ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sorry Celebrity ! ขอโทษที อุบัติเหตุ(รัก)นี้ไม่ได้ตั้งใจ

    ลำดับตอนที่ #1 : Introdution ' บทนำ ' [ Load 100% & rewrite 25.07.2555]

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 56


     

     

     
     
    London , United Kingdom 

    Friday  2  April ; 7.00 p.m. 

    I am Sponge.

     

     

     

    ฉันยกนาฬิกาข้อมือสายหนังสีดำมันเงาเส้นเล็กๆ แบบนาฬิกาสำหรับกุลสตรี แบรนด์ armani ขึ้นมาดูเวลา  หน้าปัดรูปสี่เหลี่ยมอันเล็กๆ บอกเวลาด้วยเลขดิจิตอล  '11.00 p.m.'    ฉันมองนาฬิกาเรือนหรู ราคาแพง ด้วยสายตาอ่อนโยน แล้วส่งยิ้มน้อยๆให้มัน นาฬิกาเรือนนี้เป็นของขวัญวันเกิดครบรอบอายุ 18 ปี จากโรแลนด์และรอสลินด์ แลร์เวลท์ พ่อแม่บุญธรรมของฉัน และมันก็เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายจากพ่อและแม่ ก่อนที่ท่านจะจากไป ในอุบัติเหตุไฟไหม้บ้านที่แมนเชสเตอร์ หลังจากวันเกิดฉันไป 2 เดือน   แม้ท่านจะทิ้งมรดกให้ราวๆ 1 แสนปอนด์ หรือเกือบ 5 ล้านบาท ให้ฉันและพี่ชาย 'ลีเทย์' ลูกชายแท้ๆของพ่อกับแม่   แต่หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ขโมยขึ้นบ้าน ขนทรัพย์สินไปเกือบหมด  (ไอ้โจรบ้า ฉันจะตามแช่งแกไปทุกภพทุกชาติไป)  นับแต่นั้นชีวิตฉันก็เหมือนไฮโซตกอับดีๆนี่เอง  นี่มันซวยซ้ำซวยซ้อนอะไรนักหนาก็ไม่รู้ 

    จากนั้นไม่นานลีเทย์ก็บินไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา ส่วนฉันก็ย้ายมาอยู่ที่ลอนดอน ทำงานปาปารัซซี่ ใช้ชีวิตลำพังด้วยลำแข้ง หาเงิน ส่งตัวเองเรียน  คนสู้ชีวิตขนานแท้ T0T นัง 'สปันจ์' คนนี้


                           ฉันละสายตาจากนาฬิกา หันไปมองสัญญาณไฟบริเวณสี่แยก ซึ่งตอนนี้ยังเป็น 'ไฟแดง'  
                    " เฮ้อ "    ฉันนั่งถอนหายใจอยู่ในรถพอร์ช 911 รุ่น คาร์รีรา จีทีเอส (Porsche 911 Carrera GTS) สีขาวมุกที่พึ่งถอยมาด้วยเงินเก็บตลอดชีวิต เงินเดือน และโบนัส ทุ่มไปกือบ 4 ล้าน  ให้ตายเถอะ กิเลสครอบงำหนาแน่นอย่างกับปลิงควาย รถสุดรักดูดเงินฉันแทบหมดตัว T______T  สิ้นเดือนฉันอาจต้องกินเศษขนมปังเพื่อปะทังชีพ
                    ลอนดอนเริ่มเข้าสู่บรรยากาศค่ำคืน แม้ว่าริมถนนหรือสิ่งก่อสร้างสูงใหญ่ตระการตาไม่เคยจะหลับใหลไปพร้อมความมืดมิดของท้องฟ้ายามราตรีของเมืองนี้เลย  ตึกอาคารต่างเปิดไฟสว่าง ราวกับผู้คนยังคงทำงานกันขยันขันแข็ง   นี่ศุกร์สุดสัปดาห์นะ คงจะเหลือแต่พวกบ้างานอยากเลื่อนขั้นเท่านั้นที่ยังทำงาน ส่วนแฟมมิลี่แมนทั้งหลายก็คงกลับบ้านตั้งแต่เย็นๆ เพื่อกลับไปให้ทันรับประทานมื้อเย็นกับครอบครัว 
                    ฉันมองตามหนุ่มสาวคู่รักที่เดินจูงมือกันผ่านไปขณะที่ฉันนั่งอยู่ในรถ  ต่างกับฉันที่ยังโสดสนิทคงเส้นคงวาอยู่แบบนี้ หัวใจชักจะเหี่ยวไปเรื่อยๆละนะ 
                    " เมื่อไหร่จะมีใครซักคนมาดูแลฉันบ้าง พระเจ้าใจร้ายกับหนูจัง "    ฉันเบ้ปากเล็กน้อยด้วยความอิจฉา T3T
                    พอสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็น 'ไฟเขียว'  พอร์ช 911 ก็เคลื่อนออกไป พ้นจากภาพที่แสนจะทำร้ายใจดวงน้อยๆของเจ้าของที่นั่งในรถ

