ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พันธสัญญารักนักปราบผีสาว (ฟรี)

    ลำดับตอนที่ #53 : ตอนที่ 52 งานหมั้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.2K
      16
      30 มิ.ย. 62

    ตอนที่ 52

    งานหมั้น


    สำหรับหลายคนอาจจะรู้สึกตื่นเต้นไปกับข่าวบนเว็บไซต์ของหลินกุ่ย แต่ว่าทั้งหมดนั้นคงจะไม่ใช่สำหรับคนของตระกูลชิชิโดที่ถูกเปิดเผยแผนการทั้งหมดของพวกเขาออกมาบนเว็บไซต์

    ซึ่งหลินกุ่ยก็ไม่มีทางปล่อยให้คนที่มาจิ้มพุงเธอได้นอนตายตาหลับอย่างแน่นอน ดังนั้นเธอจึงจัดการใส่สีตีไข่ปาใส่ให้กับตระกูลของอันดะอย่างเต็มที่ราวกับว่าพวกเขานั้นคือตัวร้ายในบทละครนี้ของเธอ

    และแล้วผลสัมฤทธิ์มันก็ค่อนข้างที่จะออกมาดี เมื่อตระกูลต่างๆเริ่มที่จะทอดทิ้งตระกูลชิชิโดเพื่อไม่ให้ตระกูลของตัวเองต้องเสื่อมเสียตามไปด้วย ทั้งๆที่ตอนแรกพวกเขาก็เห็นดีเห็นงามและเข้าร่วมวงกับอันดะในตอนแรกด้วยกันทั้งนั้น

    แต่เมื่อแผนการทั้งหมดล่มสลายและโดนประชาชนกลบด่า พวกเขาก็เลือกที่จะทอดทิ้งตระกูลชิชิโดไปอย่างไม่แยแส

    ในคฤหาสน์ตระกูลชิชิโด ท่ามกลางงานศพที่เงียบเหงาไร้ซึ่งแขกผู้เข้าร่วมงาน เพราะทุกตระกูลนั้นต่างก็ตัดสัมพันธ์กับตระกูลชิชิโดไปจนหมด

    ส่วนคนในตระกูลนั้นส่วนใหญ่ก็แยกย้ายกันไปแล้ว เมื่อรู้ว่าอันดะและยอดฝีมือทั้งหมดของตระกูลตาย มันเป็นเหมือนกับฝูงลิงที่แยกย้ายกันไปหาต้นไม้ใหม่ หลังจากที่ต้นไม้เก่าที่มันเกาะกินตาย

    จะเหลือก็แค่คนเก่าคนแก่ของตระกูลที่อยู่มานาน และคนรับใช้ไม่กี่คนเท่านั้นที่อยู่ร่วมงานศพของอันดะ

    ทางด้านมินะลูกสาวเพียงคนเดียวของอันดะ หลังจากที่พ่อของเธอตาย โลกทั้งใบของเธอก็เหมือนกับได้พังทลายลงมา เพื่อนฝูงในสังคมชั้นสูงของเธอก็ได้ตัดสัมพันธ์กับเธอทั้งหมด มือถือของเธอนั้นไม่สามารถติดต่อกับใครได้เลยสักคน ทุกคนต่างก็ไม่ยอมรับสายของเธอ

    และที่ทำให้เธอช็อกมากที่สุดก็คือจดหมายถอนหมั้นอย่างเป็นทางการจากตระกูลฮายาชิที่มีลายเซ็นชื่อของโคเฮคนรักของเธอ

    งานแต่งงานแห่งความฝันของเธอถูกเปลี่ยนเป็นงานศพ ชุดสีขาวบริสุทธิ์ของเจ้าสาวถูกย้อมให้กลายเป็นสีดำแห่งความทุกข์

    มินะอยู่ในงานศพของพ่อเธอพร้อมกับขอบตาดำจากการอดนอน และดวงตาสีแดงจากการร้องไห้อย่างหนักจนตอนนี้เธอไม่มีน้ำตาให้ไหลอีกแล้ว

    ทุกคนต่างเดินไปหน้าโลงศพของอันดะพร้อมกับกล่าวลาผู้จากไป และเมื่อผ่านไปจนครบ ในที่สุดก็ถึงคราวของเธอ

    มินะเดินเข้าไปพร้อมกับจ้องมองรูปภาพตัวแทนของพ่อ ก่อนที่จะกล่าวออกมาเสียงเบา

    “ป๊ะป๋า นอนหลับให้สบายนะค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงต่อจากนี้ไปหนูจะเป็นคนดูแลตระกูลชิชิโดเอง หนูจะทำให้ตระกูลชิชิโดกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง...หนูสัญญา”

    มินะหลับตาลงก่อนที่เธอจะตัดสินใจหยิบมีดสั้นขึ้นมาและจัดการตัดผมของตัวเอง

    “คุณหนู!!”

