ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Difference: ความรัก...ปริศนา...ชะตากรรม

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 3 : จุดจบ... นักฆ่าใบมีดมรณะ

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 52


        The Difference: ความรัก...ปริศนา...ชะตากรรม

    บทที่  3 : จุดจบ... นักฆ่าใบมีดมรณะ

    ฮัดเช้ย~!! 
              
    เป็นบ้าอะไรของแกวะไอ้ครอฟ  ใครแอบด่า...  ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มวัยไล่เลี่ยกัน  ผู้ซึ่งมีใบหน้าคมคายแต่ไม่ถึงขั้นหล่อจัดอย่างชายหนุ่มผมบรอนซ์  ที่เอาแต่จามมาสองสามทีแล้ว  ชายผู้นี้มีนามว่า  บิทานี่  เนรอล  ซัลซิออส  บิทานี่รู้สึกหัวเสียจัดเมื่อมีคนมาทำลายสมาธิในการอ่านหนังสือของเขาเป็นที่สุด
               ไม่รู้เว้ย...  ชายหนุ่มบอกปัด  ครอฟทำจมูกฟุ๊ดฟิ๊ดสองสามทีก่อนที่เจ้าตัวจะหยิบแก้วไวน์ที่วางอยู่กระดกจนหมด  ก่อนที่เขาจะนึกอะไรบางอย่างได้...
              หึ ธุระ?  จะเอาซองนั่นมาให้ฉันอย่างที่ผู้หญิงเค้าชอบทำกันอย่างงั้นหรอ 
                ...จริงสินะ  จดหมายของผู้หญิงคนนั้น

                ไอ้บิทานี่...แกเอากองจดหมายไปไว้ไหนแล้ว  ครอฟเอ่ยถามขึ้น  ขณะที่บิทานี่เงยหน้าขึ้นจากหนังสืออีกครั้ง  เขามีสีหน้าครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่
                ทิ้งไปแล้วมั้ง?...”
                 ทิ้ง!!!” 
                 ไอ้บ้าแกจะมาตะโกนทำไมวะเนี่ย...แกบอกให้เอาไปทิ้งเองไม่ใช่หรือไง!” 
                 อ้าว!!! ไอ้ครอฟจะไปไหนอีกเนี่ย  บิทานี่ร้องลั่น  เมื่อเห็นเจ้าเพื่อนตัวดีที่อยู่ๆก็รีบวิ่งพรวดพราดออกไปเสียดื้อๆ

     

