ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดราโกเนีย อาณาจักรแห่งเวทย์มนต์

    ลำดับตอนที่ #1 : ค้นพบ

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 52


    25 ก.พ. ค.ศ.4035                                                          

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก.. ร่างโปร่งของชายผมยาวประบ่าเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียดยิ่งนัก

    ดาโก้ ท่านคิดดีแล้วหรือที่จะส่งนายน้อยไปที่นั่นทั้งๆที่นายน้อยเพิ่งเกิดมาไม่กี่ชั่วโมงชายหนุ่มผู้มาใหม่ถามบุคคลที่อยู่ในห้องด้วยอาการเคร่งเครียด

                    ข้าจำเป็นต้องทำอย่างนั้น ฟาร์กี้...เพื่อความปลอดภัยของพวกเราและความปลอดภัยของลูกข้าเอง

    บุคคลทั้งสองเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่บุคคลที่ดูฐานะต่ำกว่าเอ่ยทำลายความเงียบนั้น

                    แล้วท่านจะส่งนายน้อยไปเมื่อไร ?”

                เดี๋ยวนี้เลย…”

    25 ก.พ. ค.ศ.4051              

                    เช้าวันนี้ก็เป็นเช้าที่สดใสอีกวันหนึ่งที่ผู้คนออกมาจับจ่ายซื้อของคับคั่งในเมืองดราโกนแห่งนี้  เมืองนี้เป็นเมืองที่มีสถานศึกษามากที่สุดทำให้ไม่แปลกเลยที่จะมีผู้คนคับคั่งมากมาย

                    ฮ้าว~ง่วงจังเลยวันนี้~~” เด็กหนุ่มหน้าหยกที่มีดวงตาสีนิลเหมือนกับเส้นผมที่ไว้ลากไซยาวลงมาเกือบบ่าตื่นมาด้วยอาการสลึมสลือ

                    เอ้า...มัวแต่นอนอยู่ได้ วันนี้นายน้อยมีสอบไม่ใช่หรือครับ ?”บุคคลที่เปรียบเสมือนแม่นมเพียงคนเดียวในบ้านพยายามปลุกนายน้อยให้ลุกจากเตียง

                เออ จริงด้วย!งั้น ผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ

                    เฮ้อ...นายน้อยฟาล์ว   จะไหวมั้ยเนี่ย

                  ณ โรงเรียนชื่อดังที่อยู่ใจกลางเมืองดราโกนที่ทุกๆวันจะมีแต่เสียงจ้อกแจ้กจอแจอยู่ตลอด แต่วันนี้กลับไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาเลย เพราะวันนี้มันเป็นวันสอบวันสุดท้ายของนักเรียนปี 1 

                    นี่ฟาล์วนายอ่านหนังสือรึปล่าว เห็นรุ่นพี่เค้าบอกว่าข้อสอบของปี 1น่ะยากสุดๆเลยนา

                    นายก็อย่าพูดให้ฉันเสียวสิวาฟ

                    เมื่อเวลาสอบเริ่มขึ้น ...เหล่านักเรียนปี 1 ก็เริ่มเครียด แน่นอนหนึ่งในนั้นก็ต้องมี ...ฟาล์ว

                    โอ๊ย! ทำไมข้อสอบมันยากยังงี้นะฟาล์วคิดในใจ

                    กริ๊งงงง! “เอ้า นักเรียนเอาข้อสอบมาส่งครูได้แล้วหมดเวลาแล้ว

                    เฮ้ยฟาล์วทำไมทำหน้ายังงั้นวะเดี๋ยวสาวๆเดินผ่านมาเห็นนายทำหน้ายังงั้นเขาจะไม่ชอบเอานา

                    ช่างสิ ฉันห่วงเรื่องสอบมากกว่า…”

                อย่าเครียดไปเลยน่าไงๆเราก็สอบเสร็จแล้ววาฟเอ่ยปลอบใจ

                    งั้นฉันกลับบ้านก่อนนะเปิดเทอมเมื่อไรเจอกันแล้วทั้งคู่ก็แยกย้ายกลับบ้านของตนแอง

                    กลับมาแล้วครับลุงฟาร์กี้วันนี้มีอะไรกินมั่งอ่ะฟาล์วถามลุงฟาร์กี้ เมื่อกลับมาถึงบ้าน

                    ก็มีอย่างที่เห็นนี่แหละฟาร์กี้พูดพลางชี้นิ้วไปที่อาหารกองโต

                    โอ้โฮ ทำไมวันนี้ลุงฟาร์ทำอาหารเยอะจังครับ

                    ก็วันนี้วันเกิดนายน้อยไม่ใช่หรือครับ

                    เออจริงด้วยฟาล์วตอบแบบเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดตัวเอง

                    งั้นคราวนี้ก็อายุครบ 16 ปีแล้วสินะฟาล์วพูดต่อแล้วทำจะเขมือบอาหารที่อยู่ตรงหน้า

                    จะกินก็ได้ครับแต่ต้องอาบน้ำก่อนกว่าจะพูดเสร็จนายน้อยของเขาก็แอบหยิบไปชิ้นหนึ่งแล้วเข้าห้องน้ำไป

                    คงใกล้จะถึงเวลาแล้วสินะ ท่านดาโก้คำพูดของฟาร์กี้แสดงความกังวลใจยิ่งนัก แต่เขาก็กลับมายิ้มแย้มเหมือนเดิมอีกเมื่อเห็นว่านายน้อยของตนออกมาจากห้องน้ำแล้ว

                    ทั้งคู่กินอาหารกันอย่างมีความสุขอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เงียบเชียบ  แต่ฟาล์วก็พูดทำลายความเงียบนั้น

                    ลุงครับตอนนี้พ่อกับแม่ของผมอยู่ไหนครับฟาล์วถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งต่างจากใบหน้าของฟาร์กี้ในขณะนี้

                    เอ่อ...ตอนนี้นายท่านกำลังทำงานอยู่ที่อื่นครับ

                    ฟาล์วสงสัยกับคำตอบนั้นแต่เขาก็ไม่ถามอะไรต่อ

                    นี่ก็ดึกมากแล้วได้เวลานอนแล้วครับ

                    กำลังง่วงพอดีเลย งั้นเข้าไปนอนก่อนนะ    ครับฟารกี้ตอบรับ

                    ........ผมจะเริ่มพรุ่งนี้เลยนะครับท่านดาโก้....

