คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #44 : ตอนที่ 43 ร่ายเวท
ตอนที่ 43
ร่ายเวท
มาทางด้านของฮาสึโนะ หลังจากที่พวกเธอแบ่งกลุ่มกันเสร็จแล้ว เธอกับเรนอิจิก็มาถึงตรงหน้าของเทพอสูร โดยที่ตอนนี้พวกเธอกำลังใช้เศษซากกำแพงที่เหลืออยู่ตามพื้นเป็นที่กำบังตัว
"เอาล่ะ ตอนนี้เราก็เหลือแค่รอสัญญาณจากการโจมตีครั้งแรกของอากาเสะเท่านั้น"
เรนอิจินั้นวางแผนให้อากาเสะเป็นคนเปิดการโจมตีจากระยะไกลที่รุนแรงที่สุดก่อน เพื่อที่จะได้ทำให้เขาและฮาสึโนะสามารถเข้าโจมตีเทพอสูรได้อย่างสะดวก
ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้อากาเสะกำลังรวบรวมพลังในการโจมตีที่ไกลออกไปกว่า2กิโลจากตัวของเทพอสูร และถึงแม้ว่ามันจะไกลขนาดนั้นแต่ด้วยขนาดตัวของเทพอสูร ทำให้อากาเสะสามารถเล็งมันถูกได้อย่างแน่นอนและไม่คลาดเคลื่อน
"เรนอิจิฉันขอเปลี่ยนแผน เราจะลุยกันตอนนี้เลย"
"เดี๋ยวก่อนสิฮาสึโนะ!! ทำไมถึงไม่รออากาเสะโจมตีก่อน" เรนอิจิพยายามกล่าวห้ามเมื่อเห็นว่าฮาสึโนะกำลังจะไปพร้อมกับรีบกางแขนห้ามเธอเอาไว้
"มันกำลังจะฟื้นตัวและกำลังจะสร้างเกราะปราณคุ้มกันรอบตัวขึ้นมาอีกครั้ง ดังนั้นถ้าเราไม่โจมตีมันตอนนี้และรอให้มันสร้างเกราะปราณป้องกันตัวสำเร็จ ตอนนั้นพลังเวทจากการโจมตีของอากาเสะก็ทำอะไรมันไม่ได้แล้ว"
เมื่อได้ฟังสิ่งที่ฮาสึโนะพูด เรนอิจิก็ยืนคิดอยู่สักพักก่อนที่จะพยักหน้าเห็นด้วยว่าพวกเขาสมควรที่จะต้องโจมตีมันตอนนี้ก่อนที่มันจะฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบที่ฮาสึโนะว่า
"อืม ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลย"
แต่ยังไม่ทันที่เรนอิจิและฮาสึโนะจะได้ออกจากที่กำบัง ลำแสงขนาดใหญ่สีขาว8เส้นก็บินตัดฟ้าเข้ามา ลำแสงสีขาวทั้ง8เส้นนั้นไม่ได้มีความเร็วอะไรมาก แต่ที่น่าแปลกคือมันสามารถเลี้ยวโค้งได้ราวกับมันมีชีวิต
ตูมๆ!! ตูมๆ!! ตูมๆๆ!! ตูม!!
ลำแสงสีขาวขนาดใหญ่นั้นตีวงเข้าใส่หัวทั้งแปดของเทพอสูรที่สมบูรณ์และกำลังฟื้นตัวอยู่ได้อย่างแม่นยำ พร้อมกับระเบิดผิวหนังของมันหายไปได้หลายส่วนจนมันแทบทรุด
"ตอนนี้แหละ!!"
