ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่อง...เมื่อความรักเรียกหา

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่3

    • อัปเดตล่าสุด 10 ส.ค. 56


    เมื่อแยกกับเพื่อน หญิงสาวเดินเรื่อยไปตามทางที่จะไปยังที่ทำการ

      สำนักงานการประถมศึกษา”  เดินมาถึงหน้าห้อง  หล่อนชะเง้อมองเข้าไปในห้องเห็นคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ สอง สาม คน  ญาดาเดินเลยไปยังโต๊ะที่มีคนกำลังก้มๆเงยๆอยู่คล้ายจะค้นหาอะไรสักอย่าง

              ขอโทษ ค่ะ ดิฉันต้องการพบหัวหน้าการสำนักงาน.... ..ญาดาพู ดเบาๆพอได้ยิน 

         ชายหนุ่ม เฃยหน้ามองผู้ที่เข้ามาใหม่แล้วเผยยิ้มนิดๆ  ก่อนจะพูดออกไป

        “เชิญนั่งก่อนครับ”   พูดเสร็จก็ก้มหน้าก้มตาเหมือนหาอะไรอยู่

          ญาดานั่งลงบนเก้าอี้ที่วางอยู่ข้างๆ หล่อนหันไปมองรอบๆข้าง  กลุ่มคนที่กำลังคุยกันเมื่อหล่อนเดินเข้ามา ตอนนี้กำลังทำงานกันอย่างขะมักเขม้น หล่อนกวาดสายตาไปเรื่อย ผ่านที่กำบังทะลุเข้าไปในห้องเล็กๆ ที่มีพวกตู้รายเรียงเป็นฝากั้นไว้ ให้รู้ว่าเป็นห้อง  “คงจะเป็นห้องหัวหน้า”  ญาดาคิด

    10 นาที ผ่านไป  ญาดานั่งกระสับกระส่าย คนตรงหน้าก็ไม่มีวี่แววว่าจะพูดหรือสนทนาด้วย ยังคงค้นหาของอยู่เหมือนเดิม   เดี๋ยวหยิบแฟ้มนั้น เปิดแฟ้มนี้ เหมือนกับว่าไม่มีหล่อนนั่งอยู่

         “ นี่คุณ  ฉันต้องการพบหัวหน้า  ไม่ใช่มานั่งดูคุณรื้อของ” เสียงของญาดาแสดงความไม่พอใจ

        ก็ผมให้คุณนั่งรอก่อน  ชายหนุ่มพูดยิ้มๆไม่สนใจกับอารมณ์ของหญิงสาว

       แต่ฉันนั่งนานแล้วไม่เห็นรู้เรื่องอะไร

      โน้นมาแล้ว คนที่จะทำให้คุณร็เรื่อง

       ญาดาหันไปมอง เห็นผู้หญิงรูปร่าง ค่อนข้างอ้วน แต่งกายสุภาพ  อายุคงจะมากกว่าหล่อน หล่อนคาดคะเนจากหน้าตา  ผู้หญิงคนนั้นวางกระเป๋าแล้วหย่อนกายลงจะนั่ง  เสียงของคนที่กำลังหาของอยู่ดังขึ้น

      “โสภา ช่วยทำธุระให้คุณคนนี้หน่อย”   เสียงของชายหนุ่มเหมือนของคำสั่ง

        “เชิญทางนี้ค่ะ”  เสียงของหญิงสาวมิได้แสดงอาการไม่พอใจที่ถูกใช้ให้ทำงานทันทีที่มาถึง

       ดิฉันมารายงานตัว เรื่องที่ย้ายมาประจำในอำเภอนี้   นี่ค่ะหนังสือ

              ขอโทษด้วยที่ทำให้รอนาน  โสภาพูดขอโทษเมื่อเห็นสีหน้าของญาดาไม่ยอมยิ้มตอบเมื่อหล่อนยิ้มให้

