NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [จบ]CRAZYHOLIC | ปืนใหญ่ใต้ขอบฟ้า [SOHOT SM]

    ลำดับตอนที่ #13 : CRAZY 11 #ไม่อาจหวนคืน

    • อัปเดตล่าสุด 20 ธ.ค. 65


    CRAZY 11 #ไม่อาจหวนคืน


    ความเงียบคืบคลานเข้ามา ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เราต่างฝ่ายต่างจ้องตากัน สุดท้ายการแกล้งโง่ของฉันก็ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปเมื่อถูกปืนใหญ่เปิดโปง รู้ตัวเลยว่านับจากวินาทีฉันกับเขาไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้อีกต่อไปแล้ว

    สิ่งที่ฉันหวาดกลัวมากที่สุดมันได้เกิดขึ้นแล้ว ในที่สุดความสัมพันธ์ของพวกเราก็เดินมาถึงจุดที่ไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีก มิตรภาพที่แตกสลายไม่อาจหวนคืนได้อีกแล้ว

    ฉันหลับตาลง กล้ำกลืนความรู้สึกใจหาย กดเก็บความเสียใจ สะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมา ก่อนลืมตาขึ้นอีกครั้งแล้วมองสบตากับปืนใหญ่ด้วยแววตาว่างเปล่า

    เป็นเพื่อนกันมันก็ดีอยู่แล้วป่ะวะ ฉันไม่อยากเสียเพื่อนอย่างแกไปนะปืน

    เราไม่ใช่เพื่อนกันตั้งแต่วันที่ฉันเอาเธอแล้วฟ้า

    ฉันถึงกับพูดไม่ออก มองตาคนตัวสูงเบื้องหน้านิ่งงัน

    ฉันไม่เคยคิดว่าเธอเป็นเพื่อน เลิกเพ้อฝันสักที

    มิตรภาพสิบห้าปีสำหรับปืนใหญ่แม่งไม่มีความหมายเลยเหรอวะ

    สีหน้าปืนใหญ่ชะงักไป แววตาดุดันอ่อนลง ปลายนิ้วที่บีบแน่นตรงปลายคางค่อย ๆ คลายออกก่อนเลื่อนปลายนิ้วโป้งปาดเช็ดข้างแก้มให้ฉัน เวลานี้เองที่ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองกำลังร้องไห้ เมื่อกะพริบตาจึงสัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อนของน้ำตา

    นี่มันบ้ามาก ฉันไม่ได้ร้องไห้ต่อหน้าปืนใหญ่มานานแค่ไหนแล้วนะ

    ตั้งแต่ตอนมัธยมปลายหรือเปล่านะ คืนนั้นที่ฉันเสียจูบแรกให้เขา

    ตอนนั้นพวกเราเรียนอยู่มอหก จำได้ว่าหลังจากสอบปลายภาคมหาโหดจบ ฉัน วันวาน พวกสามแฝด และเพื่อนร่วมห้องอีกห้าหกคนพากันไปจัดปาร์ตี้ฉลองสอบเสร็จกันที่บ้านของพวกแฝด พ่อกับแม่ของพวกเขาใจดีมาก นอกจากยกบ้านให้จัดปาร์ตี้แล้ว ยังเป็นเจ้ามือเลี้ยงพวกเราด้วย วันนั้นทุกคนดื่มกันไปเยอะมาก ต่างคนต่างเมา สนุกสนานกันสุดเหวี่ยงมาก