เรนอิจินั้นไม่รู้ว่าการโจมตีที่รุนแรงนี้เป็นของอากาเสะหรือไม่ แต่ที่แน่ๆก็คือตอนนี้เป็นโอกาสของพวกเขาแล้วที่จะจัดการกับเทพอสูรที่กำลังบาดเจ็บและอ่อนแรง
"อืม...งั้นฉันขอไปก่อนก็แล้วกัน"
ว่าแล้วฮาสึโนะก็พุ่งตัวเข้าหาเทพอสูรทันทีโดยที่มีเรนอิจิตามไปข้างหลังห่างๆ เพราะความเร็วของเขานั้นตามฮาสึโนะไม่ทัน
ทางด้านอากาเสะหลังจากที่เธอยิงลำแสงศักดิ์สิทธิ์ทั้งแปดเส้นสำเร็จ เธอก็แทบที่จะลงไปคลานอยู่กับพื้น นี้ถ้าไม่มีอาวุธคู่กายอย่างโอโตนามิที่ช่วยหมุนส่งพลังให้เธออยู่ตลอดเวลาแล้วละก็...เธออาจจะเกิดอาการขาดพลังเวทอย่างหนักจนช็อกตายไปเลยก็ได้
"แฮ่กๆ!! มะ...มัน แฮ่กๆ! มัน...มันสำเร็จไหม? แฮ่กๆๆ"
หลังจากที่ปล่อยลำแสงศักดิ์สิทธิ์ทั้งแปดเส้นไปโดนหัวทั้งแปดของเทพอสูรเสร็จ อากาเสะก็แทบที่จะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองดูผลงานขอตัวเองอีกเลย เธอได้แต่ก้มหน้าและส่งเสียงหอบออกมาแบบนั้นอยู่ตลอดเวลา
"ก็...ไม่ใช่แค่สำเร็จหรอกนะ แต่ฉันว่ามันยอดเยี่ยมไปเลยล่ะ!! เพราะแค่ชุดเดียวที่เธอยิงนั้นก็น่าจะลดพลังบอสไปได้แล้วสักครึ่งหลอด"
มิซากิเมื่อเห็นอาการร่อแร่ของเทพอสูรก็เอ่ยชมอากาเสะในแบบของเธอทันที
"แฮ่กๆ งั้นเหรอ...แต่จะให้ฉันยิงชุดที่2นี้คงจะไม่ไหมแล้วนะ"
อากาเสะกล่าว เพราะแค่นี้เธอก็แทบที่จะประคองสติเอาไว้ไม่อยู่แล้ว เรื่องที่จะให้ยิงชุดที่2นะเลิกพูดไปได้เลย
แต่ยังไม่ทันที่อากาเสะจะตอบปฏิเสธได้เต็มปากซามิยะก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
"ไม่หรอก...อากาเสะเธอต้องทำได้แน่ เพราะเธอยังมีพวกเราอยู่และพวกเราจะสู้ไปด้วยกัน"
ซามิยะกล่าวเสร็จก็เริ่มลงมือใช้เวทฟื้นพลังให้กับอากาเสะทันที และแน่นอนว่าเวทฟื้นพลังของเธอนั้นสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยอากาเสะที่ชอบใช้รูปแบบการล้างผลาญพลังเวทอย่างถึงที่สุดได้เป็นอย่างดี
"ใช่แล้วอากาเสะ ไม่ใช่ว่ามีแค่เธอคนเดียวหรอกนะที่ไปซุ่มฝึกเงียบนะ เพราะพวกเราเองก็ไปซุ่มฝึกมาเหมือนกัน"
มิซากิกล่าวเสร็จก็ไปยืนอยู่ด้านหน้าของอากาเสะ เพื่อที่จะได้ปกป้องอากาเสะและซามิยะในระหว่างที่กำลังร่ายเวทฟื้นพลัง
"คุณอากาเสะสู้ๆนะค่ะ คุณอากาเสะสู้ๆ คุณอากาเสะสู้ๆ"
โทโมเอะเองถึงแม้ว่าเธอจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่เธอก็พยายามที่จะร้องเชียร์และให้กำลังใจอากาเสะอย่างสุดเสียงในแบบของเธอ
"ขอบคุณ ขอบคุณพวกเธอจริงๆ ฉันดีใจมากๆที่ได้เป็นเพื่อนกับพวกเธอนะ"
อากาเสะกล่าวออกมาพร้อมกับหยดน้ำตาที่ซึมออกมาด้วยความดีใจ ถึงแม้เธอจะถูกเรียกว่าอัจฉริยะจนไม่มีใครอยากที่จะเข้าใกล้เพราะกลัวที่จะถูกเอาไปเปรียบเทียบ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้สึกว่าเธอโชคดีมากที่เธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวและมีเพื่อนๆที่พร้อมจะช่วยเหลือเธออยู่เสมอ เพราะถึงแม้จะเป็นอัจฉริยะขนาดไหนก็คงจะไม่สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียวอย่างแน่นอน
"เอาล่ะ!! ครั้งนี้ฉันจะจัดการมันให้จบในครั้งเดียวเลย"
