NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชยพัทธ์ [Kulchotthananon]

    ลำดับตอนที่ #3 : ชยพัทธ์ 3

    • อัปเดตล่าสุด 12 ม.ค. 67


    Warning??”?

    เนื้อหาในเรื่องมีความรุนแรงและมีคำหยาบคาย มีการพูดถึงเรื่องเพศและการใช้สารเสพติด พฤติกรรมของตัวละครไม่ควรลอกเลียนแบบ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

     

     

     

     

     

    07.21น.

    หนึ่งอาทิตย์ต่อมา

    "เอาจริงนะไอ่พัต มึงจะย้ายไปอยู่เชียงใหม่จริงๆเหรอวะ"โยเอ่ยถามเพื่อนของตนอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

    "แน่ใจ กูอยากไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง"

    "ถ้ามึงไป กูก็เหงาเลยดิวะ ไม่มีคนคุยด้วยตอนขึ้นเวร"โยพูดพร้อมกับทำหน้าเศร้า

    "ไม่มีกูมึงก็อยู่ได้โย สาวมึงเยอะจะตายไป หรือจะให้กูพูดมั้ยว่ามีใครบ้าง"โยที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบห้ามพัตทันที

    "ไม่ต้องๆ รู้แค่เราสองคนก็ดีแล้วครับ ขอโทษครับ"

    "จำที่กูบอกได้มั้ยว่าอย่าให้ใครรู้เรื่องนี้เป็นอันขาด"

    "รู้แล้ว มึงไว้ใจกูได้เลย กูว่าคนที่มึงต้องเป็นกังวลคือแพรมากกว่านะ ถ้าเกิดว่าแพรไปบอกพ่อมึงขึ้นมาล่ะจะทำยังไง"พัตชะงักทันทีที่ได้ยิน

    "แพรไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก"

    "มึงแน่ใจแค่ไหน มึงกับเขารู้จักกันมาแค่สามปีเองนะ แล้วอีกอย่าง เขาก็ชอบมึง"

    "เพราะว่าเขาชอบกูไง กูเลยมั่นใจว่าเขาจะไม่มีทางบอกพ่อกู เพราะเขาก็น่าจะรู้ว่าถ้าเขาทำแบบนั้นไปเขาจะไม่มีวันได้คุยอะไรกับกูอีก"

    "เห้อ เอาจริงๆนะ แพรเขาชอบมึงขนาดนี้ มึงไม่คิดที่จะชอบเขาบ้างเลยหรือไง เขาก็เป็นคนดีคนหนึ่งเลยนะเว้ย"

    "ก็เพราะว่าเขาเป็นคนดีไง เขาควรไปเจอคนที่ดีกว่ากู แล้วอีกอย่างกูไม่ได้ชอบเขาด้วย"

    "โอเคเลย กูเข้าใจมึงแล้ว"เมื่อจัดแจงเสื้อผ้าของตนเสร็จเรียบร้อย พัตก็หยิบกระเป๋าของตนขึ้นพร้อมที่จะออกเดินทาง

    "กูคงไม่ได้ไปส่งมีที่สนามบิน เดี๋ยวกูต้องไปเข้าเวร"

    "ไม่เป็นไร กูไปเองได้"

    "ถ้ามีปัญหาหรือมีเรื่องอะไรก็โทรหากูหรือพวกไอ่เบนซ์ได้ตลอดนะ พวกกูพร้อมที่จะช่วยมึง"

    "อืม ขอบใจมาก งั้นกูไปก่อน"

    "อืม โชคดีมึง"

     

     

     

     

    -บ้านนิติพัฒนกุล-

    "คุณแม่คะ วันนี้หนูขอไปอยู่ที่ร้านกับอาวีได้มั้ยคะ"

    "เห็นทีจะไม่ได้ค่ะ เพราะว่าวันนี้แม่จะพาหนูกับพี่พายุไปสมัครเรียนกัน"เด็กสาวที่ได้ยินแบบนั้นก็ตาลุกวาวทันที

    "จริงเหรอคะ"

    "ใช่ค่ะ พาใจจะได้เจอเพื่อนๆแล้วนะคะ"

    "เย้! พาใจจะได้เล่นกับเพื่อนๆแล้ว"เด็กหญฺงร้องออกมาด้วยความดีใจพร้อมกับกระโดดไปมา

