คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 6 : ของขวัญ?
The Difference: ความรัก...ปริศนา...ชะตากรรม
บทที่ 6 : ของขวัญ?
ณ ท่าเรืออิลเลียนอล เวลา 18.00 นาฬิกา
ท่าเรืออิลเลียนอลยามเย็นวันนี้แปลกกว่าทุกวัน ผู้คนที่เคยคับคั่งกลับหายไปหมด ท้องฟ้ายามตะวันลาลับเป็นสีม่วงอมแดงสวยแปลกตากว่าทุกครา ลมทะเลพัดแรงทำให้คลื่นสาดกระทบฝั่งเริ่มปั่นป่วน ต้นไม้ไหวลู่ตามแรงลม เหล่าพ่อค้าแม่ขาย และนักท่องเที่ยวบางกลุ่มเริ่มวิ่งเข้าฝั่ง ผิดกับสองสาวหนึ่งหนุ่มที่กำลังเดินด้วยท่าทีไม่เร่งรีบตรงไปยังท่าเรือ
“คุณผู้หญิงครับ วันนี้ดูท่าฟ้าฝนไม่เป็นใจ ไม่มีใครเอาเรือออกหรอก...” ชายชราหัวล้านรูปร่างผอมเกร็งท่าทางใจดี เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นพวกราเชลเดินไปหา เขายืนอยู่ที่ท่าเรือ
“เราต้องข้ามเรือไปทำธุระ ฉันคงรอถึงพรุ่งนี้ไม่ได้หรอก...” เธอบอก ขณะไดอายังคงยืนถือกระเป๋าอยู่เงียบๆ พยายามไม่สนใจเจ้าคนนิสัยไม่ดีอย่างนายครอฟที่คอยรังควาญเธอจนราเชลต้องตวาดไปเสียหลายรอบ
“ไว้รอพรุ่งนี้ไม่ดีกว่าหรือครับ...” ชายชรายิ้มให้เธออย่างสุภาพ
“ฉันบอกว่าจะไปวันนี้ก็ต้องวันนี้...”
“แต่...” เขาพยายามจะชี้แจงถึงลม ฟ้า อากาศ ที่ค่อยข้างจะไม่สะดวกหากออกเรือ
“แล้วก็ต้องตอนนี้ด้วย!!!” ราเชลตวาดใส่ จนชายชราสะดุ้งอย่างที่เธอชอบทำเป็นประจำเมื่อไม่ได้ดั่งใจ หรือถูกขัดใจ...
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ระวังโดนกัดนะลุง...” ครอฟหัวเราะลั่น ราเชลหันมามองค้อน “แกเงียบไปเลยไอ้น้องชาย ถ้าไม่ติดที่แก เราก็ออกเรือไปนานแล้ว...อ้อ ไดอาเธอจะมัวยืนเงียบหาอะไร ขนของลงเรือได้แล้ว แล้วลุงก็ไปขับเรือด้วย ...เดี๋ยวนี้!!!”
“หึ หึ หึ วีนแตกอย่างนี้ระวังจะขึ้นคานนะราเชล...” ครอฟยังไม่หยุด
“เงียบน่า แกไปช่วยไดอาขนของไปไป๊ !!” ครอฟยืนกลั้นหัวเราะกับพี่สาวขี้รำคาญ จอมหงุดหงิดคนนี้ เขายักไหล่ด้วยท่าทีไม่แยแส พลางเดินไปแย่งกระเป๋าจากมือไดอา จนเธอหันมามองด้วยสายตาเย็นเฉียบ แต่มีหรือว่าคนอย่างเขาจะสนล่ะ...
คงต้องรำคาญไปอีกนาน! ไดอารอบถอนหายใจ เธอไม่รู้ว่ามันจะคุ้มไหนนะกับการเลื่อนเป็นนักฆ่าครั้งนี้โดยต้องไปกับสองพี่น้องมิลเล่อร์ที่อารมณ์แปรปรวน ชวนปวดหัวเสียยิ่งกว่าพายุร้ายใดๆ...
เรือลำเดียวของวันนี้ที่ต้องจำใจออกทะเลนั้นเป็นเรือลำไม่ใหญ่มาก หรือจะเรียกว่าเล็กก็ยังได้ มันเป็นเรือเก่าๆสีขาวดูน่ารักไปอีกแบบถ้ามองในแง่ดี แต่ครอฟไม่ชอบมัน! เขาเสนอให้เอาเรือใหม่ ที่ใหญ่และสบายกว่านี้ แต่เพราะไม่มีใครยอมออกเรือจึงต้องลงเอ่ยที่เรือลำน้อยของลุงชราแทนอย่างช่วยไม่ได้ แม้เขาจะไม่ค่อยเต็มใจลงก็ตาม
ตุ้บ!!! ชายหนุ่มโยนกระเป๋าหนังสามใบลงกับพื้นที่เป็นห้องนอนรวมที่ไม่น่าจะจุคนได้มาก ถัดไปเป็นห้องน้ำเล็กๆที่ประตูดูท่าจะพังไม่พังทำจากสังกะสีเก่าๆ เขากวาดสายตาเข้าไปยังห้องนอนที่ไม่มีทั้งเตียง หรือโซฟาอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรกด้วยสายตาขยาดอย่างเห็นได้ชัด พลางยกมือขึ้นปิดจมูกตามนิสัย...