อากาเสะกล่าวออกมาด้วยความมุ่งมั่นกว่าเดิม พร้อมกับวงเวทขนาดใหญ่กว่า36วงที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าและพื้นดินรอบๆตัวพวกเธอทั้งสี่คน
ความอัจฉริยะของอากาเสะนั้นไม่ได้มาแค่ชื่อ แต่มาจากที่เธอสามารถผสานเวทขององเมียวที่ใช้พลังหมุนวนจากภายในร่างกายมาใช้กับเวทตะวันตกที่ใช้การวาดวงเวทเพื่อดึงพลังจากธรรมชาติเข้าช่วย
จนในที่สุดทำให้เธอได้แบบฉบับของตัวเองที่สามารถใช้เวทแบบตะวันตกที่รุนแรงได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องร่ายเวท แต่ใช้การชาร์จพลังสะสมแบบองเมียวแทน ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งเธอดึงพลังธรรมชาติมาสะสมได้มากขึ้นเท่าไรพลังทำลายของมันก็ยิ่งร้ายแรงกว่าเวทแบบตะวันตกที่มีคำร่ายเวทอยู่หลายเท่าตามระยะเวลาที่ชาร์จ จนสามารถพูดได้ว่ามันสามารถสร้างพลังโจมตีได้แบบไม่มีจำกัด
แต่นั้นก็ต้องแลกมาด้วยความสามารถในการป้องกันตัวที่ต่ำลงและระยะเวลาที่นานกว่าการร่ายเวทแบบธรรมดา
******
"ย้ากกกก!!"
อันดะร้องคำรามพร้อมกับฆ่าฟันอดีตลูกน้องของตัวเองอย่างบ้าคลั่งจนเลือดขึ้นหน้า ทางซ้ายก็ตวัดดาบทางขวาก็ฟัน เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะมาฟังว่านากามูระเซนโจนั้นพูดอะไรหรือว่าหันกลับไปดูว่าลูกน้องที่เหลืออยู่ของตัวเองนั้นกำลังทำอะไร
เพราะสิ่งเดียวที่ทำให้เขามีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้ได้ก็คือการมีสมาธิกับการฆ่าฟันศัตรูที่เข้ามารอบด้านอย่างไม่มีจบสิ้น หูของเขานั้นแทบที่จะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงประดาบกับเสียงระเบิดของเวทมนตร์ที่ดังอยู่รอบๆตัว
"ท่านอันดะผมจะคุ้มกันหลังให้ท่านเอง!!"
ลูกน้องของอันดะที่หลุดเข้ามาได้คนหนึ่งร้องตะโกนใส่อันดะที่อยู่ตรงหน้า แต่ด้วยความที่อันดะไม่ได้ยินและกำลังเลือดขึ้นหน้าอยู่จึงทำให้สิ่งที่ลูกน้องคนนั้นได้รับกลับมา ก็คือดาบที่ตัดผ่าลำตัวของเขาจนขาดครึ่ง
"เอ๋!?.."
ลูกน้องที่ถูกฟันขาดครึ่งมองช่วงล่างของตัวเองที่ยังลอยอยู่บนอากาศอย่างแปลกใจ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะรู้ว่านั้นใช่ช่วงล่างของเขาหรือไม่เขาก็ตายไปแล้ว ด้วยดาบของอันดะที่หันกลับมาตวัดดาบแทงใส่หัวของเขาอีกครั้งหนึ่ง
"เฮ้ย!! ไอบ้านั่นมันโดนฟันขาดครึ่งเลย!! แถมยังโดนแทงทะลุหัวซ้ำอีกด้วย"
พวกลูกน้องที่ยังเหลือรอดอยู่ได้แต่มองตากันปริบๆ เมื่อได้เห็นสิ่งที่อันดะทำกับคนที่เข้าไปหาเขาจากทางด้านหลัง
"สยองวะ!! ดีนะที่ฉันไม่ได้เป็นคนแรกที่เข้าไปถึงเขา"
พวกลูกน้องที่เหลืออยู่เมื่อได้เห็นความโหดเหี้ยมของอันดะที่ตัดลำตัวคนแรกที่เข้าไปถึงจนขาดครึ่งพร้อมกับแทงที่หัวซ้ำ พวกเขาก็เริ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันแทนที่จะต่อสู้กันเหมือนปกติ
"ข้าว่าเรามาช่วยกันรุมฆ่าเจ้าอันดะกันดีกว่า แล้วใครที่สามารถตัดหัวมันได้ก็ถือซะว่าได้สิทธิ์ที่จะรอดชีวิตไป"
หลังจากที่คนๆนั้นพูดจบก็ไม่มีใครเห็นต่าง เพราะถึงแม้พวกเขาจะสู้กันจนเหลือรอดเป็นคนสุดท้าย แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะรับประกันได้ว่าเขานั้นจะสามารถสังหารอันดะที่แข็งแกร่งแบบนั้นได้
"เอาล่ะงั้นไปกันเลย!!"