    "ค่ะ แต่ว่าตอนนี้พาใจต้องขึ้นไปปลุกพี่พายุก่อนนะ ไม่อย่างนั้นเราจะไปสายเอา"

    "ได้ค่ะ เดี๋ยวพาใจจะขึ้นไปปลุกพี่พายุเองค่ะ"หลังจากนั้นเด็กสาวก็รีบเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของบ้านเพื่อที่จะไปปลุกพี่ชายของตนให้ตื่น

    "จะพาเด็กไปสมัครเรียนวันนี้เหรอ"

    "ใช่แล้วพี่วี ความจริงอีกสองวันคุณเขาก็จะขึ้นมาเชียงใหม่แล้ว แต่ว่ามันจะไม่ทันเปิดเทอม ธีร์ก็เลยต้องพาไปวันนี้"

    "แล้วไปที่ไหนกันล่ะ ไกลจากบ้านหรือเปล่า"วีเอ่ยถามพร้อมกับจัดแจงโต๊ะอาหาร

    "ไม่ไกลพี่วี อยู่ใกล้ๆกับโรงพยาบาลภิวัฒน์เลยพี่วี"

    "โรงเรียนใหญ่ๆนั้นนะเหรอ"

    "ใช่แล้ว ที่นั่นแหละ"

    "พี่ว่าค่าเทอมมันน่าจะแพงเหมือนกันนะธีร์ ธีร์จะสู้ไหวเหรอ"

    "ตอนแรกธีร์ไม่อยากเอาที่นี่หรอกครับ แต่คุณเขาบอกว่าจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดเลย แล้วอีกอย่างโรงเรียนก็ใกล้กับโรงพยาบาลด้วย ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นก็จะได้ช่วยเหลือทัน"

    "โอเค ได้ยินแบบนี้แล้วพี่ก็สบายใจ จริงสิ เมื่อวานป้าพรมาบอกพี่ว่าข้างบ้านเราจะมีคนมาอยู่แล้วนะ"ธีร์ที่ได้ยินแบบนั้นก็คิ้วขมวดทันที

    "ข้างบ้านเรามีคนอยู่ด้วยเหรอพี่วี"

    "เจ้าของบ้านเขาเป็นตำรวจน่ะแล้วเขาทำงานอยู่ที่กรุงเทพ เขาซื้อบ้านเอาไว้หลายปีแล้ว สงสัยคงจะย้ายกลับมาอยู่ที่เชียงใหม่แล้วล่ะ"

    "แบบนี้นิเอง สงสัยจะต้องไปผูกมิตรเอาไว้แล้วล่ะ ยิ่งเป็นตำรวจด้วย ถ้าเกิดอะไรขึ้นเขาจะได้ช่วยเราได้"

    "ดีเลย เอาไว้ให้พวกเด็กไปด้วยดีกว่าจะได้รู้จักกันเอาไว้"

    "อื้ม"ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้นเสียงของเด็กหญิงก็ดังขึ้นพร้อมกับเด็กทั้งสองที่วิ่งลงบันไดมา

    "คุณแม่! ช่วยพาใจด้วย"

    "อะไรกันเด็กๆ วิ่งลงบันไดมาได้ยังไงกัน มันอันตรายนะรู้มั้ย"ธีร์พูดดุเด็กสาวไปก่อนที่จะหันไปมองหน้าลูกชายของตนที่ตอนนี้บนใบหน้าเต็มไปด้วยลวดลายต่างๆเต็มไปหมด

    "พายุ หน้าลูกไปโดนอะไรมาน่ะ"

    "พาใจเอาสีมาเขียนหน้าพายุครับ"

    "ก็พาใจเรียกพี่พายุตั้งหลายทีพี่พายุไม่ยอมตื่นสักที พาใจก็เลยวาดรูปบนหน้าที่พายุไปเลย คิคิ"เด็กสาวพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

    "พาใจคะ เอาสีไปเขียนหน้าพี่พายุแบบนั้นไม่ได้นะคะ มันอันตรายนะรู้มั้ย เดี๋ยวพี่พายุก็หมดหล่อกันพอดีค่ะ"

    "จริงเหรอคะ พาใจไม่รู้ พาใจขอโทษค่ะ"

    "ไม่เป็นไรค่ะ แต่คราวหน้าไม่เอาแบบนี้แล้วนะ พาพี่พายุไปล้างหน้าเลย"

