ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่อง...เมื่อความรักเรียกหา

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6

    • อัปเดตล่าสุด 10 ส.ค. 56


              นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น  ดูสดใส   ผมยาวสลวยยามหล่อนปล่อยผม  ต้นคองามระหงยามหล่อนเกล้าผมไว้   ร่างเล็กบอบบางแต่สมส่วนที่ซ่อนไว้ได้เครื่องแต่งกายเรียบๆ แต่ดูน่ารัก  ปากของหล่อนเหมือนกระจับเล็กๆ ริมฝีปากเป็นสีชมพูระเรื่อโดยมิได้เคลือบลิปสติก มองดูหล่อนแล้วสบายใจ ยิ่งยามเมื่อหล่อนเผลอ   คงไม่รู้ว่าเราแอบรักอยู่  รักตั้งแต่แรกเห็น  เราจะต้องบอกให้หล่อนรู้   “ผมรักคุณ”

                       อะไรของแก  จู่ๆก็ตะโกนลั่นบ้าน

                       แล้วเอ็งเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง

                       ฉันกินกาแฟหมดไปแก้วหนึ่งแล้ว เห็นแก่นอนยิ้มอย่างมีความสุขเลยไม่อยากขัด

                       รู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข

                       ก็เห็นแก่นอนยิ้ม  ฉันก็ว่ามีความสุขนะซิ  อนุพงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจ

                       วันนี้ว่างใช่ไหม

                       ก็ว่างจึงได้มาหาแกตามนัด  ว่าแต่จะไปไหนหรือ

                       จะชวนไปธุระที่อำเภอที่เพิ่งย้ายมาหน่อย

                       ไปทำไม ? แกเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือน และวันนี้ก็วันเสาร์เขาไม่ทำงานกัน

                       แล้วใครว่าฉันจะไปที่ทำงาน ฉันจะไปเยี่ยมคนรู้จักต่างหาก

                       คนรู้จักหรือแฟนกันแน่ฉันรู้มาว่าตอนย้ายมาแก่มาแต่ตัวเท่านั้นไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย

                       ชักจะรู้มาก  จะไปหรือไม่ไป

                       ไปก็ได้ ฉันอยากรู้แกไปแล้วจะสุขหรือทุกข์กลับมา

     

                       เมื่อญาดากลับจากตลาดก็พบว่าคุณพ่อกำลังมีแขก เสียงคุยปนกับเสียงหัวเราะ ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปหลังบ้านต้องหยุดชะงัก อดเยี่ยมหน้าไปดูไม่ได้

                       “หัวหน้า”เสียงกระซิบของหล่อนที่ผ่านริมฝีปากออกมาโดยสัญชาตญาณ ทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อรอคอยอยู่ หันมาเหมือนจะรู้ ตาต่อตาสบกัน

                       หนูกลับมาแล้วหรือ คุณสานิต กับคุณอนุพรมาเยี่ยม  คุณสมบูรณ์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

                       สวัสดีค่ะ ญาดาทักทายคนทั้งสอง

                       สบายดีหรือ...ญาดา ศานิตถามขึ้นหลังจากที่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆคุณสมบูรณ์

                       ก็สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ เสียงญาดารวนนิดๆ 

                       แล้วหัวหน้าล่ะค่ะ สบายดีหรือเปล่า

                       ผมหรือ..ก็สบายตามที่เห็น

                       หนูมาก็ดีแล้ว      เป็นเพื่อนคุยกับคุณสองคนนี่ก่อน พ่อยังปลูกกล้วยไม้ค้างอยู่ ต้องขอตัว คุณสมบูรณ์พูดพร้อมกับลุกขึ้น

                       ผมขอไปด้วยคน ตอนนี้ที่บ้านกำลังเล่นกล้วยไม้อยู่พอดี เผื่อจะได้พันธุ์ใหม่ๆเอาไปปลูกบ้าง อนุพรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

                       ผมอยากคุยกับคุณ  ศานิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ อนุพรและคุณสมบูรณ์ออกไปแล้ว

                       หัวหน้ามีอะไรจะพูดกับดิฉันหรือคะ

                       ขอร้อง อย่าเรียกหัวหน้าได้ไหม ผมไม่ชอบ ดูมันห่างเหิน  ผมมาที่นี่เพื่อมาทวงคำตอบ  เมื่อผมย้ายไป ผมไม่มีความสุขเลยกลัวไปสารพัด ยิ่งคุณไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย

                       แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อมา  เสียงของญาดาอ่อนลง

                       ผมย้ายไปก็รับมอบงาน เคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลา “ผมรักคุณ”  ศานิตค่อยๆจับมือนุ่มนั้นมากุมอย่างรักใคร่ถนุถนอม

                       ตาต่อตาสบกัน  ยิ้มให้กัน  ถามหาห่วงใยกัน  เพียงเท่านี้  ความรัก ความเข้าใจก็กลับคืนมา

              เมื่อความรักเรียกหา  รอช้าอยู่ไย รีบรับรักไป ก่อนรักนั้นจะร่วงโรยรา

                                         

              นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น  ดูสดใส   ผมยาวสลวยยามหล่อนปล่อยผม  ต้นคองามระหงยามหล่อนเกล้าผมไว้   ร่างเล็กบอบบางแต่สมส่วนที่ซ่อนไว้ได้เครื่องแต่งกายเรียบๆ แต่ดูน่ารัก  ปากของหล่อนเหมือนกระจับเล็กๆ ริมฝีปากเป็นสีชมพูระเรื่อโดยมิได้เคลือบลิปสติก มองดูหล่อนแล้วสบายใจ ยิ่งยามเมื่อหล่อนเผลอ   คงไม่รู้ว่าเราแอบรักอยู่  รักตั้งแต่แรกเห็น  เราจะต้องบอกให้หล่อนรู้   “ผมรักคุณ”

                       อะไรของแก  จู่ๆก็ตะโกนลั่นบ้าน

                       แล้วเอ็งเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง

                       ฉันกินกาแฟหมดไปแก้วหนึ่งแล้ว เห็นแก่นอนยิ้มอย่างมีความสุขเลยไม่อยากขัด

                       รู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข

                       ก็เห็นแก่นอนยิ้ม  ฉันก็ว่ามีความสุขนะซิ  อนุพงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจ

                       วันนี้ว่างใช่ไหม

                       ก็ว่างจึงได้มาหาแกตามนัด  ว่าแต่จะไปไหนหรือ

                       จะชวนไปธุระที่อำเภอที่เพิ่งย้ายมาหน่อย

                       ไปทำไม ? แกเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือน และวันนี้ก็วันเสาร์เขาไม่ทำงานกัน

                       แล้วใครว่าฉันจะไปที่ทำงาน ฉันจะไปเยี่ยมคนรู้จักต่างหาก

                       คนรู้จักหรือแฟนกันแน่ฉันรู้มาว่าตอนย้ายมาแก่มาแต่ตัวเท่านั้นไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย

                       ชักจะรู้มาก  จะไปหรือไม่ไป

                       ไปก็ได้ ฉันอยากรู้แกไปแล้วจะสุขหรือทุกข์กลับมา

     

                       เมื่อญาดากลับจากตลาดก็พบว่าคุณพ่อกำลังมีแขก เสียงคุยปนกับเสียงหัวเราะ ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปหลังบ้านต้องหยุดชะงัก อดเยี่ยมหน้าไปดูไม่ได้

                       “หัวหน้า”เสียงกระซิบของหล่อนที่ผ่านริมฝีปากออกมาโดยสัญชาตญาณ ทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อรอคอยอยู่ หันมาเหมือนจะรู้ ตาต่อตาสบกัน

                       หนูกลับมาแล้วหรือ คุณสานิต กับคุณอนุพรมาเยี่ยม  คุณสมบูรณ์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

                       สวัสดีค่ะ ญาดาทักทายคนทั้งสอง

                       สบายดีหรือ...ญาดา ศานิตถามขึ้นหลังจากที่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆคุณสมบูรณ์

                       ก็สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ เสียงญาดารวนนิดๆ 

                       แล้วหัวหน้าล่ะค่ะ สบายดีหรือเปล่า

                       ผมหรือ..ก็สบายตามที่เห็น

                       หนูมาก็ดีแล้ว      เป็นเพื่อนคุยกับคุณสองคนนี่ก่อน พ่อยังปลูกกล้วยไม้ค้างอยู่ ต้องขอตัว คุณสมบูรณ์พูดพร้อมกับลุกขึ้น

                       ผมขอไปด้วยคน ตอนนี้ที่บ้านกำลังเล่นกล้วยไม้อยู่พอดี เผื่อจะได้พันธุ์ใหม่ๆเอาไปปลูกบ้าง อนุพรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

                       ผมอยากคุยกับคุณ  ศานิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ อนุพรและคุณสมบูรณ์ออกไปแล้ว

                       หัวหน้ามีอะไรจะพูดกับดิฉันหรือคะ

                       ขอร้อง อย่าเรียกหัวหน้าได้ไหม ผมไม่ชอบ ดูมันห่างเหิน  ผมมาที่นี่เพื่อมาทวงคำตอบ  เมื่อผมย้ายไป ผมไม่มีความสุขเลยกลัวไปสารพัด ยิ่งคุณไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย

                       แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อมา  เสียงของญาดาอ่อนลง

                       ผมย้ายไปก็รับมอบงาน เคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลา “ผมรักคุณ”  ศานิตค่อยๆจับมือนุ่มนั้นมากุมอย่างรักใคร่ถนุถนอม

                       ตาต่อตาสบกัน  ยิ้มให้กัน  ถามหาห่วงใยกัน  เพียงเท่านี้  ความรัก ความเข้าใจก็กลับคืนมา