เมื่อได้รับเสียงสัญญาณพวกเขาก็ต่างพุ่งตัวเข้าไปหาอันดะเพื่อที่จะได้เป็นคนแรกที่สามารถตัดหัวเขาลงมาได้
"เอ๊ะ!? อะไรของพวกมัน"
อันดะมองดูพวกศัตรูที่ถอยหลังกันออกไปอย่างแปลกใจ เพราะตั้งแต่ที่สู้กันมานี้เป็นครั้งแรกที่พวกมันถอยหลังออกไปคุมเชิง
"ท่านอันดะ!! พวกเรามาช่วยแล้วครับ"
เมื่อได้ยินเสียงลูกน้อง อันดะก็หันกลับไปมองอย่างสบายใจพร้อมกับลดดาบของเขาลง และการกระทำของอันดะนั้นก็ทำให้พวกลูกน้องของเขาแทบที่จะหุบยิ้มเอาไว้ไม่อยู่
'หึหึๆ ดูท่ามันจะยังไม่รู้วะ ว่ากำลังจะโดนพวกเราฆ่า'
'งั้นแบบนี้ก็สวยเลย!! ไปฆ่ามันใกล้ๆกันเถอะ'
พวกลูกน้องของอันดะเริ่มที่จะกระซิบเสียงใส่กัน เพื่อที่จะได้วางแผนเข้าไปฆ่าอันดะในระยะใกล้ๆอย่างไม่ให้เขารู้ตัว
แต่แล้วในระหว่างที่พวกเขากำลังลดความเร็วลงเพื่อไม่ให้ผิดสังเกตในตอนที่เข้าไปใกล้อยู่นั้น หนึ่งในพวกเขากลับเพิ่มความเร็วขึ้นและพุ่งเข้าไปหาอันดะด้วยความเร็วสูง
"เฮ้ย!! ไอบ้านั้นมัน!!"
"หยุดไม่ทันแล้วตามกันไปเลยดีกว่า"
"เร็วเข้ารีบไป อย่าให้มันแย่งหัวของเจ้าอันดะไปได้"
และแล้วแผนที่จะเข้าใกล้อันดะอย่างไม่ให้รู้ตัวก็เสียไป เพราะมีคนๆหนึ่งที่พุ่งออกไปก่อนเพื่อที่จะเป็นคนแรกที่เข้าไปฆ่าอันดะ
"แก!!"
ด้วยความตกใจเมื่อเห็นหนึ่งในลูกน้องของตัวเองฟันดาบเข้าใส่ อันดะก็รีบยกดาบขึ้นมารับเอาไว้พร้อมกับมองลูกน้องของเขาที่ฟันดาบเข้าใส่อย่างแปลกใจ
"นี้แก!! ยังไม่ได้ติดเชื้อเหมือนกับพวกนั้นนิ!!"
อันดะมองไปที่ดวงตาของลูกน้องที่ยังไม่ได้เป็นสีขาวก็ถึงกับตกใจ เพราะตอนแรกที่เขาเห็นลูกน้องฟันดาบใส่เขาก็นึกว่ามันได้กลายเป็นพวกนั้นไปแล้ว แต่แล้วก็ไม่ใช่เพราะเขายังคงเป็นปกติดีอยู่
"แก!! รีบเอาดาบของแกออกไปซะก่อนที่ข้าจะโมโห"
อันดะตะโกนใส่ลูกน้องของตัวเองอย่างหัวเสีย ในขณะที่กำลังดันดาบวัดพลังกันอยู่
"หึ! แกยังไม่รู้อีกหรือว่า แกได้โดนลูกน้องตัวเองหักหลังแล้ว"
ลูกน้องคนนั้นไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอันดะถึงยังไม่รู้ตัวว่าได้ถูกลูกน้องตัวเองหักหลังแล้ว ทั้งๆที่เสียงตะโกนของนากามูระก็ออกจะดังซะขนาดนั้น ซึ่งนี้ก็เป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเข้ามาโจมตีอันดะก่อนใครเพื่อน
"อะไรนะ!! ทำไมพวกแกถึง...?" อันดะแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน
"ก็ไม่ทำไมหรอก เพราะถ้าใครสามารถฆ่าแกได้ ท่านนากามูระก็จะช่วยไว้ชีวิตให้ เพราะอย่างนั้นแกจงตายซะ!!"