       ป่าแบล็คเดส!!”
                 ซวยแล้วไงไดอา~~” 
                 รีบหนีก่อนเหอะถ้าเธอยังไม่อยากถูกเสียบจนพรุน
                 แจ๊ก แจ๊ก !!!
                 เสียงอะไรอีกอ่ะไดอา” 
                 นัยน์ตาสีเงินคู่สวยหันไปมองตามต้นเสียง ก่อนจะพบกับเจ้าสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายลิงสีขาว ขนยาวปุย  ยามต้องแสงจะทอประกายเงินเงางาม   และที่สำคัญคือ  มันมีสามตา เจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่ามันคือตัว  มาด๊อง”!
                 หญิงสาวสังเกตถึงความผิดปกติที่มันมองมา
      แม้ตัวมาด๊องจะเป็นสัตว์ไม่มีพิษภัยอะไร  แต่มันก็ชอบรังควานผู้อื่นเสมอ  จนผู้คนขยาดที่จะพบเจอเจ้าตัวปัญหานี้ที่ชอบประจำอยู่ที่ต้นเดสลี่...
                โธ่เอ้ย... คิดว่าอะไร  กำลังหน้าสิ่วหน้าขวานอยู่แท้ๆ  ไอ้ลิงบ้าสามตายังมาส่งเสียงแจ๊กๆน่ารำคาญอยู่ได้   ปากที่ไม่เคยอยู่สุขเริ่มหาเรื่อง  ขนาดกับสัตว์ยังไม่เว้น
                เท่านั้นแหละไอ้ลิงบ้าสามตาไม่รู้โผล่มาจากไหนเป็นร้อยๆตัวบนยอดต้นเดสลี่ราวกับเห็ดราที่ผลุดขึ้นอย่างบ้าครั่งเมื่อมีที่อับชื้น  ก่อนที่มันจะพร้อมใจกันเขย่าต้นไม้จนสั่นไปหมด
                ซวยแล้วไง จะมีสักครั้งไหมที่มันจะไม่หาเรื่อง
                แกมมิเลียสวิ่ง!!!”  ไม่ทันสิ้นเสียง  ผลเดสลี่นับร้อยๆลูกก็พร้อมใจกันร่วงลงมาราวกับกระสุนปืนอัตโนมัติที่กราดยิงเป้าหมายอย่างไม่ยั้ง และไม่รู้จัดเหน็ดเหนื่อย
                ปลายแหลมคมของมันรวดเร็วปานจรวดที่พุ่งโจมตีศัตรูแหวกอากาศตรงเข้าใส่เป้าหมายทันที ไดอาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต เธอไม่เคยวิ่งเร็วขนาดนี้มาก่อน แกมมิเลียสเองก็เช่นกันแม้ปากเธอยังคงบ่นไม่หยุด แต่ขาเธอก็มีประสิทธิภาพดีพอกัน...
                ฟุบๆๆๆ!!
                ปลายแหลมพุ่งตรงแหวกอากาศเข้ากลางหลังของแกมมิเลียสด้วยความเร็วจนน่าตกใจ  แต่ไดอาเร็วกว่า  มือเรียวบางยกมีดสั้นประจำกายขึ้นมาปะทะกับคมหนามก่อนถึงตัวแกมมิเลียสแค่เสี้ยววินาที  แต่...!!
                เปรี้ยะ เคล้ง!!!
               ใบมีดของไดอาที่ถือว่าแข็งแกร่งมาก แต่ทำไม…!!
               ทำไม...มันจึงหักได้... ส่งผลให้หนามแหลมยาวเสียบทะลุเส้นเลือดใหญ่ที่ข้อมือเธอ ทั้งๆ  ที่หนามพวกนั้นน่าจะแหลกต่างหาก... 
               ตอนนี้ทำให้มือบางของเธอชุ่มไปด้วยโลหิตสีแดงฉานไหลนอง  แต่เจ้าตัวไม่คิดจะสนใจ 
     
              ไดอาระวัง!!!” 
               สิ้นเสียงของแกมมิเลียส หนามแหลมนับสิบที่พุ่งตรงมายังเธอด้วยความเร็วสูง เจ้าตัวกระโดดเบี่ยงตัวหลบ แต่ไม่วายหนามแหลมปักเข้ากลางหลังของไดอาเป็นทางยาว  เสื้อสีดำขาดวิ่นเผยให้เห็นแผลลึกเกือบสองนิ้วลากยาว  เนื้อขาวเนียนแหวะออกอย่างน่าสยดสยองพอๆกับที่โลหิตสีแดงไหลย้อยจนร่างทั้งร่างเปียกชุ่ม
                ไดอา!!!” แกมมิเลียสร้องลั่นเมื่อเห็งร่างของเพื่อนสาว
                นัยน์ตาสีเงินฉายแววเจ็บปวดอยู่ชั่วครู่ ก็แปรเปลี่ยนมาเป็นเย็นชา  เย็นชา...จนหน้ากลัว
                มือเรียวกระฉากหนามแหลมยาวเกือบเมตรที่ปักเฉียงขึ้นกลางหลังออกอย่างไม่ลังเล เลือดสีแดงสดสาดกระจายไปทั่ว ไดอาหันหน้ามาประจันกับฝูงมาด๊องนับร้อยที่ส่งเสียงพอใจกับผลงานของมัน รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏบนดวงหน้าสวย
                ถ้าชอบมันนักล่ะก็ ฉันจะสงเคราะห์ให้แกเอง…” มือทั้งสองยกสูงขึ้น
                แต่ก่อนที่หญิงสาวจะได้ลงมือจู่ๆก็เหมือนมีอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นนั้นราวกับมีแรงกดดันมหาศาล  ลูกเดสลี่นับร้อยที่หมายจะปลิดชีวิตสองสาวกลับเปลี่ยนทิศทางอย่างน่าตกใจ มันพุ่งแรงกว่าครั้งไหนๆ ตรงไปทางกองทัพมาด๊อง
                ฟ้าววว ฉึก!!!
                ใบมีดตรงเข้าตัดหัวเจ้าตัวมาด๊องนับร้อยขาดกระเด็น  เลือดสดๆ พุ่งกระฉุด พร้อมกับร่างไร้วิญญาณของมันร่วงลงสู่พื้นเสียบกับหนามเดสลี่ฝีมือของพวกมันอย่างน่าสยดสยอง  ส่งผลให้เลือดเหม็นๆสีแดงน่าสะอิดสะเอียนนองไปทั่วบริเวณ
                ใบมีมรณะ!!”
               *พลังของชาวผู้วิเศษแบ่งออกเป็นสามระดับคือระดับพื้นฐาน  นั่นคือพลังทั่วๆไปที่ผู้วิเศษทุกคนมีมาตั้งแต่กำเนิดหรือสายธรมมดา   ระดับสองคือสายสังหารซึ่เกิดจาการพัฒนาของสายธรรมดา  และระดับสุดท้ายคือสายต้องห้าม
                ใบมีมรณะ  พลังชนิดหนึ่งของสายสังหาร  เป็นพลังที่สามารถเรียกใช้ใบมีดได้ตามต้องการ  และจะออกมาจากมือ  แขน  ขาของผู้ใช้พลัง  ปัจจุบันเหลือสายพลังนี้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น...
               หรือว่าจะเป็น....