    ห้องนอนฟาล์ว

                    เฮ้อนอนไม่สักทีเป็นอะไรเนี่ย….ไปหาอะไรกินดีกว่าแล้วฟาล์วก็ออกไปหาน้ำกินขณะที่กำลังจะเดินเข้าห้องนั้นฟาล์วมองไปเห็นห้องที่อยู่ติดกับห้องของเขานั่นคือห้องของพ่อเขานั่นเองเขาจึงเดินเข้าไปในห้องนั้นแล้วนั่งลงที่โซฟาที่ลุงฟาร์กี้เคยบอกว่าพ่อนั่งเป็นประจำ  ฟาล์วนั่งแล้วมองไปที่รูปรูปหนึ่งซึ่งถ้ามองดีๆแล้วก็จะรู้ว่ามันคือรูปแผนที่นั่นเองแต่เขาก็ยังไม่รู้มามันคือแผนที่เมืองอะไร เขาจึงเดินไปใกล้ๆแล้วลูบมันดูแต่น่าแปลก

    ที่บริแผนที่มันนูนขึ้น  ฟาล์วจึงลองกดดู ปรากฏว่าฝาผนังของห้องๆนั้นเลื่อนออกทำให้มีห้องอีกห้องหนึ่งที่ทั้งชีวิตนี้เขาไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่ามีห้องลับอยู่ที่บ้านหลังนี้  ฟาล์วจึงตัดสินใจเดินเข้าไปดู แต่แล้วก็ต้องตกใจเห็นภาพฉายสามมิติเป็นรูปผู้คนกำลังถูกฆ่าตาย แล้วนั่นใครล่ะน่ะดูเป็นใหญ่เป็นโตอุ้มลูกมาด้วยแต่ที่น่าตกใจที่สุดคือคนที่อยู่ในนั้น..

                    นั่นมัน...คุณลุงฟาร์กี้ !” นี่มันอะไรกันนี่มันเป็นเรื่องแต่งหรือเรื่องจริงกันแน่ มีคำถามมากมายที่ผุดขึ้นในหัวของฟาล์ว

                    เอ ลุงฟาร์กี้รู้เรื่องนี้หรือยังนะ เดี๋ยวค่อยบอกตอนเช้าดีกว่าตอนนี้นอนก่อน

                    เมื่อถึงเวลาเช้าฟาล์วจึงตัดสินใจเดินไปถามลุงฟาร์กี้

                    อ้าว ทำไมวันนี้นายท่านถึงตื่นเช้าจังล่ะ.....ฟาร์กี้ถามเพราะปกตินายท่านจะตื่นประมาณ 7.00 นาฬิกา

                    คือ ผมมีอะไรจะถามหน่อย แต่ต้องตอบความจริงนะครับ

                    ...แล้วจะถามว่าอะไรเหรอ...

                    ผมอยากจะถามว่าคุณลุงกับผมเป็นใครและพ่อกับแม่ผมเป็นใครฟาล์วมองสีหน้าของลุงฟาร์กี้ที่ดูอึดอัดแล้วคิดในใจว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ

                    เฮ้อ~แล้วนายน้อยเริ่มสงสัยตั้งแต่เมื่อไรล่ะครับ

                    เมื่อคืนฟาล์วตอบอย่างแข็งขันเพื่อต้องการคำตอบที่แท้จริง

                    ผมก็ไม่อยากปิดบังนายน้อยหรอกนะครับ แต่ที่ผ่านๆมา....แค่มันยังไม่ถึงเวลาก็แค่นั้น

                    แล้วตอนนี้มันถึงเวลาหรือยังล่ะครับ

                    ฟาร์กี้ทำท่าอึดอัดใจก่อนจะตอบว่า

                พวกเราเกิดมาในตระกูลจอมเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดตระกูลของเราจะแบ่งเป็น 2 สาขา สาขาในและสาขานอก อย่างผมที่อยู่สาขานอกมีหน้าที่คอยคุ้มกันคนสาขาในอย่างนายน้อย สาขานอกจะใช้นามสกุล มอลเร็ต แต่ถ้าเป็นสาขาในจะใช้นามสกุล เซอร์เร็ต ซึ่งตอนนี้คนที่ใช้นามสกุลเซอร์เร็ตนั้นถือว่าหายากมาก

                    แล้วไงฟาล์วพยายามที่จะซักเพื่อให้ได้รู้ความจริงที่ละเอียดมากที่สุด

                    ในสมัยก่อนบ้านเมืองอยู่กันอย่างสงบสุขไม่เบียดเบียนใคร จนกระทั่งเมื่อ 16 ปีก่อน พี่ชายของนายน้อยที่ชื่อ ฟราโก้ เซอร์เร็ต  เขาไ.......