              ไม่เป็นไรค่ะ  เป็นธรรมดาของอำเภอที่เปิดทำการใหม่ ก็เป็นอย่างนี้แหละ

     ญาดาพูดเรื่อยเปื่อยไปโดยไม่สนใจว่าคนฟังจะรู้สึกอย่างไร ยิ่งผู้ที่กำลังเดินเข้าไปในห้องเล็กนั้น  ถึงกับยืนมองหล่อนครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินหายไปในห้อง โดยที่ญาดาไม่มีโอกาสเห็นสีหน้าว่าเป็นอย่างไร

       นี่ค่ะ  เสร็จแล้ว  คุณ ญาดา มาทำงานตั้งแต่พรุ่งนี้ได้เลย  คือคุณต้องมาช่วยที่สำนักงานก่อน

        เอ้อ.....ค่ะ  ขอบคุณมากค่ะ

    “เป็นไงค่ะ หัวหน้า  สมาชิกคนใหม่”  โสภาถามขึ้นหลังจากที่ญาดากลับไปแล้ว

    “ก็สวย น่ารัก  แต่ท่าทางคงเป็นคนไม่ยอมใครง่ายๆ” ศานิตยังจำใบหน้านั้นได้เมื่อหล่อนเข้ามาถามหาหัวหน้า  เขาให้หล่อนนั่งรอ นัยน์ตาหล่อนซุกซน สอดส่ายไปทั่วเหมือนนักสำรวจ  ผิวหล่อนเหลืองเนียน ผมดำสลวยผูกไว้คล้ายหางม้า จมูกรั้นนิดๆแสดงถึงความไม่ยอมจำนนต่อใครง่ายๆ  “ นางสาว ญาดา  พงค์วิมล”

    “เจ็บใจนัก ให้ถึงทีฉันบ้างเถอะ “  ญาดากระแทกตัวลงบนเก้าอี้ พร้อมกับเหวี่ยงกระเป๋าลงข้างๆเหมือนกับระบายอารมณ์  ทำให้ผู้เป็นพ่อที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาตัวยาวถึงกับลุกขึ้นมอง

    “ เป็นไงทำหน้าบอกบุญไม่รับบุญเชียว” ผู้เป็นพ่อถามยิ้มๆรู้ดีถึงอารมณ์ของหญิงสาว

    ก็ไปเจอดีซิค่ะ เข้าไปรายงานตัวก็เจอคนบ๊องส์ ไม่พูด ปล่อยให้หนูนั่งคอยเสียนาน

    คนบ็องส์ที่ลูกว่าผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ

    ผู้ชายตัวสูงๆ ผิวดำแดง ผมหยักโศกนิดๆ  ท่าทางดีออก เสียอย่างเดียว “ ไม่มีมารยาท”

    คนนั้นแหละหัวหน้า คนที่ลูกจะต้องทำงานร่วมกัน

    อะไรค่ะ!  หัวหน้าหรือไม่เห็นมีใครบอก หรือแนะนำให้หนูรู้จัก ตอนหนูไปรายงานตัว  ที่โต๊ะทำงานก็ไม่มี หนูคิดว่าท่านคงจะยังไม่มา

    แต่ตามที่หนูบอกใช่แน่  เพราะหัวหน้าคนนี้ ไม่ชอบใช้อำนาจโอ้อวด  เป็นกันเองกับลูกน้อง  ทำให้มีคนรักทั้งในและนอกวงการ

    “พ่อจำผิดหรือเปล่า” ญาดาไม่ยอมเชื่อ

    ลูกคิดว่าพ่อแกไปมากหรือ  จึงจำคนผิด

    ไม่ใช่ค่ะ  แต่หนูรู้มาว่า พอหัวหน้าคนนี้มาทำงานที่นี่ไม่นาน  พ่อก็ลาออก

     หนูเลยคิดว่า พ่อไม่รู้จัก  แล้วหนูจะรู้ว่าพ่อจำผิดหรือหนูจำผิดกันแน่

                                

