พิมลภัทร - นิยาย พิมลภัทร : Dek-D.com - Writer
×

    พิมลภัทร

    ผู้เข้าชมรวม

    252

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    252

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  20 ก.ย. 54 / 15:08 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ตึกสีขาวกึ่งสไตล์ยุโรปออกแบบรูปทรงทันสมัยตั้งตระหง่านบนเนื้อที่เกือบ 2 ไร่ครึ่ง แสงไฟส่องสว่างไปทั่วบริเวณรอบตัวตึกใหญ่ทำให้มองเห็นตัวตึกชัดเจน ความเงียบสงบกลับเข้ามาเยือนหลังจากปาร์ตี้เล็กๆ  บริเวณสนามหญ้าข้างสระน้ำสิ้นสุดลง

    "ก๊อก..ก๊อก"  เสียงเคาะประตูไม้สักเนื้อดี  ดังขึ้นติดๆกันสองครั้ง  ส่งผลให้กับผู้ที่อยู่ข้างในละมือที่กำลังหวีผมหลังจากเพิ่งอาบน้ำเสร็จ

    "คุณพิมค่ะ..ของขวัญจากคุณภีมค่ะ"

    เสียงของสาวใช้คนสนิท  แจ้งเหตุที่มารบกวนในเวลาดึกสงัดยามนี้  หญิงสาวเจ้าของชื่อถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ  ก่อนจะตรงไปขยับลูกบิดประตูเพื่อให้มันถูกเปิดออก

    แววดาว  สาวใช้และพี่เลี้ยงคนสนิทของเธอ  ยื่นกล่องของขวัญใบใหญ่  กระดาษห่อสีชมพูหวาน  ติดโบสีชมพูเข้มกว่ากระดาษดูสวยงามตา  หากแต่พิมลภัทรกลับชำเลืองมองเพียงนิด  ก่อนเบี่ยงตัวออกด้านข้าง  ถอยให้แววดาวอุ้มกล่องของขวัญใหญ่โต..เข้ามาข้างในแทน

    "วางไว้ที่เตียงก็ได้ค่ะ"  เสียงหวานกล่าวเรียบๆใบหน้านิ่ง..ไม่เหมือนเมื่อครั้งเก่าก่อน  ที่พอรู้ว่าเป็นของเขาพิมลภัทรจะตื่นเต้นและดีใจยิ้มแก้มแทบปริกอดกล่องของขวัญของเขาเอาไว้แน่น  แววดาวแอบลอบมองอาการนั้นของเจ้านายสาวอยู่เงียบๆ

    "คุณพิมจะรับนมอุ่นเลยมั้ยคะ..พี่แววจะยกขึ้นมาให้ค่ะ"

    แววดาวถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเรียบร้อย..เตรียมที่จะเข้านอนแล้ว

    "ก้อดีค่ะ..พิมเพลียจังเลย"  เธอบอกยิ้มเพียงนิดให้กับสาวใช้ที่เป็นทั้งพี่เลี้ยงให้กับเธอตั้งแต่เริ่มจำความได้  เธอก้อเห็นแววดาวที่คอยดูแลเธอมาตลอดเมื่อมารดาและบิดาของเธอไม่ว่างและไม่มีเวลาอยู่กับพิมลภัทรนักเหมือนกับครอบครัวของคนอื่นทั่วไป  เพราะพิมลภัทรเป็นบุตรสาวของนักการฑูตที่บิดาของเธอนั้นทำงานอยู่ที่อังกฤษเดือนหนึ่งจะกลับมาเยี่ยมเธอและมารดาซักหน

         ส่วนมารดาของเธอทำงานเพื่อสังคมอยู่ในกระทรวงๆหนึ่งจึงแทบไม่ค่อยมีเวลาให้กับเธอเช่นกันหากแต่พิมลภัทรก็เติบโตขึ้นมาได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรเพราะถึงท่านทั้งคู่จะไม่มีเวลาให้กับเธอมากนัก  แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกว่าขาดความอบอุ่นไปเลย  เพราะถ้าทั้งสองท่านไม่อยู่พิมลภัทรก็มักจะไปคลุกอยู่กับ"ป้าเพ็ญ"ที่บ้านฝั่งตรงข้ามเสมอ  หรือไม่ป้าเพ็ญกับลูกชายก็จะเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนเธอคอยบอกและอธิบายทุกอย่างให้พิมลภัทรฟัง  จนพิมลภัทรเองรักนางเหมือนกับมารดาแท้ๆอีกคนหนึ่งของเธอ

