คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : P.II ความพยายาม.........
เวลาที่ผ่านไปหลายชั่วโมง มันไม่ได้ทำให้เจสสิก้าดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย
เธอได้แต่เพียงนั่งนิ่งๆ และนึกถึงทุกสิ่งทุกอย่าง....
เมื่อสามปีที่แล้ว เธอมาที่โรงพยาบาลแห่งนี้
ดวงตาของเธอเสียหายจากอุบัติเหตุรถยนต์ตั้งแต่เด็ก ทำให้เจสสิก้ามองไม่เห็นตั้งแต่นั้น
เจสสิก้าถูกรับมารักษาโดยลูกพี่ลูกน้องของพ่อมารักษาที่เกาหลี เพราะค่ารักษาที่อเมริกาแพงเกินไป
โชคดีที่ลูกพี่ลูกน้องของนายจอง รู้จักกับผอ.โรงพยาบาล และมีบุญคุณกันอยู่
เจสสิก้าจึงถูกรับตัวมารักษาโดยไม่คิดค่าพยาบาลแม้แต่น้อย
ทางรพ.รับรองว่าเธอหายได้อย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องรอผู้บริจาคแก้วตาเท่านั้น
เจสสิก้าจึงต้องจำใจยอมอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ โดยไม่ได้รับการติดต่อจากครอบครัว
การจะย้ายมาอยู่เกาหลีนั้นลำบากเกินไป อีกทั้งน้องสาวเธอยังต้องเรียนให้จบเสียก่อน
และนั้นเป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอคุณหมอแสนดี คิมแทยอน.....
.
.
.
ควอนยูริชั่งใจอยู่หน้าประตูอยู่นาน ร่างสูงค่อยเปิดประตูเข้ามาในห้องช้าๆ
ยังไงซะเธอก็ต้องดูแลเจสสิก้าอยู่ดี ถ้างานแค่นี้เธอทำไม่ได้ ที่เรียนจบหมอมาก็ไร้ประโยชน์
ถึงเจสสิก้าจะไม่ต้องการให้เธอดูแล แต่นี่คือหน้าที่ ไม่ว่าจะยังไงเธอก็ต้องทำ.....
ยูริลากโต๊ะเลือนที่วางอาหารกลางวันไว้ มาที่เตียงช้าๆ
“....คุณเจสสิก้า อาหารกลางวันค่ะ....”ยูริกล่าว
“....ฉันยังไม่หิว....”
“....ถ้าคุณไม่ทาน ร่างกายคุณจะแย่เอานะคะ....”
ยูริพูดเสียงอ่อน พยายามใช้เหตุผลเผื่อเจสสิก้าจะเข้าใจอะไรง่ายๆ
“....แล้วจะทำไมล่ะ มันร่างกายฉัน ฉันจะทำยังไงกับมันก็ได้....”
ยูริได้แต่คิดในใจ ผู้หญิงอะไร ปากเก่งที่หนึ่ง ทั้งๆที่ตาก็มองไม่เห็น
ทำอะไรก็ไม่ได้ ยังจะดื้ออีก ขืนเธอยอมให้มากแบบนี้มีหวัง เจสสิก้าได้ตายก่อนผ่าตัดแน่ๆ
“.....ฉันไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไรนะแต่ในเมื่อฉันเป็นหมอประจำของคุณ
คุณก็น่าจะเชื่อฟังฉันหน่อย ขืนคุณยังดึงดันอยู่อย่างนี้ ตาคุณมันไม่มีวันได้มองเห็นหรอก......”
ยูริพูดเตือนสติ ใจจริงก็ไม่ได้อยากพูดแบบนี้หรอกนะ แต่ดื้อแบบนี้ไม่พูดคงไม่ได้
“.....ฉันต้องการให้หมอคิมกลับมา กลับมาดูแลฉัน ไม่ใช่คนอื่น....”