แล้วก็ไม่ได้พูดเปล่าลูกน้องคนนั้นดึงดาบที่ติดพันกันอยู่กับอันดะออกพร้อมกับตวัดดาบฟันใส่อันดะอีกครั้งเพื่อหมายเอาชีวิตของเขา
"อย่างนี้นี้เอง..."
พออันดะพูดเสร็จ อยู่ดีๆหัวของลูกน้องที่กำลังจะลงดาบใส่เขาอีกครั้งก็ถูกผ่าครึ่งตั้งแต่กลางศีรษะลงไปถึงด้านล่าง และภาพนั้นก็ทำให้พวกลูกน้องที่เหลืออยู่ถึงกับหยุดชะงัก
"ข้าเข้าใจทุกอย่างแล้ว"
น้ำเสียงที่เยือกเย็นและแววตาที่กระหายเลือดของอันดะนั้น ทำให้พวกลูกน้องต่างก็ก้าวถอยหลังกันอย่างไม่รู้ตัว
"มะ..ไม่ต้องไปกลัวมัน พวกเรามีมากกว่า ฆ่ามันเลย!!"
"ใช่แล้ว ฆ่ามัน!!"
"ฆ่ามัน!!"
"ฆ่ามันเลย!!"
"ย้ากกกก!!"
นักปราบผีตระกูลชิชิโดต่างพุ่งเข้าหาอันดะจากทุกทิศทางเพื่อที่จะรุมฆ่าเขา ความสัมพันธ์ระหว่างนายกับบ่าวที่อยู่ร่วมกันมาหลายปีในตระกูลชิชิโดแทบไม่มีความหมายอะไรเลยในเวลานี้
ดาบที่หนึ่งเข้าปะทะ ดาบที่สองก็ลงฟัน ดาบที่สามและสี่ก็ตามมาติดๆ ทำให้อันดะได้แต่ป้องกันตัวเองไม่อาจจะสวนกลับไปได้
ฝึกมาดี!! เขาฝึกพวกมันมาดีเกินไป จนสุดท้ายพวกมันก็หันกลับมาแว้งกัด
"พวกแกตาย!!"
อันดะหมุนดาบด้วยความรุนแรงรอบตัวเพื่อสลัดการรุมล้อมของลูกน้องเขา เห็นได้ชัดว่าพวกที่ยังมีสติอยู่และไม่ได้ถูกควบคุมนั้นเก่งกว่าในเรื่องของระเบียบวินัย ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้มีพลังมากอย่างกับผู้ที่ถูกเมล็ดพันธุ์ควบคุม แต่ด้วยความที่พวกเขาร่วมใจกันทำให้พวกเขาที่มีพลังน้อยกว่าสามารถต้านทานอันดะเอาไว้ได้เช่นเดียวกับที่พวกเขาเคยต้านทานผู้ถูกเมล็ดพันธุ์ควบคุมที่มีมากกว่าพวกเขาถึง4เท่า
"ว้าวๆ!! ใช้ได้เลยนิน่าพวกนั้น"
นากามูระเซนโจที่เห็นพวกนั้นสามารถกดดันอันดะเอาไว้ได้ก็รู้สึกดีใจ เพราะเขาจะได้ไม่ต้องส่งตุ๊กตาของเขาเข้าไปตายฟรีอีก
"เอาล่ะแค่นี้ก็เหลือแต่รอให้พวกมันฆ่ากันเองให้หมดแรง แล้วก็ส่งตุ๊กตาเข้าไปปิดฉากแทงข้างหลังพวกมันเป็นอันจบ"
พูดเสร็จนากามูระเซนโจก็ได้แต่อมยิ้ม เพราะเขาอยากที่จะเห็นสีหน้าพวกนั้นจริงๆเมื่อรู้ว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครรอดชีวิตอยู่ดี ซึ่งนั่นก็เป็นการแก้แค้นพวกที่ดันมาบังอาจล้อเลียนเขาในตอนแรก
"หึ! ถ้าพูดกับข้าดีๆพวกเจ้าอาจจะได้ตายสบายกว่านี้ก็เป็นได้"
นากามูระเซนโจกล่าวออกมาพร้อมกับถอนหายใจ
"เอายังไงดี ดูเหมือนกว่าเจ้าอันดะมันจะแข็งแกร่งเหลือเกิน ขนาดพวกเรารุมมันแล้วยังทำอะไรมันไม่ได้เลย"
