คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #64 : ภาค2 ตอนที่5 การประชุมนักเรียน 2
ภาค2 ตอนที่5 การประชุมนักเรียน 2
ขณะเดียวกันคนของสภานักเรียนก็เริ่มทำการแจกจ่ายกำไลข้อมือให้กับนักเรียนทุกคนไปด้วยพร้อมกับที่ฮิโรชิเริ่มทำการอธิบายกติกาต่างๆที่จะใช้ในพิธีรับน้องให้กับทุกคนได้ฟัง
“พิธีรับน้องที่พวกเราจะใช้กันในปีนี้ก็คือเกมล่า ที่ทุกคนรู้จักกันดีผ่านทางการแข่งขันประจำปีของสมาพันธ์ แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงกติกาจากเดิมนิดหน่อยเพื่อให้เข้ากับกิจกรรมรับน้องของโรงเรียน โดยกติกามีอยู่ว่า
1.ทุกคนสามารถร่วมมือกันเป็นทีมได้อย่างไม่มีจำกัดทั้งจำนวนคนและชั้นปี ซึ่งจะทำให้ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องสามารถร่วมมือกันได้ตรงตามจุดประสงค์ของกิจกรรมรับน้องที่หวังจะทำให้ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องสามัคคีกัน
2.คนที่สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามสูญเสียพลังงานทั้งหมดที่มีอยู่ในกำไลข้อมือได้ก็จะได้รับคะแนน10คะแนนและคะแนนทั้งหมดของฝ่ายตรงข้ามที่เก็บเอาไว้มาเป็นของตัวเอง ซึ่งคะแนนนี้จะแสดงให้เห็นบนกำไลข้อมือนี้ด้วยเช่นกัน
3.ทุกคนสามาถแลกเปลี่ยนหรือโอนคะแนนให้กันได้อย่างอิสระผ่านกำไลข้อมือ ด้วยการกดปุ่มแสดงภาพ3มิติแล้วเลือกแอปพลิเคชันเกมล่า ลงทะเบียนด้วยการสแกนบัตรนักเรียนในครั้งแรกแล้วไปต่อที่การแลกเปลี่ยน ซึ่งในนี้ก็จะมีการแลกเปลี่ยนในทีมการแลกเปลี่ยนกับคนนอกต่างๆให้เลือกใช้
4.คนที่มีคะแนนเก็บมากจนถึงระดับหนึ่งจะถูกแสดงให้เห็นบนแผนที่ของแอปพลิเคชันเกมล่า เพื่อให้ทุกคนตามล่าคนที่มีคะแนนสูงได้ง่ายขึ้น
5.มีการจำกัดเขตให้อยู่เพียงแค่ภายในโรงเรียนเท่านั้น และไม่สามารถออกไปจากโรงเรียนได้จนกว่าจะจบกิจกรรมรับน้อง ใครที่ไม่ทำตามกฎข้อนี้จะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของทุกคนขอให้เข้าใจเอาไว้ด้วย
เอาล่ะ!! เรื่องที่ผมจะต้องพูดก็คงจะมีเพียงแค่นี้ ต่อจากนี้ไปจะเป็นหน้าที่ของประธานสภานักเรียนแต่ละชั้นปีที่จะต้องให้รายละเอียดเพิ่มเติมต่างๆกับทุกคนด้วยตัวเอง”
ว่าแล้วประธานนักเรียนชั้นปีต่างๆก็เริ่มทำการเรียกร่วมตัวนักเรียนภายในชั้นปีของตัวเองให้ไปร่วมตัวกันในที่ต่างกันออกไป
นักเรียนชั้นปีที่5ใช้ห้องประชุมต่อ ส่วนอากาเสะนั้นเลือกที่จะใช้สถานที่หน้าหอพักนักเรียนชั้นปีที่1ที่เป็นสนามหญ้าในการรวมตัวกันแทน
“ทุกคนมากันครบแล้วใช่ไหม?”