    เมื่อแยกกับเพื่อน หญิงสาวเดินเรื่อยไปตามทางที่จะไปยังที่ทำการ

      สำนักงานการประถมศึกษา”  เดินมาถึงหน้าห้อง  หล่อนชะเง้อมองเข้าไปในห้องเห็นคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ สอง สาม คน  ญาดาเดินเลยไปยังโต๊ะที่มีคนกำลังก้มๆเงยๆอยู่คล้ายจะค้นหาอะไรสักอย่าง

              ขอโทษ ค่ะ ดิฉันต้องการพบหัวหน้าการสำนักงาน.... ..ญาดาพู ดเบาๆพอได้ยิน 

         ชายหนุ่ม เฃยหน้ามองผู้ที่เข้ามาใหม่แล้วเผยยิ้มนิดๆ  ก่อนจะพูดออกไป

        “เชิญนั่งก่อนครับ”   พูดเสร็จก็ก้มหน้าก้มตาเหมือนหาอะไรอยู่

          ญาดานั่งลงบนเก้าอี้ที่วางอยู่ข้างๆ หล่อนหันไปมองรอบๆข้าง  กลุ่มคนที่กำลังคุยกันเมื่อหล่อนเดินเข้ามา ตอนนี้กำลังทำงานกันอย่างขะมักเขม้น หล่อนกวาดสายตาไปเรื่อย ผ่านที่กำบังทะลุเข้าไปในห้องเล็กๆ ที่มีพวกตู้รายเรียงเป็นฝากั้นไว้ ให้รู้ว่าเป็นห้อง  “คงจะเป็นห้องหัวหน้า”  ญาดาคิด

    10 นาที ผ่านไป  ญาดานั่งกระสับกระส่าย คนตรงหน้าก็ไม่มีวี่แววว่าจะพูดหรือสนทนาด้วย ยังคงค้นหาของอยู่เหมือนเดิม   เดี๋ยวหยิบแฟ้มนั้น เปิดแฟ้มนี้ เหมือนกับว่าไม่มีหล่อนนั่งอยู่

         “ นี่คุณ  ฉันต้องการพบหัวหน้า  ไม่ใช่มานั่งดูคุณรื้อของ” เสียงของญาดาแสดงความไม่พอใจ

        ก็ผมให้คุณนั่งรอก่อน  ชายหนุ่มพูดยิ้มๆไม่สนใจกับอารมณ์ของหญิงสาว

       แต่ฉันนั่งนานแล้วไม่เห็นรู้เรื่องอะไร

      โน้นมาแล้ว คนที่จะทำให้คุณร็เรื่อง

       ญาดาหันไปมอง เห็นผู้หญิงรูปร่าง ค่อนข้างอ้วน แต่งกายสุภาพ  อายุคงจะมากกว่าหล่อน หล่อนคาดคะเนจากหน้าตา  ผู้หญิงคนนั้นวางกระเป๋าแล้วหย่อนกายลงจะนั่ง  เสียงของคนที่กำลังหาของอยู่ดังขึ้น

      “โสภา ช่วยทำธุระให้คุณคนนี้หน่อย”   เสียงของชายหนุ่มเหมือนของคำสั่ง

        “เชิญทางนี้ค่ะ”  เสียงของหญิงสาวมิได้แสดงอาการไม่พอใจที่ถูกใช้ให้ทำงานทันทีที่มาถึง

       ดิฉันมารายงานตัว เรื่องที่ย้ายมาประจำในอำเภอนี้   นี่ค่ะหนังสือ

              ขอโทษด้วยที่ทำให้รอนาน  โสภาพูดขอโทษเมื่อเห็นสีหน้าของญาดาไม่ยอมยิ้มตอบเมื่อหล่อนยิ้มให้