หนึ่งในนักปราบผีตระกูลชิชิโดกล่าวขึ้นพร้อมกับมองไปที่อันดะ ซึ่งตอนนี้พวกเขากำลังยืนคุมเชิงกันอยู่หลังจากที่อันดะตวัดดาบเป็นวงกลมและผลักพวกเขาออกมา
"ไม่หรอก... ดูสิมันเริ่มหอบหายใจแล้ว พวกเรารุมมันต่อไปแบบนี้ อีกไม่นานเดี๋ยวมันก็เหนื่อยตายไปเอง"
ใช่แล้วพวกนักปราบผีตระกูลชิชิโดที่เหลือกล่าวได้ถูกต้อง เพราะถ้ารุมกันไปแบบนี้อีกไม่นานอันดะก็ต้องเหนื่อยตายไปจริงๆอย่างที่เขาว่า
แต่พวกเขาก็พลาดที่ให้อันดะได้หยุดพักหายใจ เพราะในขณะที่พวกเขากำลังชะล่าใจอันดะก็รวบรวมพลังเพื่อใช้ท่าใหญ่ของเขาได้แล้ว
ฉับ!!
เสียงขึ้นเบาๆราวกับลมพัดนั้นทำให้พวกนักปราบผีตระกูลชิชิโดถึงกับหน้าซีด พวกเขาลืมวิชาที่สำคัญอย่างท่าชักดาบตัดภูผาของอันดะไปได้ยังไง เพราะถึงแม้ว่าดาบของอันดะจะไม่ได้อยู่ในฝักเหมือนท่าปกติแต่เขาก็น่าจะใช้มันได้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยใช้ให้พวกเขาเห็นก็ตาม
"หึ!! พวกแกนะได้ตายไปแล้ว"
อันดะกล่าวจบพวกที่ยืนอยู่โดยรอบก็ตัวขาดครึ่งในแนวดาบระดับเดียวกัน แต่ก็น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถฆ่าพวกนั้นได้หมดพร้อมๆกัน เพราะพลังที่เหลืออยู่น้อยนิดของเขากับท่าดาบที่ใช้อย่างฉุกละหุกนั้นทำให้พลังทำลายของมันลดต่ำลงไปมาก
"แก!!"
หนึ่งในนั้นกล่าวออกมาด้วยความโกรธเมื่อเสียท่าให้กับเจ้าแก่อันดะที่เป็นจิ้งจอกเฒ่า
"พวกเรารุมมันตอนนี้แหละ!! มันใช้ท่านั้นอีกไม่ได้แล้ว!!"
นักปราบผีตระกูลชิชิโดกล่าวออกมาได้ถูกต้อง ท่าชักดาบตัดภูผานั้นมีขั้นตอนที่ยุ่งยากในการใช้และไม่สามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่อง เพราะต้องใส่พลังทั้งหมดฟันลงไปในดาบเดียวเพื่อให้ได้การโจมตีที่รุนแรงที่สุด
"เข้ามาเลยข้าจะฆ่าพวกแกให้หมด!!"
ถึงแม้ว่าอันดะจะอ่อนแรง แต่คมดาบของเขาก็ยังคงกดดันและต้านทานพวกอดีตลูกน้องของเขาได้อยู่
"ตาย!!!"
แรงกดดันของอันดะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเขาสามารถสังหารคนๆหนึ่งให้ล้มลงไปได้
"ไม่ต้องไปกลัวมัน!! นั่นเป็นแค่แรงฮึดครั้งสุดท้ายของมันก่อนตาย"
นักปราบผีตระกูลชิชิโดคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจพวกที่เหลือ และมันก็ได้ผลพวกเขาเชื่อแบบนั้นจริงๆ
"ใช่แล้ว!! มันแค่ดิ้นรนก่อนตาย ดูจากการหายใจและอาการสั่นของดาบมันก็รู้แล้ว"
ว่าแล้วพวกนักปราบผีตระกูลชิชิโดก็ต่างยิ้มออกมาอย่างชอบใจ และรุมเข้าไปโจมตีอันดะให้รุนแรงมากขึ้นไปอีกในทุกท่วงท่าเพื่อให้เขาหันดาบขึ้นมาป้องกันและเสียพลังไป
เป้งๆ เป้ง เป้งๆ เป้งๆ!!
