คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 5 : นักฆ่าคนใหม่
The Difference: ความรัก...ปริศนา...ชะตากรรม
บทที่ 5 : นักฆ่าคนใหม่
“แว๊ก!!!” แกมมิเลียสทำท่าสยอง “เธอจะลงจริงๆหรือ?”
“อืม....” คำตอบนั้นฟังดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนแต่อย่างได
“แต่พี่สาวที่ขายใบสมัครบอกว่า จิตวิญญาณในการสังหารโหดสุดๆเลยนะไดอา ถึงสถาบันนี้จะเรียนแค่ สองปีจบก็จริง แต่บางคนของสาขานี้เจ็ดปียังไม่จบก็มีนะ แล้วพวกที่เรียนถ้าไม่ซาดิสม์ ก็บ้าเลือดทั้งนั้น ...”
“แล้ว...”
“เฮ้ยยยย...ไม่เอาน่า ยอมเสียสักสี่โกลเพื่อความปลอดภัยไม่ดีกว่าเหรอ” แกมมิเลียสเสนอ
“ไม่ ฉันตัดสินใจไปแล้ว...” เธอบอก “แล้วเธอล่ะลงอะไร...”
“ผู้หญิงที่สวย น่ารัก บอบบางอย่างฉันก็ต้องลง ‘ศาสตร์เพื่อการรักษา และเยียวยา’ สิจ๊ะ...” หล่อนบอกพลางสะบักผมเปียทั้งสองข้าง ก่อนจะยืดตัวขึ้นอย่างมั่นใจ “แต่จริงๆนะไดอามาอยู่เมนเทนด้วยกันไม่ดีกว่าหรอ ชุดสวยส้วยสวย...” เจ้าตัวพยายามเกลี้ยกล่อมสุดชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผล
“จริงสิ ฉันเห็นเหมือนว่าเธอไม่ชอบเรือเท่าไหร่นัก เธอเมาเรือหรือ” แกมมิเลียสถามอย่างสงสัย
หญิงสาวถอนหายใจ ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องในอดีตอันโหดร้ายที่เธอเคยถูกจับถ่วงน้ำในข้อกล่าวอ้างว่าเป็นปีศาจร้ายให้แกมมิเลียสฟัง ในครานั้นเปรียบเสมือนเครื่องเตือนใจหญิงสาว สิ่งเดียวที่บัดนี้เธอยังทำไม่ได้คือการว่ายน้ำ แน่นอนว่าอดีตอันเจ็บปวดคอยตามมาหลอกหลอนเธอ จนกระทั่งเธอได้ชีวิตให้มีจากโรเบิร์ตที่หยิบยื่นโอกาสให้เธอ หญิงสาวเลยมีความฝันว่าจะต้องเป็นนักฆ่าให้ได้ เพื่อที่จะได้มีโอกาสย่างกรายไปยังดินแดนอันโหยร้ายอย่างบาเวอร์เรียที่ได้สร้างแผลในใจแก่เธอ เพื่อจะได้กวาดล้างพวกเลวระยำนั่นอีกครั้ง!
“ฉันเป็นนักล่านะ ไม่ใช่คนขายยา” ไดอาพูดเรียบๆ
“จริงสินะ...” แกมมิเลียสทำท่าเหมือนนึกบางอย่างออก หล่อนหรี่ตาจนเป็นเส้นตรง
“...ฉันลืมไป” เจ้าตัวบอกเสียงค่อย ส่งผมให้ไดอาต้องหันมามองอย่างงุนงง “รีบไปเถอะเดี๋ยวคนจะเยอะกว่านี้”
ไดอาเดินมายืนต่อแถวที่แสนยาวเหยียดเพื่อรอการส่งใบสมัครในสาขาจิตรวิญญาณในการสังหาร ซึ่งก็เป็นสาขาหนึ่งที่ได้รับความสนใจมาก เพราะค่อนข้างจะฮอทในบรรดาวัยรุ่นผู้วิเศษทั้งหลายหากใครได้เข้าไปเรียนได้ ถึงแม้จะมีข่าวลือว่าเป็นสาขาที่หินที่สุดแล้วก็ตาม
แต่สำหรับเธอ....เหตุผลที่เลือก...ย่อมต่างออกไป
พักใหญ่สำหรับการยืนรอแสนยาวนานที่แทบจะไม่ได้ก้าวเลย ไดอารู้สึกถึงแรงสัมผัสที่ต้นแขน
ใคร? นัยน์ตาสีเงินเฉยชาตวัดไปมองยังเบื้องหลังอย่างรวดเร็ว
“...ใจเย็นไอ้น้องสาว...” สตรีผมบรอนซ์ทองยาวสยายหันมายิ้มให้ไดอา หล่อนมีใบหน้าสวย ดูโดดเด่นด้วยนัยน์ตาสีมรกตใสวาว ไดอารู้สึกคุ้นหน้าสาวสวยตรงหน้านี้อย่างบอกไม่ถูก ใบนั้นช่างละม้ายคล้ายใครบางคน...ที่นึกไม่ออก
“เธอนี่เงียบอย่างที่อาฉันบอกจริงๆเลยนะไดอา...” หล่อนบอก “จริงสิ ฉัน ราเชล สเว็ตลาน่า มิลเล่อร์ เจ้านายเธอน่ะอาฉัน...”