เจสสิก้าพูดในสิ่งที่เธอต้องการ และแน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะให้คิมแทยอนกลับมาในตอนนี้
“....ฉันคงทำตามที่คุณบอกไม่ได้ สิ่งที่คุณต้องทำในตอนนี้ คือทานอาหารกลางวันซะ.....”
สายตาที่มองเจสสิก้าตอนนี้เหมือนคุณแม่ที่กำลังดุลูก เจสสิก้าไม่รับรู้ว่ายูริเคืองแค่ไหนที่ถูกปฏิเสธสิ่งที่เธอเต็มใจให้
“....ออกไปเถอะค่ะ เอาอาหารออกไปด้วย ฉันไม่อยากทานแล้วก็ไม่อยากได้ยินเสียงคุณ....”
จุดประสงค์เดิม อย่างไม่เปลี่ยนแปลง เจสสิก้ายังคงย้ำมันให้ยูริฟังยูเหมือนเดิม
“.....ฉันจะออกไป ก็ต่อเมื่อคุณทานอาหารนี้หมดแล้ว.....”ยูริก็ไม่ยอมเช่นกัน
“.....เมื่อไหร่คุณจะเลิกวุ่นวายกับฉันเสียที ฉันไม่ต้องการคุณ ฉันไม่ต้องการใครทั้งนั้น!!...”
เจสสิก้าตวาดลั่น ทำเอายูริชะงักเล็กน้อย เจสสิก้าเวลาโมโหก็น่ากลัวมากจริงๆ เธอรับประกันได้
แต่จะให้ยอมแพ้คนไข้ขี้วีนอย่างเจสสิก้า เพียงเพาะถูกตวาด แล้วเวลาที่เรียนหมอมาสี่ปีกว่าเพื่ออะไรกัน
ถ้าเธอยอม เจสสิก้าคงไม่มีวันยอมรับเธออย่างแน่นอน...
“....ฉันไม่อยากบังคับคุณนะเจสสิก้า แต่ฉันเป็นหมอของคุณ ฉันมีหน้าที่ต้องดูแลคุณ
ไม่ว่าคุณจะต้องการหรือไม่ ฉันปฏิเสธที่จะดูแลคุณไม่ได้...”
ยูริอธิบาย ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการบ่นไปเรื่อย เจสสิก้าที่ใกล้จะสติแตกเต็มทีก็เอาแต่ปฏิเสธไม่ยอมรับฟังท่าเดียว
“....หน้าที่หรอ คุณดูแลฉันเพราะหน้าที่ คุณคิดบ้างไหมว่าคนไข้ของคุณรู้สึกยังไง เสียใจ เศร้า ท้อแท้
คุณรู้อะไรบ้าง นั้นคือสิ่งที่คุณไม่มีหมอควอน แต่หมอแทยอนมี...”
ยูริได้แต่นิ่ง เธอเถียงไม่ออกจริงๆกับเรื่องนี้ ถูกที่เธอไม่รู้ว่าเจสสิก้ารู้สึกอะไร ถึงจะเข้าใจว่าเป็นเพราะแทยอนก็ตาม
“....ฉันขอโทษที่ฉันเป็นหมอที่ดีเหมือนหมอแทไม่ได้ แต่คุณไว้ใจฉันได้ไหมคะ...
ถึงจะไม่เท่าหมอแท แค่เชื่อใจ เชื่อว่าฉันจะทำให้คุณหายได้...” ยูริทำใจเย็น ค่อยๆพูดกับสิก้า
“....หาย! หายจากอะไร ตาบอดน่ะหรอ เหอะ! นี่คุณอย่ามาตลกได้ไหม ตาฉันมันบอดแต่ไหนแต่ไรแล้ว คุณคิดว่าแค่คุณมามันจะรักษาได้หรอ ฉันอยู่รพ.นี้มาสามปีฉันก็ยังเป็นคนตาบอดเหมือนเดิม!!...”