               ไดอาเป็นไงบ้าง…”  ร่างของสตรีผมสีเงินยาวกระโดดลงมาจากต้นเดรสลี่ต้นหนึ่ง   ใบหน้าของสตรีผู้นั้นครึ่งหนึ่งอยู่ภายใต้หน้ากากสีแดงสด....
               เรน...  หญิงสาวเอ่ยนามของสตรีตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ
               ไม่เป็นไรใช่ไหม...?” 
               ฉันไม่เป็น ระ....พูดยังไม่ทันจบประโยค ไดอาก็รู้สึกถึงแรงกระแทกที่ต้นคอ  มันทำให้สติสัมปชัญญะของเธอกำลังจะหลุดลอยไป หญิงสาวพยายามอย่างยิ่งที่จะเกาะยึดความรู้สึกที่เริ่มเลือนรางเต็มที แต่ก็ไม่มีทางเอาชนะมันได้เลย เธอได้แต่ปล่อยให้ความมืดมิดเข้าคืบคลาน และพาเธอไปสู่ห้วงนิทราอย่างไม่มีจุดหมาย ไร้ซึ่งฝันใดๆทั้งสิ้น
                ดีใจจังที่ได้พบเธอ  เรน  นักฆ่าคนเก่งแห่งองค์กรนักล่าหัวอัศวิน...  เสียงกึ่งประชดดังขึ้นเบื้องหลังสตรีนามว่า เรน 
                หึ  ฉันก็ดีใจที่ได้พบเธอ  แกมมิเลียส  สตรีตรงหน้ายิ้มเหยียด  ชื่อเพราะดีนะ...
                รู้แล้วซินะ  แต่เอาเถอะฉันไม่ถือ  ...  หล่อนพูดพลางยักไหล่  ก่อนจะโยนท่อนไม้ในมือทิ้ง 
              ข้าแต่นักเวทผู้ยืนยง  จงบันดาน อำนาจมืด  สถิตอยู่ในศาตรา ข้าแต่นักเวทผู้ลาล่วง  ตัวข้าขอถวายโลหิตศัตรูร้าย  เอ๊กครูซเซ่น!!”