“ราเชล...ห้องนี้ยิ่งกว่ารูหนูอีก เหม็นอับจะอ้วก...” เขาบ่น ระหว่างที่กำลังเอาเท้าเขี่ยผ้านวมผืนใหญ่สีตุ่นๆที่กองอยู่กับพื้น ส่วนราเชลก็กำลังรื้อของอยู่อีกมุมหนึ่ง “...เตียงก็ไม่มี โซฟาก็ไม่มี อะไรจะกันดารเส็งแครงขนาดนี้ เธอแน่ใจนะว่าไอ้รูนี้เรียกว่าห้องนอนน่ะ...” เขาเบะปาก
“...อย่าบ่นมาก นอนๆไปเหอะ...ไม่รู้ว่าให้ไดอาไปถามลุงนั่นจะได้เรื่องหรือเปล่า...”
“พี่เล่นใช้คนใบ้ไปนี่ โง่หรือเปล่า....”
ไม่ทันขาดคำ หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีม่วงทอประกายที่ถูกรวบเป็นหางม้าไว้อย่างหลวมๆก็ก้าวเข้ามา
“ทำเวลาสุด พรุ่งนี้เราคงถึง ถ้าไม่มีปัญหาอะไร...” เสียงหวานเอ่ยราบเรียบกับราเชล ไดอาก้มลงหยิบกระเป๋าหนังสีดำของเธอขึ้นมา
“จะไปไหน...” ครอฟเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของหญิงสาว “ นั่นสิจัดของให้เรียบร้อยก่อน” ราเชลสนับสนุน
“ฉันจะไปนอนข้างนอก ห้องนี้...”
“จะบ้าหรือ เรือมันมีอยู่ห้องเดียว...” ราเชลร้อง “ก็อยู่ด้วยกันนี่แหละมีกันแค่สามคน...”
ในความรู้สึกของราเชล ไดอาเอง แม้จะไม่ใช่ญาติพี่น้องอะไร และพึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่เธอก็ชอบนะ ไดอาไม่เหมือนแม่นักฆ่าสาวรายอื่น ที่มักจะคอยแข้งเลียขาพวกมิลเล่อร์ซะหนึกหนับ พูดจาน่าหมั่นใส่จนแทบจะเอาพลั่วยัดปาก คะ ขา น่ารำคาญ...
“สงสัยติดใจตาลุงแก่...”ครอฟเอ่ยลอยๆด้วยน้ำเสียงยียวน แต่ไดอาไม่สนใจ ราเชลจึงต้องบังคับเธอด้วยเหตุผลที่ว่า มาด้วยกันก็อยู่ด้วยกัน เธอเองก็น้องฉันเหมือนกัน
ไดอาจำใจวางกระเป๋าลง และรู้สึกซึ้งในน้ำใจมิลเล่อร์สาวคนนี้ หญิงสาวเลือกที่ในห้องแสนคับแคบตรงริมสุดติดกับหน้าต่างเรือให้ออกห่างจากลูกและหลานของเจ้านายเธอมากที่สุด แม้เธอจะรู้กฎของนักฆ่าดี ‘
ไม่มีคำว่าลูกเจ้านาย หรือใครทั้งสิ้น ประสบการณ์ และอายุงานย่อมเป็นใหญ่รองจากผู้เป็นนาย
’ คำพูดของโรเบิร์ตที่มักจะพูดกับลูกน้องทุกคนเสมอ หญิงสาวค่อยๆนั่งลงด้วยใบหน้าที่เหนื่อยล้า แต่ก่อนที่เธอจับหลับตาลง...
ตุ้บ... ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมบรอนซ์ทอง ทิ้งตัวลงนอนเบียดเรียวขาของเธอ เขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ราวกับว่าไม่เห็นสายตาอาฆาตของไดอา
“ครอฟ!!!” ราเชลหันมาร้อง “ ให้มันน้อยๆหน่อย แกมานอนกับฉันตรงนี้เลย...”