    "ค่ะแม่"จากนั้นเด็กสาวก็จูงมือพี่ชายของตนไปยังห้องน้ำเพื่อที่จะล้างสีที่หน้าออก

    "เฮ้อ ถ้าโตกว่านี้จะเหนื่อยน่าดูเลยนะ"

    "เอาหน่าพี่ เป็นปกติของเด็ก เรามีหน้าที่สอนให้เขาเป็นเด็กดีก็พอแล้ว"

    "อือ ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละ พาใจนะพาใจเหมือนแม่ไม่มีผิด ส่วนพายุก็เหมือนพ่อสุดๆไปเลย"ธีร์ที่ได้ยินแบบนั้นก็หุบยิ้มทันที ก่อนที่วีจะนึกขึ้นได้ว่าตนนั้นพูดสิ่งต้องห้ามออกไป

    "พี่ขอโทษนะธีร์ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้เรารู้สึกไม่ดี"

    "ไม่เป็นไรหรอกครับ ธีร์โอเค"พูดเสร็จธีร์ก็เดินเข้าไปในครัวทันที ทำให้คนเป็นพี่หันมองแล้วถอนหายใจออกมา

     

     

     

     

     

    10.21น.

    -สนามบินนานาชาติเชียงใหม่-

    หลังจากที่เดินทางมาร่วมสองชั่วโมงในที่สุดร่างสูงก็เดินทางมาถึงเชียงใหม่ พัตลากกระเป๋าออกมาที่ทางออกก่อนที่จะเจอหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนพิงรถหรูคันหลายล้านและมองมาที่ตน

    "มาช้ากว่ากำหนดนะ"

    "เครื่องบินดีเลย์น่ะก็เลยมาช้า ว่าแต่รู้ได้ยังไงว่าจะมาเชียงใหม่"

    "พี่จีนเป็นคนโทรบอกฉันเอง รีบไปกันเถอะนายต้องไปที่โรงพยาบาลก่อน ตอนนี้กำลังจะเริ่มประชุมคณะแพทย์กันแล้ว"

    "อืม"หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ขึ้นรถแล้วขับออกจากสนามบิน

    "กลับมาอยู่ไทยได้สามปี ทำไมถึงอยากมาอยู่ที่เชียงใหม่ล่ะ"

    "เบื่อกรุงเทพแล้วก็เลยอยากมาหาที่สงบอยู่น่ะ"

    "ก็เลยเลือกที่นี่ว่างั้น ทำไมล่ะ สาขาอื่นก็มีทำไมต้องเป็นเชียงใหม่"

    "....."ร่างสูงเลือกที่จะเงียบ หญิงสาวเมื่อเห็นอีกคนเงียบก็ไม่คิดที่จะถามอะไรต่อ

    "แล้วนี่คิดดีแล้วใช่มั้ย ที่จะไปอยู่บ้านเบนซ์น่ะ"

    "อืม ตอนแรกจะหาบ้านเช่าเองแต่ไอ่เบนซ์มันจะให้อยู่บ้านมันให้ได้ ไม่รู้ทำไม"

    "เอาหน่า มันก็ซื้อบ้านที่เชียงใหม่นานแล้วแต่มันไม่ได้อยู่ มันก็คงกลัวโจรขึ้นบ้านมันมั้ง เลยให้นายไปเฝ้าบ้าน"

    "ปกติก็ไม่ค่อยได้นอนนอกโรงพยาบาลอยู่แล้ว อยู่ไม่อยู่ก็มีค่าเท่ากันนั่นแหละ"

    "ก็จริงของนาย แล้วนี่พี่จีนเป็นยังไงบ้าง ได้ข่าวมาว่าภรรยาท้องลูกคนที่สองแล้วนิ"

    "ก็สบายดี ดีแล้วที่มีครอบครัว"

    "แล้วนายล่ะ ไม่คิดอยากจะมีครอบครัวเหมือนพี่นายบ้างหรือไง"

    "....."