                    เดี๋ยวก่อนๆเมื่อกี้ลุงฟาร์บอกว่าพี่ชายของผมชื่อ ฟราโก้ เซอร์เร็ตเหรอ งั้น นามสกุลของผมก็คือฟาร์เร็ตน่ะสิฟาล์วพูดตัดบทถามแต่ฟาร์กี้ก็ยังคงเล่าต่อ

                    ฟราโก้ บ้าในอำนาจของตนที่เกิดมาในตระกูลที่ยิ่งใหญ่ จึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งพลังถึงกับจะฆ่าล้างตระกูลเพื่อให้ได้พลังนั้นมา ฟราโก้ได้รวมกำลังพลเข้ามาตีคนทั้งตระกูล จึงทำให้เกิดศึกสงครามขึ้นในตระกูล ถึงเราจะมีกำลังมากกว่าแต่เพราะฟราโก้เป็นคนที่มีความเฉลียวฉลาดและพลังกล้าแข็ง ทำให้การต่อสู้ยืดเยื้อ และในขณะเดียวกันคุณ มีลฟา เซอร์เร็ต ก็ได้ให้กำเนิดนายน้อย แต่ทว่า นายน้อยกลับมีพลังมากเกินไปทำให้ฟราโก้อยากจะได้พลังในตัวนายน้าอยขึ้นมาแต่นายท่ารู้ทันจึงส่งนายน้อยมาที่นี่และส่งผมมาดูแล           ฟาล์วอึ้งไปกับคำตอบของฟาร์กี้ แต่ก็มีหลายคำถามที่ต้องการถามจึงถามฟาร์กี้ต่อ   

                    แล้วเดิมที พวกเราอยู่ประเทศอะไร ?”

                บอกไปนายน้อยก็คงไม่รู้  เพราะ.......อยู่คนละมิติ!!!

                    ฟาล์วอึ้งไปกับคำตอบของฟาร์กี้อีกครั้ง

                    นายน้อยคงมีข้อสงสัยหลายเรื่องสินะครับ......งั้นตามผมมาสิครับ ฟาร์กี้พูดพลางเดินนำทางฟาล์วไปยังห้องส่วนตัวของคุณลุงฟาร์กี้

                    พาผมมาที่นี่ทำไมครับฟาล์วถามอย่างสงสัย

                    กลับบ้านเกิด ไงล่ะครับ !” ฟาล์วยังอึ้งกับที่ลุงฟาร์พูดอยู่แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ลุงฟานำมือไปแตะที่ลูกแก้วใสบนโต๊ะแล้วพูดว่า จักษุ จักพาสู่ ดราโกเนีย เมื่อพูดจบเส้นไหมสีแดงเพลิงก็พุ่งออกมาจากลูกแก้วแล้วคลุมพวกเขาทั้งสองเอาไว้ไม่นานสภาพห้องก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

                    เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นครับฟาล์วถามด้วยความสงสัยกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่

                    นายน้อยก็ลองเปิดหน้าต่างดูสิครับ ฟาล์วจึงเดินไปเปิดหน้าต่างตามที่ลุงฟาร์กี้บอก แต่ก็ต้องชงักเมื่อเห็นบรรยากาศภายนอก

                    นี่มัน ไม่ใช่เมืองดราโกนนี่ !”  ฟาล์วอุทานอย่างตกใจ

                    ใช่ครับที่นี่คือเมืองดราโกเนียบ้านเกิดของนายน้อยไงล่ะครับ   เมืองนี้เป็นโลกอีกโลกหนึ่งที่อยู่คนละมิติกับเมืองดราโกน   คฤหาสน์หลังนี้ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างดราโกเนียและดราโกน

                    แล้วทำไมถึงเพิ่งมาบอกเอาตอนนี้ล่ะครับ...

                    ก็ผมบอกแล้วไงครับว่ามันยังไม่ถึงเวลาฟาร์กี้อธิบายให้ฟาล์วฟัง

                    แล้วเราจะกลับไปดราโกนเมื่อไรล่ะครับ?”

                    จะกลับทำไมในเมื่อที่นี่คือบ้านเกิดของนายน้อยคำตอบนั้นทำให้ฟาล์วเครียด เพราะไหนจะเรื่องเรียนอีก เพื่อนอีก เขาจะทิ้งไปได้ยังไง   แต่เหมือนฟาร์กี้จะอ่านใจฟาล์วออก

                    นายน้อยไม่ต้องห้วงเรื่องเรียนหรอกครับนายท่านจัดเตรียมโรงเรียนให้นายน้อยไว้แล้ว แต่ต้องสอบเข้าเองนะครับ ส่วนเรื่องเพื่อน เดี๋ยวนายน้อยก็หาได้เองแหละครับ

                แล้วไอ้โรงเรียนที่ว่าน่ะมันชื่อโรงเรียนอะไรล่ะครับฟาล์วถามเพื่อต้องการจะไปสมัครเรียน

                โรงเรียนจอมเวทดราโกเนีย

     

                    ลูกชายของลุงก็อายุเท่านายน้อย เขาชื่อทีโอลองไปหาดูนะเขาคงดีใจที่พวกเรากลับมา

    งั้นผมออกไปข้างนอกหน่อยนะครับ ฟาล์วพูดพร้อมเดินออกไปข้างนอกแบบที่ไม่คุ้นเคย   ฟาล์วเดินไปเพื่อหาใบสมัครสอบเข้าเรียนจอมเวท แต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอ

                    เฮ้อ~ชักจะเหนื่อยแล้วสิ เอ๊ะแล้วนั่นทำไทคนถึงมุงอย่างนั้นล่ะ ลองเข้าไปดูดีกว่า ว่าแล้วหนุ่มฟาล์วเราก็เข้าไปดูทันที