                ฟุบ!!  ธนูเวทย์ที่ถูกบริกรรมคาถาส่องออร่าสีดำทมิฬดั่งอำนาจร้ายพวงพุ่งอย่างรวดเร็วจนแทบมองไม่เห็น  หมายจะปลิดชีพเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในคราเดียว... 
                เพราะ...ยังไงซะแกก็ต้องตายอยู่ดี
                ไอเวทสีดำกระจายไปทั่วจนทำให้รู้สึกว่าตามืดบอดไปชั่วขณะ  ชั่วอึดใจ  สภาพภูมิอากาศก็เริ่มกลับมาเป็นดังเคยอีกครั้ง...
                 รอยยิ้มพึงพอใจปรากฏแด่เจ้าของผลงาน  เมื่อเห็นร่างๆหนึ่งนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอย่างหมดท่า...
                  ...หึ นี่น่ะหรอจุดจบของนักฆ่าใบมีดมรณะ...
                

      ได-อา!!”
                 อื้ม
                 ไดอา ตื่นๆๆๆๆๆๆๆ!!”
                ดวงหน้าสวยของสาวผมม่วงที่นอนคุดคู้อยู่ในเตียงเล็กๆฉายแววรำคาญ  แม้ตาทั้งสองข้างจะยังปิดอยู่ก็ตามที หล่อนไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นแต่อย่างใด ส่งผลให้เพื่อนสาวผมน้ำตาลแดงต้องเดือดร้อนเข้ามาปลุกอย่างถึงเนื้อถึงตัว
              
    ไดอา ลุกได้แล้ว แกมมิเลียสเขย่าอย่างแรง  หลังจากที่ตะโกนปลุกเพื่อนสาวจอมขี้เซามาแล้วหลายครั้ง  ซึ่งก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมลุกขึ้นแต่อย่างมใด
               อื้ม...น้ำเสียงยังคงดูงัวเงียเต็มที แต่เจ้าตัวก็ยอมลุกขึ้นมาจนได้  โอ้ย!”
               เจ็บแผลอยู่หรือ?”  แกมมิเลียสเอ่ยถามเพื่อนสาวอย่างเป็นห่วง  เอายาระงับปวดไปนะ แต่เธอต้องกินวันละห้าเม็ดทุกวันล่ะอย่าลืม เอ่อ ร้านขายยาที่ท่าเรือสั่งมาน่ะ...  ไม่ว่าเปล่า  เจ้าตัวยัดกระปุกยาสีดำที่ด้านในบรรจุเม็ดยาสีแดงเล็กเท่าเม็ดแตงโมราวร้อยเม็ดเห็นจะได้ใส่มือไดอา  ซึ่งก็รับมาด้วยสีหน้าเรียบๆอีกตามเคย  แม้จะยังระบมแผลอยู่บ้างก็ตาม
                 แล้ว เรนล่ะ  เรนอนยู่ไหน?  ไดอารีบถามขึ้น  เมื่อเธอเริ่มทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมา
                 
    เอ่อ...  แกมมิเลียสยิ้มเจื่อนๆ เก็บซ่อนสีหน้าบางอย่างไว้อย่างแนบเนียน   ตอนนั้นเธอสลบไปน่ะ เรนกับฉันช่วยกันแบกเธอมาที่ท่าเรือ  ก่อนที่เรนจะแยกจากพวกเราที่ท่าเรือ เค้ายังฝากหั้นดูแลเธอเลยนะ
                หญิงสาวพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้   สมองกำลังขบคิดว่าเช่นไรกันนะเรนถึงตามมาช่วยพวกเธอ  จากตัวมาด๊องในป่าแบล็กเดสนี้ได้!
                 สงสัยคงแค่ผ่านมา  เรนมักได้รับมอบหมายงานที่เกี่ยวกับการสืบเสาะไปตามที่ต่างๆเสมอ  และอย่างน้อย เรนคงต้องรู้ว่าเธอกำลังจะไปอิลเลียนอล  เลยมาดักพบเธอที่ป่านี้  แต่ดันเกิดเรื่องซะก่อนก็อาจจะเป็นได้