ในที่สุดเจสสิก้าก็ปล่อยโฮ ยูริได้แต่ถอนหายใจ ทั้งหนักใจและเสียใจไปพร้อมกัน
ยูรินิ่งเงียบไปสักพักเพื่อให้อารมณ์กรุ่นๆของคนบนเตียงลดลง ก่อนที่เธอจะยืนมือไปจับมือเจสสิก้ามากุมไว้
“....ตอนนี้รายชื่อบริจาคดวงตา มีเข้ามาแล้วนะคะ เราแค่ต้องรอ คุณรอได้ไหม...”
“....รอหรอ ฮึก...แล้วฉันจะต้องรออีกนานเท่าไหร่ล่ะ จะต้องอยู่รพ.นี้อีกนานแค่ไหน ห้า หรือ สิบปีกัน...”
ร่างบางยังคงสะอื้น ดวงตาเลื่อนลอยบัดนี้เต็มไปด้วยน้ำตา ยูริยกมืออีกข้างเกลี่ยอย่างเบามือ
“....อีกไม่นานหรอกค่ะ ไม่นานคุณจะเป็นคนใหม่ เชื่อฉันนะคะ...”
สายตาอบอุ่นและน้ำเสียงปลอบโยนจากควอนยูริ ถูกส่งไปให้เจสสิก้า
ที่ขณะนี้มีแต่ความท้อแท้สิ้นหวังในหัวใจ ถึงแม้ว่าเจสสิก้าจะไม่เห็นก็ตาม
“....ระหว่างนี้ ฉันจะเป็นคนอยู่ข้างๆคุณเอง ได้โปรดเชื่อใจฉันนะคะ เจสสิก้า...”
สิ้นคำเจสสิก้าก็บีบมือยูริแน่น เธอเลือกที่จะเชื่อดีกว่าปิดกันความเชื่อนั่นแล้วตัวเองต้องมานั่งทุกข์ทรมานเสียเอง...
.
.
.
.
.
.
กรุงโซล เกาหลีใต้
แทยอนย้ายมาอยู่ที่โซลอย่างเร่งด่วน เธอรู้สึกแย่ไม่น้อยที่ไม่ได้ล่ำลาเจสสิก้า
ในระหว่างที่นั่งรถมา ซันนี่โทรบอกเธอว่ายูริถูกเล่นงาน ซึ่งเธอก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่กับเหตุการณ์นี้
คนไข้สำคัญที่ทำให้เธอต้องย้ายมาเป็นลูกสาวคนเล็กของนายฮวัง
นักธุรกิจชื่อดังที่ร่ำรวยจากการทำกิจการกับต่างประเทศ คนไข้ของเธอมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพจิตใจ
ทำให้นายฮวังผู้เป็นพ่อ หมดหนทางที่จะรักษา แพทย์ในโซลแนะนำแทยอนกับนายฮวัง
ดังนั้นเธอจึงถูกเรียกตัวมาที่โซลด่วนมาก
..
เมื่อมาถึงแทยอนถูกเรียกไปที่บ้านตระกูลฮวังทันที และได้รับมอบหมายให้พักอยู่ที่นั้นถาวร
จนกว่าลูกสาวของนายฮวังจะหาย ทุกอย่างรวดเร็วจนแทยอนตั้งตัวไม่ทัน
ณ ห้องทำงานนายฮวัง
“...ผมไม่รู้จะทำยังไงครับหมอ แกเป็นแบบนี้ตั้งแต่แม่แกเสีย นี่ก็ปาเข้าไปสองปีแล้ว แกก็ยังเป็นแบบเดิม...”
นายฮวังถอนหายใจพร้อมใบหน้าที่ดูอ่อนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“...แล้วลูกสาวของท่านประธาน มีอาการยังไงหรอคะ...”แทยอนเอ่ยปากถาม
“...เอาแต่นั่งซึม ข้าวปลาก็ทานน้อยลง บางทีก็ไม่ทานเลย ไม่ชอบออกไปไหนเหมือนอย่างเคย...