                    เอ่อ ขอโทษนะครับ นี่เขามุงดูอะไรกันหรือครับฟาล์วถามหนุ่มหล่อผมสีเขียวมรกตประบ่าที่ดูอายุไล่เลี่ยกับเขา อย่างสงสัย

                    อ่อ เขามาสมัครสอบโรงเรียนจอมเวทยังไงล่ะหนุ่มหน้าตาดีเหมือนฟาล์วตอบเหมือนสงสัยว่า คนนี้ไม่รู้เลยเหรอว่าที่นี่คือท่สมัครสอบ

                    ขอบใจมากนะ นายชื่ออะไรล่ะ เผื่อจะได้เจอกันอีกฟาล์วเริ่มปฏิบัติการหาเพื่อน

                ฉันชื่อ ฟารอน  มอลเร็ต

                    เอ๊ะ หรือว่านายเป็นลูกของลุงฟาร์กี้คำถามนั้นทำให้ฟารอนงง   คนนั้นรู้จักพ่อของเขาด้วยหรือ   

                 อื้อ ใช่ฉันเป็นลูกเขา   แล้วนายรูจักพ่อฉันได้ไง

                    ฉันชื่อ ฟาล์ว เซอร์เร็ต คำตอบนั้นทำให้ฟีเร่ตกตะลึงอย่างมาก เขากลับมาแล้วหรือ

                    งั้นท่านก็คือคุณฟาล์วล่ะสิ ฟารอนพูดพร้อมทำท่าจะเคารพแต่ฟาล์วห้ามไว้ก่อน

                    เรียกว่าฟาล์วเฉยๆก็ได้ไม่ต้องมีคุณมีท่านหรอก

                    ครับ งั้นพ่อของฉันก็มาแล้วสิ

                    อื้อ พ่อนายอยู่ที่บ้านชั้นแน่ะฟาล์วพูดอย่างดีใจที่ได้เพื่อนแล้ว

                    แล้วนายสมัครสอบหรือยังล่ะฟารอนถามฟาล์ว

                    ยังเลยก็กำลังจะสมัครนี่แหละ

                    งั้นเข้าไปกันเหอะ เดี๋ยวเขาก็จะหมดเขตการสมัครแล้วฟารอนเอ่ยชวนฟาล์วให้เดินเข้าไปสมัครสอบด้วยกัน 

                    เฮ้อในที่สุดก็สมัครสอบได้ซะที คนเยอะจังเนาะฟารอน

                    อื้อ ก็มันเป็นโรงเรียนใหญ่นี่นา  นี่ พ่อฉันอยู่ที่บ้านนายใช่ป่ะฟารอนถามอย่างคิดถึงพ่อตัวเอง

                    อืมนายมาค้างบ้านฉันก็ได้นี่พ่อนายก็อยู่ที่บ้านชั้นไม่ต้องเกรงใจหรอก

                    เดี๋ยวค่อยคิดทีหลังแล้วกัน แต่ที่ต้องคิดก่อนก็คือนายจะเอาอะไรไปแข่งตอนสอบฟารอนถามฟาล์วด้วยความเป็นห่วง

                      ฟาล์วจะถามฟารอนต่อ ถ้าไม่มีใครมาเดินชนเขาแทบล้ม ฟาล์วพยามทรงตัวแต่ยังไงก็ล้ม

                อุ๊ย ขอโทษค่ะเสียงจากคนที่ชนเมื่อสักครู่กล่าวคำขอโทษ แต่ดูจะไม่เป็นผลกับชายหนุ่มคนนี้

                    นี่คุณเดินยังไงของคุณเนี่ย ฟาล์วพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิด ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองคนที่เดินชนเขา

                    เอ๊ะ เมื่อกี้ฉันก็ขอโทษคุณแล้วนะ คุณน่ะแหละที่มาเดินชนฉันแล้วล้มเอง เสียงหญิงสาวผมสีดำที่ยาวลงมาถึงเอว เถียงฟาล์วอย่างขาดใจดิ้น แต่หญิงสาวอีกคนท่าทางเป็นมิตรห้ามไว้ ก่อนที่เพื่อนสาวจะเถียงไปมากกว่านี้

                นี่วีร่าราต้องรีบไปสมัครสอบนะ อย่ามัวเถียงอยู่เลยเพื่อนสาวที่มีผมสีฟ้ายาวมาถึงกลางหลังห้ามไว้

                    ฉันเห็นแก่เพื่อนฉันหรอกนะหญิงสาวเถียงต่อแล้วเดินจากไปปล่อยให้สองหนุ่มยืนดูสองคนนั้นเดินจากไป

                    นายว่ามั้ยฟาล์วสองคนนั่นน่ารักไม่เบา

                    “….แต่ปากจัดไปหน่อย

                กลับกันเหอะ...ฟาล์วเอ่ยชวนแล้วเดินนำไป

                    เมื่อกลับถึงบ้านฟารอนจึงรีบตรงเข้าไปหาพ่อที่จากกันมานาน

                    พ่อครับ...คิดถึงพ่อจังเลย

                    ลุงฟาร์กี้ครับถ้าผมจะให้ฟารอนเข้ามาอยู่กับเราด้วยลุงจะว่ามั้ยครับฟาล์วถามลุงฟาร์กี้ทั้งๆที่น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว

                    ได้สิ ดีออกอยู่กันเยอะๆฟาร์กี้ตอบฟาล์วอย่างดีใจที่ให้ลูกเขามาอยู่ด้วย

                    งั้นเดี๋ยวพวกผมขึ้นไปจัดห้องก่อนนะครับฟาล์วบอกลุงฟาร์ก่อนจะเดินขึ้นห้องไปกับฟารอน

                    นายนอนห้องนี้แล้วกันนะฟาล์วบอกกับฟารอนเพระมันเป็นห้องที่ใกล้ห้องเขามาดที่สุด

                    ในขณะที่ฟาล์วช่วยฟารอนจัดห้องอยู่นั้นฟาล์วจึงถามฟารอนเกี่ยวกับเรื่องสอบเข้า

                เออตอนนั้นที่นายบอกว่าแข่งตอนสอบหมายความว่ายังไง มันไม่ใช่สอบข้อเขียนเหรอ

                    ใช่ โรงเรียนนี้น่ะตอนสอบเข้า เขาจะจัดการประลองใครชนะก็สอบผ่านใครแพ้ก็สอบตก

                    โห  แล้วงี้ ฉันก็ไม่ผ่านแน่เลยฟาล์วเริ่มถอดใจกับโรงเรียนนี้

                ไม่ตองห่วง เดี๋ยวพ่อฉันก็ส่งคนในตระกูลเรามาช่วยสอนให้ฟารอนพูดให้ฟาล์วมีกำลังใจ

                    ถึงงั้นก็เหอะ นายยังใช้เวทเป็นแต่ฉันไม่เป็นเลยนี่

                    ...พ่อฉันบอกว่านายมีพลังเยอะมากถึงต้องส่งนายไปดราโกนใช่มั้ย...ไม่ต้องห่วงถ้านายเป็นคนที่นี่ เวลาฝึกเดี๋ยวมันก็ชินไปเอง

                    ได้เวลากินข้าวแล้วครับเสียงเรียกของฟาร์กี้ทำให้ทั้งสองคนรีบลงไปกินข้าว

                    ลุงฟาร์ ครับพวกผมจะต้องฝึกสำหรับไปสอบเมื่อไรครับฟาล์วถามฟาร์กี้อย่างสงสัย

                พรุ่งนี้เลย ต้องใช้เวลานานหน่อยเพราะว่าคุณหนูยังใช้เวทย์เบื้องต้นไม่เป็นเลย

                    พ่อครับเดี๋ยวคืนนี้ผมสอนเวทย์เบื้องต้นให้กับฟาล์วเองก็ได้ครับ มันไม่ยากด้วย สำหรับฟาล์วแค่คืนเดียวคงจะทำได้ฟารอนบอกกับพ่อขณะกินข้าวกันอยู่ และเมื่อทั้งหมดกินข้าวเสร็จฟารอนก็ทำการสอนฟาล์วใช้เวทย์เบื้องต้น   

                    เอาละ ฟาล์วนายลอง เอามาวางตั้งฉากกับตัวเองแล้วเพ่งไปที่มือทั้งสองข้างสิ ....สังเกตการเปลี่ยนแปลงของมือด้วย...........รู้สึกยังไงบ้าง

                    มือของฉันเปียกน้ำจากไหนก็ไม่รู้ แล้วมือชั้นมันก็เจ็บแปล๊บๆด้วย

                    โอเค นายมีคุณสมบัติธาตุถึง 2 อย่างเชียวนะ คือธาตุน้ำและสายฟ้า หายากมากเลยนะพวกที่มี 2 ธาตุน่ะฟารอนอธิบายห้ฟาล์วฟัง

                    การใช้เวทย์นี่จำกัดเรื่องธาตุด้วยเหรอ? ”  ฟาล์วถามฟารอนอย่างข้องใจ

                    เปล่าหรอก แต่ว่าถ้าเราอยู่ธาตุไหนเราก็จะทำธาตุนั้นได้ดี เช่นชั้นอยู่ธาตุไฟชั้นก็จะใช้ธาตุไฟได้ดีกว่าธาตุอื่น

                    เอาละ ต่อมาเราจะมาฝึกการใช้พลังธาตุมาเปลี่ยนเป็นพลังเวทย์... ฟาล์วทำท่าทางสนใจทันที  จากนั้นฟารอนก็ยื่นไม้คทามาให้ฟาล์วแล้วบอกให้ทำตามที่บอก

                    ฟาล์วนายถือคทานี้ไว้แล้วลองนึกว่ามีสายน้ำไหลผ่านจากร่างกายนาย ผ่านมือนายแล้วเพ่งให้มันไหลผ่านคทานายนะ เมื่อฟาล์วลองทำตามก็ปรากฏว่ามีน้ำไหลออกมาจากคทาเต่สายน้ำนั้นไม่แรงมาก

                    ดีมากฟาล์ว แค่นี้นายก็ใช้เวทย์เบื้องต้นได้แล้ว

                    นี่แล้วเวลาที่เราต้องใช้เวทย์น่ะเราต้องถือคทาตลอดรึเปล่า ฟาล์วถามอย่างสงสัย

                    ไม่จำเป็น เราจะถือคทาก็ต่อเมื่อใช้คาถาแรงๆหรือเวลาที่พลังเราจะหมด ฟารอนตอบ

    วันนี้นอนก่อนเหอะพรุ่งนี้เราก็ต้องฝึกจริงกันแล้วเมื่อฝึกเสร็จฟารอนก็ขอตัวไปนอนที่ห้องของตน

                    แสงสว่างยามเช้าของอีกวันส่องตาคู่หนึ่ง ทำให้ตาคู่นั้นต้องเบิกขึ้น

                    เฮ้อ~เช้าแล้วเหรอเนี่ย เออวันนี้เราต้องฝึกเวทย์นี่นา ว่าแล้วฟาล์วก็ลุกเข้าห้องน้ำไป