    “คุณหนู!!”

    คนรับใช้และคนที่อยู่ในงานต่างก็ตกใจที่เห็นมินะตัดผมที่ยาวของตัวเองออก

    “ทุกคนจงฟัง!! ต่อจากนี้ไปฉันคือผู้นำตระกูลชิชิโด ฉันจะทำให้ตระกูลชิชิโดกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และจะไม่ให้ใครมาดูถูกพวกเราได้อีก”

    มินะพูดพร้อมกับระเบิดคลื่นพลังของเธอออกมา มันเป็นคลื่นพลังระดับที่แม้แต่สิบยอดฝีมือของญี่ปุ่นก็เทียบไม่ติด มันน่าจะเป็นระดับที่เกินขอบข่ายของมนุษย์ไปแล้ว

    “โอ้...สวรรค์”

    “ไม่น่าเชื่อว่าตระกูลของเราจะหลบซ่อนผู้มีอัจฉริยะระดับนี้เอาไว้”

    “คุณหนู..ไม่สิต้องเรียกว่านายหญิงแล้วสินะ”

    “อ่าาาา ตระกูลชิชิโดจะต้องกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”

    ทุกคนต่างมองไปที่มินะผู้นำคนใหม่ของตระกูลชิชิโดอย่างมีความหวัง

    มินะนั้นได้หลบซ่อนพลังของตัวเองเอาไว้มาโดยตลอด เพราะเธออยากจะเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาที่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่ตอนนี้เธอได้รู้แล้วว่าถ้าเธอไม่แข็งแกร่งเธอก็จะถูกกิน เสือถ้าได้ลงจากภูเขาแม้แต่สุนัขข้างถนนก็ยังรุมกัด โลกนี้ไม่ได้มีที่เอาไว้ให้สำหรับคนอ่อนแอ

    มันจบแล้วสำหรับมินะคนเก่าที่อยู่กับความฝันของเด็กผู้หญิง และตอนนี้เธอจะกลายเป็นมินะคนใหม่ที่ทุกคนในญี่ปุ่นจะต้องยอมสยบให้กับเธอ

    ******

    และแล้วในที่สุดงานหมั้นของเรนอิจิและฮาสึโนะก็มาถึง แต่ถึงจะเรียกว่างานหมั้น แต่โดยรวมแล้วสมควรเรียกว่างานเทศกาลหรืองานเลี้ยงสังสรรค์จะดีกว่า

    เพราะในวันนี้นั้นเรนอิจิเปิดให้คนธรรมดาทั่วไปสามารถเข้ามาเที่ยวชมและกินเลี้ยงกันในพื้นที่ส่วนล่างได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

    และมันก็ทำให้ผู้คนสนใจมาก เพราะจะได้มาเที่ยวชมสวนต้นไม้ดอกไม้ทั้งสี่ฤดูที่ขึ้นชื่อของตระกูลยูโนะซากิ และไม่ใช่เท่านั้นเรนอิจิยังให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถตั้งร้านในพื้นที่ได้ ซึ่งในตอนแรกเรนอิจิก็นึกว่าพวกเขาคงจะเข้ามาขายของกันนิดหน่อยๆตามข้างทาง

    แต่ที่ไหนได้อยู่ๆดีมันก็กลายมาเป็นงานเทศกาลไปซะงั้น จนเรนอิจิก็ได้แต่ตามน้ำและจัดมันเป็นงานเทศกาลไป

    งานหมั้นของเรนอิจิและฮาสึโนะนั้นถูกจัดขึ้นในเวลากลางคืนหลังจากที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ส่วนพื้นที่จัดงานนั้นก็อยู่ด้านบนภูเขาที่ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ตั้งของคฤหาสน์

    แต่สภาพโดยรวมของงานหมั้นนั้นแทบที่จะเรียกได้ว่าเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ซะมากกว่า เพราะทันทีที่เริ่มงานทุกคนก็ต่างดื่มฉลองกันอย่างเต็มที่