อากาเสะประกาศขึ้นขณะที่ทุกคนต่างนั่งอยู่บนสนามหญ้าหน้าหอพัก
“เอาล่ะ เมื่อไม่มีใครตอบฉันจะถือว่าทุกคนมากันครบแล้ว”
อากาเสะตอบหลังจากที่เธอนับจำนวนคนในใจเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็มากันครบทุกคนไม่ขาด
“ก่อนอื่นฉันก็ขอให้ทุกคนลงทะเบียนใช้งานกำไลข้อมือและแอปพลิเคชันเกมล่าก่อน ถ้ามีใครไม่เข้าใจอะไรก็ให้ยกมือขึ้นถามได้ทันที เพราะกำไลเวทอัจฉริยะนี้จะถูกปรับปรุงและใช้งานอย่างจริงจังในอนาคต”
หลังจากนั้นอากาเสะและเพื่อนๆของเธอก็ช่วยกันแนะนำการใช้งานต่างๆของทั้งกำไลเวทอัจฉริยะและแอปพลิเคชันเกมล่า
“ในแอปพลิเคชันเกมล่านี้จะมีการจัดตั้งทีมเพื่อแบ่งคะแนนเท่าๆกันหลังจากที่กำจัดฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว หรือจะทำแบบไม่แบ่งหรือแบ่งตามค่าความเสียหายก็ได้เช่นกัน
ในนี้เองก็มีระบบสื่อสารทั้งแบบภายในทีมแบบกระซิบและแบบประกาศให้ทุกคนได้รู้ซึ่งแบบหลังนี้จะต้องใช้คะแนนในการประกาศด้วย
ระบบแลกเปลี่ยนก็มีทั้งการแลกเปลี่ยนคะแนนกันเองในทีมและแบบใช้แลกเปลี่ยนกับคนนอกที่ต้องใส่ชื่อ รหัสนักเรียน หรือการส่งสัญญาญแบบใกล้ อย่างใดอย่างหนึ่งในการแลกเปลี่ยนกัน
ระบบแผนที่เองก็สามารถใช้ระบุตำแหน่งของเพื่อนร่วมทีมและนัดหมายจุดรวมตัวกันได้ ส่วนอีกหน้าที่หนึ่งก็คือการบอกตำแหน่งของผู้ที่มีคะแนนอยู่ในระดับสูง”
อากาเสะอธิบายระบบการทำงานของแอปพลิเคชันเกมล่าและกำไลเวทอัจฉริยะอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจ และเมื่ออธิบายจนจบอากาเสะก็นึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้
“อืม...เกือบลืมไป ฉันคิดว่ารุ่นพี่ฮิโรชิอาจจะลืมขยายความกฎข้อ2ในเกมไป ว่าเกมล่านี้มันสามารถมีคะแนนติดลบกันได้”
คำพูดของอากาเสะทำให้ทุกคนมองหน้ากันด้วยความสงสัยทันที และนั่นก็ทำให้อากาเสะจำเป็นต้องอธิบายต่อ
“คนที่ถูกทำให้พลังหมดนั้นจะถูกเอาคะแนนที่มีทั้งหมดไปจนเหลือ0แล้วก็จะถูกหักเพิ่มอีก10คะแนน ทำให้ทันทีที่ไปอยู่ในห้องพยาบาลจะมีคะแนนติดลบ10คะแนนทันที
และถ้ายังคงถูกส่งกลับไปยังห้องพยาบาลอย่างต่อเนื่อง การที่จะมีคะแนนติดลบไปถึงหลักร้อยหรือหลักพันก็ไม่ใช่เรื่องยาก
และสุดท้ายคือคะแนนนี้จะถูกเอาไปรวมกับคะแนนในการสอบเลื่อนชั้นและการถูกทำให้ออกจากโรงเรียนด้วย”
หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของอากาเสะ พวกนักเรียนปี1หลายคนก็ถึงกับหน้าซีด เพราะถ้าเกิดพวกเขาทำคะแนนติดลบถึงหลักพันขึ้นมาจริงๆแล้วละก็
พวกเขาคงจะต้องทำภารกิจอย่างกับคนบ้าไปตลอดทั้งปีและต้องสอบให้ได้คะแนนสูงติดท็อป เพื่อให้ตัวเองมีคะแนนพอที่จะอยู่ตำแหน่งรั้งท้ายในตอนเลื่อนชั้น
ทั้งๆที่ความจริงตัวเองน่าจะมีคะแนนรวมเป็นอันดับต้นๆของชั้นปีถ้าเกิดไม่ได้มาติดลบในพิธีรับน้องนี้ซะก่อน
อากาเสะมองไปที่สีหน้าของเพื่อนร่วมชั้นก่อนจะพยักหน้าอย่างพอใจ
“ตอนนี้ทุกคนก็คงจะรู้แล้วว่าพิธีรับน้องนั้นมันโหดร้ายขนาดไหน แต่ไม่ต้องเป็นห่วงฉันเชื่อว่าถ้าพวกเราทุกคนร่วมมือกัน พวกเราจะต้องผ่านพิธีรับน้องนี้ไปได้อย่างแน่นอน”
คำพูดของอากาเสะทำให้ทุกคนที่ได้ฟังใจชื้นขึ้นมาทันที
“เอาล่ะ ต่อจากนี้ไปเรามาพูดถึงแผนการหลบหนีกันเถอะ”
“เอ๋!!!??”
ทุกคนเมื่อได้ฟังคำพูดของอากาเสะก็ถึงกับมึนงง เพราะในระหว่างที่ทุกคนกำลังจะฮึกเหิมขึ้นมานั้น อากาเสะกลับบอกแผนการหลบหนีออกมาซะงั้น จนทำให้ทุกคนตั้งตัวกันไม่ติด
“ไม่ต้องมา เอ๋เลย พวกนายคิดว่าถ้าบวกกับพวกปี4ปี5แล้วจะชนะเหรอ? นั้นคือพวกนายใช้ตูดคิดแล้วไม่ได้ใช้หัวคิด”
มิซากิตะโกนสวนออกมาทันทีที่มีคนสงสัยในความคิดและแผนการของอากาเสะ
“นั่นมันก็...”
และก็แน่นอนว่ามีคนไม่เห็นด้วยกับแผนการหลบหนีของอากาเสะอยู่แล้ว เพราะพวกเขาคิดว่าพวกเขาคือคนพิเศษที่สามารถสอบเข้าโรงเรียนสอนปราบผีได้ และส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยก็เป็นพวกตัวท็อปของชั้นปีทั้งนั้น
‘เฮ่ย...พวกนี้มันเก่งอย่างเดียวไปพอ ต้องโง่ด้วยสินะ’ มิซากิคิดในใจก่อนที่เธอจะตะโกนพูดต่อ
“เอาล่ะ!! ถ้าใครไม่อยากหลบหนีและอยากต่อสู้ให้ตามฉันมานั่งทางนี้!!”
มิซากิพูดขึ้นพร้อมกับเดินนำขบวนพวกที่ไม่เห็นด้วยกับแผนการของอากาเสะไปนั่งทางขวาของสนามหญ้า ซึ่งก็มีจำนวนมากกว่าครึ่งที่เดินไปนั่งทางมิซากิ
“เอาล่ะ!! ต่อจากนี้ไปพวกนายคือหน่วยกล้าตาย หน้าที่ของพวกนายก็คือไล่ฆ่าทุกคนที่เหม็นขี้หน้าและไม่ชอบใจ ใครที่หนีออกจากหน่วยนี้กลางคันก็คือหมาขี้แพ้”
“โอ้วว!!!”
หนึ่งในหน้าม้าตะโกนขึ้นพร้อมกับชูกำปั้นขึ้นสูง ซึ่งมิซากิก็ชูกำปั้นตอบรับอย่างรู้งานทันที
“พวกเราคือหน่วยที่เจ๋งที่สุดและไม่เคยกลัวใครหน้าไหน!!”
