คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #102 : ภาค2 ตอนที่16 บินไปประเทศจีน
ภาค2 ตอนที่16 บินไปประเทศจีน
หลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น ทางญี่ปุ่นก็ได้ปฏิเสธการเข้าตรวจสอบทั้งหมดของอเมริกา แต่ถึงอย่างงั้นญี่ปุ่นก็ไม่สามารถกล่าวหาอะไรอเมริกาได้ทั้งที่มีหลักฐานอยู่ครบถ้วน
ด้วยความที่อเมริกานั้นแข็งแกร่งเกินไปและมีกำปั้นเหล็กที่เหนือกว่า ทางญี่ปุ่นจึงได้แต่ต้องกลับมาเลียแผลตัวเอง แล้วก็โยนหลักฐานทั้งหมดลงถังขยะไป
และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่อเมริกาได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตัวเองกับนานาประเทศ
“อืม...ดูเหมือนว่าญี่ปุ่นจะแพ้สินะ”
ฮาสึโนะเปิดดูข่าวในมือถือขณะที่นั่งอยู่ในสนามบิน ซึ่งตอนนี้เธอและเพื่อนๆกำลังจะบินไปแข่งขันที่ประเทศจีน พร้อมกับบรรดานักเรียนคนอื่นๆซึ่งได้เสนอความต้องการที่จะไปลงแข่งขันด้วย
และแน่นอนโรงเรียนก็รวยพอที่จะส่งทุกคนให้ไปลงแข่งขันได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่จะมีนักเรียนของโรงเรียนสอนปราบผีอยู่เต็มสนามบิน
แต่จากที่ดูแล้วมากกว่าครึ่งไม่ได้คิดจะไปแข่งขันกันจริงๆสักเท่าไร เพราะพวกเขาดูเหมือนว่าอยากจะติดแก๊งทัวร์ไปท่องเที่ยวและกินฟรีที่ต่างประเทศกันซะมากกว่า
ทำเลยเหมือนกับว่าพวกเรากำลังจะไปทัศนศึกษากันซะมากกว่า ที่จะไปลงแข่งขันเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนก็เข้าใจความต้องการของนักเรียนและได้จัดพวกเขาให้เป็นกลุ่มสำรองของกองเชียร์แทนหลังจากที่พวกเขาแพ้
และนั่นก็ทำให้พวกเขาสามารถทำตัวสบายๆกินเที่ยวเล่นสนุกกันได้อย่างเต็มที่ ต่างกับกลุ่มนักกีฬาตัวจริงของฮาสึโนะที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมและปรับตัวให้เข้ากับภูมิอากาศแล้วก็กฎการแข่งขัน
ต้องทำการประชุมแผนการกับโค้ชประจำทีมและเพื่อนนักกีฬาคนอื่นที่เป็นรุ่นพี่ที่เคยผ่านศึกสงครามแบบนี้มากก่อน ซึ่งมันเป็นเรื่อยยุ่งยากและซับซ้อนมาก เพราะงั้นเรื่องกินเล่นเที่ยวสนุกนะลืมมันไปได้เลย
“ฮาสึโนะได้เวลาไปขึ้นเครื่องกับพวกรุ่นพี่แล้วนะ”
อากาเสะพูดขึ้นเมื่อเห็นฮาสึโนะยังคงนั่งเล่นมือถือของตัวเองอยู่ และไม่ได้ดูเลยว่าตอนนี้พวกเธอจะต้องไปขึ้นเครื่องกันแล้ว
ซึ่งแน่นอนว่าเครื่องของพวกเธอนั้นจะแยกออกกับนักเรียนปกติที่ไม่ได้ถูกคัดเลือกมาให้เป็นตัวแทนความหวังระดับสูงของโรงเรียน
“อืม…”
ว่าแล้วฮาสึโนะก็ปิดมือถือของตัวเองและเดินตามกลุ่มเพื่อนๆของเธอไปโดยทันที
ภายในเครื่องบินนั้นเต็มไปด้วยพวกสภานักเรียนของชั้นปีต่างๆและกลุ่มของผู้ที่มากไปด้วยพรสวรรค์ ซึ่งเรียกให้ว่าหัวกะทิของทั้งโรงเรียนได้มาร่วมกันอยู่ในเครื่องบินลำนี้แล้ว
“ถ้าเครื่องบินลำนี้ตกขึ้นมาคงจะเป็นความเสียหายระดับชาติเลยสินะ”
ฮาสึโนะพูดขึ้นทันทีเมื่อรู้สึกได้ถึงพลังเวทของแต่ละคนที่อยู่บนเครื่องบินลำนี้
เที่ยวบินในครั้งนี้ใช้เวลาไม่นานพวกฮาสึโนะก็ได้บินมาถึงกรุงปักกิ่งที่ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศจีน และพวกเธอจะต้องเข้าร่วมพิธีเปิดในอีก3วันหลังจากนี้