แกเอาแต่อยู่ในห้อง เวลาผมเข้าไปหา แกก็มักจะมองไปที่หน้าต่างอยู่ตลอด...ผมเคยปรึกษาหมอแล้ว
เขาบอกว่าอาจจะเป็นโรคซึมเศร้า แล้วก็แนะนำให้ผมล็อกหน้าต่างหรือให้ดีก็อย่าให้เปิดได้เลย
เพราะกลัวแกจะคิดสั้นน่ะครับ...”
นายฮวังกล่าวด้วยสีหน้าตึงเครียด แทยอนวิเคราะห์อาการแล้ว เธอก็คิดเช่นเดียวกับหมอคนนั้น
ลูกสาวนายฮวังคงเป็นโรคซึมเศร้าจริงๆ แต่ฟังอย่างเดียวอาจจะได้ข้อมูลไม่ครบดีนัก
แทยอนจึงขอพบเธอ ซึ่งนายฮวังก็ยินดี
“....ทิฟฟานี่ พ่อเข้าไปนะลูก....”
นายฮวังเคาะประตู แต่ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา เขาพาแทยอนเข้าไปในห้อง
แทยอนเดินตามเข้าไปเงียบๆ ภาพที่เห็นคือสาวผมสีดำยาวประบ่าไว้หน้าม้า นั่งซึมอยู่ที่เตียง
“...ทิฟ พ่อพาคนคนนึงมาหาลูกน่ะ...”
ทิฟฟานี่เงยหน้าขึ้นมองนิ่งๆ สายตาเลื่อนมามองแทยอนที่ยืนอยู่ด้านหลังก่อนจะก้มหน้าลงอีกครั้ง
“...คุณหมอแทยอน จะมาอยู่กับทิฟตั้งแต่วันนี้นะลูก หมอครับผมฝากแกด้วยนะครับ...”
แทยอนโค้งรับโดยไม่พูดอะไร หลังจากนั้นเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเขาก็ดัง
นายฮวังจึงออกไปปล่อยให้แทยอนอยู่กับทิฟฟานี่ตามลำพัง
“...สวัสดีค่ะ ฉันคิมแทยอน...”แทยอนแนะนำตัว
“...ทิฟฟานี่ค่ะ...”เธอตอบกลับมาทั้งๆที่ก้มหน้าอยู่
“...ไม่เบื่อหรอคะ อยู่แต่ในห้อง...”
“...ข้างนอกมีแต่เรื่องน่ากลัว ฉันไม่อยากออกไป...”ทิฟฟานี่เหม่อมองไปที่หน้าต่าง
“....ทิฟฟานี่ เอ่อ ฉันขอเรียกคุณแบบนี้ได้ไหมคะ...”
“....ก็แล้วแต่ค่ะ...”ทิฟฟานี่พูดขณะที่ก้มมองมืดตัวเองอยู่ตลอด
“...คุณทิฟฟานี่ชอบสีชมพูหรอคะ...”เธอพยักหน้าตอบ
“....ห้องคุณสวยจัง...”แทยอนส่งยิ้มให้
“...คุณคิดงั้นหรอ ฉันว่ามันไม่เห็นจะสวยอะไร ก็แค่สีเรียบๆ...”เธอพูดพร้อมสายตาที่เหม่อลอย
แทยอนคิดว่าความผิดปกตินี้ ก็คือโรคซึมเศร้าอย่างที่หมอบอกนายฮวังมา
ตามหลักแล้วคนไข้จะได้รับยาที่เรียกว่า “ยาแก้เศร้า” ซึ่งแทยอนคิดว่าทิฟฟานี่ควรจะรับยานี้ได้แล้ว
เพียงแต่ในความคิดของเธอนั้น โรคซึมเศร้ามีสาเหตุมาจากสภาวะจิตใจร่วมด้วย
ดังนั้น การทำให้คนไข้สบายใจและมีความสุขกับการใช้ชีวิต คงจะดีกว่าการใช้ยาเพียงอย่างเดียว...