หากไม่ติดว่าเธอเกรงใจราเชล และยังเรียกว่าอ่อนอายุงานสำหรับนักล่า ไม่อย่างนั้น เรียวขาสวยๆคงจะถีบเจ้าคนลามปามให้กระเด็นไปสักป้าบสองป้าบ
“หลับ...” เขาครางออกมาเบาๆ
“แกจะมาเอง หรือจะให้ฉันไปลากแกมา” ราเชลสั่งเสียงเข้ม
เขาเอาลิ้มดุนกระพุ้งแก้มมองไดอาด้วยสายตาโลมเลียนจนน่าหมั่นไส้ ก่อนจะลุกขึ้นยืนก้าวอาดๆออกไปนอกห้อง “เดี๋ยวคืนนี้จะละเมอไปหานะจ๊ะ...”
“ไอ้ครอฟ!!!”
เฮ้อ...ไดอาถอนหายใจยาว เธอจะหลับได้อย่างปกติสุขไม่ได้แน่หากต้องมีไอ้โรคจิตนั่นอยู่ด้วย
จะทดได้อีกเท่าไหร่กันนะ!
“สวัสดี..”
ฟิ้วววว หมับ...
ธนูสีดำพุ้งตรงดิ่ง แต่กลับถูกหยุดด้วยมือเปล่าของหญิงสาว เลือดสีสดไหลเยิ้มมือ หล่อนยกมันขึ้นมาเลีย นัยน์ตาสีฟ้าสดลุกวาว ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา “คิดถึงฉันไหม...?”
ผลัวะ !! มือบางเหวี่ยงหมัดหนักเข้าที่มุมปากของชายหนุ่มผมสีเขียวสด เขาเลียเลือดที่มุมปากก่อนจะหัวเราะออกมา...
“คิดถึงแทบขาดใจ...แรงยังดีเหมือนเดิมนะซาดิสซึมที่รักของฉัน” เขาเอ่ย “...แกมมิเลียส”
“นายมาทำไม...งานเก่าเสร็จแล้วหรือ” เธอเอ่ยทัก ชายหนุ่มยักไหล่ด้วยท่าทีสบายๆ “กลัวลงเรียนไม่ทันมั้ง เลยมาจัดการทางนี้ให้เรียบร้อย เฮ้อ ดูสิพวกเราต้องขาดมือเวทคนเก่งไปอีกหนึ่ง ...”
“อย่าพูดมาก ถ้าไม่เพราะนายท่านสั่ง ฉันก็ไม่ทนลงไอ้สาขาบ้าๆนี่หรอก...” เธอเอ่ยอย่างอารมณ์เสีย
ชายหนุ่มผมเขียวยิ้มออกมา ก่อนจะยกไม้เท้าสีน้ำตาลแก่ขึ้น เขาพึมพำคาถาบางอย่างก่อนที่อยู่ๆ อากาศตรงหน้าจะบิดตัวเป็นวงกลม เผยให้เห็นภาพท้องทะเล...
“ตายจริง กลางทะเลสีครามยามเย็นเยือกอันกว้างใหญ่ เรือลำน้อยล่องลอยลำน่าสงสาร คงจะเหงาน่าดู สำหรับมิลเล่อร์ขี้เล่นคนนั้น อ้า เราควรจะส่งของขวัญไปให้เค้าคลายเหงากันดีกว่าคืนนี้...”
“หึ หึ หึ นายท่านสั่งให้คอยจับตาดูเฉยไม่ใช่หรือ...แต่ถ้านายเบื่อนักล่ะก็อยากจะส่งอะไรไปเล่นก็เชิญ แต่จำไว้ว่าอย่าประมาทล่ะ ฉันขี้เกียจเช็ดล้างงานที่เหลือ...”
“ว้าว ดูนั่นสิ สาวน้อยนั้นน่ารักจริง...” เขาเอ่ย ดวงตาสีหมึกเพ่งมองไปยังภาพหญิงสาวผมสีม่วง ใบหน้าสวยน่าหลงใหลนั่นเจือความล้า เธอหลับตานิ่ง “ ถ้าเธอเสร็จงานเมื่อไหร่ ฉันขอก็แล้วกันนะที่รัก...”
“ขอร้องอย่ายุ่งกับไดอา เปลี่ยนเป็นยัยปากจัดราเชลซะจะดีหว่า”
แกมมิเลียสไม่สังเกตเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างร้ายกาจบนดวงหน้าของชายหนุ่มที่ไม่คิดจะฟังคำพูดของเธอเลยแม้แต่น้อย ในหัวของเขาเริ่มมีแผนการบางอย่าง ก่อนที่เจ้าตัวจะหัวเราะออกมาราวกับคนโรคจิตก็ไม่ปาน
“ฉันแทบจะนับเวลารอเธอไม่ไหวแล้ว...”
