คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : EP.06 – โฟร์เบียร์
EP.06 – โฟร์เบียร์
มหาวิทยาลัย GBAC
“ไหนดูซิ... มีรอยฟกช้ำตรงไหนบ้างหรือเปล่าเนี่ย” นิ้วเรียวจับปลายคางของฉันขณะใช้ดวงตาสวยคมจับจ้องไปทั่ว แถมยังจับใบหน้าฉันหันซ้ายหันขวาเพื่อหาร่องรอยตามที่ปากว่า ฉันถอนหายใจเหนื่อย ๆ แล้วใช้มืออีกข้างปัดมือเธอออกเบา ๆ เตกีล่าทำท่าฮึดฮัดนิดหน่อยแล้วทิ้งตัวนั่งลงด้านข้าง “ให้มันได้อย่างนี้สิจิน! เมื่อไหร่แกจะเลิกไปมีเรื่องต่อยตีกับเขาสักทีนะ!”
และก็เหมือนทุก ๆ ครั้งตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา เตกีล่ายังคงบ่นฉันด้วยน้ำเสียงอ่อนอกอ่อนใจเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน และฉันก็นั่งฟังเงียบ ๆ เช่นเคย ไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธ... ก็รับประกันไม่ได้นี่นาว่าฉันจะเลิกมีเรื่องกับคนอื่นได้จริง ๆ หรือเปล่า
ความจริงฉันเป็นคนรักสงบมากเลยนะ หวงชีวิตส่วนตัวอย่างกับอะไรดี ถ้าไม่ใช่คนที่สนิทกันจริง ๆ ไม่มีทางย่างกรายเข้าใกล้ความเป็นส่วนตัวของฉันเด็ดขาด และตลอดเวลาที่ฉันมีเรื่องให้เตกีล่าบ่นบ่อย ๆ ก็ไม่ใช่เพราะฉันไปหาเรื่องใครนะ คนพวกนั้นต่างหากที่ชอบเข้ามาหาเรื่องฉันก่อน
และฉันก็เป็นประเภทที่ว่า... เป็นคนรักความสงบ แต่ก็พร้อมจะสยบด้วยส้นตีน!
ซึ่งแน่นอนว่าด้วยตำแหน่งแดนเจอร์อย่างฉัน ไม่มีทางพบความสงบง่าย ๆ แน่ เพราะมีแต่คนอยากจะได้ตำแหน่งนี้ไปครอง แต่ขอบอกเลยเถอะ! ฉันไม่เคยต้องการมันเลยนะ ไอ้ตำแหน่งบ้าบอเนี่ย ใครอยากได้ก็เอาไปเลยสิวะ! ทำไมต้องมาหาเรื่องแย่งชิงจากฉันด้วย
คือกูอยากอยู่เงียบ ๆ ไง อยากได้ตำแหน่งกันนักก็ไปขอกับทางคณะสภาบ้าบอนั่นสิ! จะมาท้าตีท้าต่อยแถมยังอ้อนมืออ้อนตีนกูเพื่อใคร!
“นี่แกฟังฉันพูดบ้างไหมเนี่ยจิน!” เสียงเหวี่ยง ๆ ของเตกีล่าดังขึ้นอีกรอบพร้อมกับสีหน้ายุ่งเหยิง ฉันเหลือบตามองมันนิ่ง ๆ ก่อนจะพยักหน้าส่ง ๆ “พยักหน้าอีกแล้ว ตลอดเลยแกอ่ะ! พยัก ๆ แต่ไม่เคยทำได้ เหอะ!”
“เอาน่าเตกิ พวกเราก็รู้จักนิสัยจินดี ถ้าพวกนั้นไม่มาหาเรื่องก่อน ยัยจินก็คงไม่ไปหาเรื่องพวกมันหรอก”
ฉันหันกลับมามองเพื่อนรักอีกคนที่มักทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยและปลอบโยนทุกคนในกลุ่มเสมอ ไม่สิ... ลิเคียวน่ะ ใจดีกับทุกคนนั่นแหละ ไม่อย่างนั้นยัยนี่จะได้ครองตำแหน่งแองเจิ้ลเป็นปีที่สี่เหรอ
“แล้วนี่อนิซไปไหน? ทำไมยังไม่มาอีกนะ” เตกีล่าเปลี่ยนเรื่องมาที่อนิซ เพื่อนรักอีกคนในกลุ่ม และเหมือนยัยนั่นจะรู้ตัวว่ากำลังตกเป็นหัวข้อสนทนา ร่างบอบบางของอนิซก้าวเข้ามาในห้องด้วยท่าทางผิดปกติ “ตายยากชะมัดเลยนะแก”
ปกติอนิซเป็นคนตรงต่อเวลามาก น่าแปลกที่วันนี้ยัยนี่มาสาย...
“อ่ะ ขอโทษที่มาช้านะ เอ่อ... พอดีว่าเค้าติดธุระน่ะ”
ฉันใช้สายตานิ่งเรียบจับจ้องพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของยัยสาวหน้าหวาน อย่าลืมสิ... ฉันเป็นหนึ่งในผู้คุมกฎที่ต้องคอยสังเกตพฤติกรรมของนักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยนะ ยิ่งท่าทางแปลกไปของเพื่อนรักอย่างอนิซด้วยแล้ว ฉันยิ่งจับผิดได้ง่าย...