                เฮ้อ!!!” แกมมิเลียสถอนหายใจยาว รู้หรือเปล่า...ฉันคิดว่าเธอจะไม่ตื่นซะแล้ว เล่นหลับไปสามวันเต็ม... แม่สาวผมน้ำตาลแดงยังคงพล่ามถึงความยากลำบากของตัวเองอย่างนู้น อย่างนี้ที่ต้องคอยดูแลเธอสามวันเต็มๆ อย่างไม่หยุดไม่หย่อน  เชื่อได้คนอย่างไดอา ไม่มีวันมานั่งฟังเจ้าหล่อนพล่ามน้ำลายแตกฟองอยู่แน่ เพราะเธอได้ช้อคไปตั้งแต่ที่รู้ว่าหลับไปถึงสามวันเต็มๆเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
                 อะไรนะ ฉันหลับไปตั้งสามวันเชียวเหรอ!” น้ำเสียงฟังดูอึ้งสุดๆ
              เอ้อ..ก็บอกอยู่ว่าสามวันยังจะมาถามอีก

                ก็ใช่น่ะสิ หัดดูซะบ้างว่าตอนนี้เราอยู่ไหนกันแล้ว...” 
                 ไม่รีรอนัยน์ตาสีเงินตวัดออกไปมองทางหน้าต่างไม้สีขาว สิ่งที่พบคือแสงแดดสาดส่องกระทบดวงหน้าสวย และ คลื่น  คลื่น คลื่น แล้วก็คลื่น งั้นแปลว่าเธออยู่ทะเลงั้นเหรอ
               
    กลางทะเล.. เสียงที่เอ่ยออกมาฟังดูจะเป็นคำถามซะมากกว่า
                 ใครบอก นี่ท่าเรืออิลเลียนอลต่างหาก...
                ท่าเรืองั้นเหรอ?  งั้นก็แปลว่าที่หลับไปสามวันเต็มๆ เธอก็อยู่กลางทะเลที่เต็มไปด้วยคลื่นงั้นสิ  ... แค่คิด  ตอนนี้ท้องไส้เธอก็เริ่มจะปั่นป่วนเต็มที
                 ไดอา ไดอาเป็นไรอีกเนี่ย อย่าเงียบดิ ฉันยิ่งไม่ชอบความเงียบอยู่ด้วย…” แกมมิเลียสต่อว่าเมื่อเห็นเพื่อนสาวเอาแต่นั่งเงียบทำหน้าพะอืดพะอมจนเกินงาม
                แล้วดูดิ ทำหน้าพะอืดพะอมอย่างกับดมตดช้างงั้นแหละ  ทำอย่างกับว่าเธอจะอ้วก ไปเก็บของได้แล้วป่านนี้คนไปสมัครเรียนเป็นพันแล้วมั้ง...” 
                ไม่ทันขาดคำแม่คนทำหน้าเหมือนดมตดช้างรีบลุกพรวดออกไปทันที   อาหารที่แทบไม่ได้แตะเลยสามวันเต็มๆ ไหง ตอนนี้มันมาจากไหนนักหนา?  แทบจะทะลักออกมานอกปากอยู่แล้ว ต้องรีบไปหาที่เหมาะๆปล่อยออกก่อน ขืนอยู่ต่อไปมีหวังเรือลำน้อยน่ารักนี้คงจะเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่หน้าพิสมัยเป็นแน่
               
    ไดอา ไปไหนอีกเนี่ย กลับมาช่วยขนของก่อน!!!”  เสียงตะโกนเย้วๆ เรียกเพื่อนตัวดีที่วิ่งพรวดทิ้งกันไปเสียเฉยๆ แต่กระนั้นก็ไม่มีวี่แววจะกลับมา

       ครอฟ แกลงไปท่าเรือก่อนเดี๋ยวฉันจะไปตามเด็กมายกของเอง” 
                 แน่ใจนะว่าไม่ให้รอ หนุ่มผมบรอนซ์ หรือครอฟหันมาถามบิทานี่ซึ่งกำลังทุลักทุเลกับการเก็บหนังสือที่ดูจะไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่ใส่กระเป๋า 
               
    เออ! ฉันดูออกว่าแกอยากลงไปท่าเรือจะแย่อยู่แล้ว  ดูท่าแกคงเซ็งบนเรือมาหลายวัน...  ไม่วายคนชอบแหย่อย่างบิทานี่ อดไม่ได้อีกตามเคย  ...เมืองนี้หญิงเยอะซะด้วย
                 ถึงครอฟจะไ ม่ว่าอะไร แต่ชายหนุ่มก็เอานิ้วปาดคอ ประมาณว่า ขืนพูดต่อแกตายแน่ ก่อนจะตั้งท่าเดินออกไป..
               