ซ่า!!! น้ำฝักบัวไหลแรงอย่างไม่ขาดสาย พักใหญ่เสียงนั้นจึงค่อยๆเงียบ และดับลงในที่สุด ก่อนที่ประตูห้องน้ำเก่าๆใกล้พังค่อยๆเปิดออก ร่างของไดอาก้าวออกมาพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่ ผมสีม่วงเป็นเอกลักษณ์ของเผ่าพันธุ์เปียกลู่ เธอเอาผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดมันเบาๆ ไดอาเปลี่ยนเป็นไปสวมเสื้อยืดสีดำที่ท่าจะใส่สบายกับกางเกงขาสั้นแทนในตอนนี้...
นัยน์ตาสีเงินคู่สวยลอบมองไปยังร่างของชายหนุ่มผมบรอนซ์ตัวปัญหา ซึ่งเขานอนตะแคงอยู่อย่างเงียบเชียบ เธอสังเกตมาพักใหญ่แล้วว่าเขาไม่เคยเอาผ้าห่มผืนเก่าๆนั่นมาใกล้บริเวณใบหน้าของเขาเลย นอกจากจะให้มันรองเท้าจากความเย็นของพื้นท้องเรือ...
สำอางผิดนักฆ่าทั่วไป...เธอคิด พลางถอนหายใจ
หลับ ? ไดอาส่ายหน้า ก่อนจะกวาดตรามองหาราเชล แต่เธอกลับต้องพบเพียงความว่างเปล่า ไม่มีราเชล ไม่มี ก็แสดงว่าเธออยู่ในห้องกับไอ้โรคจิต...!!!
ร่างเพรียวบางเดินไปยังกระเป๋าเอกสาร พยายามไม่เฉียดเข้าใกล้คนที่เธอนึกรังเกียจการกระทำ ไดอาลื้อใบสั่งของโรเบิร์ตออกมา เธอลอบถอนหายใจ มันเป็นงานที่ยากที่สุดที่เคยพบเจอ
ชิงรัดเกล้าท่านหญิงแห่งดาลีเน็สคืน...ในงานเต้นรำสวมหน้ากาก!!!
ได้ใบสั่งฆ่ายังจะง่ายกว่านี้พันเท่า! เธอไม่อยากจะทำสักเท่าไหร่แล้วในตอนนี้...
ไดอาไล่สายตาไปยังใบนั่นอย่างขยาดนิดๆ ก่อนที่เธอจะรู้สึกถึงไออุ่น มือเรียวใหญ่สวมล็อกเอวบางจากทางด้านหลัง
นี่เธอไม่ระวังตัวขนาดนั้นเลยหรือ? เธอแทบจะตะโกนด่าตัวเอง
“โอ้ย ปล่อยนะ ไอ้โรคจิต..” เธอร้องเมื่อครอฟเริ่มเพิ่มแรงรัดแน่ ไดอาขนลุกซู่กับมือเรียวที่เริ่มเลื่อนไล้ไปตามเอวบางอย่างน่าหวาดเสียว เธอเริ่มร้อนผ่าวไปทั้งตัว...
“อ้าวพูดเป็นด้วย...”
อั๊ก! ไดอาศอกใส่ แต่เขากลับไม่สะทกสะท้าน “เฮ้อ ถึงว่าตัวเล็กนิดเอง แรงถึงได้มีแค่นี้...เออยากรู้จังว่าจะซ่อนรูปหรือเปล่าน้า?”
“ฉันบอกให้ปล่อยไง!!!” ไดอาดิ้นเร้าๆ
“หัดมีสติหน่อย ถ้าอยากเป็นนักฆ่าจริง แค่กลิ่นผ่าน เธอก็แยกให้ออก นี่ขนาดฉันมายืนมองเธอตั้งนานยังไม่รู้สึกตัว...เฮ้อ ฉันคงต้องไปต่อว่าพ่อสักหน่อยแล้วล่ะมั้งเนี่ย เลือกคนมาทำงานประสาอะไรกัน...”
“นายต้องการอะไร ปล่อยนะ..” ไดอายังคงดิ้น ขณะที่ชายหนุ่มกลับเห็นเป็นเรื่องสนุก
“ไม่รู้..ไม่มี..ไม่ต้องการ แค่จะมาบอกว่า กลิ่นหอมๆของเธอมันมารบกวนการนอนของฉัน...” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะทำจมูกฟุดฟิดสูดดมจนหญิงสาวแทบจะร้องกรี๊ดออกมา
โอ้ยยยย!!! ครอฟร้อง เมื่อไดอากัดเข้าให้ที่แขนเขาจนเป็นรอยแดง เธอสะบัดตัวลุกขึ้นยืน เรียกมีดออกมาได้ทัน “ ถ้านายแตะตัวฉันอีก ฉันแทงนายแน่..”