     

     

     

    ห้างแฮรอดส์  Harrods



                    หลังจากขับรถหนีภาพบาดจิตมาได้ซักพัก ฉันก็จอดรถไว้ริมถนนบริเวณหน้าห้างแฮรอดส์ (Harrods)
                    " นี่คุณ จอดรถแบบนี้ไม่มีน้ำใจเลยนะ ขยับหน่อยสิ นี่ยังพอจอดได้อีกตั้งคันนึง "    ทันทีที่ฉันก้าวลงมาจากรถ ก็มีผู้ชายรูปร่างสูงล่ำ ผมสีบลอนด์ทองที่ยียุ่งๆ ตะโกนมาจากทางด้านหลัง   ฉันหันไปมองด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ แอบส่งสายตาจิกไปหนึ่งที แล้วหันกลับมาเปิดประตูรถเพื่อจะขยับให้    

    " จอดรถไม่มีมารยาท "    เขามุดตัวกลับเข้าไปในรถแลมโบกินีราคาราวๆสามสิบล้านสีเหลืองสด 
                    ว่าไงนะ ไม่มีมารยาทงั้นเหรอ ปากเสียชะมัด รวยแล้วข่มคนอื่นหรอ  หน็อย! ถ้าพูดมากกว่านี้ ยางรถรั่วแน่ เฮอะ  ฉันพยายามสงบสติอารมณ์ แล้วเดินจากไป


                    วันนี้วันศุกร์ คนพลุกพล่านมากเป็นพิเศษ  ฉันเดินดูของอยู่โซนเครื่องประดับอย่างสบายใจ ขณะนั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง กำลังจะล้วงกระเป๋าเหยื่อจากทางด้านหลัง ตาลุงคนนั้นคงไม่รู้ตัวสินะว่ากำลังจะตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม  หลังจากที่คิดว่าตัดสินใจดีแล้ว ฉันก็รีบพุ่งไปที่เด็กวัยรุ่นนั่นทันที
                    " นี่ หยุดนะ! -[]- "    ฉันเข้าไปแย่งกระเป๋าสตางค์จากมือเด็กหัวขโมย ทันทีที่ของกลางตกมาอยู่บนมือฉัน เด็กนั่นก็ทำหน้าตกใจ แล้วก็เผ่นแน่บ 
                    " อ๊ะ! หนีหรอ "    ฉันพยายามจะวิ่งไปคว้าตัวไว้ แต่ก็ถูกมือใหญ่กระชากแขนไว้
                    " โอ๊ย! ปล่อยฉันนะ ขโมยมันหนีไปแล้ว เห็นมั้ย "    ฉันหันไปตะคอกคนที่รั้งมือฉันไว้    " นี่คุณ! "   O[]O'  ฉันแทบอ้าปากค้าง เมื่อคนตรงหน้าฉันกลับดูคุ้นหน้าคุ้นตา