แทยอนออกมาจากห้องทิฟฟานี่และตรงไปหานายฮวังทันที
ก๊อก ก๊อก
แทยอนเคาะประตูห้องทำงานของนายฮวัง แต่ก็ไร้เสียงตอบ เธอจึงออกเสียงเรียกแทน
“...ท่านประธานคะ ...ท่านคะ...”
แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบกลับมาอยู่ดี ทันใดนั้นเสียงชายชราผู้หนึ่งก็ดังมาจากด้านหลังเธอ
“....คุณท่านไม่อยู่หรอกครับ คุณหมอ...”
ชายชราในชุดสูทสีดำกล่าว แทยอนเดาได้ไม่ยากว่าชายคนนี้คงเป็นผู้ดูแลบ้านหลังนี้แน่นอน
“....เอ่อ ไม่ทราบว่าท่านไปไหนหรอคะ ”
“....ท่านมีประชุมน่ะครับ พึ่งออกไปเมื่อสักครู่เอง...”ชายชราบอกแทยอน
“....แล้วท่านบอกหรือเปล่าคะ ว่าจะกลับเมื่อไหร่...”
“....ก็คงอีกอาทิตย์นึงล่ะครับ เพราะท่านต้องไปที่อังกฤษต่อ...”เขาบอก
แทยอนจึงพอรู้แล้วว่าโรคซึมเศร้านี่อาจมีสาเหตุเพราะอะไร
“...คุณหมออยากดื่มอะไรหน่อยไหมครับ ตอนนี้อากาศข้างนอกเริ่มหนาวแล้วด้วย...”
“....ก็ดีเหมือนกันค่ะ...”แทยอนตอบตกลง เธอเองก็รู้สึกหนาวๆขึ้นมาบ้างแล้ว
“....งั้นเชิญทางนี่ครับ...”
ชายชราเดินนำไปยังห้องโถงใหญ่ ทะยอนถึงกับตะลึงงันเมื่อก้าวเข้าไปในห้อง
ด้วยความหรูหราราวกับพระราชวังยุโรป ทั้งโครงสร้างและการตกแต่ง
เป็นครั้งแรกที่แทยอนได้เห็นอะไรเช่นนี้
“...เชิญนั่งตรงนี้ก่อนครับ เดี๋ยวผมจะจัดเครื่องดื่มให้...”
เขายิ้มให้แทยอนก่อนจะเดินออกไปและกลับมาพร้อมถาดเครื่องดื่มในเวลาไม่นาน
จากนั้นเขาก็เสริฟโกโก้ให้แทยอนตามที่เธอขอ
“...หอมจังเลยค่ะ...”แทยอนออกปากชม
“....เชิญตามสบายนะครับ ต้องการอะไร เรียกผมได้ทุกเมื่อ...”
ชายชราโค้งศีรษะให้ เขาหันหลังเดินกลับไปไม่กี่ก้าวก็ถูกแทยอนเรียกไว้ก่อน
“...เอ่อ คุณลุงคะ หมอขอถามอะไรสักหน่อยได้ไหมคะ...”ชายชราหันกลับมาด้วยรอยยิ้ม
“....ครับ คุณหมอ...”
“....คือ คุณทิฟฟานี่เป็นแบบนี้มานานแล้วหรอคะ...”
“....อ๋อ คุณหนูน่ะหรอครับ สักสองปีได้แล้วครับตั้งแต่คุณนายเสียคุณหนูก็เอาแต่ซึมแบบที่คุณเห็นนั้นล่ะครับ...”
เขาพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวลไม่ต่างจากนายฮวังนัก
“....งั้นคุณทิฟฟานี่ก็คงรักคุณแม่เธอมากๆเลยสินะคะ...”