    พ่อของฮาสึโนะเองก็เริ่มที่จะดื่นอย่างหนักทันทีที่เริ่มงานพร้อมกับบ่นพึมพำกับตัวเอง ซึ่งฮาสึโนะก็รู้ว่าพ่อของเธอนั้นกำลังบ่นถึงเรื่องของเธออยู่

    และไม่รู้ว่าพ่อของเรนอิจิเขาคิดยังไงถึงได้เข้าไปร่วมวงเมาด้วย แต่ดูแล้วทั้งคู่นั้นกลับดูแตกต่างกันซะเหลือเกิน เพราะคนหนึ่งดื่มไปพร้อมกับก้มหน้าทุบโต๊ะไปด้วยความทุกข์ใจที่ไม่อาจจะบอกใครได้ ส่วนอีกคนหนึ่งก็ดื่มไปส่งเสียงหัวเราะไปด้วยความสุขใจตลอดเวลาที่ได้ดื่ม

    อะไรมันจะแตกต่างกันขนาดนั้น ฮาสึโนะคิดขณะที่มองดูคนทั้งคู่ร่วมดื่มไปด้วยกัน

    "ไง... ฮาสึโนะเป็นยังไงบ้าง? ว่าแต่...วันนี้เธอแต่งตัวสวยดีนะ"

    มิซากิพูดขึ้นทันทีที่เดินเข้ามาหาฮาสึโนะ ซึ่งแน่นอนว่าชุดในวันนี้ของฮาสึโนะนั้นก็คือชุดกิโมโนสีสดใสที่เน้นไปทางลวดลายที่ดูสูงส่งและงดงาม ผมของฮาสึโนะเองก็ถูกจัดขึ้นมาไว้ข้างบนอย่างเรียบร้อย ส่วนใบหน้าของเธอนั้นก็ไร้กรอบแว่นเพราะโดนยึดไปแล้วและให้เธอใส่คอนแทคเลนส์แทน

    "เธอเองก็ดูน่ารักดีนะมิซากิ"

    ฮาสึโนะมองดูมิซากิที่แต่ตัวเหมือนกับเด็กผู้ชายพร้อมกับกล่าวชม และไม่ทันไรด้านหลังของมิซากิเองก็มีอากาเสะ ซามิยะ และโทโมเอะเดินเข้ามาทักทายด้วย

    "สวัสดีฮาสึโนะ"

    "สวัสดีค่ะ"

    "สวัสดีค่ะคุณฮาสึโนะ"

    อากาเสะนั้นแต่งตัวอยู่ในชุดกิโมโนที่ดูเรียบร้อยและเข้ากับตัวเธอเอง ส่วนซามิยะนั้นอยู่ในชุดเดรสสั้นที่ดูธรรมดาๆและเห็นได้ทั่วไป

    ทางด้านของโทโมเอะนั้นเธอแต่งชุดเสื้อและกระโปรง แต่ถึงแม้ว่าส่วนกระโปรงของเธอนั้นจะยาวดูเรียบร้อยและเข้ากับงาน แต่ชุดเสื้อกระดุมของเธอนั้นกลับมองดูผิดกฎหมายไปอย่างมากด้วยความแน่นตึงของมันที่เกินขีดจำกัด

    "อา สวัสดี"

    ฮาสึโนะกล่าวทักทายกลับพร้อมกับส่งยิ้มต้อนรับทุกคน

    "แล้วคุณเรนอิจิคู่หมั้นของเธอไปไหนซะแล้วล่ะ ไม่ได้อยู่กับเธอด้วยเหรอ?" อากาเสะถามพร้อมกับหันไปมองรอบๆงานที่มีกลุ่มคนที่เป็นนักปราบผีรวมตัวกันอยู่ แต่เธอก็มองไม่เห็นเรนอิจิอยู่ในบริเวณนั้นเลย

    "เออ...ก็พอดีว่าเขาติดงานอยู่นิดหน่อยนะก็เลยขอแยกตัวไปสักพัก” ฮาสึโนะตอบพร้อมกับถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

    "ฮึ! คุณเรนอิจินี้ก็แย่จริงๆนะ ที่ปล่อยเธอเอาไว้คนเดียว" มิซากิเองก็กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจเช่นเดียวกัน เมื่อรู้ว่าเรนอิจิไม่ได้อยู่ข้างๆฮาสึโนะ