              ไม่เป็นไรค่ะ  เป็นธรรมดาของอำเภอที่เปิดทำการใหม่ ก็เป็นอย่างนี้แหละ

     ญาดาพูดเรื่อยเปื่อยไปโดยไม่สนใจว่าคนฟังจะรู้สึกอย่างไร ยิ่งผู้ที่กำลังเดินเข้าไปในห้องเล็กนั้น  ถึงกับยืนมองหล่อนครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินหายไปในห้อง โดยที่ญาดาไม่มีโอกาสเห็นสีหน้าว่าเป็นอย่างไร

       นี่ค่ะ  เสร็จแล้ว  คุณ ญาดา มาทำงานตั้งแต่พรุ่งนี้ได้เลย  คือคุณต้องมาช่วยที่สำนักงานก่อน

        เอ้อ.....ค่ะ  ขอบคุณมากค่ะ

    “เป็นไงค่ะ หัวหน้า  สมาชิกคนใหม่”  โสภาถามขึ้นหลังจากที่ญาดากลับไปแล้ว

    “ก็สวย น่ารัก  แต่ท่าทางคงเป็นคนไม่ยอมใครง่ายๆ” ศานิตยังจำใบหน้านั้นได้เมื่อหล่อนเข้ามาถามหาหัวหน้า  เขาให้หล่อนนั่งรอ นัยน์ตาหล่อนซุกซน สอดส่ายไปทั่วเหมือนนักสำรวจ  ผิวหล่อนเหลืองเนียน ผมดำสลวยผูกไว้คล้ายหางม้า จมูกรั้นนิดๆแสดงถึงความไม่ยอมจำนนต่อใครง่ายๆ  “ นางสาว ญาดา  พงค์วิมล”

    “เจ็บใจนัก ให้ถึงทีฉันบ้างเถอะ “  ญาดากระแทกตัวลงบนเก้าอี้ พร้อมกับเหวี่ยงกระเป๋าลงข้างๆเหมือนกับระบายอารมณ์  ทำให้ผู้เป็นพ่อที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาตัวยาวถึงกับลุกขึ้นมอง

    “ เป็นไงทำหน้าบอกบุญไม่รับบุญเชียว” ผู้เป็นพ่อถามยิ้มๆรู้ดีถึงอารมณ์ของหญิงสาว

    ก็ไปเจอดีซิค่ะ เข้าไปรายงานตัวก็เจอคนบ๊องส์ ไม่พูด ปล่อยให้หนูนั่งคอยเสียนาน

    คนบ็องส์ที่ลูกว่าผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ

    ผู้ชายตัวสูงๆ ผิวดำแดง ผมหยักโศกนิดๆ  ท่าทางดีออก เสียอย่างเดียว “ ไม่มีมารยาท”

    คนนั้นแหละหัวหน้า คนที่ลูกจะต้องทำงานร่วมกัน

    อะไรค่ะ!  หัวหน้าหรือไม่เห็นมีใครบอก หรือแนะนำให้หนูรู้จัก ตอนหนูไปรายงานตัว  ที่โต๊ะทำงานก็ไม่มี หนูคิดว่าท่านคงจะยังไม่มา

    แต่ตามที่หนูบอกใช่แน่  เพราะหัวหน้าคนนี้ ไม่ชอบใช้อำนาจโอ้อวด  เป็นกันเองกับลูกน้อง  ทำให้มีคนรักทั้งในและนอกวงการ

    “พ่อจำผิดหรือเปล่า” ญาดาไม่ยอมเชื่อ

    ลูกคิดว่าพ่อแกไปมากหรือ  จึงจำคนผิด

    ไม่ใช่ค่ะ  แต่หนูรู้มาว่า พอหัวหน้าคนนี้มาทำงานที่นี่ไม่นาน  พ่อก็ลาออก

     หนูเลยคิดว่า พ่อไม่รู้จัก  แล้วหนูจะรู้ว่าพ่อจำผิดหรือหนูจำผิดกันแน่

                                