    "คนแบบนายน่ะ หาคนดีๆไม่อยากหรอกนะ ฉันอยากให้นายลองเปิดใจดูบ้างเผื่อบางทีอะไรๆมันจะดีขึ้น"

    "อยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ไม่ยังไม่พร้อมที่จะมีใคร"หญิงสาวที่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมา

    "เออ เมื่อสองสามเดือนก่อนฉันเจอพ่อนายมาที่เชียงใหม่ด้วย แต่เสียดายไม่ได้เข้าไปทักทายเพราะเห็นว่ากำลังอยู่กับเด็กที่ไหนก็ไม่รู้"พัตที่ได้ยินแบบนั้นก็คิ้วขมวดทันที ก่อนที่จะหันไปมองหญิงสาว

    "อยู่กับเด็กงั้นเหรอ"

    "ใช่ อยู่กับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าโรงเรียนเอกชนน่ะ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนิ ปกติแล้วพ่อนายก็ชอบไปให้ทุนการศึกษากับเด็กตลอด แต่รอบนี้แค่มาไกลหน่อย"

    "นอกจากครั้งนั้นเธอได้เจอพ่อฉันอีกหรือเปล่า"

    "ไม่นะ เจอแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว ทำไมเหรอหรือว่ามีเรื่องอะไร"

    "ไม่มีอะไรหรอก"ในขณะนั้นเองทั้งสองก็มาถึงโรงพยาบาล

    เมื่อรถจอดสนิททั้งสองก็เดินลงจากรถก่อนที่หญิงสาวจะหยิบเสื้อกาวน์ขึ้นมาสวมแล้วเดินนำหน้าร่างสูงเข้าไปในตึก

     

     

     

     

     

    หลังจากที่พาเด็กทั้งสองคนไปสมัครเรียนแล้ว ธีร์ก็ขับรถมาที่วัดแห่งหนึ่งที่อยู่นอกตัวเมืองไม่มากนัก เป็นปกติที่ธีร์จะพาเด็กๆมาทำบุญที่นี่ทุกเดือน เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นที่สุดท้ายที่ครอบครัวของตนได้มา ก่อนจะจากกันไป

    "พวกเรามาทำบุญให้คุณตากับคุณยายเหรอคะคุณแม่"

    "ใช่ค่ะ วันนี้ครบหนึ่งเดือนแล้วค่ะ ทนร้อนเอาหน่อยนะคะเดี๋ยวก็ได้กลับกันแล้ว"

    "ค่ะคุณแม่"

    "หลังจากที่เราไปทำบุญแล้วเราไปปล่อยปลากันดีมั้ยคะ"

    "ดีค่ะคุณแม่ พาใจอยากปล่อยปลา"เด็กสาวร้องดีใจออกมาแตกต่างจากเด็กหนุ่มที่นิ่งเงียบไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา จนทำให้คนเป็นแม่นั้นเริ่มกังวลและคิดหาวิธีทำให้ลูกชายของตนนั้นยิ้ม

    "หลังจากเราปล่อยปลาเสร็จแล้ว เราไปเกมเซนเตอร์กันดีมั้ยครับพี่พายุ"และก็ได้ผลเมื่อเด็กหนุ่มนั้นตาลุกวาวทันทีเมื่อได้ยินก่อนที่จะรีบหันไปคุยกับผู้เป็นแม่

    "คุณแม่จะพาไปเหรอครับ"

    "ใช่ครับ คุณแม่จะพาพี่พายุไป แต่เราต้องทำบุญให้เสร็จก่อนแล้วไปทานข้าวก่อนนะครับแล้วเราค่อยไปเกมเซนเตอร์กัน โอเคมั้ยครับ"ธีร์พูดพร้อมกับนั่งลงให้อยู่ในระดับเดียวกันกับเด็กหนุ่ม

    "ครับคุณแม่"

    "ถ้างั้นเราเข้าไปหาหลวงตากันดีกว่าค่ะ ท่านรออยู่ด้านในแล้ว"

    "ครับ/ค่ะ"จากนั้นทั้งสามคนก็พากับเดินเข้าไปที่ศาลาที่มีหลวงตานั่งรออยู่แล้ว

     

     

     

     

    -โรงพยาบาลภิวัฒณ์ (สาขาเชียงใหม่)-

    "ทางเราไม่ทราบมาก่อนเลยนะครับว่าหม่อมหลวงชยพัทย์จะมาแทนคุณหมอวาโย"หลังจากที่ประชุมเสร็จท่านผู้อำนวยการของโรงพยาบาลก็พาร่างสูงเดินดูรอบโรงพยาบาลก่อนที่จะพาเดินมาดูห้องพักแพทย์

    "พอดีว่าวาโยเขามีปัญหาน่ะครับก็เลยทำให้มาที่นี่ไม่ได้ ผมก็เลยอาสามาแทนครับ"