มิลเล่อร์งั้นหรือ? ...ใช่แล้ว เหมือนมาก พี่สาวตรงหน้าคล้ายกับคุณโรเบิร์ตมาก โดยเฉพาะนัยน์ตานั่น!
“เธอกำลังทำให้ฉันอารมณ์เสีย ถ้าหากยังไม่คิดจะปริปากพูด...” ราเชลเอ่ยหน้างอ หล่อนก็เหมือนสาวน้อยที่ถูกเลี้ยงมาอย่างประคบประงมในสายตาไดอา
“เอ่อ...” ไดอาไม่ทันจะพูด
“ช่างเหอะๆ...น่ารำคาญจริง มานี่เลยมา...” ราเชล เดินลากไดอาออกจากแถวไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ซึ่งหญิงสาวเองก็ดูจะรู้สึกงุนงง แต่ไม่ถึงกับตกใจ
.............
..............................
พักใหญ่สองสาวซึ่งคนหนึ่งกึ่งเดินกึ่งวิ่ง อีกคนหนึ่งถูกลากก็มาหยุดอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ท่ามกลางซอยเปลี่ยวๆ แลดูเงียบสงบห่างไกลผู้คน หรือพวกสอดรู้สอดเห็นได้เป็นอย่างดี มันอยู่ติดกับกำแพงด้านข้างของสถาบันผู้วิเศษอิลเลียนอลห่างไปสองช่วงตึก ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าที่ตรงนี้เป็นแหล่งมั่วสุมของมิจฉาชีพ และพวกขี้ยาทั้งหลายในตอนกลางคืน ที่แห่งนี้จึงกลายเป็นที่น่าขยาดในสายตาของผู้คน
“เอาล่ะ...ไดอาที่ฉันต้องลากเธอมาในวันนี้เพราะว่า...” ราเชลเว้นวรรค เธอหอบน้อยๆ “...อาส่งข่าวดีมาว่าจะเลื่อนเธอเป็นนักฆ่า....”
อะไรนะนักฆ่าอย่างนั้นหรือ...!!! ไดอาทวน คำพูดของราเชลซ้ำไปมา ไม่ได้ยินผิดแน่หรือไร ที่ผ่านมา เจ้านายคอยปฏิเสธงานใหญ่ หรือร้ายแรงอันตราย ไม่ให้เธอรับเพื่อเลื่อนขั้นขึ้นเป็นนักฆ่า...แต่ทำไม...
เหมือนกับว่าราเชลจะรู้ความคิดของไดอาที่เงียบไปดี แม้ดวงหน้าจะพยายามวางให้ราบเรียบ แต่มีหรือคนอย่างเธอดูริ้วรอยความกังวลนั้นไม่ออก
“...แต่อามีงานให้เธอทำน่ะ หากสำเร็จเธอจะได้เป็นนักฆ่าเต็มตัว งานเบาๆ”
“งาน...” เธอทวนคำ “ใช่...ด่วนมากด้วย เพราะงั้นฉันถึงต้องมาเอง และงานนี้เราทั้งสามจะต้องไปด้วยกัน...”
“...เมื่อไหร่” ไดอาเอ่ยถามอย่างหวาดหวั่น เธอต้องเขาทำการทดสอบในไม่ช้านี้ หากงานที่ว่านั่นด่วนมาก ก็อาจจะมีสิทธิ์ตรงกับวันคัดเลือกนักศึกษา...