              เมื่อความรักเรียกหา  รอช้าอยู่ไย รีบรับรักไป ก่อนรักนั้นจะร่วงโรยรา

                                         

              นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น  ดูสดใส   ผมยาวสลวยยามหล่อนปล่อยผม  ต้นคองามระหงยามหล่อนเกล้าผมไว้   ร่างเล็กบอบบางแต่สมส่วนที่ซ่อนไว้ได้เครื่องแต่งกายเรียบๆ แต่ดูน่ารัก  ปากของหล่อนเหมือนกระจับเล็กๆ ริมฝีปากเป็นสีชมพูระเรื่อโดยมิได้เคลือบลิปสติก มองดูหล่อนแล้วสบายใจ ยิ่งยามเมื่อหล่อนเผลอ   คงไม่รู้ว่าเราแอบรักอยู่  รักตั้งแต่แรกเห็น  เราจะต้องบอกให้หล่อนรู้   “ผมรักคุณ”

                       อะไรของแก  จู่ๆก็ตะโกนลั่นบ้าน

                       แล้วเอ็งเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง

                       ฉันกินกาแฟหมดไปแก้วหนึ่งแล้ว เห็นแก่นอนยิ้มอย่างมีความสุขเลยไม่อยากขัด

                       รู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข

                       ก็เห็นแก่นอนยิ้ม  ฉันก็ว่ามีความสุขนะซิ  อนุพงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจ

                       วันนี้ว่างใช่ไหม

                       ก็ว่างจึงได้มาหาแกตามนัด  ว่าแต่จะไปไหนหรือ

                       จะชวนไปธุระที่อำเภอที่เพิ่งย้ายมาหน่อย

                       ไปทำไม ? แกเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือน และวันนี้ก็วันเสาร์เขาไม่ทำงานกัน

                       แล้วใครว่าฉันจะไปที่ทำงาน ฉันจะไปเยี่ยมคนรู้จักต่างหาก

                       คนรู้จักหรือแฟนกันแน่ฉันรู้มาว่าตอนย้ายมาแก่มาแต่ตัวเท่านั้นไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย

                       ชักจะรู้มาก  จะไปหรือไม่ไป

                       ไปก็ได้ ฉันอยากรู้แกไปแล้วจะสุขหรือทุกข์กลับมา

     

                       เมื่อญาดากลับจากตลาดก็พบว่าคุณพ่อกำลังมีแขก เสียงคุยปนกับเสียงหัวเราะ ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปหลังบ้านต้องหยุดชะงัก อดเยี่ยมหน้าไปดูไม่ได้

                       “หัวหน้า”เสียงกระซิบของหล่อนที่ผ่านริมฝีปากออกมาโดยสัญชาตญาณ ทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อรอคอยอยู่ หันมาเหมือนจะรู้ ตาต่อตาสบกัน

                       หนูกลับมาแล้วหรือ คุณสานิต กับคุณอนุพรมาเยี่ยม  คุณสมบูรณ์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

                       สวัสดีค่ะ ญาดาทักทายคนทั้งสอง

                       สบายดีหรือ...ญาดา ศานิตถามขึ้นหลังจากที่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆคุณสมบูรณ์

                       ก็สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ เสียงญาดารวนนิดๆ 

                       แล้วหัวหน้าล่ะค่ะ สบายดีหรือเปล่า

                       ผมหรือ..ก็สบายตามที่เห็น

                       หนูมาก็ดีแล้ว      เป็นเพื่อนคุยกับคุณสองคนนี่ก่อน พ่อยังปลูกกล้วยไม้ค้างอยู่ ต้องขอตัว คุณสมบูรณ์พูดพร้อมกับลุกขึ้น

                       ผมขอไปด้วยคน ตอนนี้ที่บ้านกำลังเล่นกล้วยไม้อยู่พอดี เผื่อจะได้พันธุ์ใหม่ๆเอาไปปลูกบ้าง อนุพรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

                       ผมอยากคุยกับคุณ  ศานิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ อนุพรและคุณสมบูรณ์ออกไปแล้ว

                       หัวหน้ามีอะไรจะพูดกับดิฉันหรือคะ

                       ขอร้อง อย่าเรียกหัวหน้าได้ไหม ผมไม่ชอบ ดูมันห่างเหิน  ผมมาที่นี่เพื่อมาทวงคำตอบ  เมื่อผมย้ายไป ผมไม่มีความสุขเลยกลัวไปสารพัด ยิ่งคุณไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย

                       แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อมา  เสียงของญาดาอ่อนลง

                       ผมย้ายไปก็รับมอบงาน เคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลา “ผมรักคุณ”  ศานิตค่อยๆจับมือนุ่มนั้นมากุมอย่างรักใคร่ถนุถนอม

                       ตาต่อตาสบกัน  ยิ้มให้กัน  ถามหาห่วงใยกัน  เพียงเท่านี้  ความรัก ความเข้าใจก็กลับคืนมา

              เมื่อความรักเรียกหา  รอช้าอยู่ไย รีบรับรักไป ก่อนรักนั้นจะร่วงโรยรา

                                         

              นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น  ดูสดใส   ผมยาวสลวยยามหล่อนปล่อยผม  ต้นคองามระหงยามหล่อนเกล้าผมไว้   ร่างเล็กบอบบางแต่สมส่วนที่ซ่อนไว้ได้เครื่องแต่งกายเรียบๆ แต่ดูน่ารัก  ปากของหล่อนเหมือนกระจับเล็กๆ ริมฝีปากเป็นสีชมพูระเรื่อโดยมิได้เคลือบลิปสติก มองดูหล่อนแล้วสบายใจ ยิ่งยามเมื่อหล่อนเผลอ   คงไม่รู้ว่าเราแอบรักอยู่  รักตั้งแต่แรกเห็น  เราจะต้องบอกให้หล่อนรู้   “ผมรักคุณ”

                       อะไรของแก  จู่ๆก็ตะโกนลั่นบ้าน

                       แล้วเอ็งเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง

                       ฉันกินกาแฟหมดไปแก้วหนึ่งแล้ว เห็นแก่นอนยิ้มอย่างมีความสุขเลยไม่อยากขัด

                       รู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข

                       ก็เห็นแก่นอนยิ้ม  ฉันก็ว่ามีความสุขนะซิ  อนุพงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจ

                       วันนี้ว่างใช่ไหม

                       ก็ว่างจึงได้มาหาแกตามนัด  ว่าแต่จะไปไหนหรือ

                       จะชวนไปธุระที่อำเภอที่เพิ่งย้ายมาหน่อย

                       ไปทำไม ? แกเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือน และวันนี้ก็วันเสาร์เขาไม่ทำงานกัน

                       แล้วใครว่าฉันจะไปที่ทำงาน ฉันจะไปเยี่ยมคนรู้จักต่างหาก

                       คนรู้จักหรือแฟนกันแน่ฉันรู้มาว่าตอนย้ายมาแก่มาแต่ตัวเท่านั้นไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย

                       ชักจะรู้มาก  จะไปหรือไม่ไป

                       ไปก็ได้ ฉันอยากรู้แกไปแล้วจะสุขหรือทุกข์กลับมา

     

                       เมื่อญาดากลับจากตลาดก็พบว่าคุณพ่อกำลังมีแขก เสียงคุยปนกับเสียงหัวเราะ ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปหลังบ้านต้องหยุดชะงัก อดเยี่ยมหน้าไปดูไม่ได้

                       “หัวหน้า”เสียงกระซิบของหล่อนที่ผ่านริมฝีปากออกมาโดยสัญชาตญาณ ทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อรอคอยอยู่ หันมาเหมือนจะรู้ ตาต่อตาสบกัน

                       หนูกลับมาแล้วหรือ คุณสานิต กับคุณอนุพรมาเยี่ยม  คุณสมบูรณ์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

                       สวัสดีค่ะ ญาดาทักทายคนทั้งสอง

                       สบายดีหรือ...ญาดา ศานิตถามขึ้นหลังจากที่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆคุณสมบูรณ์

                       ก็สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ เสียงญาดารวนนิดๆ 

                       แล้วหัวหน้าล่ะค่ะ สบายดีหรือเปล่า

                       ผมหรือ..ก็สบายตามที่เห็น

                       หนูมาก็ดีแล้ว      เป็นเพื่อนคุยกับคุณสองคนนี่ก่อน พ่อยังปลูกกล้วยไม้ค้างอยู่ ต้องขอตัว คุณสมบูรณ์พูดพร้อมกับลุกขึ้น

                       ผมขอไปด้วยคน ตอนนี้ที่บ้านกำลังเล่นกล้วยไม้อยู่พอดี เผื่อจะได้พันธุ์ใหม่ๆเอาไปปลูกบ้าง อนุพรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

                       ผมอยากคุยกับคุณ  ศานิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ อนุพรและคุณสมบูรณ์ออกไปแล้ว

                       หัวหน้ามีอะไรจะพูดกับดิฉันหรือคะ

                       ขอร้อง อย่าเรียกหัวหน้าได้ไหม ผมไม่ชอบ ดูมันห่างเหิน  ผมมาที่นี่เพื่อมาทวงคำตอบ  เมื่อผมย้ายไป ผมไม่มีความสุขเลยกลัวไปสารพัด ยิ่งคุณไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย

                       แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อมา  เสียงของญาดาอ่อนลง

                       ผมย้ายไปก็รับมอบงาน เคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลา “ผมรักคุณ”  ศานิตค่อยๆจับมือนุ่มนั้นมากุมอย่างรักใคร่ถนุถนอม

                       ตาต่อตาสบกัน  ยิ้มให้กัน  ถามหาห่วงใยกัน  เพียงเท่านี้  ความรัก ความเข้าใจก็กลับคืนมา