“โอ้ววว!!!”
หน้าม้าคนเดิมตะโกนขึ้น และเริ่มที่จะมีคนติดเชื้อตะโกนตามด้วย และนั่นก็ทำให้มิซากิตะโกนปลุกใจต่อทันทีอย่างไม่พอช้า
“คนที่หลบหนีออกจากหน่วยกลางคันคือหมาขี้แพ้และกลัวความตาย!! แต่ฉันรู้ว่าพวกนายไม่ใช่หมาขี้แพ้และกลัวความตาย!! พวกนายคือยอดนักปราบผีที่ไม่เคยเกรงกลัวต่อสิ่งใด ใช่ไหม!!”
“ใช่!!!” หน้าม้าตะโกนสุดเสียงอีกครั้ง
“ฉันยังไม่ได้ยิน!! ตะโกนให้มันดังกว่านี้” มิซากิสั่งซ้ำ
“ใช่!!!” หน้าม้ายังคงพยายามอย่างต่อเนื่อง
“พวกนายเก่งกาจและไม่เคยยอมแพ้ต่อใครหน้าไหนใช่ไหม!!”
“ใช่!!!” นอกจากหน้าม้าแล้วตอนนี้เริ่มมีคนบ้ายอตะโกนตาม
“พวกนายจำเอาไว้ พวกเราคือหน่วยกล้าตาย ที่เก่งกาจและไม่เคยเกรงกลัวต่อความตาย!! ทุกครั้งที่ตายพวกเราจะเกิดขึ้นมาใหม่อีกครั้งและกลับไปลากคนที่ฆ่าเราให้ไปลงนรกด้วยกัน
ทุกครั้งที่พวกเราฟื้นขึ้นมาจากนรก จะต้องทำให้พวกเขากลัวจนฉี่ราด ตะโกนพ่อร้องหาแม่!! ทางเดินที่พวกเราเดินผ่านจะต้องปูไปด้วยซากศพและกองเลือด ทุกคนจะต้องหวาดกลัวทุกครั้งที่พวกเราเดินผ่าน
จะต้องไม่มีใครหน้าไหนกล้ามาหยุดเรา!! ใครที่มันกล้ามาหยุดเราจะต้องให้มันไปนอนอยู่ในนรก!!”
และแล้วปฏิบัติการล้างสมองของมิซากิก็ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ส่วนทางอากาเสะก็พาคนที่เหลือเดินออกมาทางซ้ายก่อนที่จะเริ่มพูดเรื่องแผนการต่อ
“แผนการของเราคือให้หน่วยกล้าตายดึงดูดความสนใจของพวกรุ่นพี่เอาไว้ ในขณะที่พวกเราจะซ่อนตัวและหลบหนีไปตามทางที่หน่วยสำรวจได้สำรวจเอาไว้ก่อนแล้ว”
คำพูดของอากาเสะทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ตกใจทันที และเริ่มหันไปมองทางหน่วยกล้าตายด้วยความเคารพและเห็นใจ
“แล้วถ้ามีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นก็ขอให้ทุกคนอย่าตกใจ เพราะฉันได้เตรียมทีมรั้งท้ายที่จะช่วยถ่วงเวลาให้ทุกคนเอาไว้แล้ว เพราะงั้นขอให้ทุกคนปฏิบัติตามคำสั่งของฉันอย่างเคร่งครัด”
หลังจากนั้นอากาเสะก็เริ่มอธิบายแผนการและเส้นทางที่จะใช้ในการหลบหนีอย่างละเอียดให้กับทุกคนได้ฟัง
และแล้วในที่สุดช่วงเวลาที่สำคัญของทุกคนก็ได้มาถึงพร้อมกับเสียงระฆังบอกเวลาของหอนาฬิกาที่ดังไปทั่วทั้งโรงเรียน เพื่อบอกให้ทุกคนได้รู้ว่าช่วงเวลาแห่งเกมล่าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ความคิดเห็น