หรือนั่นจะเป็นแผนอะไรบางอย่างของโรเบิร์ต มิลเล่อร์ ที่เธอเองก็ไม่อาจรู้
แควก!!!!
“กำหนดการอยู่ในซองนี้” ราเชลฉีกซองสีขาวที่ประทับตรามิลเล่อร์ตรงหน้าออกอย่างหน้าตาเฉย
“พรุ่งนี้!!!!” ไดอาร้อง หลังจากที่กวาดสายตาไปบนหมายกำหนดอย่างลวกๆ
“เยสเซ่อร์ ฉันถึงบอกไงเล่าว่าด่วนมาก...” ราเชลบอกหน้ามุ่ย
“แต่เรื่องสอบ....” เธอพยายามจะขัดขึ้น ราเชลเหยียดยิ้มละม้ายคล้ายกับคนที่ไดอาไม่อยากจดจำโดยบังเอิญ
“อาอยากให้หลานพาไดอา กับครอฟไปที่อิลเดียร่าสักระยะ”
“แต่มันตรงกับสอบเข้านี่คะคุณอา?”
“เหตุผลบางอย่างที่สำคัญ ไดอาจะต้องไม่ได้รับการทดสอบ แต่เธอจะได้เรียนตามที่ต้องการทุกอย่าง หวังว่าหลานคงเข้าใจอานะราเชล”
“หนูเคารพคำสั่งของคุณอาเสมอค่ะ...”
“เรียกว่าเป็นคำขอร้องของอาเสียดีกว่า...แล้วจำไวนะราเชล อย่าเพิ่งกลับจนกว่าจะใกล้การเปิดภาคเรียนใหม่นี้ อาไว้ใจหลานเสมอ”
“หึ ปีนี้ฉันต้องมาเห็นเด็กเส้นหรือเนี่ย...” ราเชลหัวเราะเบาๆ “เอาเถอะ อย่างไรซะเธอได้เรียนที่นี่แน่ อาโรเบิร์ตจัดการให้ลูกน้องสุดที่รักของเค้าได้อยู่แล้ว ภาวนาให้งานเสร็จทันกลับมาเปิดภาคเรียนก็แล้วกัน...”
“จริงสิฉันลืมบอกไป....งานนี้เราจะไปกับไอ้น้องชายสุดที่รักด้วย!”
ครอฟฟอร์ด มิลเล่อร์ นักฆ่าสมัครเล่นแห่งองค์กรนักล่าหัวอัศวินมิลเล่อร์ที่หนึ่ง ลูกชายคนเดียวของโรเบิร์ต มิลเล่อร์ ผู้ซึ่งเป็นมิลเล่อร์ที่เก่งที่สุดและนอกคอกที่สุดของตระกูล โรเบิร์ตเป็นผู้ที่ทำให้กลายเป็นยุคทองของนักฆ่า หรือที่บางคนเรียกว่า ยุคอิทธิพลมิลเล่อร์ค้ำฟ้า และด้วยเหตุเดียวกันลูกชายของเขาจึงกลายเป็นจุดสนใจ น่าจับตามอง...
ครอฟ คือชายหนุ่มที่มากด้วยเสน่ห์ไม่แพ้มิลเล่อร์ผู้พ่อ เขาคือผู้หยิ่ง และทระนงในสายเลือดต้องห้ามอันสูงส่ง ชาติตระกูลอันมั่งคั่ง ด้วยวัยเพียงสิบแปดปี ทำให้เขากลายเป็นที่หมายปองของบรรดาสาวๆที่หวังสูงอยากเป็นหนึ่งในมิลเล่อร์ แม้จะเป็นที่รู้กันดีว่าตระกูลมิลเล่อร์เป็นหนึ่งในตระกูลที่รักษาสายเลือดโดยการแต่งงานกันเองภายในตระกูล แต่เพราะความนอกคอกของโรเบิร์ต จึงทำให้สาวๆได้แต่ภาวนาว่าเขาจะเป็นผู้ที่เดินทางตามพ่อ แหกกฎในสายเลือดนั่น...แต่ชายหนุ่มมักมีคู่รักเพียงไม่กี่คน หรือเรียกว่านับคนได้ เพราะเขาไม่เคยต้องการให้หญิงสาวก้าวมายืนเคียงข้างเขาในฐานะคู่รักมากกว่าคู่นอนเลย เหตุนี้เองเขาจึงกลายเป็นแบดบอยรุ่นเยาว์ ที่ถือว่าใช้ผู้หญิงเปลืองมากที่สุดคนหนึ่ง...