เสียงดาบปะทะกันดังขึ้นอย่างถี่รัวทำให้อันดะที่ได้แต่ตั้งป้องกันเริ่มที่จะทรุด
ฉับ!! และในที่สุดอันดะก็ได้แผลแรกที่กลางหลัง
"เอามันเลยมันใกล้ตายแล้ว!!" คนที่ฟันหลังอันดะได้ร้องออกมาอย่างดีใจ ซึ่งแน่นอนนั้นก็ทำให้อัดดะหันกลับมามองเขาด้วยความโกรธและฟันดาบเข้าใส่
"แกตาย!!" อันดะกล่าวพร้อมกับลงดาบเข้าใส่ด้วยความรวดเร็ว
"แกอย่าหวังเลย!!"
ว่าแล้วหนึ่งในนักปราบผีของตระกูลชิชิโดก็แทงดาบเข้าใส่หลังของอันดะอย่างสุดแรงจนทะลุออกไปทางด้านหน้า
"อัก!!!!....แก!!"
อันดะมองกลับไปข้างหลังอีกครั้งด้วยความโกรธจนดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงเลือด
"ฆ่ามันเร็ว!!"
หนึ่งในนั้นเมื่อเห็นท่าไม่ดีก็รีบพุ่งเข้าใส่พร้อมกับแทงดาบปักใส่ลำคอของอันดะ
ฉึกๆๆ ฉึกๆๆ ฉึกๆๆ!! เสียงดาบที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นได้เสียบทะลุร่างกายของอันดะทั้งหมดทุกเล่มทั้งแขนขาลำตัวและคอของอันดะก็มีแต่ใบดาบที่ถูกแทงทะลุเต็มไปหมด
"มะ...มันตายแล้วใช่ไหม?"
หนึ่งในนักปราบผีตระกูลชิชิโดที่ยังคงจับดาบแทงลำตัวของอันดะอยู่กล่าวออกมาท่ามกลางความเงียบ
"ย้ากกก!!"
เสียงร้องตะโกนของอันดะดังออกมาพร้อมกับพลังปราณที่ซัดพวกนักปราบผีตระกูลชิชิโดจนลอยกระเด็นออกไปจนหมด
"มะ...มันยังไม่ตายอีกหรือ!!"
"ไอสัตว์ประหลาดเอ้ย!!"
ตัวอันดะที่ตอนนี้มีใบดาบแทงทะลุปักค้างอยู่บนร่างกายหลายสิบเล่มนั้น ไม่ว่าใครก็คิดว่าเขาต้องตายไปแล้วอย่างแน่นอน แต่ไม่นึกเลยว่าอันดะจะยังคงมีชีวิตอยู่
ความกลัวเริ่มแผ่ขยาย พวกนักปราบผีตระกูลชิชิโดที่เหลืออยู่ต่างจับดาบขึ้นมาและหันไปทางด้านของอันดะ ส่วนคนที่ไม่มีดาบก็ต่างตั้งท่าเตรียมร่ายเวทใส่อันดะเช่นเดียวกัน
แต่แล้วผ่านไปหลายสิบวินาทีก็ไม่มีการตอบสนองจากอันดะ แต่แล้วอยู่ดีๆแววตาของอันดะก็เปล่งประกายขึ้นมาอีกครั้ง จนพวกนักปราบผีตระกูลชิชิโดต้องรีบตั้งดาบขึ้นมาด้วยความกลัว
แต่ก็เป็นเพียงเท่านั้นเพราะหลังจากนั้นร่างกายของอันดะก็ค่อยๆตกลงไปยังพื้นข้างล่างหลังจากที่ลอยอยู่นานบนฟ้าหลายสิบวินาที
ใช่แล้ว...อันดะได้ตายไปนานแล้วตั้งแต่ตอนที่เขาถูกรุมแทง และแววตาที่เปล่งประกายขึ้นมาครั้งสุดท้ายของอันดะนั้นก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่เหล่านักปราบผีตระกูลชิชิโดหลอนและคิดไปเองเท่านั้น
ความคิดเห็น