    ตกดึกฉันได้รับสายจากพ่อ หลังจากคุยสายอยู่นานจนทะเลาะกันอย่างหนัก ฉันก็แอบมานั่งร้องไห้เงียบ ๆ คนเดียว ปืนใหญ่ตามหาฉันจนเจอ เขานั่งลงด้านข้างฉันโดยไม่พูดอะไร ฉันพิงไหล่เขาร้องไห้สักพักจนเริ่มรู้สึกสบายใจขึ้น ทว่าในช่วงเวลานั้นจู่ ๆ ปืนใหญ่ก็ขยับหน้าเข้ามาจูบฉัน มันเป็นแค่การแตะปากเบา ๆ แต่เนิ่นนานเกือบนาทีก่อนจะผละออกไป ตอนนั้นฉันตกใจจนลืมเรื่องเสียใจไปจนหมด ปืนใหญ่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่วางมือบนผมฉันแล้วขยี้เบา ๆ ก่อนยกยิ้มจาง ๆ มุมปากเท่านั้น

    ตอนนั้นฉันคิดว่าปืนใหญ่คงเมาหรือไม่ก็คงอยากปลอบใจฉัน เช้ามาฉันจึงไม่เอ่ยถึงเรื่องนั้นอีก ปืนใหญ่เองก็ไม่พูดถึงเช่นกัน มันยิ่งตอกย้ำความคิดฉันที่ว่าเขาคงเมาจริง ๆ และคงลืมไปแล้ว ฉันจึงไม่ถือสา ไม่ได้เก็บมาใส่ใจอีก

    หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าปืนใหญ่อีกเลย กระทั่งตอนนี้

    พรึ่บ

    ฉันเบี่ยงหน้าหลุดจากฝ่ามือหนาพลางลุกขึ้นยืน ยกมือปาดน้ำตาสองข้างแก้มลวก ๆ ก่อนก้าวเท้าเข้าห้องนอนแล้วปิดประตูล็อกทันที ปืนใหญ่ตามมาเคาะประตู น้ำเสียงเคร่งเครียดดังลอดผ่านบานประตูเข้ามา

    “เปิดประตูนะฟ้า ออกมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนดิวะ คิดว่าหลบหน้ากันแบบนี้แล้วเรื่องมันจะจบง่าย ๆ เหรอวะ”

    ฉันทิ้งตัวลงนั่งยอง ๆ กับพื้นหน้าประตู พยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่นเครือเพื่อตะโกนตอบกลับไป “ฉันไม่มีอะไรจะคุยแล้ว กลับไปก่อนเหอะปืน ฉันขอร้อง”

    เสียงทุบเงียบลงแล้ว ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจากด้านหลังประตู ก่อนตามมาด้วยเสียงของปินใหญ่ที่ดังอยู่ใกล้กันมาก ราวกับว่าเขาก็กำลังนั่งคุกเข่าอยู่หน้าประตูเช่นกัน

    “ฉันไม่ยอมเสียเธอไปหรอกนะฟ้า”

    “เธอเป็นของฉัน เป็นของฉันตั้งแต่วันที่เธอเป็นฝ่ายยื่นมือมาจับมือฉันเมื่อสิบห้าปีก่อนแล้ว”

    เขา หมายความว่ายังไง

     

    สิบห้าปีก่อน

    ณ สนามเด็กเล่นของสวนสาธารณะภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เด็กหญิงวัยหกขวบกำลังนั่งแกว่งชิงช้าอยู่เพียงลำพัง ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มเหม่อมองไปทางถนนครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับกำลังรอคอยบางคนอยู่ ผมเปียสองข้างพลิ้วไหวเบา ๆ ไปตามแรงแกว่งของชิงช้า

    พลั่ก

    “เอามานี่นะ!

    เสียงตวาดของเด็กผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากด้านหลังต้นไม้ใหญ่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชิงช้า เรียกดวงตากลมโตหันมองด้วยความสนใจ ตรงนั้นมีเด็กผู้ชายอายุประมาณสิบขวบยืนอยู่สองคน และมีเด็กผู้ชายตัวเล็กอายุหกขวบกำลังล้มอยู่บนพื้น

