คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : EP.02 ♥ เมื่อรัก… หลบหน้า
EPISODE 02
เมื่อรัก… หลบหน้า
ตอนกลับมาถึงบ้าน เวหาขับรถเข้ามาจอดในโรงรถของบ้านฉันเลย ก้าวลงจากรถ เท้าเพิ่งแตะพื้น บริเวณบันไดหินอ่อนหน้าบ้านปรากฏร่างสูงร้อยแปดสิบกว่าวิ่งถลาเข้ามาราวกับเหาะ
“ไหนว่าไม่ได้อยู่ด้วยกันไง? เจ้โกหกเหรอ!”
ฉันถอนหายใจเหลือบมองหน้าหล่อ ๆ ของน้องชายร่วมสายเลือดที่อายุห่างกันสิบปี ถึงหมอนี่จะอายุยี่สิบสองแล้ว และกำลังจะเข้ารับปริญญาในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า แต่อุปนิสัยไม่ต่างจากเด็กสิบขวบเลยเหอะ ยังขี้โวยวายไม่เปลี่ยน …น่ารำคาญจริง
“บังเอิญเจอกันหน้าปากซอย” ฉันโกหกต่อหน้าตายแล้วเดินหนีเข้าบ้านซะเลย ทว่าก้าวเท้าเหยียบบันไดหินอ่อนได้แค่สองขั้นก็แทบสะดุดล้มหัวแตกเพราะเสียงตะโกนของไอ้น้องชายตัวดีจากด้านหลัง
“นี่รอยอะไรวะไอ้เว? มึงไปโดนแมวที่ไหนข่วนมาเนี่ย ลายพร้อยไปทั้งตัวเลยอ่ะ!”
ฉันหันขวับกลับไปมองคนด้านหลังทันที ประสานสายตากับเวหาอย่างพอดิบพอดี แววตาวาววับแสนลุ่มลึกคู่นั้นแฝงรอยยิ้มที่ทำให้ฉันหน้าร้อนผ่าวไปหมด
“น้ำปั่น! มานี่!” ฉันตวาดเสียงเรียกน้องชายดังลั่นจนเจ้าตัวสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ น้ำปั่นหันมามองฉันหน้าตาตื่นทันที
“อะ อะไรเจ้? ของขึ้นทำไมเนี่ย ปั่นยังไม่ได้ทำอะไรเจ้เลยนะ” น้ำปั่นยกสองแขนขึ้นป้องตัวเองพลางถอยไปหลบด้านหลังเวหา ฉันกลอกตามองท่าทางปอดแหกของน้องชายอย่างดูถูกหนึ่งที เดินจ้ำอ้าวกลับมาดึงแขนเขาแล้วลากเข้าบ้านมาด้วยกัน ไม่ลืมหันกลับไปถลึงตาใส่เวหาด้านหลังด้วย
“นายก็กลับบ้านไปได้แล้ว”
“อ้าว เดี๋ยวดิเจ้ จะลากปั่นไปไหน ปั่นไม่ปายย! ปั่นมีนัดกับไอ้เว ปล่อยปั่นน”
“นัดอะไร? ยกเลิก! วันนี้ไม่ต้องออกไปไหนทั้งนั้น!” ฉันชี้นิ้วใส่หน้าน้ำปั่น เขาถลึงตาโตอ้าปากจะเถียง แต่โดนฉันตวาดใส่อีกสองสามทีจึงยอมหุบปากฉับ เมื่อเห็นว่าเวหาเดินกลับบ้านตัวเองไปแล้วฉันจึงถอนหายใจ วิ่งขึ้นบันไดบ้านไม่มองหน้าไอ้น้องโย่งด้านหลังอีก
สรุปวันนั้นก็ผ่านไปอย่างเบลอ ๆ ฉันปล่อยจอยยาว ไม่สนใจฟ้าดินอะไรทั้งสิ้น และหยุดงานไปอีกสองวันเต็ม ๆ ป๊าม้ามาเคาะประตูห้องก็อ้างว่ากำลังปั่นงานอยู่ พวกท่านชินกับนิสัยบ้างานของฉันแล้วจึงไม่ได้เซ้าซี้ต่ออีก
ตลอดสองวันมานี้ฉันเอาแต่นั่ง กิน นอน ดูซีรี่ย์วนลูปอยู่อย่างนั้น กระทั่งหน้าประตูถูกเคาะหนัก ๆ เหลือบมองนาฬิกาบอกเวลาเกือบสามทุ่ม ป๊าม้าไปบ้านยายที่เชียงใหม่ตั้งแต่เมื่อตอนบ่ายแล้ว คนเดียวที่เหลืออยู่ในบ้านนอกจากฉันก็คือน้ำปั่น แต่ว่าปกติเวลานี้หมอนั่นจะสตรีมเกมอยู่หน้าคอมไม่ใช่เหรอ?