           พอคิดมาจนถึงจุดนี้  พิมลภัทรก็อดที่จะน้อยใจเขาไม่ได้  อีกปีแล้วที่เขาทำเหมือนเดิม  หญิงสาวก้มลงมองกล่องของขวัญใบใหญ่  หากแต่ไม่คิดที่จะเเตะต้องมัน

            หน้ากล่องมีรายละเอียดบอกเอาไว้ว่ามันถูกส่งมาจากที่เกาหลี  วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบ  22  ปี  สามปีกว่าแล้วที่เธอได้รับของขวัญจากเขาโดยไม่เคยได้เห็นหน้าเขาเลย  ตั้งแต่เขาเริ่มเข้าวงการบันเทิง  จนกระทั่งกลายเป็นซุปสตาร์ดังก้องฟ้าเมืองไทยไปแล้ว

    "ตู๊ด..ตู๊ด.."  เสียงโทรศัพท์บนหัวเตียงปลุกให้เธอตื่นจากภวังค์

    "ตู๊ด..ตู๊ด.."  เสียงมันดังขึ้นติดๆกันจนเจ้าของห้องต้องเอื้อมมือเข้าไปรับอย่างเสียไม่ได้

    "สุขสันต์วันเกิดค่ะ..น้องพิม"

         เสียงทุ้มนุ่มลึก  ดังมาจากปลายสายอีกด้านทันทีที่พิมลภัทรยกหูขึ้นรับสาย  แม้เวลาจะผ่านไปนานสักเพียงใด  เสียงนี้ไม่เคยเลือนไปจากความทรงจำเธอเลยสักที  และ  "เขา"  ก้อไม่เคยหายออกไปจากความคิดของเธอเลยเช่นกัน

    "ขอบคุณค่ะ"  พิมลภัทรตอบกลับไป  เสียงพร่าเกือบจะเป็นร้องไห้  หากแต่ต้องสะกดกลั้นมันเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา

    "เกือบจะไม่ทัน"  เขาสบถออกมา  พลิกนาฬิกาข้อมือยี่ห้อดังขึ้นดูเวลาที่เมืองไทยอีก  10  นาทีจะเที่ยงคืน  ก็จะล่วงเลยผ่านวันเกิดของพิมลภัทรแล้ว

    "แกะของขวัญดูรึยังคะ  ชอบรึเปล่า"  เขาถามต่อน้ำเสียงรื่นเริงเป็นปกติ  มิได้รู้สึกถึงอารมณ์ของอีกฝ่ายด้วยซ้ำไป  เขามักจะทำเช่นนี้เสมอ..เมื่อถึงวันเกิดเธอหรือวันสำคัญอย่างปีใหม่  เนื่องจากไม่มีเวลามาด้วยตัวเองได้  พิมลภัทรนิ่งเงียบแทนคำตอบ  หากแต่อีกฝ่ายไม่ได้รอคอยคำตอบจากเธอเท่าใดนัก

    "พิมยังไม่นอนอีกหรือไง..เดี๋ยวพรุ่งนี้..ก็ขี้เกียจตื่นไปโรงเรียนกันพอดี"

    เขากล่าวยิ้มขันๆ เป็นเรื่องปกติเมื่อนึกถึงเด็กหญิงขี้เซาที่ตอนเด็กๆ  เขามักจะเป็นฝ่ายไปปลุกเธอที่บ้านทุกครั้งเพราะขี้เกียจไปโรงเรียน  พิมลภัทรรู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตาขึ้นมาอย่างเสียมิได้  เมื่อคิดว่า..เขานึกว่าเธอเป็นเด็กตัวเล็กๆ  ไม่เปลี่ยนเลย  "พี่ภีมจะกลับมาเมื่อไหร่ค่ะ"  หญิงสาวกระพริบตาถี่ๆ  เพื่อให้น้ำตาลงไปไม่ให้ไหลออกมา  แล้วเปลี่ยนเรื่องถามเขาเร็ว  กลัวว่าเขาจะจับน้ำเสียงเธอได้ว่าเธอกำลังร้องไห้

