ><
สามารถให้กำลังใจได้โดยการคอมเม้นและสามารถทวงฟิคหรือพูดคุยกันได้ที่หน้าเพจเด้อออ
ปล.ตรวจคำผิดแล้วค่ะ
แต่อาจเบลอไปบ้าง ถ้ายังเจอคำผิดอยู่ทักมาเตือนได้นะคะ แหะๆ
ความคิดเห็น