“หึ หึ หึ เหมือนว่าเธอจะไม่เข็ดนะ..” เขาพูดตาเป็นประกายพราวราวกับเด็กได้ของเล่นใหม่ที่ถูกใจ
“ก็จะได้รู้ว่าระหว่างนักฆ่า กับนักล่า อะไรจะตายก่อนกัน...” ไดอาเอ่ยเสียงเย็น เธอเริ่มแกว่งมีดไปมาอย่างรวดเร็วจนน่าหวาดเสียวเมื่อความอดทนอดกลั้นนั้นมาถึงจุดสิ้นสุด
“จุ๊ จุ๊ ฉันกลัวจังเลย” เขาตีหน้าเศร้าค่อยเดินเข้ามาใกล้อย่างช้า ขนาดที่เธอเริ่มถอยกรู “เกิดมาก็ไม่เคยเป็นนักล่าซะด้วยสิ.....”
ไดอาเงียบ ชะงักกับคำพูดนั่นราวกับถูกสากด้วยน้ำเย็นจนหน้าชา
เขากำลังดูถูกเธอ...!
ชายหนุ่มขยับเหยียดยิ้ม
“ฉันล่ะชอบแต่สะสมนักล่า ยิ่งสาวๆสวยๆ...เธอสนใจไหมล่ะไดอา” นัยน์ตาสีฟ้าหม่นมองเธอในแบบที่เธอไม่ชอบ “พวกนักล่า นักฆ่า นักเต้น นักเวท หรือแม้แต่เลดี้ผู้สูงศักดิ์ก็ลองมาแล้ว เห็นจะเหลือก็แต่ไวโอร่า...” ชายหนุ่มถูมือไปมา ก่อนจะยกมือหมายจะสัมผัสใบหน้าสวยเด่น หากแต่ไดอายกมีดสั้นขึ้นมาป้อง คมมีดเรียกรอยเลือดสีแดงสดจากชายหนุ่มเป็นทางยาว เขายังคงไม่สะทก การกระทำแบบนี้มันช่างทำให้เขานึกสนุก ร้อนลุ่มไปหมดแทนต่างหาก หญิงสาวตกใจทิ้งมีด หากราเชลเห็นจะว่าอย่างไร...
“ใจเสาะจัง..” เขาก้มเก็บมีด ยัดมันใส่มือเธออีกครั้ง “เอาซี่แทงเลย แทงตรงนี้เลย!”
ไดอามือสั่น เขาจับมันกดลงที่ท้อง
แม้ในใจจะร้องสั่งให้เธอแทงคนตรงหน้า แต่เธอกลับทำไม่ได้ ยามเมื่อใบหน้าหล่อเหลานั้นอยู่ใกล้เธอ หญิงสาวเริ่มรังเกียจตัวเองเข้าไปทุกขณะเสียแล้วว่าทำไมการอยู่ใกล้คนตรงหน้าถึงทำให้เธออ่อนแอได้อย่างประหลาด!
“ทำไมไม่แทงล่ะฮะ เอาซี่เอาเลย ฆ่าฉันอย่างที่เธออยากทำเลยซี่ไดอาคนเก่ง!” นัยน์ตาสีฟ้าหม่นจ้องลงไปในตาของเธอ ก่อนหน้านั้นไอ้ตาสีหม่นๆที่สาวๆหลงทั้งหลายหลงนักหนามันไม่เคยมีผลอะไรกับเธอเลย แต่ทำไมตอนนี้เธอกลับใจเต้นแรงยามต้องสบมันตรงๆ หญิงสาวได้แต่ก้มหน้าหนี แต่มีหรือว่าคนอย่างครอฟจะปล่อยเธอไปง่ายๆ มือใหญ่บีบคางให้หันมาสบตาเขาตรงๆ เขาเจอมานักต่อนักแล้วกับแม่พวกสาวใจแข็ง แต่สุดท้ายก็ต้องมาสยบแทบเท้าเขาอยู่ดี
“ไม่กล้าหรือ ฮึ ถ้าไม่กล้า ถึงตาฉันบ้างล่ะนะ..”
ความคะนองของเขานั้นมีมากกว่าสติเสียแล้วตอนนี้ ไม่มีสิ่งใดหยุดเขาได้อีกต่อไป!
“นายจะทำอะไร...” นัยน์สีเงินฉายแววประหม่าอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันจะทำให้คำด่าของเธอกลายเป็นเสียงครวญคราง ฉันจะทำให้เธอมองฉันด้วยสายตาหยาดเยิ้มเลยล่ะไดอา...” เขาโยนมีดทิ้งลงกับพื้น ก่อนจะโถมน้ำหนักดันร่างของหญิงสาวชิดผนังแบบไม่ทันตั้งตัว เรือนร่างของเขาแนบชิดกับร่างเพรียวบางได้สัดส่วน หญิงสาวร้องลั่น ทั้งดิ้นทั้งข่วนแต่เขากลับไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
“อย่าทำเป็นเล่นตัวน่า...”