    "อาทิตย์หน้าค่ะ"  ละครใกล้ปิดกล้องแล้ว..ถ่ายเสร็จก็ยกกองกลับเมืองไทยเลย..ไปฉลองปิดกล้องกันที่โน่น"  เขาร่ายให้เธอฟัง..ไม่ปิดบัง  เพราะละครเรื่องล่าสุด  ชายหนุ่มต้องเดินทางไปถ่ายทำกันที่ประเทศเกาหลีนานถึงหนึ่ง  เดือน

    "เป็นอะไรรึเปล่า"

    ภีรมัตอดถามไม่ได้  เมื่อรู้สึกว่าพิมลภัทรเงียบฟังเขานานเกินไป

    "เปล่าค่ะ..พี่ภีมสบายดีนะค่ะ"

    หญิงสาวรีบปฏิเสธเร็วกลัวจะเป็นที่ผิดสังเกต  และเขาอาจจะจับได้ว่าเธอกำลังร้องไห้  เมื่อกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว  หากต้องพยายามถามกลับไปในน้ำเสียงที่คิดว่าปกติที่สุดแล้ว

    "สบายดีค่ะ..แต่อากาศที่นี่หนาววววเป็นบ้าเลย"

    เขาตอบทำเสียงยานคาง  แสดงให้เธอรู้ว่าหนาวเย็นเพียงใด

    "ใส่เสื้อหนาๆ  เอาไว้..จะได้อุ่น..รักษาสุขภาพด้วยนะคะ"

    เธอบอกเขาด้วยความเป็นห่วงจากหัวใจ  หากแต่อีกฝ่ายไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยใจสักนิด

    "ค่ะ..ถ้างั้น..แค่นี้ก่อน  พี่ขอไปถ่ายฉากสุดท้ายของวันนี้ก่อนล่ะ..ง่วงจะแย่ไว้ค่อยคุยกันใหม่นะคะ..ว่างแล้วพี่จะโทรหา"

        กล่าวจบภีรมัตก็กดวางสายทันที  โดยมิทันรอให้อีกฝ่ายตอบกลับมาแต่อย่างใด  พิมลภัทรวางโทรศัพท์กลับลงบนแป้นตามเดิม  น้ำตาร่วงลงเปื้อนแก้มใส

         เสียงประตูเปิดเข้ามาของแววดาว  สาวใช้ทันได้เห็นพิมลภัทรเช็ดคราบน้ำตาที่แก้มพอดี  แววดาวยกแก้วนมอุ่นมาวางไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้งหน้าเตียงกว้างที่พิมลภัทรนั่งอยู่  "คุณภีมโทรมาหรือคะ" แววดาวถามอย่างรู้ทันเธอ

    "ค่ะ"  พิมลภัทรรับคำสั้นๆ

    "อ้าว..คุณพิมยังไม่แกะของขวัญดูอีกหรือคะนี่"

    แววดาวอดถามเสียมิได้  เมื่อเห็นว่ากล่องของขวัญใบโตยังถูกวางไว้ที่เดิม

    "คุณพิมไม่อยากรู้เหรอคะ..ว่าคุณภีมส่งอะไรมาให้"

    แววดาวยังคงถามพาซื่อ  ตามประสาคนที่สนิทและรู้จักพิมลภัทรมากกว่าใคร  พิมลภัทรยังคงนั่งนิ่งหันหลังให้กับมัน

    "ก้อคงไม่พ้นตุ๊กตาล่ะค่ะพี่แวว"

    พิมลภัทรกล่าวไม่มองสบตากับพี่เลี้ยง  หากแต่น้ำเสียงของเจ้านายสาวนั้นทำให้แววดาวจับความรู้สึกเธอได้ไม่ยากนักว่ากำลังรู้สึกเช่นไร