“....ครับ ...คุณหนูอยู่กับคุณนายตลอด ถ้าเทียบกับคุณท่านผมเห็นคุณท่านอยู่บ้านหลังนี้
อาทิตย์นึงก็แค่วันเดียว เพราะท่านต้องไปทำงานตลอด บางอาทิตย์ก็ไม่กลับเลยล่ะครับ
คุณหนูก็เลยรักคุณนายมาก บ้านหลังนี้ไม่มีใครนอกจากคุณนายกับคุณหนูแล้วก็คนใช้แค่ไม่กี่คน...”ชายชราเล่าต่อไป
“....ผมเห็นคุณหนูมาตั้งแต่เกิด แต่ก่อนคุณหนูเป็นเด็กน่ารักมากๆ ใจดีกับทุกคน เด็กแถวนี้ก็สนิทกับคุณหนูทั้งนั้น
บางวันก็ชวนมานั่งกินขนมด้วยกันที่บ้านหรือไม่คุณหนูก็จะอ่านหนังสือให้พวกเขาฟัง ... แต่พอคุณนายท่านเสีย
คุณหนูก็กลายเป็นคนล่ะคน จากที่เคยร่าเริงสดใสก็ดูเศร้าซึม เด็กๆก็เคยมาหานะครับ แต่ก็ต้องกลับไปเพราะคุณหนูไม่ยอมพบด้วย อีกอย่างคุณหนูไม่คุยกับใครเกินสองสามประโยคหรอกครับ...”
เขาเล่าก่อนจะถอนหายใจออกมา ใบหน้าที่เหี่ยวย่นตามกาลเวลาของเขาบ่งบอกความทุกข์ที่มีในใจของเขาอย่างชัดเจน
“....คุณนายท่านเสียยังไงหรอคะ...”แทยอนลองถาม
“....เอ่อ ...ถูกยิงครับ ...จากลูกน้องของบริษัทคู่แข่งของนายท่าน...ต่อหน้าต่อตาคุณหนูเลย...”
ชายชรานิ่งเงียบก่อนจะตัดสินใจตอบ สีหน้าแสดงความเจ็บปวดไม่น้อย
แทยอนจึงเลือกที่จะไม่ถามต่อ ยังไงเธอก็พอเข้าใจสาเหตุของโรคนี้พอสมควรอยู่แล้ว
“...ว่าแต่ คุณหมออยากพบนายท่านทำไมหรอครับ...”เขาถาม
“...คือ หมออยากขออนุญาตท่านพาคุณหนูไปพักผ่อนข้างนอกสักระยะน่ะค่ะ
หมอคิดว่าถ้าได้พาคุณหนูออกไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี อาจจะทำให้คุณหนูดีขึ้นก็ได้...”
แทยอนตอบคำถาม ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับความคิดของแทยอน ชายชราอาสาโทรบอกนายฮวังให้
ซึ่งก็ได้รับการตกลงจากนายฮวังอย่างยินดี
สองวันหลังจากนั้นแทยอนตัดสินใจพาทิฟฟานี่ไปที่เซจู
สภาพแวดล้อมที่สวยงามและเงียบสงบ คงจะทำให้ ทิฟฟานี่ฮวัง หายจากโรคอันน่าสงสารนี่ได้....
~ To be con ~
"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
ตอนใหม่จ่า มาแบบไม่คาดคิดเพราะจู่ๆไรเตอร์ก็ขยันขึ้นมาซะอย่างนั้น
ยูลสิคยังน้อยนิดอยู่ แททิฟก็เช่นเดียวกัน ถ้าใครยังไม่เบื่อก็รอกันอีกนิดนะคะ
ขอโทษจริงๆค่ะที่ให้รอ ไรเตอร์อยากอัพแต่ตันอะ T^T
ยังไงก็จะพยายามเนาะ เพื่อรีดเดอร์ ^ ^ ขอบคุณทุกคอมเมนท์ค่ะ
ความคิดเห็น