                    นายน้อยครับได้เวลาฝึกแล้วครับเมื่อสิ้นเสียงทั้งสองคนก็ลงมาหาคนสอน

                    สวัสดีครับ หนุ่มทั้งสอง ผมเป็นคนสอนเวทย์ประจำตระกูลนี้ ชื่อว่าฟีโร มอลเร็ตครับ เรียกว่าคุณฟีโร่เฉยๆก็ได้

                    สวัสดีครับคุณฟีโร่ทั้งสองคนทักทายครูสอนคนใหม่

                    เอาละเราจะเริ่มฝึกกันเลยนะคับขอบอกว่าฝึกของผมไม่โหด

    2 อาทิตย์ผ่านไป

                    เฮ้อ เหนื่อยชะมัด  แต่เหลือเชื่อเลยนะว่าเวลาแค่ 2 อาทิตย์นายจะทำได้ขนาดนี้ นายรู้มั้ยตอนนี้นายเก่งกว่าฉันมาก อย่างที่พ่อฉันบอกเลยว่าอย่าดูถูกคนสาขาในฟารอนพูดไปหอบไป หลังจากที่ฝึกวันสุท้ายเสร็จ

                    นั่นดิเหนื่อยชะมัด แต่ถ้าแลกกับที่ได้มามันก็คุ้ม นี่เหลืออีกวันเดียวใช่มั้ยวันสอบน่ะ

                    อื้อ งานนี้ต้องเต็มที่หน่อยล่ะ

                    เมื่อวันสอบมาถึง ฟาล์วและฟารอนได้เดินทางมาโรงเรียนก่อนเวลานัดหมาย 10 นาที

                    โอ้โห ทำไมคนมันเยอะอย่างนี้เนี่ย นี่ขนาดมาก่อนเวลานะเนี่ย ฟารอนอุทาน

                    ก็มันเป็นโรงเรียนดังนี่นา

                    ประกาศๆขอให้นักเรียนที่มาสอบทุกคนเข้าแถวหน้าลานประลองได้

                    ไปเหอะได้เวลาแล้วฟารอนพูดก่อนเดินนำฟาล์วไป

                    ยินดีต้อนรับผู้เข้าสอบทุกคน วันนี้เป็นวันสอบเข้าโรงเรียนจอมเวทย์ดราโกเนีย ตอนนี้ผู้เข้าสอบได้รับหมายเลขประจำตัว กันครบหมดทุกคนแล้ว เราจะเริ่มทำการทดสอบกันสักที การที่เราต้องทดสอบอย่างนี้ก็เพื่อต้องการที่จะวัดพลัง     พื้นฐานของพวกเธอเท่านั้นแล้วทางโรงเรียนเราก็ไม่สามารถรับนักเรียนทุกคนได้ วิธีการสอบก็คือให้ผู้เข้าสอบทุกคนขึ้นไปประลองบนเวทีนี้ กฏิกาง่ายๆใครชนะสอบผ่านแต่ถ้าใครแพ้ก็สอบไม่ผ่านแล้วไม่ต้องกลัวว่าจะมีการต่อสู้จนถึงแก่ชีวิต เพราะทางเราลงมนตราเอาไว้แล้ว หากสอบผ่านให้เดินเข้าหอประชุมด้านข้างเอาล่ะครับเริ่มกันเลย เริ่มกันที่...

                    หมายเลข 1  คิฟ โรมเมอร์  และหมายเลข 2  โดโรที  ฮอตวูต  ขึ้นลานประลองได้

    ทันทีที่การประลองเริ่มขึ้น โดโรทีก็ไม่ชักช้าเริ่มร่ายเวทออกมาทันทีที่เขาร่ายเวทก็มีไฟลูกยักษ์พุ่งออกมาจากคทาของเขา แล้วพุ่งใส่ไปยังหนุ่มผมสีเทายาวประบ่าทันที! แต่ทว่าคิฟก็สร้างบาเรียที่เกิดจากสายลมควบแน่นกันเป็นเกราะป้องกันตัวเขาไว้ ทันทีที่ไฟเริ่มสงบลงก็มีสายลมที่สร้างให้เป็นอาวุธแหลมคมพุ่งมา   จากข้างหลังโดโรทีทำให้โดโรทีพลาดท่าไปอย่างง่ายได้   เสียงเฮของคนที่เชียร์คิฟดังขึ้นหลังจากที่การต่อสู้ครั้งนี้รู้ผล

                    ต่อไปหมายเลข  5 ฟารอน  มอลเร็ต  และหมายเลข 6 มอเนีย  เซนเทล เริ่มได้

                    เมื่อเริ่มการประลองฟารอนก็เริ่มร่ายเวทย์ไฟใส่มอเนียทันที แต่มอเนียก็หลบได้อย่างหวุดหวิดพร้อมทั้งร่ายเวทย์น้ำโจมตีใส่ไฟที่ฟารอนสร้างขึ้น แต่แล้วฟารอนก็อ้อมมาทางด้านหลังแล้วใช้มีดที่ทำจากเปลวเพลิงนับ 100 เล่มโจมตีใส่ แบบไม่ทันตั้งตัว แต่มอเนียหลบมีดเพลิงพวกนั้นได้หมดโดยไม่รู้ว่ามีลูกไฟขนาดยักษ์โผล่มาจากด้านล่างแล้ว...