“ปล่อยนะ...อื้อ ฉันบอกว่าให้ปล่อย!!” ไดอาร้องลั่น เธอไม่สามารถทานแรงของคนตัวสูงตรงหน้าได้ มือเรียวรวบแขนเธอขึ้นเหนือหัว ใบหน้าคมคายก้มลงซุกไซ้ไปตามซอกคอจนหญิงสาวขนลุกซู่ด้วยความรู้สึกที่แปลกใหม่
“อะไรกันแค่นี้ก็ขนลุกแล้วหรือ
” ครอฟเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา มือของเขาปล่อยให้เธอเป็นอิสระ หญิงสาวทั้งผลักทั้งทุบแต่กระนั้นเขาก็ยังไม่ลดละ ในที่สุดไดอาตัดสินใจรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายถีบเข้าที่หน้าท้องอย่างจัง ชายหนุ่มถอยกรู ไดอาพยายามจะวิ่ง แต่ครอฟไวกว่า เขากระชากตัวเธอลงมากับพื้น เขาเริ่มไล่ริมฝีปากไปตามซอกคอขาวเนียนของเธออีกครั้ง มือของเขาเริ่มควบคุมไม่อยู่ราวกับต้องการสำรวจเรือนร่างอ้อนแอ้นที่ดิ้นอยู่ใต้ตัวเขาอย่างเด็กขี้สงสัย มือข้างหนึ่งเริ่มสอดเขาไปใต้เสื้อยืดสีดำ ไดอาสะดุ้งเฮือกโผเขากอดเขาแน่นกับการกระทำของชายหนุ่มตรงหน้า
!
ครอฟยิ้ม เธอยังไม่คุ้น...
ไดอากัดฟันแน่น เมื่อรู้สึกว่ามือของชายหนุ่มเริ่มเปะปะไปทั่ว เธอร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แต่อีกใจหนึ่งนั้นทั้งอาย ทั้งอยากจะฆ่าคนตรงหน้าทิ้งเสีย...
“ปล่อยอย่าทำแบบนี้ นายมันเห็นแก่ตัว ไอทุเรศ!”
“คนเรามันก็เห็นแก่ตัวกันทั้งนั้นแหละน่า เธอจะเดือดร้อนไปทำไมในเมื่อมีผู้หญิงหลายคนที่อยากจะเข้าใกล้ฉันแบบนี้”
ริมฝีปากเรียวร้อนระอุเขยิบขึ้นปิดเรียวปากบาง เข้าไม่ปล่อยให้เธอพูดอีกต่อไป หญิงสาวเริ่มรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ จนกระทั่งครอฟถอนริมฝีปากออก เขายิ้มให้เธออย่างพอใจ มองหน้าสวยที่ทำรังแดงซ่านเพราะความเขินอาย เธอกำลังจะทำให้เขาคลั่ง ชายหนุ่มบอกตัวเอง
“ได้โปรดปล่อยฉันนะ...” ไดอาเริ่มอ้อนวอน เมื่อรู้สึกว่าเสื้อตัวดีมันกำลังจะทรยศเธอ..
“เธอหยุดฉันช้าไปแล้วไดอา...” เขาตอบเธอราวกับเสียงกระซิบ “ฉันสัญญาว่าถ้าฉันพอใจเธอ ฉันจะไม่ปล่อยเธอไว้แบบนี้แน่...”
สะอึก! เขากำลังทำกับว่าเธอเป็นแค่นางบำเรอของเขาเท่านั้น...
“ไม่...!”
“เป็นอะไร เมื่อกี้ยังน่ารักดีอยู่เลย” ครอฟเริ่มหัวเสีย แต่เขายังไม่หยุด ความปรารถนาของเขายังไม่สำเร็จ เขายังปราบม้าพยศตัวนี้ไม่ได้...
ไดอาสะดุ้งทุกครั้งที่ริมฝีปากของชายหนุ่มสัมผัสกับตัวเธอ เสียงลมหายใจของเขาทำให้เธอร้อนรน...
“อย่า!!!” ความกลัวเริ่มเกาะกินหญิงสาว
“ไม่ต้องกลัว ฉันสัญญากับเธอแล้วไง เพราะอย่างไรซะฉันก็จะต้องทำให้เธอนอนซบอกฉันให้ได้...”
........! ใจของหญิงสาวหล่นวูบ เขาต้องการเพียงแค่นี้เองหรือ?
ถ้าทุกสิ่งที่เขาต้องการจากเธอหมดลง...เธอก็คงจะถูกทิ้งอย่างผู้หญิงคนอื่นๆ และตอนนี้เธอไม่สามารถยับยั้งคนตรงหน้าได้อีก เธอไม่สามารถปกป้องศักดิ์ศรีที่เธอถือมั่นได้อีกต่อไป...หญิงสาวได้แต่ปล่อยความอ่อนแอออกมา...