...นี่สินะ สิ่งที่เขาเป็น ชายหนุ่มยิ้มเหยียดให้กับตัวเอง ก่อนจะโยนหนังสือพิมพ์ยามเช้าที่ลงประวัติไว้ พร้อมกับรูปของเขาที่รายล้อมด้วยสตรีในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง
ครอฟแหงนหน้ามองเพดานสีขาวสะอาดด้านบน ชายหนุ่มนอนอยู่บนเตียงสีน้ำตาลแสนหรูหรา พลันนัยน์ตาสีฟ้าหม่นเลื่อนลงมาจับที่ร่างของสตรีผมแดงสด ผู้ที่นอนซุกอกเปลือยเปล่าของเขาอยู่ หล่อนหลับตาพริ้มราวกับว่ากำลังดื่มด่ำกับนิทราอันแสนสุข การกระทำของเขาเองก็ไม่ได้ต่างจากหนังสือพิมพ์ที่ลงไว้เลย ในเมื่อผู้หญิงเหล่านั้นต่างวิ่งมาหาเข้าเองต่างหาก และเขาก็ไม่ใช่พวกที่ไร้ความรู้สึกที่จะปล่อยร่างงามๆเหล่านั้นทิ้งไป!
เฮ้อ... ครอฟถอนหายใจยาว มือเรียวยกขึ้นปัดปอยผมสีเพลิงออกให้พ้นดวงหน้า ก่อนที่เขาจะถอนหายใจอีกรอบ
ผู้หญิงก็เหมือนกันหมดทั้งนั้น...
ชายหนุ่มบอกกับตัวเอง เขายอมรับว่าเรือนร่างเหล่านี้ได้สร้างความสุขทางกายกับเขามากมาย แต่กลับกัน ยิ่งมากมายหลายคนเท่าไหร่ มันก็ยิ่งสร้างรอยแผลบาดลึกในใจให้มากเท่านั้น ...แต่...เขายินดีจะเจ็บหากมันสามารถค้นพบหญิงที่แตกต่างจากที่พบพาน...เธอ ผู้ไม่หวังในชาติตระกูลของเขา เธอผู้ไม่หลงใหลไปกับเรือนกาย เธอผู้ไม่เคลิบเคลิ้มไปกับเครื่องของหรูหราที่เขาหามาปรนเปรอ
แต่
...เธอผู้นั้นจะมีอยู่จริงด้วยหรือ...!!
....................
ตี๊ดดดด!!! ครอฟสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงออดดังยาวหน้าห้องของเขา ชายหนุ่มคว้าผ้าเช็ดตัวสีขาวสะอาด ก่อนจะวิ่งไปที่ประตู
“พ่อ..!.” เขาร้องคราง เมื่อเห็นผู้ที่มาปลุกเขาจากห้วงความคิด
โรเบิร์ตกล้มองสำรวจร่างลูกชายของเขาที่มีพียงผ้าขนหนูผืนเดียวด้วยใบหน้าราบเรียบราวกับรู้อยู่แล้ว โดยที่เขาไม่คิดจะตัดเตือนพฤติกรรมของลูกชายในเมื่อเขาคิดว่าดีกว่าเปิดมาเจอผู้ชายแทนแม่สาวๆนั่น!