                    ตูม!!! มอเนียหลบไฟนั่นไม่พ้นทำให้ฟารอรชนะไป

                    สุดยอดเลยฟารอน ฟาล์วเอ่ยกับฟารอนอย่างดีใจ เมื่อฟารอนลงจากเวที

                    นายก็พยายามเข้าล่ะฟารอนเอ่ยตอบ     เฮ! เฮ ! เสียงเฮยังคงดังอย่างต่อเนื่อง

                    คนเมื่อกี้เก่งเนอะ  เอ๊ะใช่คนที่เดินมากับคนที่ชนเธอวันนั้นหรือเปล่า วีร่าเสียงเอ่ยถามของหญิงสาวสองคนที่นั่งดูด้วยกัน

                    อืม ใช่ ดูซิว่าคนที่เดินชนฉันวันนั้นจะเก่งรึเปล่าเนอะ เนวี่เสียงพูดคุยเงียบลง                                                                                                                                                                                                                                       

                    คู่ต่อไป หมายเลข 7 ฟาล์วเลอร์  เซอร์เร็ต และ หมายเลข 8 โทโม่  เดอวิด เริ่มได้

                    เสียงฮือฮาดังขึ้น ผู้เข้าสอบบ้างหันกระซิบกระซาบกัน บ้างก็อ้าปากค้าง

                    นี่ เนวี่ คนที่ชื่อโทโม่เขาดังขนาดนั้นเลยเหรอ?”  วีร่าถามเน่วี่ด้วยความสงสัย

                    ไม่ใช่คนที่ชื่อโทโม่หรอก วีร่า  แต่เป็นคนที่ชื่อฟาล์วเลอร์ต่างหากเนวี่ตอบวีร่าเพื่อนของเธอ

                    ทำไมเขาถึงดังขนาดนั้นล่ะวีร่ายังถามต่อ

                    เธอก็ดูที่นามสกุลเขาสิ คนนั้นน่ะใช้นามสกุลเซอร์เร็ต   เซอร์เร็ตถูกเรียกว่าเป็นตระกูลจอมเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุด และในปัจจุบันคนที่ใช้นามสกุลนั้นหายากมาก ไม่แปลกเลยที่ทุกคนต่างอ้าปากค้างกันขนาดนั้น....ดูซิหน้าตาจะหล่อเหลารึเปล่า   เนวี่อธิบายให้วีร่าฟังอย่างตื่นเต้น

                    เนวี่   เนวี่เธอดูสิ หมอนั่น คนที่มาเดินชนชั้นวันนั้นนี่ วี่ร่าพูดออย่างตกใจเมื่อเห็นฟาล์วขึ้นลานประลอง

                    จริงด้วย แหมหล่อไม่เบา วันนั้นรีบเลยไม่ทันได้สังเกต...ดูท่าเธอจะมีคู่กัดที่น่ากลัวแล้วสิวีร่า

                    .....ฉันไม่สนหรอกว่าเป็นคนตระกูลอะไร   แต่หมอนั่นมาหาเรื่องฉันก่อน

                    มาหาเรื่องหรือว่ามาโปรยเสน่ห์กันแน่ฮะ

                    เมื่อเริ่มการประลอง ฟาล์วไม่รอช้าเขายกมือขึ้นแล้วดีดนิ้วดังเปาะ  บริเวณลานประลองทั้งหมดก็สว่างจ้าจนทุกคนต้องหลับตา

                    นี่มันคาถาอะไรกันน่ะมองไม่เห็นสองคนนั่นเลยผู้เข้าสอบคนหนึ่งเอยด้วยความสงสัย

                    เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก สิ่งที่ผู้เข้าสอบเห็นคือ...โทโม่ถูกแช่แข็งอยู่กลางลานประลอง!!! ทุกคนตะลึงกับภาพที่เขาเห็น

                    วีร่า   วีร่า เธอเห็นอย่างที่ฉันเห็นมั้ย เนวี่พูดอย่างตื่นเต้น

                    เห็นสิ คนที่ชื่อฟาล์วเลอร์นั่นน่ะยังไม่ถูกโจมตีซักแผลเลย แต่กลับชนะแล้วเหรอ วีร่าเองก็พูดอย่างตื่นเต้น

                    นั่นน่ะเวทย์ชั้นสูงเชียวนะคนที่ใช้เวทย์นี้ได้ต้องมีพลังที่มหาศาลมากเลยล่ะ วีร่าตะลึงกับที่เนวี่อธิบายให้เขาฟัง   แล้วฟาล์วก็เดินเข้าห้องไปอย่างไม่สนใจ

                    ฟาล์วนายสุดยอดเลย  เล่นใส่พลังซะเต็มที่เชียวนะ   ฟารอนเอ่ยอย่างดีใจเมื่อเพื่อนของเขาก็สอบผ่าน

                    แหะ แหะ   แค่อยากจะสอบผ่านเร็วๆน่ะฟาล์วพูดปนหัวเราะ

                    และอีกไม่นานก็มีคนทยอยเข้าจนเกือบเต็มห้อง แต่แล้วฟาล์วก็เหลือบไปเห็นคนที่ยืนข้างๆเขา

                    นี่เธอก็สอบผ่านกับเขาด้วยเหรอ ฟาล์วพูดอย่างกวนๆกับสาวที่ยืนข้างๆเขา

                    เอ๊ะนายนี่...ครั้งนั้นฉันเห็นว่าต้องรีบหรอกนะถึงได้เดินหนีไปก่อน คราวนี้นายไม่รอดแน่วีร่าพูดอย่างหงุดหงิดที่นายคนนี้ไม่ยอมเลิกรา วีร่าเตรียมจะต่อว่า แต่เพื่อนเขาก็ดันมาขัดซะได้