    "เอาน่า...บางทีงานเขาอาจจะยุ่งจริงๆก็ได้"

    อากาเสะกล่าวแก้ตัวให้กับเรนอิจิ เพราะเธอเองก็คิดว่าคนระดับเรนอิจินั้นคงจะต้องมีงานยุ่งอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว

    แต่ในระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น โทโมเอะกลับดูกระวนกระวายใจ จนในที่สุดฮาสึโนะต้องเอ่ยถามออกมาด้วยความเป็นห่วง

    "โทโมเอะ? เธอเป็นอะไรหรือเปล่า"

    "เออ...คือว่าฉันรู้สึกเหมือนกับกำลังถูกมองดูด้วยสายตาแปลกๆอยู่นะค่ะ ก็เลยไม่ค่อยจะสบายใจสักเท่าไร" โทโมเอะตอบออกไปพร้อมกับความรู้สึกที่เป็นกังวล

    "ฮือ...ยังงั้นเหรอ"

    ว่าแล้วทั้งฮาสึโนะ อากาเสะ มิซากิ และซามิยะ ก็เริ่มหันมองไปรอบๆ ซึ่งพวกเธอก็เห็นเหล่าผู้ชายที่กำลังมองมาทางหน้าอกของโทโมเอะอยู่ ถึงแม้พวกเขาบางคนจะแสร้งยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม แต่สายตาของพวกเขานั้นไม่ได้อยู่ห่างไปจากภาพของหน้าอกที่ดูเกินขอบเขตของโทโมเอะไปเลย

    "ชิ!!"

    "ชิ!!" "ชิ!!"

    "ชิ!!"

    ทั้งสี่สาวต่างเดาะลิ้นกันออกมาอย่างไม่พอใจทันทีที่รู้ว่าโทโมเอะนั้นรู้สึกไม่สบายใจเพราะเรื่องอะไร ซึ่งแน่นอนว่าสายตาที่ดูไม่พอใจของทั้งสี่คนนั้นก็ทำให้โทโมเอะรู้สึกแปลกใจด้วยเช่นกัน

    "อะ...อะไรกันค่ะ"

    โทโมะเอะพูดขึ้นพร้อมกับท่าทางที่ดูตื่นตระหนกเมื่อโดนเพื่อนๆของเธอจ้องมองด้วยสายตาแปลกๆที่เต็มไปด้วยความไม่ชอบใจและความอิจฉา

    "เฮ้ย...พอเถอะ พวกเราไปหาอะไรกินให้หายแค้นกันดีกว่า"

    ฮาสึโนะพูดพร้อมกับดึงของทั้งหลายที่ปักอยู่บนหัวของเธอออกทั้งหมด และจัดการใช้ผ้ารัดผมเป็นหางม้าเอาไว้ข้างหลังแทน

    "อืม ฉันก็ว่ายังงั้นแหละ!! ไปกันเถอะ"

    "อืม ไปกันเถอะ"

    "ใช่แล้วไปหาอะไรกินกันเถอะ"

    ว่าแล้วทั้งสี่สาวก็เดินออกไปทันที โดยที่โทโมเอะยังงงๆอยู่และตามเรื่องที่ทุกคนพูดกันอยู่ไม่ทัน

    "ดะ...เดี๋ยวก่อนสิค่ะ รอกันด้วยสิค่ะ"

    โทโมเอะร้องขึ้นพร้อมกับวิ่งตามพวกฮาสึโนะไปจนทำให้หน้าอกของเธอแกว่งไปมาและเด้งขึ้นลงจนทรมานหัวใจผู้ชายที่มองดูอยู่รอบข้าง

    ******

    ศาลาที่พักชมวิว ณ จุดหนึ่งในงานเลี้ยงสังสรรค์ ที่ซึ่งตั้งอยู่ริมหน้าผาสูงเพื่อให้สามารถมองเห็นแสงสีและโคมไฟที่ส่องสว่างสวยงามอยู่ข้างล่างได้อย่างชัดเจน

    ส่วนที่รอบข้างของศาลานั้นก็มีรั้วไม้กั้นป้องกันคนพลัดตกลงไปข้างล่าง ทางด้านภายในศาลานั้นก็มีโต๊ะหินยาวที่ถูกปูผ้าเอาไว้เรียบร้อยพร้อมกับม้านั่งหินทั้งสองข้างที่ถูกปูเบาะนั่งเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน

    และที่ใจกลางของศาลาหลังนั้นก็ได้มีเฟรนดี้ ยามิ และหลินกุ่ยกำลังนั่งคุยกันอยู่อย่างสนุกสนาน

    และแน่นอนว่าเรื่องที่พวกเธอกำลังพูดคุยกันอยู่นั้นก็คือเรื่องราวและข่าวสารเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่หลินกุ่ยสร้างขึ้นมา ซึ่งหลินกุ่ยก็ได้นำคอมพิวเตอร์แบบพกพาของตัวเองมาเปิดเว็บไซต์ให้กับเฟรนดี้และยามิได้ดู เพราะเธอรู้ว่าทั้งสองคนนี้เป็นพวกไม่ค่อยชอบใช้เทคโนโลยี ดังนั้นจึงไม่มีทางรู้ข่าวพวกนี้ได้อย่างรวดเร็วแน่นอน

    แต่ในระหว่างที่พวกเธอทั้งสามคนกำลังนั่งดูภาพของเว็บไซต์บนโต๊ะกว้างที่ถูกฉายออกมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของหลินกุ่ยอยู่นั้น

    ฮาสึโนะและพวกอากาเสะก็เดินมาถึง ในมือของพวกเธอทั้งห้าคนนั้นเต็มไปด้วยอาหารและเครื่องดื่มที่ถูกจัดเรียงเอาไว้ในถาดของแต่ละคนที่ถือมากันคนละ2-3ถาด

    "สวัสดีค่ะทุกคน"

    อากาเสะเริ่มกล่าวทักทายพร้อมกับรอยยิ้ม และเมื่ออากาเสะเริ่มกล่าวทักทายคนอื่นๆที่เดินตามมาข้างหลังก็เริ่มกล่าวทักทายคนที่อยู่ในศาลาด้วยเช่นกัน

    "สวัสดีค่ะ"

    "อืม...สวัสดี เข้ามานั่งกันก่อนสิ"

    เฟรนดี้กล่าวต้อนรับพร้อมกับเชิญให้ทุกคนเข้ามานั่ง ซึ่งทุกคนก็กล่าวขอบคุณกันอย่างมีมารยาท ต่างกับฮาสึโนะที่เดินมาถึงก็ไม่พูดไม่จาเลือกที่นั่งของตัวเองแล้วนั่งลงทันทีโดยไม่มีความเกรงใจต่อเจ้าของโต๊ะที่นั่งอยู่ก่อนแล้วเลย

    "นี่มัน? อะไรนะ"

    ฮาสึโนะกล่าวขึ้นมาในขณะที่มองดูภาพที่ฉายอยู่บนโต๊ะหิน ซึ่งในระหว่างนั้นหลินกุ่ยกับยามิก็ขยับตัวและเชิญให้ทุกคนเข้ามานั่งที่เก้าอี้ยาวในแต่ละข้าง

    "อืม...ก็เว็บไซต์ข่าวที่ฉันทำขึ้นมานะ แต่ถึงยังงั้นมันก็มีแต่ข่าวของพวกเธอเท่านั้นแหละที่ฉันเอามาลงนะ"

    "ฮือ? และมันคือข่าวอะไรล่ะ"

    ฮาสึโนะถามต่ออย่างสงสัย เพราะถึงข่าวจะออกไปแล้วแต่ว่าในช่วงเวลาสามสี่วันมานี้ฮาสึโนะก็กำลังวุ่นๆอยู่กับพ่อแม่ของเธอจึงไม่ได้ติดต่อข่าวสารตลอดจนมาถึงวันงาน

    "อ่อ!.. เว็บไซต์นี้เองสินะ ก็นึกอยู่แล้วละว่าต้องเป็นคุณหลินกุ่ยแน่ๆที่เอาข่าวพวกนี้มาลง"

    อากาเสะตอบออกมาอย่างยิ้มๆ ซึ่งนั่นก็สร้างความสงสัยให้กับฮาสึโนะเข้าไปอีกขั้น จนเธอต้องรีบถามซ้ำอีกครั้ง

    "แล้วในเว็บไซต์นี้มันมีอะไรบ้างล่ะ"

    "อืม...ก็มีภาพเท่ๆของพวกเราที่ถูกหลินกุ่ยถ่ายเก็บเอาไว้ยังไงล่ะ"