“...พ่อมาทำไมตอนนี้” ครอฟร้อง “ เช้าอยู่เลย...” เขามองนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงตรง
“ฉันจะมาตอนไหน ที่ไหน เวลาไหน สภาพแกก็ไม่ต่างจากตอนนี้หรอกน่า...” เขายิ้มให้ลูกชายกึ่งสมเพศ
“ช่างเหอะ
” ครอฟพ่นลมออกทางจมูกพลางหันไปมองทางอื่น “ว่าแต่พ่อมีอะไรเนี่ย ถึงยอมแยกจากแม่พวกนั้นมาหาผมได้” ครอฟเองก็ไม่เคยคิดจะปิดบังพฤติกรรมเหล่านี้กับพ่อเขาเลยในเมื่อพ่อเองก็ไม่ต่างจากเขาสักเท่าไหร่
เขายิ้มให้กับคำแซวกึ่งประชดของลูกชาย โรเบิร์ตตั้งใจจะก้าวเขาไปแต่ครอฟมายืนขวางโดยให้เหตุผลว่าไม่เรียบร้อย
“ฉันให้เวลาแกสองนาทีจัดการสารรูปแกซะ แล้วก็จัดการพาแม่หวานใจแกออกไปด้วย”
ไม่ถึงสองนาที ครอฟก็ออกรับโรเบิร์ตโดยแม่สาวผมเพลิงวิ่งออกไปด้วยสีหน้าแปลกๆ เขาเพียงแต่ใส่เสื้อคลุมเปิดอกสีดำ และพาโรเบิร์ตมานั่งที่โซฟาหนังในห้องรับแขกหรู
“พ่อมาก็ดีแล้ว...” ครอฟเปิดฉากสนทนาขึ้น มือเรียวยกขึ้นลูบต่างหูสีเงินเล่นอย่างเคยชิน “...เช็คเอ้าโรงแรมให้ผมด้วย”
“หึ ...ฉันมาหาแกเพราะมีธุระ ไม่ใช่มาเป็นธนาคารให้แก” โรเบิร์ตส่ายหน้า แต่ครอฟ กลับยิ้มร่า
“แกหัดเพลาๆเรื่องผู้หญิงบ้างก็ดีนะ...”
แปลก! ทุกครั้งไม่เห็นจะสนใจ แต่ชายหนุ่มก็แค่เลิกคิ้วขึ้น “กลัวจะข้ามหน้าข้ามตาหรือไง?”
“ฉันแค่เบื่อที่จะทะเลาะกับพวกลุงของแก” โรบิร์ตเริ่มเล่าเรื่องเมื่อสองวันก่อนให้ลูกชายคนเดียวของเขาฟัง
.............................
ปังง! หนังสือพิมพ์รายวันถูกโยนตรงหน้าโรเบิร์ต เขาเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของการกระทำซึ่งก็คือพี่ชายคนโตร่วมสายเลือดของเขาเอง
“ไงฟิลลิป..” เขาทักทายประสานมือไว้บนกองเอกสารอย่างสุภาพ
“งามหน้านัก!” โรเบิร์ตสังเกตเห็นใบหน้าของพี่ชายขึ้นสีตามแรงอารมณ์ “ชื่อเสียงตระกูลเราจะป่นปี้เพราะลูกชายแกโรเบิร์ต!”
“ทำไมครอฟมันควงผู้ชายออกงานสังคมหรือไง?” เขาหัวเราะอย่างคนอารมณ์ดี
“ตอนนี้ไม่ใช่ อีกหน่อยก็ไม่แน่ เปลี่ยนคู่นอนไม่เว้นวันแบบนี้ระวังจะเบื่อง่ายหันไปหาของแปลก!”
“แรงไปมั้งฟิลลิป ฉันก็แค่ปล่อยมันตามประสาผู้ชาย”
“แค่ปล่อยหรือไม่เคยสอนกันแน่ วันๆแกก็เอาแต่อ้างงานไม่เคยคิดจะไปอบรมมันเลย ปล่อยให้ทำเรื่องงามหน้า!”
“อะไรกันน่ะ!” เรเนียพี่สาวโรเบิร์ต น้องสาวของฟิลลิปก้าวเข้ามาขัดจังหวะ
“เธอมาก็ดีแล้วนะเรเนีย ช่วยเตือนน้องชายเธอด้วยว่าเลี้ยงลูกน่ะควรทำอย่างไร”
“อย่างน้อยครอฟมันก็เกิดจากความรักไม่ใช่...!”
“โรเบิร์ต!!” เรเนียพยายามจะปรามน้องชาย
“คำว่ามิลเล่อร์มันค้ำหัวแกอยู่นะ ก่อนที่จะทำอะไร!” ฟิลลิปเตือน “เรายึดมั่นในการรักษาสายเลือดบริสุทธิ์ไว้ ไม่ใช่ปล่อยตัวเองให้ทำเรื่องน่ารังเกียจตามประสาพวกไวไฟ”
“ฟิลลิปใจเย็น!!”