                    นี่นายชื่อฟาล์วใช่มั้ย  ฉันชื่อ เนวี่ ส่วนเพื่อนชั้นคนนี้ชื่อวีร่า ยินดีที่ได้รูจักนะ เนวี่พยายามที่จะเป็นมิตรกับเขา 1.เพื่อให้วีร่าหยุดเถียงเขาซะที และ 2. เขาหล่อไม่เบา

                    ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน ฉันชื่อฟาล์วส่วนเพื่อนฉันชื่อฟาเรนฟาล์วพูดพลางชี้ไปที่ฟาเรน

                    ฉันขอโทษแทนเพื่อนฉันด้วยนะที่วันนั้นเดินไปชนนาย เนวี่เอ่ยขอโทษแทนวีร่า เพราะถ้าให้เธอขอโทษเองเรื่องคงไม่จบแน่

                    ไม่เป็นไรหรอก วันนั้นฉันก็ไมได้เป็นอะไรนี่ฟาล์วตอบเนวี่อย่างเป็นมิตร

                    บอกแล้วไงว่าไม่ต้องไปขอโทษเขาหรอก เขาก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ วีร่าพูดกับเนวี่ที่ไปขอโทษแทนเขา

                    แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ยอมขอโทษผมนะ....แต่ไม่เป็นไรหรอกผมก็ไม่ได้ว่าอะไรฟาล์วยังคงพูดกับเนวี่อยู่

                    เมื่อทั้งสี่คุยกันได้สักพักก็มีชายวัยกลางคนเดินเข้ามา ชายคนนั้นปิดประตูแล้วเอ่ยว่า

                    สวัสดีเด็กๆทั้งหลาย ขอต้อนรับสู่โรงเรียนจอมเวทย์แห่งดราโกเนีย วันนี้ก็สอบเข้าก็ได้บลงแค่นี้ขอให้ทุกคนเริ่มเรียนกันในอีก 2 วันข้างหน้าแล้ววันนั้นผมจะมาประกาศห้องเรียนแต่ละคนให้เอง

                    เราก็กลับบ้านกันเหอะเดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องไปซื้อหนังสือแล้วก็คทาใหม่กัน ฟาล์วบอกกับฟารอน แล้วเดินเคียงคู่ออกไปด้วยกันเพื่อกลับบ้าน

                    ฉันว่ายัยเนวี่นั่นจะชอบนายซะแล้วล่ะ ฟารอนบอกกับฟาล์วในขณะที่เดินกันอยู่

                    นายน่ะคิดไปเอง อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ชอบเขาด้วยฟาล์วตอบฟารอนกับคำพูดนั้น

                    เพราะ........ว่า หัวใจของนายกองไปอยู่ที่พื้นตอนโดนเจ้าหญิงแสนสวยวิ่งชนใช่มั้ยล่ะฟารอนพูดหยอกล้อกับฟาล์วอย่างสนุก แต่เมื่อฟาล์วได้ยินเช่นนั้นจึงวิ่งไล่เตะฟารอน เหมือนกับอาการแก้เขิน

                    เช้าวันรุ่งก็มาถึง ฟาล์วและฟารอนได้เดินออกไปซื้อหนังสือ แล้วกำลังจะเดินไปดูไม้คทาต่อ

                    นี่ แถวนี้จะมีร้านขายคทาแน่เหรอ  ฟาล์วพูดในขณะที่เดินหาร้านมานานแล้ว

                    มันน่าจะมีสักร้านสิน่า อ๊ะนั่นไงเจอแล้ว ฟารอนชี้ร้านให้ฟาล์วดูแล้วทั้งคู่ก็เดินเข้าร้านไป

                    เออฟารอน เวลาเราจะเลือกคทา เราจะเลือกยังไงเหรอ ฟาล์วถามฟารอน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาซื้อคทา

                    ก็ต้องลองถือดูว่าหนักไปหรือเปล่า แล้วก็ลองร่ายเวทย์เบาๆดูว่า คทานั่นเหมาะกับคนที่ใช้หรือเปล่า                                       ฟารอนบอกกับฟาล์วขณะที่เขาก็กำลังเลือกคทาอยู่

                    ตุ้บ ฟาล์วเดินชนชายคนหนึ่งเข้าอย่างจัง

                    ขอโทษครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับฟาล์วถามชายคนนั้นพร้อมขอโทษที่เดินชน

                    ไม่เป็นไรครับ...เอ๊ะคุณฟาล์วนี่นายินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันชื่อคิฟหนุ่มคนที่โดนชน ทักฟาล์วทำให้ฟาล์วงงที่คนนั้นรู้จักเขาได้อย่างไน

                    คุณรู้จักผมด้วยเหรอครับ

                    รู้จักสิ นายน่ะออกจะดัง นี่นายก็มาซื้อคทาด้วยเหรอ

                    อื้อ มากับฟารอนน่ะ เพื่อนฉันเอง ฟาล์วพูดพลางชี้ไปที่ฟารอน

                    ยินดีที่ได้รู้จักฟารอน ฉันชื่อคิฟ คิฟทักทายฟารอน

                    ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน ฟารอนตอบ

                    ฟาล์วนายเลือกคทาเสร็จหรือยังล่ะ ฟารอนถามฟาล์วที่ตอนนี้กำลังคุยกับคิฟอยู่

                    อือ เลือกเสร็จแล้ว งั้น ฉันกลับก่อนนะคิฟ  หวังว่าเราคงอยู่ห้องเดียวกันแล้วค่อยเจอกัน แล้วทั้งคู่ก็จ่ายเงินพร้อมกลับบ้านไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×