    " เธออีกแล้วเหรอ "   
                    " นาย ! "     ถ้าฉันรู้ว่าผู้ชายคนเมื่อกี้เป็นคนที่ด่าฉันว่า 'ไม่มีมารยาทฉันไม่มีทางช่วยแน่นอน 
                    " หน้าตาท่าทางก็ดีนะ ขับรถราคาหลายล้าน แต่ดันเป็นขโมย "    หมอนั่นเอื้อมมืออีกข้างมาคว้ากระเป๋าสตางค์ของตัวเองคืนไป   " นี่ กระเป๋าสตางค์ฉัน " 
                    " ใช่ มันเป็นของนาย แล้วก็บอกให้รู้ไว้นะ ว่าฉันไม่ได้ขโมย! "    ฉันพยายามบิดมือให้หลุดจากมือของไอ้บ้านั่น   คนจะช่วยแท้ๆ ดันมาซวยเป็นแพะรับบาป
                    " เธอยังกล้าปฏิเสธอีกหรอ ของของฉันมันอยู่ในมือเธอนะ "    
                    " ก็ขโมยมันวิ่งหนีไปแล้วไงเล่า แล้วก็ช่วยปล่อยมือฉันซะที เจ็บนะเว่ย "    ตอนนี้เราทั้งคู่กลายเป็นจุดสนใจของคนแถวนั้น
                    " เฮ้ย! พรีสซ์ เกิดอะไรขึ้น "    ผู้ชายผมบลอนด์อีกคนเดินเข้ามาถาม 
                    " ยัยขี้ขโมยน่ะ แต่มันไม่ยอมรับว่าเป็นขโมย "    เอาเข้าไป ลากฉันเข้าคุกเลยสิไอ้บ้า บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ขโมยยยยย
                    " ฟังฉันได้รึยัง "    ฉันเริ่มทนไม่ได้กับความเข้าใจผิดของไอ้หนุ่มผมบลอนด์จอมมาด ไร้เหตุผล อำมหิต วิตถาร บ้า บ้า บ้า บ้าที่สุด แล้วยังมาใช้สรรพนามแทนฉันว่า 'มัน' อีก โอ้ย! ทำไมฉันต้องมาเจอนายอีกเนี่ย เลวร้ายที่สุดเลย
                    ฉันเริ่มอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนของหมอนั่นฟัง เพราะแก้ตัวกับคนอย่างนั้น ยังไงซะ ฉันก็เป็นฝ่ายผิดอยู่ดี เอาแต่ใจตัวเองชะมัด    หลังจากที่อธิบายเรื่องราวทั้งหมดจบ นายนั่นก็ปล่อยมือออกจากข้อมือฉัน แต่ก็ไม่มีสีหน้าที่จะสำนึกผิดเลยซักนิด เหอะ ฉันไม่รู้จะด่ายังไงแล้วนะ

    ฉันลูบข้อมือแดงๆของตัวเองไปมา
                    " เจ็บมากมั้ย "    ฉันเงยหน้าไปมองต้นเสียง ผู้ชายผมบลอนด์ออกน้ำตาลมองหน้าด้วยสีหน้าเป็นห่วง เขาดูเป็นมิตรและนิสัยดีมากกว่าไอ้บ้านั่นเป็นร้อยเท่า     " แค่นั้น ไม่ถึงกับตายหรอกน่า "   หมอนั่นพูดขัดขึ้นมา แล้วก็เดินจากไปเฉยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
                    " วินเชส ไปเหอะน่า "     พรีสซ์หันกลับมาตะโกนเรียกผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าฉัน     
                    สีหน้านิ่งๆไร้สำนึกของไอ้หมอนี่ มันตราตรึงในสมองฉันไปซะแล้ว เกลียดขี้หน้านายชะมัด พรีสซ์!
                    " ไว้เจอกันนะ แม่ฮีโร่ผมบลอนด์ "    เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าเทายิ้มให้อย่างอบอุ่น
                    " ^^ "    ฉันยิ้มบางๆตอบ  'ฉันไม่อยากเจอพวกนายอีก! อย่าเจอกันอีกเลยนะ
                    " ชักช้าน่า! "    พรีสซ์สะบัดเสียงใส่  " เออๆ ไปแล้วน่า "   วินเชสหันกลับไปตะโกนตอบ แล้วหันมายิ้มให้อีกที
                    " ขอโทษ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนะ และก็ ขอบคุณมาก แม่ฮีโร่ผมบลอนด์ "

    " เอ่อ แล้วก็ เลิกเรียกฉันว่า แม่ฮีโร่ผมบลอนด์ซะที รู้สึกเดียมหูชะมัด ฉันชื่อ สปันจ์ " -O-

     

    ชาตินี้ ชาติไหน ขออย่าได้มีเวรกรรมพันผูกกันอีกต่อไปเลย ไอ้พรีสซ์ไร้มารยาทนั่น ขอให้ฉันอย่าเจอกับคนแบบนั้นอีกเลยเถิด เพี้ยง!....

                     

     

     












      from writer / จากใจไรเตอร์ ป่าน
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    จบ intro ด้วยความยากลำบาก ฮ่าๆ ฝากติชมกันหน่อยน๊า
    สำบัดสำนวนยังไม่ค่อยราบรื่น จืดๆแปลกๆ  -_-   ตอนต่อไป จะพยายามพัฒนาค่า
    พบเห็นคำผิด แจ้งไรเตอร์ด้วยนะคะ จักเป็นพระคุณยิ่ง > <
    ก่อนจะจาก กดเฟบ , คอมเม้นท์ หน่อยนะ ไม่เม้น จะอัพช้าๆ คอยดู ไรเตอร์จะงอน
    (คนอ่าน :: ใครสนล่ะ) แง๊ ไรเตอร์ขอโทษจ๊า ไรเตอร์จะรีบอัพน้าตะเอง
    ใครเม้น ไรเตอร์จะตบรางวัลด้วยจุมพิตอันสุดสวาส >3< อยากได้ม๊า ตะเอง ฮ่าๆๆ

      

     

     


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×