     

    เมื่อแยกกับเพื่อน หญิงสาวเดินเรื่อยไปตามทางที่จะไปยังที่ทำการ

      สำนักงานการประถมศึกษา”  เดินมาถึงหน้าห้อง  หล่อนชะเง้อมองเข้าไปในห้องเห็นคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ สอง สาม คน  ญาดาเดินเลยไปยังโต๊ะที่มีคนกำลังก้มๆเงยๆอยู่คล้ายจะค้นหาอะไรสักอย่าง

              ขอโทษ ค่ะ ดิฉันต้องการพบหัวหน้าการสำนักงาน.... ..ญาดาพู ดเบาๆพอได้ยิน 

         ชายหนุ่ม เฃยหน้ามองผู้ที่เข้ามาใหม่แล้วเผยยิ้มนิดๆ  ก่อนจะพูดออกไป

        “เชิญนั่งก่อนครับ”   พูดเสร็จก็ก้มหน้าก้มตาเหมือนหาอะไรอยู่

          ญาดานั่งลงบนเก้าอี้ที่วางอยู่ข้างๆ หล่อนหันไปมองรอบๆข้าง  กลุ่มคนที่กำลังคุยกันเมื่อหล่อนเดินเข้ามา ตอนนี้กำลังทำงานกันอย่างขะมักเขม้น หล่อนกวาดสายตาไปเรื่อย ผ่านที่กำบังทะลุเข้าไปในห้องเล็กๆ ที่มีพวกตู้รายเรียงเป็นฝากั้นไว้ ให้รู้ว่าเป็นห้อง  “คงจะเป็นห้องหัวหน้า”  ญาดาคิด

    10 นาที ผ่านไป  ญาดานั่งกระสับกระส่าย คนตรงหน้าก็ไม่มีวี่แววว่าจะพูดหรือสนทนาด้วย ยังคงค้นหาของอยู่เหมือนเดิม   เดี๋ยวหยิบแฟ้มนั้น เปิดแฟ้มนี้ เหมือนกับว่าไม่มีหล่อนนั่งอยู่

         “ นี่คุณ  ฉันต้องการพบหัวหน้า  ไม่ใช่มานั่งดูคุณรื้อของ” เสียงของญาดาแสดงความไม่พอใจ

        ก็ผมให้คุณนั่งรอก่อน  ชายหนุ่มพูดยิ้มๆไม่สนใจกับอารมณ์ของหญิงสาว

       แต่ฉันนั่งนานแล้วไม่เห็นรู้เรื่องอะไร

      โน้นมาแล้ว คนที่จะทำให้คุณร็เรื่อง

       ญาดาหันไปมอง เห็นผู้หญิงรูปร่าง ค่อนข้างอ้วน แต่งกายสุภาพ  อายุคงจะมากกว่าหล่อน หล่อนคาดคะเนจากหน้าตา  ผู้หญิงคนนั้นวางกระเป๋าแล้วหย่อนกายลงจะนั่ง  เสียงของคนที่กำลังหาของอยู่ดังขึ้น

      “โสภา ช่วยทำธุระให้คุณคนนี้หน่อย”   เสียงของชายหนุ่มเหมือนของคำสั่ง

        “เชิญทางนี้ค่ะ”  เสียงของหญิงสาวมิได้แสดงอาการไม่พอใจที่ถูกใช้ให้ทำงานทันทีที่มาถึง

       ดิฉันมารายงานตัว เรื่องที่ย้ายมาประจำในอำเภอนี้   นี่ค่ะหนังสือ

              ขอโทษด้วยที่ทำให้รอนาน  โสภาพูดขอโทษเมื่อเห็นสีหน้าของญาดาไม่ยอมยิ้มตอบเมื่อหล่อนยิ้มให้