“เป็นอะไรหรือเปล่าอนิซ ท่าทางแกแปลก ๆ นะ” เตกีล่าถามขึ้นตรง ๆ สายตาคมจับจ้องร่างบางอย่างจับผิดไม่ต่างจากฉัน เรียกสายตาของลิเคียวที่นั่งอยู่ไม่ไกลให้หันมองเช่นกัน
บอกแล้วไง... พวกเราเป็นถึงผู้คุมกฎของมหาวิทยาลัยเลยนะ เรื่องจับผิดพฤติกรรมนี่โคตรงานถนัดเลยล่ะ!
“มะ... ไม่มีอะไรนี่ ทำไมพวกแกต้องมองเค้าแบบนั้นล่ะ” อนิซหลบสายตาก่อนจะเดินไปนั่งมุมสุดของห้องแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ ลิเคียวที่นั่งอยู่ใกล้ที่สุดคว้าโทรศัพท์ยัยนั่นมาถือเอาไว้ก่อนจะมองหน้าเพื่อนรักอย่างรู้ทัน
“ถึงแกจะแอ๊บกับคนอื่นเก่ง แต่ลืมไปหรือเปล่าว่าแกโกหกพวกฉันไม่เก่งนะอนิซ มีอะไรก็พูดมาสิ”
“นั่นสิ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า? เดี๋ยวฉันจัดการให้”
ลิเคียวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงห่วงใยในขณะที่เตกีล่าถามพลางกดดันทางสายตา อนิซจึงก้มลงแถมยังยกมือขึ้นกระชับคอเสื้อนักศึกษาอีกต่างหาก
เดี๋ยวนะ... นั่นมัน...
ฉันเดินเข้าไปดึงคอเสื้อนักศึกษาของอนิซลงมาด้วยความรวดเร็วท่ามกลางสายตาแตกตื่นของทุกคนในห้อง คือปกติฉันเป็นคนไม่ชอบพูดมากถามมากน่ะนะ แต่ชอบลงมือทำเลยมากกว่า และการกระทำของฉันก็ส่งผลให้คอเสื้อของอนิซเปิดลงมาจนเกือบถึงเนินอกจนยัยนั่นรีบคว้าคอเสื้อตัวเองขึ้นปิดทันทีก่อนจะตะโกนถามฉันเสียงดัง
“ทะ... ทำอะไรน่ะจิน!”
“...” ฉันขมวดคิ้วมองหน้าอนิซนิ่ง ๆ แล้วหลุบตาลงมองตำแหน่งที่ฉันเห็นเมื่อครู่ และประโยคแรกตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้องก็หลุดออกมาจากริมฝีปากฉัน “คิสมาร์ค...”
“ว่าอะไรนะ!” นี่เป็นเสียงของเตกีล่า มันลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาจับมืออนิซเปิดออก ยัยนั่นพยายามเบี่ยงตัวหลบแต่ก็สู้แรงของยัยควีนตัวร้ายไม่ได้ “ให้ตายสิ! นี่มันคิสมาร์คจริง ๆ ด้วย!”
“คิสมาร์ค... รอยจูบน่ะเหรอ?” ลิเคียวทวนคำถามซื่อ ๆ ก่อนจะเบิกตากว้างอีกครั้ง “เฮ้ย! แกมีของพวกนั้นได้ยังไงอะอนิซ!”
คราวนี้พวกเราสามคนกลายเป็นยืนล้อมหน้าอนิซที่นั่งก้มหน้านิ่ง ๆ ราวกับนักโทษถูกสอบสวน ยัยนั่นกัดริมฝีปากตัวเองแน่น สองตาส่ายไปมาเหมือนกำลังคิดหาคำพูด
“ไม่ใช่! นี่มันรอยยุงกัด...”
“อย่ามาโกหกพวกฉันนะอนิซ! ฉันไม่ได้โลกสวยถึงขนาดจะแยกแยะไม่ออกว่ารอยอะไรเป็นรอยอะไร อีกอย่างนะ ฉันเห็นไอ้รอยพวกนี้บนคอของคู่ขาไอ้บ้าเต็มสิบมานักต่อนักละ! สารภาพมานะว่าใครเป็นเจ้าของรอยพวกนี้!”
เตกีล่ายืนกอดอกด้วยมาดนางพญาเหมือนที่ชอบทำ ฉันส่ายหัวแล้วเดินกลับมานั่งที่เดิม ไม่จำเป็นต้องคาดคั้นหรอก... เพราะถ้าอยากจะบอก เดี๋ยวยัยนั่นก็บอกเองแหละ อนิซเคยมีความลับกับพวกฉันนาน ๆ ซะที่ไหนกัน
“ไม่มีอะไรจริง ๆ นะ... พวกแกอย่ามากดดันเค้าเลยนะ”
อนิซเอื้อมไปหยิบไอโฟนจากมือลิเคียวคืนมาแล้วก้มหน้าก้มตากดมันเพื่อเลี่ยงที่จะตอบคำถามอะไรอีก เตกีล่ากับลิเคียวจึงเดินกลับมานั่งที่เดิมแต่สายตาก็ไม่วายจับจ้องสาวหน้าหวานอย่างจับผิด
มันชักจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลซะแล้วล่ะสิ...
ความคิดเห็น