ฉันดันแว่นสายตาหนาเตอะให้กระชับกับใบหน้า เดินมาเปิดประตูห้องโดยไม่สนใจผมยุ่ง ๆ ที่รวบขึ้นอย่างลวก ๆ กับชุดนอนตัวหลวมโครกของตัวเอง เวลาอยู่บ้านเขาก็แต่งตัวป้า ๆ กันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ เน้นสบายไว้ก่อน นี่ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่ได้โนบราน่ะ
“มีอะไร ไม่สตรีมเกมหรืองะ…” คำถามเบื่อหน่ายของฉันสะดุดไปพร้อมกับอาการนิ่งค้างยามเห็นใบหน้าหล่อ ๆ ของผู้ชายหน้าประตูห้อง
มือหนายื่นมาทาบลงบนหน้าผากฉัน ความอบอุ่นใต้ฝ่ามือเรียกสติที่หลุดลอยของฉันให้กลับเข้าร่างในทันที ก่อนจะรีบยกมือขึ้นปัดมือเขาออก
“ทำอะไรน่ะ”
“คิดว่าเจ้ป่วยน่ะสิ ตัวก็ไม่ร้อนนี่” เวหาเก็บมือกลับไปล้วงกระเป๋ากางเกงตามเดิม เขาก้มหน้าเลิกคิ้วมองฉัน สายตาแฝงความห่วงใย กลิ่นแชมพูอ่อน ๆ ลอยมาจากร่างสูง ดูจากเส้นผมเปียกชื้นหน่อย ๆ ของเขาคงจะเพิ่งจะอาบน้ำสระผมเสร็จแล้วก็ตรงมาที่นี่เลยมั้ง
“ห่วงตัวเองก่อนเถอะ เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยสระผมเสร็จแล้วไม่ยอมไดร์ให้แห้งสักที นายไม่ใช่เด็กสิบขวบแล้วนะ” ฉันชักสีหน้า เริ่มบ่นเขาด้วยความเคยชิน
เวหากลับยกยิ้มมุมปาก ตอบกลับหน้าตาย “ที่ห้องไม่มีไดร์อ่ะ”
ฉันขมวดคิ้วใส่ หมุนตัวกลับเข้ามาในห้องหยิบไดร์เป่าผมของตัวเองแล้วเดินกลับมายื่นส่งให้เขา “เอ้า ให้ยืม เสร็จแล้วเอามาคืนด้วย”
แต่แทนที่เวหาจะรับไว้ เขากลับยักไหล่ พูดด้วยน้ำเสียงติดออดอ้อนอย่างที่น้อยครั้งเขาจะทำกับฉัน “ไดร์เองไม่เป็น เจ้ไดร์ให้ผมหน่อยสิ”
ฉันถลึงตาใส่เขาทันควัน ไอ้เด็กเจ้าเล่ห์นี่ เห็นฉันเป็นนังแจ๋วหรือไงหะ!
“น่านะ เมื่อก่อนเจ้ก็ไดร์ให้ผมบ่อย ๆ นี่ ไม่เห็นเป็นไรเลย หรือว่าเจ้อยากให้ผมป่วย?”
ไม่! ฉันจะไม่แพ้ลูกอ้อนไอ้เด็กบ้านี่เด็ดขาด! เอาหน้าหล่อ ๆ ออกไปจากสายตาฉันเดี๋ยวนี้นะ! อย่ามาทำให้หัวใจสาวน้อยของมนุษย์ป้าอย่างฉันสั่นไหวจะได้ไหมเล่า!
“ฉันไม่ว่าง” ฉันพยายามทำหน้าขึงขังสุดฤทธิ์ คว้าบานประตูจะปิดใส่หน้าเขาด้วย แต่ถูกมือหนาคว้าจับเอาไว้ก่อน แถมเขายังแทรกตัวเข้ามาในห้องฉันอย่างหน้าตาเฉยอีกต่างหาก “ทำบ้าอะไรน่ะเว เข้ามาทำไม?”
เวหาเดาะลิ้นเบา ๆ สองมือล้วงกระเป๋า เอนร่างสูงพิงหลังกับบานประตู ท่าทางดูเสเพลเหมือนพวกนักเลงหัวไม้ตามตรอกถนนมาก
“เจ้จงใจหลบหน้าผมเหรอ?”
หะ…. เขาพูดว่าอะไรนะ?
ใคร? ใครหลบหน้าเขากัน? ไม่อ่ะ! ฉันไม่ได้หลบหน้าเขาสักหน่อย ทำไมต้องหลบด้วย…
ถึงในใจจะร่ำร้องแบบนั้นแต่พอถูกสายตาคมจับจ้อง ฉันก็พูดอะไรไม่ออกสักคำ คิดแล้วมันก็น่าโมโหอยู่นะ การที่คนอายุสามสิบกว่าอย่างฉันมาถูกเด็กอายุยี่สิบต้น ๆ อย่างเขาไล่ต้อนจนมุมแบบนี้เนี่ย
“ไม่ตอบ? แสดงว่าหลบหน้าผมจริงสินะ”
“มะ ไม่ใช่ ฉันจะหลบหน้านายทำไมเล่า” ฉันเงยหน้าเถียงเสียงแข็ง ให้ตายก็ไม่ยอมรับเด็ดขาด
“นั่นสิ เจ้จะหลบหน้าผมทำไมเนอะ”
“อื้อ ใช่ ๆ”
“นอกจากเจ้คิดจะฟันผมแล้วทิ้งอ่ะเนอะ”
อะ เอ๊ะ… นั่นเวหาพูดบ้าอะไรน่ะ? คะ ใครฟันแล้วทิ้งกัน? ฉันน่ะเหรอ? ฉันเนี่ยนะฟันเขาแล้วทิ้ง?
นี่มัน… นี่มันบ้าบอกเกินไปแล้ว!
*********************************
โถ่เจ้หอมมม จะฟันแล้วน้องแล้วทิ้งไม่ได้เน้อออ เด็กมันร้ายยย เด็กมันเนียนเก่ง 555
ฟางอัพ Ebook ลง MEB และบนเว็ปนิยายด้วยนะคะ จัดโปรโมชั่นราคาพิเศษเฉพาะวันวาเลนไทน์ และมีติดเหรียญรายตอนทุกเว็ปเช่นเดิมค่าา ฝากสนับสนุนเค้าด้วยนะตัววววว เลิฟยูค่าาาาา
ความคิดเห็น