“ก็ดีแต่เข้าข้างกันแบบนี้มันถึงได้เสียคนไงล่ะ แล้วดูสิเป็นไงวุฒิภาวะในการเลี้ยงลูกมันถึงได้ต่ำขนาดนี้”
โรเบิร์ตครบกล้ามแน่น เขาพยายามควบคุมอารมณ์ที่กำลังจะปะทุอยู่ทุกขณะ เขารู้ดีว่าเขาเองก็ผิดที่ไม่ได้รักษาสายเลือดอย่างที่พี่ชายพูด
“กลับไปก่อนฟิลลิป เดี๋ยวฉันเตือนน้องเองนะ!” เรเนียผู้เป็นผ่ายห้ามทัพพยายามให้ฟิลลิปใจเย็น ดันร่างพี่ใหญ่ออกไปจากห้องโดยให้สัญญาว่าจะพูดกับโรเบิร์ตให้เอง...
คล้อยหลังฟิลลิป เรเนียก็เป่าลมออกปากหวืออย่างโล่งออก ถึงแม้จะรู้ว่าโรเบิร์ตมันไม่ทำพี่ แต่คำพูดมันน่ะน้ำมันราดกองเพลิงดีๆนี่เอง
“ไง สมใจแกไหมล่ะ?”
“ถ้าจะมาซ้ำเติมกันก็ออกไปเลยเรเนีย...” เขาว่า ก่อนจะหันมาสนใจกับกองเอกสารตรงหน้าต่อราวกับไม่มีเรื่องใดๆเกิดขึ้น เรเนียส่ายหน้าหน่าย มือเรียวคว้าเอกสารของน้องชายออก “วันนี้เราต้องคุยกันหน่อยแล้วโรเบิร์ต...ฉันเองก็เห็นด้วยกับฟิลลิปนะ”
“แกเองก็รู้ว่าฟิลลิปน่ะเป็นพวกหัวโบราณ รับเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยได้ ยิ่งอีกหน่อยครอฟจะต้องแต่งงานกับเคเซลแล้วด้วย”
“พี่คิดว่าครอฟมันจะยอมแต่งงานกับน้องสาวหรือ?”
เรเนียถอนหายใจ “ไม่”
“เห็นไหม ฉันเองก็คิดเหมือนกับพี่มันไม่ยอมแต่งหรอกเพราะงั้นจะมาเดือดร้อนทำไม”
“ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ยังไงแกก็ต้องเตือนครอฟเรื่องการวางตัวนะ ยิ่งจะเข้าไปเรียนในอิลเลียนอลแล้ว ถูกเรียกผู้ปกครองเรื่องชุ้สาวก็ไม่น่าสนเลยนะโรเบิร์ต”
“แล้วจะบอกมันก็แล้วกัน...เอาเอกสารมาเดี๋ยวไม่เสร็จ”
เรเนียส่ายหน้าเบาๆ หล่อนเองก็ไม่รู้จะเห็นใจใครดีระหว่างพ่อ กับลูก จะหนักหน่อยก็น่าจะเป็นพ่อหลานชายตัวดีของเขาที่ชอบหาเรื่องปวดหัวมาให้อยู่เรื่อย...
เรเนียคิด จะโทษที่ตัวเด็กก็ไม่เชิงถูกนัก ในเมื่อผู้ใหญ่มันก็ไม่คิดจะสอนให้รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด ฟิลลิปเองหลานก็ดีแต่ด่าว่า โดยไม่สอน โรเบิร์ตเองก็ไม่เคยสนใจลูกเหตุที่ว่าครอฟเป็นเด็กผู้ชายอยากให้โตขึ้นมาด้วยตัวของตัวเอง หล่อนเข้าใจดีว่าตั้งแต่แคลรีเซียทิ้งโรเบิร์ตกับลูกไป น้องชายหล่อนก็คงจะเจ็บ และปวดร้าวมาก ยิ่งครอฟได้ดวงตาของแม่มาเยี่ยงนี้ ทุกครั้งที่เขาจ้องดวงหน้าลูกชายเขาคงต้องนึกถึงผู้หญิงที่ทิ้งเขาไปเป็นแน่ โรเบิร์ตคงไม่อยากปล่อยความอ่อนแอออกมาให้ลูกเห็นจึงเลือกที่จะมอบความเย็นชาอย่างที่คนเป็นลูกไม่สมควรจะได้รับแทน!
..................