เวลาผ่านไป ครอฟรู้สึกถึงความผิดปกติของหญิงสาว เธอไม่ดิ้น ไม่ร้อง หรือผลัดไสเขาอีกอย่างเคย แต่ก่อนที่เขาจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ ชายหนุ่มรู้สึกถึงของเหลวใสๆไหลโดนหน้าเขาจนแชะ...
ครอฟชะงัก เขาเงยหน้ามองเธอ ใบหน้าสวยหน้าบัดนี้เต็มไปด้วยหยาดน้ำ ดวงตาสีเงินคู่งามพร่ามัวไปด้วยรอยน้ำตาอย่างที่เจ้าตัวไม่สนใจจะกลั้นมันไว้อีกต่อไป...
“ไดอา...” มือเรียวยกขึ้นหมายจะเช็ดน้ำตา แต่เธอกลับเบือนหน้าหนี ชายหนุ่มเริ่มได้สติอีกครั้งว่าตัวเองทำอะไรลงไป ความรู้สึกผิดเริ่มถาโถมเขามา เมื่อเห็นดวงหน้าเปื้อนน้ำตาที่เขาเป็นคนทำ...
เขากำลังจะขืนใจผู้หญิง เขาทำให้เธอร้องไห้หรือนี่ บ้าเฮ้ย!
“ไดอาฉัน...”
“สะใจนายแล้วชิ!!”
“ไดอา..”
“พอใจหรือยัง หยุดทำไมล่ะ ฉันถามว่าหยุดทำไม!!”
“ฉัน...”
“ฮือ ฉันแพ้นายแล้วพอใจแล้วใช่ไหม ฮือ!!”
“อยากให้ฉันเป็นนางบำเรอนายนักไม่ใช่หรือไง จะหยุดทำไม่ล่ะ!!!”
ปัง ปัง ปัง!!
“เสียงอะไรน่ะ”
“เฮ้ย ใครล็อกประตู!!”
“ไอ้ครอฟเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!”
เมื่อได้ยินเสียงของราเชล ไดอาจึงยันอกของชายชายหนุ่มออกจากตัวเธอ หญิงสาวดึงเสื้อกลับเข้าที่อย่างลวกๆก่อนจะมองเขาด้วยสายตารังเกียจ
พอดีกับที่ราเชลกระแทกประตูเข้ามา ไดอาก็วิ่งออกไป
“ไดอา..” ราเชลเรียก หญิงสาวไม่สนใจจะฟัง เธอวิ่งออกไปพร้อมทั้งน้ำตา
“ไดอา...หยุดก่อน ไดอา!!”
เมื่อได้สติ ครอฟเรียกหญิงสาว เขาพยายามจะวิ่งตามเธอไป หากแต่ราเชลรั้งเขาไว้
“แกทำอะไรไดอา!” ราเชลถามเสียงแข็ง แต่ผู้เป็นน้องชายกลับนิ่ง
“แกบอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะว่าแกทำอะไรไดอา!”
ครอฟยังคงเหม่อมองไปไกลยังน่านน้ำสีครามที่แฝงความลึกลับไว้ในตัว ตะวันลับขอบฟ้าแล้ว มีเพียงแสงสว่างจากไฟบนเรือ และดวงจันทร์เท่านั้นที่ยังพอทำให้มองให้อะไรได้บ้างเท่านั้น...
“ลุงว่าผมเลวไหม ถ้าทำให้ผู้หญิงร้องไห้...” เขาเอ่ยออกมาหลังจากเหม่อออกไปนาน เรียวปากย่นๆของชายชราคลี่ยิ้มบางๆ เขาเอื้อมมือไปบีบไหล่ของชายหนุ่ม
“ฮึ ฮึพ่อหนุ่ม...ลุงไม่เคยมองใครว่าเลว อยู่ที่ตัวเธอแล้วล่ะ ลองถามตัวเองสิ บางทีนั่นอาจจะเป็นคำตอบก็ได้นะ พ่อหลานชาย”
ชายชราปล่อยให้ครอฟได้จมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ทบทวนสิ่งต่างๆ และการกระทำของเขา อยากให้เขาหาคำตอบ และสิ่งพลาดผิดด้วยตัวเอง...
ฉันคงเลวอย่างที่เธอว่า...ไดอา
ภาพต่างๆที่เขาทำกับเธอเริ่มไหลย้อนกลับเขามาในสมอง ชายหนุ่มปล่อยให้ภาพเหล่านั้นกรูเขามาเรื่อยๆอย่างไม่หยุดยั้ง ราวกับจะให้มันย้ำชัดไปถึงสิ่งที่เขากระทำลงไป...!