    อ้อ  แกยังมีคดีกับฉันอยู่นะ  ถ้าแกหาจดหมายมาให้ฉันไม่ได้  หรือสืบว่าไวโอร่านั่นเป็นใครไม่ได้แกตายแน่ไอ้เพื่อนรัก...

    อิเลียนอลนั้นถึงแม้จะไม่ใช่เมืองที่ใหญ่โตอะไร แต่ก็ใช่ว่าเล็กซะทีเดียว และด้วยท่าเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดจึงทำให้มีผู้คนมากมายถึงขั้นเรียกว่าจอแจได้เลย  โดยเฉพาะยิ่งตอนนี้สถาบันผู้วิเศษอิเลียนอลเปิดรับสมัครเป็นวันสุดท้ายแล้วด้วย  ที่นี่จึงคราคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา  ทั้งผู้ที่เดินทางจากต่างถิ่น และเหล่าพ่อค้าแม่ขายที่ต่างตะโกนแข่งกันขายสินค้าของตนเย้วๆ  ไม่ต่างอะไรจากตลาดสดดีๆนี่เอง
               ส่วนท่าเรืออิเลียนอล  ตอนนี้เต็มไปด้วยเรือลำน้อยใหญ่จอดเรียงรายเป็นแถวๆ จนดูน่าตื่นตาสำหรับชาวผู้วิเศษต่างเมือง  หรือพวกนักท่องเที่ยว    ในจำนวนผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมานั้นคงไม่มีใครที่จะดูสะดุดตาไปกว่าชายหนุ่มผมบรอนซ์อีกแล้ว   ทั้งด้วยความสูงที่ราวๆร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตรและด้วยหน้าที่หล่อเหลาเอามากๆ  จึงทำให้ความสนใจตกไปอยู่ที่เขาได้ไม่ยาก โดยเฉพาะเหล่าสาวน้อย สาวใหญ่ทั้งหลายต่างพากันเล่นหูเล่นตากับเขา ทำท่าว่าอยากจะเข้ามาตีสนิทใจจะขาด ซึ่งชายหนุ่มเองก็ดูจะพอใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
               การมาเยือนเมืองนี้ลำหรับเขาดูท่าว่าน่าคึกคักไม่ใช่น้อย  เขาเพียงแค่วางท่าเล็กๆน้อยๆ  แค่นี้ปลาก็ติดแหมาเป็นพรวนแล้ว... 
               ร่างสูงเดินออกจากท่าเรือมาพอสมควร เขารู้สึกเหมือนว่าได้ยินเสียงฝีเท้าเร็วๆ ของใครบางคนวิ่งตามหลังมา คงจะเป็น บิทานี่ละมั้ง เขาคิดในใจ พลางหันไปมอง...
               พลันนัยน์ตาสีฟ้าหม่นสบเข้ากับร่างบางของสตรีคนหนึ่งที่ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งมาแต่ไกล  เธอช่างแลดูงดงามกว่าใครทั้งหมด และที่ดูจะสะดุดตาคงจะเป็นสีผมสีม่วงเป็นเงาสวยยามต้องแสงแดดที่พลิ้วไสวตามแรงวิ่งของเธอ...!!
              นั่น  ยัยตัวดี!!

       .................................
               ตั้งแต่ออกจากเรือได้ไดอาก็วิ่งอย่างไม่คิดชีวิตหาที่เหมาะๆ จนเธอแทบจะไม่มองคนรอบข้างเลย ว่าคนพวกนั้นมองเธออย่างไร  เพราะตอนนี้เธอจะไม่ไหวอยู่แล้ว ...
               ไดอา ยังคงวิ่ง วิ่ง และก็วิ่งต่อไปจนกระทั่ง...
                 ...........!!!

    ____________________________________
    ________________________________
    เม้นๆโหวตๆกันสักนิดนะจ๊ะ ไรเตอร์จะได้มีกำลังใจ
    เดี๋ยวมาอัพต่อค่ะ ... ขอเม้นหน่อยน้า 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×