              ไม่เป็นไรค่ะ  เป็นธรรมดาของอำเภอที่เปิดทำการใหม่ ก็เป็นอย่างนี้แหละ

     ญาดาพูดเรื่อยเปื่อยไปโดยไม่สนใจว่าคนฟังจะรู้สึกอย่างไร ยิ่งผู้ที่กำลังเดินเข้าไปในห้องเล็กนั้น  ถึงกับยืนมองหล่อนครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินหายไปในห้อง โดยที่ญาดาไม่มีโอกาสเห็นสีหน้าว่าเป็นอย่างไร

       นี่ค่ะ  เสร็จแล้ว  คุณ ญาดา มาทำงานตั้งแต่พรุ่งนี้ได้เลย  คือคุณต้องมาช่วยที่สำนักงานก่อน

        เอ้อ.....ค่ะ  ขอบคุณมากค่ะ

    “เป็นไงค่ะ หัวหน้า  สมาชิกคนใหม่”  โสภาถามขึ้นหลังจากที่ญาดากลับไปแล้ว

    “ก็สวย น่ารัก  แต่ท่าทางคงเป็นคนไม่ยอมใครง่ายๆ” ศานิตยังจำใบหน้านั้นได้เมื่อหล่อนเข้ามาถามหาหัวหน้า  เขาให้หล่อนนั่งรอ นัยน์ตาหล่อนซุกซน สอดส่ายไปทั่วเหมือนนักสำรวจ  ผิวหล่อนเหลืองเนียน ผมดำสลวยผูกไว้คล้ายหางม้า จมูกรั้นนิดๆแสดงถึงความไม่ยอมจำนนต่อใครง่ายๆ  “ นางสาว ญาดา  พงค์วิมล”

    “เจ็บใจนัก ให้ถึงทีฉันบ้างเถอะ “  ญาดากระแทกตัวลงบนเก้าอี้ พร้อมกับเหวี่ยงกระเป๋าลงข้างๆเหมือนกับระบายอารมณ์  ทำให้ผู้เป็นพ่อที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาตัวยาวถึงกับลุกขึ้นมอง

    “ เป็นไงทำหน้าบอกบุญไม่รับบุญเชียว” ผู้เป็นพ่อถามยิ้มๆรู้ดีถึงอารมณ์ของหญิงสาว

    ก็ไปเจอดีซิค่ะ เข้าไปรายงานตัวก็เจอคนบ๊องส์ ไม่พูด ปล่อยให้หนูนั่งคอยเสียนาน

    คนบ็องส์ที่ลูกว่าผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ

    ผู้ชายตัวสูงๆ ผิวดำแดง ผมหยักโศกนิดๆ  ท่าทางดีออก เสียอย่างเดียว “ ไม่มีมารยาท”

    คนนั้นแหละหัวหน้า คนที่ลูกจะต้องทำงานร่วมกัน

    อะไรค่ะ!  หัวหน้าหรือไม่เห็นมีใครบอก หรือแนะนำให้หนูรู้จัก ตอนหนูไปรายงานตัว  ที่โต๊ะทำงานก็ไม่มี หนูคิดว่าท่านคงจะยังไม่มา

    แต่ตามที่หนูบอกใช่แน่  เพราะหัวหน้าคนนี้ ไม่ชอบใช้อำนาจโอ้อวด  เป็นกันเองกับลูกน้อง  ทำให้มีคนรักทั้งในและนอกวงการ

    “พ่อจำผิดหรือเปล่า” ญาดาไม่ยอมเชื่อ

    ลูกคิดว่าพ่อแกไปมากหรือ  จึงจำคนผิด

    ไม่ใช่ค่ะ  แต่หนูรู้มาว่า พอหัวหน้าคนนี้มาทำงานที่นี่ไม่นาน  พ่อก็ลาออก

     หนูเลยคิดว่า พ่อไม่รู้จัก  แล้วหนูจะรู้ว่าพ่อจำผิดหรือหนูจำผิดกันแน่

                                

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×