แต่ก่อนที่เขาจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ อยู่ๆ ครอฟที่นั่งนิ่งไปนานก็สังเกตถึงอะไรบางอย่าง จมูกของเขาเริ่มแดงผิดปกติ...
กลิ่นแบบนี้ ไอเวท และมันไม่ใช่แค่เวทธรรมดา ร่างกายเขาตอบสนองต่อไอเวทที่รุแรงได้ดีเสมอ
“ลุงดูนั่น...!!” เขาชี้ ไปยังบริเวณที่ผืนน้ำที่เคยสงบ กลับบิดเป็นเกรียวและเริ่มรุนแรงอย่างบ้าคลั่ง ราวกับปลุกอสูรกายร้ายใต้ท้องทะเล
“...พระเจ้านั่น คาเคน!!” ชายชราอุทานออกมา เมื่อเห็นหนวดสีคล้ำชูสูง ก่อนจะฟาดลงผืนน้ำจนเกินแตกเป็นฟอง คลื่นรุนแรง เริ่มถาโถมเมื่อเจ้าอสูรกายปรากฏกายขึ้น..
เรือลำน้อยเริ่มไหวเอน เมื่อเจ้าคาเคนตัวยักษ์เคลื่อนกายเข้ามาใกล้ราวกับมันเจอเหยื่ออันโอชะ
“เกิดอะไรขึ้น!!!” ราเชลร้อง เธอวิ่งออกมาจากในเรือ “ พระเจ้านั่นคาเคน!!”
เปรี้ยง!!! สายฟ้าฟาดดังก้อง ก่อนที่สายฝนจะเทลงมาอย่างบ้าคลั่ง ท้องทะเลที่สงบราบเรียบในตอนแรก กลับปั่นป่วนอย่างไม่มีสาเหตุ
วูบบบ!!! เจ้าคาเคนตัวร้ายเคลื่อนกายอันใหญ่โตเข้ามา หนวดของมันรัดเสากระโดงเรือ
“ลุงบังคับเรือดีๆนะ ราเชลไปเอาดาบมา!!” ครอฟตะโกนสั่ง “...ดูท่าว่ามีคนเล่นตลกกับเราอยู่...”
ฉับ!!! โฮกกก!!!
ครอฟใช้ดาบเล่มใหญ่ฟันลงไปยังหนวดของมันจนขาด น้ำเหลวๆสีคล้ำไหลเยิ้ม ดวงตาปูดโปนของคาเคนแดงก่ำด้วยความโกรธ มันเริ่มใช้หนวดยักษ์ของมันฟาดใส่ กะให้เรือแตกเป็นเสียงๆ
กรี๊ดดดดด!!! ราเชลร้องลั่น เมื่อเจ้าอสูรกายใช้หนวดรัดขาเธอ
วินาทีนั้น พลังของมิลเล่อร์ได้ปรากฏ เนตรมรณะของราเชล สายลมแรงพัดวูบนัยน์ตาสีมรกตแปรเปลี่ยนเป็นดำดุจหมึก อยู่ๆ แรงกดดันมหาศาลก็ดันไอ้เจ้าอสูรร้ายบิดวนจนแตกออกเมื่อราเชลผายมือ
ราเชลเชถลา ราวกับหมดแรง นี่และการใช้พลังวิเศษที่ต้องแรกมากับกำลังกาย เรือลำน้อยแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ชายชราเสียการทรงตัว โชคดีที่ครอฟเห็นเข้า เขากระโดดไปคว้าตัวได้ ชายหนุ่มคว้าร่างผอมเกร็งไปยังฝาเรือที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ
“ใจเย็น ลุงไม่ตายง่ายๆหรอก รอตรงนี้และกัน...” เขาบอก ก่อนจะกระโดดข้ามไปยังจุดที่ราเชลเชถลาอยู่ ข้างศพคาเคน
“เฮ้ย พี่เป็นไงเนี่ย..” เขาร้อง ราเชลเพียงแค่ตวัดสายตาไปมอง “อะไรกันไอ้ปลาหมึกตัวเดียวถึงกับลมจับเลยหรือ ฮ่า คนแก่ก็ยังงี้แหละ...” เขายังคงอารมณ์ดีอย่างไม่ดูสถานการณ์
“ครอฟ!!!” ราเชลร้อง เธอเพิ่งนึกบางอย่างได้ “ไดอาอยู่ข้างหลัง..!”
แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ หนวดสีคล้ำนับสิบชูขึ้น
_________________________________
___________________ไม่ติดเรทหรอกเน๊อะ เเค่เกือบๆ อิอิ มันต้องมีบ้าง กร๊าก
เม้น+โหวต กันหน่อยเน้อ ไร้เตอร์ติ้งต๊องจะได้มีกำลังใจจร้า
ความคิดเห็น