    “ได้ข่าวว่าบ้านรวยนักไม่ใช่เหรอ แบ่งกันเล่นแค่นี้จะเป็นไรไปไอ้เปี๊ยก” ในมือของเด็กผู้ชายตัวโตที่ยืน คนหนึ่งถือรีโมต คนหนึ่งถือรถบังคับ ดูก็รู้ว่าเด็กที่กำลังนั่งอยู่บนพื้นเป็นเจ้าของรถบังคับคันนั้นแน่ และเด็กตัวโตสองคนนั้นก็กำลังแย่งเขาเล่นอยู่

    เด็กหญิงตัวน้อยพองลมข้างแก้มอย่างไม่ชอบใจ ลุกขึ้นยืนจากชิงช้าแล้วก้าวเดินอาด ๆ ไปทางด้านหลังเด็กผู้ชายตัวโตทั้งสอง ก่อนจะยื่นมือเล็ก ๆ ออกไปผลักสุดแรง เพราะเด็กชายทั้งสองไม่ทันระวังจึงถูกแรงน้อยนิดของเด็กหญิงที่พุ่งเข้ามากะทันหันทำให้เสียหลักสะดุดขาตัวเองล้มไปกองกับพื้นกันทั้งคู่

    “โอ๊ย!

    เฮือก!

    เด็กหญิงทำท่าตกใจเพราะคาดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะผลักเด็กผู้ชายตัวโตถึงสองคนล้มพร้อมกันแบบนี้ได้ ด้วยความตื่นตระหนกกลัวจะถูกเอาคืน มือหนึ่งรีบหยิบรถบังคับขึ้นมากอด แล้วถือรีโมตเอาไว้ ส่วนอีกมือคว้าจับมือเด็กผู้ชายตัวน้อยแล้วฉุดให้ลุกขึ้นก่อนพาวิ่งหนีไปด้วยกัน

    “รีบหนีเร็ว ๆ วิ่งเข้า” เสียงหวานใสเจื้อยแจ้วดังคลอตามสายลม แสงแดดยามเย็นสาดส่องกระทบผมเปียทั้งสองข้าง ใบหน้าจิ้มลิ้มหันกลับมาแก้มใสแดงระเรื่อประดับรอยยิ้มซุกซน เด็กชายตัวน้อยวิ่งตามขณะสองตาเหม่อมองสองมือที่จับกันแน่นสลับกับรอยยิ้มเต็มแก้มของเด็กหญิงตรงหน้า

    กระทั่งเด็กทั้งสองวิ่งเข้ามาหลบในอุโมงค์แล้ว เสียงหัวเราะสดใสจึงดังขึ้น

    “สนุกจังเลย สองคนนั้นตลกมากเลยเนอะ คิก ๆ”

    เด็กชายไม่ได้หัวเราะไปกับเด็กหญิงด้วย เขาเพียงแค่ยืนนิ่งจ้องมองรอยยิ้มสดใสนั้นตาไม่กะพริบ โดยที่มือของทั้งคู่ยังคงจับกันแนบแน่นไม่ยอมปล่อย

    และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ไม่ว่าเวลาจะผันผ่านไปสักกี่ปี ภาพรอยยิ้มสดใสนั่นก็ยังคงเด่นชัดในความทรงจำของเด็กชายไม่เคยจางหาย

    มันสลักลึกอยู่ในหัวใจของเขาจนไม่อาจลบเลือนออกไปได้อีกเลย

    ++++++

    งุ้ยยยย เฮียมันร้ายตั้งแต่เด็กเลยน้าาาา แค่เขาจับมือกับยิ้มให้นิดหน่อยถึงกับยึดติดขนาดนี้เลยเหรอ คลั่งรักไม่ไหวววว

    ฝากแท๊ก #เพื่อนเล่นจะเล่นเพื่อน ทวีตกันรัวๆ ได้เลยค่าาาาา ทวีต @Pankaow1009 หรือเพจ พันเก้า

    อ่านกันแล้วช่วยกันคอมเม้นท์หน่อยนะคะที่รัก ขอฮีลใจจากทุกคนหน่อยค่าาา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×