              เมื่อความรักเรียกหา  รอช้าอยู่ไย รีบรับรักไป ก่อนรักนั้นจะร่วงโรยรา

                                         

              นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น  ดูสดใส   ผมยาวสลวยยามหล่อนปล่อยผม  ต้นคองามระหงยามหล่อนเกล้าผมไว้   ร่างเล็กบอบบางแต่สมส่วนที่ซ่อนไว้ได้เครื่องแต่งกายเรียบๆ แต่ดูน่ารัก  ปากของหล่อนเหมือนกระจับเล็กๆ ริมฝีปากเป็นสีชมพูระเรื่อโดยมิได้เคลือบลิปสติก มองดูหล่อนแล้วสบายใจ ยิ่งยามเมื่อหล่อนเผลอ   คงไม่รู้ว่าเราแอบรักอยู่  รักตั้งแต่แรกเห็น  เราจะต้องบอกให้หล่อนรู้   “ผมรักคุณ”

                       อะไรของแก  จู่ๆก็ตะโกนลั่นบ้าน

                       แล้วเอ็งเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง

                       ฉันกินกาแฟหมดไปแก้วหนึ่งแล้ว เห็นแก่นอนยิ้มอย่างมีความสุขเลยไม่อยากขัด

                       รู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข

                       ก็เห็นแก่นอนยิ้ม  ฉันก็ว่ามีความสุขนะซิ  อนุพงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจ

                       วันนี้ว่างใช่ไหม

                       ก็ว่างจึงได้มาหาแกตามนัด  ว่าแต่จะไปไหนหรือ

                       จะชวนไปธุระที่อำเภอที่เพิ่งย้ายมาหน่อย

                       ไปทำไม ? แกเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือน และวันนี้ก็วันเสาร์เขาไม่ทำงานกัน

                       แล้วใครว่าฉันจะไปที่ทำงาน ฉันจะไปเยี่ยมคนรู้จักต่างหาก

                       คนรู้จักหรือแฟนกันแน่ฉันรู้มาว่าตอนย้ายมาแก่มาแต่ตัวเท่านั้นไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย

                       ชักจะรู้มาก  จะไปหรือไม่ไป

                       ไปก็ได้ ฉันอยากรู้แกไปแล้วจะสุขหรือทุกข์กลับมา

     

                       เมื่อญาดากลับจากตลาดก็พบว่าคุณพ่อกำลังมีแขก เสียงคุยปนกับเสียงหัวเราะ ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปหลังบ้านต้องหยุดชะงัก อดเยี่ยมหน้าไปดูไม่ได้

                       “หัวหน้า”เสียงกระซิบของหล่อนที่ผ่านริมฝีปากออกมาโดยสัญชาตญาณ ทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อรอคอยอยู่ หันมาเหมือนจะรู้ ตาต่อตาสบกัน

                       หนูกลับมาแล้วหรือ คุณสานิต กับคุณอนุพรมาเยี่ยม  คุณสมบูรณ์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

                       สวัสดีค่ะ ญาดาทักทายคนทั้งสอง

                       สบายดีหรือ...ญาดา ศานิตถามขึ้นหลังจากที่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆคุณสมบูรณ์

                       ก็สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ เสียงญาดารวนนิดๆ 

                       แล้วหัวหน้าล่ะค่ะ สบายดีหรือเปล่า

                       ผมหรือ..ก็สบายตามที่เห็น

                       หนูมาก็ดีแล้ว      เป็นเพื่อนคุยกับคุณสองคนนี่ก่อน พ่อยังปลูกกล้วยไม้ค้างอยู่ ต้องขอตัว คุณสมบูรณ์พูดพร้อมกับลุกขึ้น

                       ผมขอไปด้วยคน ตอนนี้ที่บ้านกำลังเล่นกล้วยไม้อยู่พอดี เผื่อจะได้พันธุ์ใหม่ๆเอาไปปลูกบ้าง อนุพรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

                       ผมอยากคุยกับคุณ  ศานิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ อนุพรและคุณสมบูรณ์ออกไปแล้ว

                       หัวหน้ามีอะไรจะพูดกับดิฉันหรือคะ

                       ขอร้อง อย่าเรียกหัวหน้าได้ไหม ผมไม่ชอบ ดูมันห่างเหิน  ผมมาที่นี่เพื่อมาทวงคำตอบ  เมื่อผมย้ายไป ผมไม่มีความสุขเลยกลัวไปสารพัด ยิ่งคุณไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย

                       แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อมา  เสียงของญาดาอ่อนลง

                       ผมย้ายไปก็รับมอบงาน เคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลา “ผมรักคุณ”  ศานิตค่อยๆจับมือนุ่มนั้นมากุมอย่างรักใคร่ถนุถนอม

                       ตาต่อตาสบกัน  ยิ้มให้กัน  ถามหาห่วงใยกัน  เพียงเท่านี้  ความรัก ความเข้าใจก็กลับคืนมา

              เมื่อความรักเรียกหา  รอช้าอยู่ไย รีบรับรักไป ก่อนรักนั้นจะร่วงโรยรา

                                         

              นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น  ดูสดใส   ผมยาวสลวยยามหล่อนปล่อยผม  ต้นคองามระหงยามหล่อนเกล้าผมไว้   ร่างเล็กบอบบางแต่สมส่วนที่ซ่อนไว้ได้เครื่องแต่งกายเรียบๆ แต่ดูน่ารัก  ปากของหล่อนเหมือนกระจับเล็กๆ ริมฝีปากเป็นสีชมพูระเรื่อโดยมิได้เคลือบลิปสติก มองดูหล่อนแล้วสบายใจ ยิ่งยามเมื่อหล่อนเผลอ   คงไม่รู้ว่าเราแอบรักอยู่  รักตั้งแต่แรกเห็น  เราจะต้องบอกให้หล่อนรู้   “ผมรักคุณ”

                       อะไรของแก  จู่ๆก็ตะโกนลั่นบ้าน

                       แล้วเอ็งเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง

                       ฉันกินกาแฟหมดไปแก้วหนึ่งแล้ว เห็นแก่นอนยิ้มอย่างมีความสุขเลยไม่อยากขัด

                       รู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข

                       ก็เห็นแก่นอนยิ้ม  ฉันก็ว่ามีความสุขนะซิ  อนุพงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจ

                       วันนี้ว่างใช่ไหม

                       ก็ว่างจึงได้มาหาแกตามนัด  ว่าแต่จะไปไหนหรือ

                       จะชวนไปธุระที่อำเภอที่เพิ่งย้ายมาหน่อย

                       ไปทำไม ? แกเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือน และวันนี้ก็วันเสาร์เขาไม่ทำงานกัน

                       แล้วใครว่าฉันจะไปที่ทำงาน ฉันจะไปเยี่ยมคนรู้จักต่างหาก

                       คนรู้จักหรือแฟนกันแน่ฉันรู้มาว่าตอนย้ายมาแก่มาแต่ตัวเท่านั้นไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย

                       ชักจะรู้มาก  จะไปหรือไม่ไป

                       ไปก็ได้ ฉันอยากรู้แกไปแล้วจะสุขหรือทุกข์กลับมา

     

                       เมื่อญาดากลับจากตลาดก็พบว่าคุณพ่อกำลังมีแขก เสียงคุยปนกับเสียงหัวเราะ ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปหลังบ้านต้องหยุดชะงัก อดเยี่ยมหน้าไปดูไม่ได้

                       “หัวหน้า”เสียงกระซิบของหล่อนที่ผ่านริมฝีปากออกมาโดยสัญชาตญาณ ทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อรอคอยอยู่ หันมาเหมือนจะรู้ ตาต่อตาสบกัน

                       หนูกลับมาแล้วหรือ คุณสานิต กับคุณอนุพรมาเยี่ยม  คุณสมบูรณ์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

                       สวัสดีค่ะ ญาดาทักทายคนทั้งสอง

                       สบายดีหรือ...ญาดา ศานิตถามขึ้นหลังจากที่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆคุณสมบูรณ์

                       ก็สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ เสียงญาดารวนนิดๆ 

                       แล้วหัวหน้าล่ะค่ะ สบายดีหรือเปล่า

                       ผมหรือ..ก็สบายตามที่เห็น

                       หนูมาก็ดีแล้ว      เป็นเพื่อนคุยกับคุณสองคนนี่ก่อน พ่อยังปลูกกล้วยไม้ค้างอยู่ ต้องขอตัว คุณสมบูรณ์พูดพร้อมกับลุกขึ้น

                       ผมขอไปด้วยคน ตอนนี้ที่บ้านกำลังเล่นกล้วยไม้อยู่พอดี เผื่อจะได้พันธุ์ใหม่ๆเอาไปปลูกบ้าง อนุพรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

                       ผมอยากคุยกับคุณ  ศานิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ อนุพรและคุณสมบูรณ์ออกไปแล้ว

                       หัวหน้ามีอะไรจะพูดกับดิฉันหรือคะ

                       ขอร้อง อย่าเรียกหัวหน้าได้ไหม ผมไม่ชอบ ดูมันห่างเหิน  ผมมาที่นี่เพื่อมาทวงคำตอบ  เมื่อผมย้ายไป ผมไม่มีความสุขเลยกลัวไปสารพัด ยิ่งคุณไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย

                       แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อมา  เสียงของญาดาอ่อนลง

                       ผมย้ายไปก็รับมอบงาน เคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลา “ผมรักคุณ”  ศานิตค่อยๆจับมือนุ่มนั้นมากุมอย่างรักใคร่ถนุถนอม

                       ตาต่อตาสบกัน  ยิ้มให้กัน  ถามหาห่วงใยกัน  เพียงเท่านี้  ความรัก ความเข้าใจก็กลับคืนมา

              เมื่อความรักเรียกหา  รอช้าอยู่ไย รีบรับรักไป ก่อนรักนั้นจะร่วงโรยรา

                                         

              นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น  ดูสดใส   ผมยาวสลวยยามหล่อนปล่อยผม  ต้นคองามระหงยามหล่อนเกล้าผมไว้   ร่างเล็กบอบบางแต่สมส่วนที่ซ่อนไว้ได้เครื่องแต่งกายเรียบๆ แต่ดูน่ารัก  ปากของหล่อนเหมือนกระจับเล็กๆ ริมฝีปากเป็นสีชมพูระเรื่อโดยมิได้เคลือบลิปสติก มองดูหล่อนแล้วสบายใจ ยิ่งยามเมื่อหล่อนเผลอ   คงไม่รู้ว่าเราแอบรักอยู่  รักตั้งแต่แรกเห็น  เราจะต้องบอกให้หล่อนรู้   “ผมรักคุณ”

                       อะไรของแก  จู่ๆก็ตะโกนลั่นบ้าน

                       แล้วเอ็งเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง

                       ฉันกินกาแฟหมดไปแก้วหนึ่งแล้ว เห็นแก่นอนยิ้มอย่างมีความสุขเลยไม่อยากขัด

                       รู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข

                       ก็เห็นแก่นอนยิ้ม  ฉันก็ว่ามีความสุขนะซิ  อนุพงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจ

                       วันนี้ว่างใช่ไหม

                       ก็ว่างจึงได้มาหาแกตามนัด  ว่าแต่จะไปไหนหรือ

                       จะชวนไปธุระที่อำเภอที่เพิ่งย้ายมาหน่อย

                       ไปทำไม ? แกเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือน และวันนี้ก็วันเสาร์เขาไม่ทำงานกัน

                       แล้วใครว่าฉันจะไปที่ทำงาน ฉันจะไปเยี่ยมคนรู้จักต่างหาก

                       คนรู้จักหรือแฟนกันแน่ฉันรู้มาว่าตอนย้ายมาแก่มาแต่ตัวเท่านั้นไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย

                       ชักจะรู้มาก  จะไปหรือไม่ไป

                       ไปก็ได้ ฉันอยากรู้แกไปแล้วจะสุขหรือทุกข์กลับมา

     

                       เมื่อญาดากลับจากตลาดก็พบว่าคุณพ่อกำลังมีแขก เสียงคุยปนกับเสียงหัวเราะ ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปหลังบ้านต้องหยุดชะงัก อดเยี่ยมหน้าไปดูไม่ได้

                       “หัวหน้า”เสียงกระซิบของหล่อนที่ผ่านริมฝีปากออกมาโดยสัญชาตญาณ ทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อรอคอยอยู่ หันมาเหมือนจะรู้ ตาต่อตาสบกัน

                       หนูกลับมาแล้วหรือ คุณสานิต กับคุณอนุพรมาเยี่ยม  คุณสมบูรณ์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

                       สวัสดีค่ะ ญาดาทักทายคนทั้งสอง

                       สบายดีหรือ...ญาดา ศานิตถามขึ้นหลังจากที่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆคุณสมบูรณ์

                       ก็สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ เสียงญาดารวนนิดๆ 

                       แล้วหัวหน้าล่ะค่ะ สบายดีหรือเปล่า

                       ผมหรือ..ก็สบายตามที่เห็น

                       หนูมาก็ดีแล้ว      เป็นเพื่อนคุยกับคุณสองคนนี่ก่อน พ่อยังปลูกกล้วยไม้ค้างอยู่ ต้องขอตัว คุณสมบูรณ์พูดพร้อมกับลุกขึ้น

                       ผมขอไปด้วยคน ตอนนี้ที่บ้านกำลังเล่นกล้วยไม้อยู่พอดี เผื่อจะได้พันธุ์ใหม่ๆเอาไปปลูกบ้าง อนุพรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

                       ผมอยากคุยกับคุณ  ศานิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ อนุพรและคุณสมบูรณ์ออกไปแล้ว

                       หัวหน้ามีอะไรจะพูดกับดิฉันหรือคะ

                       ขอร้อง อย่าเรียกหัวหน้าได้ไหม ผมไม่ชอบ ดูมันห่างเหิน  ผมมาที่นี่เพื่อมาทวงคำตอบ  เมื่อผมย้ายไป ผมไม่มีความสุขเลยกลัวไปสารพัด ยิ่งคุณไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย

                       แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อมา  เสียงของญาดาอ่อนลง

                       ผมย้ายไปก็รับมอบงาน เคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลา “ผมรักคุณ”  ศานิตค่อยๆจับมือนุ่มนั้นมากุมอย่างรักใคร่ถนุถนอม

                       ตาต่อตาสบกัน  ยิ้มให้กัน  ถามหาห่วงใยกัน  เพียงเท่านี้  ความรัก ความเข้าใจก็กลับคืนมา

              เมื่อความรักเรียกหา  รอช้าอยู่ไย รีบรับรักไป ก่อนรักนั้นจะร่วงโรยรา

                                         

              นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น  ดูสดใส   ผมยาวสลวยยามหล่อนปล่อยผม  ต้นคองามระหงยามหล่อนเกล้าผมไว้   ร่างเล็กบอบบางแต่สมส่วนที่ซ่อนไว้ได้เครื่องแต่งกายเรียบๆ แต่ดูน่ารัก  ปากของหล่อนเหมือนกระจับเล็กๆ ริมฝีปากเป็นสีชมพูระเรื่อโดยมิได้เคลือบลิปสติก มองดูหล่อนแล้วสบายใจ ยิ่งยามเมื่อหล่อนเผลอ   คงไม่รู้ว่าเราแอบรักอยู่  รักตั้งแต่แรกเห็น  เราจะต้องบอกให้หล่อนรู้   “ผมรักคุณ”

                       อะไรของแก  จู่ๆก็ตะโกนลั่นบ้าน

                       แล้วเอ็งเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง

                       ฉันกินกาแฟหมดไปแก้วหนึ่งแล้ว เห็นแก่นอนยิ้มอย่างมีความสุขเลยไม่อยากขัด

                       รู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข

                       ก็เห็นแก่นอนยิ้ม  ฉันก็ว่ามีความสุขนะซิ  อนุพงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจ

                       วันนี้ว่างใช่ไหม

                       ก็ว่างจึงได้มาหาแกตามนัด  ว่าแต่จะไปไหนหรือ

                       จะชวนไปธุระที่อำเภอที่เพิ่งย้ายมาหน่อย

                       ไปทำไม ? แกเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือน และวันนี้ก็วันเสาร์เขาไม่ทำงานกัน

                       แล้วใครว่าฉันจะไปที่ทำงาน ฉันจะไปเยี่ยมคนรู้จักต่างหาก

                       คนรู้จักหรือแฟนกันแน่ฉันรู้มาว่าตอนย้ายมาแก่มาแต่ตัวเท่านั้นไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย

                       ชักจะรู้มาก  จะไปหรือไม่ไป

                       ไปก็ได้ ฉันอยากรู้แกไปแล้วจะสุขหรือทุกข์กลับมา

     

                       เมื่อญาดากลับจากตลาดก็พบว่าคุณพ่อกำลังมีแขก เสียงคุยปนกับเสียงหัวเราะ ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปหลังบ้านต้องหยุดชะงัก อดเยี่ยมหน้าไปดูไม่ได้

                       “หัวหน้า”เสียงกระซิบของหล่อนที่ผ่านริมฝีปากออกมาโดยสัญชาตญาณ ทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อรอคอยอยู่ หันมาเหมือนจะรู้ ตาต่อตาสบกัน

                       หนูกลับมาแล้วหรือ คุณสานิต กับคุณอนุพรมาเยี่ยม  คุณสมบูรณ์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

                       สวัสดีค่ะ ญาดาทักทายคนทั้งสอง

                       สบายดีหรือ...ญาดา ศานิตถามขึ้นหลังจากที่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆคุณสมบูรณ์

                       ก็สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ เสียงญาดารวนนิดๆ 

                       แล้วหัวหน้าล่ะค่ะ สบายดีหรือเปล่า

                       ผมหรือ..ก็สบายตามที่เห็น

                       หนูมาก็ดีแล้ว      เป็นเพื่อนคุยกับคุณสองคนนี่ก่อน พ่อยังปลูกกล้วยไม้ค้างอยู่ ต้องขอตัว คุณสมบูรณ์พูดพร้อมกับลุกขึ้น

                       ผมขอไปด้วยคน ตอนนี้ที่บ้านกำลังเล่นกล้วยไม้อยู่พอดี เผื่อจะได้พันธุ์ใหม่ๆเอาไปปลูกบ้าง อนุพรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

                       ผมอยากคุยกับคุณ  ศานิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ อนุพรและคุณสมบูรณ์ออกไปแล้ว

                       หัวหน้ามีอะไรจะพูดกับดิฉันหรือคะ

                       ขอร้อง อย่าเรียกหัวหน้าได้ไหม ผมไม่ชอบ ดูมันห่างเหิน  ผมมาที่นี่เพื่อมาทวงคำตอบ  เมื่อผมย้ายไป ผมไม่มีความสุขเลยกลัวไปสารพัด ยิ่งคุณไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย

                       แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อมา  เสียงของญาดาอ่อนลง

                       ผมย้ายไปก็รับมอบงาน เคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลา “ผมรักคุณ”  ศานิตค่อยๆจับมือนุ่มนั้นมากุมอย่างรักใคร่ถนุถนอม

                       ตาต่อตาสบกัน  ยิ้มให้กัน  ถามหาห่วงใยกัน  เพียงเท่านี้  ความรัก ความเข้าใจก็กลับคืนมา

              เมื่อความรักเรียกหา  รอช้าอยู่ไย รีบรับรักไป ก่อนรักนั้นจะร่วงโรยรา

                                         

              นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น  ดูสดใส   ผมยาวสลวยยามหล่อนปล่อยผม  ต้นคองามระหงยามหล่อนเกล้าผมไว้   ร่างเล็กบอบบางแต่สมส่วนที่ซ่อนไว้ได้เครื่องแต่งกายเรียบๆ แต่ดูน่ารัก  ปากของหล่อนเหมือนกระจับเล็กๆ ริมฝีปากเป็นสีชมพูระเรื่อโดยมิได้เคลือบลิปสติก มองดูหล่อนแล้วสบายใจ ยิ่งยามเมื่อหล่อนเผลอ   คงไม่รู้ว่าเราแอบรักอยู่  รักตั้งแต่แรกเห็น  เราจะต้องบอกให้หล่อนรู้   “ผมรักคุณ”

                       อะไรของแก  จู่ๆก็ตะโกนลั่นบ้าน

                       แล้วเอ็งเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง

                       ฉันกินกาแฟหมดไปแก้วหนึ่งแล้ว เห็นแก่นอนยิ้มอย่างมีความสุขเลยไม่อยากขัด

                       รู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข

                       ก็เห็นแก่นอนยิ้ม  ฉันก็ว่ามีความสุขนะซิ  อนุพงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจ

                       วันนี้ว่างใช่ไหม

                       ก็ว่างจึงได้มาหาแกตามนัด  ว่าแต่จะไปไหนหรือ

                       จะชวนไปธุระที่อำเภอที่เพิ่งย้ายมาหน่อย

                       ไปทำไม ? แกเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือน และวันนี้ก็วันเสาร์เขาไม่ทำงานกัน

                       แล้วใครว่าฉันจะไปที่ทำงาน ฉันจะไปเยี่ยมคนรู้จักต่างหาก

                       คนรู้จักหรือแฟนกันแน่ฉันรู้มาว่าตอนย้ายมาแก่มาแต่ตัวเท่านั้นไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย

                       ชักจะรู้มาก  จะไปหรือไม่ไป

                       ไปก็ได้ ฉันอยากรู้แกไปแล้วจะสุขหรือทุกข์กลับมา

     

                       เมื่อญาดากลับจากตลาดก็พบว่าคุณพ่อกำลังมีแขก เสียงคุยปนกับเสียงหัวเราะ ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปหลังบ้านต้องหยุดชะงัก อดเยี่ยมหน้าไปดูไม่ได้

                       “หัวหน้า”เสียงกระซิบของหล่อนที่ผ่านริมฝีปากออกมาโดยสัญชาตญาณ ทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อรอคอยอยู่ หันมาเหมือนจะรู้ ตาต่อตาสบกัน

                       หนูกลับมาแล้วหรือ คุณสานิต กับคุณอนุพรมาเยี่ยม  คุณสมบูรณ์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

                       สวัสดีค่ะ ญาดาทักทายคนทั้งสอง

                       สบายดีหรือ...ญาดา ศานิตถามขึ้นหลังจากที่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆคุณสมบูรณ์

                       ก็สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ เสียงญาดารวนนิดๆ 

                       แล้วหัวหน้าล่ะค่ะ สบายดีหรือเปล่า

                       ผมหรือ..ก็สบายตามที่เห็น

                       หนูมาก็ดีแล้ว      เป็นเพื่อนคุยกับคุณสองคนนี่ก่อน พ่อยังปลูกกล้วยไม้ค้างอยู่ ต้องขอตัว คุณสมบูรณ์พูดพร้อมกับลุกขึ้น

                       ผมขอไปด้วยคน ตอนนี้ที่บ้านกำลังเล่นกล้วยไม้อยู่พอดี เผื่อจะได้พันธุ์ใหม่ๆเอาไปปลูกบ้าง อนุพรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

                       ผมอยากคุยกับคุณ  ศานิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ อนุพรและคุณสมบูรณ์ออกไปแล้ว

                       หัวหน้ามีอะไรจะพูดกับดิฉันหรือคะ

                       ขอร้อง อย่าเรียกหัวหน้าได้ไหม ผมไม่ชอบ ดูมันห่างเหิน  ผมมาที่นี่เพื่อมาทวงคำตอบ  เมื่อผมย้ายไป ผมไม่มีความสุขเลยกลัวไปสารพัด ยิ่งคุณไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย

                       แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อมา  เสียงของญาดาอ่อนลง

                       ผมย้ายไปก็รับมอบงาน เคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลา “ผมรักคุณ”  ศานิตค่อยๆจับมือนุ่มนั้นมากุมอย่างรักใคร่ถนุถนอม

                       ตาต่อตาสบกัน  ยิ้มให้กัน  ถามหาห่วงใยกัน  เพียงเท่านี้  ความรัก ความเข้าใจก็กลับคืนมา

              เมื่อความรักเรียกหา  รอช้าอยู่ไย รีบรับรักไป ก่อนรักนั้นจะร่วงโรยรา

                                         

              นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น  ดูสดใส   ผมยาวสลวยยามหล่อนปล่อยผม  ต้นคองามระหงยามหล่อนเกล้าผมไว้   ร่างเล็กบอบบางแต่สมส่วนที่ซ่อนไว้ได้เครื่องแต่งกายเรียบๆ แต่ดูน่ารัก  ปากของหล่อนเหมือนกระจับเล็กๆ ริมฝีปากเป็นสีชมพูระเรื่อโดยมิได้เคลือบลิปสติก มองดูหล่อนแล้วสบายใจ ยิ่งยามเมื่อหล่อนเผลอ   คงไม่รู้ว่าเราแอบรักอยู่  รักตั้งแต่แรกเห็น  เราจะต้องบอกให้หล่อนรู้   “ผมรักคุณ”

                       อะไรของแก  จู่ๆก็ตะโกนลั่นบ้าน

                       แล้วเอ็งเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง

                       ฉันกินกาแฟหมดไปแก้วหนึ่งแล้ว เห็นแก่นอนยิ้มอย่างมีความสุขเลยไม่อยากขัด

                       รู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข

                       ก็เห็นแก่นอนยิ้ม  ฉันก็ว่ามีความสุขนะซิ  อนุพงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจ

                       วันนี้ว่างใช่ไหม

                       ก็ว่างจึงได้มาหาแกตามนัด  ว่าแต่จะไปไหนหรือ

                       จะชวนไปธุระที่อำเภอที่เพิ่งย้ายมาหน่อย

                       ไปทำไม ? แกเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือน และวันนี้ก็วันเสาร์เขาไม่ทำงานกัน

                       แล้วใครว่าฉันจะไปที่ทำงาน ฉันจะไปเยี่ยมคนรู้จักต่างหาก

                       คนรู้จักหรือแฟนกันแน่ฉันรู้มาว่าตอนย้ายมาแก่มาแต่ตัวเท่านั้นไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย

                       ชักจะรู้มาก  จะไปหรือไม่ไป

                       ไปก็ได้ ฉันอยากรู้แกไปแล้วจะสุขหรือทุกข์กลับมา

     

                       เมื่อญาดากลับจากตลาดก็พบว่าคุณพ่อกำลังมีแขก เสียงคุยปนกับเสียงหัวเราะ ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปหลังบ้านต้องหยุดชะงัก อดเยี่ยมหน้าไปดูไม่ได้

                       “หัวหน้า”เสียงกระซิบของหล่อนที่ผ่านริมฝีปากออกมาโดยสัญชาตญาณ ทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อรอคอยอยู่ หันมาเหมือนจะรู้ ตาต่อตาสบกัน

                       หนูกลับมาแล้วหรือ คุณสานิต กับคุณอนุพรมาเยี่ยม  คุณสมบูรณ์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

                       สวัสดีค่ะ ญาดาทักทายคนทั้งสอง

                       สบายดีหรือ...ญาดา ศานิตถามขึ้นหลังจากที่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆคุณสมบูรณ์

                       ก็สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ เสียงญาดารวนนิดๆ 

                       แล้วหัวหน้าล่ะค่ะ สบายดีหรือเปล่า

                       ผมหรือ..ก็สบายตามที่เห็น

                       หนูมาก็ดีแล้ว      เป็นเพื่อนคุยกับคุณสองคนนี่ก่อน พ่อยังปลูกกล้วยไม้ค้างอยู่ ต้องขอตัว คุณสมบูรณ์พูดพร้อมกับลุกขึ้น

                       ผมขอไปด้วยคน ตอนนี้ที่บ้านกำลังเล่นกล้วยไม้อยู่พอดี เผื่อจะได้พันธุ์ใหม่ๆเอาไปปลูกบ้าง อนุพรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

                       ผมอยากคุยกับคุณ  ศานิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ อนุพรและคุณสมบูรณ์ออกไปแล้ว

                       หัวหน้ามีอะไรจะพูดกับดิฉันหรือคะ

                       ขอร้อง อย่าเรียกหัวหน้าได้ไหม ผมไม่ชอบ ดูมันห่างเหิน  ผมมาที่นี่เพื่อมาทวงคำตอบ  เมื่อผมย้ายไป ผมไม่มีความสุขเลยกลัวไปสารพัด ยิ่งคุณไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย

                       แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อมา  เสียงของญาดาอ่อนลง

                       ผมย้ายไปก็รับมอบงาน เคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลา “ผมรักคุณ”  ศานิตค่อยๆจับมือนุ่มนั้นมากุมอย่างรักใคร่ถนุถนอม

                       ตาต่อตาสบกัน  ยิ้มให้กัน  ถามหาห่วงใยกัน  เพียงเท่านี้  ความรัก ความเข้าใจก็กลับคืนมา

              เมื่อความรักเรียกหา  รอช้าอยู่ไย รีบรับรักไป ก่อนรักนั้นจะร่วงโรยรา

                                         

              นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น  ดูสดใส   ผมยาวสลวยยามหล่อนปล่อยผม  ต้นคองามระหงยามหล่อนเกล้าผมไว้   ร่างเล็กบอบบางแต่สมส่วนที่ซ่อนไว้ได้เครื่องแต่งกายเรียบๆ แต่ดูน่ารัก  ปากของหล่อนเหมือนกระจับเล็กๆ ริมฝีปากเป็นสีชมพูระเรื่อโดยมิได้เคลือบลิปสติก มองดูหล่อนแล้วสบายใจ ยิ่งยามเมื่อหล่อนเผลอ   คงไม่รู้ว่าเราแอบรักอยู่  รักตั้งแต่แรกเห็น  เราจะต้องบอกให้หล่อนรู้   “ผมรักคุณ”

                       อะไรของแก  จู่ๆก็ตะโกนลั่นบ้าน

                       แล้วเอ็งเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง

                       ฉันกินกาแฟหมดไปแก้วหนึ่งแล้ว เห็นแก่นอนยิ้มอย่างมีความสุขเลยไม่อยากขัด

                       รู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข

                       ก็เห็นแก่นอนยิ้ม  ฉันก็ว่ามีความสุขนะซิ  อนุพงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจ

                       วันนี้ว่างใช่ไหม

                       ก็ว่างจึงได้มาหาแกตามนัด  ว่าแต่จะไปไหนหรือ

                       จะชวนไปธุระที่อำเภอที่เพิ่งย้ายมาหน่อย

                       ไปทำไม ? แกเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือน และวันนี้ก็วันเสาร์เขาไม่ทำงานกัน

                       แล้วใครว่าฉันจะไปที่ทำงาน ฉันจะไปเยี่ยมคนรู้จักต่างหาก

                       คนรู้จักหรือแฟนกันแน่ฉันรู้มาว่าตอนย้ายมาแก่มาแต่ตัวเท่านั้นไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย

                       ชักจะรู้มาก  จะไปหรือไม่ไป

                       ไปก็ได้ ฉันอยากรู้แกไปแล้วจะสุขหรือทุกข์กลับมา

     

                       เมื่อญาดากลับจากตลาดก็พบว่าคุณพ่อกำลังมีแขก เสียงคุยปนกับเสียงหัวเราะ ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปหลังบ้านต้องหยุดชะงัก อดเยี่ยมหน้าไปดูไม่ได้

                       “หัวหน้า”เสียงกระซิบของหล่อนที่ผ่านริมฝีปากออกมาโดยสัญชาตญาณ ทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อรอคอยอยู่ หันมาเหมือนจะรู้ ตาต่อตาสบกัน

                       หนูกลับมาแล้วหรือ คุณสานิต กับคุณอนุพรมาเยี่ยม  คุณสมบูรณ์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

                       สวัสดีค่ะ ญาดาทักทายคนทั้งสอง

                       สบายดีหรือ...ญาดา ศานิตถามขึ้นหลังจากที่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆคุณสมบูรณ์

                       ก็สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ เสียงญาดารวนนิดๆ 

                       แล้วหัวหน้าล่ะค่ะ สบายดีหรือเปล่า

                       ผมหรือ..ก็สบายตามที่เห็น

                       หนูมาก็ดีแล้ว      เป็นเพื่อนคุยกับคุณสองคนนี่ก่อน พ่อยังปลูกกล้วยไม้ค้างอยู่ ต้องขอตัว คุณสมบูรณ์พูดพร้อมกับลุกขึ้น

                       ผมขอไปด้วยคน ตอนนี้ที่บ้านกำลังเล่นกล้วยไม้อยู่พอดี เผื่อจะได้พันธุ์ใหม่ๆเอาไปปลูกบ้าง อนุพรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

                       ผมอยากคุยกับคุณ  ศานิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ อนุพรและคุณสมบูรณ์ออกไปแล้ว

                       หัวหน้ามีอะไรจะพูดกับดิฉันหรือคะ

                       ขอร้อง อย่าเรียกหัวหน้าได้ไหม ผมไม่ชอบ ดูมันห่างเหิน  ผมมาที่นี่เพื่อมาทวงคำตอบ  เมื่อผมย้ายไป ผมไม่มีความสุขเลยกลัวไปสารพัด ยิ่งคุณไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย

                       แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อมา  เสียงของญาดาอ่อนลง

                       ผมย้ายไปก็รับมอบงาน เคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลา “ผมรักคุณ”  ศานิตค่อยๆจับมือนุ่มนั้นมากุมอย่างรักใคร่ถนุถนอม

                       ตาต่อตาสบกัน  ยิ้มให้กัน  ถามหาห่วงใยกัน  เพียงเท่านี้  ความรัก ความเข้าใจก็กลับคืนมา

              เมื่อความรักเรียกหา  รอช้าอยู่ไย รีบรับรักไป ก่อนรักนั้นจะร่วงโรยรา

                                         

              นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น  ดูสดใส   ผมยาวสลวยยามหล่อนปล่อยผม  ต้นคองามระหงยามหล่อนเกล้าผมไว้   ร่างเล็กบอบบางแต่สมส่วนที่ซ่อนไว้ได้เครื่องแต่งกายเรียบๆ แต่ดูน่ารัก  ปากของหล่อนเหมือนกระจับเล็กๆ ริมฝีปากเป็นสีชมพูระเรื่อโดยมิได้เคลือบลิปสติก มองดูหล่อนแล้วสบายใจ ยิ่งยามเมื่อหล่อนเผลอ   คงไม่รู้ว่าเราแอบรักอยู่  รักตั้งแต่แรกเห็น  เราจะต้องบอกให้หล่อนรู้   “ผมรักคุณ”

                       อะไรของแก  จู่ๆก็ตะโกนลั่นบ้าน

                       แล้วเอ็งเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง

                       ฉันกินกาแฟหมดไปแก้วหนึ่งแล้ว เห็นแก่นอนยิ้มอย่างมีความสุขเลยไม่อยากขัด

                       รู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข

                       ก็เห็นแก่นอนยิ้ม  ฉันก็ว่ามีความสุขนะซิ  อนุพงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจ

                       วันนี้ว่างใช่ไหม

                       ก็ว่างจึงได้มาหาแกตามนัด  ว่าแต่จะไปไหนหรือ

                       จะชวนไปธุระที่อำเภอที่เพิ่งย้ายมาหน่อย

                       ไปทำไม ? แกเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือน และวันนี้ก็วันเสาร์เขาไม่ทำงานกัน

                       แล้วใครว่าฉันจะไปที่ทำงาน ฉันจะไปเยี่ยมคนรู้จักต่างหาก

                       คนรู้จักหรือแฟนกันแน่ฉันรู้มาว่าตอนย้ายมาแก่มาแต่ตัวเท่านั้นไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย

                       ชักจะรู้มาก  จะไปหรือไม่ไป

                       ไปก็ได้ ฉันอยากรู้แกไปแล้วจะสุขหรือทุกข์กลับมา

     

                       เมื่อญาดากลับจากตลาดก็พบว่าคุณพ่อกำลังมีแขก เสียงคุยปนกับเสียงหัวเราะ ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปหลังบ้านต้องหยุดชะงัก อดเยี่ยมหน้าไปดูไม่ได้

                       “หัวหน้า”เสียงกระซิบของหล่อนที่ผ่านริมฝีปากออกมาโดยสัญชาตญาณ ทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อรอคอยอยู่ หันมาเหมือนจะรู้ ตาต่อตาสบกัน

                       หนูกลับมาแล้วหรือ คุณสานิต กับคุณอนุพรมาเยี่ยม  คุณสมบูรณ์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

                       สวัสดีค่ะ ญาดาทักทายคนทั้งสอง

                       สบายดีหรือ...ญาดา ศานิตถามขึ้นหลังจากที่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆคุณสมบูรณ์

                       ก็สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ เสียงญาดารวนนิดๆ 

                       แล้วหัวหน้าล่ะค่ะ สบายดีหรือเปล่า

                       ผมหรือ..ก็สบายตามที่เห็น

                       หนูมาก็ดีแล้ว      เป็นเพื่อนคุยกับคุณสองคนนี่ก่อน พ่อยังปลูกกล้วยไม้ค้างอยู่ ต้องขอตัว คุณสมบูรณ์พูดพร้อมกับลุกขึ้น

                       ผมขอไปด้วยคน ตอนนี้ที่บ้านกำลังเล่นกล้วยไม้อยู่พอดี เผื่อจะได้พันธุ์ใหม่ๆเอาไปปลูกบ้าง อนุพรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

                       ผมอยากคุยกับคุณ  ศานิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ อนุพรและคุณสมบูรณ์ออกไปแล้ว

                       หัวหน้ามีอะไรจะพูดกับดิฉันหรือคะ

                       ขอร้อง อย่าเรียกหัวหน้าได้ไหม ผมไม่ชอบ ดูมันห่างเหิน  ผมมาที่นี่เพื่อมาทวงคำตอบ  เมื่อผมย้ายไป ผมไม่มีความสุขเลยกลัวไปสารพัด ยิ่งคุณไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย

                       แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อมา  เสียงของญาดาอ่อนลง

                       ผมย้ายไปก็รับมอบงาน เคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลา “ผมรักคุณ”  ศานิตค่อยๆจับมือนุ่มนั้นมากุมอย่างรักใคร่ถนุถนอม

                       ตาต่อตาสบกัน  ยิ้มให้กัน  ถามหาห่วงใยกัน  เพียงเท่านี้  ความรัก ความเข้าใจก็กลับคืนมา

              เมื่อความรักเรียกหา  รอช้าอยู่ไย รีบรับรักไป ก่อนรักนั้นจะร่วงโรยรา

                                         

              นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น  ดูสดใส   ผมยาวสลวยยามหล่อนปล่อยผม  ต้นคองามระหงยามหล่อนเกล้าผมไว้   ร่างเล็กบอบบางแต่สมส่วนที่ซ่อนไว้ได้เครื่องแต่งกายเรียบๆ แต่ดูน่ารัก  ปากของหล่อนเหมือนกระจับเล็กๆ ริมฝีปากเป็นสีชมพูระเรื่อโดยมิได้เคลือบลิปสติก มองดูหล่อนแล้วสบายใจ ยิ่งยามเมื่อหล่อนเผลอ   คงไม่รู้ว่าเราแอบรักอยู่  รักตั้งแต่แรกเห็น  เราจะต้องบอกให้หล่อนรู้   “ผมรักคุณ”

                       อะไรของแก  จู่ๆก็ตะโกนลั่นบ้าน

                       แล้วเอ็งเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง

                       ฉันกินกาแฟหมดไปแก้วหนึ่งแล้ว เห็นแก่นอนยิ้มอย่างมีความสุขเลยไม่อยากขัด

                       รู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข

                       ก็เห็นแก่นอนยิ้ม  ฉันก็ว่ามีความสุขนะซิ  อนุพงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจ

                       วันนี้ว่างใช่ไหม

                       ก็ว่างจึงได้มาหาแกตามนัด  ว่าแต่จะไปไหนหรือ

                       จะชวนไปธุระที่อำเภอที่เพิ่งย้ายมาหน่อย

                       ไปทำไม ? แกเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือน และวันนี้ก็วันเสาร์เขาไม่ทำงานกัน

                       แล้วใครว่าฉันจะไปที่ทำงาน ฉันจะไปเยี่ยมคนรู้จักต่างหาก

                       คนรู้จักหรือแฟนกันแน่ฉันรู้มาว่าตอนย้ายมาแก่มาแต่ตัวเท่านั้นไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย

                       ชักจะรู้มาก  จะไปหรือไม่ไป

                       ไปก็ได้ ฉันอยากรู้แกไปแล้วจะสุขหรือทุกข์กลับมา

     

                       เมื่อญาดากลับจากตลาดก็พบว่าคุณพ่อกำลังมีแขก เสียงคุยปนกับเสียงหัวเราะ ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปหลังบ้านต้องหยุดชะงัก อดเยี่ยมหน้าไปดูไม่ได้

                       “หัวหน้า”เสียงกระซิบของหล่อนที่ผ่านริมฝีปากออกมาโดยสัญชาตญาณ ทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อรอคอยอยู่ หันมาเหมือนจะรู้ ตาต่อตาสบกัน

                       หนูกลับมาแล้วหรือ คุณสานิต กับคุณอนุพรมาเยี่ยม  คุณสมบูรณ์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

                       สวัสดีค่ะ ญาดาทักทายคนทั้งสอง

                       สบายดีหรือ...ญาดา ศานิตถามขึ้นหลังจากที่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆคุณสมบูรณ์

                       ก็สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ เสียงญาดารวนนิดๆ 

                       แล้วหัวหน้าล่ะค่ะ สบายดีหรือเปล่า

                       ผมหรือ..ก็สบายตามที่เห็น

                       หนูมาก็ดีแล้ว      เป็นเพื่อนคุยกับคุณสองคนนี่ก่อน พ่อยังปลูกกล้วยไม้ค้างอยู่ ต้องขอตัว คุณสมบูรณ์พูดพร้อมกับลุกขึ้น

                       ผมขอไปด้วยคน ตอนนี้ที่บ้านกำลังเล่นกล้วยไม้อยู่พอดี เผื่อจะได้พันธุ์ใหม่ๆเอาไปปลูกบ้าง อนุพรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

                       ผมอยากคุยกับคุณ  ศานิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ อนุพรและคุณสมบูรณ์ออกไปแล้ว

                       หัวหน้ามีอะไรจะพูดกับดิฉันหรือคะ

                       ขอร้อง อย่าเรียกหัวหน้าได้ไหม ผมไม่ชอบ ดูมันห่างเหิน  ผมมาที่นี่เพื่อมาทวงคำตอบ  เมื่อผมย้ายไป ผมไม่มีความสุขเลยกลัวไปสารพัด ยิ่งคุณไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย

                       แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อมา  เสียงของญาดาอ่อนลง

                       ผมย้ายไปก็รับมอบงาน เคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลา “ผมรักคุณ”  ศานิตค่อยๆจับมือนุ่มนั้นมากุมอย่างรักใคร่ถนุถนอม

                       ตาต่อตาสบกัน  ยิ้มให้กัน  ถามหาห่วงใยกัน  เพียงเท่านี้  ความรัก ความเข้าใจก็กลับคืนมา

              เมื่อความรักเรียกหา  รอช้าอยู่ไย รีบรับรักไป ก่อนรักนั้นจะร่วงโรยรา

                                         

              นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น  ดูสดใส   ผมยาวสลวยยามหล่อนปล่อยผม  ต้นคองามระหงยามหล่อนเกล้าผมไว้   ร่างเล็กบอบบางแต่สมส่วนที่ซ่อนไว้ได้เครื่องแต่งกายเรียบๆ แต่ดูน่ารัก  ปากของหล่อนเหมือนกระจับเล็กๆ ริมฝีปากเป็นสีชมพูระเรื่อโดยมิได้เคลือบลิปสติก มองดูหล่อนแล้วสบายใจ ยิ่งยามเมื่อหล่อนเผลอ   คงไม่รู้ว่าเราแอบรักอยู่  รักตั้งแต่แรกเห็น  เราจะต้องบอกให้หล่อนรู้   “ผมรักคุณ”

                       อะไรของแก  จู่ๆก็ตะโกนลั่นบ้าน

                       แล้วเอ็งเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง

                       ฉันกินกาแฟหมดไปแก้วหนึ่งแล้ว เห็นแก่นอนยิ้มอย่างมีความสุขเลยไม่อยากขัด

                       รู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข

                       ก็เห็นแก่นอนยิ้ม  ฉันก็ว่ามีความสุขนะซิ  อนุพงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจ

                       วันนี้ว่างใช่ไหม

                       ก็ว่างจึงได้มาหาแกตามนัด  ว่าแต่จะไปไหนหรือ

                       จะชวนไปธุระที่อำเภอที่เพิ่งย้ายมาหน่อย

                       ไปทำไม ? แกเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือน และวันนี้ก็วันเสาร์เขาไม่ทำงานกัน

                       แล้วใครว่าฉันจะไปที่ทำงาน ฉันจะไปเยี่ยมคนรู้จักต่างหาก

                       คนรู้จักหรือแฟนกันแน่ฉันรู้มาว่าตอนย้ายมาแก่มาแต่ตัวเท่านั้นไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย

                       ชักจะรู้มาก  จะไปหรือไม่ไป

                       ไปก็ได้ ฉันอยากรู้แกไปแล้วจะสุขหรือทุกข์กลับมา

     

                       เมื่อญาดากลับจากตลาดก็พบว่าคุณพ่อกำลังมีแขก เสียงคุยปนกับเสียงหัวเราะ ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปหลังบ้านต้องหยุดชะงัก อดเยี่ยมหน้าไปดูไม่ได้

                       “หัวหน้า”เสียงกระซิบของหล่อนที่ผ่านริมฝีปากออกมาโดยสัญชาตญาณ ทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อรอคอยอยู่ หันมาเหมือนจะรู้ ตาต่อตาสบกัน

                       หนูกลับมาแล้วหรือ คุณสานิต กับคุณอนุพรมาเยี่ยม  คุณสมบูรณ์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

                       สวัสดีค่ะ ญาดาทักทายคนทั้งสอง

                       สบายดีหรือ...ญาดา ศานิตถามขึ้นหลังจากที่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆคุณสมบูรณ์

                       ก็สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ เสียงญาดารวนนิดๆ 

                       แล้วหัวหน้าล่ะค่ะ สบายดีหรือเปล่า

                       ผมหรือ..ก็สบายตามที่เห็น

                       หนูมาก็ดีแล้ว      เป็นเพื่อนคุยกับคุณสองคนนี่ก่อน พ่อยังปลูกกล้วยไม้ค้างอยู่ ต้องขอตัว คุณสมบูรณ์พูดพร้อมกับลุกขึ้น

                       ผมขอไปด้วยคน ตอนนี้ที่บ้านกำลังเล่นกล้วยไม้อยู่พอดี เผื่อจะได้พันธุ์ใหม่ๆเอาไปปลูกบ้าง อนุพรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

                       ผมอยากคุยกับคุณ  ศานิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ อนุพรและคุณสมบูรณ์ออกไปแล้ว

                       หัวหน้ามีอะไรจะพูดกับดิฉันหรือคะ

                       ขอร้อง อย่าเรียกหัวหน้าได้ไหม ผมไม่ชอบ ดูมันห่างเหิน  ผมมาที่นี่เพื่อมาทวงคำตอบ  เมื่อผมย้ายไป ผมไม่มีความสุขเลยกลัวไปสารพัด ยิ่งคุณไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย

                       แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อมา  เสียงของญาดาอ่อนลง

                       ผมย้ายไปก็รับมอบงาน เคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลา “ผมรักคุณ”  ศานิตค่อยๆจับมือนุ่มนั้นมากุมอย่างรักใคร่ถนุถนอม

                       ตาต่อตาสบกัน  ยิ้มให้กัน  ถามหาห่วงใยกัน  เพียงเท่านี้  ความรัก ความเข้าใจก็กลับคืนมา

              เมื่อความรักเรียกหา  รอช้าอยู่ไย รีบรับรักไป ก่อนรักนั้นจะร่วงโรยรา

                                         

              นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น  ดูสดใส   ผมยาวสลวยยามหล่อนปล่อยผม  ต้นคองามระหงยามหล่อนเกล้าผมไว้   ร่างเล็กบอบบางแต่สมส่วนที่ซ่อนไว้ได้เครื่องแต่งกายเรียบๆ แต่ดูน่ารัก  ปากของหล่อนเหมือนกระจับเล็กๆ ริมฝีปากเป็นสีชมพูระเรื่อโดยมิได้เคลือบลิปสติก มองดูหล่อนแล้วสบายใจ ยิ่งยามเมื่อหล่อนเผลอ   คงไม่รู้ว่าเราแอบรักอยู่  รักตั้งแต่แรกเห็น  เราจะต้องบอกให้หล่อนรู้   “ผมรักคุณ”

                       อะไรของแก  จู่ๆก็ตะโกนลั่นบ้าน

                       แล้วเอ็งเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง

                       ฉันกินกาแฟหมดไปแก้วหนึ่งแล้ว เห็นแก่นอนยิ้มอย่างมีความสุขเลยไม่อยากขัด

                       รู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข

                       ก็เห็นแก่นอนยิ้ม  ฉันก็ว่ามีความสุขนะซิ  อนุพงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจ

                       วันนี้ว่างใช่ไหม

                       ก็ว่างจึงได้มาหาแกตามนัด  ว่าแต่จะไปไหนหรือ

                       จะชวนไปธุระที่อำเภอที่เพิ่งย้ายมาหน่อย

                       ไปทำไม ? แกเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือน และวันนี้ก็วันเสาร์เขาไม่ทำงานกัน

                       แล้วใครว่าฉันจะไปที่ทำงาน ฉันจะไปเยี่ยมคนรู้จักต่างหาก

                       คนรู้จักหรือแฟนกันแน่ฉันรู้มาว่าตอนย้ายมาแก่มาแต่ตัวเท่านั้นไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย

                       ชักจะรู้มาก  จะไปหรือไม่ไป

                       ไปก็ได้ ฉันอยากรู้แกไปแล้วจะสุขหรือทุกข์กลับมา

     

                       เมื่อญาดากลับจากตลาดก็พบว่าคุณพ่อกำลังมีแขก เสียงคุยปนกับเสียงหัวเราะ ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปหลังบ้านต้องหยุดชะงัก อดเยี่ยมหน้าไปดูไม่ได้

                       “หัวหน้า”เสียงกระซิบของหล่อนที่ผ่านริมฝีปากออกมาโดยสัญชาตญาณ ทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อรอคอยอยู่ หันมาเหมือนจะรู้ ตาต่อตาสบกัน

                       หนูกลับมาแล้วหรือ คุณสานิต กับคุณอนุพรมาเยี่ยม  คุณสมบูรณ์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

                       สวัสดีค่ะ ญาดาทักทายคนทั้งสอง

                       สบายดีหรือ...ญาดา ศานิตถามขึ้นหลังจากที่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆคุณสมบูรณ์

                       ก็สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ เสียงญาดารวนนิดๆ 

                       แล้วหัวหน้าล่ะค่ะ สบายดีหรือเปล่า

                       ผมหรือ..ก็สบายตามที่เห็น

                       หนูมาก็ดีแล้ว      เป็นเพื่อนคุยกับคุณสองคนนี่ก่อน พ่อยังปลูกกล้วยไม้ค้างอยู่ ต้องขอตัว คุณสมบูรณ์พูดพร้อมกับลุกขึ้น

                       ผมขอไปด้วยคน ตอนนี้ที่บ้านกำลังเล่นกล้วยไม้อยู่พอดี เผื่อจะได้พันธุ์ใหม่ๆเอาไปปลูกบ้าง อนุพรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

                       ผมอยากคุยกับคุณ  ศานิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ อนุพรและคุณสมบูรณ์ออกไปแล้ว

                       หัวหน้ามีอะไรจะพูดกับดิฉันหรือคะ

                       ขอร้อง อย่าเรียกหัวหน้าได้ไหม ผมไม่ชอบ ดูมันห่างเหิน  ผมมาที่นี่เพื่อมาทวงคำตอบ  เมื่อผมย้ายไป ผมไม่มีความสุขเลยกลัวไปสารพัด ยิ่งคุณไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย

                       แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อมา  เสียงของญาดาอ่อนลง

                       ผมย้ายไปก็รับมอบงาน เคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลา “ผมรักคุณ”  ศานิตค่อยๆจับมือนุ่มนั้นมากุมอย่างรักใคร่ถนุถนอม

                       ตาต่อตาสบกัน  ยิ้มให้กัน  ถามหาห่วงใยกัน  เพียงเท่านี้  ความรัก ความเข้าใจก็กลับคืนมา

              เมื่อความรักเรียกหา  รอช้าอยู่ไย รีบรับรักไป ก่อนรักนั้นจะร่วงโรยรา

                                         

              นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น  ดูสดใส   ผมยาวสลวยยามหล่อนปล่อยผม  ต้นคองามระหงยามหล่อนเกล้าผมไว้   ร่างเล็กบอบบางแต่สมส่วนที่ซ่อนไว้ได้เครื่องแต่งกายเรียบๆ แต่ดูน่ารัก  ปากของหล่อนเหมือนกระจับเล็กๆ ริมฝีปากเป็นสีชมพูระเรื่อโดยมิได้เคลือบลิปสติก มองดูหล่อนแล้วสบายใจ ยิ่งยามเมื่อหล่อนเผลอ   คงไม่รู้ว่าเราแอบรักอยู่  รักตั้งแต่แรกเห็น  เราจะต้องบอกให้หล่อนรู้   “ผมรักคุณ”

                       อะไรของแก  จู่ๆก็ตะโกนลั่นบ้าน

                       แล้วเอ็งเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง

                       ฉันกินกาแฟหมดไปแก้วหนึ่งแล้ว เห็นแก่นอนยิ้มอย่างมีความสุขเลยไม่อยากขัด

                       รู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข

                       ก็เห็นแก่นอนยิ้ม  ฉันก็ว่ามีความสุขนะซิ  อนุพงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจ

                       วันนี้ว่างใช่ไหม

                       ก็ว่างจึงได้มาหาแกตามนัด  ว่าแต่จะไปไหนหรือ

                       จะชวนไปธุระที่อำเภอที่เพิ่งย้ายมาหน่อย

                       ไปทำไม ? แกเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือน และวันนี้ก็วันเสาร์เขาไม่ทำงานกัน

                       แล้วใครว่าฉันจะไปที่ทำงาน ฉันจะไปเยี่ยมคนรู้จักต่างหาก

                       คนรู้จักหรือแฟนกันแน่ฉันรู้มาว่าตอนย้ายมาแก่มาแต่ตัวเท่านั้นไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย

                       ชักจะรู้มาก  จะไปหรือไม่ไป

                       ไปก็ได้ ฉันอยากรู้แกไปแล้วจะสุขหรือทุกข์กลับมา

     

                       เมื่อญาดากลับจากตลาดก็พบว่าคุณพ่อกำลังมีแขก เสียงคุยปนกับเสียงหัวเราะ ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปหลังบ้านต้องหยุดชะงัก อดเยี่ยมหน้าไปดูไม่ได้

                       “หัวหน้า”เสียงกระซิบของหล่อนที่ผ่านริมฝีปากออกมาโดยสัญชาตญาณ ทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อรอคอยอยู่ หันมาเหมือนจะรู้ ตาต่อตาสบกัน

                       หนูกลับมาแล้วหรือ คุณสานิต กับคุณอนุพรมาเยี่ยม  คุณสมบูรณ์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

                       สวัสดีค่ะ ญาดาทักทายคนทั้งสอง

                       สบายดีหรือ...ญาดา ศานิตถามขึ้นหลังจากที่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆคุณสมบูรณ์

                       ก็สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ เสียงญาดารวนนิดๆ 

                       แล้วหัวหน้าล่ะค่ะ สบายดีหรือเปล่า

                       ผมหรือ..ก็สบายตามที่เห็น

                       หนูมาก็ดีแล้ว      เป็นเพื่อนคุยกับคุณสองคนนี่ก่อน พ่อยังปลูกกล้วยไม้ค้างอยู่ ต้องขอตัว คุณสมบูรณ์พูดพร้อมกับลุกขึ้น

                       ผมขอไปด้วยคน ตอนนี้ที่บ้านกำลังเล่นกล้วยไม้อยู่พอดี เผื่อจะได้พันธุ์ใหม่ๆเอาไปปลูกบ้าง อนุพรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

                       ผมอยากคุยกับคุณ  ศานิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ อนุพรและคุณสมบูรณ์ออกไปแล้ว

                       หัวหน้ามีอะไรจะพูดกับดิฉันหรือคะ

                       ขอร้อง อย่าเรียกหัวหน้าได้ไหม ผมไม่ชอบ ดูมันห่างเหิน  ผมมาที่นี่เพื่อมาทวงคำตอบ  เมื่อผมย้ายไป ผมไม่มีความสุขเลยกลัวไปสารพัด ยิ่งคุณไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย

                       แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อมา  เสียงของญาดาอ่อนลง

                       ผมย้ายไปก็รับมอบงาน เคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลา “ผมรักคุณ”  ศานิตค่อยๆจับมือนุ่มนั้นมากุมอย่างรักใคร่ถนุถนอม

                       ตาต่อตาสบกัน  ยิ้มให้กัน  ถามหาห่วงใยกัน  เพียงเท่านี้  ความรัก ความเข้าใจก็กลับคืนมา

              เมื่อความรักเรียกหา  รอช้าอยู่ไย รีบรับรักไป ก่อนรักนั้นจะร่วงโรยรา

                                         
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×