    มิซากิตอบออกมาอย่างยิ้มแย้มพร้อมกับยืนเก๊กท่าเหมือนกับพวกซุปเปอร์ฮีโร่ให้เพื่อนๆของเธอได้ดู

    "เออ...ฉันว่าเราให้ฮาสึโนะดูไปเลยไม่ดีว่าเหรอ? จะได้เข้าใจไปเลยทีเดียว" อากาเสะแสดงความเห็นออกมา ซึ่งหลินกุ่ยก็พยักหน้าเห็นด้วย

    "ฉันก็ว่ายังงั้นแหละ เปิดดูไปพร้อมๆกันเลยจะได้ระลึกถึงความหลังไปด้วย แต่ว่าเราจะเริ่มจากอะไรกันก่อนดีล่ะ?"

    หลินกุ่ยสอบถามความเห็นจากทุกๆคน ซึ่งมิซากิก็เป็นคนแรกที่ยกมือและกล่าวขึ้นมาอย่างเสียงดังฟังชัด

    "ฉันว่าเริ่มจากรูปเท่ๆของฉันก่อนเลยดีกว่า!!"

    "หึหึ.... จะเอายังงั้นก็ได้ จัดให้ตามคำขอ"

    ว่าแล้วหลินกุ่ยก็เปิดภาพการตายแบบอเนจอนาถที่สุดของมิซากิที่กำลังถูกพวกร่างเงานั้นแยกร่างและตัดหัวพร้อมกับกระชากพุงให้กับทุกคนได้ดู ซึ่งแน่นอนว่าภาพนี้เป็นภาพลับเฉพาะที่หลินกุ่ยไม่ได้เอาไปลงในเว็บไซต์

    "กะ...กะ... กรี๊ด!!"

    มิซากิถึงกับกรีดร้องออกมาลั่นพร้อมกับเอามือกุมลำคอและหน้าท้องของตัวเองเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าคนอื่นๆก็หัวเราะไม่ออกเมื่อได้เห็นภาพของมิซากิที่ตายอเนจอนาถที่สุดในกลุ่มของพวกเธอ

    "หึหึ เป็นยังไงล่ะภาพสุดเท่ของเธอเลยนะเนี้ย"

    ในที่นี้มีแต่หลินกุ่ยและเฟรนดี้เท่านั้นที่ยังสามารถหัวเราะอยู่ได้ ส่วนยามิที่ดูอยู่นั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ดูเหมือนว่าพวกเลือดและการกระชากพุงนั้นจะไม่ค่อยทำให้สามสาวพวกนี้รู้สึกอะไรแล้ว

    "เอาล่ะ ต่อไปก็ภาพเท่ๆของใครต่อดีล่ะ?"

    หลินกุ่ยกล่าวออกมาพร้อมกับยิ้มอย่างชอบใจ ในขณะที่เธอมองไปรอบๆโต๊ะหิน และแน่นอนว่าทุกสายตานั้นต่างก็หันหลบสายตาของหลินกุ่ยกันไปจนหมด

    "อะ.. เอาเป็นซามิยะต่อเลยก็แล้วกัน"

    อากาเสะจัดการขายเพื่อนสาวออกไปก่อนเป็นคนแรก ซึ่งแน่นอนว่าซามิยะเองก็รีบเร่งขายโทโมเอะต่อไปโดยทันทีอย่างไม่รอช้า

    "ภะ... ภาพของฉันไม่ค่อยมีอะไรหรอก เพราะงั้นฉะ...ฉันว่าเปิดภาพของโทโมเอะดูก่อนน่าจะดีกว่านะ"

    โทโมเอะที่โดนส่งไม้ต่อก็รีบร้อนโบกมือไปมาเพื่อปฏิเสธอย่างรวดเร็วพร้อมกับรีบพูดขึ้น

    "ฉันว่า... ฉันว่า..."

    โทโมเอะพยายามที่จะหาคนส่งไม้ต่อ แต่เมื่อเธอมองเห็นสายตาข่มขู่และคุกคามจากคนรอบข้างเธอก็รู้สึกกลัวจนหัวหด

    "ฉะ...ฉันว่า ฉันว่า...ต่อไปเป็นฉันก็ดีนะค่ะ"

    สุดท้ายโทโมเอะก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมและขึ้นเขียงรอเป็นคนต่อไป



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×