    "เฮ้อ!"  แววดาวถอนใจเสียงยาวก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าพิมลภัทร  ที่นั่งอยู่อีกฝั่งของเตียงหันหลังให้กับกล่องของขวัญสีหวาน

    ""น้อยใจคุณภีม..อีกล่ะสิท่า"  แววดาวพูดออกมาอย่างรู้ใจเธอ

    "สามปีแล้วนะคะพี่แวว..ที่พิมฟังเขาอวยพรทางโทรศัพท์"

          พิทลภัทรกล่าวอย่างงอนๆ  ให้พี่เลี้ยงฟัง  แววดาวยิ้มเอ็นดูกับท่าทางนั้นของเธอที่ดูเหมือนเมื่อครั้งตอนที่เธอยังเป็นเด็กเล็กๆ อยู่

    "โถ่!..คุณหนูคะ..คุณภีมเธอกำลังดังเป็นพลุแตกนี่คะ  ก็น่าเห็นใจเธอเหมือนกันขนาดคุณป้าเพ็ญ  คุณแม่แท้ๆ ของคุณภีมเองเธอยังแทบไม่มีเวลาว่างให้เลยค่ะ"  แววดาวให้เหตุผลเข้าข้างเขาอีกตามเคย  ซึ่งพิมลภัทรเองก็เข้าใจดีมาโดยตลอด  หากแต่มีบางครั้งที่เธออยากพบเขา   แต่ก็ไม่อาจทำได้

           นานเกือบแปดปีแล้วมั้งที่เขาทำงานอยู่ในวงการบันเทิง  จนแม้กระทั่งเวลาส่วนตัวก็แทบจะไม่มี  ด้วยว่ากำลังฮอตทำให้มีทั้งงานละคร  โฆษณา  งานโชว์ตัวเข้ามาไม่ขาดสาย  จนบางครั้งเขาเองก็แทบกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ  ทำได้แต่บ่นให้มารดาฟังเท่านั้น  พิมลภัทรก็รับรู้มาจากป้าเพ็ญอีกทีเช่นกัน

    "อย่าน้อยใจเลยค่ะ...อย่างน้อย..คุณภีมก็ไม่เคยลืมวันเกิดคุณพิมเลยซักปีนะคะ "  เรื่องนี้ก็เป็นความจริงอีกแหล่ะที่เขาไม่เคยลืมเลย  พิมลภัทรยื่นมือเรียวสวยไปหยิกแก้มพี่เลี้ยงวัยเกือบ  40  ปี  แกมหยอกเย้าอย่างเบามือ

    "รู้ดีจังเลยยย"  เธอกล่าวลากเสียงยาวพร้อมมองค้อนให้พี่เลี้ยง

    "อย่าว่ารู้ดีเลยค่ะ..พี่แววรู้ใจคุณพิมต่างหาก"

    "เชื่อแล้วค่ะว่ารู้ใจ"  พิมลภัทรยิ้มกว้างเริ่มรู้สึกดีขึ้นมาบ้างแล้ว

    "ถ้าอย่างนั้น..พี่แววว่า..คุณพิมควรนอนได้แล้วค่ะ..พรุ่งนี้มีซ้อมละครที่คณะไม่ใช่เหรอคะ  เดี๋ยวไม่สวยกันพอดี  อีกอย่างพี่แววก็เริ่มง่วงแล้วด้วย"

          แววดาวร่ายยาว..แถมหาวให้เจ้านายสาวดูอีกต่างหาก  จนพิมลภัทรอดหัวเราะออกมามิได้  ก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างว่าง่าย  แววดาวห่มผ้าให้เธอแล้วจึงหันไปอุ้มกล่องของขวัญใบโตไปเก็บไว้ในตู้โชว์ขนาดคิงไซด์  จัดแจงเปิดไฟหัวเตียงให้เธอ  แล้วปิดสวิตซ์ไฟดวงใหญ่ลงพร้อมปิดประตูอย่างเบามือก่อนออกไป

    ////////////..........................................////////////////

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น