ก่อนที่จะนั่งรถไฟความเร็วสูงไปยังพื้นที่ภัยพิบัติ203ที่ซึ่งเป็นสนามแข่งขันสำหรับเกมล่าในครั้งนี้
พื้นที่ภัยพิบัติ203นั้นเป็นหนึ่งในพื้นที่พิเศษที่ประเทศมหาอำนาจอย่างจีนใช้เป็นพื้นที่กักขังภูตผีเอาไว้เพื่อทำเหมืองผลิตแร่ผลึกพลังงานปีศาจ ซึ่งภายในนั้นจะมีช่องว่างที่ถูกเจาะเอาไว้เป็นประตูมิติ เพื่อใช้เป็นทางผ่านระหว่างโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณ
และจะมีเขตแดนที่กั้นเป็นชั้นๆด้วยข่ายเวทอาคมเพื่อแบ่งพวกภูตผีออกเป็นระดับๆ จากพวกระดับสูงที่อยู่ใกล้ประตูมิติมากที่สุดจนไปยังพวกระดับต่ำที่อยู่ด้านนอกสุดของเขตแดน
“อ่า...โรงแรมที่นี่นี้มันหรูจริงๆ นี่สินะโลกของนักปราบผี ช่างต่างกับชีวิตคนธรรมดาๆจริงๆ”
ระดับชนชั้นนั้นถูกแบ่งออกมาอย่างชัดเจนมากในยุคนี้ คนที่เป็นนักปราบผีไม่ว่าจะแย่แค่ไหนก็ยังรวยกว่าพน้กงานกินเงินเดือนธรรมดาๆอยู่เป็น10เท่า
ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ทุกคนอยากที่จะเป็นนักปราบผี เพราะคนที่สามารถเป็นนักปราบผีได้ก็ถือว่าเป็นผู้ชนะแล้วนั่นเอง
“ฉันเลือกถูกแล้วสินะที่มาเป็นนักปราบผีเนี่ย...”
“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันฝึกเธอมาก็เพื่อให้เป็นนักปราบผีแบบนี้แหละ หัดสำนึกบุญคุณของฉันซะบ้างนะ”
คำพูดของเฟรนดี้ทำให้ฮาสึโนะอารมณ์เสียขึ้นมาทันที
“แล้วทำไมเธอต้องมานอนอยู่ห้องเดียวกับฉันด้วยเนี่ย!! ห้องอื่นก็มีเยอะแยะทำไมไม่ไปนอนไกลๆ”
“อย่าคิดมากน่า นี้มันเป็นการแบ่งห้องตามที่โรงเรียนจัดให้นะคู่หู”
คำพูดของเฟรนดี้ทำให้ฮาสึโนะหัวร้อนขึ้นมาทันที
“คู่หูใครเป็นคู่หูของกันเธอย่ะ!! ยายแก่ที่มีอายุมากกว่าประวัติศาสตร์ของมนุษย์ยังจะมีหน้ามาลงแข่งเพื่อกลั่นแกล้งเด็กอีกเหรอ? นี่เธอว่างมากเลยใช่ไหม? ทำไมไม่กลับไปเฝ้ารากต้นมะม่วงของเธอต่อล่ะ”
“ช่วยไม่ได้นิน่า ก็โรงเรียนเป็นคนเสนอชื่อของฉันขึ้นมาเอง แล้วตอนนี้ฉันก็ยังเป็นนักเรียนอยู่ด้วย เพราะงั้นฉันก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งจากโรงเรียนสิ”
เฟรนดี้นั้นถูกคนของสภานักเรียนชั้นสูงเสนอชื่อขึ้นมา เพราะวีรกรรมต่างๆของเธอที่โด่งดังไปทั่วทั้งโรงเรียน พวกรุ่นพี่ที่เจอเธอยังต้องหลีกทางให้2-3เมตรเพื่อให้เธอได้เดินสะดวก
จึงไม่แปลกเลยที่จะมีชื่อของเธอติดอยู่ในฐานะของนักกีฬาแบบนี้ และที่พวกเราจะต้องมาจับคู่กันนะเหรอ? ก็เพราะว่าการประชุมวางแผนก่อนหน้านี้นะสิ
ทั้งฮาสึโนะและเฟรนดี้ต่างก็เป็นเศษเหลือทิ้ง เพราะโดยปกติแล้วนักปราบผีทุกคนจะมีทีมประจำในการออกปฏิบัติงานอยู่แล้ว แต่สำหรับฮาสึโนะและเฟรนดี้นั้นกลับไม่มีทีมประจำเป็นของตัวเอง และทีมของอากาเสะเองก็เต็ม4คนแล้วจึงไม่มีที่ว่างสำหรับฮาสึโนะให้เข้าไป
ดังนั้นจึงจบลงที่คนที่ไม่มีใครต้องการ2คนได้มาอยู่ด้วยกัน
“เฟรนดี้การแข่งครั้งนี้เธอต้องการทำอะไรกันแน่”
“ทำอะไรนะเหรอ? ก็คงจะไปหาโต๊ะดีๆสักตัวพร้อมกับชุดน้ำชาเพื่อที่จะไปหาจุดชมวิวที่สูงๆสักที่ล่ะมั้ง”
คำพูดของเฟรนดี้ทำให้ฮาสึโนะถึงกับพูดไม่ออก แต่มันก็คงจะเป็นตัวตนในแบบของเธอล่ะนะ
“สรุปฉันต้องสู้คนเดียวเหรอ?”