“ทีนี้แกก็น่าจะหยุดความเสเพลของแกได้แล้วนะ”
“เอาน่าพ่อก็พูดแบบนี้ทุกที ว่าแต่ธุระอะไรคุณโรเบิร์ตถึงมาด้วยตัวเอง...” เขายังคงอารมณ์ดี แม้สำนวนการสนทนาของพ่อลูกคู่นี้อาจจะฟังดูแปลกหูกว่าทุกคู่ก็ตาม
“ฉันมีงานให้แกทำ...” ครอฟยักคิ้ว “งานอะไรล่ะครับเจ้านาย ผมพร้อมตั้งแต่เกิดแล้ว”
โคร่ม โอ้ย!!!
“เฮ้ย ถีบทำไมเนี่ย..” เจ้าตัวร้องพลางลุกขึ้นมานั่งไขว่ห้างตามเดิม “พร้อมตั้งแต่เกิด แกหัดรับรู้ซะบ้างว่าฉันสั่งงานแกไปตั้งกี่วันแล้ว รอว่าเมื่อไหร่แกจะมา...”
“เฮ้ย
เดี๋ยวก่อนพ่อ งานอะไร สั่งใครไม่เห็นรู้เรื่อง พ่อควรจะไปไล่ไอ้งั่งนั่นออกที่สั่งงานไม่รู้เรื่อง”
“งั้นฉันคงต้องไล่แกออก...” โรเบิร์ตยกขาขึ้นพาดโต๊ะรับแขก เขานั่งกอดอกมองลูกชายด้วยท่าทีสบายๆ เมื่อเห็นครอฟมีสีหน้างุนงง “...แกจะเถียงไหมว่า เมื่อช่วงสามสี่วันที่ผ่านมามีสาวน้อยไวโอร่าเอาซองสีขาวไปให้แกที่สถานบันเทิง แล้วแกก็เลิกกับ...”
ที่ยัยนั่นบอกว่ามีธุระ... รอยยิ้มพลายปรากฏบนดวงหน้าคมคาย ไม่ได้มาหาเขาอย่างที่ผู้หญิงคนอื่นเขาทำกันหรอกหรือนี่?
“รู้แล้วๆพ่อ เออ...” ครอฟอึกอัก
“ ช่างเหอะๆ งานนี้แกจะทำหรือเปล่า...”
“ผมติดสอบเข้า...”
“...แกไปกับราเชล...”
“ไปตายซะดีกว่า...”
“ไดอาไปด้วย กับแกสามคน ถ้าสำเสร็จเราจะมีนักฆ่าใหม่เพิ่ม ฉันยกให้แก ”
“โหย...”
“ฉันไม่บังคับแกหรอกนะ..โอเคเดี๋ยวจะไปสั่ง...”
“โอเคๆ ไปก็ไป”
“อะไรนะ..”
“ไปๆๆ!!”
“หึ///อ่าพ่อก็ เห็นว่าไม่มีคนทำงานดีเท่าผมแล้ว”
โรเบิร์ตยิ้มให้กับนิสัยลูกชาย “ก็ดี”
“พ่อแกมาทั้งคนเดี๋ยวนี้มารยาทแกหายไปไหนหมด...”
“อ่า...ลืมไป สงสัยผมไม่ค่อยชินที่พ่อมาหาเท่าไหร่...” ชายหนุ่มยิ้มให้ผู้เป็นพ่อพลางลุกหายไป พักใหญ่เขากลับเข้ามาพร้อมกับแก้ววิสกี้สองใบ ครอฟส่งให้โรเบิร์ตหนึ่งแก้วหนึ่ง ก่อนที่เขาจะกลับมานั่งตามเดิม
“ระวังนะมันแรง...” เขาแหย่ตามนิสัย
“ไม่ต้องมาสอน...ฉันผ่านโลกมาก่อนแกน่าไอ้ลูกหมา” โรเบิร์ตกระดกแล้ววิสกี้ในมือรวดเดียวจนหมด “...งานนี้แค่งานเล็กๆ ฉันกะให้แกไปโชว์ตัวเล่นสักหน่อย”
“จะอวดความหล่อของลูกชายหรือไง...”
“ฮึ ฮึ ฮึ แกแค่ไปทวงของเล็กๆน้อยๆกลับมาให้ฉันหน่อย แล้วก็เอานักฆ่าสาวไปช่วยดูเล่นสักคน...”
“อืม....ว่าแต่เมื่อไหร่เนี่ย...”
“เย็นนี้......!!!”
พรวดด!!!
__________ เ ม้ น จ ง เ พิ่ ม เ ม้ น จ ง เ พิ่ม เ พี้ ย ง! !!_
ความคิดเห็น