    "เป็นเกียรติมากเลยครับ ทางสาขาที่เชียงใหม่กำลังต้องการหมอกุมารเวชอยู่พอดีเลยครับ ขอบคุณมากๆเลยนะครับที่มา"

    "ไม่เป็นไรครับ"

    "แล้วทางคุณหมอมีที่พักแล้วหรือยังครับ ถ้ายังไม่มีผมสามารถจัดหาให้ได้"

    "มีแล้วครับ เป็นบ้านของเพื่อนผมที่เป็นตำรวจ พอดีว่าซื้อบ้านเอาไว้หลายปีแล้วแต่ยังไม่ได้เข้ามาอยู่สักทีก็เลยให้ผมไปอยู่น่ะครับ"

    "แบบนี้นิเอง ถ้ามีอะไรขาดเหลือก็บอกกับทางเราได้เลยนะครับ เดี๋ยวทางเราจะจัดหามาให้"

    "ขอบคุณครับ แต่คงไม่รบกวนอะไรมากหรอกครับ"

    "ครับ ถึงแล้วครับห้องพักของหมอ"เมื่อทั้งสองมาถึงก็เปิดประตูเข้าไปในห้องพักทันที

    "ผมพึ่งให้แม่บ้านมาทำความสะอาดให้เมื่อวานนี้เองครับ อาจจะยังมีกลิ่นของน้ำยาทำความสะอาดหลงเหลืออยู่บ้าง"

    "ไม่เป็นไรครับ ผมพกเครื่องปรับอากาศมา"

    "ครับ ถ้างั้นทางเราไม่รบกวนแล้วนะครับ เชิญตามสบาย"

    "ครับ"หลังจากนั้นผู้อำนวยการก็เดินออกไปจากห้อง พัตเดินไปนั่งที่เก้าอี้ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือของตนขึ้นมาแล้วต่อสายหาใครบางคน

    "ว่ายังไง ถึงเชียงใหม่แล้วใช่มั้ย"

    "ถึงแล้วครับ ที่บ้านเป็นยังไงบ้าง"

    "ปกติดี ไม่มีใครสงสัยเรื่องนาย"

    "ครับ"

    "อีกสองวันพ่อจะขึ้นไปเชียงใหม่แล้ว ฉันให้คนของฉันไปรอที่สนามบินเพื่อที่จะสะกดรอยตามแล้ว ถ้าได้เรื่องยังไงมันจะโทรหานาย"

    "ครับ"

    "ดูแลตัวเองดีๆ ใช้ชีวิตของนายให้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลอะไรที่นี่ เข้าใจมั้ย"

    "เข้าใจครับ ขอบคุณพี่มากๆนะครับ"

    "อืม งั้นแค่นี้ก่อน ฉันมีประชุม"

    "ครับ"หลังจากนั้นปลายสายก็กดตัดไป ก่อนที่จะมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นและเป็นหญิงสาวที่เดินเข้ามา

    "ห้องใหญ่กว่าฉันอีกนะเนี้ย แต่ก็นะเป็นถึงคุณหมอคนสำคัญจะให้ห้องเล็กๆได้ยังไง"

    "วิภา บางทีเธอไม่ต้องพูดก็ได้นะ"

    "โอเคๆ ฉันไม่พูดแล้วก็ได้ วันนี้ฉันมีเข้าเวร นายเอารถฉันไปก่อนก็แล้วกัน ถ้าลงเวรแล้วฉันจะโทรหา"พูดจบหญิงสาวก็ยื่นกุญแจรถให้กับร่างสูง

    "อืม"

    "ออ แล้วก็ฉันเชิญนายเข้ากลุ่มแล้วนะ อย่าลืมไปดูตารางงานที่โน้ตเอาไว้ล่ะ เตรียมตัวเอาไว้ให้พร้อมเลยนะเพราะนายคือแพทย์กุมารเวชคนเดียวที่มีอยู่ตอนนี้"

    "อืม เข้าใจแล้ว"

    "แล้วก็นี่ รายชื่อคนไข้ประจำของหมอที่ย้ายไปต่อจากนี้นายจะต้องดูแลคนไข้ทั้งหมดในนี้"ร่างสูงรับกระดาษมาจากหญิงสาวก่อนที่จะเริ่มตรวจสอบรายชื่อ

    "โอเค งั้นฉันไปก่อนล่ะ เจอกันตอนเย็นนะเดี๋ยวฉันโทรหา"หลังจากนั้นหญิงสาวก็เดินออกมาห้องไป

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

    TBC

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×