“ไม่ต้องก็ได้มั้ง เธอลืมไปแล้วเหรอว่าหัวใจหลักของเกมล่าในรอบคัดเลือกนี้ก็คือการอยู่รอด ถึงแม้ว่าเธอจะทำคะแนนได้มาก แต่ถ้าเธอถูกฆ่าคะแนนทั้งหมดก็จะตกไปอยู่กับฝ่ายตรงข้ามอยู่ดี”
“งั้นถ้าทุกคนอยู่อย่างสงบไม่ฆ่ากันทุกคนก็จะผ่านเข้ารอบสินะ”
“นั่นก็ใช่ แต่เธอนะประมาณความโลภของมนุษย์มากเกินไป เธอไม่เห็นรางวัลต่างๆที่คะแนนสามารถแลกได้เหรอ? มันพอที่จะทำให้ใครสักคนยอมฆ่าเพื่อนร่วมทีมของตัวเองเพื่อได้รับคะแนนเอาไว้ตัวคนเดียวเลยนะ”
คำพูดของเฟรนดี้ทำให้ฮาสึโนะถึงกับต้องกลืนน้ำลายตัวเอง เพราะรางวัลต่างๆที่แสดงอยู่ในหน้าจอแสดงผลนั้นทำให้เธอแทบทนไม่ไหวที่จะออกไปเด็ดหัวทุกคนที่ลงแข่งในรอบคัดเลือก
ทั้งยาบำรุงธาตุชั้นสูง ที่ไม่สามารถหาซื้อได้ในตลาด
ทั้งหินหยกและแผ่นยันต์ชั้นสูงที่ทำด้วยมือจากปรมาจารย์นักสร้างขั้นสุดยอด
ดาบและกระบี่เองก็เช่นเดียวกัน ราคาอย่างต่ำๆก็เป็น100ล้านแล้ว และไอเทมวิเศษระดับเดียวกันก็มีให้เห็นอยู่เต็มไปหมด
ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ทุกคนจะเห็นหัวของคนอื่นเป็นก้อนสีทองที่ส่องแสงได้ และไอเทมระดับสูงพวกนี้มันได้ทำให้ตาพวกเขามืดบอดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้ฮาสึโนะเชื่อว่าพวกเขาทุกคนจะต้องเห็นหนึ่งหัวตัดหนึ่งหัวอย่างแน่นอน
“นี้แค่รอบคัดเลือก ก็จะให้เล่นกับแบบเลือดนองเต็มพื้นแล้วเหรอ?”
“ใช้แล้วมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่โง่แบบนั้นแหละ โชคดีนะที่เดียวนี้ไม่ได้ถูกฆ่ากันจริงๆ เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนละก็ศพได้กองเต็มภูเขาไปแล้ว”
“อืม...นี้คงต้องขอบคุณวิทยาการเวทมนตร์ที่เจริญขึ้นสินะ”
“ก็น่าจะใช้ ยังดีที่พวกมนุษย์หลังจากที่ได้ฆ่ากันไปเป็นจำนวนมาก ก็มีคนที่ฉลาดขึ้นมาบ้าง”
คำพูดของเฟรนดี้ทำให้ฮาสึโนะถึงกับพูดไม่ออก เพราะเธอไม่รู้ว่าเฟรนดี้นั้นกำลังชมมนุษย์หรือเธอกำลังด่ามนุษย์อยู่กันแน่
ความคิดเห็น